บทที่ 5 กาแฟใส่นม
“มั้ง”
“หมายความว่ายังไงเหรอคะ เคยมั้ง?”
“เจอหน้าคนเยอะแยะ จำไม่ได้หรอก”
อย่างนั้นก็แปลว่าเขาจำกันไม่ได้จริงๆ เพราะนี่ถือว่าเป็นคำยืนยันจากศิวกรแล้ว ขนมลอบถอนหายใจแล้วยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบเล็กน้อยแก้เขิน
“หรือว่าเคยเจอ”
พรวด!
น้ำพุ่งออกจากปากเธอทันที
“ขะ ขอโทษค่ะ ขอโทษ” ขนมรีบหยิบทิชชูไปซับน้ำออกจากแขนให้ชายหนุ่ม “ขอโทษนะคะ หนมไม่ได้ตั้งใจ”
“แทนตัวเองว่าอะไรนะ”
“เอ่อ…หนมค่ะ ขนมน่ะ”
“อ๋อ ขนม…รสอะไร”
“ว่าอะไรนะคะ”
“เปล่า นั่งเถอะ” ศิวกรหยิบทิชชูมาเช็ดน้ำออกจากแขนเอง และความเงียบในโต๊ะอาหารก็เกิดขึ้น ขนมนั่งหลังตรง เสสายตามองไปรอบๆ ไม่ใช่อะไร เธอไม่อยากโฟกัสคนตรงหน้า ขนาดที่ว่าไม่ได้โฟกัสเขามากนัก หน้าเธอยังผ่าวร้อนขนาดนี้ ถ้าได้สบตากับเขานะ อื้ย!
“หมอให้ยาอะไรมาบ้าง”
“ก็ยาทาค่ะ”
“ใช้ของอะไรก็ระวังหน่อย ผิวตรงนั้นมันอ่อนไหวง่าย”
“เอ่อ จะคุยเรื่องนี้ในโต๊ะอาหารจริงๆ เหรอคะ” บรรยากาศกร่อยแย่เลย แล้วมีอย่างที่ไหนคุยเรื่องแบบนี้ในโต๊ะอาหารน่ะ เข้าใจว่าเป็นหมอมันไม่รู้สึกเขินหรืออะไร แต่เธอไม่ชินนี่นา
“โอเค” ชายหนุ่มทำท่ารูดซิปปากแล้วหันไปมองพนักงาน “อยากกินน้ำอะไร นอกจากน้ำเปล่าน่ะ”
“เอาน้ำเปล่านี่แหละค่ะ อร่อยสุดแล้ว” ค่าอาหารต่อมื้อที่เขามากินคงหลายพันแน่เลย อย่างเธอคงจบแค่ข้าวแกงกับก๋วยเตี๋ยวง่ายๆ ราคาถูกกว่ามื้ออาหารเขาแน่นอน เงินเป็นพันหากใช้จ่ายในวันพิเศษๆ ก็ว่าไปอย่าง
ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ ขนมมองจานราวิโอลีหอมๆ แล้วก้มหน้าสูดดมกลิ่น
“หอมจัง” พอเงยหน้าขึ้นมองไปหาอีกฝ่าย เขาลงมือกินไปได้สองคำแล้ว อย่างว่าแหละ มานั่งเขี่ยอาหารค่อยๆ กินทีละคำคงไม่ไหว เวลามันเดินเร็ว
ขนมตักอาหารเข้าปากทีละคำจนหมดจาน แต่อีกฝ่ายหมดก่อนแถมยังสั่งของทานเล่นมานั่งเคี้ยวเพลินมองหน้าเธออีก
“หนูว่าเราสองคนมาด้วยกันแบบนี้ไม่เหมาะมั้งคะ”
“ใครที่บอกว่าไม่เหมาะ”
“ก็หนูพูดอยู่นี่ไงคะ มันไม่ควร”
“เลิกงานแล้ว นี่เวลาส่วนตัว” ศิวกรพูดออกมาได้น่าหมั่นไส้มาก ดูมั่นใจเกินไปแถมยังลอยหน้าลอยตาพูดใส่เธออีก
“ค่าอาหารเท่าไรคะ จ่ายคนละครึ่งนะ”
“เก็บไว้เถอะ”
“ไม่ได้ค่ะ ไม่อยากติดค้าง”
“ถ้างั้นวันนี้เลี้ยงข้าวเรา วันหลังเราก็เลี้ยงกาแฟคืนแล้วกัน”
หญิงสาวชะงักที่จะหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าสตางค์ ขนมกะพริบตาปริบๆ ทำไมอยากเจอกันนักไม่รู้
“เผื่อไม่ได้เจอกันไงคะ อีกอย่างหนมไม่รู้ด้วยว่าอาจารย์ทำอะไรอยู่ที่ไหน หมายถึงหลังราวน์เสร็จน่ะค่ะ”
“งั้นเอาไลน์ไปสิ”
“ฮะ?” เขาให้ไลน์เธอเพื่อจะให้ทักถามว่าอยู่ไหนเนี่ยนะ แปลกแฮะ “ไม่ดีมั้งคะ แล้วปกติอาจารย์ชอบแลกไลน์หรือว่าไอจีมากกว่ากัน” ขนมหรี่ตาแคบลงจับผิดอีกฝ่าย แต่ด้วยใบหน้าเรียบนิ่งก็ไม่อาจรู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่
“ปกติไม่ได้ให้ใครง่ายๆ”
“ค่ะ” ขนมหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งให้อีกฝ่าย เขาบอกเองนี่ว่าไม่ค่อยให้ใครง่ายๆ เสนอมาเองเธอก็ต้องรีบรับไว้ก่อนสิ
ศิวกรพิมพ์ไอดีตัวเองแล้วกดเพิ่มเพื่อนไลน์ให้ขนม ส่วนเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมากดยอมรับเธอเหมือนกัน ขนมหรี่ตามองโทรศัพท์มือถือเขาซึ่งไม่ใช่เครื่องที่เขาใช้วันนั้นเลย เครื่องนั้นสีดำส่วนเครื่องนี้สีทอง
“เอาไว้หนมจะเลี้ยงกาแฟกลับนะคะ อาจารย์ก็เลือกร้านได้เลย”
“อืม”
หลังจากนั้นศิวกรก็ขับรถไปส่งขนมที่หอพัก วันนี้เขาไม่รีบร้อนอะไรเพราะคลินิกปิดวันหนึ่ง
“ขอบคุณนะคะที่พาไปหาหมอ”
“อืม คราวหน้าจะใช้อะไรก็ดูหน่อย”
“ค่า~” ขนมยิ้มแป้น เขาจะมาใส่ใจเรื่องตรงนั้นของเธอทำไมนักหนาเนี่ย เมื่อศิวกรถอยรถออกไปแล้วขนมก็รีบขึ้นไปหายิ้ม
“เป็นไง ทำไมมาเร็วจัง” ยิ้มลุกขึ้นมาถาม เธอกำลังจะโทร. หาเพื่อนอยู่พอดีแต่ขนมกลับมาก่อน
“กลับเร็วเพราะมีคนพาไปหาหมอ”
“ใคร” ยิ้มทำตาโตแล้วเอ่ยชื่อบุคคลอันตรายเสียงดัง “อาจารย์กร!”
