LOGIN“หุบปากเลย พี่จะเลิกกับเขา หรือยังคบกันอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องของเก้าเลย ถ้าเรื่องจะคุยมีแค่นี้ ก็โอเครับฟังแล้ว ขอตัวนะ” พูดจบฉันก็หันหลังจะเดินกลับเข้าร้าน ไอ้พี่บิ๊กก็ร้องบอกทันที
“พี่ยังรักเก้านะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย”
“ทำไมมนต์ขลังนมใหญ่ของพี่หนิงเสื่อมแล้วเหรอ” มันน่าโมโหสุดๆ เพราะอิพี่หนังอัดคลิปคำสนทนาที่ไอ้พี่บิ๊กนินทาว่าฉันหน้าอกแบนเป็นกระดาน ไม่อึ๋มเหมือนพี่หนิงมาเยาะเย้ย ตอนนั้นคงคุยกันขณะนอนคลอเคลียบนเตียง เพราะเสียงอิพี่หนิงนั้นมี อือ อ๊ะ อ๊า สลับกันให้ได้ยิน
“ก็พี่แค่หลงไปชั่วขณะ”
“ชั่วขณะ แต่คบกันตั้งปีเลยนะ แต่ช่างเถอะ จะรักจะเลิก จะหลงไปถึงภูเขา แม่น้ำลำธารที่ไหนก็ช่างหัวพี่เถอะ แต่ไม่มีวันกลับไปคบกับพี่หรอก เก้ามีแฟน ก็รู้นี่”
“โอ๊ยเก้า อย่าหลอกตัวเองได้มั้ย เก้าไม่มีทางรักผู้หญิงได้หรอก เก้าไม่ใช่ทอมจริงๆ เสียหน่อย”
“เออ ก็อาจจะใช่ วันหนึ่งเก้าอาจมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่ไม่มีวันหวนกลับไปหาพี่แล้วกัน เออ วันหลัง เจอกันอย่ามาทักนะ อย่าหาว่าเก้าไม่เตือน!” ฉันทำเสียงดุตอนทิ้งท้ายคำพูด จากนั้นก็สะบัดหน้าเดินกลับเข้าไปในร้านตามเดิม
“มันว่าไง”
พอทิ้งตัวบนเก้าอี้ไอ้ตรีก็ถามทันที สีหน้ามันดูอยากรู้มาก
“มันถามกูว่ากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย” ฉันบอกออกไปตรงๆ
“แล้วมึงจะกลับมั้ยล่ะ”
“กลับกับพ่องมันสิ ทำกับกูขนาดนั้น” บอกเลิกกันตรงๆ มันก็ยังดีกว่าแอบกิ๊กกับผู้หญิงอื่น ถ้าไม่บังเอิญเจอเซอร์ไพรส์วันนั้น ฉันคงถูกไอ้พี่บิ๊กหลอกไปถึงไหนก็ไม่รู้
“อือ มึงยังรักพี่มันอยู่มั้ย”
“ถามบ้าอะไรของมึง”
“ก็ดูมึงเหมือนโกรธพี่มันไม่เลิกไง”
“กูโกรธไม่เลิก เพราะมันมาตอแยนี่แหละ เลิกกันไปแล้ว ก็จบไม่สวยขนาดนี้ มันยังมีหน้ามาทัก มาถามว่ากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย มึงจะไม่ให้กูโมโหเหรอวะ” ฉันเริ่มฉุนที่ไอ้ตรีมันมาสงสัยว่าฉันจะยังรักไอ้พี่บิ๊กอยู่หรือเปล่า
“อือ โอเค กลับกันเถอะ” มันพูดแค่นั้น แล้วเดินไปเช็คบิล
เมื่อกลับถึงห้อง ฉันก็ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วเปลี่ยนเป็นชุดนอน ปกติชุดนอนของฉัน คือกางเกงบ็อกเซอร์และเสื้อกล้าม เสื้อแขนกุดบ้าง แต่วันนี้ฉันรู้สึกว่าไม่ควรแต่งตัวแบบนั้น จึงหยิบกางเกงขายาวแบบผ้าฝ้ายสบายๆ กับเสื้อยืดตัวหลวมสีทึบ เพราะฉันถอดเสื้อชั้นในแล้ว ตอนนี้ยังไม่ง่วง จึงอยากดูซีรีส์ในเน็ตฟลิกซ์สักเรื่องก่อนนอน
