LOGINภาพที่ดาราวรรณเห็นก็คือ..จารุวีย์และภูริทัตไม่ได้ใส่เสื้อผ้าทั้งคู่และภูริทัตกำลังกอดจารุวีย์อยู่
ดาราวรรณ เขย่าปลุกทั้งภูริทัตและจารุวีย์ เมื่อทั้งสองตื่นขึ้นด้วยอาการเพลียก็ตกใจกันทั้งคู่เพราะเมื่อคืนเมามากจนไม่ได้สติ ภูริทัตตกใจมากเพราะกลัวว่าข้าวฟ่างจะรู้เรื่อง เพราะเขาแคร์ข้าวฟ่างมากคิดว่าถ้าข้าวฟ่างรู้เรื่องนี้ต้องเสียใจมากแน่ๆ
ด้านจารุวีย์ก็ทั้งตกใจและเสียใจเพราะเขาได้เสียความบริสูทธิ์ของเขาให้กับผู้ชายที่เขาไม่ได้รักและเป็นผู้ชายที่มีคนรักอยู่แล้ว หัวใจของเขาชาไปหมดเหมือนโลกกำลังพังทลายลงเขาได้ทำเรื่องที่ผิดมากเขาได้แต่นั่งร้องไห้เสียใจ
“ตาภูมาอยู่ในห้องหนูจาร์ได้ยังไง แล้วเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงลูกมีข้าวฟ่างอยู่แล้วนะ” ดาราวรรณถามด้วยความตกใจและไม่รู้จะทำยังไง
“เมื่อคืนผมเมามากจนไม่ได้สติเลยครับแม่ ผมขอร้องแม่อย่าให้ข้าวฟ่างรู้เรื่องนี้นะครับผมยังอยากแต่งงานกับข้้าวอยู่” ภูริทัตพูดด้วยความรู้สึกผิดต่อข้าวฟ่าง
“แล้วหนูจาร์ละเขาเป็นผู้หญิงเขาเสียหายนะลูก” ดาราวรรณกลัวว่าแม่ของจาร์จะรู้เรื่องนี้และว่าให้เขาเพราะอมลภัทรฝากลูกไว้แต่กลับมาเจอเรื่องแบบนี้
"ไม่เป็นไรค่ะคุณน้ามันคือความผิดพลาด..เราทั้งสองคนไม่ได้สติทั้งคู่และที่สำคัญคุณภูก็กำลังจะแต่งงานหนูไม่อยากไปเป็นต้นเหตุให้เขาเลิกกัน แค่นี้หนูก็รู้สึกผิดมากพอแล้ว
“แต่หนูจาร์..”
“ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ ช่างมันเถอะนะสงสารคุณข้าวฟ่างถ้าเขารู้เรื่องนี้เขาคงเจ็บปวดน่าดู”
“หนูเสียหายนะลูก ถ้าทำแบบนั้นก็เท่ากับว่าพี่ภูเห็นแก่ตัว”
“ผมยอมโดนมองแบบนั้นครับแม่ ขอแค่ผมได้แต่งงานกับข้าว” ภูริทัตพูดขึ้นโดยที่ไม่รู้สึกอะไรเลย
ทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยแค่มาอยู่กับเขาก็อึดอัดมากพอแล้ว นี่ยังมามีอะไรกับเขาอีก ฉันต้องมาเสียความบริสุทธิ์ให้กับคนที่ฉันไม่ได้รักและเขาไม่เคยรักฉัน ทำไมโลกมันถึงโหดร้ายกับฉันแบบนี้ ฉันจะผ่านมันไปได้ยังไงผู้ชายเขาก็ไม่สนใจฉันด้วยซ้ำว่าฉันจะเป็นยังไง
“คุณรีบใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปเถอะค่ะเดี๋ยวคุณข้าวมาเห็นเข้ามันจะเป็นเรื่อง” จารุวีย์พูดบอกภูริทัต
