“พี่ราล์ฟขา ค่อยๆ พูดกันก็ได้ค่ะ อย่าใช้ความรุนแรงกับพี่ไอด้าสิคะ เธอเจ็บแล้วนะคะนั่น ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงนะคะ ปล่อยเธอเถอะ” แพรวพิชชาเห็นแล้วอดที่จะสงสารไม่ได้ เลยช่วยพูดให้พี่ชายเธออารมณ์เย็นลง
“พี่จะเห็นแก่คำพูดของน้องแพรว แต่ไม่ได้หมายความว่าพี่เห็นใจอารดาหรอกนะ” ราฟาเอลปล่อยมือออก เพียงคำพูดเห็นใจผู้อื่นของน้องน้อย เขาก็ยอมทำตามแต่โดยดี เพราะไม่อยากให้คิดมาก อารดารีบจับคางของตัวเองเอาไว้ทันทีเมื่อได้รับอิสระจากอุ้งมือใหญ่ที่แข็งราวกับคีมเหล็ก
“แค่ก แค่ก” อารดาไอจนหน้าแดงเมื่อราฟาเอลปล่อย
“กลับไปได้แล้วอารดาที่นี่ไม่ต้อนรับเธอ อย่าทำให้ความอดทนของฉันต่ำลงไปมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่เดือดร้อนคนเดียว ฉันจะทำให้พ่อของเธอเดือดร้อนไปด้วย หากเวลานั้นมาถึงสาวสังคมอย่างเธอคงไม่มีที่ยืนให้คนชื่นชม หรือเยินยออีกต่อไป คิดดูดีๆ ว่าอย่างสบายต่อไปหรืออยากลองลิ้มรสความลำบากบ้าง ชีวิตจะได้มีสีสันมากกว่าเดิม” เสียงเข้มเอ่ยเรียบนิ่งแต่หนักแน่น ไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องมานั่งรักษาภาพพจน์ให้ตัวเองดูดีกับผู้หญิงทุกคน โดยเฉพาะกับคนที่พูดไม่รู้เรื่องอย่างอารดา ไม่ใช่จะข่มขู่ให้หวาดกลัว แต่เขาจะทำอย่างที่ลั่นวาจาจริงๆหากยังไม่หยุดตอแย
“คุณห้ามทำอย่างที่พูดนะราล์ฟ ฉันอยู่ไม่ได้หากไม่มีเงินให้ใช้ ต่อไปฉันจะไม่มายุ่งกับคุณอีก ฉันไม่อยากเอาอนาคตมาเสี่ยงกับคนอย่างคุณอีกแล้วราฟาเอล ขอให้แก่ตายไปกับทรัพย์สมบัติของตัวเองเถอะ ไอ้ผู้ชายเฮงซวย! พ่อฉันไม่น่าหลวมตัวมาทำธุรกิจกับซาตานอย่างคุณเลย” อารดาพูดเสียงกร้าว แม้จะหวาดหวั่นไม่น้อยไม่พูดออกไปอย่างนั้น แต่ก็ยังเชิดหน้าขึ้นอย่างอวดดีก่อนจะกระแทกเท้าเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองอีก
“อย่ามานึกเสียดายเธอทีหลังนะคะพี่ราล์ฟ เพราะดูท่าแล้วงานนี้พี่ไอด้าคงไม่มาตามตื๊อพี่อีกแล้วแน่ๆ” แพรวพิชชาเย้ายิ้มๆ หลังจากสาวสวยพี่มาชอบพอพี่ชายจากไป
“ไม่มาตอแยอีกแล้วก็ดีน่ะสิ ตลอดหลายปีมานี้พี่ใจดีกับอารดามากจนเกินไป ถึงเวลาที่จะต้องกำจัดตัวน่ารำคาญออกไปให้พ้นๆจากชีวิตสักที และต่อไปนี้ก็หวังว่าจะไม่ต้องมาทนเห็นความน่ารำคาญของอารดาอีก” ราฟาเอลพูดอย่างสบายๆ
