“นั่น ผอ. คนใหม่ปะวะ เขามองพวกเรานานแล้วนะ” หนูดีกระซิบกระซาบกับเพื่อนเบาๆ
“ฉันว่าน่าจะใช่วะพวกแก หล๊อหล่ออ่ะ ต่างจากที่คิดเอาไว้มากเลยอ่า” หวานทำท่าเขินกำกระโปรงไว้แน่น “ใช่ นึกว่าจะลงพุงหัวล้านๆ เหมือนเดิมซะอีก ผอ.หล่อขนาดนี้ทำให้ฉันอยากมาโรงเรียนทุกวันเลยว่าไหมพวกแก” วีต้ากับหวานยิ้มให้กันอย่างเคลิ้มๆ ต่างจากหนูดีที่ยืนจ้องหน้า ผอ.อย่างไม่ได้คิดอะไร เพราะเธอไม่ได้บ้าผู้ชายหล่ออยู่แล้ว “พวกเธอเลิกทำหน้าเคลิ้มแล้วตามฉันเข้ามา” ลูอิสพูดเสียงดัง กวักมือเรียกสามสาวให้เดินตามเข้าไปในห้องทำงาน ทำให้เด็กสาวมองหน้ากันเลิ่กลั่กอย่างงงๆ หวาน หนูดี และวีต้า ยืนก้มหน้าเรียงกันอยู่หน้ากระดานหน้าโต๊ะทำงานใหญ่ ลูอิสจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเรียวเล็กของเด็กนักเรียนผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงกลาง ที่มีผิวขาวอมชมพู ปากนิด จมูกหน่อย ดวงตาแวววาวสดใส ผมยาวสีน้ำตาลดัดลอนปล่อยลงมาคลอเคลียสองข้างแก้ม รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น น่าทะนุถนอม ยิ่งมองก็ยิ่งชอบ ลูอิสสะบัดใบหน้าไปมาอย่างต้องการจะเรียกสติตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง แล้วกระแอมเรียกเสียงตัวเอง “เอาละ พวกเธอมาทำอะไรแถวหน้าห้องฉัน คนอื่นก็ลงกันไปหมดแล้วเหลือแต่พวกเธอ มีปัญหาอะไรกับฉันรึเปล่า” ลูอิสพูดรวมๆ กับทุกคนแต่สายตากลับจับจ้องอยู่ที่ร่างบางของคนที่ยืนอยู่ตรงกลาง หนูดีทำปากยื่นน้อยๆ แล้วก็เงยหน้าขึ้นมาตอบคำถาม “คือว่า พวกเรามาดูยัยฟ้าใส เอ่อ คนที่ ผอ.เรียกพบนะคะ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ ผอ.” ปากเล็กจิ้มลิ้มเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างเถรตรง ไม่คิดจะโกหก เพราะว่าเธอมาดูจริงๆ ถ้าโกหกไปแล้วโดนจับได้มันจะน่าอายเปล่าๆ สายตากลมโตมองไปยังคนตัวโตที่นั่งพิงหลังไว้กับผนักเก้าอี้อย่างสำรวจ หน้าตาดีอย่างไม่มีที่ติ ถึงเธอจะไม่ค่อยชอบคนมีหนวดมีเครา แต่กับคนตรงหน้ามันไม่ได้ทำให้เธอดูว่าสกปรกเลยแม้แต่น้อย มันออกจะดูดีและสะอาดสะอ้านมาก เมื่อเริ่มรู้ตัวว่ากำลังคิดอะไรที่ไม่เข้าท่า เด็กสาวก็รีบสะบัดหน้าตัวเองแรงๆเพื่อเรียกสติกับเข้าร่าง ลูอิสมองดูการกระทำของเด็กสาวก็แต่ยิ้มในหน้า มือใหญ่วางประสานไว้บนหน้าตัก ถูกอกถูกใจในคำตอบตรงๆนั้นเป็นอย่างมาก