Beranda / รักโบราณ / เพียงนาง / เริ่มต้นไล่ล่า 2

Share

เริ่มต้นไล่ล่า 2

Penulis: LiHong
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-25 22:26:38

อา...

ไม่ดีแน่

หากยังเป็นอย่างนี้อยู่ไม่ดีแน่ๆ

ชีวิตอันแสนจะอิสรเสรีและสงบสุขของนาง ต้องหายไปจากชีวิตน้อยๆ นี้ อย่างไม่ต้องสงสัย

นางควรจะทำอย่างไรดี

นางจะลืมเรื่องคืนนั้นไปได้หรือไม่

นางควรลืมมันเสีย

อย่าได้ใส่ใจ

นางต้องไม่ใส่ใจ

นางต้องลืมมัน

ลืมมันให้จงได้

ลืมมันไป...

เมื่อเฉินเจียวเหมยคิดได้อย่างนั้นแล้ว นางจึงยืนตั้งสติ ทำสมาธิ แล้วเพียงหลับตา 

หญิงสาวยืนหลับตาพิงกำแพงหลังโรงหมออยู่อย่างนั้น

นางยังคงกำหนดลมหายใจเข้าออกอยู่อย่างนั้น เพื่อที่จะได้ตั้งจิตภาวนา ให้นางได้ลืมเลือนมันเสีย เรื่องในคืนนั้น

นางต้องการจะลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในคืนนั้น

คืนนั้นทั้งคืนนั่น

กับบุรุษแปลกหน้าผู้นั้น นางจะต้องลืมเขาให้จงได้

เฉินเจียวเหมยเพียงหลับตาพลางคิด

ใบหน้ารูปงามของเขาที่กำลังขยับอยู่ใกล้ๆ นางในคืนนั้น ดวงตาคมกริบทอประกายร้อนแรงใส่หน้านางในคืนนั้น จมูกของเขาที่โน้มเข้ามาหานางพร้อมๆ กับริมฝีปากสีแดงสดของเขาที่โน้มเข้ามาหาใบหน้าของนางนั้น  เขาโน้มเข้ามา โน้มเข้ามา

แล้วจูบนาง...

อา...

ใช่...

เขาจูบนาง...

อย่างนี้ล่ะ...

เฉินเจียวเหมยยังคงหลับตาพลางคิดถึงภาพระหว่างนางกับบุรุษแปลกหน้าที่กำลังแนบชิดเบียดเสียดกันไปมาทั้งใบหน้า ทั้งเรือนร่าง แต่ทว่า...

นางเพียงแค่คิดเท่านั้น แล้วทำไม...

ทำไมมันถึงรู้สึกสมจริงเยี่ยงนี้ ความอุ่นซ่านอย่างนี้

ริมฝีปากแนบชิดอย่างนี้

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หญิงสาวจึงลืมตา

และนางก็ได้เจอ

บุรุษผู้นั้นกำลังจูบนาง

เขาจูบนางอยู่! เมื่อไหร่กัน!

เฉินเจียวเหมยถึงกับตาโตในขณะที่ริมฝีปากของนางกำลังถูกจ้าวจิ่นหลงกดจูบอย่างไม่ยั้งอยู่ตรงกำแพงหลังโรงหมอแห่งนี้ 

เขากำลังจูบนาง จูบนานแล้วหรือไม่ จูบนางตั้งแต่เมื่อไหร่ ไยนางถึงรู้สึกคุ้นชิน ไม่สิ! ไยนางถึงไม่รู้ตัว ได้อย่างไรกัน

จ้าวจิ่นหลงที่เดินเข้ามายังโรงหมอแล้วเห็นไหล่บางๆ ของสตรีนางนี้กำลังยืนพิงกำแพงหลับตาอยู่คล้ายกับว่ากำลังรอเขาอยู่กระนั้น

เขาจึงไม่รอช้า รีบเดินเข้ามาหานางแล้วตอบสนองนางในทันที

เขาก้มหน้าจูบนางอยู่ครู่หนึ่ง ในขณะที่นางเพียงหลับตาให้เขาจูบ เขาก็จูบ เขาจูบนางอยู่หลายที รสชาติดีไม่เบา

จ้าวจิ่นหลงยังคงก้มหน้าก้มตากดจูบเฉินเจียวเหมยอยู่อย่างนั้น

เฉินเจียวเหมยที่เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าถูกบุรุษเจ้าของใบหน้าที่นางกำลังนึกถึงอยู่ กำลังกระทำการอย่างย่ามใจ นางจึงรีบบิดใบหน้าของนางให้เบือนหนี ในขณะที่มือของนางรีบดันแผงอกของเขาให้ออกห่าง

แต่นี่...

