ร่างบางในชุดเดรสแขนกุดตัวสวยลายดอกกุหลาบสีชมพูสดเดินควงแขนพี่ชายในชุดสูทสีดำสนิทสุดหรูเข้ามาในบริษัท ด้วยเพราะไม่อยากอยู่บ้านเลยขอตามมา โดยมีแบรทกับโรมเดินตามมาห่างๆ พนักงานที่ยกมือขึ้นทำความเคารพราฟาเอลลอบมองแพรวพิชชาอย่างสนใจ จนคนถูกมองอดที่จะประหม่าไม่ได้เลยต้องชวนคนข้างกายคุย
“พวกเขาต้องคิดว่าแพรวเป็นแฟนพี่ราล์ฟแน่เลยค่ะ ดูสิมองกันใหญ่เลย สงสัยจะจำแพรวกันไม่ได้” แพรวพิชชาพูดติดตลกอย่างไม่ได้คิดอะไร ต่างกับราฟาเอลที่ใช้หางตามองน้องสาวนอกไส้ยิ้มๆ และปรับสีหน้าเรียบนิ่งเหมือนเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“จะมองก็ปล่อยให้เขามองไปเถอะ ใครจะคิดอะไรยังไงเราห้ามไม่ได้หรอก และก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งอธิบายความสัมพันธ์ของเราให้ใครเข้าใจ” ราฟาเอลมองมือที่เกาะแขนเขาเอาไว้ ก่อนจะปลดมือบางออก แล้วเขาฝ่ายเป็นโอบเอวคอดกิ่วแทน แบรทกับโรมที่เดินตามหลังมาต่างมองสบตากัน และยักคิ้วให้กันอย่างรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
“ค่ะ” แพรวพิชชายิ้มหวานไม่ได้โต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น
ราฟาเอลพาร่างบางมานั่งที่โซฟาภายในห้องทำงานหรูหรา ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และสิ่งที่ทำให้แพรวพิชชาไม่ชอบเอามากๆ ก็คือบาร์เครื่องดื่มขนาดกระทัดรัด ซึ่งมันไม่มีความจำเป็นอะไรเลยที่จะต้องมาอยู่ในนี้เลยสักนิด
“เข้ามาในห้องทำงานพี่ทีไรหน้างอทุกทีเลยน้องแพรว ผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่เปลี่ยนจริงๆ ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นสาวเลย” ราฟาเอลยิ้มในหน้า ยกมือโยกศีรษะเล็กอย่างเอ็นดู รู้ถึงสาเหตุว่าทำไมน้องสาวนอกไส้ที่เขาไม่เคยนับว่าเป็นน้องมาตั้งนานแล้ว
“ก็แพรวไม่ชอบที่พี่ราล์ฟเอาเหล้ามาไว้ในนี้นี่คะ ไม่รู้ว่าวันๆ ดื่มกี่แก้ว อยู่ใกล้มือขนาดนี้จะอดใจได้ยังไงกัน” แพรวพิชชามองค้อนพี่ชาย ปากก็ขมุบขมิบไม่หยุด ที่บ่นก็เพราะว่าห่วงสุขภาพของเขา แต่ก็ไม่รู้ว่าราฟาเอลจะรับรู้ความห่วงใยของเธอรึเปล่า
ราฟาเอลยิ้มน้อยๆ ก้าวเข้าไปประชิดร่างบางของคนที่บ่นเขาด้วยหัวใจแช่มชื่น ประคองไหล่กลมกลึงเอาไว้หลวมๆ
“ไม่ต้องมากอดเลย” แพรวพิชชาสะบัดหน้าหนีอย่างแง่งอน กอดอกทำท่าประท้วงกลายๆ
