"ขึ้นไปบนนั้นครับ!" เอดิสันตะโกน "เราจะหนีทางหลังคา!"
พวกเขาปีนบันไดขึ้นไปบนหลังคาอย่างทุลักทุเล ลมหนาวพัดโชยปะทะใบหน้าของพวกเขา วิวของลอนดอนในยามรุ่งสางนั้นสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ แต่เมรี่ก็ไม่มีเวลาชื่นชมกับมันเลยแม้แต่น้อย "ไปครับ!" อเล็กซานเดอร์ตะโกน เขาเริ่มวิ่งข้ามหลังคาอาคารจากหลังคาหนึ่งไปอีกหลังคาหนึ่ง เฟรเดอริคและเมรี่วิ่งตามไปติดๆ โดยมีเอดิสันคอยคุ้มกันอยู่ด้านหลัง เสียงฝีเท้าของคนร้ายดังตามมาติดๆ พวกเขากระโดดข้ามจากหลังคาหนึ่งไปอีกหลังคาหนึ่งอย่างคล่องแคล่วราวกับสัตว์ร้าย เมรี่รู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นรัวราวกับกลองศึก เธอไม่เคยวิ่งหนีการไล่ล่าที่ดุเดือดเช่นนี้มาก่อน "มีทางลงตรงนั้นครับ!" เอดิสันตะโกนชี้ไปที่ช่องเปิดเล็กๆ บนหลังคาที่นำลงไปสู่บันไดหนีไฟ พวกเขากระโดดลงไปบนบันไดหนีไฟ แล้วปีนลงไปสู่พื้นถนนด้านล่างอย่างรวดเร็ว เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง กระสุนกระทบกับผนังตึกใกล้ๆ พวกเขา "วิ่งครับ!" อเล็กซานเดอร์ตะโกน พวกเขาพุ่งตัวออกไปตามถนนที่ยังคงเงียบสงบในยามเช้า เมรี่รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าที่กัดกินร่างกาย แต่เธอก็ยังคงวิ่งต่อไปเพื่อชีวิตและเพื่อพี่ชายของเธอ จุดจบของเงา... หรือจุดเริ่มต้นใหม่? การไล่ล่าดำเนินไปอย่างไม่ลดละ จนกระทั่งพวกเขาวิ่งมาถึงจัตุรัสใหญ่แห่งหนึ่ง ที่มีผู้คนเริ่มออกมาเดินจับจ่ายใช้สอยและรถม้าเริ่มแล่นขวักไขว่ เมรี่เห็นโอกาส พวกเขาจะปะปนไปกับผู้คนและหนีหายไปในฝูงชน "วิ่งเข้าไปในฝูงชนเลยครับ!" เอดิสันตะโกน พวกเขาวิ่งเข้าไปในฝูงชนที่กำลังเดินขวักไขว่ ผู้คนต่างมองพวกเขาด้วยความประหลาดใจ แต่ก็ไม่มีใครหยุดพวกเขาได้ กลุ่มคนร้ายที่ตามมาติดๆ ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นผู้คนจำนวนมาก มิสเตอร์คลาร์กมองไปยังเมรี่และพี่ชายของเธอที่กำลังกลืนหายไปในฝูงชนด้วยความโกรธแค้น "หนีไปแล้ว! ปล่อยให้มันหนีไปได้!" มิสเตอร์คลาร์กตะโกนอย่างหัวเสีย "เราจะต้องหาพวกมันให้เจอ! ไม่ว่าพวกมันจะไปซ่อนอยู่ที่ไหนก็ตาม!" เมรี่และพี่ชายทั้งสองคนพร้อมด้วยเอดิสันวิ่งเข้าไปในตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่งที่เชื่อมต่อกับตลาดสด เสียงผู้คนเจี๊ยวจ๊าวและกลิ่นหอมของอาหารคละคลุ้งไปทั่ว เมรี่รู้สึกว่าพวกเขาปลอดภัยแล้วในตอนนี้ "เราทำสำเร็จแล้วค่ะ!" เมรี่หอบหายใจ "เราหนีมาได้แล้ว!" อเล็กซานเดอร์และเฟรเดอริคกอดเมรี่แน่น "เธอทำได้ดีมากเมรี่" อเล็กซานเดอร์กล่าว "เธอช่วยชีวิตเราไว้" เอดิสันยิ้มเล็กน้อย "พวกเราปลอดภัยแล้วครับในตอนนี้ แต่เรายังวางใจไม่ได้ 'เงาแห่งลอนดอน' จะไม่ยอมปล่อยเราไปง่ายๆ หรอก" "แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไปคะ?" เมรี่ถาม "เราต้องไปจากลอนดอนสักพักครับ" เอดิสันตอบ "และเราต้องวางแผนกันอย่างรอบคอบเพื่อที่จะเปิดโปง 'เงาแห่งลอนดอน' ให้โลกได้รับรู้ และทำลายพวกเขาให้สิ้นซาก" เมรี่มองไปรอบๆ ตัว เธอเห็นผู้คนที่กำลังใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เธอรู้ว่าภายใต้ความสงบสุขนี้ ยังมีเงามืดที่คืบคลานซ่อนอยู่ศาสตราจารย์มาร์ตินนำเมรี่และคณะเดินไปยังส่วนที่ลับที่สุดของหอจดหมายเหตุ พวกเขาเดินลงบันไดวนที่ทอดยาวลงไปใต้ดิน กลิ่นเก่าของกระดาษและฝุ่นคละคลุ้งในอากาศ"ที่นี่คือที่เก็บเอกสารลับส่วนบุคคลของบุคคลสำคัญในอดีตจ้ะ" ศาสตราจารย์มาร์ตินกล่าว "รวมถึงเอกสารของพวก องค์กรลับ ด้วย"พวกเขาเดินผ่านชั้นวางเอกสารที่สูงเสียดเพดาน เอกสารนับล้านชิ้นถูกจัดเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบ แต่ก็ดูเหมือนเขาวงกตที่ไม่มีที่สิ้นสุด"เราจะหารหัสลับเจอได้อย่างไรคะ?" เมรี่ถาม"รหัสลับบอกว่า 'ที่ที่ความลับถูกเปิดเผย' " ศาสตราจารย์มาร์ตินกล่าว "นั่นน่าจะหมายถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ 'เงาแห่งลอนดอน' โดยตรง"เอดิสันหยิบรหัสลับชิ้นที่สองออกมาพิจารณาอีกครั้ง "รหัสลับนี้ไม่ได้ระบุชื่อเอกสารโดยตรงครับ แต่มันมีสัญลักษณ์บางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็น ตราประทับของตระกูลแบล็ควู้ด"เมรี่ อเล็กซานเดอร์ และเฟรเดอริคมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ"เป็นไปได้อย่างไรคะ?" เมรี่ถาม "คุณพ่อของพวกเราเกี่ยวข้องกับ 'เงาแห่งลอนดอน' ด้วยหรือคะ!""ไม่หรอกจ้ะหนู" ศาสตราจารย์มาร์ตินกล่าว "คุณพ่อของพวกหนูเป็นนักสืบที่ต่อส
แสงอาทิตย์ยามสายสาดส่องเข้ามาในรถที่กำลังแล่นไปตามถนนในลอนดอน เมรี่นั่งพิงเบาะด้วยใบหน้าซีดเผือด ต้นแขนของเธอยังคงปวดแปลบจากบาดแผลมีดของมิสเตอร์คลาร์ก เอดิสันได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว แต่เมรี่รู้ว่าเธอต้องการการรักษาที่เหมาะสมกว่านี้"ไหวไหมเมรี่?" อเล็กซานเดอร์ถามด้วยความเป็นห่วง"ไหวค่ะพี่" เมรี่ตอบพยายามยิ้ม "แค่เจ็บนิดหน่อย"เฟรเดอริคกุมมือเมรี่ไว้แน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล "เราจะไปที่หอจดหมายเหตุเลยใช่ไหมคะคุณเอดิสัน?""ใช่ครับ" เอดิสันตอบ "เราต้องไปที่นั่นให้เร็วที่สุด ก่อนที่พวก 'เงาแห่งลอนดอน' จะตามรอยเราเจออีกครั้ง"พวกเขาใช้เวลาไม่นานก็มาถึงหอจดหมายเหตุแห่งชาติ อาคารเก่าแก่ที่ดูเคร่งขรึมและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ เมรี่รู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนี้ ที่ซึ่งความลับนับไม่ถ้วนถูกเก็บรักษาไว้"คุณเอดิสันคะ เราจะเข้าไปได้อย่างไรคะ?" เมรี่ถาม"หอจดหมายเหตุเป็นสถานที่สาธารณะครับ" เอดิสันตอบ "แต่ส่วนที่เราต้องการเข้าไปน่าจะเป็นส่วนที่ต้องได้รับอนุญาตพิเศษ"พวกเขาเดินเข้าไปในหอจดหมายเหตุ บรรยากาศภายในเงียบสงบ มีเพียงเสียงกระดาษพลิกไปมาและเสียงผู้คนกระซิบกระซา