คนหรือรากไม้กัน

ไยถึงแน่นเหนียวหนึบหนับอย่างนี้

ไย...

ผลัก ไม่ ออก....

*********

ตรงกำแพงหลังโรงหมอแห่งหนึ่ง บัดนี้กำลังมีหนึ่งบุรุษกับหนึ่งสตรีกำลังยืนกระทำการบางอย่างอยู่ตรงริมกำแพงนั่น

พวกเขากำลังมีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่ควรให้ใครได้พบเห็น ใบหน้าของพวกเขากำลังแนบชิดเบียดเสียด ริมฝีปากของพวกเขากำลังแทรกซึมล้วงลึก เรือนร่างของพวกเขากำลังเข้าข่ายคลอเคลียพัลวัน

จ้าวจิ่นหลงยังคงกดจูบเฉินเจียวเหมยโดยไม่สนใจฝ่ามือเรียวสวยของนางที่กำลังผลักดันแผงอกของเขาแต่อย่างใด

สองฝ่ามือของเขาเพียงจับอยู่กับสองพวงแก้มของนาง นิ้วเรียวยาวของเขาเพียงโอบกุมใบหน้านวลเนียนของนางเอาไว้ เพื่อที่นางจะได้ไม่สามารถเบือนใบหน้าและริมฝีปากของนางหนีริมฝีปากของเขาได้แต่อย่างใด

“อื้อ...” เสียงอู้อี้ของเฉินเจียวเหมยยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่จ้าวจิ่นหลงยังคงกดจูบนางอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

การจูบยังคงดำเนินอยู่ครู่ใหญ่ ฝ่ามือร้อนกรุ่นที่จับกุมสองพวงแก้มเริ่มเปลี่ยนเป็นโอบกอดลูบไล้ไปตามเรือนร่างไปตามลำตัว

เฉินเจียวเหมยเริ่มที่จะหมดแรงต่อต้านใดๆ มือที่ผลักแผงอกของเขาก็เริ่มที่จะหมดแรงผลักดันเขาให้ออกไป ด้วยเพราะว่าปลายลิ้นดุดันของเขากำลังกระตุ้นอารมณ์ของนาง

ไม่สิ ไม่ใช่! การกระทำของเขากำลังทำให้นางหายใจไม่ออก นั่นจึงทำให้นางอ่อนแรงลงจนเกือบจะหมดแรงต่อต้านเขา นางหาได้เคลิบเคลิ้มคล้อยตามปลายลิ้นของเขาไม่

เฉินเจียวเหมยเริ่มเรียกสติของตนที่กำลังจะเตลิดเปิดเปิงให้กลับมาเพื่อคิดการแก้ไขสถานการณ์จากการถือสิทธิ์กินเต้าหู้นางอย่างเอร็ดอร่อยของบุรุษน่าตายผู้นี้

