LOGINเมื่อเนตรดาวเอานาฬิกามาคืนผม ผมก็รีบหยิบจากมือเธอมาสวมทันที แล้วกับยิ้มให้กับเนตรดาวไปตามมารยาท พร้อมกับแอบชำเลืองหางตามองไปที่กันยา ผมไม่แน่ใจว่าที่เธอแสดงออกมาแบบนั้นกำลังหึงผมอยู่หรือเปล่า
"ตามหาตั้งนานไปขึ้นห้องเถอะ คลาสแรกพบอาจารย์ที่ปรึกษา แม่ง.... กูอยากจะความรู้จักกับสาวๆ เต็มที" นั่นคือเสียงของไผ่เพื่อนสนิทอีกคนของสิงโต ทั้งสองรู้จักกันมานาน เพราะเรียนมอปลายอยู่โรงเรียนเดียวกัน
ผลัวะ!! เขตแดนใช้ฝ่ามือตบลงไปที่ ศีรษะของเพื่อนอย่างแรง ด้วยความหมั่นไส้ ที่ไผ่ตั้งใจจะมาเหล่สาวในวันนี้
"เฮ้ย! ไอ้เขตแดนกูเจ็บนะเว้ย" ไผ่พูดพร้อมกับเอามือลูบลงที่ศีรษะไปมา แล้วใช้สายตามองไปที่เขตแดนอย่างเอาเรื่อง
"พวกนายสองคนเล่นอะไรกัน" เนตรดาวเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่อยู่ในกลุ่มได้พูดขึ้น พร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ ซึ่งเนตรดาวกับเขตแดนเป็นเพื่อนสนิทกัน ทั้งคู่รู้จักกับสิงโตและไผ่ในวันสอบ จากนั้นมาก็ติดต่อกันมาโดยตลอด จนกระทั่งผลสอบออก ปรากฏว่าทั้งสี่คนสอบติดที่นี่ จากนั้นพวกเขาก็สนิทกันจวบจนทุกวันนี้
"เนตรเธอเอานาฬิกา ให้ไอ้สิงโตหรือยัง"
เขตแดนได้ถามเพื่อนขึ้น เพราะเมื่อคืนทุกคนไปปาร์ตี้กันที่ห้องของเขา แล้วเผอิญว่าไผ่ทำเหล้าหกใส่สิงโต ชายหนุ่มจึงไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่ห้องของเขตแดน ซึ่งคอนโดของเขานั้นมีอยู่ ด้วยกันสองห้องนอนและอีกห้องก็เป็นของเนตรดาว เช้าวันใหม่เธอตื่นขึ้นมาแล้วรีบเดินไปปลุกเขตแดนเพื่อมาเรียน จึงเห็นนาฬิกาของสิงโตวางอยู่บนที่เตียงนอน เพราะช่วงกลางคืนเขาเข้าไปอาบน้ำแล้วลืมเอาไว้ หญิงสาวจึงหยิบมาคืนชายหนุ่ม แต่เป็นจังหวะที่กันยาอยู่ด้วยพอดี จึงทำให้เธอนั้นคิดไปไกลและรู้สึกเสียใจ กับประโยคที่ได้ยิน
ภายในห้องที่เต็มไปด้วยนักศึกษามากหน้าหลายตา และที่สำคัญหนุ่มสาวสมัยนี้มีแต่หน้าตาดีทั้งนั้น ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะว่าการศัลยกรรมใบหน้า เป็นเรื่องปกติของคนสมัยนี้ไปแล้ว
สิงโตเดินเข้ามาภายในห้องพร้อมกับเพื่อนๆ ของเขา จากนั้นชายหนุ่มได้กวาดสายตามองหากันยาซึ่งตอนนี้เธอนั่งอยู่แถวหน้าริมสุด และนั่นทำให้ชายหนุ่มถึงกับเผลอยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก เมื่อเธอยังคงเป็นเด็กเรียนเหมือนอย่างเคย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี กันยากก็ยังคงมุ่งมั่นในเรื่องเรียนไม่เปลี่ยนแปลง
"เฮ้ยแก... หล่อจังยังกับโอปปาเลย" หญิงสาวในชุดนักศึกษา ที่นั่งอยู่ด้านหน้า แถวที่สองรองจากกันยาพูดออกมาเสียงดัง ส่งผลให้ทุกคนหันไปมองชายหนุ่มด้วยความชื่นชม ในขณะที่ไผ่และเขตแดนนั้นก็หน้าตาดี ไม่แพ้สิงโต เพียงแค่ชายหนุ่มสองคนเตี้ยกว่าเขาเล็กน้อย จึงทำให้สิงโตดูโดดเด่นเป็นสง่ากว่าใครเพื่อน