“รู้ตัวไหมว่าเมื่อกี้พี่ราล์ฟโหดขนาดไหน” แพรวพิชชาพึมพำ ลุกขึ้นยืนบนโซฟา ยกแขนขึ้นคล้องลำคอหนา โน้มใบหน้าเข้าไปหาหน้าเรียบนิ่งติดจะเย็นชาอย่างพิจารณา
“หน้าพี่มีอะไรติดอย่างงั้นเหรอ ถึงจ้องไม่วางตาเลย” ราฟาเอลยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองอย่างสงสัย
“มีความน่ากลัวติดอยู่ค่ะ” แพรวพิชชาแกล้งกระซิบเสียงเบาราวกับกลัวว่าใครจะได้ยิน ราฟาเอลส่ายหน้าให้กับความช่างแกล้งของคนตรงหน้า
“ถึงพี่จะร้ายหรือดูไม่ได้ในสายตาของใครๆ แต่คนเดียวที่พี่ไม่เคยอยากจะทำร้ายมีแต่เรานะน้องแพรว รู้ใช่ไหม” ราฟาเอลพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“แพรวรู้ค่ะ รู้ว่าพี่ราล์ฟรักและหวังดีกับแพรวเสมอมา ตั้งแต่วันที่เราได้อยู่ด้วยกันวันแรกจนถึงตอนนี้ แพรวเองก็รักพี่ราล์ฟ รักมากที่สุดในโลกเลยค่ะ” แพรวพิชชายิ้มจนตาเป็นรูปสระอิ กระชับท่อนแขนเล็กกับคอหนา คนถูกบอกรักอมยิ้มอย่างสุขใจ รวบเอวคอดกิ่วให้แนบชิดกับลำตัวมากขึ้น
“พี่ก็รักน้องแพรวมากที่สุดเหมือนกัน” รักมากจนไม่อยากจะให้ใครหน้าไหนมายุ่ง แค่คิดว่าจะโดนแย่งความรักและอ้อมแขนเล็กๆ ที่คอยกอดเขาแบบนี้ไป ก็แทบจะทนไม่ได้แล้ว
“อื้อ พี่ราล์ฟกอดแพรวแน่นเกินไปแล้วนะคะ” มือบางทุบไหล่หนา เมื่อแรงกอดรัดมันแน่นมากจนเกินไป
“ขอโทษที เวลากอดน้องแพรวแล้วพี่ชอบลืมตัวทุกที” ราฟาเอลคลายอ้อมแขนออก
“เป็นอะไรคะ ทำหน้าเครียดอีกแล้ว หรือว่าพี่ราล์ฟกำลังคิดหาวิธีกำจัดผู้หญิงคนอื่นอีก” แพรวพิชชาพูดติดตลก
“พี่แค่คิดอะไรนิดหน่อย ไม่ได้จะกำจัดใครสักหน่อย พูดไปเรื่อยเลยเรา น้องแพรวดูหนังต่อเถอะ พี่จะไปทำงานต่อแล้ว”ราฟาเอลจับมือนุ่มออก แล้วจูบลงที่กลางฝ่ามือบาง
“ก็ได้ค่ะ” แพรวพิชชาไม่เซ้าซี้ต่อ หอมแก้มสากฟอดใหญ่ ก่อนจะปล่อยให้ราฟาเอลกลับไปทำงานต่ออย่างที่เขาต้องการ
ราฟาเอลกลับมานั่งจมกับความคิดของตัวเอง เห็นทีงานนี้เขาต้องรีบทำอะไรสักอย่างแล้ว กลัวว่าหากทำอะไรชักช้าจนเกินไปจะโดนใครไม่รู้มาชิงตัดหน้าเอาน้องน้อยของเขาไปจากอ้อมอก หากเป็นอย่างนั้นเขาคงต้องบ้าตายแน่ อุตส่าห์เฝ้าทะนุถนอมมาตั้งนมนาน เพื่อรอวันที่แพรวพิชชาพร้อมที่จะเป็นของเขาทั้งตัวและหัวใจด้วยความสมัครใจ
ภายใต้ใบหน้าเคร่งเครียดที่แสนจะคุ้นชิน มันไม่สามารถทำให้รู้ได้ว่าเขากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ ถ้าหากว่าไม่เล่าจะไม่มีใครรู้ความนึกคิดของพี่ชายเธอได้เลย แพรวพิชชามองหนังที่กำลังฉายอยู่บนหน้าจอทีวีไม่ค่อยจะรู้เรื่องสักเท่าไหร่ เพราะคอยแต่จะลอบมองคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานอยู่บ่อยๆ
ห้องทำงานตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งเพราะแพรวพิชชาดูหนังจบแล้ว และตอนนี้ก็กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร โซฟาตัวหรูยวบลงเมื่อราฟาเอลทิ้งตัวลงนั่ง สายตาคมเข้มทอดมองใบหน้าจิ้มลิ้มนิ่ง ไล่สายตามายังริมฝีปากเป็นกระจับสวยสีชมพูสด มันเหมือนมีแรงดึงดูให้เขาโน้มใบหน้าลงไป จนกระทั่งปากของเขาแตะที่เรียวปากบาง
“พี่ขอชื่นใจหน่อยนะ”
ราฟาเอลพึมพำชิดกลีบปากนุ่ม แล้วค่อยๆ ละเลียดอย่างเชื่องช้า ไม่ได้ส่งลิ้นเข้าไปสำรวจความหวานฉ่ำในโพรงปากเล็ก พอเห็นว่าร่างเล็กขยุกขยิกเลยจำใจละริมฝีปากออก ใช้มือเกลี่ยที่หน้าผากเนี่ยนที่มีผมหน้าม้าบางๆ ปกคลุมอยู่ แล้วจรดจมูกโด่งลงไปหอม จัดท่าทางการนอนให้สบายขึ้นแล้วคลี่ผ้าห่มผืนหนาที่เดินไปเอาจากห้องนอน ที่อยู่ภายในห้องทำงานออกมาให้น้องน้อยได้คลุมกายแก้หนาวจากแอร์เย็นจัด
พอราฟาเอลเดินจากไป คนที่เขาคิดว่าหลับก็ลืมตาขึ้นมา นิ้วเรียวสวยแตะที่ริมฝีปากของตัวเอง จริงๆเธอรู้สึกตัวตั้งแต่เขานั่งลงแล้ว แต่ที่ไม่ยอมลืมตาขึ้นมา เพราะต้องการจะแกล้งให้ตกใจเล่น ไม่คิดว่าเขาจะจูบเธอแบบนี้ ตอนนี้หัวสมองน้อยๆ ของเธอครุ่นคิดอย่างหนัก และไม่มีความกล้าพอที่จะถามออกไปตรงๆ เพราะเหตุการณ์นี้ทำให้ใจเธอเต้นจนแทบจะทะลุออกมานอกอก
แพรวพิชชานอนหน้านิ่วคิ้วขมวดพลิกตัวไปมาบนที่นอน โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกจับจ้องอยู่ ราฟาเอลยิ้มในหน้าเมื่อคาดเดาได้ว่าน้องสาวนอกไส้คงจะรู้ว่าเขาได้ทำอะไรลงไป