นางควรทำอย่างไรดี

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เพียงนาง   เพียงนาง 3

    และเพียงไม่นาน เนื้อตัวที่เย็นเยียบของเฉินเจียวเหมยพลันเปลี่ยนไปเป็นอุ่นร้อนขึ้นมาเนื่องจากว่าถูกเรือนร่างหนาแน่นและร้อนระอุของจ้าวจิ่นหลงบดเบียดเข้าแนบชิดจนสนิทแนบแน่นไร้ช่องว่างใดๆ ระหว่างกัน“อุ่นขึ้นหรือไม่” จ้าวจิ่นหลงกระซิบเสียงแหบต่ำตรงใบหูของเฉินเจียวเหมย“อ่ะ...อืม...” นางตอบด้วยน้ำเสียงเริ่มกระเส่า“เจ้าชอบ...” จ้าวจิ่นหลงก้มหน้าถามแนบชิด“ข้าชอบ...” เฉินเจียวเหมยครางตอบเสียงเบาจ้าวจิ่นหลงเพียงหัวเราะอยู่ในลำคออย่างถูกใจก่อนจะก้มหน้าลงฝังจมูกและริมฝีปากอุ่นชื้นกับลำคอระหงของนางและเริ่มต้นบทเพลงบรรเลงบทรักเพื่อเอาใจชายารักอย่างไม่มีขาดตกบกพร่องในหน้าที่ของสวามีที่ดีเขาเติบโตมาท่ามกลางบิดาที่มีหลายภรรยา ตัวของเขาเป็นบุตรชายที่เกิดจากหนึ่งในภรรยาของบิดา จากภรรยาหลายๆ คนนั่นความรักที่ได้มาจึงมักจะถูกแบ่งสันปันส่วนจากพี่น้องต่างมารดา ถึงแม้ว่ามารดาของเขาจะเป็นถึงฮองเฮา แต่ก็เป็นที่แน่นอนว่ามารดาของเขาก็ไม่เคยที่จะได้รับความรักจากสามีได้อย่างเต็มที่ เขาเคยเห็นมารดาของเขาแอบร่ำไห้น้อยใจอยู่หลายครั้ง จนถึงขั้นที่เคยคิดจะพาเขาหนีออกจากวัง จนเขาต้องเลือกที่จะทำงานหนัก เพื่อให้มา

  • เพียงนาง   เพียงนาง 2

    “เจ้าไม่ควรทำอย่างนี้ อาเหมย มีอะไรเจ้าก็ควรบอกกล่าวแก่ข้า ข้ายอมเจ้าทุกอย่าง” จ้าวจิ่นหลงเอ่ยออกมาอย่างนั้น พลางเอื้อมมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าที่ทั้งเย็นเยียบทั้งแดงชาดของนางเบาๆ ตั้งแต่เจอกันเขายังไม่เคยเห็นสภาพอย่างนี้ของนางนางทำเขาใจสั่นไม่เบาเขาไม่อยากเสียนางไป เขารักนางถึงเพียงนี้ นางไม่สิทธ์ไปจากเขา ไม่ว่าด้วยวิธีใด โดยเฉพาะการทำร้ายตัวเองเฉินเจียวเหมยเหม่อมองใบหน้าของเจ้าจิ่นหลงในระยะประชิดใบหน้าของเขา ฝ่ามือของเขา สัมผัสของเขา กลิ่นอายของเขา อา...นางทำใจไม่ได้ ไม่ได้จริงๆ นางหลงใหลเขาถึงเพียงนี้ นางทำใจไม่ได้แน่ๆ หากเขาจะต้องเข้าหอกับสตรีนางอื่น หากนางได้เห็นอย่างนั้นแล้วทำใจไม่ได้ สู้ไม่ต้องอยู่ไม่ต้องเห็นยังจะดีเสียกว่า“ข้ามิใช่สตรีที่ดี ข้าจะกลายร่างเป็นสตรีร้ายกาจเพียงใด หากต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในวังหลังของท่าน คอยดูแลมวลบุบผาให้ท่าน อาหลง หากเป็นอย่างนั้น ข้าขอไปอยู่ดูแลผู้ยากไร้ในถิ่นฐานทุรกันดารยังดีเสียกว่า” เฉินเจียวเหมยเลือกที่จะเอ่ยออกมาตามตรงอย่างไม่คิดที่จะยินยอมใดๆ นางมักจะมีจุดยืนของนางจ้าวจิ่นหลงได้ฟังถึงกับนิ่งอึ้งไปแน่นอนว่านางคงคิดจะทำจริงๆ หากวันนั้นมาถ