ในขณะที่ทุกคนดูจะตื่นเต้น เมื่อเห็นหนุ่มหล่อ กันยากลับเอาแต่ก้มหน้า นั่งเล่นโทรศัพท์ไม่สนใจใคร ซึ่งเธอพอจะเดาได้ว่าชายหนุ่มที่สาวๆ กรี๊ดกร๊าดนั่นเป็นใคร แต่หญิงสาวกำลังคิดว่า มันคงไม่มีประโยชน์อะไรเมื่อเขามีใครอีกคน เธอก็ไม่ควรที่จะเข้าไปแทรกกลางระหว่างเขากับผู้หญิงคนนั้น
"สิงโตนายจะไปไหนมานั่งตรงนี้สิ" เนตรดาวคว้าแขนสิงโตเอาไว้ เพื่อให้ชายหนุ่มมานั่งโต๊ะข้างๆ เธอ ในขณะที่ไผ่และเขตแดนก็นั่งลงที่โต๊ะว่างถัดจากเนตรดาว
"สงสัยจะมีแฟนแล้ว ดูสิ เขาจับมือถือแขนกันด้วยเสียดายจัง"
"อืม... อิจฉาผู้หญิงคนนั้นจังเลยแก"
"ฉันว่าแล้วเชียวหน้าตาดีอย่างกับเทพบุตรเหมือนกับพระเอกหนัง ไม่มีทางตกถึงท้องพวกเราหรอกเซ็งชะมัดเลย" คำพูดของเพื่อนร่วมห้อง ที่สนทนากันออกมาเบาๆ แต่ในระยะเผาขนฉันก็ได้ยินอย่างถนัด จนทำให้ฉันอดที่จะชำเลืองสายตาแอบมองไปที่สิงโตไม่ได้ ภาพที่ผู้หญิงคนนั้นกุมมือสิงโตเอาไว้ ทำให้ฉันเข้าใจแล้วว่า สิ่งที่ฉันคิดเอาไว้ไม่ผิดแน่ เขามีแฟนแล้วจริงด้วย
"เราว่าจะไปนั่งแถวหน้า มันมีที่ว่างอยู่หนึ่งที่ เผื่ออาจารย์พูดถึงหัวข้อที่สำคัญ เราจะได้เลคเชอร์ทัน" ผมพูดพร้อมกับพยายามจะเดินไปที่โต๊ะด้านหน้า แต่เนตรดาวก็คว้าแขนผมเอาไว้พร้อมกับดึงไม่ให้เดินออกไป
"นั่งตรงไหนก็เหมือนกันแหละ นั่งลงสิสิงโต ถ้านายจดไม่ทันเดี๋ยวเนตรจดเผื่อเอง"
ในที่สุดข้ออ้างของผมก็ไม่ได้ผล ในขณะที่ไผ่และเขตแดน มองมาที่ผมด้วยความสงสัย ผมเลยต้องยอมนั่งลงไปที่โต๊ะข้างๆ เนตรดาว แต่สายตาของผมยังคงจับจ้องไปที่กันยา ผมอยากรู้ว่าแผลที่เข่าของเธอเป็นยังไงบ้างมันยังระบมอยู่หรือเปล่า แล้วเธอเจ็บตรงไหนไหม แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปถาม ผมคงไม่มีสิทธิ์ที่จะตีสนิทกับเธอ ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้เฉยชานัก ทำอย่างกับว่าไม่เคยรู้จักกับผมมาก่อน
"กว่าอาจารย์จะเข้ามาก็อีกตั้งครึ่งชั่วโมง กูไม่รอแล้วนะเว้ย! " นักศึกษาชายด้านหลังพูดกันเสียงดัง เพราะพวกเขาเหล่านั้นอยากจะทำความรู้จักกันยา
"กูรู้ว่ามึงกล้า มึงเก่ง แต่ท่าทางของเธอเหมือนเด็กเรียนมากเลย เด็กหลังห้องอย่างพวกเราใครเขาจะมาสนใจ"
"ตอนนี้กูพนันได้เลยว่า ผู้หญิงสวยๆ หน้าตาคุณหนูอย่างเธอ ไม่มีทางพูดกับพวกเราหรอก" นักศึกษาชายในแก๊งพูดขึ้น เมื่อพวกเขาก็คิดว่าผู้หญิงอย่างกันยาต้องอยู่ในประเภทที่สวยเลิศเชิดหยิ่งอย่างแน่นอน
"ไม่ลองก็ไม่รู้ พวกมึงคอยดูก็แล้วกัน เธอจะพูดกับกูไหม" นักศึกษาหนุ่มหน้าตาดีกว่าเพื่อนในกลุ่มพูดขึ้น พร้อมกับลุกเดินตรงไปที่กันยา แต่โดยรวมชายหนุ่มทุกคนในกลุ่มก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรหน้าตาก็ดูหล่อเหลา แต่ทำไมพวกเขาถึงไม่มั่นใจในตัวเอง
"เอ่อ... ขอโทษนะ เธอชื่ออะไร... เราชื่อจิงโจ้ยินดีที่ได้รู้จัก หรือจะเรียกสั้นๆ ว่าโจ้ก็ได้" ชายหนุ่มยืนอยู่ตรงหน้ากันยา พร้อมกับเอามือล้วงที่กระเป๋ากางเกง เพื่อทำให้ตัวเองนั้นมีความเขินลดลง
ฉันรู้สึกแปลกใจที่อยู่ดีๆ ก็มีชายหนุ่มมายืนตรงหน้าแล้วถามว่าฉันชื่ออะไร และนั่นจึงทำให้ฉันละสายตาจากจอสมาร์ตโฟน แล้วเงยขึ้นไปมองใบหน้าคมที่ดูหล่อเหลาเอาการเหมือนกัน แต่ทำไมหัวใจของฉันจึงไม่เต้นแรงน่าแปลกจัง
"เราชื่อกันยายินดีที่ได้รู้จักนะโจ้"
ฉันแนะนำตัวกับเขาไปพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างตามสไตล์ของฉัน ที่ทุกคนมักจะบอกว่าฉันยิ้มทีไรเหมือนกับโลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพู เพราะรอยยิ้มของฉันนั้นพิมพ์ใจสดใสกว่าใครๆ แต่เขากลับมองฉันมาด้วยสายตาที่หวานหยาดเยิ้ม จิงโจ้ยืนนิ่งราวกับถูกสาปให้เป็นหิน ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมเขาถึงมีท่าทีแบบนี้ด้วย
ผมนั่งฟังนักศึกษาชาย ที่อยู่ด้านหลังคุยกัน พร้อมกับความรู้สึกที่อยากจะลุกเดินเข้าไปชกหน้า แค่ได้ยินที่พวกมันพูดถึงกันยา ก็ทำให้ผมนั้นเก็บอาการแทบไม่ไหว ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกห่วง และหวงเธอมากไปแบบนี้ด้วย
แถมไอ้หน้าหล่อนั่น ยังเดินตรงไปที่กันยาพร้อมกับแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ เหมือนกับพยายามจะจีบเธอ ผมรู้สึกไม่ชอบใจเวลาที่เห็นผู้ชาย เข้าใกล้เธอแบบนี้ มิหนำซ้ำกันยายังพูดกับมันด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรและไมตรี เธอไม่คิดที่จะเล่นตัวหน่อยหรือไง
"ไอ้สิงโต" ไผ่ยกเท้าขึ้นมาสะกิดเพื่อน จากทางด้านหลัง จึงทำให้ชายหนุ่มรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนจะหันหน้าไปมองที่ไผ่
"มีอะไร" ผมถามออกไปเหมือนกับรำคาญไผ่มากกว่า พร้อมกับทำหน้าเหมือนกับว่าไม่ค่อยเต็มใจที่จะพูดกับใครในตอนนี้ แต่ว่าเพื่อนของผมนี่สิ ดูแล้วไม่มีทีท่า แถมมันยังลากเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้ๆ ผมอีกด้วย
"ไม่โกรธหรอก แต่ถ้ามีคราวหน้าไม่แน่ ฉันเห็นนะไอ้หมอนั่นมันแอบจับมือเธอด้วย ฉันเกือบทนไม่ไหวเดินไปชกหน้ามันแล้ว" ผมแกล้งพูดออกไปด้วยใบหน้าและท่าทางที่งอน เพราะอยากรู้ว่ากันยาจะง้อผมยังไง "อย่าโกรธเลยน๊า... นะ นะ นะ กันยาไม่ได้คิดอะไรกับเขาสักหน่อย คนที่กันยาจะฝากชีวิตเอาไว้ มีเพียงแค่สิงโตเท่านั้นแหละ" ผมชอบจังเวลาที่กันยาอ้อนแบบนี้ เธอพูดพร้อมกับเอาใบหน้ามาแนบลงที่ต้นแขนของผม ช่วงเวลาดีๆ ที่เราสองคนมีร่วมกันไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่ปีมันก็ไม่เคยจืดจางลงไปเลยสักที เมื่อทุกวินาทีผมต้องการแต่กันยา "พรุ่งนี้คิดเอาไว้หรือยังจะเอาต้นอะไรปลูกที่มหาลัย" "ยังเลย นายปลูกต้นอะไร ฉันก็ปลูกต้นนั้นแหละ" ฉันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อน ในขณะที่ยังคงเอาใบหน้าแนบลงไปที่ต้นแขนของสิงโต "นี่ไงฉันกำลังปลูกต้นรักกับเธอ" ทุกครั้งที่มีโอกาสผมก็มักจะหยอดคำหวานเสมอ แต่ทุกถ้อยคำนั้น ล้วนออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ไม่เคยเสแสร้งใดๆ ทั้งสิ้น
