"แสนดีอย่า เฮียกลัวแล้ว อย่าทำเฮียเลย อย่าทำเฮียเลยนะแสนดี!"
"กูบอกให้หยุดวิ่งไงไอ้เวรอาวุธ!" ฉันยังคงเอามีดไล่วิ่งแทงเฮีย ไม่ว่าเขาจะวิ่งขึ้นข้างบนหรือลงข้างล่างฉันก็วิ่งตามไล่แทงเขา
ฉันไม่ยอมจบเรื่องนี้แน่ๆฉันจะต้องเอาเลือดชั่วของมันออก เฮียวิ่งออกมาทางหน้าบ้าน โดยที่มีฉันวิ่งตามหลังมาติดๆพร้อมกับมือที่ถือมีดอยู่
แต่ก็ต้องหยุดชะงักปลายเท้า เมื่อเจอกับใครบางคนอยู่หน้าบ้าน
"แสนดีแกจะทำอะไร?!"
"สะ ...แสนดี"
ทุกคนต่างทำท่าทางตกใจ เมื่อได้เห็นเหตุการณ์ที่ฉันไล่แทงสามีของตัวเอง
ใช่... พ่อแม่ของฉันกับพ่อแม่ของเฮียยืนอยู่หน้าบ้าน แล้วได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดระหว่างฉันกับเขา
ฉันถือมีดไล่แทงเฮีย จนเฮียหน้าซีดเผือด แต่สิ่งที่เฮียกำลังทำตอนนี้สิ มันอึ้งกว่าที่ฉันทำอีก
เฮียวิ่งเข้ามาหาฉัน แล้วแย่งเอามีดออกจากมือฉัน ส่วนฉันช็อคมากสตั้นทำอะไรไม่ถูกเลย ที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมาเห็นฉันทำแบบนี้ พ่อแม่ฉันคงไม่โอเคมากๆ ที่เห็นฉันทำตัวแบบนี้กับเขา
"เอ่อ...เราแค่เล่นกันนะครับไม่มีอะไรหรอก" ฉันหันไปมองหน้าเฮียที่กำลังแก้ตัวให้ เขายิ้มออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนฉันยังคงทำตัวไม่ถูก
"แน่ใจนะคุณอาวุธว่าแสนดีไม่ได้ดื้อกับคุณ" พ่อฉันเอ่ยถามพร้อมกับจองใบหน้าของฉัน
พ่อของฉันเป็นคนที่เคร่งครัดกับฉันมาก และฉันก็กลัวพ่อสุดๆเป็นสิ่งที่เฮียอาวุธก็รู้
"ไม่ครับ แสนดีไม่ได้ดื้อกับผมเลย เธอน่ารักกับผมมาก เมื่อกี้เราแค่เล่นกันเฉยๆครับ"
"เล่นแรงกันไปไหมตาวุธหนูแสนดี" แม่ของเฮียพูดพร้อมส่งสายตาตำหนิเราสองคน
"นะ...หนูขอโทษค่ะ" ฉันมองหน้าพ่อแม่ของฉัน ที่กำลังจ้องมองฉันอย่างไม่พอใจ ฉันรู้เลยว่าฉันต้องเจอกับอะไร หากทำตัวไม่น่ารักกับเฮีย นี่คือเหตุผลที่ฉันยอมเฮียมาตลอด
"ผมเป็นคนพาน้องเล่นเองครับแม่ อย่าดุน้องเลย แสนดีแค่ทำตามที่ผมบอก ผมเป็นคนชวนน้องเล่นเองครับ" ฉันถึงกับหันไปมองหน้าเฮีย ที่พูดแล้วยิ้มออกมา นี่เขากำลังช่วยฉันเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อ
"อืม ทีหลังอย่าเล่นแบบนี้อีกนะแสนดี รู้ไหมว่าพ่อไม่ชอบ เราอายุน้อยกว่าพี่เขา เราต้องเคารพพี่เขาให้มากๆ ยิ่งเป็นผัวเป็นเมียกัน ก็ยิ่งต้องเคารพพี่เขามากกว่าเดิม"
"ค่ะ" ทำอะไรไม่ได้นอกจากพยักหน้ารับคำ
ฉันกลัวพ่อกับแม่มาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นฉันก็ยังกลัวอยู่เหมือนเดิม
