อุโมงค์ใต้ดินสั่นสะเทือนรุนแรงราวกับกำลังจะพังถล่มลงมาทุกวินาที เสียงหินร่วงหล่นดังสนั่นกึกก้องไปทั่วความมืดมิด เมรี่และพี่ชายทั้งสองคนพร้อมด้วยเลดี้อลิซาเบธต่างพากันวิ่งหนีสุดชีวิต โดยมีเอดิสันที่บาดเจ็บอยู่แล้วต้องถูกพยุงไปด้วย พวกเขาทิ้งมิสเตอร์คลาร์กและลูกสมุนไว้เบื้องหลังท่ามกลางความสับสนอลหม่าน
"เร็วเข้า!" อเล็กซานเดอร์ตะโกน "มันใกล้จะถล่มแล้ว!" เอดิสันกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บปวดที่ต้นขาที่ถูกยิง แต่ก็ยังพยายามวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ "ทางออกอยู่ทางนั้น! ผมเห็นในแผนผัง!" เมรี่เหลือบมองไปที่แผนผังที่เธอเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ มันคือลายแทงที่แท้จริงที่กำลังนำพวกเขาไปสู่ทางออกและนำไปสู่การเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายกับท่านบารอนเวย์แลนด์ "ทางนี้ค่ะ!" เมรี่ตะโกนชี้ไปที่ทางแยกอีกทางหนึ่งที่แคบและมืดมิดกว่าเดิม เสียงฝีเท้าของพวกเขากระทบพื้นอุโมงค์ดังหนักแน่น ตามมาด้วยเสียงหินและปูนที่เริ่มร่วงหล่นลงมาอย่างต่อเนื่องจากเพดานอุโมงค์ พวกเขาวิ่งหลบหลีกเศษซากและซากปรักหักพังอย่างหวุดหวิด "พี่อเล็กซานเดอร์คะ! ดูนั่นสิคะ!" เฟรเดอริคชี้ไปที่กำแพงอุโมงค์ที่อยู่ไม่ไกลนัก กำแพงนั้นมีรอยแตกขนาดใหญ่ และมีแสงสว่างสลัวๆ ส่องลอดเข้ามาจากด้านนอก "ทางออก! นั่นคือทางออก!" เลดี้อลิซาเบธกล่าวด้วยความหวัง แต่เมื่อพวกเขาใกล้จะถึงกำแพงนั้น ก็มีเสียงดัง 'ครืน!' ดังขึ้นจากด้านหลัง และอุโมงค์ก็ถล่มลงมาอย่างรุนแรง ทำให้ทางที่พวกเขาเพิ่งวิ่งผ่านมาถูกปิดตายไปในพริบตา "ไม่นะ!" เมรี่อุทาน "เราเกือบจะถูกขังอยู่ที่นี่แล้ว!" "ไม่มีเวลาแล้ว! เราต้องไปจากที่นี่!" อเล็กซานเดอร์กล่าว เขาใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีพังกำแพงที่อยู่ตรงหน้าให้เป็นช่องทางออกที่ใหญ่ขึ้น แต่เมื่ออเล็กซานเดอร์พยายามพังกำแพง ก็มีเศษหินก้อนใหญ่ร่วงลงมาจากด้านบน พุ่งตรงมายังเขา! "พี่อเล็กซานเดอร์! ระวัง!" เมรี่กรีดร้อง เอดิสันที่บาดเจ็บอยู่แล้ว ใช้แรงทั้งหมดผลักอเล็กซานเดอร์ออกไปได้อย่างหวุดหวิด แต่เศษหินนั้นก็ตกลงมาทับขาของเขาอย่างจัง "โอ๊ย!" เอดิสันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส "คุณเอดิสัน!" เฟรเดอริคตะโกนด้วยความตกใจ "ขาของคุณ!" ขาของเอดิสันถูกทับด้วยหินก้อนใหญ่ เลือดเริ่มไหลซึมออกมาจากกางเกงที่ฉีกขาดอย่างรวดเร็ว "ไม่เป็นไรครับ!" เอดิสันกัดฟันตอบ "อย่าสนใจผม! รีบไปครับ!" เมรี่น้ำตาคลอเบ้า เธอรู้สึกผิดที่เอดิสันต้องมาบาดเจ็บเพราะพวกเขา เธอรู้ว่าพวกเขาต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แต่เธอก็ไม่สามารถทิ้งเอดิสันไว้ได้ "ไม่ค่ะคุณเอดิสัน! เราจะไม่ทิ้งคุณ!" เมรี่กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เลดี้อลิซาเบธ ฮาร์ทเวลล์ ซึ่งมีความกล้าหาญเกินกว่าที่ทุกคนคาดคิด