1-2
-หลายสัปดาห์ต่อมา- Jirawat ได้เพิ่มคุณเป็นเพื่อนจากหมายเลขโทรศัพท์ “หืม?” เพราะอยู่ๆ ก็มีชื่อที่ไม่รู้จักเพิ่มเข้ามาในแอพพิเคชั่นแชต กำลังจะกดบล็อกเพราะไม่รู้จักชื่อที่แสดง แต่ช้ากว่าเจ้าของชื่อนั้นที่ส่งข้อความรัวเข้ามา Jirawat : เก็บของที่คิดว่าจำเป็น Jirawat : แล้วลงมารอด้านล่าง เปิดอ่านแม้งุนงงแต่ไม่ได้ถามกลับ นิ้วเรียวรีบกดเข้าไปดูตรงรูปโปรไฟล์ของเจ้าของข้อความปริศนาแล้วก็หายสงสัยในทันที แม้เขาจะเงียบหายไปนานกว่าสามสัปดาห์หลังจากที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่องวันนั้นจนเธอเกือบจะลืมชื่อเขาไปแล้ว แต่เธอกลับจดจำเจ้าของใบหน้าเรียบนิ่งและสายตาดุดันนั้นได้ดี Khongkwan : คุณจิรวัฒน์? Jirawat : รีบเก็บของให้เรียบร้อย Jirawat : อีก 2 ชั่วโมง Jirawat : ฉันจะเข้าไปรับ Khongkwan : รับ? Khongkwan : รับไปไหนเหรอคะ Jirawat : หน้าที่ของเธอคือทำตามที่ฉันสั่ง เหมือนตัวหนังสือส่งผ่านความรู้สึก แค่อ่านข้อความของเขาขวัญบูชาก็รู้สึกได้ถึงน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ คำพูดดูแคลนของเขาในวันนั้นยังอยู่ในความคิด Khongkwan : ค่ะ นิ้วเรียวพิมพ์ข้อความตอบกลับไปแม้จะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาออกคำสั่งมากนัก ไว้เขามาแล้วค่อยถาม เธอคิดอย่างนั้น เด็กสาวไม่ได้สนใจอะไรอีกวางมือถือลงบนที่นอนก็เดินไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำออกไปหาข้าวด้านล่างที่พักทานอย่างที่ตั้งใจไว้ เสียงจากสมาร์ทโฟนที่บ่งบอกว่ามีข้อความเข้าดังขึ้นอีกครั้งขณะที่ขวัญบูชากำลังนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจกหลังจากที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย คนตัวเล็กลุกขึ้นเดินไปยังเตียงนอนหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาดู เป็นข้อความจากคนคนเดียวกันที่ส่งมาหาเธอเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว Jirawat : ลงมา Jirawat : ฉันรออยู่ด้านล่างแล้ว เปิดอ่านแล้วคิ้วเล็กก็ขมวดเข้าหากันทันที ไหนตอนแรกเขาบอกว่าสองชั่วโมง... Khongkwan : ค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ตอบกลับไปสั้นๆ ติดใจเรื่องเวลาแต่ก็ไม่ได้ถามกลับ มันคงไม่ดีถ้าปล่อยให้เขารอเธอนานนัก ขวัญบูชารีบออกจากห้องเดินลงไปด้านล่างที่พัก สอดสายตามองหาก็เห็นว่าเขายืนรออยู่ข้างรถยนต์สีดำยี่ห้อหรู รีบเร่งฝีเท้าเดินออกไปหา ไม่ได้สงสัยเรื่องที่เขามาหาเธอถึงที่พักได้อย่างไรโดยไม่ได้ถาม เข้าใจว่าคงเอามาจากโปร์ไฟล์ที่เธอส่งไปที่ปิ่นโตผูกรัก