ถ้าทุกคนรู้ว่าชีวิตในวัยเด็กฉันเป็นยังไง ทุกคนจะเข้าใจว่าทำไมฉันถึงกลัวพ่อแม่ ท่านเลี้ยงดูฉันในแบบที่ไม่เหมือนคนอื่นเลี้ยง
ฉันต้องทำตามคำสั่งพวกท่านทุกอย่าง ไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรในชีวิตของตัวเอง ท่านกำหนดให้แม้กระทั่งเรื่องแต่งงาน
ท่านสอนให้ฉันเชื่อฟังเฮีย เพราะครอบครัวเราพึ่งบารมีของครอบครัวเฮียอยู่ ถ้าหากฉันไม่ทำตาม การโดนตีนั่นคือบทลงโทษของเด็กดื้ออย่างฉัน
"แสนดี เอ่อ ขอโทษค่ะ" สไปรท์วิ่งเข้ามาแล้วทำหน้าตกใจที่ได้เห็นพ่อแม่ของฉันและพ่อแม่ของเฮีย "สะ...สวัสดีค่ะ"
"จ้ะ!" ทุกคนยิ้มให้กับสไปรท์
"แล้วนี่แกไม่ไปเรียนเหรอแสนดี
"ไปค่ะ แต่แสนดีมาเอารายงานเฉยๆ
"เฮียขอโทษที่ทำมันไม่เสร็จ" เฮียเอ่ยเสียงเบาหวิวทำหน้าเหมือนรู้สึกผิด ถามว่าโกรธเฮียไหมฉันก็ต้องโกรธสิ แต่ตอนนี้ขอเก็บเอาไว้ก่อน เอาไว้เคลียร์กันทีหลัง
"กูทำให้มึงเสร็จแล้ว ไปกันเถอะใกล้เวลาเรียนแล้วด้วย"
"หนูไปเรียนก่อนนะคะ สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่" ฉันยกมือไหว้ทุกคน พวกท่านพยักหน้าพร้อมเพรียง
"จ้ะ แล้วตั้งใจเรียนล่ะ"
"ค่ะ"
"เข้าไปในบ้านก่อนตาอาวุธ พ่อมีธุระจะมาคุยกับแกด้วย"
"เชิญครับ เย็นนี้เฮียรอทานข้าวนะแสนดี" เฮียหันมาพูดกับฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้ตอบอะไร ฉันหันหลังเดินหนีแล้วตรงไปที่รถของสไปรท์
เพื่อนของฉันพาออกมาจากบ้านหลังนั้น ฉันได้แต่มองตามพ่อแม่ของฉัน ท่านมาคุยอะไรกันทำไมถึงยกโขยงมากันครบทุกคน
ฉันมองจนสุดสายตาฉันก็หันมาบอกทางข้างหน้าแล้วถอนหายใจออกมาแรงๆ
"กูจัดการอีแยมให้แล้วนะ"
"จัดการยังไง?" ฉันหันไปจ้องหน้าเพื่อน
"กูเอามันไปมัดไว้ที่สวนสาธารณะ มัดติดกับต้นไม้แล้วแก้ผ้ามันออก พร้อมกับเขียนตัวหนังสือกลางหน้าผากมันว่า หนูชอบแย่งผัวชาวบ้านค่ะ ติดแฮชแท็กด้วยนะมึง!"
"ว่าอะไรวะ?"
"พร้อมกระจายกีฟรี เชิญปี้ได้ตามสบาย เพราะแยมจะปล่อย WiFI แห่งความร่านของกีให้หมด ฮ่าๆ"
"มันไม่แรงไปหรอวะสไปรท์?!"
"แรงเริงอะไร แค่นี้ยังน้อยไปด้วยนะ ดีนะที่มีกฎหมายคุ้มครองเมียหลวงออกมา ไม่งั้นคงโดนจับแหละ อีเมียน้อยอย่างมันต้องโดนแบบนั้นแหละ กูจะเอาโพสต์ลงโซเชียลขายกีด้วยนะ" เพื่อนของฉันหัวเราะเหมือนสะใจ ก่อนจะยิ้มออกมาตามเพื่อนซะงั้น
พี่แยมมันต้องโดนแบบนั้น แต่ก็อย่างว่าแหละ เรื่องนี้มันจะโทษผู้หญิงฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ มันต้องโทษคนของเราที่เอาเขาเข้ามายุ่งด้วย
แค่คิดความดันก็ขึ้นแล้ว เลิกคิดปวดหัวจะเป็นยังไงก็ช่างแม่ง!