“พี่ไม่ค่อยได้ดื่มแล้ว เพราะกลัวคนแถวนี้จะบ่นพี่จนหูชาหากว่าเป็นอะไรไป” เขาเป็นอย่างที่พูดจริงๆ เพราะทุกครั้งที่คุยกันน้องน้อยของเขาจะย้ำอยู่เสมอว่าอย่าดื่มเยอะ จนเขาปฏิบัติตามคำพูดกึ่งสั่งนั้นโดยอัตโนมัติ เรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้ดื่มเลยดีกว่า
“แน่นะคะ ไม่ใช่ว่าพูดเพื่อให้แพรวเลิกบ่น” แพรวพิชชาหรี่ตามองอย่างจับผิด
“โกหกแล้วพี่จะได้อะไรล่ะ หืม” คนอย่างเขาไม่มีคำว่าโกหกอยู่แล้ว ตรงไปตรงมาในทุกๆเรื่องไม่เว้นแม้แต่ความรู้สึก
“ถ้าพี่ราล์ฟยืนยันแพรวก็เชื่อค่ะ ถ้างั้นท่านประธานใหญ่ของบารานอฟก็ทำงานได้แล้วค่ะ แพรวจะนั่งรออยู่ที่โซฟา หรือถ้ามีอะไรให้ช่วยบอกได้เลยนะคะ แพรวยินดีช่วยพี่ราล์ฟทุกอย่างค่ะ” แพรวพิชชาแกะมือที่โอบบ่าเธอเอาไว้ออก แล้วจูงมือใหญ่ไปส่งยังโต๊ะทำงาน
“นั่งดูหนัง ฟังเพลงไปก่อนนะน้องแพรว พี่ขอเวลาเคลียร์งานก่อน เสร็จแล้วจะได้ออกไปหาอะไรอร่อยๆ ทาน” แพรวพิชชาพยักหน้า หมุนตัวเดินออกมายังมุมส่วนตัวของห้องทำงานใหญ่ที่มีทีวีจอขนาดยักษ์ และเครื่องให้ความบันเทิงอีกหลายอย่างแทน
ระหว่างที่ราฟาเอลตั้งหน้าตั้งตาทำงาน แพรวพิชชานั่งดูภาพยนตร์ฝรั่ง จู่ ๆ ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดเข้ามาโดยพลการไร้เสียงแจ้งจากเลขาหน้าห้อง สองหนุ่มสาวที่ต่างอยู่ในโลกของตัวเองพลันเงยหน้าขึ้นมองแทบจะพร้อมกัน
“พี่ไอด้า” แพรวพิชชาเอ่ยชื่อของผู้บุกรุกอย่างไม่ใคร่จะพอใจเท่าไหร่
“น้องแพรว กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ ว่าแต่กลับมาวันไหนล่ะ” สาวสวยหุ่นนางแบบนามว่าไอด้าถามเสียงอ่อนหวาน เอียงใบหน้าสวยเฉี่ยวมองคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาอย่างสำรวจอย่างตระหนี่ถี่ถ้วน
“แพรวเพิ่งจะกลับมาถึงเมื่อวานนี้เองค่ะ” แพรวพิชชาตอบสั้นๆ เพราะไม่รู้ว่าจะคุยอะไรด้วย แต่ไม่ใช่สำหรับราฟาเอล
“มาทำไมอารดา บอกแล้วไงว่าฉันไม่ชอบให้คนนอกมายุ่งวุ่นวาย ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เธอจะมาเดินเล่นตามใจชอบได้”ราฟาเอลพูดด้วยน้ำเสียงห้วนจัดบ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจอย่างที่พูดจริงๆ ร่างสูงสมาร์ทลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานมาหยุดยืนจ้องใบหน้าเฉี่ยวด้วยสายตาดุดัน
