LOGINคืนวันศุกร์ ..
“หนูจาร์พรุ่งนี้ไปเที่ยวทะเลกับน้านะ น้าจองโรงแรมไว้แล้ว”
“พรุ่งนี้เหรอคะ จาร์ไม่ไปได้ไหมคะรอคุณแม่มาก่อนค่อยไป”
“ไปเถอะนะน้าจองโรงแรมไว้แล้ว ไปเปิดหูเปิดตา”
“ก็ได้ค่ะคุณน้า ว่าแต่ไปกี่คนคะ?”
“สี่คนจ๊ะ หนูจาร์,น้า และก็พี่ภูกับแฟนเขา”
“อ่อค่ะ พรุ่งนี้เจอกันค่ะคุณน้า กู๊ดไนท์นะคะ” นี่ฉันต้องไปเที่ยวกับพวกเขาจริงๆ เหรอเนี้ยไม่คุ้นชินกับใครเลยถึงเขาจะดีกับฉันก็เถอะ แต่มันก็ไม่คุ้นอยู่ดีเมื่อไหร่นะที่คุณแม่จะรีบมาสักที
ยิ่งฉันต้องไปกับคนที่เหมือนจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าฉันยิ่งอึดอัดไปใหญ่ ทนๆ เอาก่อนละกัน
วันรุ่งขึ้น…
“หนูจาร์เตรียมของเสร็จยัง” ดาราวรรณถามเพราะใกล้ถึงเวลาที่จะไปแล้ว
ส่วนด้านภูริทัตก็ไปรับข้าวฟ่างมาถึงบ้านแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่จารุวีย์ที่ยังไม่ออกจากห้องมาดาราวรรณจึงเดินไปตามสักครู่จาร์ก็ออกจากห้องมา ออกมาด้วยชุดสีชมพูสวยน่ารักยิ่งเป็นคนที่ขาวมากๆ บวกกับตัวเล็กเป็นที่น่าดึงดูดของผู้ชายมาก
แต่แปลกตรงที่ไม่ได้ถูกตาถูกใจกับภูริทัตเลยเพราะในสายตาเขามีแค่ข้าวฟ่างคนเดียว เขาเป็นผู้ชายที่มั่นคงกับความรักมากเขามีแค่รักแรกรักเดียวกับข้าวฟ่างแค่คนเดียว
และเมื่อทุกคนขึ้นรถแล้วรถก็ออกไปซึ่งที่ๆ เขาจะไปก็คือทะเลหัวหิน เขานั่งรถที่บ้านไปซึ่งดาราวรรณได้จองโรงแรมไว้สำหรับสี่ห้องเพราะเขาให้เกียรติข้าวฟ่างที่ยังไม่ได้แต่งงานกับภูริเลยยังไม่ให้นอนด้วยกันแต่อีกไม่นานเขาก็จะแต่งงานกันแล้ว
ถึงทะเลแล้ว
คนขับรถก็เอาของไปเก็บและดาราวรรณก็พาจารุวีย์ไปเดินเล่นที่ริมทะเลคลื่นลมที่ซัดมาเป็นบรรยากาศที่ดีมากจารุวีย์ได้ออกมาแบบนี้ทำให้เธอผ่อนคลายอย่างมากเดินเล่นชิวๆ บนหาดทราย
ส่วนด้านภูริทัตกับข้าวฟ่างก็ไปเดินเล่นอีกมุมหนึ่งแวะทานอาหารเล่นกับ….จนถึงเวลาค่ำๆ ด้านดาราวรรณก็จัดปาร์ตี้สำหรับการต้อนรับจารุวีย์ มีเครื่องดื่มไวน์และเครื่องดื่มอื่นๆ
“หนูจาร์ดื่มไวน์เป็นไหมลูก?”
“ได้นิดหน่อยค่ะ แต่ไม่ค่อยถนัด” จารุวีย์เคยดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆ ของเขาตอนอยู่ที่เมืองนอกแต่ดื่มไม่ค่อยเก่งเวลาเมาแล้วจะไม่ค่อยมีสติ
“วันนี้น้าสั่งมาให้หนูดื่มเพื่อฉลองเป็นการต้อนรับหนูนะ แต่น้าดื่มไม่เป็นเท่าไหร่แต่คิดว่าหนูเป็นวัยรุ่นน่าจะชอบเลยจัดปาร์ตี้นี้มา”
“ได้ค่ะคุณน้า”
ด้านข้าวฟ่างแอบน้อยใจว่าจาร์เป็นใครกันนะทำไมคุณแม่ถึงคอยตามใจขนาดนี้
“ภูคะ น้องจาร์นี้ใครเหรอคะ?” ข้าวฟ่างกระชิบถาม
“อ่อเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่ผมครับ แม่เธอฝากให้มาอยู่ที่บ้าน2เดือนเดี๋ยวแม่เธอตามมาจากเมืองนอก” ข้าวฟ่างได้ยินแบบนั้นก็ไม่สบายใจเพราะเธอเองก็รักภูริมากเหมือนกันกลัวว่าภูริจะหวั่นไหวเพราะจารุวีย์ทั้งสวยและน่ารักขนาดนั้นแต่เธอก็เก็บไว้คนเดียวเพราะก็กลัวว่าพูดไปจะทำให้ภูริลำบากใจ
เมื่อทุกคนดื่มไวน์อย่างสนุกสนานดาราวรรณก็ง่วงนอนและขอตัวไปนอนก่อน
“แม่ขอตัวไปนอนก่อนนะ ฝากภูแต่ข้าวดูแลน้องจาร์ด้วย”
“ได้ครับได้ค่ะแม่” ภูริและข้าวฟ่างตอบ
ด้านจาร์ก็เริ่มเมามากจนเริ่มไม่มีสติแล้วจึงขอตัวไปนอน ข้าวฟ่างก็เลยไปนอนพร้อมกับกับจาร์เพราะห้องอยู่ข้างๆ กัน ส่วนภูริทัตยังคงดื่มต่อ
และเมื่อภูริทัตเริ่มเมามากจนไม่ได้สติแล้วและเริ่มอยากนอนกับข้าวฟ่่างแต่ก็เข้าห้องผิดเข้าไปในห้องของจารุวีย์ ด้านในห้องก็มืดๆ และจารุวีย์ก็เมามากภูริทัตลงไปนอนกอดและมีอะไรกันกับจารุวีย์และหลับไปพร้อมกัน
#ตอนเช้า…
ก็อกๆๆ!!!!เสียงเคาะ
“ตาภูตื่นรึยังลูก?” เสียงของดาราวรรณถาม..ถามอยู่หลายรอบแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับเลยลองเปิดประตูเข้าไปแต่ก็ไม่พบภูริทัต
เลยเดินไปห้องของจารุวีย์
ก็อกๆๆ!!เสียงประตูห้องจารุวีย์ดังขึ้น
“หนูจาร์ตื่นรึยังลูก”
“…” ไม่มีเสียงตอบรับเพราะเพลียมากนอนดึก
“น้าขอเสียมารยาทเข้าไปนะ”
เสียงประตูเปิดออก….