ก็ก้าวเข้ามาช่วยเอดิสัน "เราจะช่วยคุณค่ะ!" ความช่วยเหลือที่ไม่คาดฝัน ขณะที่พวกเขากำลังพยายามช่วยกันยกหินก้อนใหญ่ออก จู่ๆ ก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากอีกฝั่งของกำแพงที่แตก "ขอให้ข้าช่วยพวกเจ้าได้ไหม?" เสียงนั้นกล่าว "พวกเจ้าดูเหมือนจะมีปัญหานะ" ทุกคนหันไปมอง และพบกับชายร่างสูงใหญ่ผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาอยู่ในชุดของคนงานเหมือง และถือไฟฉายอยู่ในมือ ใบหน้าของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเขม่าควันและฝุ่น แต่ดวงตาของเขาสะท้อนแววตาที่ฉลาดและเป็นมิตร "คุณเป็นใครครับ?" อเล็กซานเดอร์ถามอย่างระมัดระวัง "เรียกข้าว่า เบ็น ก็พอ" ชายคนนั้นตอบ "ข้าเป็นคนงานเหมืองที่ทำงานอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินของลอนดอนมานานหลายปี ข้าได้ยินเสียงการต่อสู้จากที่ไกลๆ และมาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น" เมรี่มองไปที่เบ็น และตัดสินใจที่จะไว้ใจเขา "คุณเบ็นคะ! คุณช่วยเราได้ไหมคะ! เพื่อนของฉันบาดเจ็บหนักค่ะ!" เบ็นมองไปที่ขาของเอดิสันที่ถูกทับด้วยหินก้อนใหญ่ เขาส่ายหน้าเล็กน้อย "แผลดูไม่ดีเลย...พวกเจ้าต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด" เบ็นเดินเข้ามาใกล้ เขาใช้แรงทั้งหมดของเขายกหินก้อนใหญ่นั้นออกได้อย่างง่ายดาย ราวกับมันเป็นเพียงก้อนหินเล็กๆ "คุณแข็งแรงมาก!" เฟรเดอริคกล่าวด้วยความทึ่ง "ประสบการณ์จากการทำงานใต้ดินน่ะ" เบ็นตอบยิ้มๆ "มาเถอะ! ข้าจะพาพวกเจ้าไปทางออกที่แท้จริง" เบ็นนำทางพวกเขาไปยังทางเดินลับอีกทางหนึ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน มันเป็นทางเดินแคบๆ ที่ดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น "ทางนี้จะพาพวกเจ้าไปสู่ท่อระบายน้ำที่อยู่ด้านล่าง" เบ็นอธิบาย "มันจะพาพวกเจ้าออกไปสู่แม่น้ำเทมส์ได้" "ขอบคุณมากครับคุณเบ็น" เอดิสันกล่าวด้วยความซาบซึ้ง "คุณได้ช่วยชีวิตพวกเราไว้" "ไม่เป็นไรหรอก" เบ็นตอบ "ข้าเชื่อว่าพวกเจ้ากำลังทำสิ่งที่ดี และข้าก็ไม่อยากเห็นคนดีๆ ต้องมาจบชีวิตในอุโมงค์มืดๆ แบบนี้" เบ็นช่วยพยุงเอดิสันที่บาดเจ็บหนัก เขาเดินนำหน้าไปอย่างมั่นคง ท่ามกลางความมืดมิดของอุโมงค์ เมรี่มองไปที่เบ็น เธอรู้สึกว่าชายคนนี้มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ ความสูญเสียที่ต้องแลก เมื่อพวกเขามาถึงทางออกสู่ท่อระบายน้ำ พวกเขาก็พบว่ามีคนร้ายอีกกลุ่มหนึ่งรอพวกเขาอยู่แล้ว มิสเตอร์คลาร์กมาพร้อมกับลูกสมุนของเขาอีกหลายคน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและรอยแผลจากการต่อสู้ครั้งก่อน "พวกแกคิดว่าจะหนีข้าพ้นอย่างนั้นหรือ!" มิสเตอร์คลาร์กคำราม "ส่งแผนผังนั่นมา! และเจ้าผลึกนั่นด้วย!" ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงกับศัตรูที่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เบ็นก็ยืนอยู่ข้างหน้าพวกเขาอย่างมั่นคงราวกับกำแพงหิน "พวกเจ้าจะผ่านไปไม่ได้หรอก" เบ็นกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลัง การปะทะครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในท่อระบายน้ำที่สกปรกและมืดมิด เบ็นต่อสู้กับคนร้ายด้วยทักษะการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วและใช้กำลังอย่างมีประสิทธิภาพ อเล็กซานเดอร์และเฟรเดอริคช่วยกันต่อสู้อย่างเต็มที่ ส่วนเอดิสันที่บาดเจ็บหนัก พยายามใช้ปืนพกยิงสกัดคนร้าย "ไปเลย! รีบไป!" เบ็นตะโกนบอกพวกเขา "ข้าจะจัดการที่นี่เอง!" เมรี่รู้ว่าพวกเขาไม่มีทางเลือก เธอคว้ามือเฟรเดอริคและเลดี้อลิซาเบธไว้ แล้ววิ่งตรงไปที่ช่องระบายน้ำที่เปิดออกสู่แม่น้ำเทมส์ แต่แล้ว มิสเตอร์คลาร์กก็เห็นโอกาส เขาใช้จังหวะที่เบ็นกำลังจัดการกับลูกสมุนคนหนึ่ง วิ่งตรงมาที่เมรี่และพยายามแย่งแผนผังอุโมงค์ไปจากเธอ! "แผนผังนั่นเป็นของข้า!" มิสเตอร์คลาร์กตะโกน เมรี่พยายามปกป้องแผนผังไว้แน่น แต่แล้ว มีดสั้นที่เธอเพิ่งได้รับมาจากปู่ทวด ก็ร่วงหล่นลงมาจากกระเป๋าเสื้อของเธอ มิสเตอร์คลาร์กเห็นมีดเล่มนั้น และดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความโลภ "นั่นมัน! มีดของโรเบิร์ต แบล็ควู้ด!" เขาก้มลงไปหยิบมีดเล่มนั้นขึ้นมา แต่ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง เฟรเดอริคก็หันกลับมาและใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ถีบเข้าที่หน้าของมิสเตอร์คลาร์กอย่างแรง! "อย่าแตะต้องน้องสาวของฉัน!" เฟรเดอริคคำราม มิสเตอร์คลาร์กเซถลาไปชนกับกำแพง และมีดสั้นก็กระเด็นออกจากมือของเขาไป "ไปสิเมรี่!" เฟรเดอริคตะโกน "รีบไป!" เมรี่เก็บมีดสั้นขึ้นมาได้อีกครั้ง เธอมองไปที่มิสเตอร์คลาร์กและลูกสมุนของเขา แล้วก็วิ่งหนีไปพร้อมกับเพื่อนๆ ของเธอ "อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้!" มิสเตอร์คลาร์กตะโกน เสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด เมรี่รู้สึกถึงความร้อนจากกระสุนที่เฉียดผ่านหน้าไปอย่างน่าหวาดเสียว พวกเขาพุ่งตัวออกไปจากท่อระบายน้ำ และกระโดดลงไปในเรือลำเล็กๆ ที่จอดรออยู่ "ขึ้นมาครับ!" เสียงของเบ็นดังขึ้น เขาตามพวกเขามาติดๆ และกระโดดลงมาในเรืออย่างรวดเร็ว "คุณเอดิสัน!" เมรี่ร้องเรียกด้วยความตกใจ เบ็นมองไปที่เอดิสันที่บาดเจ็บหนัก เขาใช้ผ้าเช็ดหน้าของเขาพันรอบบาดแผลที่ขาของเอดิสันอย่างรวดเร็วเพื่อห้ามเลือด "เราต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดครับ" เบ็นกล่าว เบ็นใช้ไม้พายพายเรือออกไปจากท่อระบายน้ำอย่างรวดเร็ว เรือลำเล็กๆ แล่นไปตามแม่น้ำเทมส์ที่มืดมิดและเต็มไปด้วยไอหมอกหนาทึบ ทิ้งให้มิสเตอร์คลาร์กและลูกสมุนของเขายืนมองอยู่บนฝั่งด้วยความโกรธแค้น ในความมืดมิดนั้น เมรี่มองไปที่เอดิสันที่กำลังเจ็บปวด และมองไปที่เฟรเดอริคที่ยังคงบาดเจ็บอยู่ เธอรู้สึกถึงความสูญเสียที่ต้องแลกมากับการได้แผนผังอุโมงค์และมีดสั้นมาครอบครอง