“ว่างกันมากใช่ไหม ถึงมีเวลามานั่งโพสต์อะไรบ้าๆ ลงอินเทอร์เน็ตช่อผกา คุณป้าขจี” เสียงเข้มห้วนถามผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า อย่างมีอารมณ์กรุ่นโกรธ“พี่ราล์ฟอย่ามาใส่ร้ายผกากับคุณแม่นะคะ ของแบบนี้ใครจะโพสต์ใครจะพิมพ์ก็ได้ คนร้อยพ่อพันแม่มีสิทธิ์เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละค่ะ อยู่ๆก็มากล่าวหากันลอยๆ ไม่คิดว่าเกินไปหน่อยเหรอคะ” ช่อผกายกแขนขึ้นกอดอก แล้วเบ้ปาก“ไหนล่ะหลักฐานที่ว่าป้ากับผกาเป็นคนทำ มีหรือแค่ปรักปรำตาราล์ฟ และที่ให้คนไปพาตัวป้ากับน้องมาจากเชียงใหม่กระทันหัน เราสองคนยังไม่ว่าอะไรเธอเลย ฉันก็นึกว่าจะมาขอโทษขอโพย เรื่องบาดหมางก่อนหน้านี้ แต่ที่ไหนได้ให้มาเพราะคิดว่าเราสองคนแม่ลูกเป็นคนใส่ร้ายป้ายสีเมียตัวเอง เสียแรงที่รักเหมือนลูกในไส้” คุณขจีพูดจบก็เชิดหน้าบึ้งๆ ของตัวเองขึ้น“แบรท โรม เอาหลักฐานให้เขาดูสิ จะได้เลิกพูดว่าฉันกล่าวหาเสียที” ราฟาเอลสั่งเสียงดัง“นี่ครับคุณผู้หญิง สมัยนี้เขาตรวจสอบคนโพสต์สิ่งต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตได้ครับ มันไม่ได้เป็นความลับอะไรหากจะดูชื่อคนโพสต์หมิ่นประมาท หรือใส่ร้ายเรื่องที่ไม่จริง” โรมวางเอกสารพร้อมกับชี้แจงเสียงดังฟังชัด“ไม่จริง! แกสองคนมันมั่วไอ
ราฟาเอลเดินมาหยุดยืนข้างเตียงนอน สายตาอ่อนโยนจับจ้องอยู่ที่ร่างของเมียขี้เซา ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งตรงขอบเตียง จากนั้นก็เริ่มลากฝ่ามือลูบไล้กายเปลือยเปล่าที่อยู่ภายใต้ผ้านวมผืนหนา เขาต้องการจะปลุกมากกว่าการลวนลามจริงๆ จังๆ ตอนนี้เขาอยู่ในชุดเตรียมพร้อมจะออกไปทำงานแล้ว หากแกล้งมากเกินไปอาจจะต้องถอดเสื้อผ้าออก แล้วลงไปคลุกเคล้าคนหลับแน่ๆ ฝ่ายแพรวพิชชาแม้จะโดนลูบหนักมือก็ยังไม่ยอมตื่นจากนิทรา เรื่องนี้จะโทษใครไม่ได้นอกจากตัวต้นเหตุ เพราะกว่าจะยอมให้เมียพักผ่อนได้ก็ดึกโข กว่าจะนอนก็เข้าวันใหม่แทบทุกวัน“น้องแพรวจ๋า” เสียงทุ้มกระซิบเรียกชิดใบหูขาว พลางสูดดมความหอมของกลุ่มผมนุ่มเป้าปอด“ขา” แพรวพิชชาตอบรับเสียงแผ่ว งัวเงียเต็มที่ แล้วพลิกตัวนอนตะแคงข้างหนีการรุกราน“ตื่นมาส่งพี่ไปทำงานก่อนเร็วคนดี พี่ไม่อยากออกไปทั้งที่น้องแพรวหลับ” ราฟาเอลช้อนร่างอ่อนเปลี้ยขึ้นจากที่นอนให้มานั่งบนตักตนเอง แพรวพิชชานั้นก็ไม่ยอมตื่นง่ายๆ นั่งพิงแผงอกกว้าง แล้วหลับตานิ่งอยู่อย่างนั้น“พี่ราล์ฟจะไปทำงานแล้วเหรอคะ ทำไมรีบไปจังเลย” คนขี้เซาเบียดกายเข้าหา กอดรัดลำตัวหนาเอาไว้แน่น แล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองใบหน้าหล่อเ