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างรุนแรง เสียงหมัดกระทบเนื้อดังสนั่นไปทั่วหอนาฬิกา อเล็กซานเดอร์ใช้ทักษะการต่อสู้ที่เหนือกว่าในการรับมือกับมิสเตอร์คลาร์ก แต่มิสเตอร์คลาร์กก็แข็งแกร่งและว่องไวไม่แพ้กันในขณะเดียวกัน เฟรเดอริคก็กำลังต่อสู้อย่างยากลำบากกับลูกสมุนอีกคน แม้ร่างกายของเขาจะเริ่มฟื้นตัวแล้ว แต่เขาก็ยังไม่แข็งแรงเต็มที่นัก ลูกสมุนคนนั้นใช้จังหวะที่เฟรเดอริคพลาดท่า ถีบเข้าที่ท้องของเขาอย่างแรง เฟรเดอริคล้มลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด"พี่เฟรเดอริค!" เมรี่ร้องเรียกด้วยความตกใจ เธอวิ่งเข้าไปหาพี่ชายทันทีลูกสมุนคนนั้นฉวยโอกาสที่จะซ้ำเติมเฟรเดอริค แต่เอดิสันก็พุ่งเข้ามาขวางไว้ เขาจัดการกับลูกสมุนคนนั้นได้อย่างรวดเร็ว"พี่เฟรเดอริคเป็นอะไรไหมคะ!" เมรี่ถามด้วยความเป็นห่วง เธอช่วยประคองพี่ชายขึ้นมาเฟรเดอริคกัดฟันด้วยความเจ็บปวด "ไม่เป็นไรเมรี่ แค่จุกนิดหน่อยเท่านั้น"ในขณะที่มิสเตอร์คลาร์กกำลังต่อสู้กับอเล็กซานเดอร์อย่างดุเดือด เขาก็เหลือบไปเห็นเมรี่และเฟรเดอริค เขายิ้มเหยียด แล้วโยนมีดสั้นเล่มเล็กๆ ออกไปอย่างรวดเร็ว มีดเล่มนั้นพุ่งตรงไปยังเมรี่!"เมรี่! ระวัง!" เ
รุ่งเช้าอันหนาวเหน็บของลอนดอน เมฆหนาทึบปกคลุมท้องฟ้า เมรี่ เฟรเดอริค อเล็กซานเดอร์ และเอดิสัน ยืนอยู่บนสะพานเวสต์มินสเตอร์ มองไปยังหอนาฬิกาบิ๊กเบนที่สูงตระหง่าน เสียงระฆังบ่งบอกเวลาเจ็ดโมงเช้าดังแว่วมาตามลม หอจดหมายเหตุแห่งชาติอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก แต่เอดิสันเชื่อว่าบิ๊กเบนคือจุดเริ่มต้น"รหัสลับบอกว่า 'ที่ที่เวลาหยุดนิ่ง' " เอดิสันกล่าว "นั่นน่าจะหมายถึงบิ๊กเบนครับ""แล้ว 'ประวัติศาสตร์ถูกจารึก' ล่ะคะ?" เมรี่ถาม"นั่นน่าจะหมายถึงหอจดหมายเหตุ" อเล็กซานเดอร์ตอบ "แต่เราจะเริ่มต้นจากบิ๊กเบนก่อน เพราะมันน่าจะเป็นจุดที่สังเกตได้ง่ายที่สุด"เฟรเดอริคพยักหน้า สีหน้าของเขายังคงซีดเซียวเล็กน้อย แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "เราต้องระวังให้ดี พวกมันน่าจะรู้แล้วว่าเรากำลังตามหารหัสลับพวกนี้อยู่""ใช่ครับ" เอดิสันเสริม "และผมคิดว่า มิสเตอร์คลาร์ก จะต้องอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน"พวกเขาค่อยๆ เดินตรงไปยังหอนาฬิกาบิ๊กเบน ท่ามกลางผู้คนที่เริ่มออกมาใช้ชีวิตประจำวัน เมรี่สอดส่องสายตาไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง เธอรู้สึกถึงสายตาหลายคู่ที่กำลังจับจ้องมาที่พวกเขากับดักบน