แต่เธอก็รู้ว่าพวกเขามาไกลเกินกว่าจะถอยหลังได้แล้ว "เราจะทำอย่างไรต่อไปคะ?" เมรี่ถาม เบ็นมองไปที่เธอด้วยแววตาที่จริงจัง "พวกเจ้าต้องหาทางหยุดยั้งบารอนเวย์แลนด์ให้ได้ ก่อนที่เขาจะใช้ 'แกนกลางแห่งความรู้' เพื่อครอบครองลอนดอน"อุโมงค์ใต้ดินสั่นสะเทือนรุนแรงราวกับกำลังจะพังถล่มลงมาทุกวินาที เสียงหินร่วงหล่นดังสนั่นกึกก้องไปทั่วความมืดมิด เมรี่และพี่ชายทั้งสองคนพร้อมด้วยเลดี้อลิซาเบธต่างพากันวิ่งหนีสุดชีวิต โดยมีเอดิสันที่บาดเจ็บอยู่แล้วต้องถูกพยุงไปด้วย พวกเขาทิ้งมิสเตอร์คลาร์กและลูกสมุนไว้เบื้องหลังท่ามกลางความสับสนอลหม่าน"เร็วเข้า!" อเล็กซานเดอร์ตะโกน "มันใกล้จะถล่มแล้ว!"เอดิสันกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บปวดที่ต้นขาที่ถูกยิง แต่ก็ยังพยายามวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ "ทางออกอยู่ทางนั้น! ผมเห็นในแผนผัง!"เมรี่เหลือบมองไปที่แผนผังที่เธอเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ มันคือลายแทงที่แท้จริงที่กำลังนำพวกเขาไปสู่ทางออกและนำไปสู่การเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายกับท่านบารอนเวย์แลนด์"ทางนี้ค่ะ!" เมรี่ตะโกนชี้ไปที่ทางแยกอีกทางหนึ่งที่แคบและมืดมิดกว่าเดิมเสียงฝีเท้าของพวกเขากระทบพื้นอุโมงค์ดังหนักแน่น ตามมาด้วยเสียงหินและปูนที่เริ่มร่วงหล่นลงมาอย่างต่อเนื่องจากเพดานอุโมงค์ พวกเขาวิ่งหลบหลีกเศษซากและซากปรักหักพังอย่างหวุดหวิด"พี่อเล็กซานเดอร์คะ! ดูนั่นสิคะ!" เฟรเดอริคชี้ไปที่กำแพงอุโมงค์ที่อยู่ไม่ไกลนัก กำแพงนั้นมีรอยแตกขนาดใหญ่ แล
เสียงปืนดังกึกก้องสะท้อนไปทั่วอุโมงค์ใต้ดินที่มืดมิด แสงไฟจากไฟฉายของคนร้ายสาดส่องไปทั่วแท่นหินโบราณที่เรืองแสงด้วยผลึกคริสตัลสีฟ้าอ่อน เมรี่ เฟรเดอริค และอเล็กซานเดอร์ ยืนเผชิญหน้ากับมิสเตอร์คลาร์กและลูกสมุนของเขา ดวงตาของเมรี่จับจ้องไปที่ผลึกคริสตัลนั้น ขณะที่ความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ต้นแขนยังคงแล่นแปลบ"ส่งแผนผังนั่นมาให้ข้า!" มิสเตอร์คลาร์กคำราม เสียงของเขาเต็มไปด้วยความหิวกระหาย "และเจ้าผลึกนั่นด้วย!""ไม่มีทางหรอก!" อเล็กซานเดอร์ตอบ เขาพุ่งเข้าใส่คนร้ายคนแรกที่เข้ามาใกล้ที่สุดอย่างไม่ลังเล เฟรเดอริคถึงแม้จะยังบาดเจ็บ ก็พยายามยืนหยัดเคียงข้างพี่ชายการต่อสู้เกิดขึ้นอย่างดุเดือดในอุโมงค์แคบๆ ที่ลึกที่สุดแห่งนี้ เสียงปืนดังสนั่น เสียงหมัดและเท้ากระทบกันดังอึงคะนึง เมรี่พยายามหาทางที่จะช่วยพี่ชายของเธอ แต่เธอก็รู้ว่าเธอไม่มีทักษะการต่อสู้เหมือนพวกเขาเธอเหลือบมองไปที่ผลึกคริสตัลสีฟ้าที่เรืองแสงอยู่บนแท่นหิน มันเปล่งประกายอย่างลึกลับ ราวกับกำลังเรียกหาเธอ เมรี่รู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่แผ่ออกมาจากผลึกนั้น ความรู้สึกที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย"พี่อเล็กซานเดอร์!"
สายฝนยังคงโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย เมื่อรถของเอดิสันจอดสนิทอยู่ริมถนนที่มืดมิดและไร้ผู้คน แผนผังอุโมงค์ใต้ดินของลอนดอนที่ได้มาจากบ้านพักของลอร์ดเจมส์ ฮาร์ทเวลล์ ถูกกางออกบนแผงหน้าปัดรถ แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟภายในรถส่องกระทบกับเส้นสายที่ซับซ้อนของอุโมงค์"ตามแผนผังนี้ ทางเข้าที่ใกล้ที่สุดน่าจะอยู่ใต้สถานีรถไฟใต้ดินที่ถูกทิ้งร้างครับ" เอดิสันชี้ไปที่จุดหนึ่งบนแผนที่ "เป็นสถานีที่ปิดมานานหลายสิบปีแล้ว ไม่ค่อยมีใครรู้จัก"เมรี่มองไปที่แผนผังด้วยความกังวล "คุณแน่ใจนะคะว่านี่ไม่ใช่กับดักอีก?""ผมไม่แน่ใจหรอกครับมิสแบล็ควู้ด" เอดิสันตอบ "แต่ถ้า 'ขุมทรัพย์แห่งความรู้' ซ่อนอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินจริงๆ เราก็ต้องเสี่ยง"เฟรเดอริคกุมมือเมรี่ "เราจะไปด้วยกันเมรี่ ไม่ต้องกลัว"อเล็กซานเดอร์ที่บาดแผลยังไม่หายดีนักแต่แววตายังคงมุ่งมั่น พยักหน้าเห็นด้วย "เราต้องหาความจริงให้ได้"เลดี้อลิซาเบธ ฮาร์ทเวลล์ มองหน้าพวกเขาทีละคน ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวังและเศร้าโศก "ฉันขอไปด้วยค่ะ ฉันต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายของฉันจริงๆ"เอดิสันลังเลเล็กน้อย "ที่นั่นอันตรายมากนะครับเลดี้ฮาร์ทเ
รุ่งเช้ามาเยือนพร้อมกับสายฝนพรำโปรยปรายลงมายังลอนดอน ไอหมอกจางๆ ปกคลุมไปทั่วบ้านพักของเอดิสัน บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่นดูเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย เมื่อแสงแดดยามเช้าส่องกระทบใบหน้าของเมรี่ เฟรเดอริค อเล็กซานเดอร์ และเลดี้อลิซาเบธ ฮาร์ทเวลล์"เราต้องไปที่บ้านพักของลอร์ดเจมส์ ฮาร์ทเวลล์ให้เร็วที่สุดค่ะ" เลดี้อลิซาเบธกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "ฉันแน่ใจว่าต้องมีเบาะแสบางอย่างที่ตำรวจมองข้ามไป""ผมเห็นด้วยครับ" อเล็กซานเดอร์พยักหน้า "เราจะเริ่มจากที่นั่น"เอดิสันกางแผนที่ลอนดอนบนโต๊ะ "บ้านพักของลอร์ดเจมส์อยู่ในย่านที่ค่อนข้างเงียบสงบ แต่ก็อยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองมากนัก"เมรี่ที่ต้นแขนยังคงมีผ้าพันแผลอยู่ มองไปที่แผนที่ "คุณเอดิสันคะ เราจะเข้าไปในบ้านโดยไม่ให้ใครสังเกตเห็นได้อย่างไรคะ? ตำรวจน่าจะยังคงเฝ้าอยู่""ผมได้เตรียมการไว้แล้วครับ" เอดิสันยิ้มเล็กน้อย "ผมรู้จักใครบางคนที่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจของตำรวจได้ชั่วคราว"พวกเขาออกเดินทางไปยังบ้านพักของลอร์ดเจมส์ ฮาร์ทเวลล์ ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่สไตล์จอร์เจียที่ดูโอ่อ่าแต่กลับมีบรรยากาศที่เงียบเหงาเกินไป