ไลน์ส่วนตัวของเธอเขาก็คงได้มาจากที่นั่น “สวัสดีค่ะ คุณบอกหนูว่าสองชั่วโมงไม่ใช่เหรอ นี่เพิ่งจะชั่วโมงนึงเอง” ยกมือไหว้ทำความเคารพอย่างเด็กมีสัมมาคารวะแล้วถามในสิ่งที่ติดใจ คนถูกเด็กไหว้ยกมือขึ้นรับไหว้ จิริวัฒน์ไม่ได้ตอบคำถาม สายตาคมไล่มองตั้งแต่ศรีษะเล็กจรดปลายเท้าคนตรงหน้า “ไหนของเธอล่ะ?” ถามเมื่อไม่เห็นสิ่งที่เขาสั่งไว้ติดตัวเธอมาด้วย “ไม่ได้เอาลงมาค่ะ” เสียงเล็กตอบกลับทันควัน “เก็บไม่ทันหรือไง” “เปล่าค่ะ หนูไม่ได้เก็บ ก็หนูไม่รู้ว่าต้องเก็บไปทำไม ถ้าแค่คุณมารับออกไป...ทำงาน เสร็จ...งานหนูก็คงกลับห้อง ของใช้จำเป็นหนูคงไม่ต้องเอาไปหรอกค่ะ” ตอบไปแบบนั้นเพราะคิดว่าจิรวัฒน์มารับไปทำงาน ตอนเจอกันครั้งแรกเขาบอกเธอว่าอาทิตย์ถัดไปจะเริ่มงาน แต่เขาหายไปเลยตั้งหลายสัปดาห์จนวันนี้ที่เขาติดต่อเธอมา คงถึงเวลาที่เธอต้องทำงานแบบนั้นแล้วจริงๆ เขาให้เวลาเธอทำใจยอมรับมามากพอแล้ว “ใครบอกว่าฉันจะให้เธอกลับ” “ไม่ให้หนูกลับแล้วจะให้หนูไปนอนที่ไหน” “นอนกับฉัน” “คุณ...หมายความว่ายังไงคะ?” “เธอต้องไปอยู่กับฉัน” “ทะ..ทำไมหนูต้องไปอยู่กับคุณด้วย” ถามกลับด้วยน้ำเสียงหวาดระแวง ตอนบอกว่าเธอต้องนอนกับเขาทำเธอตกใจมาก แต่ยังไม่มากเท่าที่บอกให้เธอย้ายไปอยู่กับเขา เท้าเล็กก้าวถอยหลังออกมาจากตำแหน่งเดิมหนึ่งก้าว สายตาจ้องมองผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่ไว้วางใจ “หนูจะอยู่ที่นี่ ไม่ไปไหนทั้งนั้น” “ฉันซื้อเธอมาแล้ว” “แต่ในสัญญาไม่เห็นมีข้อไหนบอกว่าหนูต้องย้ายไปอยู่กับคุณ งานของหนูก็แค่รอเวลาที่คุณ...ต้องการแล้วมาหาไม่ใช่เหรอคะ ก็ไหนว่าเดือนล่ะสี่ถึงห้าวันเอง” แบบนี้ไม่เหมือนที่ตกลงกันไว้สักนิด ขวัญบูชาไม่มีวันยอมตั้งแต่แรกหรอกถ้ารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ “สี่ห้าวันมันน้อยไป ฉันต้องการมากกว่านั้น” “ก็ไปสลับสับเปลี่ยนกับเด็กคนอื่นๆ ของคุณสิ” คนระดับเขาคงไม่ได้เลี้ยงดูเธอแค่คนเดียว ขวัญบูชาเข้าใจแบบนั้นเพราะจำที่พี่เอเจนซี่บอกได้ หลายสัปดาห์ที่ไม่ได้ติดต่อเธอกลับมาตามที่บอกไว้ก็คงไปใช้บริการเด็กคนอื่นอยู่ “อย่ามาทำเป็นรู้ดี เธอมีหน้าที่ทำตามที่ฉันสั่ง ฉันบอกให้เธอไปอยู่กับฉันเธอก็ต้องไป” จิรวัฒน์พูดเสียงแข็งยื่นคำขาด ไม่รู้ว่าไม่พอใจคำพูดของเธอหรือไม่พอใจที่เธอไม่อยากไปอยู่กับเขากันแน่ “จะโกงหนูเหรอ ทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าคุณหลอกให้หนูเซ็นยอมรับข้อตกลงบ้านั่น” “ฉันไม่เคยหลอกใคร” “ไม่ได้หลอกหนูงั้นก็ทำตามที่ตกลงกันไว้สิ คุณจะมาหาหนูหรือให้หนูไปหาคุณก็ได้” “ทำไมพูดไม่รู้เรื่อง” “คุณหรือเปล่าที่พูดไม่รู้เรื่อง