แพรวพิชชามองคนทั้งคู่อย่างสนใจ จริงๆ แล้วเธอก็ไม่ได้ชอบอารดาเลยสักนิดเดียว แม้จะเคยเจอหน้ากันเพียงไม่กี่ครั้งก็ตาม ดีแล้วที่พี่ชายของเธอไม่หลวมตัวไปชอบคนอย่างนี้ อยู่ต่อหน้าราฟาเอลก็จะทำเป็นว่ารักและเอ็นดูเธอ หน้าไหว้หลังหลอกแบบนี้ใครจะไปชอบลง
“ไอด้าไม่ได้มาเดินเล่นสักหน่อย แค่คิดถึงคุณเลยมาหากะว่าจะมาชวนออกไปหาอะไรทานตอนกลางวันด้วยกัน ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอน้องแพรวที่นี่ พาน้องแพรวไปด้วยกันนะคะ” อารดายิ้มหวาน เข้าไปเกาะแขนแกร่งอย่างออดอ้อนออเซาะ บดเบียดร่างกายเข้าหาอย่างยั่วยวน แต่ในเวลาไม่ถึงนาทีก็ต้องเซถลาจนเกือบจะเสียการทรงตัว เพราะโดนราฟาเอลผลักออกอย่างไม่ใยดี
“ราล์ฟ!” เสียงฉุนเฉียวตะคอกเรียกชื่อชายหนุ่ม
“อย่าเอามือเธอมาโดนตัวฉันไอด้า” ราฟาเอลพูดเสียงเย็น
“ทำไมคุณต้องรุนแรงกับไอด้าด้วยคะ ไอดาเป็นแฟนคุณนะคะราล์ฟ อีกอย่างไอด้าเป็นลูกสาวของคนที่คุณร่วมลงทุนในโครงการคอนโดหรูมากมายทั่วกรุงเทพเลยนะ หากคุณพ่อรู้ว่าคุณปฏิบัติตัวกับไอด้าแบบนี้มันจะไม่เป็นผลดีกับตัวคุณเองนะราฟาเอล” อารดาหยิบยกบิดาขึ้นมาอ้าง เพื่อหวังให้ราฟาเอลฉุกคิดขึ้นมาแล้วทำดีกับเธอ
“ฉันไม่เคยตกลงเป็นแฟนกับเธอนะไอด้า อย่ามาทึกทักเอาเอง ฉันว่าฉันพูดเรื่องนี้กับเธอมาหลายรอบแล้วนะ นอนกับเธอฉันยังไม่เคยคิดอยากจะนอนด้วยเลย หยุดคิดเองเออเองได้แล้วอารดา ฉันกับพ่อเธอแค่ทำธุรกิจร่วมกัน อย่าได้ริอาจใช้ความคุ้นเคยระหว่างฉันกับพ่อเธอเป็นบันไดในการเข้าหาฉัน ทุเรศสิ้นดีพูดมาได้ยังไงว่าฉันเป็นแฟนกับเธอ การลงทุนทำธุรกิจไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องเอาเธอมาทำเมียด้วย พูดกันตามหลักแล้วเงินฉันมีมากกว่าพ่อเธอมากมายหลายเท่า ไม่จำเป็นจะต้องง้อให้ใครร่วมทุนด้วยเลย พอเธอต่างหากที่เดินมาขอฉันเอง” ไม่ทันตั้งตัวราฟาเอลก็คว้าคางของไฮโซสาวแล้วบีบแน่น แววตาดุดันจ้องหน้างามเขม็ง
“ปล่อยไอด้านะราล์ฟ มันเจ็บ!” อารดาหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด พยายามจะแกะมือหนาออกแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะสู้แรงที่มีมากกว่าไม่ไหว