รถยนต์ของเอดิสันแล่นฝ่าความมืดของค่ำคืนในลอนดอน เสียงเครื่องยนต์เป็นจังหวะเดียวกับเสียงเต้นของหัวใจที่ยังคงตื่นเต้นจากการไล่ล่าอันดุเดือด เมรี่ เฟรเดอริค และอเล็กซานเดอร์นั่งเงียบอยู่ในรถ แต่ละคนจมอยู่ในความคิดของตัวเอง พินัยกรรมลับของโรเบิร์ต แบล็ควู้ด ซึ่งเป็นเบาะแสสำคัญสู่ 'ขุมทรัพย์แห่งความรู้' และความจริงเกี่ยวกับ 'ปรมาจารย์แห่งเงา' อยู่ในกระเป๋าของเอดิสัน บาดแผลที่ต้นแขนของเมรี่ยังคงปวดจี๊ด แต่ความมุ่งมั่นของเธอกลับเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ"เราจะไปที่ไหนกันต่อคะคุณเอดิสัน?" เมรี่ถามขึ้นทำลายความเงียบ"บ้านพักของผมอีกแห่งครับ" เอดิสันตอบ "เป็นบ้านที่ปลอดภัยกว่า และเราจะได้วางแผนกันอย่างละเอียด"ไม่นานนัก พวกเขาก็มาถึงบ้านพักอีกแห่งของเอดิสัน เป็นบ้านเก่าแก่สไตล์วิกตอเรียนที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอกเงียบๆ ของย่านเชลซี บรรยากาศภายในบ้านอบอุ่นกว่าที่คิด มีเตาผิงที่กำลังลุกโชน แสงไฟสลัวๆ ส่องสว่างไปทั่วห้องนั่งเล่น"ก่อนอื่น เราต้องรักษาบาดแผลให้เมรี่ก่อนครับ" อเล็กซานเดอร์กล่าว "แล้วเราค่อยมาคุยเรื่องพินัยกรรมกัน"เอดิสันพาเมรี่ไปยังห้องเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นห้องพยาบาลย่อมๆ เขามีอุปกรณ์ปฐมพยาบ
พวกเขาวิ่งออกจากห้องเก็บเอกสารลับ โดยมีศาสตราจารย์มาร์ตินช่วยเปิดทางให้ เสียงฝีเท้าของคนร้ายดังไล่ตามมาติดๆ เมรี่รู้สึกเจ็บปวดที่ต้นแขน แต่เธอก็ต้องวิ่งต่อไปเพื่อชีวิตและเพื่อความลับที่พวกเขาเพิ่งค้นพบ"ไปทางนี้ครับ!" เอดิสันตะโกน เขาพาพวกเขาเลี้ยวเข้าสู่ทางเดินแคบๆ ที่ทอดยาวไปในความมืดเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด กระสุนกระทบกับผนังใกล้ๆ พวกเขา เมรี่รู้สึกถึงลมร้อนจากกระสุนที่เฉียดผ่านศีรษะไป"พวกมันมากันเยอะมากเลยนะคะ!" เมรี่หอบหายใจ"เราต้องหาทางออก!" เฟรเดอริคกล่าวพวกเขาพยายามวิ่งไปตามทางเดินที่ซับซ้อนราวกับเขาวงกต เสียงฝีเท้าของคนร้ายดังไล่ตามมาไม่ห่าง อเล็กซานเดอร์พยายามคุ้มกันเมรี่และเฟรเดอริค"มีทางขึ้นตรงนั้นครับ!" เอดิสันชี้ไปที่บันไดเหล็กเก่าๆ ที่ทอดยาวขึ้นไปสู่แสงสลัวๆพวกเขารีบปีนบันไดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว เมรี่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ต้นแขน แต่เธอก็พยายามกัดฟันปีนต่อไปเมื่อขึ้นมาถึงด้านบน พวกเขาก็พบว่าตัวเองมาโผล่ในห้องเก็บของเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยลังไม้และอุปกรณ์ที่ถูกทิ้งร้าง มันเป็นส่วนหนึ่งของหอจดหมายเหตุที่ไม่มีใครรู้จัก"เราปลอดภัยแล