เมียสวมรอย บทที่ 5
"ฉันเจ็บนะ!" มือเรียวพยายามดึงมือของอีกฝ่ายที่กำแขนเธออยู่ให้ออก
"ทีแรกฉันคิดว่าเธอเหมือนแม่..แต่ที่ไหนได้ร้ายกว่าแม่เยอะ"
"ขอบคุณค่ะที่ชม..ปล่อยได้หรือยัง" มโนราห์ถูกเขาลากตัวออกมาคุยด้านนอกห้องโถงของโรงแรม ที่นักข่าวไม่กล้าเดินตาม เพราะท่านพลเอกเกษมราษฎร์ขอไว้ให้ทั้งสองคุยกันเอง
"ตกลงเธอจะเอายังไงกันแน่" ในเมื่อเธออยากจับเขานัก ทำไมถึงต้องให้ปล่อยด้วย
"แขนฉันจะหักอยู่แล้ว"
"ฉันบอกเธอไว้ก่อนเลยนะ เรื่องแต่งงานยังไงมันก็ไม่มีทางเกิดขึ้น" มือแกร่งสะบัดอีกคนออกเหมือนตัวเองจับของเน่าเสีย พอปล่อยมือเธอแล้วกองทัพก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมือ
มันก็สมควรแล้วที่เขาจะขยะแขยง ถ้าเป็นเธอก็คงทำไม่ต่างจากเขาหรอก แต่ไม่เป็นไร แล้วแต่เขาจะทำขอให้แม่สบายใจก็พอ
"คุณจะไปไหนคะ" ยังไม่ได้พูดอะไรกันเลยเขาก็จะเดินหนีแล้ว
ชายหนุ่มที่กำลังจะเดินออกไป หันกลับมาเมื่ออีกฝ่ายเรียกถาม "ตกลงเราพูดภาษาเดียวกันหรือเปล่า"
"วันนี้งานวันเกิดพ่อคุณไม่ใช่หรือคะ ทำไมคุณถึงไม่เข้าไป"
"ถ้าในงานนี้มีเธออยู่ ถึงจะเป็นวันเกิดพ่อ..ฉันก็ไม่ไป"
"ฉันไม่เข้าไปหรอกค่ะ คุณเข้าไปในงานเถอะ" ดวงตาหญิงสาวเศร้าลงจนเห็นได้ชัด เขาดูไม่ออกเลยเหรอ ว่าเธอไม่เต็มใจทำเรื่องพวกนี้เลย แต่ทำไมเขาต้องลดตัวลงมาสังเกตคนไร้ค่าแบบเธอด้วย
ขณะที่หญิงสาวกำลังเงียบ นิ้วชี้ของคนร่างสูงก็แตะที่คางเรียวเพื่อเชยมันขึ้นไปมองสบตา
"กำลังเล่นบทอะไรอยู่ล่ะ คิดว่าฉันจะสงสารงั้นเหรอ ถ้าเป็นคนอื่น อาจทำให้ฉันสงสารได้"
ภาพที่ทั้งสองคุยกันแบบใกล้ชิดถูกนักข่าวคนที่ขยี้คำถามถ่ายเก็บไว้
"เออ!" จังหวะที่เขากำลังจะชักนิ้วกลับมา แต่คิดอะไรได้ก่อน "ทีหลังก่อนจะแบล็คเมล์ใครสืบมาให้ดีก่อนนะ"
ดวงตางามเหลือบมองขึ้นไปดูคนร่างสูง อยากรู้ว่าเขาจะพูดอะไรต่อ
"เธอคงคิดว่าฉันยังโสดล่ะสิ แต่เสียใจด้วยนะ ผู้ชายแบบฉันถ้ายังโสดน่ะสิแปลก"
"เรื่องนั้นฉันไม่ถือหรอกค่ะ คุณจะมีใครสักกี่คนมันก็เรื่องของคุณ แต่เมียแต่งต้องเป็นฉัน"
"เรียกตัวเองว่าเมียแต่งงั้นเหรอ เมียสวมรอยแบบเธอ..ฉันคงไม่ให้ค่าขนาดนั้นหรอก"