ส่วนสองสาวก็ยืนเงียบปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเพื่อนรักที่ช่างจำนรรจาเจรจาไป “เธอเป็นเพื่อนเขาเหรอถึงต้องมาสอดส่องว่าเป็นยังไงบ้าง” ลูอิสเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย ดูท่าทางก็รู้ว่าคงจะไม่ได้เป็นเพื่อนกันแน่ๆ เพราะสองสาวนั่นออกไปตั้งนานแล้ว แต่ที่ถามก็แค่อยากจะหาเรื่องคุย เผื่อได้รู้อะไรดีๆ “ไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นญาติ ที่ไม่ค่อยจะถูกกันต่างหากละ” เสียงหวานพึมพำเบาๆ ตัวเอง แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นคนหูดีอย่างลูอิสไปได้ “ไม่ถูกกันแล้วจะมาดูเขาทำไมละสาวน้อย หรือว่าเธอก็อยากจะลงสนามแย่งเจ้าเด็กนั่นเหมือนกัน” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างแข็งๆ จ้องมองหน้าหวานนิ่ง “ไม่ใช่สักหน่อย” หนูดีโบกมือส่ายศีรษะเป็นพัลวัน คนอย่างเธอไม่มีทางลงมือแย่งชิงผู้ชายอยู่แล้ว ผอ.นี่ยังไงมากล่าวหาเธอเฉยเลย “ผอ.อย่ามาพูดให้หนูเสียหายนะ แฟนยังไม่เคยคิดที่จะมีเลย แล้วที่สำคัญหนูไม่ได้บ้าถึงขนาดจะไปตบแย่งผู้ชายเหมือนยัยนั่นสักหน่อย” ใบหน้าสวยงอง้ำลืมตัวมองค้อนคนตรงหน้า ลูอิสตีสีหน้านิ่งแต่ภายในใจกลับลิงโลดเมื่อได้ฟังคำพูดของเด็กสาว “แกพูดดีๆ สิ นี่ ผอ.นะท่องเอาไว้” วีต้ากระซิบเสียงรอดไรฟัน แล้วยิ้มแหยๆ ให้กับคนที่นั่งจ้องพวกเธออยู่ “ฉันจะไปรู้เหรอ ไม่เป็นแบบนั้นก็ดีแล้ว” ลูอิสยักไหล่แล้วหันไปมองอีกสองสาวที่ยืนกันนิ่งเงียบ “เธอสองคนออกไปก่อน ฉันจะคุยกับเพื่อนของพวกเธอ” “เอ่อ” วีต้ากับหวานอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่อยากปล่อยเพื่อนไว้คนเดียว มองหน้ากันเลิ่กลั่ก “ถ้าจะลงโทษก็ลงโทษพวกเราให้เหมือนๆ กันนะคะ หนูสองคนก็มีส่วนรู้เห็นในการมาแอบดูด้วย” วีต้าเกาะแขนหนูดีเอาไว้แน่น กลัวว่าเพื่อนจะถูกลงโทษแค่คนเดียว “ฉันไม่ได้จะลงโทษเพื่อนเธอ แค่จะขอคุยอะไรด้วยหน่อย ออกไปกันได้แล้วก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจลงโทษจริงๆ” หนูดีพยักหน้าให้เพื่อนเชิงว่าไม่เป็นไร สองสาวจึงยอมออกไป “ผอ.มีอะไรรึเปล่าคะ” หนูดีเอียงคอถามอย่างน่ารักจนคนมองใจสั่น ลูอิสลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กสาว ถือวิสาสะจับแขนเรียวเล็กให้เดินไปที่โซฟา“นั่งก่อน” มือหนากดไหล่บางให้นั่งลง ส่วนตัวเองก็นั่งลงข้างเด็กสาวอย่างตีเนียน “เธอชื่ออะไรสาวน้อย” ขายาวนั่งไข่ห้างมือทั้งสองประสานไว้ที่หัวเข่า จับจ้องเรียวปากบางสีระเรื่อที่ขบกันตาปรอย ไม่ได้ฟังในสิ่งที่เด็กสาวบอก
