เซบาสเตียนหันมามองหน้าผู้หญิงทุกคนที่ลงสมัคร แต่เขาไม่ได้ยิ้มแย้มอะไรมากมาย เขากวาดสายตามองไปรอบๆ พร้อมกับถือไมค์จ่อปาก
"เลือกเลยจ้ะ!" อาจารย์ยื่นสายสะพายและเข็มกลัดดาวให้กับเซบาสเตียน
"กรี๊ดดดด!!"
สิ่งที่ทำให้ทุกคนกรี๊ดได้ปรบมือเสียงดังลั่นซึ่งไม่ต่างจากฉัน เพราะเซบาสเตียนเดินมาอยู่ตรงหน้าฉันพร้อมกับยิ้มให้ นี่คือเขาเลือกฉันหรอฉันถึงกับตาลุกวาวเพราะไม่คิดว่าฉันจะได้เป็นดาวจริงๆ ไม่คิดว่าเขาจะเลือกฉัน
"ฉันเลือกเธอให้เป็นดาวของมหาลัย GG เธอเป็นดาวที่ยืนเคียงข้างเดือน เป็นนักศึกษาดีเด่นที่ทุกคนรู้จักและยอมรับ"
"^_^"
"คะแนนสุดท้ายฉันให้เธอ"
"กรี๊ดด! อร้าย!"
เซบาสเตียนยืนช่อกุหลาบให้ฉันแล้วติดเข็มกลัดดาวที่หัวไหล่ซ้ายพร้อมกับใส่สายสะพายของดาวให้ฉัน
ฉันยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ไม่คิดเหมือนกันว่าชีวิตฉัน จะขึ้นชื่อว่าเป็นดาวของทุกคน
"ขอบคุณนะ"
"ฉันเลือกเธอตั้งแต่แรกแล้วแสนดี เธอยิ้มสวยฉันชอบ"
"กรี๊ด!!" ทุกคนต่างพากันรุมส่งเสียงแซวบางคนก็พูดจนดังออกมาว่าฉันกับเขาเป็นคู่จิ้นอะไรกันบ้าง คะแนนสุดท้ายโผล่ขึ้นบนจอ ฉันคือดาวของมหาลัย
"ดาวมหาลัยของเราในปีนี้คือ กรกนก เวชพิสิฐกิจเจริญจากคณะบริหารธุรกิจ บลาๆ"
ทุกคนต่างพากันปรบมือให้กับฉันแล้วยิ้มแย้มให้เหมือนร่วมยินดีกับฉัน ฉันภูมิใจจังที่ได้รับตำแหน่งนี้ มันไม่ใช่แค่ความสวย แต่มันเต็มไปด้วยความสามารถของฉันด้วย
และอีกหนึ่งคนสำคัญ ต้องขอบคุณเขา ที่เลือกให้ฉันเป็น
"ขอบคุณนะเซบาส"
"ฉันเต็มใจ" เขายิ้มให้ฉัน ทำไมรอยยิ้มของเขามันอบอุ่นดีจัง เขาแสนดีกับฉันจริงๆ ถึงตอนแรกฉันจะมองว่าเขาปากไม่ดี แต่ตอนนี้ฉันกลับเปลี่ยนใจแล้วล่ะ ฉันว่าเขา perfect ที่สุดเลย
talk เซบาสเตียน
นี่คือรอยยิ้มที่ผมยิ้มอย่างเต็มใจให้กับผู้หญิงคนแรก แสนดีเป็นคนแรกที่ได้รอยยิ้มแบบนี้จากผม ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องยิ้มให้เธอคนนี้ รู้แค่ว่าผมหยุดมองเธอไม่ได้ หยุดสายตาหนีจากเธอไม่ได้
เธอเป็นผู้หญิงไทยที่สวยมาก สวยจนผมรู้สึกว่าผมหลงเลยก็ว่าได้