  • เพียงนาง   เพียงนาง 1

    ตามทางเดินทอดยาวระหว่างโรงน้ำชากับบ้านของเฟยเทียน เฉินเจียวเหมยกำลังเดินอย่างเร็วด้วยอาการเมามายคล้ายกับวิญญาณล่องลอยนางกำลังต้องการหนีมาทำใจเสียหน่อย นางต้องทำใจให้ได้ ภาพของอาหลงกำลังรื่นเริงบันเทิงยิ่งกับสตรีคนอื่นที่มิใช่ตัวนาง ยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่านยากแก่การจัดการความเห็นแก่ตัวของตนอา...แย่แล้ว...ยามนี้นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดพี่สะใภ้ของนางที่เป็นฮองเฮาถึงได้ใจร้ายยิ่งนักนางกำลังจะกลายร่างเป็นอย่างนั้นหากนางต้องไปแต่งงานกับอาหลงที่เป็นถึงรัชทายาทจริงๆ แล้วในภายภาคหน้าเขาได้ขึ้นครองราชย์แล้วต้องมีสนมหลายคนจริงๆ นางคงจะใจร้ายไม่แตกต่างจากพี่สะใภ้แน่ๆอา...หรืออาจจะร้ายยิ่งกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยแย่แล้ว แย่แล้วเมื่อเข้ามายังห้องพักของเรือนรับรองได้แล้ว เฉินเจียวเหมยที่กำลังฟุ้งซ่านอย่างร้อนรุ่มเต็มขั้น จึงรีบเดินเข้าห้องอาบน้ำเพื่อที่หวังจะใช้การอาบน้ำช่วยให้ดับอารมณ์กรุ่นร้อนคล้ายดั่งลูกไฟที่กำลังปะทุอยู่ภายในอกให้มอดดับไปแต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลภายในจิตใจของนางยังคงรุ่มร้อนคล้ายกับเปลวไฟเผาผลาญ อยากจะแพ้วพานใส่เหล่าสตรีทุกนางให้ตายตกตามกันไปทุกคนอยากฆ่าพวกนางยิ่งนักเฉินเจี

  • เพียงนาง   สตรีของรัชทายาท 3

    เวลาแห่งการร่ำสุราผ่านไปอย่างเชื่องช้าเป็นชั่วยามผ่านไป เฉินเจียวเหมยพาร่างกายและสติที่เริ่มจะไม่อยู่กับร่องกับรอยด้วยอาการเมามายอย่างที่ไม่เคยเป็นเดินออกไปจากห้องแห่งนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่มิทราบได้ คงเหลือเอาไว้เพียงซูเซียว ซูฮวา และหย่าหลินยังคงนั่งดื่มกินอยู่ด้วยกันและเพียงไม่นานซูเซียวจึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วเดินไปหาเฟยเทียนที่กำลังนั่งร่ำสุราตามประสาบุรุษอยู่อีกห้องหนึ่งกับอาหลงและสหายอีกหนึ่งคนเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่พี่สาวคุยกับหย่าหลินจนเป็นเหตุให้อาเหมยคล้ายกับเปลี่ยนพฤติกรรมไปจนน่าเป็นห่วง “อาเหมยไปที่ใด” เสียงทุ้มต่ำทรงอำนาจของจ้าวจิ่นหลงถามขึ้นไปทางซูเซียวเมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมดที่เป็นหัวข้อสนทนากันระหว่างซูฮวากับหย่าหลิน “ข้าไม่รู้ นางบอกแค่ว่าขอหนีไปทำใจ” ซูเซียวตอบตามจริงและเนื่องจากนางยังไม่รู้ว่าอาหลงมีฐานะใดนางจึงเอ่ยไปด้วยระโยคอย่างนั้น จ้าวจิ่นหลงพลันชะงักงันไป และเพียงอึดใจเขาจึงรีบลุกขึ้นแล้วก้าวเท้ายาวๆ ออกจากห้องแห่งนี้ไปในทันทีอย่างไม่รีรอ เฟยเทียนรีบลุกขึ้นมาประคองร่างบางของซูเซียวเอาไว้ พลางถามนางอย่างห่วงใย “เจ้าเหนื่อยหรือไม่ ข้าจะพาเจ้ากลับบ้าน”“ไ