“หนูดีค่ะ” เด็กสาวโบกมือไปมาตรงหน้าหล่อ เมื่อเห็นว่าเขาเหม่อมองเธอนานแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล มือบางเลยจับท่อนแขนแกร่งแล้วเขย่าเบาๆ จนคนสติหลุดรู้สึกตัว “ผอ.เป็นอะไรรึเปล่าคะ” ลูอิสมองมือน้อยที่จับแขนเขาเอาไว้ด้วยท่าทางเป็นห่วงเป็นใยก็อมยิ้ม “เปล่า ว่าแต่เธอชื่ออะไรนะ เมื่อกี้ฉันไม่ทันได้ฟัง” ลูอิสถามอีกครั้งเพราะเมื่อกี้เขาไม่ได้ฟังจริงๆ “ชื่อหนูดีค่ะ” เด็กสาวพูดอีกครั้ง “อืม ชื่อน่ารักเหมาะกับตัวเลย” ลูอิสพึมพำเบาๆ “ว่าแต่เธอเรียนอยู่ชั้นไหนและอายุเท่าไหร่แม่หนูน้อย” แม้จะดูรู้ว่าคงอยู่มอปลาย แต่ก็อยากจะถามย้ำเพื่อความแน่ใจว่าอยู่ชั้นไหนและอายุเท่าไหร่กันแน่ “มอหกหรือว่าเกรดสิบสองนี่แหละค่ะ ส่วนอายุก็ 18 ปีค่ะ” รู้สึกเหมือนเธอมานั่งรายงานประวัติส่วนตัวให้เขาเลย “อืม แล้วเธอมีแฟนรึยัง” ลูอิสถามเหมือนคำถามทั่วไปแต่ภายในใจกลับจดจ่อในคำตอบที่จะได้รับ “ยังค่ะ” หนูดีส่ายหน้าไปมา ไม่เข้าใจว่าเธอมีแฟนหรือไม่มีแฟนมันจะเกี่ยวข้องอะไรกับเขาตรงไหน “แล้วผอ.จะอยากรู้ไปทำไมเหรอคะ” ปากเล็กๆ ถามออกไปไม่อยากเก็บความสงสัยเอาไว้ “ช่างสงสัยเสียจริง” ลูอิสยิ้ม “ถ้าอยากรู้ฉันก็จะบอกให้ ยื่นหูมาสิ” ด้วยความที่อยากรู้หนูดีเลยเอียงหูให้ ผอ.หนุ่มรูปหล่อที่แอบยกยิ้มอยู่คนเดียว “ฉันจะเอาเธอมาทำเมียนะสิคนสวย” เสียงทุ้มกระซิบชิดหูหอมกรุ่น คนฟังถึงกับตาค้างอ้าปากกว้างอย่างตกใจสุดขีด ค่อยๆ เงยหน้ามองชายหนุ่มที่กอดรัดเอวเธอเอาไว้แน่นอย่างอึ้งๆ แทบจะหาเสียงตัวเองไม่เจอ “ผอ.พูดเล่นใช่ไหมคะ” เด็กสาวถามเสียงเบาหวิว ตั้งรับไม่ทันเมื่อเจอคำพูดน็อคกลางอากาศแบบนี้ ได้แต่หวังว่าเขาจะแค่ล้อเล่นกับเธอเท่านั้น คนบ้าอะไรจะมาชอบกันได้แค่เวลาไม่ถึงสิบห้านาที นี่เขาชักจะน่ากลัวเกินไปแล้วนะ"คิดเรื่องลูกของเราอยู่ค่ะ คุณป๋าอยากมีลูกผู้หญิงอีกสักคน หนูว่ายังไงคะ พร้อมที่จะมีให้คุณป๋ารึยัง ลูกสาวเราต้องน่ารักมากแน่ๆ เชื่อสิ" ลูอิสพูดเสียงนุ่ม เอียง หน้าจูบกระหม่อมเมียที่ยื่นหน้าเข้ามาหา "หนูเชื่อค่ะว่าลูกสาวเราต้องน่ารักมากๆ ไว้รอให้บาสเตียนโตขึ้นอีกหน่อยนะคะ ตอนนี้ลูกชายเรายังเล็กอยู่เลย เราควรทิ้งระยะห่างนะคะ อย่าเพิ่งรีบทําให้ท้อง หนูไม่ว่างสิคะคุณป๋า แต่รับรองว่าหนูจะมีลูกสาวที่น่ารักๆ ให้คุณป๋าอย่างแน่นอนไม่ต้องห่วงนะคะ ตอนนี้ขอแค่เวลาเท่านั้น" หนูดีปล่อยแขนลงแล้วขยับตัวมายืนเคียงข้างสามี เธอต้องการจะมีลูกเพิ่มอยู่แล้ว เพราะรู้ว่าการเป็นลูกคนเดียวมันเหงาแค่ไหน การมีลูกหลายๆคนยามแก่ชราชีวิตคงไม่เงียบเหงา นี่แหละคือสิ่งที่ปรารถนายามเธอแก่ตัวลง "อืม ก็ไม่ได้บอกว่าจะมีเลยสักหน่อย แต่ได้ยินแบบนี้แล้วค่อยโล่งใจ ก่อนหน้านี้คิดว่าหนูจะไม่ยอมมีลูกสาวตัวเล็กๆ ให้คุณป๋าได้ชื่นใจเสียแล้ว" รอยยิ้มกระจายเต็มใบหน้าหล่อ มือที่โอบอุ้มลูกชายยกร่างเล็กขึ้นหอมฟอดใหญ่ "แอ้ แอ้" ประท้วงเล็กๆ ก่อนจะยิ้มหัวเราะจนปากบานมองเห็นเหงือกใสๆ พลอยทําให้ป๊ะป๋ากับคุณแม่ยังสาวหัวเราะตามไปด้วย "ลูก
หนูดีทําอาหารอยู่ในครัว บนร่างกายสวมชุดนอนสีแดงสดสั้นจู๋โชว์หน้าอกล้นหลามกับเรียวขาขาวผ่อง เท้าบางสวมรองเท้าส้นตึกสีเดียวกับชุดยืนอยู่หน้าเตา เรียวขาแยกกว้างด้านหลังมีสามีสุดที่รักกําลังยืนซบแหย่นิ้วเข้ากับร่องหลืบของเธอไม่ว่าจะขยับกายไปทางไหนก็ตามเกาะตลอด "คุณป๋าเอานิ้วที่ยัดอยู่ในร่างกายหนูออกไปก่อนได้ไหมคะ ใส่ไว้อย่างนี้มันเสียวนะคนบ้า ไหนบอกว่าหิวข้าวไงคะ ถ้าหิวก็เอาออกจะได้รีบทําข้าวเช้าให้ทาน" หนูดีกระทุ้งข้อศอกใส่หน้าท้องแกร่ง ตื่นเช้ามาก็โดนจัดไปแล้วชุดใหญ่ พอสายเข้าหน่อยก็ร้องหิวแล้วยังบังคับให้ใส่ชุดนอนกับรองเท้าส้นตึกทําอาหารอีกต่างหาก ตั้งแต่มดลูกเข้าอู่นี่เธอก็ไม่เคยได้ว่างเว้นจากเรื่องนี้เลย ต้องเลี้ยงลูกสลับกับเอาใจสามีที่มีความต้องการอันมากล้น บ่นก็หาว่าไม่รักผัว พอไม่บ่นก็ได้ใจใหญ่ งานการก็ไปทำแป๊บๆ เผลอหน่อยเดียวก็กลับบ้านมาเลี้ยงลูก กล่อมลูกหลับก็มากล่อมเธอต่อจนไร้เรี่ยวแรงแทบทุกวัน วันหยุดเป็นไม่ได้ต้องกระเตงลูกกันมาคอนโด ไม่ใช่อะไรหรอก พามาทําหื่นโดยที่ไม่มีใครคอยมารบกวนนอกจากลูกชายตัวน้อย "อือ ก็ทําไปสิคนสวย หนูอยู่ในชุดนี้ตอนทําอาหารโคตรเซ็กซี่เลยรู้ไหมเ
"ได้ทีแกล้งผัวใหญ่เลยนะเบบี๋ ไม่กลัวโดนถล่มหนักจนสลบคาอกคุณป๋าเหรอจ๊ะเมียจ๋า" ลูอิสจ้องแก่นกายในมือนุ่มเขม็ง ร่างกายสมบูรณ์แบบเกร็งเครียดไปทั้งตัว เขาห่างเหินมานานสําหรับกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์กับเมีย พอโดนกอบกําเต็มอุ้งมือเล็กอย่างนี้ก็แทบจะทนไม่ไหว "โดนถล่มไม่กลัว แต่กลัวจะไม่โดนถล่มมากกว่าขืนชักช้าเราอาจจะอดก็ได้นะคะคุณป๋า" คุณแม่คนสวยขยิบตา คลึงเคล้าท่อนเนื้อในมืออย่างผ่อนคลายต่าง