ไม่ใช่ที่ผมเลือกเธอเพราะเธอสวยนะ แต่โปรไฟล์ของเธอมันดีจริงๆ ดีจนผมต้องยอมรับ เก่ง แถมยังแสนดีเหมือนชื่อของเธออีก ตำแหน่งนี้มันเหมาะกับเธอแล้ว
ผมชื่อเซบาสเตียน อายุ 23 ปี เป็นหนุ่มลูกครึ่งไทยรัสเซีย ที่ผมพูดไทยได้ชัดเจนเพราะแม่ผมเป็นคนไทย บ้านผมทำธุรกิจโรงแรมอยู่ที่รัสเซีย นิสัยส่วนตัวของผมเป็นคนนิ่งๆ เป็นคนค่อนข้างพูดน้อย และไม่ค่อยจะสุงสิงกับใครมากมายนัก
แต่แสนดีเป็นคนแรกที่ผมคุยด้วยยาวๆ แสนดีเธอยิ้มออกมา ใบหน้าของเธอสวยมาก ให้ตายเถอะ ผมกำลังหลงรักเธอ เพียงเพราะรอยยิ้มและความสดใสในตัวเธอเหรอเนี่ย
"เธอยิ้มแล้วสวยฉันชอบ"
คำพูดทุกคำพูดของผมมันออกมาจากใจ ผมชื่นชมเธอ ผมชอบเธอจัง หลงรักดาวมหาลัยคนนี้แล้วสิ อีกอย่างดาวอย่างเธอ ต้องจับคู่กับเดือนอย่างผม จริงไหมครับฮ่าๆๆ
"ขอบใจนะ งั้นฉันไปหาเพื่อนๆก่อนนะ"
"เย็นนี้ไปกินข้าวกันไหม เอ่อ ฉลองกันน่ะ"
"ได้สิ แต่ชวนเพื่อนไปด้วยได้ไหม?"
"OK"
"thanks"
เธอยิ้มให้ผม แล้วเดินออกไปหากลุ่มเพื่อนของเธอ ให้ตายเถอะวะ สาวไทยคนนี้กำลังฉุดให้ผมอยากอยู่เมืองไทยต่อ
"เฮ้ย ยิ้มอะไรของนาย" ปีเตอร์เพื่อนของผมเอ่ยขึ้น
"ยิ้มให้กับความสวย และความน่ารักของผู้หญิงคนนั้น" ผมเอ่ยขณะที่สายตาของผม ยังคงจับจ้องตามแผ่นหลังของแสนดี
"เธอสวยมาก ฉันไปได้ยินมาว่า มีคนเริ่มจับจิ้นนายกับเธอ"
"ให้พวกเขาจิ้นไป แต่ฉันจะเอาจริง" ผมยิ้มออกมา
"นายจะจีบเธอหรอเซบาสเตียน"
"ใช่ ฉันจะจีบแสนดี อีกอย่างดาวอย่างเธอต้องอยู่เคียงข้างเดือนอย่างฉัน มันถึงจะถูก"
"ว้าว ขอให้นายจีบเธอสำเร็จนะ"
"อื้อ" ผมมองไปที่แสนดีอีกครั้งรอยยิ้มนั้นยังตราตึงติดในใจของผม เธอเป็นคนเดียวที่ผมอยากให้เธอเข้ามาอยู่ในหัวใจ เธอเป็นคนเดียวที่ผมมองและเก็บรอยยิ้มของเธอ เข้ามาในชีวิตและอยู่ในสายตา
ขอหลงรักแสนดีคนนี้สักล้านครั้งได้ไหมครับ....
talk แสนดี
หลังจากที่ฉันคุยกับเพื่อนๆเสร็จแล้วก็ตกลงกันว่าคืนนี้จะไปฉลองความสำเร็จของฉันที่ผับ s ฉันก็เลยรีบเดินมาหาเซบาสเตียนเพื่อบอกเขา เพราะเขาบอกว่าอยากร่วมฉลองด้วย
"เซบาส"
"หืม" เขาหันมามองฉันพร้อมกับคาบสตอเบอรี่อยู่ในปาก
"คืนนี้ฉันกับเพื่อนตกลงจะไปกันที่ผับ s นายไปด้วยไหม?"
"ไปสิ!"
"โอเคงั้นคืนนี้เจอกัน นายไปถูกใช่ไหม?"