“ตายแล้ว!!!! อะไรกันนี่”
ติดตามตอนต่อไป……
หลังจากนั้นวุฒิชัยก็เดินเข้าไปในครัว เขากะจะโชว์ฝีมือการทำอาหารให้เมียเขาดูแต่เมื่อหันกลับไปเมียของเขากับนั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟาไม่เดินตามเขามาเขาเดินกลับไปที่ห้องรับแขกไปยืนอยู่ตรงหน้าผู้เป็นเมีย“ทำไมคุณไม่ตามผมมา” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ข้าวฟ่างถึงกับสะดุ้งและเงยหน้ามอง“ไปไหน” เธอถามเพียงสั้นๆ พร้อมหน้าตาที่งงงวย“ไปครัวไงผมจะโชว์ฝีมือ” เธอได้แต่ถอนหายใจแค่ทำอาหารทำไมต้องให้เธอไปดูด้วย“ทำไมฉันต้องไปด้วยคุณทำมาให้กินเฉยๆ ไม่ได้เหรอ”“ก็ได้นั่งรออยู่นี่แหละ” สิ้นสุดเสียงนั้นหนุ่มหล่อผู้เป็นสามีก็เข้าครัวไปทำอาหารและสักพักก็ถือออกมาให้เมียของเขาทาน ข้าวฟ่างที่นั่งเล่นมือถืออยู่เมื่อได้ยินเสียงวางอาหารเธอก็รีบวางมือถือเพื่อจะชิม“ฉันรอชิมก่อนนะ” สิ้นสุดเสียงเธอก็ใช้ซ้อมตักโดยไม่รอคำตอบจากสามี เมื่ออาหารเข้าปากคำแรกเธอก็ได้รับรสชาติที่แสนอร่อยและไม่คิดว่าเขาจะทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้“เป็นไงบ้าง อร่อยมั้ยครับคุณหนูข้าวฟ่าง” ใบหน้าแห่งความคาดหวังให้เมียชมก็จ้องมองไปที่หน้าของเธอ“ก็ไม่เท่าไหร่นะ ก็พอทานได้ให้สอนคุณทำอาหาร” ต่อให้อาหารจะอร่อยแค่ไหนเธอก็ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียฟอร์ม“งั้นเห
“คุณไปเอารูปผมมาจากไหน” ใบหน้าที่แทบจะเก็บรอยยิ้มของเขาไว้ไม่อยู่ทั้งพูดทั้งมองหน้าเธอ“ในเฟชบุ๊คและไลนฺ์คุณไง เอามาไม่ได้เหรอ”“ก็ได้แต่แค่แปลกใจเฉยๆ ไหนคุณบอกไม่อยากลบรูปเขาไงกลัวไม่มีโอกาสได้ถ่ายอีก” คำพูดของเขาดูนอยๆ แต่ความจริงก็หายโกรธตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้วแหละแค่แกล้งถามไป“พอมาคิดดูๆ แล้วเขาก็แค่อดีตไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับฉันแล้ว ปัจจุบันนี้ต่างหากที่สำคัญ” เธอพูดและส่งรอยยิ้มหวานให้สามีเธอทำให้หัวใจของเขาพองโตยิ้มออกมาด้วยความเขิน“จริงเหรอผมสำคัญกับคุณขนาดนั้นเลยเหรอ”“เปล่าค่ะ ฉันหมายถึงฉันเองต่างหากที่ยืนอยู่ในปัจจุบันควรที่จะเห็นความสำคัญของตัวเองไม่ควรไปยึดติด” คำพูดของเธอกับทำให้เขาโกรธอีกครั้ง เขาเดินหนีไปนั่งที่โซฟาในห้องทำงานของเขาทำให้ข้าวฟ่างเข้าใจในทันทีว่าเขาน้อยใจอีกแล้ว เธอรีบเดินตามเขาไป“คุณเป็นอะไรคะ” หญิงสาวนั่งลงข้างๆ สามีและยื่นหน้าไปถามเขาทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังน้อยใจเธอ“เปล่าครับ”“ฉันล้อเล่น คุณก็สำคัญเหมือนกันนะไม่งั้นฉันไม่มาง้อถึงที่นี่หรอก” ได้ยินแบบนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็กอดไปที่เอวเธออัตโนมัติ และโน้มตัวไปหอมแก้มเธอ“จริงเหรอ”“คุณ