มหาวิทยาลัย
ฉันนั่งรถมาที่มหาวิทยาลัย พอมาถึงก็รีบเอารายงานไปส่งอาจารย์ทันที ของสไปรท์ก็เหมือนกัน โชคดีที่ยังมาส่งทัน ไม่งั้นฉันคงเรียนไม่จบแน่ๆ
"ฟูววว โล่งอกไปที" ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆเหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยค่ะ มันโล่งมากที่ได้ส่งงาน ถึงแม้จะช้าหน่อยแต่งานของฉันก็ได้ส่ง
"จบปีสามแล้วเว้ย!"
"คนมองเต็มแล้ว!" ฉันรีบปรามเพื่อน แต่เพื่อนของฉันกระโดดโลดเต้นดีใจยกใหญ่ คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็พากันมอง แต่โชคดีนะที่สไปรส์มันสวยมันก็เลยไม่ได้น่าเกลียดอะไร
"แล้วไงกูไม่แคร์ค่ะกูสวย" สะบัดผมไปที
"จ้าแม่คนสวยและรวยมาก"
"ฮ่าๆ"
"อีแสนดี มึงหายไปไหนมาวะ กูหาทั่วไปหมด" พิชชี่ปรี่เข้ามาหาพวกฉัน
"นั่นดิ่!พวกมึงสองคนหายไปไหนมาเนี่ย!" โมพูด เพื่อนของฉันวิ่งเข้ามาหน้าตั้งแล้วทำท่าทางเหนื่อยหอบ ฉันกับสไปรส์ถึงกับมองหน้ากันด้วยความงุนงง
"กูพาแสนดีไปเอารายงานที่บ้านมา แล้วพวกมึงวิ่งหน้าตั้งอะไรกันเนี่ยเป็นเห*้ยอะไร มีใครตาย"
"อีห่า กูจะตายก็ตอนนี้แหละ คนทั้งมหาลัยเขากำลังรวมตัวกันโหวตดาวแล้วค่ะ มึงต้องไปขึ้นแท่นเตรียมรับมงดาวแล้ว"
"จริงเหรอ!" ฉันกับสไปรท์พูดพร้อมกันออกมา ฉันเองก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย ตายห่า!
"ไปกันเถอะอย่าเพิ่งตกใจ เร็ว!"
ฉันถูกเพื่อนฉุดกระชากมาที่ใต้อาคารโดมหลังใหญ่ หรือเรียกว่าที่ประชุมของมหาวิทยาลัย คนเยอะมาก แล้วบนเวทีก็มีผู้หญิงจากคณะอื่นกำลังเดินขึ้นเวทีเพื่อยืนหน้ารูปของตัวเอง ข้างบนรูปจะมีป้ายคะแนนโหวตติดอยู่ ผลโหวตของทุกคนในวันนี้จะได้รู้ว่าใครได้เป็นดาว
"ไปๆขึ้นเวที"
ฉันรีบวิ่งขึ้นไปบนเวทีแล้วยืนในจุดของตัวเอง ทุกคนต่างพากันมาร้อนเวที พร้อมกับมือถือของตัวเอง ฉันตื่นเต้นมาก ทุกคนก็คงตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าฉัน
"เราจะเริ่มทำการโหวตคะแนนแล้วนะคะ ให้ทุกคนเตรียมมือถือขึ้นมา แล้วกดโหวตว่า ใครสมควรได้รับตำแหน่งนี้" อาจารย์เอ่ยขึ้น ในขณะที่ทุกคนเริ่มหยิบมือถือขึ้นมาก้มหน้าก้มตากดโหวต
ฉันมองไปที่ทุกคนแล้วยิ้ม ยิ้มให้ทุกคน ขณะนักศึกษาแลกเปลี่ยนพากันเดินเข้ามา พร้อมกับกุหลาบที่อยู่ในมือคนละดอก
ฉันพอรู้อยู่ว่าเขาจะต้องทำอะไรกัน เพราะฉันก็เคยโหวตดาวมาก่อน นักศึกษาแลกเปลี่ยนจะต้องให้ดอกกุหลาบกับคนที่เหมาะจะเป็นดาว หรือคนที่เขาต้องการโหวตให้
พรึ่บ!