หนูยินดีทำตามข้อตกในสัญญานั่นทุกข้อ ถ้านอกเหนือจากนั้นหนูไม่ทำ และคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาบังคับหนูด้วย” “เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจะเพิ่มเข้าไปให้ก็แล้วกันไอ้ข้อที่ว่าเธอต้องย้ายออกไปอยู่กับฉัน” “คนขี้โกง!” เพิ่มข้อตกลงลงไปภายหลังจากที่อีกฝ่ายเซ็นชื่อยอมรับแบบนี้ไม่มีใครเขาทำกันนอกจากพวกขี้โกงไม่จริงใจ “ถ้าคุณเปลี่ยนแปลงข้อตกลงหนูก็จะขอยุติการเป็นเด็กเลี้ยงของคุณเหมือนกัน หนูจะยกเลิกทั้งหมด หนูไม่อยากทำงานนี้แล้ว” “ฉันไม่ให้เธอยกเลิก” “ทะ...ทำไมหนูจะยกเลิกไม่ได้” “เพราะฉันไม่ยอม ถ้าเธอจะยกเลิกทุกอย่างเธอก็ต้องจ่ายเงินคืนฉัน” “แต่...หนูยังไม่ได้เงินจากคุณเลยนะ” เขาบอกจะจ่ายก้อนแรกในวันที่เธอเริ่มงาน ซึ่งก็ยังไม่ได้เริ่ม “เธอลืมไปหรือเปล่าว่าฉันซื้อเธอผ่านเอเจนซี่” ขวัญบูชาเพิ่งนึกขึ้นได้ก็ตอนที่เขาบอก เธอลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย “คุณ...จ่ายเขาไปเท่าไหร่เหรอ หนู...จะใช้คืนให้” “สามแสน” คำตอบที่ทำขวัญบูชาแน่นิ่งไป คิดไม่ถึงว่าค่าตัวของเธอจะสูงลิ่วเพียงนี้ จิรวัฒน์ยกยิ้มมุมปากคล้ายเย้ยหยัน “ไง มีใช้ฉันหรือเปล่า” “หนู...หนูไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอกค่ะ” ถ้ามีเงินมากมายขนาดนั้นเธอคงไม่พาตัวเองมาอยู่ตรงนี้ “หนู...ไม่ยกเลิกก็ได้ แต่...หนูไม่ย้ายไปอยู่ที่อื่นได้ไหมคะ ถ้าสี่หรือห้าวันมันไม่พอหนูเพิ่มให้คุณก็ได้ คุณมาหาหนูหรือเรียกให้หนูไปหาคุณกี่วันก็ได้...หนูแล้วแต่คุณ” “เสียเวลา” เสียงทุ้มว่ากลับ “ถ้าไม่มีเงินจ่ายคืนเธอก็ต้องย้ายไปอยู่กับฉันขวัญบูชา” “แต่หนู...” “ฉันจ่ายเงินซื้อตัวเธอมา ตอนนี้ฉันเป็นเจ้าของเธอ ฉันสั่งให้เธอทำอะไรเธอก็ต้องทำ” “ก็ให้หนูไปหาก็ได้” “อย่าทำเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงขายตัวที่พอลูกค้าโทรเรียกก็รีบเอาตัวไปให้เขาสนอง” “คุณ...” เขาพูดดูแคลนเธออีกแล้ว “ว่ะ..ว่าหนูเกินไปรึเปล่า พูดดีๆ ก็ได้ไหมคะ หนูไม่ได้ขาย...” “แล้วฉันพูดไม่ดีตรงไหน หรือตอนนี้ที่เธอเป็นอยู่ไม่ได้เรียกว่าขายตัว?” ยังพูดไม่ทันจะจบจิรวัฒน์ก็สวนกลับด้วยคำพูดที่ทำเอาหยดน้ำใสไหลลงบนแก้มเนียน เพิ่งจะเข้าใจว่าจุดต่ำสุดในชีวิตมันเป็นแบบนี้นี่เอง จุดที่ต่ำที่สุดที่พร้อมถูกดูหมิ่นดูแคลนได้ทุกเมื่อ มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาบนแก้มป้อยๆ “ไปกันได้แล้ว” คนยืนมองเดินเข้ามาจับข้อมือเล็กพาไปที่รถ เปิดประตูแล้วกดศรีษะเล็กให้เข้าไปนั่งก่อนที่ตัวเองจะเดินอ้อมไปขึ้นยังฝั่งคนขับ “หนูยังไม่ได้เก็บเสื้อผ้า” เจ้าของรถเปิดประตูเข้ามานั่งเสียงเล็กก็พูดขึ้นอย่างเง้างอนโดยไม่ได้หันไปมอง “ก็ไม่ต้องเอาไป” “แล้วหนูจะเอาเสื้อผ้าที่ไหนเปลี่ยน หนูไม่มีเงินซื้อใหม่หรอกนะ” ทั้งเนื้อทั้งตัวตอนนี้ก็มีแค่เสื้อผ้าและรองเท้าที่ใส่ติดตัวแล้วก็สมาร์ทโฟนที่ถือติดมือมาเท่านั้น “ลืมไปแล้วหรือไง แค่เธอเริ่มงาน เธอก็จะได้เงิน” จิรวัฒน์ตอบคนข้างๆ ขวัญบูชาหันไปมองเสี้ยวหน้าของคนที่กำลังมองท้องถนน คืนนี้เธอก็คงจะถูกเรียกว่าเป็นผู้หญิงขายตัวได้เต็มปาก เธอกำลังเป็นผู้หญิงในแบบที่เขาพูดไว้ไม่ผิดเพี้ยน ความน้อยเนื้อต่ำใจในตัวเองทำให้ไม่อยากพูดอะไรอีก เลือกที่จะนั่งเงียบเพราะไม่อยากต่อปากต่อคำอีกฝ่าย “กินอะไรมาหรือยัง?” เสียงทุ้มเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อนเมื่อรถเคลื่อนออกมาได้สักพักใหญ่ดึงสายตาคนถูกถามให้หันไปมองเสี้ยวหน้าเขาได้อีกครั้ง “ยังค่ะ” ตอบแล้วหันหน้ากลับมายังตำแหน่งเดิม “ตั้งแต่เมื่อเช้ายังไม่ได้กินอะไรเลยหรือไง?” ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาที่บอกเวลาบ่ายสองโมงสิบนาที “ยังไม่ได้กินตั้งแต่ตอนเย็นของเมื่อวานค่ะ” คำตอบที่ทำคิ้วหนาขมวดเข้าหากัน ละสายตาจากท้องถนนหันมามองเสี้ยวหน้านวลของคนข้างๆ “แล้วทำไมไม่กิน?” “กำลังจะกิน แต่คุณมาหาหนูซะก่อน” อาบน้ำเสร็จว่าจะลงไปหาข้าวกินคิดว่าคงทันกับเวลาสองชั่วโมงที่เขาบอกไว้ แต่เขามาก่อนเวลา “ฉันหมายถึงเมื่อวานทำไมไม่กิน” “ก็หนูไม่หิว” “ไม่หิวหรือดื้อ”เครื่องยนต์ดับสนิทเจ้าของรถก็ลงไปจากรถ ขวัญบูชาชั่งใจอยู่ชั่วครู่จึงจะเปิดประตูตามลงไป รีบเดินเข้าไปหาเพื่อขอแบ่งของในมืออีกฝ่ายมาช่วยถือไว้แต่เขากลับเบี่ยงตัวหลบบอกเธอด้วยสายตาที่เธออ่านออกว่าเขาไม่อยากให้เธอยุ่งกับข้าวของของเขา “เดินตามมาก็พอ” เอ่ยบอกแค่นั้นก็เดินนำออกไป ขวัญบูชารีบเดินตามไปตามคำสั่ง ระหว่างทางเดินไม่ลืมที่จะสอดสายตาหันรีหันขว้างมองสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบๆ ด้านเอาไว้ เธอเดินตามหลังร่างสูงเข้าไปในลิฟต์ที่ต้องใช้คีย์การ์ดในการกด เห็นเขากดไปที่ชั้น 32 ก็อดที่จะเหลือบสายตาขึ้นมองเขาไม่ได้ พอได้ยืนใกล้กันแบบนี้ทำให้เธอดูเป็นผู้หญิงที่ตัวเล็กมากๆ ไปเลย ความสูงของเธอไม่ถึงช่วงไหล่เขาด้วยซ้ำ ประตูลิฟต์เปิดออกร่างสูงเดินนำออกไปอีกครั้ง ขวัญบูชารีบเดินตามออกไปก่อนที่เขาจะหยุดเดินแล้วประตูห้องด้านหน้าก็ถูกเปิดด้วยคีย์การ์ดใบเดิม “เข้ามา” จิรวัฒน์หันมาเรียกเมื่อเห็นคนที่เดินตามมาตลอดทางหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าห้อง ขวัญบูชาที่ได้สติก็ค่อยๆ เดินเข้าไป ดวงตากลมกวาดมองไปรอบๆ สถานที่แปลกใหม่ เจ้าของห้องเดินเอาของที่แวะซื้อมาระหว่างทางเข้าไปวางบนโต๊ะแล้วจึงเดินกลับมาหาคนที่ยืนอยู่กลางห้อ