“เธอโอเคใช่มั้ย ฉันขอโทษนะที่ฉันเข้าห้องผิดทำให้เธอเสียหาย ต่อไปฉันไม่รู้จะมองหน้าเธอยังไง”
“เดี๋ยวจาร์จะออกไปอยู่ข้างนอกเอง คุณจะได้ไม่ลำบากใจ”
“ได้ไงละหนูจาร์ หนูทั้งเสียหายและเสียเปรียบตาภูต่างหากที่ผิดหนูไม่ได้ผิดอะไรหนูจะออกไปทำไมลูก” ดาราวรรณพูดเพราะมันไม่ถูกต้องความจริงแล้วเขาทั้งสองควรจะได้แต่งงานกันด้วยซ้ำ พอภูรทัตรักข้าวฟ่างมากจึงทำให้ดาราวรรณสงสารลูกและข้าวฟ่าง อีกอย่างข้าวฟ่างไม่ได้ผิดอะไรไม่ควรจะต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่จารุวีย์เองก็ไม่ควรมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตอนนี่ดาราวรรณสับสนมากว่าควรทำยังไง
“แต่หนูเองก็ลำบากใจนะคะ และไม่รู้จะหาทางออกยังไง หนูไม่บอกแม่เรื่องนี้หรอกค่ะ”
“น้าว่าหนูเสียหายควรที่จะต้องแต่งงานกับตาภูนะ”
“งั้นข้าวฟ่างก็เสียหายเหมือนกันเพราะผมเองก็มีอะไรกับข้าวฟ่างแล้ว” ภูริทัตพูดขึ้นเพราะไม่อยากแต่งงานกับจารุวีย์
จารุวีย์ได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกเจ็บทั้งที่ไม่ได้รักเลยแต่ทำไมถึงเจ็บจี๊ดไปที่ใจ
“งั้นก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะคะคุณน้า นี้คงเป็นทางออกที่ดีแล้วไม่ต้องห่วงหนูนะคะ หนูไม่เป็นไรค่ะ”
“ก็ได้แต่หนูจาร์ต้องอยู่ที่บ้านกับน้าก่อนนะ รอจนกว่าแม่หนูจาร์จะมา”
“ค่ะคุณน้า คุณภูออกไปเถอะค่ะไม่ต้องห่วงนะคะจาร์จะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร” จารุวีย์พูดทั้งที่หัวใจเขาสลายไปหมดแล้วเรื่องแบบนี้ไม่ควรจะเกิดกัับเขาเลยเขารู้สึกเสียใจที่สุดแต่ได้แต่เก็บอาการเพื่อให้ทุกอย่างผ่านไป
ภูริทัตได้เดินออกไปด้วยความรู้สึกผิดที่ทำผิดต่อข้าวฟ่างและจารุวีย์ ในใจของเขาสับสนไปหมดไม่รู้จะทำยังไงแต่เขาก็จำใจที่จะต้องเห็นแก่ตัวเพราะเขารักข้าวฟ่างมานานมากและไม่คิดจะรักใครอีกอีกไม่กี่ดือนเขาจะแต่งงานกันอยู่แล้วเขาไม่อยากให้ข้าวฟ่างต้องผิดหวัง
หลังจากที่ทุกคนออกจากห้องไปจารุวีย์เข่าทรุดลงร้องไห้ด้วยความเสียใจทำไมเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้ทำไมเขาต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ เขาเหมือนคนที่ไม่มีค่าอะไรเลย ไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไรแม่ของเขาจะรู้มั้ยว่าส่งเขามาอยู่ที่นี่เขาต้องทุกข์แค่ไหน..