แต่ไม่ลืมจัดกระเป๋าสำหรับการเดินทางพรุ่งนี้
เมื่อกลับออกมายังห้องนั่งเล่นก็เห็นไอ้ตรีกำลังคุยโทรศัพท์ นอกระเบียงสีหน้าดูเครียดๆ และมันก็เปลี่ยนเป็นชุดนอนของมันแล้ว นั่นคือกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว
ฉันเปิดทีวีแล้วเอนตัวลงนอนเพื่อจะดูซีรีส์ที่ดูค้างไว้ ผ่านไปไม่กี่นาทีไอ้ตรีก็เดินมานอนเอนตัวลงข้างๆ แล้วพึมพำ
“ใส่ชุดไรของมึง”
“เอ่อ เรื่องของกู”
“อย่าบอกว่ามึงจะใส่ชุดนี้นอนนะ”
“เรื่องของกู”
“มึงทำแบบนี้ ยิ่งจะทำให้กูคิดนะ”
“คิดอะไรของมึง” ฉันละสายตาจากจอทีวีหันมาทางมัน เห็นหน้าหล่อๆ นั้นยิ้มมุมปาก แล้วพูดเสียงเนิบๆ
“มึงทำตัวไม่ปกติ ทั้งที่บอกให้กูลืมเรื่องวันก่อน แต่ดูมึงสิ ทำตัวไม่ปกติทั้งวัน”
“ทั้งวันอะไรของมึง”
“มีคนมารุมล้อมถ่ายรูป แต๊ะอั๋งกู มึงก็ไม่เข้ามาช่วย เปลี่ยนชุดนอนจากบ็อกเซอร์ เสื้อกล้ามเป็นขายาวกับเสื้อตัวใหญ่ แถมตอนอยู่ที่สระ มึงมองกูแล้วหน้าแดงอีก”
มันจาระไนมาครบเลย ซึ่งมันทำให้ฉันเถียงมันไม่ได้จริงๆ
“กู...ไม่รู้สิ” ไม่รู้จริงๆ ในตอนนี้ว่าจะตอบมันว่าอะไร เพราะฉันเองก็ยังไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองดีนัก
“มึงตอบไม่ได้ไม่เป็นไร เพราะกูก็ไม่อยากได้คำตอบ แต่แค่รู้สึกว่ามึงน่ะทำตัวไม่เหมือนเดิม ทั้งที่บอกให้กูลืมเรื่องคืนนั้น”
“แล้วมึงลืมมันได้เลยหรือไงวะ!” ฉันเริ่มโมโหกับความย้ำพูดย้ำให้ฉันคิดถึงเรื่องคืนก่อน
“ก็...”
มันเป็นฝ่ายพูดไม่ออกบ้างแล้ว
“ก็นั้นแหละ มันคงต้องใช้เวลาไง แถมมึงก็ไม่ปล่อยให้กูได้อยู่คนเดียวเลย”
“อยู่คนเดียวยิ่งฟุ้งซ่าน คิดเยอะ อยู่ด้วยกันนี่แหละ ดีแล้ว”
“ดีกับผีน่ะสิ” ฉันพูดขณะเหลือบมองเจ้านกเหยี่ยวกางปีกบนท่อนขามัน แถมยังเผลอมองสิงโตบนแผงอกของมันด้วย
ทำไมยิ่งมอง ยิ่งให้ความรู้สึกแตกต่างจากเมื่อก่อนเสียจริงๆ คืนนั้นมันหลอกหลอนอยู่เรื่อย
“เรามานอนกันอีกมั้ย” จู่ๆ มันก็ชวนดื้อๆ ทำฉันอึ้ง แล้วผุดลุกขึ้นนั่ง
“มึงอยากตายใช่มั้ยไอ้ตรี!” ฉันยกกำปั้นขึ้นหวังจะชกหน้าหล่อๆ ของมัน แต่มันดันคว้าไว้แล้วรั้งฉันเข้าไปใกล้ ใกล้จนหน้าเราชิด กายก็เบียดกัน
“มึงรู้สึกใช่มั้ย ระหว่างเรามันอาจไม่จบง่ายๆ”
“มันต้องจบ เพราะมึงกับกูเป็นเพื่อนกัน และที่สำคัญกูมีน้องรินแล้ว”
::::::::::::::::::::
เวลารัดสะโพกกูจะเป็นยังไง แต่คืนนั้นมึงทำให้ความฝันกูเป็นจริง”“แต่วันนั้นมึงร้องไห้นะ”“กูสารภาพ ร้องไห้เพราะดีใจว่ะ”“ไอ้ตอแหล” ฉันตีไหล่มันเต็มแรง“ที่ผ่านมามึงหวังฟันกูตลอดเลยใช่มั้ย”“เออ”“ไอ้เพื่อนเหี้ย” ถึงจะด่ามันแบบนั้น แต่ฉันก็รู้สึกไม่ได้โกรธมันจริงจัง อาจเพราะมันพูดความจริง ซึ่งมันดีกว่าการโกหกอยู่แล้ว“แต่กูไม่ได้มีนมใหญ่อย่างกิ๊กมึงนะ หุ่นกูก็ผอมแห้งขนาดนี้”“แต่หอยมึงอวบ กูชอบ”“ไอ้เวร” ฉันตีมันอีกครั้ง และมันก็หัวเราะเสียงดัง“ต่อให้มึงนมเล็กยิ่งกว่านี้ และหอยมึงไม่อวบ กูก็ชอบ กูชอบทุกอย่างที่เป็นมึงนั่นแหละ” น้ำเสียงมันจริงจัง และแววตาก็อ่อนโยนลึกซึ้งจนฉันเริ่มไม่แน่ใจว่าจะรักมันแบบเพื่อนต่อไปได้หรือเปล่า“มึงรักกูเหรอ” จู่ๆ ฉันก็ถามมันออกไปตรงๆ“ก็แน่นอนกูรักอยู่แล้ว แต่อย่าถามว่าแบบไหน เพราะกูรักมึงทุกแบบ”ฉันคงหวั่นไหวแล้วจริงๆ เพราะจู่ๆ ฉันก็อยากจูบมันอีกครั้ง และฉันก็ทำตามที่คิดอย่างว่องไว มันจูบตอบ เป็นจูบที่ต่างจากเมื่อครู่ เพราะเป็นจูบที่อ่อนโยน ดูดดื่ม ลึกซึ่ง ก่อนจบลงที่มันจูบไปทั่วดวงหน้าของฉันอย่างทะนุถนอม จบลงที่จูบเม้มปลายจมูกฉันเบาๆ แล้วกอดฉันไว้ พร้อม
ยืดที่เวลาลอยคอในน้ำแบบนี้ มันก็รั้งขึ้นสูง กระทั่งมือใหญ่นั้นไล้วนอยู่บนทรวงอก แม้จะมีชุดว่ายน้ำแบบทูพีชที่ซ่อนอยู่ข้างในอย่างมิดชิด แต่ฉันก็สัมผัสได้ถึงแรงสัมผัสจนใจสะท้าน วาบหวิวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ไม่คิดจริงๆ ว่าตัวเองจะไวต่อสัมผัสของมันเร็วขนาดนี้“มึงชอบให้กูทำแบบนี้ ทำไมต้องปฏิเสธ” มันพูด ตอนนี้ก็บีบเค้น และปัดป่ายไปทั่วทรวงอก ฉันสั่นสะท้านกว่าเดิม“ตรี ขอร้องอย่าทำ ไม่ยังงั้นกูจะเป็นคนเหี้ยๆ คนหนึ่งที่นอกกายแฟนจริงๆ เพราะตอนนี้กูไม่ได้ถูกยาปลุกเซ็กซ์ที่ไหน ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ”“กูหยุดก็ได้ แต่คิดว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกเหรอระหว่างเรา มึงควรบอกเลิกน้องริน ก่อนที่มันจะสายเกินไป”ฉันนิ่งกับคำพูดของมัน ไม่ใช่ว่าฉันไม่คิด แต่ยอมรับว่าลังเล และยังอยากจะลองนอนกับน้องรินอีกครั้ง เพราะฉันไม่อยากให้เรื่องราวของตัวเองกับไอ้ตรีไปไกลกว่านี้“ถึงกูจะบอกเลิกน้องริน มึงกับกูก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”“เพื่อนที่สามารถนอนกันได้” มันต่อคำของฉันหน้าตาเฉย“มึงเห็นกูเป็นที่ระบายเซ็กซ์ของมึง ไม่ต่างจากกิ๊กของมึงใช่มั้ย”“การที่ได้นอนกับคนที่ผูกพัน มันต่างมาก กูไม่รู้จะอธ