“แกว่าฉันพิมพ์แบบนี้มันดูดียังวะ ต้องเพิ่มเติมอะไรอีกรึเปล่า” โรมถามเพื่อนที่กำลังยุ่งกับการทำคอม“ไหนเอามาอ่าน” แบรทกระดิกนิ้วขอดู สายตาก็ไม่ได้ละออกจากโน้ตบุ๊คส่วนตัวแม้แต่น้อย“อ่ะ แกช่วยดูหน่อย” โรมส่งโทรศัพท์ให้กับแบรทได้ช่วยวิเคราะห์ในสิ่งที่ตัวเองพิมพ์ลงไป“ยินดีกับเจ้านายสุดที่รักด้วยครับ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ข่าวเม้าท์ใส่สีตีไข่ด้วยความอิจฉาของสาวนางหนึ่งไม่เป็นความจริงสักนิด ตื่นเถอะครับตื่น เห็นชัดไหมใบทะเบียนสมรส หลักฐานชิ้นนี้ยืนยันว่าคุณหนูของเราไม่ได้เป็นเมียเก็บเจ้านายแต่อย่างใด ทั้งสองคนรักกันมากจนคนรอบข้างแทบจะสำลักความหวานตาย ที่ว่าเมียเก็บน่ะ ถ้าจะเก็บเพราะความหวงเมียอันนี้เรื่องจริงไม่อิงนิยาย มีเมียสวยก็ต้องหวงอยากเก็บไว้ดูคนเดียว รักมากหวงมากเข้าใจป่ะครับ อ๊ะๆ แถมให้อีกนิด เพราะกลัวจะมีคนบอกว่าจดทะเบียนแล้วทำไมไม่แต่งงาน รอฤกษ์งามยามดีสิครับคุณไม่น่าถาม”“โอเคแล้ว จะว่าไปแกมั่นใจเรื่องเพศของตัวเองนะ ไม่สับสนอะไรใช่ไหม” แบรทส่งโทรศัพท์คืนแล้วถามโรมอย่างจริงจัง“แกหมายความว่าไงวะถึงถามฉันแบบนั้น อธิบายให้กระจ่างหน่อยไม่เข้าใจ”“ก็คำพูดคำจาที่แกใช้พิมพ์เหมือนกับผู
“พี่ราล์ฟขาเราควรจะอยู่เฉยจริงๆ เหรอคะ ใครก็ไม่รู้เอาเรื่องของแพรวไปโพสต์ในทางเสียๆ หายๆ ถึงแพรวจะไม่ได้เป็นคนดังเหมือนพวกดารา แต่เรื่องแบบนี้คนมักจะชอบนำไปแชร์ต่อ และวิจารณ์กันในทางเสียหายโดยที่เขาไม่ทราบความจริงนะคะ พี่ราล์ฟอย่าเอาแต่ยิ้มได้ไหมคะ แพรวจริงจังนะเนี่ย” ใบหน้าจิ้มลิ้มยุ่งลงเมื่อพูดและคิดถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น หากช้องนางไม่โทรมาเล่าให้ฟังเธอก็คงจะยังไม่รู้ว่ามีผู้ไม่หวังดีโจมตี จากที่ว่าจะไม่ติดใจอะไร แต่ตอนนี้เธอขอกลับคำพูดละกัน“แล้วน้องแพรวอยากจะให้พี่ทำอะไรกับเขาคนนั้นล่ะ คิดไว้ในใจหรือยัง” ราฟาเอลถามอย่างใจเย็น“เท่าที่คิดไว้ก็แค่อยากจะโชว์ทะเบียนสมรสกับถ่ายรูปหวานๆ ของเรา ประกาศให้รู้ว่าเรารักกันมากแค่ไหน ไม่ได้เป็นเมียเก็บอะไรสักหน่อย พี่ราล์ฟอาจจะคิดว่าความคิดของแพรวเด็กๆ ซึ่งแพรวก็ไม่เถียงหรอกค่ะ เพราะตอนนี้คิดได้แค่นี้”“พี่ไม่เห็นว่าความคิดของเมียพี่จะเด็กเลย พี่พร้อมจะถ่ายรูปแล้ว น้องแพรวอยากได้หวานมากแค่ไหนบัญชามาได้เลย จะกอดจะจูบจะหอมได้หมด” ราฟาเอลยันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ผมยุ่งนิดๆ อย่างเป็นธรรมชาติเพราะไม่ได้จัดทรง“พี่ราล์ฟหล่อจัง แพรวชักไม่อยากให้