>>>>>ติดตามตอนต่อไป
หลังจากนั้นวุฒิชัยก็เดินเข้าไปในครัว เขากะจะโชว์ฝีมือการทำอาหารให้เมียเขาดูแต่เมื่อหันกลับไปเมียของเขากับนั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟาไม่เดินตามเขามาเขาเดินกลับไปที่ห้องรับแขกไปยืนอยู่ตรงหน้าผู้เป็นเมีย“ทำไมคุณไม่ตามผมมา” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ข้าวฟ่างถึงกับสะดุ้งและเงยหน้ามอง“ไปไหน” เธอถามเพียงสั้นๆ พร้อมหน้าตาที่งงงวย“ไปครัวไงผมจะโชว์ฝีมือ” เธอได้แต่ถอนหายใจแค่ทำอาหารทำไมต้องให้เธอไปดูด้วย“ทำไมฉันต้องไปด้วยคุณทำมาให้กินเฉยๆ ไม่ได้เหรอ”“ก็ได้นั่งรออยู่นี่แหละ” สิ้นสุดเสียงนั้นหนุ่มหล่อผู้เป็นสามีก็เข้าครัวไปทำอาหารและสักพักก็ถือออกมาให้เมียของเขาทาน ข้าวฟ่างที่นั่งเล่นมือถืออยู่เมื่อได้ยินเสียงวางอาหารเธอก็รีบวางมือถือเพื่อจะชิม“ฉันรอชิมก่อนนะ” สิ้นสุดเสียงเธอก็ใช้ซ้อมตักโดยไม่รอคำตอบจากสามี เมื่ออาหารเข้าปากคำแรกเธอก็ได้รับรสชาติที่แสนอร่อยและไม่คิดว่าเขาจะทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้“เป็นไงบ้าง อร่อยมั้ยครับคุณหนูข้าวฟ่าง” ใบหน้าแห่งความคาดหวังให้เมียชมก็จ้องมองไปที่หน้าของเธอ“ก็ไม่เท่าไหร่นะ ก็พอทานได้ให้สอนคุณทำอาหาร” ต่อให้อาหารจะอร่อยแค่ไหนเธอก็ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียฟอร์ม“งั้นเห
“คุณไปเอารูปผมมาจากไหน” ใบหน้าที่แทบจะเก็บรอยยิ้มของเขาไว้ไม่อยู่ทั้งพูดทั้งมองหน้าเธอ“ในเฟชบุ๊คและไลนฺ์คุณไง เอามาไม่ได้เหรอ”“ก็ได้แต่แค่แปลกใจเฉยๆ ไหนคุณบอกไม่อยากลบรูปเขาไงกลัวไม่มีโอกาสได้ถ่ายอีก” คำพูดของเขาดูนอยๆ แต่ความจริงก็หายโกรธตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้วแหละแค่แกล้งถามไป“พอมาคิดดูๆ แล้วเขาก็แค่อดีตไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับฉันแล้ว ปัจจุบันนี้ต่างหากที่สำคัญ” เธอพูดและส่งรอยยิ้มหวานให้สามีเธอทำให้หัวใจของเขาพองโตยิ้มออกมาด้วยความเขิน“จริงเหรอผมสำคัญกับคุณขนาดนั้นเลยเหรอ”“เปล่าค่ะ ฉันหมายถึงฉันเองต่างหากที่ยืนอยู่ในปัจจุบันควรที่จะเห็นความสำคัญของตัวเองไม่ควรไปยึดติด” คำพูดของเธอกับทำให้เขาโกรธอีกครั้ง เขาเดินหนีไปนั่งที่โซฟาในห้องทำงานของเขาทำให้ข้าวฟ่างเข้าใจในทันทีว่าเขาน้อยใจอีกแล้ว เธอรีบเดินตามเขาไป“คุณเป็นอะไรคะ” หญิงสาวนั่งลงข้างๆ สามีและยื่นหน้าไปถามเขาทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังน้อยใจเธอ“เปล่าครับ”“ฉันล้อเล่น คุณก็สำคัญเหมือนกันนะไม่งั้นฉันไม่มาง้อถึงที่นี่หรอก” ได้ยินแบบนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็กอดไปที่เอวเธออัตโนมัติ และโน้มตัวไปหอมแก้มเธอ“จริงเหรอ”“คุณ