“ว่างกันมากใช่ไหม ถึงมีเวลามานั่งโพสต์อะไรบ้าๆ ลงอินเทอร์เน็ตช่อผกา คุณป้าขจี” เสียงเข้มห้วนถามผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า อย่างมีอารมณ์กรุ่นโกรธ“พี่ราล์ฟอย่ามาใส่ร้ายผกากับคุณแม่นะคะ ของแบบนี้ใครจะโพสต์ใครจะพิมพ์ก็ได้ คนร้อยพ่อพันแม่มีสิทธิ์เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละค่ะ อยู่ๆก็มากล่าวหากันลอยๆ ไม่คิดว่าเกินไปหน่อยเหรอคะ” ช่อผกายกแขนขึ้นกอดอก แล้วเบ้ปาก“ไหนล่ะหลักฐานที่ว่าป้ากับผกาเป็นคนทำ มีหรือแค่ปรักปรำตาราล์ฟ และที่ให้คนไปพาตัวป้ากับน้องมาจากเชียงใหม่กระทันหัน เราสองคนยังไม่ว่าอะไรเธอเลย ฉันก็นึกว่าจะมาขอโทษขอโพย เรื่องบาดหมางก่อนหน้านี้ แต่ที่ไหนได้ให้มาเพราะคิดว่าเราสองคนแม่ลูกเป็นคนใส่ร้ายป้ายสีเมียตัวเอง เสียแรงที่รักเหมือนลูกในไส้” คุณขจีพูดจบก็เชิดหน้าบึ้งๆ ของตัวเองขึ้น“แบรท โรม เอาหลักฐานให้เขาดูสิ จะได้เลิกพูดว่าฉันกล่าวหาเสียที” ราฟาเอลสั่งเสียงดัง“นี่ครับคุณผู้หญิง สมัยนี้เขาตรวจสอบคนโพสต์สิ่งต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตได้ครับ มันไม่ได้เป็นความลับอะไรหากจะดูชื่อคนโพสต์หมิ่นประมาท หรือใส่ร้ายเรื่องที่ไม่จริง” โรมวางเอกสารพร้อมกับชี้แจงเสียงดังฟังชัด“ไม่จริง! แกสองคนมันมั่วไอ
ราฟาเอลเดินมาหยุดยืนข้างเตียงนอน สายตาอ่อนโยนจับจ้องอยู่ที่ร่างของเมียขี้เซา ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งตรงขอบเตียง จากนั้นก็เริ่มลากฝ่ามือลูบไล้กายเปลือยเปล่าที่อยู่ภายใต้ผ้านวมผืนหนา เขาต้องการจะปลุกมากกว่าการลวนลามจริงๆ จังๆ ตอนนี้เขาอยู่ในชุดเตรียมพร้อมจะออกไปทำงานแล้ว หากแกล้งมากเกินไปอาจจะต้องถอดเสื้อผ้าออก แล้วลงไปคลุกเคล้าคนหลับแน่ๆ ฝ่ายแพรวพิชชาแม้จะโดนลูบหนักมือก็ยังไม่ยอมตื่นจากนิทรา เรื่องนี้จะโทษใครไม่ได้นอกจากตัวต้นเหตุ เพราะกว่าจะยอมให้เมียพักผ่อนได้ก็ดึกโข กว่าจะนอนก็เข้าวันใหม่แทบทุกวัน“น้องแพรวจ๋า” เสียงทุ้มกระซิบเรียกชิดใบหูขาว พลางสูดดมความหอมของกลุ่มผมนุ่มเป้าปอด“ขา” แพรวพิชชาตอบรับเสียงแผ่ว งัวเงียเต็มที่ แล้วพลิกตัวนอนตะแคงข้างหนีการรุกราน“ตื่นมาส่งพี่ไปทำงานก่อนเร็วคนดี พี่ไม่อยากออกไปทั้งที่น้องแพรวหลับ” ราฟาเอลช้อนร่างอ่อนเปลี้ยขึ้นจากที่นอนให้มานั่งบนตักตนเอง แพรวพิชชานั้นก็ไม่ยอมตื่นง่ายๆ นั่งพิงแผงอกกว้าง แล้วหลับตานิ่งอยู่อย่างนั้น“พี่ราล์ฟจะไปทำงานแล้วเหรอคะ ทำไมรีบไปจังเลย” คนขี้เซาเบียดกายเข้าหา กอดรัดลำตัวหนาเอาไว้แน่น แล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองใบหน้าหล่อเ
