เข้าสู่ระบบ“นี่หุ้บปากซะฉันลำคาญ” เธอและหันหน้าหนีด้วยความเบื่อหน่าย
ใกล้จะถึงที่ทำงานของข้าวฟ่างแล้วทั้งก็นั่งเงียบตลอดทาง เมื่อถึงบริษัทของพ่อข้าวฟ่างแล้ววุฒิชัยก็ส่งแค่ให้เธอลงเขาก็ขับรถออกไปเลย “สวัสดีค่ะคุณข้าวฟ่างมีเอกสารที่คุณข้าวต้องเซ็นสองฉบับนะคะวันนี้” เมื่อเธอเดินเข้าไปในบริษัทเลขาของเธอก็เอาเอกสารมาให้เซ็นวันนี้เธอต้องเข้าประชุมกับวีรภัทรและภูริทัตซึ่งเธอเองก็ยังรักภูริทัตแต่เขาไม่สนใจเธอเลย เธอก็พยายามทำใจกับชีวิตที่เกิดมาบนความร่ำรวยแต่กลับมาเจอความผิดหวังในความรักทั้งโดนทิ้งทั้งพลาดท้องกับคนที่ไม่ได้รักเธอตั้งใจว่าทำใจเรื่องภูริทัตได้เมื่อไหร่เธอจะไม่รักใครอีกแล้วจะขอตั้งใจดูแลลูกพอ ในขณะที่ใกล้จะถึงเวลาประชุม ภูริทัตและวีรภัทรก็เดินเข้ามาเธออดใจไม่ได้เลยที่จะมองภูริทัตคนเคยรักกันมานานมาวันนี้กลายเป็นของคนอื่นไป “สวัสดีครับข้าวฟ่างเป็นไงบ้างสบายดีไหม” วีรภัทรพูดทักทายข้าวฟ่างเพราะสงสารเธอเพราะภูริทัตบ่ายเบี่ยงที่จะเจอเธอ “สบายดีค่ะ” เธอตอบเพียงสั้นๆ ในตาเศร้าๆ “ได้ยินข่าวว่าพึ่งแต่งงานมาหนิครับชีวิตหลังแต่งงานเป็นไงบ้าง” วีรภัทรพยายามพูดโฟกัสไปทางอื่นเพื่อไม่ให้ข้าวฟ่างคิดเรื่องภูริทัตทั้งที่เขาเองก็อกหักเสียใจเรื่องจารุวีย์อยู่เหมือนกันต่อให้เขาจะรักจารุวีย์เท่าไหร่เขาก็จะไม่ไปกวนใจให้เธอลำบากใจทำได้เพียงแค่ดูอยู่ห่างๆ “ก็ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกันค่ะ มันไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่เพราะแต่งกับคนที่ไม่ได้รัก” “เดี๋ยวก็ดีขึ้นแหละไปครับไปประชุม” พูดจบวีรภัทรก็เดินนำเข้าประชุมแต่ภูริทัตเข้าไปก่อนหน้านั้นแล้ว ในขณะที่นั่งประชุมข้าวฟ่างก็นั่งมองแต่หน้าภูริทัตเลยแต่เธอก็พยายามทำใจเพราะเขาไม่รักเธอแล้วหลังจากที่ประชุมเสร็จภูริทัตก็เดินออกไปเลยเขารีบกลับไปหาจารุวีย์ยังเหลือแต่วีรภัทรที่ยังนั่งเก็บของอยู่ ตอนนั้นเป็นเวลาเที่ยงพอดีวีรภัทรเห็นหน้าข้าวฟ่างดูเศร้าเขาจึงพยายามเข้าไปทำให้จิตใจเธอดีขึ้นเพราะเธอเองกำลังท้องวีรภัทรแค่สงสารแต่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอคนเดียวที่เขารักคือจารุวีย์ “ข้าวฟ่างไปทานข้วที่ไหนครับ?” “ยังไม่รู้เลยค่ะทำไมเหรอคะ?” ข้าวฟ่างเงยหน้าถาม “ไปทานกับผมไหมละครับพอดีผมจะไปทานพอดีคุณไปพร้อมผมไหม” ข้าวฟ่างหันไปมองหน้าวีรภัทรและลังเลแต่เธอก็ไม่รู้จะไปที่ไหนเลยไปกับเขา “ได้ค่ะ แต่ข้าวไม่ได้เอารถมานะคะ?” “ไปรถผมก็ได้เดี๋ยวผมแวะมาส่งเชิญครับ” เขาพูดจบก็ให้ข้าวฟ่างเดินไปก่อนเขาก็เดินตามหลังไปถึงรถเขาก็เปิดประตูรถให้ข้าวฟ่าง “ขอบคุณค่ะ” ข้าวฟ่างเข้าไปนั่งในรถและคิดว่าทำไมคุณภัทรเข้าสุภาพบุรุษและดีขนาดนี้นะ หลังจากทั้งคู่ขึ้นรถแล้วก็เดินทางไปที่ร้านอาหารเป็นร้านที่ข้าวฟ่างไม่เคยมาเลย ทั้งคู่เดินลงรถไปและเข้าไปในร้านอาหาร ทั้งคู่สั่งอาหารและทานวีรภัทรก็ไม่ค่อยได้ชวนคุยเท่าตอนไปกับจารุวีย์ “คุณภัทรมาแถวนี้บ่อยเหรอคะทำไมรู้จักร้านอาหารแถวนี้ข้าวเองยังไม่เคยมาเลยขนาดอยู่แถวนี้” “ครับผมมาพบลูกค้าและประชุมบ่อยเลยมาทานอาหารแถวนี้บ่อย” เมื่อทั้งคู่ทานอาหารเสร็จวีรภัทรก็ไปส่งข้าวฟ่างที่ทำงานและเขาก็ขับรถกลับบริษัทไปทำงานต่อที่บริษัทจนเสร็จก็กลับบ้าน ถึงเวลาที่ข้าวฟ่างต้องกลับบ้านวุฒิชัยก็ขับรถมารอที่หน้าบริษัทตั้งแต่ที่เธอยังไม่เลิกทำงานเขาอาจจะเป็นคนที่บ้าผู้หญิงและไม่ค่อยสนใจอะไรแต่เขาก็ยังมารับเธอแบบตรงเวลา ข้าวฟ่างลงไปเห็นเขาพอดีก็เลยเดินไปขึ้นรถไม่มีหรอกว่าจะเปิดประตูรถให้ถ้าเป็นเด็กของเขานู้นถึงจะเปิดประตูรถให้ “มาตรงเวลาดีหนิ” เธอขึ้นรถไปและหันไปพูดกับเขา “ผมมาก่อนเวลาต่างหาก ผมไม่อยากให้คุณต้องมายืนรอไง” เขาหันไปพูดตอบเธอพร้อมกับขับรถออกไป “ทำเป็นพูดได้กี่วันละไม่ใช่ว่ามาตรงเวลาแค่วันเดียววันหลังไม่มาหรือมาสายนะ” “นี่คุณเห็นผมเป็นคนยังไงกัน?” “ก็อย่างที่ฉันพูดแหละ พูดตรงๆ นะคุณไม่ต้องมารับมาส่งฉันหรอกฉันขับรถมาเองได้” “คุณก็ไปบอกพ่อคุณเองสิครับ พ่อคุณให้ผมรับส่งคุณตามหน้าที่สามี” พ่อของข้าวฟ่างให้วุฒิชัยและข้าวฟ่างไปทำงานด้วยกันเผื่อว่าสักวันทั้ั้งคู่จะรักกันซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าลูกเขยของเขานั้นเป็นเสือผู้หญิงเจ้าชู้ เพียงแค่เขาเข้ากับพ่อของวุฒิชัยได้เขาเลยโอเคที่ทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันที่สำคัญทั้งคู่มีลูกด้วยกันแล้วด้วย “เดี๋ยวฉันจะคุยกับพ่อเองเพราะฉันรอแค่คุณมารับมาส่งมันไม่สะดวก” “แล้วแต่คุณผมไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว” เมื่อทั้งคู่นั่งรถมาถึงบ้านก็เข้าห้องไปอาบน้ำทานอาหารเย็นและเตรียมเข้านอน “วันนี้คุณต้องไปนอนตรงนู้นนะห้ามมานอนตรงนี้เพราะเมื่อคืนคุณละเมอมากอดฉัน” เธอพูดพร้อมโยนผ้าห่มให้ “โถ่คุณมากกว่านั้นผมก็ทำมาแล้วแค่นี้ทำเป็นพูดอะไรของคุณนักหนาผมจะนอนนี่แหละ” เขาก็ยังคงลงนอนบนเตียงเหมือนเดิม “นี่คุณนั้นมันตอนที่ฉันไม่มีสติ ทำไมคุณพูดยากจังฉันไม่เคยเห็นใครพูดยากเท่านี้มาก่อนเลย” “ตอนนี้เราก็เป็นผัวเมียกันไงนอนด้วยกันคงไม่ผิดอะไรหรอก ขนาดผู้หญิงคนอื่นไม่ได้เป็นอะไรกับผมทำมากกว่ากอดผมยังทำมาแล้ว” เขาพูดหน้าตาเฉยยังดีที่ข้าวฟ่างไม่ได้รักเขาเลยไม่ได้เจ็บปวดอะไรกัับคำพูดของเขาเพียงแค่ทำให้รังเกียจกว่าเดิม “ทุเรสพูดอะไรออกมาเพราะแบบนี้ไงฉันถึงไม่อยากนอนร่วมเตียงกับคุณ” เธอพูดจบก็นอนลงและหันหน้าหนี คำพูดของข้าวฟ่างไม่ได้กระทบอะไรกับวุฒิชัยเลยเขาก็นอนต่อเลยสักพักก็มีสายเข้ามือถือของวุฒิชัย “ฮัลโหล..ว่าไง” เขารับโทรศัพท์ซึ่งสายที่โทรเข้ามานั่นก็คือลูกน้องของเขาที่อยู่ในผับเพราะตั้งแต่เขาแต่งงานยังไม่ได้เข้าไปที่ผับเลย “คุณวุฒิครับทำไมช่วงนี้ไม่เห็นคุณเข้ามาที่ผับเลยคุณเมรีมาหาครับ” เมรีเด็กของวุฒิชัยที่ตามตื้อและยอมเขาทุกอย่าง “นี่คุณไปคุยโทรศัพท์ที่อื่นได้ไหมฉันหนวกหูตะนอน” ข้าวฟ่างหันมาด่าวุฒิชัยด้วยความลำคาญ วุฒิชัยรีบลุกไปคุยที่อื่น “เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันเข้าไปบอกเมรีด้วยช่วงนี้ฉันยุ่งๆ อยู่” พูดจบเขาก็ตัดสายทิ้งและเข้าไปนอน >>>>ติดตามตอนต่อไปหลังจากนั้นวุฒิชัยก็เดินเข้าไปในครัว เขากะจะโชว์ฝีมือการทำอาหารให้เมียเขาดูแต่เมื่อหันกลับไปเมียของเขากับนั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟาไม่เดินตามเขามาเขาเดินกลับไปที่ห้องรับแขกไปยืนอยู่ตรงหน้าผู้เป็นเมีย“ทำไมคุณไม่ตามผมมา” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ข้าวฟ่างถึงกับสะดุ้งและเงยหน้ามอง“ไปไหน” เธอถามเพียงสั้นๆ พร้อมหน้าตาที่งงงวย“ไปครัวไงผมจะโชว์ฝีมือ” เธอได้แต่ถอนหายใจแค่ทำอาหารทำไมต้องให้เธอไปดูด้วย“ทำไมฉันต้องไปด้วยคุณทำมาให้กินเฉยๆ ไม่ได้เหรอ”“ก็ได้นั่งรออยู่นี่แหละ” สิ้นสุดเสียงนั้นหนุ่มหล่อผู้เป็นสามีก็เข้าครัวไปทำอาหารและสักพักก็ถือออกมาให้เมียของเขาทาน ข้าวฟ่างที่นั่งเล่นมือถืออยู่เมื่อได้ยินเสียงวางอาหารเธอก็รีบวางมือถือเพื่อจะชิม“ฉันรอชิมก่อนนะ” สิ้นสุดเสียงเธอก็ใช้ซ้อมตักโดยไม่รอคำตอบจากสามี เมื่ออาหารเข้าปากคำแรกเธอก็ได้รับรสชาติที่แสนอร่อยและไม่คิดว่าเขาจะทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้“เป็นไงบ้าง อร่อยมั้ยครับคุณหนูข้าวฟ่าง” ใบหน้าแห่งความคาดหวังให้เมียชมก็จ้องมองไปที่หน้าของเธอ“ก็ไม่เท่าไหร่นะ ก็พอทานได้ให้สอนคุณทำอาหาร” ต่อให้อาหารจะอร่อยแค่ไหนเธอก็ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียฟอร์ม“งั้นเห