เสียงคะแนนโหวตฮาดังลั่น ฉันมองดูผลโหวตของตัวเองมันเด้งขึ้นเร็วมากจนฉันดูไม่ทัน แต่แล้วคะแนนก็หยุดลง แต่ผลโหวตของฉัน น้อยกว่าคณะมนุษยศาสตร์แค่ 5 คะแนน
"เอาล่ะค่ะ คะแนนโหวตของนักศึกษาและอาจารย์ครบแล้วนะคะ ต่อไปจะเป็นคะแนนจากนักศึกษาแลกเปลี่ยน 1 ดอกคือ 1 คะแนนเข้าใจนะคะ"
"ครับ/ค่ะ"
ฉันมองไปที่นักศึกษาแลกเปลี่ยน ทุกคนหนึ่งในนั้นมีเซบาสเตียนยืนอยู่ด้วย แต่เขากลับยืนเป็นคนสุดท้าย พร้อมกับมีดาวติดอยู่ที่เสื้อตรงหัวไหล่ด้านซ้ายของเขา
ทุกคนพากันเดินขึ้นมาพร้อมกับดอกกุหลาบ คนแรกเริ่มให้ฉันนั่นแปลว่าฉันได้เพิ่มมา 1 คะแนน
และทุกคนเริ่มเดินให้คะแนนคนอื่นๆ ส่วนมากจะให้มาที่ฉันและเธอคนนั้น คณะมนุษยศาสตร์ เธอสวยนะ สวยมากๆ แต่ฉันว่าฉันก็สวย ฉันมั่นใจว่าฉันสวย จนผลคะแนนเริ่มตามกันมาติดๆ
คณะบริหารธุรกิจ : 6799
คณะมนุษยศาสตร์ : 6799
คะแนนของฉันและคะแนนของผู้หญิงคนนั้นมันเท่าเทียมกัน ตอนนี้เหลือแค่เซบาสเตียนคนเดียวเท่านั้นที่เขายังไม่ได้เลือก เขาเดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับช่อกุหลาบช่อโต
"ตอนนี้มหาลัยของเรามันยังไม่มีเดือนมหาลัยเพราะยังไม่ได้โหวต ทางมหาลัยให้เดือนของมหาลัยทางรัสเซียเป็นคนโหวตคนสุดท้าย"
"กรี๊ด!หล่อ!" ทุกคนกรี๊ดให้กับเซบาสเตียนที่เดินขึ้นมา เขาเป็นเดือนนี้เองถึงว่ามีดาวติดอยู่ที่หัวไหล่
"สวัสดีครับ ผมขอเป็นตัวแทนของเดือนมหาลัยในปีนี้ เพื่อคัดเลือกคนที่ดีที่สุดมาเป็นดาว ยืนเคียงข้างเดือนอย่างผม" เซบาสเตียนเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มให้ทุกคน
"กรี๊ด!"
"เธอว่าเขาจะเลือกใคร เราคะแนนเท่ากัน" ผู้หญิงที่คะแนนเท่าฉันเอ่ยถาม
"ฉันไม่รู้สิ แต่ถ้าเธอได้ ฉันก็ดีใจด้วยนะ เธอเหมาะสมที่จะเป็นดาวมหาลัยแล้ว"
"เธอก็เหมาะสมจ้ะ" ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้ฉันอยากเป็นมิตร
"ผมขอมอบคะแนนสุดท้ายให้กับ...."