ข้าวฟ่างเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขานั่งนิ่งเงียบและมองหน้าเธอแปลกๆ เธอจึงเอ่ยปากถามเขาด้วยความสงสัย“คุณเป็นอะไรรึเปล่าทำไมมองหน้าฉันแปลกๆ”“เปล่า” สายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของเขาก็แสดงออกมาทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าคำปฏิเสธของเขานั้นต้องมีอะไรแน่ๆ“แน่ใจเหรอคะ” เธอถามทวนเขาอีกรอบเพราะรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเก็บความอึดอัดไว้คนเดียวได้เดี๋ยวก็ต้องบอกความต้องการของเขามา ถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นานแต่เธอมั่นใจว่าเธอรู้จักเขาดีพอ“ผมถามจริงๆ เถอะคุณยังรักคุณภูริทัตอยู่รึป่าว”“คุณถามทำไม”“ผมแค่อยากรู้” บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลกลัวว่าเมียจะยังรักแฟนเก่าอยู่สายตาที่ต้องการคำตอบมองเธอไม่กระพริบสายตา“ฉันไม่รู้แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรแล้ว ไม่แน่ใจว่าไม่รักแล้วรึเปล่า” เธอยังคงสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอาจจะไม่รักแล้วแต่แค่ยังเสียดายเวลาที่ผ่านมาเพราะคบกันมาตั้งหลายปีจะให้ลืมสนิทมันคงเป็นไปได้ยากอาจจะแค่นึกถึงแค่นั้น“คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่รักเขาแล้ว ผมยังเห็นรูปเขาอยู่เต็มโทรศัพท์ของคุณอยู่เลย" เขาแสดงอาการของคนที่ขี้น้อยใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดข้าวฟ่างเธอไม่คิิดว่าผู้ช
“สวัสดีน้ำหวาน” เธอทักทายกลับโดยไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่เธอเหล่ตาไปมองที่ข้างๆ ที่ข้าวฟ่างนั่งเห็นวุฒิชัยก็สะดุดตาในความหล่อเหลาของเขา“ภูไปไหนแล้วละทำไมได้มากับผู้ชายอื่น”“เลิกกันแล้ว”“อุ้ย!ทำไมได้เลิกเหรอเห็นรักกันดีอยู่นะรักกันมาตั้งหลายปีเธอปล่อยภูหลุดมือไปได้ยังไงกันอุส่าแย่งไปจากฉัน”“พูดให้มันดีๆ นะฉันไม่เคยแย่งภูมาจากเธอแต่ภูไม่เคยเป็นของเธอเลยต่างหาก” เธอเงยหน้าขึ้นขิงใส่น้ำหวานอย่างเบื่อหน่ายเพราะน้ำหวานตามราวีเธอไม่เลิกจนไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีนึกว่าเธอจะเลิกแล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิม“อย่าทำมาพูดหน่อยเลย ตอนนี้เป็นไงได้ข่าวว่าภูเขามีลูกมีเมียใหม่แล้วหนิ” เธอพูดเยาะเย้ยใส่ทำให้ข้าวฟ่างโกรธเพราะเหมือนมากรีดแผลใจเธอแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บมากเหมือนเมื่อก่อนอาจเป็นเพราะเธอได้อยู่ใช้ชีวิตกับวุฒิชัยผู้ชายไม่เอาไหนที่เจ้าชู้ไปวันๆ แต่วันนี้เหมือนราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน“มีใหม่แล้วยังไง ฉันก็มีใหม่แล้วเหมือนกันทั้งหล่อรวยเธอละมีปัญญาหาได้สักคนรึยังมาเที่ยวยุ่งเรื่องคนอื่นนี่ ออกไปจากโต๊ะนี่ได้แล้วไปเกะกะลูกตา” เธอเอนหัวไปที่ไหล่ของวุฒิชัยและกอดแขนเขาเพื่อทำใส่น้ำหวานเธอโกรธและ