จากสามีสุดที่รักสิ้นเชิง ความอายสูญสิ้นไปนานแล้ว ตอนนี้มีเพียงแรงปรารถนาเพียงอย่างเดียว ต้นขาอวบแบะกว้างระหว่างรูดแก่นกาย ประกายตาเจิดจ้ายามเล่นกับสิ่งที่สร้างความสุขและความทรมานให้แก่เธอไปพร้อมๆ กัน ปลายลิ้นอมชมพูกวาดเลียรอบปาก ก้มหน้าลงตํ่าเท่ากับปลายหัวชี้โด่ แล้วขยับลงไปอีกนิดจนแท่งร้อนผ่าวกระแทกริมฝีปาก "โอ้วว เบบี๋ของผัว จัดการมันให้สยบอยู่ในปากหนูเลยค่ะ เอาลิ้นเล็กๆ กับปากน้อยๆ ของหนูทํารักให้กับคุณป๋าที" ลูอิสแอ่นสะโพกไปข้างหน้าจนแก่นกายติด กับเรียวปากสีสด "อืม หนูคงช่วยคุณป๋าได้เท่านี้แหละค่ะ ให้ทํามากกว่านี้คงไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์อยากกินไอติม" หนูดียิ้มหวานแล้วปล่อยมือที่กํารอบความแ
ในวันนี้คุณหมอได้นัดตรวจสุขภาพของคุณแม่ลูกอ่อนกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน หลังจากตรวจทุกอย่างเรียบร้อย ด้วยความที่ขี้เกียจฝ่าการจราจรบนท้องถนน กลับบ้าน ป๊ะป๋าสุดหล่อเลยรถเลี้ยวเข้าคอนโดแทน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของเด็กชายบาสเตียนมีครบทุกอย่างเหมือนกับที่บ้านเป๊ะ เพราะหากวันใดที่ต้องมาค้างที่คอนโดจะได้ไม่ต้องเตรียมมาจากบ้านให้ยุ่งยาก และในตอนนี้สามคนพ่อแม่ลูกก็นอนเล่นกันอยู่ที่พื้นหน้าโซฟาของห้องนั่งเล่น คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ชวนลูกน้อยไร้เดียงสาคุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุขจนกระทั่งความหิวโหยเข้ามาเยือน หนูดีจึงอุ้มลูกเข้าเต้าให้ดื่มกินแหล่งอาหารชั้นเลิศ สายตาของป๊ะป๋ารูปหล่อก็ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมองตามตาละห้อย กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ คลอเคลียอยู่แถวบริเวณเหนือหน้าอก ใช้ปากแตะผิวเนื้ออ่อนตรงเต้าข้างที่ลูกชายดูดสลับกับหอมแก้มนุ่มๆ ของลูกไปด้วย หลังจากที่ได้ชิมรสชาติของน้ำนมจากอกเมีย ทุกๆ คืนเขาก็จะต้องกินต่อจากลูก และยังช่วยลดอาการคัดเต้าของเมียเด็กได้เป็นอย่างดี เบบี๋ตัวน้อยเลยไม่ค่อยบ่นสักเท่าไหร่ เพราะตัวเองก็ไม่ต้องทรมาน "เบบี๋จ๋าหนูได้ยินที่คุณหมอพูดแล้วใช่ไหมคะ มดลูกของหนูเข้าอู่ดีแล้ว ด