“ตอนนั้นพ่อแม่กูเลิกกัน แม่ก็ไม่อยากให้กูพูดเรื่องพ่อ และตอนนั้นกูกับแม่ก็ไม่ได้รวยไง”“ตอนมึงไปเรียนลอนดอนก็ไม่ได้บอกนะ”“ก็...นั่นแหละ ตอนนั้นมึงกับกูก็แทบไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะ ตอนนั้นมึงมีแฟนด้วยนี่ ใช่มั้ย มึงเองก็ไม่ได้สนใจกูเท่าไหร่”“เออ ก็ตอนนั้นเพิ่งเคยมีแฟนก็เลยเห่อหน่อย มึงคงไม่น้อยใจหรอกใช่มั้ย”“นิดหน่อย แต่ตอนนั้นชีวิตกูก็ยุ่งๆ กับการปรับตัวทั้งที่โรงเรียนและปรับตัวเพื่อจะอยู่กับไอ้โทแบบสงบสุข แถมต้องรับมือกับการหาเรื่องของไอ้แทนไท ซึ่งมันก็ดันเรียนที่นั่นเหมือนกัน ดีที่มีไอ้โทคอยจัดการมัน”“ฟังมึงพูดแล้ว ไอ้พี่มึงคนนี้เอาเรื่องเหมือนกันเนาะ เสียดายกูไม่ทันได้รู้จัก ก็ไปซะแล้ว หวังว่าคงไม่ลงนรกเหมือนไอ้ปากหมามันพูดนะ”“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่ที่กูรู้แน่ๆ ไอ้แทนไทน่ะ ตายไปมันได้ลงนรกแน่!”ประโยคสุดท้ายของไอ้ตรีทำฉันขนลุก เพราะน้ำเสียงเย็นยะเยือกของมันพอฉันมองมันอึ้งๆ มันก็หัวเราะ“ก็นิสัยแม่งเหี้ยแบบนั้น มึงคิดว่ามันจะได้ขึ้นสวรรค์เหรอ”“เออ ก็จริงของมึง ขนาดกูเจอมันครั้งแรก มันยังเหี้ยใส่ขนาดนี้ บอกตรง ถ้ากูเป็นมึง กูคงฆ่ามันไปแล้วแหละ ไหนจะมาแย่งพ่อ แล้วไหนจะมาเยาะเย้ยถ
ในนาทีนั้นเองฉันแกะมือไอ้ตรีออกข้อมือ แล้วหมุนตัวแล้วจระเข้ฟาดหางไปบนลำตัวไอ้ปากหมาให้ไปนอนบนพื้นทรายอีกรอบก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายจับข้อมือไอ้ตรี และยัยนุ่นเดินลิ่วไปจากตรงนั้นทันทีฉันยังไม่ปล่อยมือจากไอ้ตรี ตั้งใจจะพามันไปซักถามเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันสงสัย แต่ไอ้ปีกับไอ้พัทวิ่งตามหลังมา“เฮ้ย พวกมึงจะไปไหนเนี่ย ไม่เล่นน้ำกันหรือไง”“พอดีกูมีเรื่องจะคุยกับไอ้ตรีมัน พวกมึงไปเล่นก่อนเหอะ นุ่นด้วย ไปเล่นกับไอ้สองคนนี้ก่อนนะ” พูดจบฉันก็ลากแขนไอ้ตรีกลับไปยังบ้านพัก“ตกลงมึงกับไอ้ปากหมานั่นคือ...” พอมานั่งในห้องโถงบ้านพักฉันก็ตั้งคำถามที่พอจะเดาออกอยู่บ้าง แต่อยากฟังชัดๆ จากปากไอ้ตรี“มันคือลูกบุญธรรมของพ่อกูเอง”“ตกลงมันไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อมึง”“ไม่ใช่ มันเป็นหลานของแม่เลี้ยงกู ที่เขารับมันเป็นลูกบุญธรรมน่ะ กับเมียใหม่ เขาไม่ได้มีลูกด้วยกันหรอก”“อือ...แบบนี้เอง แล้วเรื่องที่ไอ้นั่นพูด มันคืออะไร เร่ร่อนที่ลอนดอน แล้วแฝดคนละแม่คืออะไร ชื่อไรนะ โทเหรอ ลงนรกคือหมายความว่าไงอะ” ฉันจำคำพูดของไอ้ปากหมานั้นได้อย่างแม่นยำ“ตายไง ไอ้โท พี่ชายกูเอง”“เฮ้ย มึงไม่เคยบอกเลยนะว่ามีพี่ชาย และเป็นแฝดคนละแม่คื