“ใช่~” ใบหน้าสวยพลันบึ้งตึง “เขารู้หมดว่าฉันเป็นผื่นที่ไหน ให้ตายเถอะ” ระหว่างทางไปหาหมอก็ว่าเกร็งจนตัวแข็งแล้วนะ ตอนไปนั่งกินราวิโอลีกับเขายิ่งเกร็ง
“เชี่ย อาจารย์รู้เหรอว่าหนมไปหาหมอเพราะเป็นผื่นตรงนั้นน่ะ”
“อืม เขาทำท่าจะตรวจให้ด้วยซ้ำ แต่หนมรีบออกมาก่อน มานั่งรอรถสองแถวอยู่หน้าโรงพยาบาล เขาก็ขับรถมาชวนขึ้นรถอีก”
“หนมก็ไปเหรอ”
“อืม ปากมันไวกว่าความคิดน่ะ”
“ทำไมโลกมันกลมแปลกๆ วะ ยิ้มว่ามันมีอะไรในกอไผ่แน่นอน” ยิ้มกอดอกพลางเลิกคิ้วสูง วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับขนม “อาจารย์กรต้องสนใจหนมแน่ๆ”
“สนใจอะไรล่ะ เออหนมลองถามเขาแล้วนะว่าเคยรู้จักกันมาก่อนไหม เขาบอกไม่รู้จักเพราะเจอหน้าคนในแต่ละวันเยอะน่ะ”
“อย่างนั้นก็แปลว่าอาจารย์จำหนมไม่ได้จริงๆ สินะ”
“อืม”
“ดีซะอีก จะได้ใช้ชีวิตปกติสุขสักที”
“ก็จริง”
ยิ้มเห็นขนมถอนหายใจออกแรงๆ ไม่แสดงอาการดีอกดีใจแต่กลับทำเหมือนไม่ยินดีอย่างนั้นแหละ
“เป็นไร ไม่ดีเหรอ”
“ดีอะไร ดูนี่ก่อน” เธอเปิดไลน์ให้ยิ้มดูแล้วกดตรงชื่อของศิวกร
“เอ้า?”
“ติดเลี้ยงกาแฟเขาอะ วันนี้เขาพาหนมไปกินข้าว ไม่ใช่ข้าวหรอกเป็นพาสตามากกว่า” ขนมถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะเงยหน้ามองเพื่อนรัก ยิ้มอมยิ้มจนตาหยีซึ่งเธอปล่อยผ่านไม่ได้หรอก! “ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงอะยิ้ม”
“เปล่า”
“ไม่ต้องมาทำเสียงสูงเลยนะ พูดมาเลย” ขนมคาดคั้นเพื่อนทางสายตา ก่อนที่เธอจะจับมือของยิ้มแล้วล็อกตัวไว้ “พูดมา ถ้าไม่พูดหนมเป่าหูยิ้มแน่!” ยิ้มเป็นพวกบ้าจี้ด้วย แค่เธอทำท่าจะเป่าหูยิ้มก็ดิ้นพล่านแล้ว
“ยอมแล้วๆ ปล่อยก่อน”
“แน่นะ”
“แน่ค่ะเพื่อน”
ขนมยอมคลายตัวออกจากยิ้มแล้วจ้องหน้าเธอ แต่จอมบิดพลิ้วก็เล่นตัวไม่ยอมพูดอะไรง่ายๆ
“จะพูดไหม”
“โอเคๆ แล้วก็ตอบให้ได้ด้วยล่ะ”
“ได้ หนมจะตอบตรงๆ เลย”
“ถ้าอาจารย์เขาเข้าหาเพราะอยากจ้ำจี้กับหนมอีก หนมจะยอมปะ”
“บ้าเหรอ ใครจะไปยอมล่ะ”
“ก็แค่อยากรู้ไง ก็คนมันเคยๆ กันแล้วนี่นา” วัวเคยค้าม้าเคยขี่ ของแบบนี้พูดปากเปล่าไม่ได้หรอก ต้องดูกันไปยาวๆ
“เขาบอกชัดแล้วว่าไม่ซ้ำรอบสอง”
“เหรอ”
“เพราะว่าเขาชอบกินของใหม่มากกว่าของเก่า”
วันต่อมา
ขนมยืนรอกาแฟร้อนอยู่กับยิ้ม วันนี้ตื่นกันตั้งแต่ตีห้าเพื่อออกไปตามล่าโจ๊กกับปาท่องโก๋จิ้มสังขยาใบเตย นึกอยากกินกันทั้งคู่ก็เลยแหกขี้ตาตื่นเช้าหน่อย พอกินอิ่มก็มาแวะซื้อกาแฟร้อนเอาไปกินกับปาท่องโก๋บนวอร์ดด้วย
“สั่งสองแก้วเลยเหรอ”
“อืม หนมสั่งให้อาจารย์กรแก้วหนึ่งอะ ไม่อยากติดค้างเขานาน”
“ดีแล้ว แล้วปาท่องโก๋ล่ะ”
“อันนี้แถมให้เขากินกับกาแฟ”
“อ๋อ” ยิ้มพยักหน้าเข้าใจ พอได้ของแล้วก็เดินมาส่งขนมที่ตึก “แล้วเจอกันเย็นนี้นะ”