“แกว่าฉันพิมพ์แบบนี้มันดูดียังวะ ต้องเพิ่มเติมอะไรอีกรึเปล่า” โรมถามเพื่อนที่กำลังยุ่งกับการทำคอม“ไหนเอามาอ่าน” แบรทกระดิกนิ้วขอดู สายตาก็ไม่ได้ละออกจากโน้ตบุ๊คส่วนตัวแม้แต่น้อย“อ่ะ แกช่วยดูหน่อย” โรมส่งโทรศัพท์ให้กับแบรทได้ช่วยวิเคราะห์ในสิ่งที่ตัวเองพิมพ์ลงไป“ยินดีกับเจ้านายสุดที่รักด้วยครับ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ข่าวเม้าท์ใส่สีตีไข่ด้วยความอิจฉาของสาวนางหนึ่งไม่เป็นความจริงสักนิด ตื่นเถอะครับตื่น เห็นชัดไหมใบทะเบียนสมรส หลักฐานชิ้นนี้ยืนยันว่าคุณหนูของเราไม่ได้เป็นเมียเก็บเจ้านายแต่อย่างใด ทั้งสองคนรักกันมากจนคนรอบข้างแทบจะสำลักความหวานตาย ที่ว่าเมียเก็บน่ะ ถ้าจะเก็บเพราะความหวงเมียอันนี้เรื่องจริงไม่อิงนิยาย มีเมียสวยก็ต้องหวงอยากเก็บไว้ดูคนเดียว รักมากหวงมากเข้าใจป่ะครับ อ๊ะๆ แถมให้อีกนิด เพราะกลัวจะมีคนบอกว่าจดทะเบียนแล้วทำไมไม่แต่งงาน รอฤกษ์งามยามดีสิครับคุณไม่น่าถาม”“โอเคแล้ว จะว่าไปแกมั่นใจเรื่องเพศของตัวเองนะ ไม่สับสนอะไรใช่ไหม” แบรทส่งโทรศัพท์คืนแล้วถามโรมอย่างจริงจัง“แกหมายความว่าไงวะถึงถามฉันแบบนั้น อธิบายให้กระจ่างหน่อยไม่เข้าใจ”“ก็คำพูดคำจาที่แกใช้พิมพ์เหมือนกับผู
“พี่ราล์ฟขาเราควรจะอยู่เฉยจริงๆ เหรอคะ ใครก็ไม่รู้เอาเรื่องของแพรวไปโพสต์ในทางเสียๆ หายๆ ถึงแพรวจะไม่ได้เป็นคนดังเหมือนพวกดารา แต่เรื่องแบบนี้คนมักจะชอบนำไปแชร์ต่อ และวิจารณ์กันในทางเสียหายโดยที่เขาไม่ทราบความจริงนะคะ พี่ราล์ฟอย่าเอาแต่ยิ้มได้ไหมคะ แพรวจริงจังนะเนี่ย” ใบหน้าจิ้มลิ้มยุ่งลงเมื่อพูดและคิดถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น หากช้องนางไม่โทรมาเล่าให้ฟังเธอก็คงจะยังไม่รู้ว่ามีผู้ไม่หวังดีโจมตี จากที่ว่าจะไม่ติดใจอะไร แต่ตอนนี้เธอขอกลับคำพูดละกัน“แล้วน้องแพรวอยากจะให้พี่ทำอะไรกับเขาคนนั้นล่ะ คิดไว้ในใจหรือยัง” ราฟาเอลถามอย่างใจเย็น“เท่าที่คิดไว้ก็แค่อยากจะโชว์ทะเบียนสมรสกับถ่ายรูปหวานๆ ของเรา ประกาศให้รู้ว่าเรารักกันมากแค่ไหน ไม่ได้เป็นเมียเก็บอะไรสักหน่อย