ในขณะที่เขาพูดกับตุลานั้น สิงโตได้มองไปที่กันยาด้วยแววตาที่มีเลศนัย เมื่อชายหนุ่มได้คาดโทษเธอเอาไว้ ข้อหาที่ยอมรับช่อดอกไม้จากชายอื่น แถมยังให้พี่รหัสจับมืออีกด้วย "กลับบ้านเรามีเรื่องต้องคุยกัน" สิงโตพูดพร้อมกับโอบกันยาเดินตรงไปที่รถของเขา ปล่อยให้ราชันทำหน้างงอยู่ตรงนั้น "อ้าว! อะไรวะเนี่ย" "ฉันมีเรื่องสนุกๆ จะให้นายทำ เตรียมตัวให้พร้อมรับรองว่างานนี้ นายมีแต่ได้กับได้" เกรซหันไปพูดกับราชัน ก่อนจะกัดฟันพร้อมหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อระงับความโกรธ ขณะที่ดวงตาคู่สวยฉายแววอาฆาตแค้นออกมา เมื่อหล่อนรู้สึกเกลียดองุ่นและมารดาของเธอจนเข้าไส้ ทั้งที่สองแม่ลูกพยายามหนีห่างไม่ข้องแวะใดๆ แล้วทำไมโชคชะตาถึงเล่นตลก เมื่อเกรซและบิดาของเธอ ไม่ยอมจบเรื่องนี้สักที รถสปอร์ตคันหรูเคลือบเงาสีแดงวาววับ แล่นออกมาจากมหาวิทยาลัย โดยมีหญิงสาวในชุดนักศึกษาอย่างกันยา นั่งเคียงคู่ออก
"รับไปเถอะครับน้องกันยา พี่ตั้งใจสั่งทางร้าน จัดทำให้น้องรหัสเป็นพิเศษเลยนะครับ อีกอย่างพี่ยังไม่มีแฟน ถ้าน้องไม่รับ... พี่เองก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปให้ใคร คงต้องทิ้งมันไป น่าเสียดายแย่เลยนะครับ" ชายหนุ่มพูดออกมา พร้อมกับตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ แม้ว่าเขาจะปฏิเสธผู้หญิงทุกคนว่าไม่ใช่แฟน แต่คู่นอนของเขานั้นแทบจะไม่ซ้ำหน้าเลยทีเดียวก็ว่าได้ ต่อให้กันยาไม่รับ เขาก็หาคนใหม่เพื่อมอบช่อดอกไม้ให้ได้อยู่ดี เพียงแค่พูดจาให้ตัวเองดูดี เพราะหวังที่จะได้กันยาไปขึ้นเตียงกับเขาอีกคน และคงคิดว่าหญิงสาวเป็นเหมือนกับผู้หญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขา "ถ้าอย่างนั้นกันยาก็จะรับเอาไว้ เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ ขอบคุณนะคะ" "ด้วยความยินดีครับ" จังหวะที่ยื่นช่อดอกไม้ให้กับกันยา ราชันพยายามที่จะลูบไล้ลงไปที่หลังมือของเธอ จนสิงโตที่แอบซุ่มดูอยู่แทบทนไม่ไหว เขาอยากจะเดินออกไปชกหน้ารุ่นพี่สักทีสอ
"นายพูดเหมือนกับว่ามีอะไรปิดบังฉันอยู่ หรือว่าซ่อนผู้หญิงคนไหนเอาไว้ อย่าให้ฉันจับได้นะ ฉันเอานายตายแน่สิงโต" ฉันแกล้งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด พร้อมกับคาดโทษสิงโตเอาไว้ ในขณะที่ใบหน้าของเขามีท่าทีเหลอหลาเหมือนกับว่ากำลังกลัวฉันมาก "ปะ... เปล่าสักหน่อย แล้วทำไมเธอต้องทำท่าทางจริงจังขึงขังแบบนั้นด้วย" ผมพูดพร้อมกับพยายามหลบสายตากันยา เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มอธิบายให้เธอฟังยังไงดี ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ฉันหลุดขำออกมา