“จ้า” ขนมเดินเข้ามาในวอร์ด เธอวางถุงปาท่องโก๋ที่ซื้อมาฝากพี่พยาบาลไว้บนเคาน์เตอร์ แล้วเดินไปยังห้องพักอาจารย์แพทย์ “พี่เพ็ญพอจะทราบไหมคะว่าอาจารย์กรขึ้นเวรแล้วหรือยังคะ”
“อ๋อ เห็นโดนตามเข้าโออาร์ตอนตีหนึ่งนะ ไม่รู้ว่าออกจากโออาร์แล้วหรือยัง”
“ค่ะ” เซ็งเลยทีนี้ กาแฟกับปาท่องโก๋คงเย็นหมด “เอาไว้ตรงนี้แล้วกัน เผื่อออกมาเห็นแล้วจะได้หยิบไปกินเลย” พอดีมีโต๊ะเล็กๆ ข้างเคาน์เตอร์พยาบาล เธอก็เลยวางของไว้บนนั้นเสียเลย อย่างไรถ้าเขาเดินออกมากก็เห็นแน่ๆ ที่เหลือก็แค่พิมพ์ไปบอกในไลน์
ช่วงบ่าย ขนมกับเพื่อนนั่งอ่านสไลด์อยู่ม้านั่งตรงทางเดินระหว่างอาคาร ประจวบเหมาะกับศิวกรเดินมาพร้อมกับพยาบาลอีกคนพอดี
“อาจารย์คะ”
“หืม?” คนตัวสูงหยุดเดินแล้วเลิกคิ้วสูงมองหน้า “มีอะไรครับนักศึกษา”
“เอ่อ…กาแฟกับปาท่องโก๋ที่เอาไว้ให้ ได้กินแล้วใช่ไหมคะ”
อีกฝ่ายทำหน้างง ก่อนจะสั่นหน้าแล้วหันไปพยักหน้าให้พยาบาล
“เพิ่งออกจากโออาร์ ต้องไปคอนเซาท์เอ็กเทิร์น” เขาเหลือบตามองเวลา “บ่ายสามเจอกันร้านกาแฟแล้วกัน” พูดจบเขาก็เดินออกไปทันทีเลย
“อะ อาจารย์~” ขนมยืดแขนตามจะสุดแขนอยู่แล้ว แต่เขาไม่หันกลับมามองเลย “อะไรของเขาเนี่ย แล้วเอาไปให้ไม่ได้กินเหรอ”
พอถึงเวลานัดเธอก็หอบกระเป๋าพร้อมกับไอแพดเดินไปหาเขาที่ร้านกาแฟ ปรากฏว่าศิวกรยังไม่มา ในร้านเงียบกริบ เธอก็เลยเลือกโต๊ะมุมในสุดนั่งรอเขา ระหว่างนั้นก็ทำงานไปด้วย
หลายนาทีที่เธอนั่งรอกระทั่งเสียงประตูเปิดเข้ามา ศิวกรก้าวสองก้าวก็มาถึงโต๊ะแล้ว
“อาจารย์อยากกินอะไรไปสั่งสิคะ”
“เมื่อเช้าเราซื่อกาแฟกับปาท่องโก๋ไปให้เหรอ”
“ค่ะ แล้วได้กินไหมคะ”
“ไม่ เมื่อเช้าเข้าโออาร์กับอาจารย์สุธี ออกมามันเย็นหมดแล้ว ปาท่องโก๋ก็เหี่ยวไม่น่ากินแล้ว”
“แหงสิคะ หนมซื้อไปฝากไว้ตั้งแต่เช้าเลย ไม่รู้ว่าอาจารย์ออกจากโออาร์ตอนไหนนี่”
“ทำไมไม่ทักถามล่ะ”
“จริงด้วยสิ มีไลน์กันนี่นา” เมื่อเช้าตั้งใจแล้วนะว่าจะไลน์ไปบอกเขาว่าซื้อกาแฟมาให้ แต่พอเพื่อนชวนคุยก็ลืมไปเลย “ไปสั่งสิคะ เดี๋ยวหนมจ่ายเอง”
“อืม” ศิวกรลุกออกไปสั่งกาแฟดำเย็น พอได้ของแล้วก็เกินกลับมานั่งที่เดิม “ลงเวรแล้ว ว่าง”
“เหมือนรู้ว่าหนมจะถามเลย”
“หน้าเรามันพูดแทนหมดแล้ว”
ขนมเลิ่กลั่กมองแก้วกาแฟ เขาเพิ่งวางมันลงเมื่อกี้เองนะ ดูสองอึกก็หมดแล้วเหรอ
“โห กินเร็วขนาดนี้จะดีเหรอคะ แล้วกินเวลานี้นอนหลับเหรอ”
“หลับปกติ แต่ไม่อยากหลับมากกว่า”
'แหงสิ ตอนกลางคืนคงออกล่าสินะ’
“อาจารย์ติดกาแฟดำเหรอคะ”
“อืม ไม่ค่อยชอบรสหวานเท่าไร”
“ลองกินกาแฟดำใส่นมข้าวโอ๊ตดูสิคะ หอมอร่อยดีนะ”
“อืม เอาไว้คราวหน้าจะลองแล้วกัน” ชายหนุ่มก้มมองเวลา พอมีเวลาอยู่นิดหน่อยก็เลยขอดูงานที่ขนมทำอยู่ “ไม่ใช่แบบนี้ ต้องเขียนแบบนี้ถึงจะถูก”