  • เพียงนาง   สตรีของรัชทายาท 2

    เวลาแห่งการดื่มเหล้าหวังสานสัมพันธ์ไมตรีระหว่างกันผ่านไปอีกครู่ใหญ่ “นี่ๆ พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าการแข่งขันของเมืองเราปีนี้ช่างสำคัญยิ่งนัก” หย่าหลินที่ดื่มเหล้าจนมึนเอ่ยออกมาอย่างเป็นกันเองไร้ความขุ่นเคืองใดๆ ไปเสียแล้ว “อันใด” ซูฮวานั่งท้าวคางถามออกไปอย่างมึนๆ เช่นเดียวกัน “การแข่งขันปีนี้หาใช่แค่การแข่งขันเพื่อแสดงออกถึงความสามารถประกาศศักดาเพื่อให้มีบุรุษมาหมายตาไม่แต่...” หย่าหลินอธิบายยาวเหยียดเว้นคำเพียงนิดเพื่อดื่มน้ำเมา แล้วเอ่ยต่อ “มันเป็นการคัดเลือกสาวงามผู้มีคุณสมบัติเพียบพร้อมเพื่อส่งตัวเข้าวัง” “ไปเป็นสนมหรือ” ซูฮวายังคงนั่งเอามือท้าวคางถามออกไปอย่างมึนๆ “มิใช่ๆ” หย่าหลินยังคงเอ่ย “เป็นของขวัญของกำนัลแด่องค์รัชทายาทอายุครบยี่สิบห้าชันษาต่างหากเล่า” แกร๊ง! จอกเหล้าถึงกับหลุดมือใครบางคน ซูเซียวถึงกับหันไปมองเฉินเจียวเหมยผู้เป็นเจ้าของจอกเหล้าจอกนั้นก่อนจะช่วยเฉินเจียวเหมยหยิบจอกเหล้าขึ้นมาให้อย่างงุนงง สงสัยอาเหมยคงจะเมาแล้วกระมัง หย่าหลินยังคงเอ่ยต่อ “หากโชคดีในภายภาคหน้าเมื่อรัชทายาทได้ขึ้นครองราชย์สตรีที่ส่งเข้าไปถวายตัวให้พระองค์ก็อาจจะได้เลื่อนขั้นเป็นถึงพระสนม

  • เพียงนาง   สตรีของรัชทายาท 1

    “ในเมื่อผลการประลองยังไม่เป็นที่แน่ชัดและเจ้าไม่คิดที่จะยอมรับ เช่นนั้นแล้ว” เฉินเจียวเหมยที่ยังคงยืนท้าวสะเอวอยู่เอ่ยขึ้นไปทางซูฮวาและหย่าหลิน “ข้าเลี้ยงเหล้าพวกเจ้าดีหรือไม่ เรามานั่งคุยกันดีๆ มาเถอะ!” ถึงแม้ว่าจะเป็นประโยคคำถามแต่ก็หาได้รอคำตอบไม่ เฉินเจียวเหมยกล่าวเสร็จก็รวบข้อมือของซูฮวาและหย่าหลินให้เดินตามตนเองไป และเพียงไม่นานเสี่ยวเอ้อร์ผู้รู้ความก็สามารถจัดการห้องรับรองสำหรับแขกคนสำคัญได้อย่างรวดเร็ว อาหารเลิศรส สุราเลิศล้ำ ก็มีมาวางเอาไว้บนโต๊ะได้อย่างทันใจ สมกับเป็นโรงน้ำชาของผู้ยิ่งใหญ่อย่างเฟยเทียน ซูฮวากับหย่าหลินเพียงนั่งดื่มเหล้าและกินอาหารด้วยสายตาพิฆาตแวววาวใส่กันตลอดเวลา ซูเซียวเพียงนั่งจิบชาอยู่ใกล้ๆ กับเฉินเจียวเหมยด้วยท่าทางนุ่มนวลอ่อนโยนตามวิสัยแตกต่างจากสตรีอีกสองนาง เฉินเจียวเหมยเพียงกินอาหารอย่างสบายอารมณ์ตามวิสัยเช่นเดียวกัน ทั้งสี่สตรีกำลังนั่งร่ำสุราอยู่ด้วยกันตรงโต๊ะเล็กทรงเตี้ยขนาดพอเหมาะ โดยที่ทั้งสี่นางนั่งอยู่กับพื้นรอบโต๊ะบนผ้าบุนวมรอบทิศทาง “ข้าอยากรู้เสียจริงว่าพวกเจ้ามีความแค้นอันใดต่อกัน” เฉินเจียวเหมยถามออกไปทางซูฮวาและหย่าหลิ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status