เพราะใบหน้าสิงโตมันเริ่มซีดเผือด เหมือนกับว่าคำขู่ของฉันจะได้ผล "ฉันแค่ล้อเล่น ทำไมต้องทำหน้าจริงจังขนาดนั้นด้วย ถ้านายมีใครหรือว่าหมดรักฉันแล้วก็แค่บอกมาตรงๆ ฉันจะไม่รั้งและจะไม่ห้ามนายเลยจริงๆ" ทุกถ้อยคำที่พูดออกมานั้นได้กลั่นกรองมาจากส่วนลึกของหัวใจ ถ้าวันหนึ่งเขามีใครหรือคิดจะจากไป ฉันก็จะไม่รั้งเขาไว้จริงๆ เพราะฉันเชื่อว่าความรักไม่จำเป็นต้องครอบครอง ต่อให้เราเป็นเจ้าของกายเขาไปจนตาย แต่ไม่ได้ใจมันก็เปล่าประโยชน์ "ฉันไม่มีวันหมดรักเธอ เพราะเธอเป็นดั่งดวงใจ เป็นทุกอย่างที่ฉันมี
"กันยาถ้าวันหนึ่งเธอได้รู้ความจริง ฉันคือผู้ชายที่ถูกกล่าวหาและมีมลทิน ซึ่งเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วเธอยังจะอภัยให้ผู้ชายอย่างฉันได้หรือเปล่า" เมื่อคำว่าลูกผู้ชายมันค้ำคอให้ผมต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ผมไม่ได้กระทำ ผมจึงต้องจำใจรับกรรม ตามหลักฐานที่มีอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ทุกวันนี้ผมก็ไม่ต่างจากผู้ชายที่เคยมีภรรยามาแล้ว แม้ว่าผมนั้นจะบอกเลิกใบหม่อนอย่างเป็นทางการ แต่เธอกลับตามระรานและไม่ยอม ปล่อยผมไปง่ายๆ ซึ่งการมาเรียนที่กรุงเทพฯ เหตุผลหลักก็มาจากใบหม่อน แต่เหตุผลที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือผมคิดถึงและอยากใกล้ชิดกับกันยามากกว่าเหตุผลข้อแรก "อื้ม... สิงโตสว่างแล้วเหรอ นายกวนฉันทำไมคนจะนอน" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ เมื่อสิงโตไม่อยู่นิ่งเดี๋ยวก็จุ๊บตรงนั้นทีตรงนี้ที สัมผัสที่ได้รับทำให้ฉันตื่นขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาปรับกับแสง "ใกล้สว่างแล้ว ยังเจ็บอยู่ไหม" ผมถามกันยาออกไปด้วยความห่วงใย ในขณะที่กันยาใส่ชุด นอนขนาดบิ๊กไซซ์ของผม
"อื้ม...อ๊าย นายทำให้ฉันรู้สึกเสียว" น้ำเสียงหวาน ได้เผยความรู้สึกออกมาอย่างไม่รู้ตัว เมื่อสิงโตกำลังใช้มือคลำแล้วนวดเฟ้นสองเต้าอวบอย่างมันมือ ก่อนจะใช้ปากไล้เลียดูดดึง ส่งผลให้หญิงสาวรู้สึกเสียวซ่านพล่านไปทั้งตัว จนร่างกายของเธออ่อนระทวย ในขณะที่ใต้หว่างขาของทั้งคู่เสียดสีไปมา ยิ่งส่งผลให้กันยาอยากลิ้มลองความแปลกใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในกายเธอ "อ๊าาา... สะ สิงโต" ฉันเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อเขาใช้ปากดูดดึงที่เม็ดบัวอมชมพูครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จักพอ "อื้ม..." ในเวลานี้ชายหนุ่มเองก็รู้สึกเสียวซ่านไม่ต่างจากกันยา เมื่อเขากำลังรู้สึกว่าเจ้ามังกรยักษ์พองตัวจวนจะแตก ถ้าหากว่ามันไม่ได้เข้าไปสำรวจถ้ำในตอนนี้ "อื้ม อ๊ะ อ๊ะ อ๊าาา... สะ สะ สิงโต" คนตัวเล็กส่งเสียงหวานครางกระท่อนกระแท่นออกมา เมื่อชายหนุ่มชายใช้ฝ่ามือคลี่ลงไปที่กลีบก