“อ๋อค่ะ” กลายเป็นว่าเขาเป็นอาจารย์สอนพิเศษให้เธอซะงั้น ขนมพยักหน้าตั้งใจฟังและปรับแก้งานตามที่ศิวกรบอก จนในที่สุดงานก็เสร็จสรรพ เธอยกมือไหว้ขอบคุณจากใจจริง หากไม่ได้เขาช่วยป่านนี้ก็คงงมอยู่กับงานจนถึงเช้าแน่ “หนมเป็นหนี้บุญคุณอาจารย์อีกแล้วอะ”
“ต้องไปเปิดคลินิกแล้ว ขอตัวนะ”
“เดี๋ยวสิคะอาจารย์” ทันได้จับมือเบาไว้พอดี “หนมไม่อยากค้างคาใจค่ะ อยากกินอีกไหมคะ เดี๋ยวหนมจ่ายรวมกับของพวกนี้เอง”
“เอาไว้วันหลังแล้วกัน วันนี้รีบ”
“อ้าว!” ขนมมองตามแผ่นหลังกำยำตาปริบๆ บทจะรีบก็รีบไปเลยนะ แล้วเมื่อกี้นั่งสอนเธอตั้งนานสองนาน “บทจะมาก็มา บทจะไปก็ไม่พูดอะไรมากเลย คนอะไรแปลกจัง” ขนมนั่งลงแล้วเท้าคางบ่นพึมพำไล่หลังศิวกร
พอวันต่อมาเธอก็มารอเจอเขาแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาเลย วันแรกไม่เจอและวันที่สองก็ไม่เจออีก พอถามพี่พยาบาลถึงได้รู้ว่าอาจารย์ศิวกรน่ะลากิจกลับบ้าน และได้ทราบอีกว่าบ้านเขาอยู่ในกรุงเทพนี้เอง
“ถ้าเป็นเราคงกลับไปกินข้าวบ้านตัวเองทุกวัน” พูดถึงบ้านก็คิดถึงคนรออยู่บ้านตัวเอง “ป่านนี้ป้าคงรอเรากลับไปกินข้าวใหม่อยู่แน่เลย”
ด้านศิวกรกำลังขับรถพาพ่อกับแม่ไปดูที่ที่จะสร้างตึกให้คนเช่าที่ชลบุรี ระหว่างทางก็ได้แวะร้านกาแฟซึ่งเปรมใจกับผาภูมิก็ได้ลงไปยืดเส้นยืดสายด้วย
“แม่กินกาแฟไหม”
“ไม่จ้ะ เดี๋ยวหัวใจเต้นเร็วอีก”
“ดีแล้วครับ เลิกได้ก็เลิก แต่ถ้าเลิกไม่ได้ก็สั่ง”
“เจ้าลูกคนนี้นี่”
“งั้นผมขอตัวไปสั่งกาแฟก่อน ง่วงมาก”
“จริงๆ แม่ให้คนขับรถพามาก็ได้ เราไม่น่าลางานมาเลย”
“ลาที่ไหนล่ะ ขายเวรให้เพื่อนต่างหาก ขาดรายได้ไปเป็นแสนๆ เลยนะเนี่ย”
“หึหึ งั้นแม่เลี้ยงกาแฟเราเอง”
“โอเคเลย”
สองแม่ลูกเดินเข้ามาในร้านกาแฟ ตอนที่ลูกชายเธอสั่งกาแฟซึ่งแปลกไปจากเดิมเปรมใจจึงเอ่ยถาม
“เลิกกินกาแฟดำแล้วเหรอ”
“ยัง แค่อยากลองเมนูใหม่ๆ ดูบ้างน่ะครับ”
“อ๋อ” นางพยักหน้าเข้าใจ เห็นลูกชายสั่งกาแฟใส่นมข้าวโอ๊ตก็เลยแปลกใจนิดหน่อยน่ะ หลังจากนั่งพักกันได้ไม่นานศิวกรก็ขับรถต่อ
วันต่อมา 06:40
ขนมเดินถือไอแพดมาตามทางเดินระหว่างตึก สายตาเธอสอดส่องไปทั่วบริเวณเฉกเช่นทุกวัน จนเดินมาเจอกับพี่พยาบาลกำลังลงเวร
“สวัสดีค่ะ ลงเวรแล้วเหรอพี่ก้อย”
“จ้า”
“โห ได้ขนมกล่องใหญ่เลยค่ะ”
“อ๋อ ขนมนี่เหรอ”
ขนมพยักหน้าให้เป็นคำตอบ
“ของฝากจากอาจารย์ศิวกรน่ะ ได้กันคนละกล่องเลย”
“อ๋อค่ะ” งั้นก็แปลว่าเขากลับมาทำงานแล้วสินะ “ขับรถดีๆ นะคะ” ขนมส่งยิ้มให้แล้วหันหลังเดินออกมา ซึ่งก็เจอกับศิวกรพอดีเลย “อาจารย์!”
“ว่าไงครับ”
“ขนมขอบคุณอาจารย์มากนะคะที่ช่วยวันนั้น แต่หนมไม่อยากติดค้างใครนานๆ อาจารย์อยากกินอะไรเป็นการตอบแทนคะ” เพราะได้เขาช่วย การพรีเซนต์จึงผ่านไปด้วยดี
ศิวกรทำหน้าครุ่นคิดเหมือนเดิม แล้วก็ยิ้มบางๆ ที่มุมปาก ดวงตาเรียวรีจ้องใบหน้าเธอก่อนที่เขาจะเอ่ยความต้องการออกมา
“อยากกินขนม”
“ขะ ขนมเหรอคะ ขนมเค้ก?”