ชีวิตการเป็นแม่ลูกอ่อนของฉัน มันสุขสบายกว่าใครจริงๆ สามีของฉันทำหน้าที่เลี้ยงดูลูกทั้งสามของเขาด้วยตัวเองถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเลี้ยงลูกมาก่อน แต่ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นพ่อ ทำให้เขาตั้งใจเลี้ยงแฝดทั้งสามได้เป็นอย่างดีตั้งแต่กลับจากโรงพยาบาล ฉันก็ได้แต่นั่งๆนอนๆ พักผ่อนดูแลร่างกายของตัวเอง คอยดูสามีเลี้ยงลูก เขาลงทุนถึงขั้นให้พี่สงครามมาดูงานแทนที่บริษัทพี่สงครามคือลูกชายของเพื่อนพ่อเฮียอาวุธ เพื่อนที่สนิทสนมกันมานาน พี่สงครามกับเฮียก็เหมือนพี่น้องครอบครัวเดียวกัน"ต้องใส่แบบนี้ค่ะคุณอาวุธ" ตอนนี้อ้อมกำลังสอนเฮียใส่แพมเพิสให้ลูกอยู่ ฉันได้แต่นอนมองดูสามีที่ตั้งอกตั้งใจใส่แพมเพิสให้ลูกทั้ง 3 มันดูชุลมุนวุ่นวายดีจริงๆค่ะ เขาดูเก้ๆกังๆแต่ก็มีความพยายามที่จะทำให้ได้"แบบนี้ใช่ไหม?""ใช่ค่ะ ตัวหนังสือจะอยู่ด้านหลัง แล้ววางผ้าอ้อมทับไว้ตรงนี้""นมได้แล้วค่ะ" ป้าน้อยถือขวดนมขวดเล็กๆทั้ง 3 ขวดรีบวิ่งเอามาให้เฮีย เฮียเขาจะป้อนนมลูกเอง เขาให้ป้าน้อยช่วยจัดแจงการชงนมให้ลูกช่วย"ไปเอาเปลมาอ้อม""ค่ะ อีบุ๋มไปช่วยกูยกเปลหน่อยสิวะ" อ้อมสั่งคนใช้อีกคนแล้วเดินตรงขึ้นไปข้างบน ทุกคนช่วยกันทำโดยที่ฉันไม
โรงพยาบาลคนที่ตื่นเต้นมากที่สุด ตอนนี้คงจะเป็นเฮียนั่นแหละ เขานั่งลุ้นใจแทบขาด หลังจากที่พี่ธาดาให้พยาบาลพาฉันไปตรวจฉี่ เพื่อตรวจว่าฉันท้องจริงหรือเปล่า และที่สำคัญ มันแค่เดือนเดียวเองนะที่ฉันคืนดีกับเฮีย มันจะท้องเร็วอะไรขนาดนั้นเลยหรอ"เป็นไงบ้างวะไอ้ธาดา เมียกูท้องแฝดกี่คน""ไม่ค่อยจะมั่นใจในตัวเองสูงเลยนะไอ้อาวุธ ตอนนี้ยังดูไม่ได้หรอก ว่าเมียมึงท้องแฝดหรือไม่แฝด แต่ที่รู้ตอนนี้คือ เมียมึงท้องได้ 4 สัปดาห์แล้ว"เฮียและฉันต่างพากันยิ้มหน้าบานออกมาด้วยความดีใจ ที่สุดเขาก็มาจริงๆ ฉันเอามือลูบท้องตัวเองแล้วก้มดู เฮียหันมายิ้มแบบตื้นตันใจ ไม่ได้พูดอะไรออกมา"4 สัปดาห์เดือนเดียวเองนะพี่ธาดา มันจะท้องเร็วขนาดนั้นเลยหรอคะ?""เฮียก็บอกเธอแล้วไงว่าน้ำเฮียมันแรง เป็นไงแป๊บเดียวเธอก็ท้องแล้ว" เฮียยิ้มหน้าแป้นอย่างภาคภูมิใจพร้อมกับเอามือลูบที่หน้าท้องของฉัน ความเห่อลูกมาเต็มร้อยเลยค่ะ"สงสัยน้ำมันคงจะแรงจริงๆนั่นแหละ ดีใจด้วยนะไอ้อาวุธ ดีใจด้วยนะแสนดี พี่จะจัดยาบำรุงครรภ์ให้""กูฝากท้องเลยนะไอ้ธาดา ฝากพิเศษ เอาแบบพิเศษสุดๆ เสียกี่บาทกูก็พร้อมจ่าย เพื่อลูกเพื่อเมียกู""เมียมึงท้องหรือว่ามึงท้อง