ไม่กี่นาทีต่อมาฉันกับยัยนุ่นก็เดินลงมาหาด หาดกว้างก็จริง แต่ผู้คนก็เยอะมาก ไม่รู้พวกมันเดินไปถึงไหน หรือลงเล่นน้ำกันไปแล้ว ฉันกับยัยนุ่นจึงถ่ายรูปกันสองคนไปก่อน“มึงถอยหลังไปอีก ไม่ต้องถ่ายโฟกัสหน้ากู ถ่ายให้เห็นทั้งตัว และให้เห็นทะเลกว้างๆ”ยัยนุ่นบอก“อือ...” ฉันครางรับ แล้วถอยหลังตามที่ยัยนุ่นบอก กระทั่งฉันชนกับร่างใครบางคน“เชี่ย!” ได้ยินเสียงสบถอย่างอารมณ์เสีย ฉันจึงรีบหมุนตัวเพื่อจะขอโทษ เห็นหน้าผู้ชายตัวสูงกว่าฉันแค่นิดหน่อย หน้าตาดีแบบกลางๆ ที่สำคัญดูหัวเสียมาก“ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ฉันลนลานขอโทษ คิดว่าจะโดนด่าหรืออะไรมากกว่านั้น แต่อีกฝ่ายมองกวาดร่างฉันอย่างสำรวจ จ้องขาที่โผล่พ้นกางเกงขาสั้นของฉันแล้วยิ้มออกมา“โอ๊ะ ไม่เป็นไรน้อง คนเราไม่ได้มีตาหลังนี่เนาะ ว่าแต่น้องชื่ออะไรครับ”“ขอบคุณนะคะที่ไม่โกรธ ฉันชื่อเก้าค่ะ” ฉันบอกไปตามตรง ไม่ได้ชอบสายตาของหมอนี่นักหรอก แต่เห็นว่าฉันผิดที่ไปชนเขาก่อน เลยไม่อยากแสดงท่าทีอะไรออกไปให้มาก“พักอยู่ที่ไหน”“เอ่อ แถวนี้แหละค่ะ”“บ้านพักของพี่ก็อยู่แถวนี้ บ้านหลังนั้นน่ะ ตึกสีขาวตรงนั้น เห็นมั้ย” เขาชี้มือไปยังบ้านพักเป็นตึกสีขาวทรงโมเด
Chapter 3: กลางทะเลรุ่งเช้าเราเช็กเอ๊าท์แบบเฉียดฉิว ก่อนเดินทางไปหัวหิน เพราะยังไม่ได้เวลาเช็กอิน เราจึงไปกินมื้อเที่ยงกันก่อน กินเสร็จก็ใกล้เวลาเช็กอินจึงเดินทางไปบ้านพักติดชายทะเล บรรยากาศดีมาก จนฉันกับนุ่นร้องกรี๊ดอย่างถูกใจ เพราะเราค้างคืนที่นี่สามคืน“ไอ้ตรีแม่งจองบ้านพักถูกใจมาก”“บ้านดี ติดทะเลขนาดนี้ คืนละสามพันโคตรถูกเลย” ฉันพึมพำขณะเดินชมบ้าน ที่ห้องนอนถึงสามห้อง“นั่นสิ อย่างต่ำมันน่าจะห้าพันเปล่าวะ” ยัยนุ่นพึมพำ ก่อนจะเอ่ยต่อ“ช่างเถอะ เราจ่ายเงินไอ้ตรีไปแล้วนี่ มันก็คงราคาแค่นั้นแหละ”“อือ...” ฉันพยักหน้ารับ ก่อนเราสองคนจะได้เป็นคนเลือกห้องก่อน แน่นอนเลือกห้องที่วิวดี มองเห็นทะเลจากหน้าต่างข้างห้องพอเก็บเสื้อผ้าข้าวของส่วนตัวเรียบร้อย ยัยนุ่นก็หันมาทางฉัน มองตามันก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร“มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”“วันที่กินเลี้ยงวันนั้น” ฉันจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ยัยนุ่นฟังเรื่องที่อีหมวยมันวางยาปลุกเซ็กซ์ในแก้วเหล้าฉัน“เวรจริงๆ” ฟังจบยัยนุ่มก็พูดเหมือนไม่รู้อะไรมากกว่านั้น“แต่เมื่อคืนจูบกัน หมายความว่าไงวะ”“เอ่อ กูไม่รู้เหมือนกัน ไอ้ตรีมันบ้าว่ะ จู่ๆ ก