“อืม ขนมเค้กกินกับกาแฟคงจะอร่อย” ว่าแล้วก็มองเวลา เขาพอมีเวลาเหลือก่อนจะพานักศึกษาราวน์ช่วงเช้า ก็เลยเดินไปร้านกาแฟกับขนมสองคน ระหว่างทางไม่มีใครเปิดปากถามกันเลย กระทั่งทั้งสองมาหยุดยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่ม
“หนมเอาโกโก้หวานยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ค่ะ แล้วก็เอาเค้กเลมอนชิ้นหนึ่ง”
“ค่ะ อาจารย์กรเอาแบบเดิมนะคะ” ด้วยมากินกาแฟบ่อยจนแม่ค้าจำเมนูได้แล้ว ทว่าวันนี้เขากลับส่ายหน้าปฏิเสธ
“ผมเอากาแฟดำใส่นมข้าวโอ๊ต ไม่ต้องใส่น้ำตาล”
แม่ค้าสาวยิ้มเล็กยิ้มน้อย
“นานๆ อาจารย์จะเปลี่ยนเมนูใหม่นะคะ”
ขนมยืนกอดไอแพดฟังสองคนสนทนา เธอเลิกคิ้วและหรี่ตามองศิวกร อะไรกัน ปกติเขากินกาแฟดำตลอดเลยนี่นา หรือว่าอยากเปลี่ยนมากินกาแฟใส่นมตามที่เราแนะนำนะ ถ้าเป็นเราสั่งคงหวานร้อยเปอร์เซ็นต์ไปแล้ว
พอสั่งเสร็จก็หาที่นั่ง ศิวกรหยิบโทรศัพท์มาพิมพ์อะไรสักอย่างพลางเหลือบตามองเวลาด้วย
“ถ้าอาจารย์รีบก็ไปก่อนได้นะคะ เดี๋ยวเอากาแฟไปให้ก็ได้”
“เปล่า ยังพอมีเวลาอยู่”
“ค่ะ”
บทสนทนาเรียบเรื่อยของทั้งสองดังขึ้นในมุมหนึ่งของร้านกาแฟ ขนมไม่ได้รู้สึกเคอะเขินเขาเหมือนวันแรกที่เจอแล้ว การเจอหน้าและได้พูดคุยกันต่อหน้าแบบนี้ช่วยละลายพฤติกรรมเธอได้จริงๆ กล้าที่จะพูดและถามเขามากขึ้น
“ตั้งใจจะเลี้ยงกาแฟอาจารย์ตั้งแต่วันก่อนแล้ว แต่พี่พยาบาลว่าอาจารย์ลา”
“พาพ่อแม่ไปดูที่มา”
“อ๋อค่ะ”
“ไม่ไว้ใจคนขับรถ ก็เลยพาไปเองเลย”
“ค่ะ” ขนมมองเวลาบนไอแพด “ใกล้ราวน์แล้วนี่คะ ขอตัวก่อนนะคะ”
“ไปพร้อมกัน”
“ค่ะๆ” ขนมรีบเก็บของแล้วเดินตามหลังเขาไป มาถึงหน้าวอร์ดก็แยกกัน
หลังราวน์กันเสร็จแล้วขนมกับเพื่อนก็มาพักที่ห้องพักนักศึกษาแพทย์ ขนมเปิดประตูออกมาเจอพี่เอ็มพอดี เธอจึงรีบเดินไปดักทางเขาไว้
“พี่เอ็ม วันนี้วันเกิดเหรอ”
“อืม”
“แอปปีเบิร์ดเดย์นะคะพี่ชาย ของให้เฮงๆ ปังๆ มีแฟนกับเขาสักที อย่าอยู่เป็นโสดเหมือนน้องเลย”
“หึหึ ขอบคุณมาก”
“กอดหน่อยพี่ชาย” ขนมสวมกอดรุ่นพี่ผู้มีพระคุณของเธอ แต่จังหวะที่คลายอ้อมกอดออกศิวกรกลับเดินมาพอดี เขาไม่หันมามองหรอก เพียงเดินผ่านไปเฉยๆ
“เย็นนี้ว่างไหม ไปกินเลี้ยงวันเกิดพี่กัน”
“จะเลี้ยงวันเกิดเหรอ”
“อืม”
“งั้นหนมชวนยิ้มไปด้วยนะ”
“ได้สิ”
ตกเย็นมาขนมก็มารอศิวกรอยู่หน้าตึก เขาพิมพ์ข้อความมาบอกเองและกำลังลงมาหา
“มีอะไรเหรอคะ” พอเห็นหน้าเขา เธอก็รีบเดินเข้าไปหาพร้อมกับเอ่ยถาม ศิวกรไม่ได้ตอบกลับในทันทีหรอก มุมปากหนายกโค้งคล้ายจะยิ้มด้วยซ้ำ
“ดูรีบนะ”
“พอดีหนมมีนัดน่ะค่ะ”
“นัด?”