"พวกแกตามเรามาได้อย่างไร!" อเล็กซานเดอร์ถาม"พวกเรามีดวงตาและหูอยู่ทุกที่ครับมิสเตอร์แบล็ควู้ด" มิสเตอร์คลาร์กตอบ "พวกเราเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของพวกคุณมาตั้งแต่ต้นแล้ว""ส่งรหัสลับมาให้เราซะ!" ชายอีกคนหนึ่งกล่าว น้ำเสียงแข็งกร้าว"ไม่มีทางหรอก!" เฟรเดอริคตอบ เขาจับม้วนกระดาษไว้แน่น"ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเสียใจนะ" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว เขาให้สัญญาณกับลูกสมุนลูกสมุนทั้งสองพุ่งเข้าใส่เมรี่และคณะทันที การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในโรงละครที่เต็มไปด้วยผู้คน เสียงต่อยตีและเสียงร้องด้วยความตกใจดังขึ้นระงม แขกคนอื่นๆ ที่กำลังนั่งชมการแสดงต่างลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นตระหนกเอดิสันจัดการกับลูกสมุนคนหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว ส่วนอเล็กซานเดอร์และเฟรเดอริคก็เข้าจัดการกับอีกคนหนึ่ง เมรี่ฉวยโอกาสวิ่งตรงไปที่เวที"เราต้องหนีไปจากที่นี่!" เมรี่ตะโกนพวกเขาปีนขึ้นไปบนเวที ท่ามกลางความตกตะลึงของนักแสดงและผู้ชม การแสดงหยุดชะงักลง นักแสดงหญิงคนหนึ่งกรีดร้องออกมา"จับพวกมันไว้!" มิสเตอร์คลาร์กตะโกนไล่ตามมาติดๆพวกเขาวิ่งเข้าไปในส่วนหลังเวที ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ประกอบฉ
แสงจันทร์สีเงินสาดส่องลงมาบนโต๊ะไม้ในห้องสมุดเก่าแก่ ม้วนกระดาษที่ได้มาจากสุสานไฮเกตถูกคลี่ออก เผยให้เห็นลายมือที่เขียนด้วยหมึกโบราณ มันไม่ใช่ตัวอักษรธรรมดา แต่เป็น แผนผังดวงดาว ที่ซับซ้อน พร้อมด้วยสัญลักษณ์แปลกๆ บางอย่าง"นี่มันอะไรกันคะ?" เมรี่ถามด้วยความสับสนเอดิสันหยิบแว่นขยายขึ้นมาส่อง "ดูเหมือนจะเป็นแผนที่ท้องฟ้าจำลองครับ และสัญลักษณ์เหล่านี้ก็น่าจะเป็นตัวแทนของดวงดาวหรือกลุ่มดาวบางอย่าง"อเล็กซานเดอร์ที่ยังคงดูอ่อนล้าจากการผจญภัย แต่แววตายังคงเฉียบคม ก้มลงมองแผนผัง "และนี่...รหัสตัวเลขชุดหนึ่งที่อยู่ด้านล่างสุด"เฟรเดอริคซึ่งเริ่มมีเรี่ยวแรงกลับคืนมาแล้ว พิจารณาแผนผังอย่างละเอียด "มันไม่ใช่แค่แผนที่ดวงดาวธรรมดาหรอกครับ ผมว่ามันเป็น รหัสตำแหน่ง บางอย่าง"มิสซิสเพอร์ซิวัลเดินเข้ามาใกล้ พร้อมกับถ้วยชาอุ่นๆ "ศาสตราจารย์มอร์ริสันเป็นคนที่หลงใหลในดาราศาสตร์มากจ้ะ เขาเชื่อว่าความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมักจะถูกซ่อนอยู่ในที่ที่ไม่มีใครคาดคิด""ถ้าอย่างนั้น เราก็ต้องถอดรหัสนี้ให้ได้" เมรี่กล่าวอย่างมุ่งมั่นพวกเขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการพยายามถอดรหัส แผนผังดวงด