"พวกเขากำลังคุยอะไรกันอยู่คะ" พุดตาลก็ยืนลุ้นอยู่ ภาพที่มองเห็นเวลานี้แทบจะไม่ใช่การคุยกัน เพราะใบหน้าแทบจะแนบกันอยู่แล้ว
"ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน"
"ไปโน่นแล้วค่ะ ตากองทัพไม่เข้างานหรือคะ" พุดตาลที่ยืนอยู่หน้างานมองไปอีกทีก็เห็นลูกชายของสามีเดินออกจากโรงแรมไป
แต่พอกองทัพเดินออกไป มโนราห์ก็เดินกลับมาที่งานเลี้ยง เพราะเธอยังทำสิ่งที่แม่สั่งมาไม่สำเร็จ
"สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณแม่" อายนะ..ทำไมจะไม่อาย ที่ต้องได้ปั้นหน้าเรียกพวกท่านแบบนี้
พอเธอไหว้มา ทั้งสองท่านก็รับไหว้กลับ
"หนูเข้าไปหาอะไรทานข้างในก่อนสิลูก" ถึงยังไงหนูคนนี้ก็เป็นลูกสาวของเพื่อนรัก
"ขอบพระคุณมากค่ะ แต่โมนาอยากคุยธุระกับคุณพ่อคุณแม่มากกว่าค่ะ"
"คุยธุระอะไรหรือหนู?"
"ก็เรื่องงานแต่งในสัปดาห์หน้าไงคะ"
เกษมราษฎร์และภรรยาหันมองหน้ากันแบบไม่ได้นัดหมาย
"แล้วผู้พันกองทัพว่ายังไงล่ะ" คนที่ถามก็คือพ่อของกองทัพอีกนั่นแหละ
"คุณกองทัพบอกว่า แล้วแต่คุณพ่อคุณแม่จะจัดการค่ะ"
"หือ?"
🖋ชะนีติดมันส์ @มัดหมี่
"ถึงแม้คุณจะไม่อยากฟัง แต่ผมก็จะพูด เพราะผมรักคุณ" เขาไม่ได้รั้งตัวเธอไว้ แต่ยังคงเดินตามไป จนตอนนี้ทั้งสองออกมาจากงานแล้ว"ฉันไม่อยากเป็นตัวปัญหา คุณกลับไปทำงานของคุณให้เสร็จเถอะค่ะ" ถึงแม้เธอจะหยุดแต่ขณะที่พูดก็ไม่ได้หันกลับไปมองคนที่อยู่ด้านหลัง"ผมจะร้องเพลงต่อไปทำไม ในเมื่อคนที่ผมอยากให้ฟังไม่อยู่ในงานนั้น""คุณแน่ใจเหรอคะ ว่าคุณจะร้องเพลงนี้ให้ฉัน แล้วทำไมฉันถึงไม่รู้ล่ะคะ..แต่คนที่รู้กลับเป็นผู้หญิงคนนั้น" เธอพยายามจะไม่ดึงผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในบทสนทนาแล้ว แต่ก็ยังคาใจเรื่องนี้อยู่"คุณหมายความว่ายังไง""คุณจะขึ้นร้องเพลงฉันยังไม่รู้เลย แต่เธอกลับรู้ว่าคุณจะร้องตอนเปิดงาน""คุณหมายถึงผู้หญิงที่ผมรับมาจากหน้ากรมน่ะเหรอ แม้แต่ชื่อเธอผมยังไม่รู้เลย และเรื่องที่ผมร้องเพลงก่อนผมสาบานได้ว่าเธอคงไม่ได้ยินจากปากผมแน่ๆ""ไหนบอกมันเป็นความลับไงคะ ขนาดฉันยังไม่รู้เลย ทำไมเธอถึงรู้" ในเมื่อเขาไม่ได้พูดแล้วเธอคนนั้นจะรู้มาจากไหน"ใช่มันเป็นความลับ แต่เธออาจจะรู้มาจากนักดนตรี หรือคนจัดเตรียมงานก็ได้นี่ครับ" เพราะทุกคนต้องวางแผนงานแสดงก่อนที่จะเริ่มงาน"ขอบคุณนะคะ สำหรับคำอธิบาย""แล้วคุณยังโก