1-2-หลายสัปดาห์ต่อมา-Jirawat ได้เพิ่มคุณเป็นเพื่อนจากหมายเลขโทรศัพท์“หืม?” เพราะอยู่ๆ ก็มีชื่อที่ไม่รู้จักเพิ่มเข้ามาในแอพพิเคชั่นแชต กำลังจะกดบล็อกเพราะไม่รู้จักชื่อที่แสดง แต่ช้ากว่าเจ้าของชื่อนั้นที่ส่งข้อความรัวเข้ามาJirawat : เก็บของที่คิดว่าจำเป็นJirawat : แล้วลงมารอด้านล่างเปิดอ่านแม้งุนงงแต่ไม่ได้ถามกลับ นิ้วเรียวรีบกดเข้าไปดูตรงรูปโปรไฟล์ของเจ้าของข้อความปริศนาแล้วก็หายสงสัยในทันที แม้เขาจะเงียบหายไปนานกว่าสามสัปดาห์หลังจากที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่องวันนั้นจนเธอเกือบจะลืมชื่อเขาไปแล้ว แต่เธอกลับจดจำเจ้าของใบหน้าเรียบนิ่งและสายตาดุดันนั้นได้ดีKhongkwan : คุณจิรวัฒน์?Jirawat : รีบเก็บของให้เรียบร้อยJirawat : อีก 2 ชั่วโมงJirawat : ฉันจะเข้าไปรับKhongkwan : รับ?Khongkwan : รับไปไหนเหรอคะJirawat : หน้าที่ของเธอคือทำตามที่ฉันสั่งเหมือนตัวหนังสือส่งผ่านความรู้สึก แค่อ่านข้อความของเขาขวัญบูชาก็รู้สึกได้ถึงน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ คำพูดดูแคลนของเขาในวันนั้นยังอยู่ในความคิดKhongkwan : ค่ะนิ้วเรียวพิมพ์ข้อความตอบกลับไปแม้จะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาออกคำสั่งมากนัก ไว้เขามาแล้วค่อยถ
1-1เพราะออกมาคุยงานกับคู่ค้าแถวนี้พอดีเลยใช้เวลาเดินทางไม่ถึงสิบห้านาที เอเจนซี่จะว่าเป็นเจ้าประจำก็ว่าได้เพราะไม่เคยติดต่อเจ้าอื่นอีกเลยตั้งแต่รู้จักกันรีบลุกขึ้นต้อนรับ ยิ้มสวัสดีทักทายยกใหญ่ก่อนขยับเก้าอี้เชิญให้นั่ง"ขอบคุณครับ" เสียงทุ้มเอ่ยขอบคุณตามมารยาท กระชับสูทสีเข้มแล้วนั่งลง ใบหน้าเกลี้ยงเกลา หล่อเหลาปรากฏเส้นริ้วรอยเพียงเล็กน้อยเท่านั้นทั้งที่อีกสองปี อายุก็จะเข้าสู่เลขสี่แล้ว เด็กสาวจ้องมองด้วยสายตาประหม่า แต่ผู้ชายแปลกหน้าไม่แม้แต่จะเหลียวตามองมายังเธอเลยสักนิดทั้งที่ก็นั่งอยู่ใกล้ห่างกันแค่คนล่ะฝั่งของโต๊ะคนนี้นั้นเหรอที่จะ... ‘ผูกปิ่นโต’ เธอ“หนูจ้ะ นี่คุณจิรวัฒน์ ชัชวาลไพศาล” คนถูกเรียกเบนสายตาไปมองผู้พูดแต่พอหันกลับมาผู้ชายตรงหน้าที่เมื่อครู่นี้ไม่แม้แต่จะเหลียวตามองเธอกลับกำลังมองจ้องเธออยู่ มือเล็กรีบยกขึ้นพนมก้มศรีษะไหว้ คนถูกเด็กยกมือไหว้ก็รับไหว้เด็กสาว “น้องขวัญบูชา นรเวศสกุลค่ะคุณเจน”แนะนำชื่อเต็มกับเด็กสาวแต่ตนเองกลับเรียกชื่อเล่นอีกฝ่าย เพราะดูแลจัดหาเด็กส่งให้มาหลายปีจนเจ้าตัวอนุญาตให้เรียกแบบนั้นได้“อันนี้เป็นเอกสารเข้ารับการตรวจร่างกายของน้องเมื่อเช้