ข้าวฟ่างเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขานั่งนิ่งเงียบและมองหน้าเธอแปลกๆ เธอจึงเอ่ยปากถามเขาด้วยความสงสัย“คุณเป็นอะไรรึเปล่าทำไมมองหน้าฉันแปลกๆ”“เปล่า” สายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของเขาก็แสดงออกมาทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าคำปฏิเสธของเขานั้นต้องมีอะไรแน่ๆ“แน่ใจเหรอคะ” เธอถามทวนเขาอีกรอบเพราะรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเก็บความอึดอัดไว้คนเดียวได้เดี๋ยวก็ต้องบอกความต้องการของเขามา ถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นานแต่เธอมั่นใจว่าเธอรู้จักเขาดีพอ“ผมถามจริงๆ เถอะคุณยังรักคุณภูริทัตอยู่รึป่าว”“คุณถามทำไม”“ผมแค่อยากรู้” บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลกลัวว่าเมียจะยังรักแฟนเก่าอยู่สายตาที่ต้องการคำตอบมองเธอไม่กระพริบสายตา“ฉันไม่รู้แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรแล้ว ไม่แน่ใจว่าไม่รักแล้วรึเปล่า” เธอยังคงสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอาจจะไม่รักแล้วแต่แค่ยังเสียดายเวลาที่ผ่านมาเพราะคบกันมาตั้งหลายปีจะให้ลืมสนิทมันคงเป็นไปได้ยากอาจจะแค่นึกถึงแค่นั้น“คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่รักเขาแล้ว ผมยังเห็นรูปเขาอยู่เต็มโทรศัพท์ของคุณอยู่เลย" เขาแสดงอาการของคนที่ขี้น้อยใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดข้าวฟ่างเธอไม่คิิดว่าผู้ช
“สวัสดีน้ำหวาน” เธอทักทายกลับโดยไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่เธอเหล่ตาไปมองที่ข้างๆ ที่ข้าวฟ่างนั่งเห็นวุฒิชัยก็สะดุดตาในความหล่อเหลาของเขา“ภูไปไหนแล้วละทำไมได้มากับผู้ชายอื่น”“เลิกกันแล้ว”“อุ้ย!ทำไมได้เลิกเหรอเห็นรักกันดีอยู่นะรักกันมาตั้งหลายปีเธอปล่อยภูหลุดมือไปได้ยังไงกันอุส่าแย่งไปจากฉัน”“พูดให้มันดีๆ นะฉันไม่เคยแย่งภูมาจากเธอแต่ภูไม่เคยเป็นของเธอเลยต่างหาก” เธอเงยหน้าขึ้นขิงใส่น้ำหวานอย่างเบื่อหน่ายเพราะน้ำหวานตามราวีเธอไม่เลิกจนไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีนึกว่าเธอจะเลิกแล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิม“อย่าทำมาพูดหน่อยเลย ตอนนี้เป็นไงได้ข่าวว่าภูเขามีลูกมีเมียใหม่แล้วหนิ” เธอพูดเยาะเย้ยใส่ทำให้ข้าวฟ่างโกรธเพราะเหมือนมากรีดแผลใจเธอแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บมากเหมือนเมื่อก่อนอาจเป็นเพราะเธอได้อยู่ใช้ชีวิตกับวุฒิชัยผู้ชายไม่เอาไหนที่เจ้าชู้ไปวันๆ แต่วันนี้เหมือนราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน“มีใหม่แล้วยังไง ฉันก็มีใหม่แล้วเหมือนกันทั้งหล่อรวยเธอละมีปัญญาหาได้สักคนรึยังมาเที่ยวยุ่งเรื่องคนอื่นนี่ ออกไปจากโต๊ะนี่ได้แล้วไปเกะกะลูกตา” เธอเอนหัวไปที่ไหล่ของวุฒิชัยและกอดแขนเขาเพื่อทำใส่น้ำหวานเธอโกรธและ