“ค่ะ นัดกับพี่เอ็ม”
“อ๋อเอ็ม แล้วกำลังจีบกัน?” ชายหนุ่มถามหยั่งเชิงอีกฝ่าย ที่เขาถามออกไปแบบนั้นเพราะเห็นเธอกอดกับรุ่นพี่นั่นแหละ
“ไม่ใช่ค่ะ พี่เอ็มเป็นพี่ชายที่ดีของหนมเท่านั้น ไม่ใช่กำลังจีบกัน” ขนมทั้งส่ายหน้าทั้งยกมือขึ้นมาสะบัด
ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินไปยังที่จอดรถ ระหว่างนั้นคิ้วมนก็ขมวดเข้าหากันแน่น สงสัยว่าทำไมเขาถึงถามซอกแซกผิดวิสัยแบบนี้ ปกติเขาไม่น่าใช่คนถามอะไรแบบเจาะจงขนาดนี้เสียหน่อย
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ขนมมองหน้าเขาตาปริบๆ
“ขนม”
“คะ?” เรียกกันทำไม เรียกแล้วไม่พูดน่ะ “เรียกทำไมเหรอคะ”
“เปล่า ซื้อขนมมาฝาก” เขายกถุงหูหิ้วใบใหญ่ออกมาจากรถแล้วส่งให้เธอกับมือ
'ขนมเหรอ ที่แท้ก็ให้มาเอาขนมนี่เอง'
“ขอบคุณค่ะ” ไม่ได้มีแค่ขนม แต่ยังมีพวกน้ำพริกกับของแห้งด้วย “ทำไมเยอะจัง” ขนมถือถุงหูหิ้วไซต์ใหญ่ที่ใส่ของทั้งหมดไว้
'เขาก็ใจดีเหมือนกันนะเนี่ย ซื้อของมาฝากคนทั้งวอร์ดเลย'
“ของฝากจากชลบุรี”
“อาจารย์ไม่น่าลำบากเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไร” ศิวกรกดล็อกรถเสร็จก็เดินออกมา
“ไปแล้วเหรอคะ”
“อืม เรารีบไม่ใช่เหรอ” เห็นว่าเธอรีบ เขาก็เลยไม่ได้ชวนคุย “หรือไม่รีบแล้ว”
“รีบค่ะ รีบอยู่”
“อืม"
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ เดี๋ยวหนมกลับบ้านจะซื้อของมาฝากบ้าง”
“ขอบคุณล่วงหน้าแล้วกัน”
“ค่ะ”
รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้าสวย ขนมหอบถุงของฝากกลับห้องพัก เปิดประตูเข้ามาก็เห็นยิ้มนั่งรออยู่บนเตียง เธอจึงวางถุงของฝากลงบนโต๊ะ
“ยิ้มไปกินเลี้ยงวันเกิดพี่เอ็มด้วยกันปะ”
“ไปๆ แล้วนั่นของอะไรเหรอ”
“ของฝากจากอาจารย์กร”
“หืม?” ยิ้มลุกออกมาเปิดดูของฝากในถุงทันที “ของฝากเนี่ยนะ เขาไปไหนมาเหรอ ทำไมถึงได้ของมาฝากหนมเยอะขนาดนี้”
“ไปดูที่ที่ชลบุรีมา”
“แปลก แปลกมาก”
“ไม่แปลกนะ พี่ๆ ในวอร์ดสูได้คนละกล่องเลย”
ยิ้มหรี่ตาแคบจ้องใบหน้าเพื่อน
“แน่ใจนะว่าไม่แปลก ยิ้มมองมาจากดาวอังคารยังดูออกเลยว่าแปลกน่ะ ปกติไม่เคยเห็นอาจารย์คนไหนทำแบบนี้กับนักศึกษานะ”
ขนมย่นหัวคิ้ว เธอคิดตามคำพูดของเพื่อนรัก
“แล้วเขาจะทำแบบนี้ไปทำไม”
“ไม่รู้สิ แต่ว่านะ” ยิ้มจับไหล่ทั้งสองข้างของขนมไว้แน่น “หนมเป็นนักศึกษา เขาเป็นอาจารย์ ยังไงก็ไม่เหมาะอะ ห่างๆ ไว้หน่อยก็ดีนะ ยิ้มกลัวคนเอาหนมไปนินทาอะ”
“อืม” ขนมกอดยิ้มแน่น “รีบไปเปลี่ยนชุดเลย พี่เอ็มบอกว่าให้เราสองคนแต่งตัวสวยๆ"
“โอเค”
นานๆ ทีได้ออกไปเที่ยวก็พอได้คลายเครียดเหมือนกัน พอแต่งตัวเสร็จสรรพทุกอย่างแล้วทั้งสองก็ไปหารุ่นพี่ที่ไนต์คลับตามเวลานัดหมาย ขนมกับยิ้มเดินเข้ามาเจอรุ่นพี่อีกคนหนึ่งก็เลยเดินไปยังโต๊ะที่จองเอาไว้ด้วยกัน
“ของขวัญหนมกับยิ้มค่ะ” ขนมส่งกล่องของขวัญให้รุ่นพี่
“บอกว่าไม่ต้องซื้ออะไรมาไง"
“พี่ไม่ได้เกิดบ่อยๆ นี่นา”
“ขอบคุณเราสองคนมาก นั่งเลยๆ”
ขนมกับยิ้มนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน พี่เอ็มก็สั่งเครื่องดื่มมาหลายขวดและยังมีพวกขนมขบเคี้ยวอีก
“เป่าเค้กไหม”
“เป้า แต่รอคนก่อน ยังมาไม่ครบเลย” พี่เอ็มตอบกลับพลางชะเง้อมองต้นทางด้วย ด้วยเราเปิดโต๊ะวีไอพีแล้วมันอยู่ด้านในสุด พี่เขาเลยต้องเทียวมองแล้วโบกมือให้สัญญาณเพื่อน
“ค่ะ” ระหว่างนั้นขนมก็นั่งกินของว่างไปเพลินๆ กระทั่งพี่เอ็มลุกขึ้นแล้วโบกมือให้ผู้มาใหม่
“ทางนี้ครับอาจารย์กร”
“วะ ว่าอะไรนะคะ”
“อาจารย์กรไง พี่ชวนแกมาด้วยแกว่างพอดีน่ะ”
“…”!