“คุณไปเอารูปผมมาจากไหน” ใบหน้าที่แทบจะเก็บรอยยิ้มของเขาไว้ไม่อยู่ทั้งพูดทั้งมองหน้าเธอ“ในเฟชบุ๊คและไลนฺ์คุณไง เอามาไม่ได้เหรอ”“ก็ได้แต่แค่แปลกใจเฉยๆ ไหนคุณบอกไม่อยากลบรูปเขาไงกลัวไม่มีโอกาสได้ถ่ายอีก” คำพูดของเขาดูนอยๆ แต่ความจริงก็หายโกรธตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้วแหละแค่แกล้งถามไป“พอมาคิดดูๆ แล้วเขาก็แค่อดีตไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับฉันแล้ว ปัจจุบันนี้ต่างหากที่สำคัญ” เธอพูดและส่งรอยยิ้มหวานให้สามีเธอทำให้หัวใจของเขาพองโตยิ้มออกมาด้วยความเขิน“จริงเหรอผมสำคัญกับคุณขนาดนั้นเลยเหรอ”“เปล่าค่ะ ฉันหมายถึงฉันเองต่างหากที่ยืนอยู่ในปัจจุบันควรที่จะเห็นความสำคัญของตัวเองไม่ควรไปยึดติด” คำพูดของเธอกับทำให้เขาโกรธอีกครั้ง เขาเดินหนีไปนั่งที่โซฟาในห้องทำงานของเขาทำให้ข้าวฟ่างเข้าใจในทันทีว่าเขาน้อยใจอีกแล้ว เธอรีบเดินตามเขาไป“คุณเป็นอะไรคะ” หญิงสาวนั่งลงข้างๆ สามีและยื่นหน้าไปถามเขาทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังน้อยใจเธอ“เปล่าครับ”“ฉันล้อเล่น คุณก็สำคัญเหมือนกันนะไม่งั้นฉันไม่มาง้อถึงที่นี่หรอก” ได้ยินแบบนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็กอดไปที่เอวเธออัตโนมัติ และโน้มตัวไปหอมแก้มเธอ“จริงเหรอ”“คุณ
ข้าวฟ่างเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขานั่งนิ่งเงียบและมองหน้าเธอแปลกๆ เธอจึงเอ่ยปากถามเขาด้วยความสงสัย“คุณเป็นอะไรรึเปล่าทำไมมองหน้าฉันแปลกๆ”“เปล่า” สายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของเขาก็แสดงออกมาทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าคำปฏิเสธของเขานั้นต้องมีอะไรแน่ๆ“แน่ใจเหรอคะ” เธอถามทวนเขาอีกรอบเพราะรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเก็บความอึดอัดไว้คนเดียวได้เดี๋ยวก็ต้องบอกความต้องการของเขามา ถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นานแต่เธอมั่นใจว่าเธอรู้จักเขาดีพอ“ผมถามจริงๆ เถอะคุณยังรักคุณภูริทัตอยู่รึป่าว”“คุณถามทำไม”“ผมแค่อยากรู้” บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลกลัวว่าเมียจะยังรักแฟนเก่าอยู่สายตาที่ต้องการคำตอบมองเธอไม่กระพริบสายตา“ฉันไม่รู้แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรแล้ว ไม่แน่ใจว่าไม่รักแล้วรึเปล่า” เธอยังคงสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอาจจะไม่รักแล้วแต่แค่ยังเสียดายเวลาที่ผ่านมาเพราะคบกันมาตั้งหลายปีจะให้ลืมสนิทมันคงเป็นไปได้ยากอาจจะแค่นึกถึงแค่นั้น“คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่รักเขาแล้ว ผมยังเห็นรูปเขาอยู่เต็มโทรศัพท์ของคุณอยู่เลย" เขาแสดงอาการของคนที่ขี้น้อยใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดข้าวฟ่างเธอไม่คิิดว่าผู้ช
“สวัสดีน้ำหวาน” เธอทักทายกลับโดยไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่เธอเหล่ตาไปมองที่ข้างๆ ที่ข้าวฟ่างนั่งเห็นวุฒิชัยก็สะดุดตาในความหล่อเหลาของเขา“ภูไปไหนแล้วละทำไมได้มากับผู้ชายอื่น”“เลิกกันแล้ว”“อุ้ย!ทำไมได้เลิกเหรอเห็นรักกันดีอยู่นะรักกันมาตั้งหลายปีเธอปล่อยภูหลุดมือไปได้ยังไงกันอุส่าแย่งไปจากฉัน”“พูดให้มันดีๆ นะฉันไม่เคยแย่งภูมาจากเธอแต่ภูไม่เคยเป็นของเธอเลยต่างหาก” เธอเงยหน้าขึ้นขิงใส่น้ำหวานอย่างเบื่อหน่ายเพราะน้ำหวานตามราวีเธอไม่เลิกจนไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีนึกว่าเธอจะเลิกแล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิม“อย่าทำมาพูดหน่อยเลย ตอนนี้เป็นไงได้ข่าวว่าภูเขามีลูกมีเมียใหม่แล้วหนิ” เธอพูดเยาะเย้ยใส่ทำให้ข้าวฟ่างโกรธเพราะเหมือนมากรีดแผลใจเธอแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บมากเหมือนเมื่อก่อนอาจเป็นเพราะเธอได้อยู่ใช้ชีวิตกับวุฒิชัยผู้ชายไม่เอาไหนที่เจ้าชู้ไปวันๆ แต่วันนี้เหมือนราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน“มีใหม่แล้วยังไง ฉันก็มีใหม่แล้วเหมือนกันทั้งหล่อรวยเธอละมีปัญญาหาได้สักคนรึยังมาเที่ยวยุ่งเรื่องคนอื่นนี่ ออกไปจากโต๊ะนี่ได้แล้วไปเกะกะลูกตา” เธอเอนหัวไปที่ไหล่ของวุฒิชัยและกอดแขนเขาเพื่อทำใส่น้ำหวานเธอโกรธและ