พี่ราล์ฟอาจจะคิดว่าความคิดของแพรวเด็กๆ ซึ่งแพรวก็ไม่เถียงหรอกค่ะ เพราะตอนนี้คิดได้แค่นี้”“พี่ไม่เห็นว่าความคิดของเมียพี่จะเด็กเลย พี่พร้อมจะถ่ายรูปแล้ว น้องแพรวอยากได้หวานมากแค่ไหนบัญชามาได้เลย จะกอดจะจูบจะหอมได้หมด” ราฟาเอลยันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ผมยุ่งนิดๆ อย่างเป็นธรรมชาติเพราะไม่ได้จัดทรง“พี่ราล์ฟหล่อจัง แพรวชักไม่อยากให้
แพรวพิชชาก้มลงมองแผ่นกระดาษในมือนิ่ง รอยยิ้มหวานแต่งแต้มอยู่ที่มุมปาก ความตื่นเต้นยังไม่จางหายไปไหน ก่อนหน้านั้นเธอยังเป็นนางสาวแพรวพิชชาอยู่เลย เพียงแค่ไม่กี่นาทีคำนำหน้าชื่อก็กลายเป็นนาง เสี้ยววินาทีที่จรดปลายปากกามันทั้งตื่นเต้นและอิ่มเอมใจไปพร้อมๆ กัน แม้จะรู้ตัวว่าต้องมีวันนี้เพราะคนข้างตัวคงไม่มีทางยอมให้เธอผลัดไปได้นาน แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเมื่อเช้าที่พี่ราล์ฟปลุกให้เธอตื่น อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เขาก็รีบพาออกจากบ้านโดยไม่ได้บอกว่าจะไปที่ใด จนกระทั่งมาถึงเธอจึงได้รับคำตอบ“เลิกมองได้แล้วมั้งนางแพรวพิชชา บารานอฟ จ้องไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอกจ้ะ น้องแพรวต้องใช้นามสกุลนี้ทั้งชีวิต ใช้แล้วใช้เลยไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนเข้าใจไหมครับ” ราฟาเอลพูดอย่างอารมณ์ดี เพราะเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายหมาดๆ ไม่ยอมละสายตาจากใบทะเบียนสมรสเลย“เข้าใจค่ะ แพรวมองเพื่อย้ำกับตัวเองว่ามันคือเรื่องจริงไม่ใช่ความฝันค่ะ พี่ราล์ฟเล่นพามาไม่บอกไม่กล่าวก่อนเลย พอมาถึงก็บอกเราถึงเวลาที่จะจดทะเบียนกันได้แล้ว ถามจริงคิดมาก่อนไหมคะเรื่องในวันนี้น่ะ” แพรวพิชชาเอาใบสำคัญใส่ซองเอกสาร เสียบไว้ในกระเป๋าถือที่วางไว้ข้างตัว แล้วเอียงต
“คุณราล์ฟนี่ตามใจเมียจังเลยนะคะ น่ารักจัง” แต่คนถูกชมก็ไม่ได้ยิ้มดีใจ ทำหน้านิ่งเหมือนไม่รับรู้“ไปชมมันทำไมดา ไอ้นี่มันโหดจะตาย ดีแค่ไหนแล้วที่มันเกรงใจเมีย แต่กับคนอื่นมันไม่สนใครหรอกนะจะบอกให้ มันไม่น่ารักเท่าผมหรอก” ไรอันขยิบตาใส่สาว“อยากมีคนดูแลเอาใจใส่แบบนี้บ้างจัง มิกิไม่เห็นห่วงผมแบบนี้เลย” ไรอันอ้อนสาวข้างตัว“คุณไม่ต้องเลิกขาดหรอกค่ะไรอัน ชีวิตคนเราต้องมีสีสันสิคะ คุณมีสังคม