เหมือนถูกลากมาตบกลางสี่แยกยังไงยังงั้นเลย ที่ได้ยินพวกผู้หญิงพูดถึงสามีตัวเอง"ได้ยินผู้พันบอกว่า วันนี้จะร้องเพลงช่วงเปิดงาน""อ้าว ไม่ร้องตอนปิดงานอีกแล้วเหรอ" เพราะกองทัพเลือกร้องเพลงตอนปิดงานมาหลายปีแล้ว ที่เขาร้องช่วงปิดงานจะได้มีคนอยู่ร่วมงานจนถึงช่วงสุดท้าย"เห็นบอกแบบนั้น""แหมนอกจากให้ติดรถมาแล้ว ยังบอกเรื่องจัดงานอีกนะ" ไม่มีใครไม่รู้ว่ากองทัพแต่งงานและภรรยาก็คลอดลูกเดือนที่แล้ว แต่อย่างที่รู้กันอยู่ว่าคนที่ทำอาชีพนี้ส่วนมากจะเจ้าชู้ มีหลายคนเลยแหละที่มีบ้านเล็กบ้านน้อย ยิ่งระดับลูกชายของคนใหญ่คนโตแล้วด้วย ผู้หญิงพวกนั้นก็เลยอยากไต่เต้าสบายทางลัด ยิ่งถ้าคว้าใจผู้ชายมาได้ถึงกับยอมเลิกกับบ้านใหญ่ก็เคยมีความรู้สึกของมโนราห์ตอนนี้เริ่มไม่ไหวแล้ว จนเกิดอาการคัดเต้า โชคดีที่ใส่ที่ซับน้ำนมมาด้วย แต่ถ้ามันไหลเยอะก็คงเอาไม่อยู่เพียงไม่นานเสียงดนตรีก็ดังขึ้น หลายคนที่ร่วมงานต่างก็หันไปที่เวที และหลายคนก็พูดกันว่า ทำไมผู้พันกองทัพถึงได้ร้องเพลงช่วงเปิดเวที เพราะทุกครั้งผู้พันจะร้องตอนปิด ..นั่นแสดงว่าคนในงานยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ผู้หญิงคนนี้คงสำคัญกับเขามากจริงแหละ ถึงได้รู้ว่าเขาจ
"ฉันขอชุดที่รัดกุมหน่อยนะคะ..แต่..เออ..""แต่อะไรคะ" ช่างที่กำลังเลือกแบบชุดให้ถามลูกค้า เมื่อเห็นอีกฝ่ายเหมือนไม่กล้าพูด"ขอแบบที่สามารถปั๊มนมให้ลูกได้ด้วย" ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะไปหรอก แต่อะไรมันก็ไม่แน่นอน เธอก็เลยขอชุดแบบนั้นไว้ เพราะถ้าน้ำนมมาต้องรีบปั๊มออก ไม่งั้นคัดเต้าทำให้ปวดมากบางครั้งเกิดการอักเสบเลย"ชุดแบบนั้นทางร้านเราไม่ได้ทำไว้ค่ะ แต่เราคิดว่า ผ้าคลุมไหล่สามารถปกปิดได้"ขณะที่คุยกันไม่มีคนในบ้านอยู่ใกล้เธอก็เลยกล้าพูดพอรู้แล้วว่าลูกค้าต้องการแบบไหนทางร้านก็รีบจัดการให้ ส่วนมโนราห์ก็เริ่มทำการเสริมสวยต่อขณะที่ทำผมอยู่ได้ยินเสียงลูกชายงอแง เธอก็ให้ช่างหยุดก่อน เพื่อไปดูว่าลูกเป็นอะไร แต่พอเห็นว่าลูกอยากเข้าเต้ามโนราห์ก็เลยจัดให้ก่อนจนแกนอนหลับเธอถึงได้กลับมาทำสวยต่อ ชีวิตแม่ลูกอ่อนถ้าใครไม่เจอกับตัวก็ไม่รู้หรอกบ่ายคล้อยวันเดียวกัน.."