ข้าวฟ่างยังคงยืนนิ่งกับคำถามของวุฒิชัยอยู่“ขึ้นรถเถอะ”“ตอบผมมาก่อนสิ” สายตาแห่งความคาดหวังมองไปที่หน้าของเธออย่างจริงจังแต่เธอกลับหลบสายตาเขา“ขึ้นรถไปก่อนแล้วฉันจะตอบ” พูดจบขาทั้งสองข้างของเธอก็ก้าวขึ้นรถและยังคงนั่งนิ่งเงียบคิดเรื่องที่เขาถามเธอความสับสนมากมายอยู่ในใจของเธอ“ว่าไงครับ” เขายังคงต้องการคำตอบจากเธออยู่จี้ถามให้เธอตอบ“ฉันไม่รู้เหมือนกัน คุณมันเจ้าชู้ฉันไม่รู้จะเอาคุณอยู่รึเปล่าฉันไม่กล้าเปิดใจเพราะกลัวจะเป็นแบบภูอีก” เธอพูดพร้อมก้มหน้าลง“แต่ผมไม่ใช่เขา ถึงเวลาที่ผมหยุดผมก็หยุดได้ที่ผมทำตัวเจ้าชู้เพราะผมยังไม่เจอคนที่ใช่ แต่ตอนนี้ผมอยากใช้ชีวิตครอบครัวที่มีความสุขกับคุณ” เขาพูดด้วยหน้าตาที่จริงจัง“ฉันยังไม่กล้าเปิดใจกับคุณหรอกพูดจริงๆ นะฉันเข็ดกับความรักจริงๆ” สองสายตาของเธอมองไปที่เขาด้วยความรู้สึกที่ดีแต่เธอกลัวจริงๆ เพราะเขาเจ้าชู้จริงๆ ในขณะที่เธอท้องไปหาเขายังนัวเนียกับผู้หญิงอื่นไปทั่วเลย“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่ไอ้หมอนั้น!” เขาพูดเสียงดังด้วยความเคืองที่เธอเอาแต่นึกถึงภูริทัต“ก็คุณเจ้าชู้ไง ผู้หญิงมาหาคุณไม่ซ้ำหน้าจะให้ฉันเชื่อใจคุณได้ยังไง” เธอพูดออกไปแบบนั้
05 : 20 น.เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายเธอเหมือนมีอะไรมากอดอยู่เมื่อก้มลงมามองดูก็เห็นเป็นแขนของวุฒิชัยที่กำลังกอดเธออยู่เธอรีบลุงขึ้นและแขนของเขากับกอดเธอลงไปนอนอีก“นี่คุณมานอนกอดฉันได้ยังไงกันใครอนุญาตให้กอดไม่ทราบ” เธอหันหน้าไปถามเขาด้วยเสียงดุใส่“ไม่มีอะ ผมอยากกอดก็กอดเลยคุณมีปัญหาเหรอนี่เมียผม” เขาพูดหน้าตาเฉยใส่เธอ“แค่เมียในนามเท่านั้นแหละ ฉันเป็นแค่แม่ของลูกคุณเท่านั้น”“ไม่อ่ะ คุณเป็นเมียผมคืนนั้นยังร่วมรักกันอยู่เลย” สิ้นสุดเสียงนั้นก็มีฝามือเล็กๆ ตีลงที่หน้าอกของเขาโอ้ยยยย!! เสียงที่ทำเขาสะดุ้งอาจไม่เจ็บสักเท่าไหร่แต่ก็แสบไม่น้อย“นี่คุณอย่ามาพูดทะลึงนะ คุณมันชอบฉวยโอกาส” เธอโกรธที่เขาพูดเรื่องนี่หรือเขินก็ไม่แน่ใจ“ใจร้ายจังแค่พูดความจริงก็รับไม่ได้” เขากอดเธอให้แน่นกว่าเดิม ยิ่งเธอทำเหมือนหวงตัวแบบนี้ยิ่งชอบเขาไม่ชอบผู้หญิงง่ายๆ แต่เขาก็เอาเหมือนเดิมแต่กับข้าวฟ่างเขารู้สึกว่ามันน่าค้นหาดีเล่นตัวแบบนี้“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” เธอพูดเสียงแข็งให้เขาเลิกกอดเธอ“ไม่นะ ขอนอนกอดก่อน”เปี๊ยะ!! เสียงตีไปที่หน้าอกเขาอีกรอบ ทำให้เขาคายกอดออกอย่างรวดเร็ว“เอะอะก็ตีเป็นลูกเลี้ยงเ