หลังจากที่กลับมาจากมัลดีฟ ทุกอย่างในชีวิตของฉัน มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆรวมถึงตัวเฮียด้วยเฮียดูแลและเอาใจใส่ฉันมากขึ้นทุกวัน ไม่เคยลดน้อยลง และทำทุกอย่างที่เคยทำ ทำมันทุกวันไม่เคยเปลี่ยนแปลงจนบางครั้ง ฉันก็อิจฉาตัวเองที่ได้สามีดีอย่างนี้ เปลี่ยนจากคนละคนไปเลย ตอนแรกที่ไม่เคยรักไม่เคยเหลียวแล ตอนนี้ฉันกลับเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เป็นทุกอย่างจริงๆเขาทำให้ฉันรับรู้ว่า เขารักฉันมากมายแค่ไหน โดยที่ไม่ต้องพูดคำว่ารัก ทุกอย่างมันสื่อชัดเจนออกมา จากการกระทำของเขาวันเวลาล่วงเลยผ่านไปอีก 1 เดือน ตอนนี้ฉันเริ่มเรียนหนักขึ้นกว่าเก่า เพราะใกล้จะสอบและใกล้จบปีที่ 3ฉันใส่ใจการเรียนมากกว่าเดิม มีท้อมีเหนื่อยแต่เฮียอาวุธจะอยู่ข้างๆฉันเสมอ เขาดีและใส่ใจทุกอย่างแม้กระทั่งทิ้งงานตัวเอง เพื่อมาทำงานส่งอาจารย์แทนฉันถ้าขึ้นปี 4 ฉันต้องฝึกงานที่บริษัทของเฮีย ไปที่อื่นไม่ได้หรอก.เฮียเขาหวงก้าง"แสนดีรายงานการบริหาร เฮียเอาไปตีเป็นเล่มให้แล้วนะ ตอนกลางวันเฮียจะเอาไปให้ที่มหาวิทยาลัย หลังจากที่เฮียประชุมตอนเช้าเสร็จ มันส่งทันใช่ไหม""ทันค่ะ แต่อย่าสายมากนะ" ฉันพูดไปพร้อมกับอ่านหนังสือเตรียมสอบไปด้วย ช่วงนี้ไ
แสนดี t a l k22:45 น.สิ่งที่ฉันเห็นในตอนนี้คือน้ำที่เรืองแสงของเกาะ มันสวยมากจริงๆ เฮียพาฉันมาเดินเล่นรอบๆชายหาดสีสวยเหมือนน้ำสวรรค์ เพียงแค่เอาเท้าสัมผัส มันก็ส่องแสงเปล่งประกายออกมาแล้ว"ชอบไหม?" เฮียกอดฉันจากทางด้านหลัง แล้วเอาหน้าแนบหูของฉันเบาๆ ทำไมฉันจะไม่ชอบล่ะ มันคือสวรรค์จริงๆที่ได้เห็น"ชอบมากค่ะ มันสวยมากจริงๆ แสนดีไม่เคยคิดเลยนะ ว่าเฮียจะพามาที่สวยๆแบบนี้""เฮียไม่เคยพาใครมาเลยนะ เธอเป็นคนแรกเลย อีกอย่างเฮียฝันว่า จะพาคนที่เฮียรักมาที่นี่ เพราะที่นี่มันคือสถานที่ที่สวย สวยเหมือนสวรรค์เลย" เฮียคลายกอดแล้วมองหน้าฉัน"มันก็คือสวรรค์จริงๆนั่นแหละ สวรรค์ของเราสองคน ขอบคุณนะคะที่พามา แสนดีจะจดจำมันให้ดีที่สุดเลย" ฉันยิ้มให้เฮียด้วยความจริงใจ ฉันมีความสุขจังที่ได้อยู่กับเขาแบบนี้"เธอคือความสุขของเฮีย แค่เธอยิ้ม เฮียก็มีความสุขแล้ว" เฮียจูบที่ลงที่หน้าผากของฉันเบาๆแล้วยิ้มให้เราสองคนยืนดูแสงของน้ำ ที่มันสาดส่องเปล่งแสงระยิบระยับสวยงาม ฉันได้เก็บภาพในวันนี้เอาไว้ในความทรงจำที่ลึก ลึกจนไม่สามารถลบล้างได้ ฉันรักวันนี้จัง รักช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเฮียแบบนี้ฉันคิดถูกแล้วล่ะที่ยกโทษ