พ่อโทรมาบอกว่าให้แม่เข้างานเร็วหน่อย""คุณแม่ก็ไปสิคะ""แม่ว่าจะรอรับเราไปด้วยกัน""ไม่ต้องรอหรอกค่ะ โมนายังไม่รู้เลยว่าจะไปไหม""ถ้างั้นแม่รอเราที่งานนะ" พอแต่งตัวเสร็จพุดตาลก็ให้คนรถพาไป เพราะไม่อยากให้ท่านนายพลต้องกลับมารับอีกเวลาเดียวก
ลืมเลยอีกแค่ไม่กี่วันก็ถึงวันงาน พอคิดถึงเรื่องเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นเขากับเธอยังไม่ได้รักกัน"หึ.." พอคิดถึงตอนที่กระโปรงเธอขาดก็นึกขำขึ้นมา และตอนที่เธอคิดว่าเขาร้องเพลงให้ผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่ใช่เลย ตอนที่ร้องเพลงนั้น เขากลับคิดถึงหน้าเธอต่างหาก"ยิ้มอะไรครับผู้พัน""ยังจะเดินตามมาอีก ไม่ทำงานหรือไง""ทำสิครับ แต่ผู้พันลืมแล้วเหรอว่าที่ทำงานเราไปทางเดียวกัน" ตอนที่เป็นผู้กองอยู่เขาสังกัดหน่วยงานเดียวกับกองทัพ แต่พอเลื่อนขั้นเป็นผู้พัน ฉลามต้องเข้ารับงานใหม่ "แล้วตกลงที่ยิ้ม..ให้สาวที่นั่งรถมาด้วย..หรือคนที่อยู่บ้านครับ""ไอ้ฉลามมึงจะหางานให้กูไปถึงไหนวะ กูก็ต้องคิดถึงเมียกูสิ""ครับคิดถึงเมีย""ไอ้นี่พูดเหมือนไม่เชื่อ"สองวันต่อมา.. วันนี้เริ่มประชุมเรื่องที่จะจัดงานประจำปี ใครรับหน้าที่ส่วนไหนก็ต้องเริ่มจัดการส่วนที่ตัวเองได้รับในแต่ละหมู่เหล่าต้องร่วมแรงร่วมใจ เพราะงานประจำปีไม่ได้จัดขึ้นแค่เป็นงานเลี้ยง แต่เป็นงานที่ทำให้ในหน่วยงานรักและสามัคคีกันที่คฤหาสน์พลเอกเกษมราษฎร์"โมนาไม่รู้ว่าพ่อจะมา" เพราะพ่อเพิ่งมาตอนที่เธอคลอดลูกนี่เอง และวันนี้พ่อก็มาอีกครั้ง"สามีเราไม่บอกเหรอ ว่