"ไหลก็ไหลสิคะ เดี๋ยวคุณป๋าจัดการเอง จะดูดไม่ให้เหลือสักหยดเลยคอยดู" ลูอิสดึงชุดนอนเกาะอกสีขาวลง น้ำนมที่ไหลออกมาจากยอดอกบวมเป่งอยู่ตรงหน้า สายตาวิบวับจ้องมองอย่างสนใจ "ทําอย่างนั้นไม่ได้นะ เดี๋ยวลูกร้องหิวขนึ้มาจะยุ่ง อื้อคุณป๋าบาสเตียนติดเต้า อ๊า อย่าแตะมัน หนู หนูเสียว ยะ...อย่า อ๊ะ เจ็บ อย่าดูดแรง" เสียงหวานครวญครา คิ้วเรียวมุ่นขมวดเข้าหากันแน่น ปลายเล็บจิกลงบนบ่า แกร่งด้วยความทรมาน เมื่อถูกครอบครองยอดอก น้ำนมไหลออกจากเต้าทะลักทลาย อีกข้างก็ถูกบีบจนไหลพุ่งออกมาเป็นสาย คุณแม่บางคน้ำนมก็แทบจะไม่มีให้ลูกได้ดูดกินจากเต้า แต่สําหรับเธอนั้นมากพอที่จะให้ลูกกินได้สบายๆ แล้วตอนนี้สามีตัวดีก็กําลังแย่งลูกกิน แถมยังบีบเล่นจนไหลเปรอะเปื้อนตามร่างกายทั้งของเขาและเธอ "อื้ม อร่อยจังเมียจ๋า วิเศษเป็นบ้าเลย ปกติเวลาดูดว่าอร่อยแล้ว แต่พอมีนมไหลออกมาแบบนี่ยิ่งอร่อยไปกันใหญ่ โอ คุณป๋าแข็งไปหมดแล้วเบบี๋ อ่า อยากให้มัน ไหลตลอดไปจริงๆ เลย พระเจ้ามันเยี่ยมจริงๆ นะ" ลูอิสพึมพําอย่างถูกใจ บีบเต้าอวบพร้อมกันสองข้างจนน้ำมันพุ่งใส่หน้าเขาพร้อมกัน "คุณป๋าจะสนุกเกินไปแล้วนะคะ อ๊ะ อย่าบีบนมเล่นแบบนี้สิคนบ
ก่อนหน้าจะครบเก้าเดือนกิจกรรมบนเตียงระหว่างคู่รักก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ ขนาดว่าท้องโตขึ้นคุณป๋าของเธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดความหื่นลง จนย่างเข้าสู่เดือนที่แปดหนูดีก็ขอร้องให้ยุติเพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อลูก ลูอิสก็ต้องยอมจํานนเก็บความต้องการฝังลึกลงไปใต้ดิน รอเวลาทบต้นทบดอกหลังเมียคลอดลูกแล้ว พอถึงกําหนดคลอดหนูดีก็ต้องไปนอนโรงพยาบาลเพื่อรอเวลาที่ปากมดลูกจะเปิดกว้าง วิธีที่เธอเลือกคลอดเป็นวิธีธรรมชาติ เมื่อถึงเวลาสามีสุดหล่ออย่างลูอิสก็ได้เข้าไปให้กําลังใจจนชิดขอบเตียง จับมือเมียแน่นคอยลุ้นจนหน้าซีดอยู่ตลอดเวลา พอเมียรักเบ่งลูกออกมาสําเร็จปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก คุณป๋าผู้แข็งแกร่งก็ถึงกับเป็นลมล้มพับลงไปกับพื้นทันที พยาบาลที่อยู่ในนั้นเลยต้องรีบปฐมพยาบาลเป็นการด่วน อยู่โรงพยาบาลได้ไม่กี่วันหนูดีกับลูกก็ได้กลับมาพักฟื้นที่บ้านโดยมีลูอิสคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง บางครั้งลูเซียสก็หวังดีจะมาช่วยดูแลบ้าง แต่คนหวงลูกหวงเมียไม่ยอมให้ช่วย จัดการทําเองแทบทุกอย่าง ถ้าให้นมลูกได้เขาก็คงให้ไปแล้ว แต่ติดที่ว่าเขาไม่มีน้ำนมจะให้ลูกกิน "ลูกแม่ทานนมเก่งจังเลยค่ะ บาสเตียนชอบใช่ไหมคะ" คุณแม่ยังสาวอ้มุลูกชายวัยแ