แพรวพิชชาก้มลงมองแผ่นกระดาษในมือนิ่ง รอยยิ้มหวานแต่งแต้มอยู่ที่มุมปาก ความตื่นเต้นยังไม่จางหายไปไหน ก่อนหน้านั้นเธอยังเป็นนางสาวแพรวพิชชาอยู่เลย เพียงแค่ไม่กี่นาทีคำนำหน้าชื่อก็กลายเป็นนาง เสี้ยววินาทีที่จรดปลายปากกามันทั้งตื่นเต้นและอิ่มเอมใจไปพร้อมๆ กัน แม้จะรู้ตัวว่าต้องมีวันนี้เพราะคนข้างตัวคงไม่มีทางยอมให้เธอผลัดไปได้นาน แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเมื่อเช้าที่พี่ราล์ฟปลุกให้เธอตื่น อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เขาก็รีบพาออกจากบ้านโดยไม่ได้บอกว่าจะไปที่ใด จนกระทั่งมาถึงเธอจึงได้รับคำตอบ“เลิกมองได้แล้วมั้งนางแพรวพิชชา บารานอฟ จ้องไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอกจ้ะ น้องแพรวต้องใช้นามสกุลนี้ทั้งชีวิต ใช้แล้วใช้เลยไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนเข้าใจไหมครับ” ราฟาเอลพูดอย่างอารมณ์ดี เพราะเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายหมาดๆ ไม่ยอมละสายตาจากใบทะเบียนสมรสเลย“เข้าใจค่ะ แพรวมองเพื่อย้ำกับตัวเองว่ามันคือเรื่องจริงไม่ใช่ความฝันค่ะ พี่ราล์ฟเล่นพามาไม่บอกไม่กล่าวก่อนเลย พอมาถึงก็บอกเราถึงเวลาที่จะจดทะเบียนกันได้แล้ว ถามจริงคิดมาก่อนไหมคะเรื่องในวันนี้น่ะ” แพรวพิชชาเอาใบสำคัญใส่ซองเอกสาร เสียบไว้ในกระเป๋าถือที่วางไว้ข้างตัว แล้วเอียงต
“คุณราล์ฟนี่ตามใจเมียจังเลยนะคะ น่ารักจัง” แต่คนถูกชมก็ไม่ได้ยิ้มดีใจ ทำหน้านิ่งเหมือนไม่รับรู้“ไปชมมันทำไมดา ไอ้นี่มันโหดจะตาย ดีแค่ไหนแล้วที่มันเกรงใจเมีย แต่กับคนอื่นมันไม่สนใครหรอกนะจะบอกให้ มันไม่น่ารักเท่าผมหรอก” ไรอันขยิบตาใส่สาว“อยากมีคนดูแลเอาใจใส่แบบนี้บ้างจัง มิกิไม่เห็นห่วงผมแบบนี้เลย” ไรอันอ้อนสาวข้างตัว“คุณไม่ต้องเลิกขาดหรอกค่ะไรอัน ชีวิตคนเราต้องมีสีสันสิคะ คุณมีสังคม เรื่องดื่มมันปกติค่ะ” มิกิลูบแก้มไรอัน“จริงของคุณ ผมคงทำตามไอ้ราล์ฟมันไม่ได้” ตอเรสเงยหน้าขึ้นแล้วยักไหล่ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่หากมีครอบครัวหรือเจอคนที่พร้อมจะหยุดทุกอย่าง เขาก็อาจจะเพลาๆ ของพวกนี้ลงได้“คุณแพรวไม่คิดว่าตัวเองทำเกินไปเหรอคะ” มิกิปรายตามองหน้าแพรวพิชชานิดๆ ตอนถาม“ทำเกินไปไหม แพรวคิดว่าไม่นะคะคุณมิกิ เพราะถ้าเรารักใคร เราย่อมห่วงใยเขาในทุกๆ เรื่อง เราทำเรื่องดีทำไมจะต้องคิดอะไรให้มากมายด้วย ถ้าคุณมิกิรักใครจริงๆ ก็คงจะเข้าใจ แต่ถ้ายังไม่เคยรักใครจริงๆ จังๆ ก็จะไม่มีวันรู้หรอกค่ะ ถึงได้บอกให้เขาใช้ชีวิตแบบเดิมต่อไป” แพรวพิชชาตอบนิ่มๆ หน้าตายิ้มแย้ม มือก็ลูบศีรษะสามีเล่น ทำเอาคนถามถึงกับสะอึ
แพรวพิชชาสะดุ้งตื่นขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังแว่วเข้ามาภายในห้องนอน ความเหนื่อย เมื่อยล้า ที่เกิดจากกิจกรรมฉันท์สามีภรรยาก่อนหน้าเริ่มหายไป หลังจากได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอหลายชั่วโมง ก้มลงมองที่หน้าอกก็เห็นว่าราฟาเอลยังคงหลับสนิทอยู่ คิ้วเรียวขมวดพันกันจนยุ่ง ปกติพี่ราล์ฟของเธอเป็นคนมีประสาทการได้ยินดีจะตาย เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ได้ยิน คิดดังนั้นก็ใช้มือดันศีรษะที่ซุกซบกับอกของเธอออก เพื่อจะได้เดินไปดูว่าใครกันที่มาเล่นสนุก แต่ก็ไปไม่ได้เพราะสามีสุดที่รักไม่ยอม กอดก่ายเอาไว้ทั้งตัว แถมยังฝังใบหน้าลงมากลางอกแน่นอีก“พี่ราล์ฟ ปล่อยแพรวก่อนค่ะ อย่ารัดแน่นสิคะ แพรวจะลุกจากเตียง อื้อ” ฝ่ามือนุ่มฟาดที่ท่อนแขนกำยำ เมื่อไม่มีทีท่าว่าจะได้ลุกขึ้นตามที่ต้องการ“จะลุกไปไหน พี่ยังไม่อยากตื่นเลย นอนกอดกันต่อเถอะ” น้ำเสียงของราฟาเอลงัวเงีย เปลือกตายังคงปิดสนิท งึมงำกับอกอวบที่ใช้หนุนนอนแทนหมอน“ยังไม่อยากตื่นก็นอนต่อสิคะ แพรวแค่จะเดินไปดูตรงหน้าต่าง ไม่ได้จะไปไหนไกลสักหน่อย”“ไม่ต้องสนใจหรอกคงเป็นเสียงสาวๆ ของไอ้พวกนั้น มันคงพามาเล่นน้ำตรงลำธาร”“รู้ดีจัง พี่ราล์ฟล่ะคะ เคยพาใครมา