เรื่องดื่มมันปกติค่ะ” มิกิลูบแก้มไรอัน“จริงของคุณ ผมคงทำตามไอ้ราล์ฟมันไม่ได้” ตอเรสเงยหน้าขึ้นแล้วยักไหล่ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่หากมีครอบครัวหรือเจอคนที่พร้อมจะหยุดทุกอย่าง เขาก็อาจจะเพลาๆ ของพวกนี้ลงได้“คุณแพรวไม่คิดว่าตัวเองทำเกินไปเหรอคะ” มิกิปรายตามองหน้าแพรวพิชชานิดๆ ตอนถาม“ทำเกินไปไหม แพรวคิดว่าไม่นะคะคุณมิกิ เพราะถ้าเรารักใคร เราย่อมห่วงใยเขาในทุกๆ เรื่อง เราทำเรื่องดีทำไมจะต้องคิดอะไรให้มากมายด้วย ถ้าคุณมิกิรักใครจริงๆ ก็คงจะเข้าใจ แต่ถ้ายังไม่เคยรักใครจริงๆ จังๆ ก็จะไม่มีวันรู้หรอกค่ะ ถึงได้บอกให้เขาใช้ชีวิตแบบเดิมต่อไป” แพรวพิชชาตอบนิ่มๆ หน้าตายิ้มแย้ม มือก็ลูบศีรษะสามีเล่น ทำเอาคนถามถึงกับสะอึ
แพรวพิชชาสะดุ้งตื่นขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังแว่วเข้ามาภายในห้องนอน ความเหนื่อย เมื่อยล้า ที่เกิดจากกิจกรรมฉันท์สามีภรรยาก่อนหน้าเริ่มหายไป หลังจากได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอหลายชั่วโมง ก้มลงมองที่หน้าอกก็เห็นว่าราฟาเอลยังคงหลับสนิทอยู่ คิ้วเรียวขมวดพันกันจนยุ่ง ปกติพี่ราล์ฟของเธอเป็นคนมีประสาทการได้ยินดีจะตาย เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ได้ยิน คิดดังนั้นก็ใช้มือดันศีรษะที่ซุกซบกับอกของเธอออก เพื่อจะได้เดินไปดูว่าใครกันที่มาเล่นสนุก แต่ก็ไปไม่ได้เพราะสามีสุดที่รักไม่ยอม กอดก่ายเอาไว้ทั้งตัว แถมยังฝังใบหน้าลงมากลางอกแน่นอีก“พี่ราล์ฟ ปล่อยแพรวก่อนค่ะ อย่ารัดแน่นสิคะ แพรวจะลุกจากเตียง อื้อ” ฝ่ามือนุ่มฟาดที่ท่อนแขนกำยำ เมื่อไม่มีทีท่าว่าจะได้ลุกขึ้นตามที่ต้องการ“จะลุกไปไหน พี่ยังไม่อยากตื่นเลย นอนกอดกันต่อเถอะ” น้ำเสียงของราฟาเอลงัวเงีย เปลือกตายังคงปิดสนิท งึมงำกับอกอวบที่ใช้หนุนนอนแทนหมอน“ยังไม่อยากตื่นก็นอนต่อสิคะ แพรวแค่จะเดินไปดูตรงหน้าต่าง ไม่ได้จะไปไหนไกลสักหน่อย”“ไม่ต้องสนใจหรอกคงเป็นเสียงสาวๆ ของไอ้พวกนั้น มันคงพามาเล่นน้ำตรงลำธาร”“รู้ดีจัง พี่ราล์ฟล่ะคะ เคยพาใครมา