แสนดีt a l kหลังจากที่ทุกอย่างมันผ่านไปด้วยดี ชาวประชาทั้งหลายต่างรับรู้แล้วว่า สามีของฉันยอมสยบแทบเท้าของแสนดีคนนี้ โลกโซเชียลเดี๋ยวนี้มันแรงจะตาย แป๊บๆคนก็รู้จักทั้งประเทศแล้วหนึ่งสิ่งที่ฉันอยากให้ทุกคนรับรู้คือ ไม่ว่าคนที่เรารักเขาจะทำผิดพลาดมากมายแค่ไหน ถ้ายกโทษให้กันได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่การให้อภัยมันก็ต้องดูด้วยว่า เรื่องราวความผิดของเขานั้น มันร้ายแรงแค่ไหน มันเกินกว่าที่จะให้อภัยได้ไหม ถ้าหากว่ามันมากไปเราก็ควรพอสำหรับฉัน การยกโทษให้กับสามีที่ทำผิดพลาด มันถือว่าเป็นเรื่องถูกต้องสำหรับตัวฉัน ไม่ว่าเรื่องราวในอดีตมันจะเป็นยังไง ฉันก็พร้อมที่จะลืมและเริ่มต้นใหม่ถ้าเขาสำนึกกับสิ่งที่ทำกลับตัวกลับใจ ฉันก็พร้อมที่จะให้อภัยเขาได้ทุกเมื่อเช่นกันทุกสิ่งทุกอย่างที่เฮียทำในวันนี้ มันบ่งบอกชัดเจนแล้วว่า เขายอมสยบแล้วจริงๆ ไม่งั้นเฮียคงไม่กล้ากราบเท้าฉันต่อหน้าทุกคนหรอกมันจะมีผู้ชายสักกี่คน ที่พร้อมก้มกราบแทบเท้าภรรยาต่อหน้าทุกคน โดยเฉพาะนักธุรกิจใหญ่อย่างเฮียอาวุธ เขาทำขนาดนี้แล้ว ถ้าฉันไม่ยกโทษให้ ฉันก็คงใจร้ายเกินไปแล้วฉันนั่งยิ้ม แล้วมองเฮียที่กำลังเดินไปหยิบกล่องอะไรบา
แสนดีt a l kตอนนี้ฉันมาถึงที่ผับแล้ว สิ่งแรกที่เห็น ก็คงจะเป็นบรรดาเพื่อนๆของเฮียอาวุธ เพื่อนของฉันดันมาเปิดโต๊ะข้างๆกับเพื่อนของเฮียอีกพิชชี่รู้จักกับเฮียฮาดิส มันก็เป็นธรรมดาที่นางจะมาเปิดโต๊ะใกล้ๆกับโต๊ะพี่ชายของนางตั้งแต่เข้ามานั่งที่โต๊ะ ฉันกับเพื่อนก็เริ่มคุยกันตามปกติ เพื่อนๆของเฮีย พากันจ้องมองพวกฉัน สลับกันไปมา ราวกับเป็นนักโทษของพวกเขาพวกเขามองพวกฉันแบบไม่คลาดสายตา แล้วก็มองเซบาสเตียนเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ"เพื่อนเฮียมองหน้ากูแปลกๆว่ะ จ้องจนกูจะท้องอยู่แล้ว" ฉันหันไปกระซิบกระซาบเพื่อนๆ พวกมันต่างพากันมองไปที่โต๊ะของเพื่อนเฮียอาวุธ"ก็อย่างว่าแหละ มึงเป็นเมียเพื่อนพวกพี่เขา นี่มึงควงฝรั่งมาแบบนี้ พวกเขาก็ต้องมองเป็นธรรมดา" มันก็จริงเพราะพวกเพื่อนเซบาสเตียนมาตั้ง 2-3 คน เขาคงต้องมองกันเป็นธรรมดา"นี่ ไอ้หมากฝรั่ง อย่าอยู่ใกล้เพื่อนฉันมากนะ เดี๋ยวตีนลอยขึ้นมา จะหาว่าไม่เตือน" สไปรท์เดินมาแทรกกลางระหว่างฉันกับเซบาสเตียน คงเพราะเห็นสายตาของบรรดาเพื่อนๆเฮียด้วยละมั้ง"เธอนี่ไม่มีมารยาทเลยนะ ไม่น่าเรียนมาถึงมหาวิทยาลัย ตอนอยู่อนุบาล ครูประจำชั้นไม่เคยสอนเรื่องมารยาทหรอ?""สอน