"คุณอยากได้อะไรครับ ทำไมไม่เรียกผมเดี๋ยวผมหยิบให้" ฉลามรีบเดินกลับมาที่บ้าน"ฉันเรียกแล้วค่ะ แต่คุณมัวมองสาวๆ พวกนั้นอยู่""อุ๊ย.. เปล่ามองสักหน่อย""ตาฉันไม่ได้บอด""แก้วใจครับ อย่างอนนะ มันไม่ดีต่อ..""คุณไม่อยากให้ฉันงอนก็อย่าทำสิคะ""ผมแค่..""แค่อะไรคะ""แค่มองนิดเดียวเอง""แต่ที่ฉันเห็นไม่นิดแล้วนะ"กูจะถึงกับตายไหมวะ ..ฉลามรีบเดินตามแก้วใจเขาไปในบ้าน ในใจก็แอบหวั่นๆ"อย่าเดินเร็วสิครับเดี๋ยวสะดุดล้ม""ไม่ต้องตามมานะ""ผมสัญญาว่าจะไม่มองผู้หญิงคนอื่นแบบนี้อีกแล้ว"แก้วใจหยุดแล้วก็หันกลับมา แต่ฉลามที่ตามมาด้านหลังเกือบหยุดไม่ทัน"จะหยุดทำไมไม่บอกผมล่ะ""ไม่ต้องมาใกล้ฉันเลยนะ" หญิงสาวผลักสามีให้ออกห่าง "ใช่สิท้องฉันโตขนาดนี้ ก็เลยไม่น่ามองเหมือนผู้หญิงพวกนั้นใช่ไหม""ใครบอกคุณไม่น่ามอง แก้วใจของผมน่ารักที่สุดในโลก""คนปากไม่ตรงกับใจ ฉันจะกลับไปหายาย""ไม่ให้กลับ""ฉันจะกลับไปคลอดลูกกับยาย""ที่นั่นอยู่ห่างไกล เวลาคลอดก็ลำบาก เอาแบบนี้แล้วกันใกล้คลอดผมจะไปรับคุณยายมาอยู่ด้วย""จริงเหรอคะ" จากที่งอนอยู่เมื่อสักครู่ก็มีรอยยิ้มขึ้นมา ฉลามถึงกับหายใจโล่ง ดีนะที่ยังมียาย ไม่งั้นคืนนี้ต้
ญาณินกัดฟันไว้ไม่กล้าส่งเสียงคราง เพราะลูกชายเพิ่งจะนอนลงมือเรียวยื่นลงไปจับศีรษะของคนที่เมามันอยู่กับการใช้ลิ้น แทนที่จะยกศีรษะของเขาขึ้นแต่ดันกดมันลงแบบลืมตัวชายหนุ่มยิ่งได้ใจเพิ่มจังหวะความเร็วของลิ้นอีกระดับหนึ่ง จนสะโพกงามเกร็งกระตุกเขาถึงได้หยุด แล้วค่อยๆ ขยับขึ้นมา เพราะจะปล่อยให้เธอเสร็จก่อนไม่ได้สิ่งแรกที่ศิลาทำเมื่อโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มนั้นคือมองไปดูลูกชาย ว่าเขาหลับหรือยัง แต่พอเห็นลูกยังดิ้นอยู่ เขาก็ค่อยๆ เอนตัวลงอีกฝั่งหนึ่งของเธอแต่ชายหนุ่มไม่ได้ปล่อย เขายังคงลูบคลำเนินอวบนูนของเธอเพื่อไม่ให้อารมณ์อีกฝ่ายหยุดลง"อือ..คุณ.."ศิลาไม่สนใจที่เธอห้าม แถมยังส่ายหน้าบอกเล็กน้อย เพื่อให้เธอรู้ว่าถึงยังไงเขาก็ไม่หยุด รอให้ลูกหลับสนิทก่อนเถอะ จะจัดการเธอให้สมกับความคิดถึง"อื้อ" พอนิ้วนั้นจมหายเข้าไปในร่อง หญิงสาวกลั้นเสียงไว้ไม่ได้อีก แต่เธอก็ไม่ได้ส่งเสียงออกมาแรง "อ่ะ อ่ะ" อารมณ์ของเธอเริ่มควบคุมไม่ได้เมื่อนิ้วนั้นขยับเร็วขึ้น"หือ" ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยเมื่อถูกมือเรียวลูบคลำที่เป้ากางเกง ยิ่งเธอเป็นคนรูดซิปเองด้วยแล้วเขายิ่งพอใจมากแต่เธอทำแค่นั้นแล้วก็หยุด เพราะเริ่มรู้ส