“แพรวรักพี่ราล์ฟนะคะ” เสียงหวานติดจะเขินอายพูดเบาๆ“รักแบบที่พี่ราล์ฟรักแพรว” แพรวพิชชากระซิบ ช้อนสายตามองคนตรงหน้าแล้วยิ้มกว้าง“ในที่สุดพี่ก็ได้ฟังคำบอกรักที่ไม่ใช่ในฐานะพี่ชายเสียที หลังจากรอมานาน”ราฟาเอลยิ้มเต็มใบหน้า ปากร้อนก็จูบไปทั่วดวงหน้าสวยแทบทุกตารางนิ้ว อกหนั่นแน่นสั่นกระเพื่อมเพราะเขาหัวเราะไปด้วย รอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของเขา ทำให้แพรวพิชชาเคลิ้มไปด้วย เพราะไม่บ่อยนักที่พี่ราล์ฟของเธอจะเป็นแบบนี้“พี่ราล์ฟยิ้มและหัวเราะแบบนี้บ่อยๆ นะคะ แพรวชอบรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะของพี่ราล์ฟ”“พี่จะทำตามคำขอนั้นนะ แต่ต้องหลังจากที่เราช่วยกันทำลูก” การบอกรักผ่านทางร่างกายในวันนี้ ได้รับความร่วมมือจากแพรวพิชชาเป็นอย่างดี มีทั้งอ่อนหวาน นุ่มนวล ไปจนถึงร้อนแรงจนร่างกายแทบมอดไหม้ราฟาเอลขับเคลื่อนสะโพกเข้าใส่ร่างกายของเมียไม่ยั้ง แม้พื้นที่จะคับแคบไปสักหน่อย แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความต้องการที่โหมกระพือขึ้นเรื่อยๆ ได้ แพรวพิชชาก็ตอบสนองความต้องการของสามีได้เป็นอย่างดี เขาชักจูงให้ไปทางไหน ก็พร้อมใจที่จะทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอน เร่าร้อนพอๆกัน“อื้ม ดีจังค่ะ” แพรวพิชชาในตอนนี้อยู่ใน
เมื่อตัวขัดขวางไม่มีแล้ว ราฟาเอลก็รีบอุ้มเมียเข้าไปในบ้านทันที ปิดประตูลงกลอนไม่ต้อนรับใคร เสื้อผ้าเสื้อผ่อนหลุดลุ่ยออกจากร่างกาย ไม่รอให้เสียเวลาแม้แต่นิดเดียว“ว้าย! พี่ราล์ฟอย่าใจร้อนสิคะ ทำอย่างกับไม่เคยไปได้” แพรวพิชชาหวีดร้องเมื่อเสื้อชั้นในถูกกระชากออก เหลือเพียงกางเกงขาสั้นสีขาวที่ยังคงติดกายอยู่“น้องแพรวให้พี่อดกลั้นมาหลายวันแล้วนะ ถึงเวลาที่พี่จะทำตามใจตัวเองบ้างแล้ว” ราฟเอลแตะริมฝีปากที่ไหล่เปล่าเปลือย พลางดันหลังบางให้เดินไปที่หน้าโซฟากลางบ้านกายบางถูกจับหมุนให้หันมาเผชิญหน้ากับราฟาเอล เพื่อรับจุมพิตอันดูดดื่ม ท่อนแขนเรียวยกขึ้นเกาะกอดเอวสอบโดยอัตโนมัติ ส่งเสียงครางอืออาอยู่ในลำคอ ต้อนรับความอุ่นซ่านของเรียวลิ้นหนาด้วยความเต็มใจ“อือ” ใบหน้างามนิ่วลง เมื่อถูกบีบบี้ยอดอก ปลายเล็บจิกลงบนสะโพกหนาอย่างลืมตัวปลายนิ้วโป้งและนิ้วชี้ทั้งสองข้างทำหน้าที่ให้ความสุข ดึงเคล้นกับยอดทรวงสีสวย ไหล่บางห่อลงเรื่อยๆเมื่อโดนจู่โจมหนักมือขึ้น หว่างคิ้วก็ย่นเข้าหากัน ปากก็แลกจูบกันไม่มีถอย นานเข้าราฟาเอลก็ไล่ปากลงมาตามแนวคาง ลำคอระหงหอมกรุ่น ไหปลาร้านูน กลางอกอวบ จากนั้นก็งับเข้าที่ยอดสั่นร