Special : 5ผ่านวันรับใบวุฒิบัตรมาได้หนึ่งอาทิตย์ ขนมกับศิวกรก็เข้าพิธีหมั้นหมายกันโดยมีญาติผู้ใหญ่และเพื่อนของทั้งสองฝ่ายมาร่วมงานด้วย“นี่ไปแอบคบกันตอนไหนวะ พี่งงหมดแล้วเนี่ย” พี่เอ็มนั่งดื่มไปตั้งข้อสงสัยไปด้วย เขาเกาหัวเบาๆ มองขนมกับศิวกร “อา! หรือว่าจะเป็นตอนนั้น” นึกกลับไปเมื่อปีก่อนๆ โน้น เขายังจำได้อยู่ว่าอาจารย์กรชอบทำเสียงดุใส่เขาเมื่อถามถึงขนม ซ้ำยังทักมาถามหาขนมกับเขาบ่อยมาก “ทำไมไม่เอะใจบ้างวะ”“อะไรพี่เอ็ม” ยิ้มสะกิดแขนพี่ชาย“ก็พี่โง่อะยิ้ม ไม่รู้ว่ายายน้องสาวตัวดีคบกับอาจารย์กร”“เหรอ”“ยิ้ม อย่าบอกนะว่ายิ้มรู้เห็นเป็นใจ”ยิ้มไม่ได้ตอบกลับเพียงคำพูด แต่เธอยังสะบัดผมใส่รุ่นพี่อย่างผู้ชนะด้วย“รู้มาตลอดค่ะ และเป็นผู้กุมความลับดีมาโดยตลอด”“โห” พี่เอ็มปรบมือและยกนิ้วให้รุ่นน้อง “หรือว่าที่อาจารย์แกย้ายไปทำงานโรงพยาบาลเอกชนก็เพราะยายหนม”“ถูกค่ะ อาจารย์แกไม่อยากให้เพื่อนยิ้มกังวลใจเรื่องเพื่อนในที่ทำงาน แกเลยย้ายไปทำงานที่อื่นเอง เพราะอยากเห็นแฟนยิ้มมากกว่าหัวคิ้วชนกัน”“โห พ่อหนุ่มคลั่งรัก ยายหนมโชคดีเป็นบ้า”ทั้งยิ้มและพี่เอ็มมองไปที่สองหนุ่มสาวซึ่งกำลังนั่งร่วมพิธีหมั้น
Special : 4กลับจากเชียงคานแล้วศิวกรก็พาขนมไปหาเพื่อนเขาที่โรงพยาบาล และได้อยู่พูดคุยกันประมาณหนึ่งชั่วโมงศิวกรก็พาเธอกลับเพราะเพื่อนมีเคสด่วนเข้ามาพอดี“พี่หมอใจดีจังเลยนะคะ พูดก็เพราะ หล่อมากด้วย”“หล่อๆ แบบนั้นยังหาแฟนไม่ได้เลยนะ”“ใช่เหรอคะ พี่หมอเนี่ยนะหาแฟนไม่ได้ ไม่น่าเชื่อเลย”“เพราะความหล่อเป็นเหตุไง”“จริงอะ”“จริง สมัยเรียนมันมีสาวสวยมาขอเฟซเยอะนะ แต่มันจีบสาวไม่เป็นไง เลยได้กินแห้วตลอด พอมีสาวมาจีบเยอะหน่อยคนอื่นก็มองว่ามันเจ้าชู้ สรุปก็คือโสดไม่มีคนกล้าจีบและมันไม่จีบใคร”“โห…ความหล่อเป็นเหตุนะเนี่ย แล้วคุณหมอกรล่ะคะ มีสาวสวยมาจีบเยอะไหม” ขนมหันตัวมามองเขาด้วยรอยยิ้ม“สมัยเรียนก็พอตัวอยู่ แต่ช่วงนั้นเรียนหนักไปหน่อย เลยไม่ได้คุยกับใครแบบจริงจัง"“ดีนะเนี่ย ถ้าพี่กรคุยกับสาวแบบจริงจังหนมคงไม่มีโอกาสได้เป็นแฟนพี่แน่ๆ”“ไม่แน่นะ” อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ขนาดว่าโลกใบนี้กลมและใหญ่มากแค่ไหนเขาและเธอยังมาเจอกันได้เลย “แต่จะยังไงก็ช่างเถอะ มันเป็นอดีตไปแล้วครับ เพราะตอนนี้พี่มีเราแล้ว ไม่ต้องการอะไรแล้วจริงๆ”คำพูดแสนหวานพานพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ พวงแก้มทั้งสองข้างแดง
Special : 3ตกเย็นขนมก็เข้าครัวทำกับข้าวให้ทุกคนได้กิน และวันนี้เธอมีลูกมือคือศิวกร เขานั่งพับเพียบเด็กยอดผักให้เธอเอาไปผัดกินกับน้ำพริก ท่าทางน่าเอ็นดูของศิวกรทำเอาขนมอดที่จะยิ้มไม่ได้ และเธอได้แอบถ่ายรูปเขาส่งให้แม่เปรมดูด้วย“พี่กร”“ครับ?” ชายหนุ่มเงยหน้ามอง “ว่าไง เรียกพี่แล้วไม่พูด”“เอ็นดูอา…พ่อหนุ่มเมืองกรุงเข้าครัว นั่งเด็ดผักเรียบร้อยมาก”“หึหึ แล้วเย็นนี้พี่จะได้กินอะไร”“กับข้าวง่ายๆ ค่ะ มีน้ำพริกปลาทูแมงดานา ผัดผักของพี่กร แล้วก็ไข่เจียวของป้า มีหมูแดดเดียวทอดด้วย แล้วก็ผักสดกินกับน้ำพริกค่ะ”“โห แต่ละอย่างน่ากินทั้งนั้นเลย”“จะทำให้สุดฝีมือเลยค่ะ” ขนมมองซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นป้าอยู่บริเวณนี้เธอจึงโน้มหน้าลงไปหอมแก้มแฟนหนุ่มอย่างอดใจไม่ไหว “น่ารัก” ภาพผู้ชายตัวโตๆ ผิวขาวเนียนนั่งพับเพียบเด็ดผักมันน่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ ขนาดแม่เขายังเอ่ยปากเลยว่าน่าเอ็นดูลูกตัวเอง “ไหนๆ ก็มาเที่ยวเลยแล้ว พี่กรอยากไปเที่ยวไหนไหมคะ เช่นเชียงคานกับภูเรือ”“มันมีที่เที่ยวอะไรบ้าง ที่เราพูดมาน่ะ”“ถ้าไปเชียงคานก็ไปเดินเล่นถนนคนเดินค่ะ ไปพักที่นั่นได้ ที่พักริมน้ำโขงเลย ส่วนภูเรือก็คงไปเที่ยวดูดอ