ข้าวฟ่างยังคงยืนนิ่งกับคำถามของวุฒิชัยอยู่“ขึ้นรถเถอะ”“ตอบผมมาก่อนสิ” สายตาแห่งความคาดหวังมองไปที่หน้าของเธออย่างจริงจังแต่เธอกลับหลบสายตาเขา“ขึ้นรถไปก่อนแล้วฉันจะตอบ” พูดจบขาทั้งสองข้างของเธอก็ก้าวขึ้นรถและยังคงนั่งนิ่งเงียบคิดเรื่องที่เขาถามเธอความสับสนมากมายอยู่ในใจของเธอ“ว่าไงครับ” เขายังคงต้องการคำตอบจากเธออยู่จี้ถามให้เธอตอบ“ฉันไม่รู้เหมือนกัน คุณมันเจ้าชู้ฉันไม่รู้จะเอาคุณอยู่รึเปล่าฉันไม่กล้าเปิดใจเพราะกลัวจะเป็นแบบภูอีก” เธอพูดพร้อมก้มหน้าลง“แต่ผมไม่ใช่เขา ถึงเวลาที่ผมหยุดผมก็หยุดได้ที่ผมทำตัวเจ้าชู้เพราะผมยังไม่เจอคนที่ใช่ แต่ตอนนี้ผมอยากใช้ชีวิตครอบครัวที่มีความสุขกับคุณ” เขาพูดด้วยหน้าตาที่จริงจัง“ฉันยังไม่กล้าเปิดใจกับคุณหรอกพูดจริงๆ นะฉันเข็ดกับความรักจริงๆ” สองสายตาของเธอมองไปที่เขาด้วยความรู้สึกที่ดีแต่เธอกลัวจริงๆ เพราะเขาเจ้าชู้จริงๆ ในขณะที่เธอท้องไปหาเขายังนัวเนียกับผู้หญิงอื่นไปทั่วเลย“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่ไอ้หมอนั้น!” เขาพูดเสียงดังด้วยความเคืองที่เธอเอาแต่นึกถึงภูริทัต“ก็คุณเจ้าชู้ไง ผู้หญิงมาหาคุณไม่ซ้ำหน้าจะให้ฉันเชื่อใจคุณได้ยังไง” เธอพูดออกไปแบบนั้
05 : 20 น.เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายเธอเหมือนมีอะไรมากอดอยู่เมื่อก้มลงมามองดูก็เห็นเป็นแขนของวุฒิชัยที่กำลังกอดเธออยู่เธอรีบลุงขึ้นและแขนของเขากับกอดเธอลงไปนอนอีก“นี่คุณมานอนกอดฉันได้ยังไงกันใครอนุญาตให้กอดไม่ทราบ” เธอหันหน้าไปถามเขาด้วยเสียงดุใส่“ไม่มีอะ ผมอยากกอดก็กอดเลยคุณมีปัญหาเหรอนี่เมียผม” เขาพูดหน้าตาเฉยใส่เธอ“แค่เมียในนามเท่านั้นแหละ ฉันเป็นแค่แม่ของลูกคุณเท่านั้น”“ไม่อ่ะ คุณเป็นเมียผมคืนนั้นยังร่วมรักกันอยู่เลย” สิ้นสุดเสียงนั้นก็มีฝามือเล็กๆ ตีลงที่หน้าอกของเขาโอ้ยยยย!! เสียงที่ทำเขาสะดุ้งอาจไม่เจ็บสักเท่าไหร่แต่ก็แสบไม่น้อย“นี่คุณอย่ามาพูดทะลึงนะ คุณมันชอบฉวยโอกาส” เธอโกรธที่เขาพูดเรื่องนี่หรือเขินก็ไม่แน่ใจ“ใจร้ายจังแค่พูดความจริงก็รับไม่ได้” เขากอดเธอให้แน่นกว่าเดิม ยิ่งเธอทำเหมือนหวงตัวแบบนี้ยิ่งชอบเขาไม่ชอบผู้หญิงง่ายๆ แต่เขาก็เอาเหมือนเดิมแต่กับข้าวฟ่างเขารู้สึกว่ามันน่าค้นหาดีเล่นตัวแบบนี้“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” เธอพูดเสียงแข็งให้เขาเลิกกอดเธอ“ไม่นะ ขอนอนกอดก่อน”เปี๊ยะ!! เสียงตีไปที่หน้าอกเขาอีกรอบ ทำให้เขาคายกอดออกอย่างรวดเร็ว“เอะอะก็ตีเป็นลูกเลี้ยงเ