“เมื่อเช้าพี่พาหนูไปตรวจโรคที่โรงพยาบาลเพราะ...คุณเขาจะไม่ป้องกันเหรอคะ?” อดถามสิ่งที่คาใจที่สุดออกไปไม่ได้ มารับแล้วตรงไปที่โรงพยาบาลก่อนอันดับแรกถูกส่งให้ตรวจหาทุกโรคที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แค่คิดว่าจำเป็นด้วยงั้นเหรอ? โรคติดต่อพวกนี้เพียงใส่เครื่องป้องกันก็จะไม่ติดต่อกันแล้วไม่ใช่เหรอ? หรือเธอเข้าใจผิดมาตลอดว่าถุงยางอนามัยออกแบบมาเพื่อป้องกันการติดต่อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากกว่าป้องกันการตั้งครรภ์...“กังวลเรื่องนี้อยู่นี่เอง...” ว่าพร้อมกับหยิบเอกสารทางการแพทย์ที่เป็นผลการตรวจร่างกายของอีกฝ่ายส่งให้ “เรื่องความปลอดภัยของทั้งสองฝ่ายนี่เป็นสิ่งที่ทางปิ่นโตผูกรักให้ความสำคัญมากๆ เลยนะ และนี่ก็เป็นเอกสารทางการแพทย์แสดงผลการตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของฝั่งคุณเขา หนูเอาไปดูได้เลย จะได้สบายใจ”แม้จะเป็นเว็บไวต์มืดเพราะอาชีพที่ยังไม่ถูกกฎหมายและยังไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมในปัจจุบัน แต่ปิ่นโตผูกรักก็ใช่ว่าจะเป็นเว็บไซต์อย่างซ่องเถื่อนที่คอยยุยงล่อลวงหญิงสาวมาคอยบริการลูกค้า สาวสวยที่จะสมัครเข้ามารับงานจากเอเจนซี่ที่นี่จึงจำเป็นต้องมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปเท่านั้น หากถู
“ห้ามรู้สึก ห้ามหึงหวง ห้าม...รัก” เด็กสาวหน้าตาสะสวยน่ารักน่าเอ็นดูอ่านข้อความทั้งหมดในแผ่นกระดาษจบก็เงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ด้วยกัน แม้ว่าร้านกาแฟชื่อดังร้านนี้จะมีลูกค้าอยู่เต็มร้าน แต่โต๊ะตรงมุมร้านที่ทั้งสองคนนั่งอยู่มีความเป็นส่วนตัว ห่างไกลจากโต๊ะตัวอื่นๆ มากพอที่จะทำให้บทสนทนาของคนทั้งคู่ไม่ถูกเผยแพร่ไปยังบุคคลที่สาม“หลักๆ ที่หนูต้องจำให้ขึ้นใจก็มีอยู่เท่านี้ ถ้าหนูเป็นเด็กดี เจียมเนื้อเจียมตัว คุณพี่รับรองว่าหนูจะอยู่ได้สบาย มีเงินเหลือเก็บเหลือใช้ คุณคนนี้เขาใจดีมาก ถ้าเด็กไม่มีปัญหาก็ไม่เคยเปลี่ยนคนใหม่” คนที่ร่างกายเป็นผู้ชายแต่จิตใจ ท่าทาง จริตจะก้าน และหางเสียงเป็นผู้หญิงบอกด้วยรอยยิ้ม เอ็นดูและพอใจในรูปร่างหน้าตาของเด็กสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าเป็นอย่างมาก ผู้หญิงตรงปกเคยเจอมาเยอะแล้ว ผู้หญิงไม่ตรงปกนี่นับครั้งไม่ถ้วนจนไม่อยากพูดถึง แต่เด็กสาวคนนี้หน้าตาผิวพรรณตัวเป็นๆ กลับดูดีกว่าในรูป สะสวยน่ารักเกินกว่าที่คิดไว้ไปมากดวงตากลมโตแลดูใสซื่อ ริมฝีปากเล็กแต่ดูอิ่มระเรื่อ จมูกรั้น ที่รวมกันบนใบหน้ากลมเนื้อผิวนวลเนียนน่าสัมผัส มองเท่าไหร่ก็ดูไม่น่าเบื่อ หน้าอกคัพเอที่คิดว่า