Special : 2มาถึงสนามบินแล้วศิวกรก็ลากกระเป๋าพาขนมไปเช็กอินหน้าเคาน์เตอร์ เพราะไม่มีของโหลดใต้เครื่องจึงง่ายต่อการเช็กอิน“พี่กลับเลยก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหนมเข้าไปข้างในแล้ว”“เดี๋ยวก่อน” ขนมโดนรั้งไว้จนตัวเธอถลากลับมาหาแฟนหนุ่ม ศิวกรยกมือขึ้นมาลูบผมเบาๆ มองสบตากับเธอนานนับนาทีโดยไม่เอื้อนเอ่ยคำใดออกจากปาก หากแต่ใช้ภาษากายสื่อสารกับเธอเท่านั้น และเขารู้ว่าขนมเข้าใจในสิ่งที่เขาสื่อกับเธอ“ไม่ต้องห่วงหนมนะ ถึงบ้านแล้วจะรีบโทร. หาพี่กรคนแรกเลยค่ะ”“โอเค มีสติตลอดล่ะ เดินไปไหนมาไหนก็ระวังด้วย อย่าเผลอเอากระเป๋าสะพายวางไว้ทั่ว เดี๋ยวของสำคัญหายเข้าใจไหม”“ค่ะ ไปแล้วนะคะ” ขนมโบกมือให้เขา “แล้วเจอกันนะคะ”“ครับผม เดินทางปลอดภัยครับ”หลังจากส่งขนมที่สนามบินเสร็จเขาก็ขับรถตรงไปยังโรงพยาบาลมหา'ลัยทันที แม้ยังเช้าอยู่แต่ก็มาหาอะไรรองท้องก่อนเข้าประชุมยาวๆ จนถึงเที่ยง“สวัสดีครับอาจารย์” เอ็มเดินสวนออกมาจากวอร์ดพอดีจึงกล่าวทักทายศิวกรพร้อมกับยกมือไหว้“หวัดดีครับ เพิ่งออกจากโออาร์เหรอเรา”“ครับอาจารย์ ยายขนมไม่อยู่ผมเวรเยินมาก”“เกี่ยวอะไรกับขนม” ศิวกรหรี่ตาถามชายหนุ่ม เอ็มจึงรีบอธิบายให้กว้างขึ้น“ก็น
Special : 1สามเดือนต่อมา ขนมนั่งพับเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางเตรียมกลับไปหาป้าในช่วงปิดเทอม แม้เป็นการปิดเทอมสั้นๆ แต่เธอก็อยากกลับไปเยี่ยมป้า หลังจากไม่ได้กลับไปเยี่ยมท่านนานเกือบปี ซึ่งตอนนี้ยิ้มก็กลับบ้านแล้ว เธอกับศิวกรไปส่งขึ้นรถเมื่อช่วงตีห้านี้เองครืด~โทรศัพท์เธอสั่นเพียงหนึ่งครืดขนมก็เลื่อนจอรับสายแฟนหนุ่ม“กำลังเก็บกระเป๋าค่ะ แล้วพี่กรราวน์เสร็จแล้วเหรอคะ”(เพิ่งราวน์เสร็จตะกี้เลย แล้วเราเลือกได้หรือยังว่าจะนั่งรถหรือว่าขึ้นเครื่องไปดี)“พี่กรจองตั๋วเครื่องบินไว้ให้แล้วนี่นา หนมไม่เปลี่ยนไปนั่งรถหรอกค่ะ หนมเสียดายเงิน”(อยากเจอแล้วเนี่ย ขายเวรให้ไอ้ณุดีไหมนะ)“ไม่ต้องเลยค่ะ แต่ว่าพี่กรบอกจะตามหนมไปทีหลังนี่นา หนมไปอยู่ตั้งหลายวันไม่ต้องรับหรอกค่ะ”(ก็มันคิดถึงเรานี่ ไม่เคยห่างกันนานขนาดนี้เลย กว่าพี่จะตามเราไปก็เป็นอาทิตย์เลย)“หึหึ เป็นเอามากนะคะแดดดี้”(เอาไว้เจอกันนะ เดี๋ยวพี่ลงเวรแล้วจะรีบไปรับนะครับ)“ค่ะๆ เดี๋ยวหนมเก็บกระเป๋าก่อนค่ะ” เธอวางสายจากศิวกรแล้วจึงเร่งเก็บกระเป๋าให้เสร็จ แล้วจะออกไปซื้อของฝากไปฝากป้าหลังจากศิวกรลงเวรแล้วเขาก็รีบมารับแฟนสาวที่หอใน เอากระเป๋า
บทที่ 25 บทส่งท้ายย่างเข้าสู่เดือนที่สองของสถานะแฟน ศิวกรทำหน้าที่แฟนได้ดีมากๆ ไม่ขาดตกบกพร่องสักเรื่องเลย และความสัมพันธ์ของเขาและเธอก็ยังเป็นความลับที่มีคนรู้แค่สามคนเท่านั้นครืด..โทรศัพท์สั่นอยู่ในกระเป๋าเสื้อทำให้ขนมหยุดฝีเท้าแสนจะเร่งรีบแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดอ่านข้อความจากศิวกร ในข้อความบอกเอาไว้ว่าเขาจะรอเธออยู่ร้านกาแฟในช่วงบ่าย ซึ่งเธอก็ตอบกลับไปว่าโอเคแล้วรีบไปดูเคสกับรุ่นพี่พอเสร็จจากเคสแต่ว่าเลยเวลาที่ศิวกรนัดเอาไว้เธอจึงรีบสาวเท้าเดินไปร้านกาแฟ ในใจก็ภาวนาให้ศิวกรไม่รอเธออยู่ในร้านกาแฟเถอะ ขอให้เขากลับไปก่อน เพราะมันนานมาก ทว่าพอเปิดประตูเข้ามากลับเห็นชายหนุ่มนั่งกอดอกยกแก้วกาแฟร้อนจิบอยู่ในโต๊ะประจำของเขากับเธอด้านในสุด“พี่กร”“มาแล้วเหรอ พี่สั่งเค้กไว้ให้เราด้วย กินเลยไหมคะ”“ทำไมยังนั่งรออีกเนี่ย น่าจะกลับห้องพักไปนะคะ”“ไม่เป็นไร พี่ว่างเลยสั่งกาแฟมากินรอเรา”“กี่แก้วแล้วเนี่ย”“แก้วเดียว เพิ่งสั่งครับ”“พอดีหนมติดเคสค่ะ ไม่เสร็จง่ายเลยกินเวลาไปนานเลย” เธอรีบบอกเขาพร้อมกับวางโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะ “เสร็จแล้วก็รีบมาหาพี่กร ทีแรกหนมคิดเอาไว้ว่าพี่คงกลับไปแล้วเสี