“แพรวรักพี่ราล์ฟนะคะ” เสียงหวานติดจะเขินอายพูดเบาๆ“รักแบบที่พี่ราล์ฟรักแพรว” แพรวพิชชากระซิบ ช้อนสายตามองคนตรงหน้าแล้วยิ้มกว้าง“ในที่สุดพี่ก็ได้ฟังคำบอกรักที่ไม่ใช่ในฐานะพี่ชายเสียที หลังจากรอมานาน”ราฟาเอลยิ้มเต็มใบหน้า ปากร้อนก็จูบไปทั่วดวงหน้าสวยแทบทุกตารางนิ้ว อกหนั่นแน่นสั่นกระเพื่อมเพราะเขาหัวเราะไปด้วย รอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของเขา ทำให้แพรวพิชชาเคลิ้มไปด้วย เพราะไม่บ่อยนักที่พี่ราล์ฟของเธอจะเป็นแบบนี้“พี่ราล์ฟยิ้มและหัวเราะแบบนี้บ่อยๆ นะคะ แพรวชอบรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะของพี่ราล์ฟ”“พี่จะทำตามคำขอนั้นนะ แต่ต้องหลังจากที่เราช่วยกันทำลูก” การบอกรักผ่านทางร่างกายในวันนี้ ได้รับความร่วมมือจากแพรวพิชชาเป็นอย่างดี มีทั้งอ่อนหวาน นุ่มนวล ไปจนถึงร้อนแรงจนร่างกายแทบมอดไหม้ราฟาเอลขับเคลื่อนสะโพกเข้าใส่ร่างกายของเมียไม่ยั้ง แม้พื้นที่จะคับแคบไปสักหน่อย แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความต้องการที่โหมกระพือขึ้นเรื่อยๆ ได้ แพรวพิชชาก็ตอบสนองความต้องการของสามีได้เป็นอย่างดี เขาชักจูงให้ไปทางไหน ก็พร้อมใจที่จะทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอน เร่าร้อนพอๆกัน“อื้ม ดีจังค่ะ” แพรวพิชชาในตอนนี้อยู่ใน
เมื่อตัวขัดขวางไม่มีแล้ว ราฟาเอลก็รีบอุ้มเมียเข้าไปในบ้านทันที ปิดประตูลงกลอนไม่ต้อนรับใคร เสื้อผ้าเสื้อผ่อนหลุดลุ่ยออกจากร่างกาย ไม่รอให้เสียเวลาแม้แต่นิดเดียว“ว้าย! พี่ราล์ฟอย่าใจร้อนสิคะ ทำอย่างกับไม่เคยไปได้” แพรวพิชชาหวีดร้องเมื่อเสื้อชั้นในถูกกระชากออก เหลือเพียงกางเกงขาสั้นสีขาวที่ยังคงติดกายอยู่“น้องแพรวให้พี่อดกลั้นมาหลายวันแล้วนะ ถึงเวลาที่พี่จะทำตามใจตัวเองบ้างแล้ว” ราฟเอลแตะริมฝีปากที่ไหล่เปล่าเปลือย พลางดันหลังบางให้เดินไปที่หน้าโซฟากลางบ้านกายบางถูกจับหมุนให้หันมาเผชิญหน้ากับราฟาเอล เพื่อรับจุมพิตอันดูดดื่ม ท่อนแขนเรียวยกขึ้นเกาะกอดเอวสอบโดยอัตโนมัติ ส่งเสียงครางอืออาอยู่ในลำคอ ต้อนรับความอุ่นซ่านของเรียวลิ้นหนาด้วยความเต็มใจ“อือ” ใบหน้างามนิ่วลง เมื่อถูกบีบบี้ยอดอก ปลายเล็บจิกลงบนสะโพกหนาอย่างลืมตัวปลายนิ้วโป้งและนิ้วชี้ทั้งสองข้างทำหน้าที่ให้ความสุข ดึงเคล้นกับยอดทรวงสีสวย ไหล่บางห่อลงเรื่อยๆเมื่อโดนจู่โจมหนักมือขึ้น หว่างคิ้วก็ย่นเข้าหากัน ปากก็แลกจูบกันไม่มีถอย นานเข้าราฟาเอลก็ไล่ปากลงมาตามแนวคาง ลำคอระหงหอมกรุ่น ไหปลาร้านูน กลางอกอวบ จากนั้นก็งับเข้าที่ยอดสั่นร