ข้าวฟ่างยังคงยืนนิ่งกับคำถามของวุฒิชัยอยู่“ขึ้นรถเถอะ”“ตอบผมมาก่อนสิ” สายตาแห่งความคาดหวังมองไปที่หน้าของเธออย่างจริงจังแต่เธอกลับหลบสายตาเขา“ขึ้นรถไปก่อนแล้วฉันจะตอบ” พูดจบขาทั้งสองข้างของเธอก็ก้าวขึ้นรถและยังคงนั่งนิ่งเงียบคิดเรื่องที่เขาถามเธอความสับสนมากมายอยู่ในใจของเธอ“ว่าไงครับ” เขายังคงต้องการคำตอบจากเธออยู่จี้ถามให้เธอตอบ“ฉันไม่รู้เหมือนกัน คุณมันเจ้าชู้ฉันไม่รู้จะเอาคุณอยู่รึเปล่าฉันไม่กล้าเปิดใจเพราะกลัวจะเป็นแบบภูอีก” เธอพูดพร้อมก้มหน้าลง“แต่ผมไม่ใช่เขา ถึงเวลาที่ผมหยุดผมก็หยุดได้ที่ผมทำตัวเจ้าชู้เพราะผมยังไม่เจอคนที่ใช่ แต่ตอนนี้ผมอยากใช้ชีวิตครอบครัวที่มีความสุขกับคุณ” เขาพูดด้วยหน้าตาที่จริงจัง“ฉันยังไม่กล้าเปิดใจกับคุณหรอกพูดจริงๆ นะฉันเข็ดกับความรักจริงๆ” สองสายตาของเธอมองไปที่เขาด้วยความรู้สึกที่ดีแต่เธอกลัวจริงๆ เพราะเขาเจ้าชู้จริงๆ ในขณะที่เธอท้องไปหาเขายังนัวเนียกับผู้หญิงอื่นไปทั่วเลย“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่ไอ้หมอนั้น!” เขาพูดเสียงดังด้วยความเคืองที่เธอเอาแต่นึกถึงภูริทัต“ก็คุณเจ้าชู้ไง ผู้หญิงมาหาคุณไม่ซ้ำหน้าจะให้ฉันเชื่อใจคุณได้ยังไง” เธอพูดออกไปแบบนั้
05 : 20 น.เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายเธอเหมือนมีอะไรมากอดอยู่เมื่อก้มลงมามองดูก็เห็นเป็นแขนของวุฒิชัยที่กำลังกอดเธออยู่เธอรีบลุงขึ้นและแขนของเขากับกอดเธอลงไปนอนอีก“นี่คุณมานอนกอดฉันได้ยังไงกันใครอนุญาตให้กอดไม่ทราบ” เธอหันหน้าไปถามเขาด้วยเสียงดุใส่“ไม่มีอะ ผมอยากกอดก็กอดเลยคุณมีปัญหาเหรอนี่เมียผม” เขาพูดหน้าตาเฉยใส่เธอ“แค่เมียในนามเท่านั้นแหละ ฉันเป็นแค่แม่ของลูกคุณเท่านั้น”“ไม่อ่ะ คุณเป็นเมียผมคืนนั้นยังร่วมรักกันอยู่เลย” สิ้นสุดเสียงนั้นก็มีฝามือเล็กๆ ตีลงที่หน้าอกของเขาโอ้ยยยย!! เสียงที่ทำเขาสะดุ้งอาจไม่เจ็บสักเท่าไหร่แต่ก็แสบไม่น้อย“นี่คุณอย่ามาพูดทะลึงนะ คุณมันชอบฉวยโอกาส” เธอโกรธที่เขาพูดเรื่องนี่หรือเขินก็ไม่แน่ใจ“ใจร้ายจังแค่พูดความจริงก็รับไม่ได้” เขากอดเธอให้แน่นกว่าเดิม ยิ่งเธอทำเหมือนหวงตัวแบบนี้ยิ่งชอบเขาไม่ชอบผู้หญิงง่ายๆ แต่เขาก็เอาเหมือนเดิมแต่กับข้าวฟ่างเขารู้สึกว่ามันน่าค้นหาดีเล่นตัวแบบนี้“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” เธอพูดเสียงแข็งให้เขาเลิกกอดเธอ“ไม่นะ ขอนอนกอดก่อน”เปี๊ยะ!! เสียงตีไปที่หน้าอกเขาอีกรอบ ทำให้เขาคายกอดออกอย่างรวดเร็ว“เอะอะก็ตีเป็นลูกเลี้ยงเ