"เพื่อนฉันเป็นคนไทยคนนึง เขาพาฉันไปที่นั่นถูกแน่นอน เธอไม่ต้องห่วงนะ เราได้เจอกันอยู่แล้ว"
"โอเคงั้นฉันกลับก่อนนะคืนนี้เจอกัน"
"อืม กลับดีๆนะ อย่าเผลอไปชนใครเขาอีกล่ะ เพราะฉันไม่แน่ใจว่า เขาจะไปส่งเธอเหมือนฉันหรือเปล่า" เขาเอามือมาขยี้ผมของฉันเบาๆแล้วยิ้มออกมา นี่เขากำลังหยอกล้อฉันหรือเปล่าเนี่ย
"อื้อ ไม่ชวนใครแล้ว เลิกขยี้ผมฉันได้แล้ว หัวฉันยุ่งหมดแล้วเนี่ย" ฉันแกะมือของเขาออกจากหัวแล้วยิ้มให้ทำไมวันนี้เขาน่ารักจัง
"ฮ่าๆๆเธอนี่น่ารักชะมัด อื้อ ฉันชอบแก้มเธอจัง มันน่าหยิกมากๆ" เขาเอามือมาบิดแก้มฉันแล้วหัวเราะออกมา โอ๊ยเซบาสเตียน นายกำลังทำฉันหัวใจกระชุ่มกระชวย
"ง่า มาบิดแก้มฉันทำไมเนี่ย นี่แนะๆ" ฉันเลยบีบแก้มเขากลับบ้าง แก้มของเขานิ่มดีจัง ฉันอยากฟัดแก้มของเขาจริงๆ
"ฮ่าๆ เธอเอาคืนเหรอ?"
"ก็นายทำฉันก่อน ฉันไม่ยอมถูกแกล้งฝ่ายเดียวหรอก"
"เธอเป็นคนแรก ที่ได้แกล้งฉันแบบนี้นะแสนดีรู้ตัวไหม?"
"จริงเหรอ? แต่ถ้ามันทำให้นายไม่พอใจฉัน...."
"ฉันชอบ" ฉันถึงกับมองเขาด้วยในตากลมโต เขาบอกว่าชอบงั้นเหรอ ชอบในที่นี้ของเขามันแปลว่าอะไรอ่ะ ชอบที่แกล้งหรือชอบอะไรกัน?
"เหรอ งั้นฉันกลับก่อนนะไว้คืนนี้เจอกัน" ฉันรีบพูดตัดบทออกไป เพราะถ้าอยู่ต่อฉันคงละลายต่อหน้าเขา เขาทั้งหล่อแสนดี เป็นผู้ชายที่ทุกคนใฝ่ฝัน เขาไม่คู่ควรกับคนที่มีสามีอย่างฉัน
"อื้ม เจอกัน" รอยยิ้มของเขามันทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมาได้ทุกครั้งจริงๆ รอยยิ้มที่แสนสดใส รอยยิ้มของคนจริงใจมันเป็นแบบนี้นี่เอง
ฉันเดินกลับมาที่กลุ่มเพื่อนพร้อมกับถ่ายรูปกันไปมา ตอนนี้มันได้เวลาเลิกเรียนกันหมดแล้วด้วย เพราะฉันมีเรียนเช้าก็เลยจะได้กลับเร็ว
เพื่อนของฉันพากันรุมแซวฉันและเขา แถมยังมีโซเชียลกลุ่มของมหาลัย กระหน่ำจิ้นฉันกับเซบาสเตียนกันใหญ่
"โอ๊ยอีแสนดีมึงดูรูปนี้ เซบาสเตียนยีหัวมึงอ่ะ น่ารักเวอร์ เมื่อกี้ใช่เปล่าวะที่มึงไปคุยกับเขา" ทำไมข่าวฉันกับเขามันเร็วจริงๆ ฉันเพิ่งแหย่เล่นกับเขาไม่นาน รูปก็สนั่นลั่นเมืองไปหมดแล้ว
"อืม เมื่อกี้"
"หูย กรี๊ด กูอิจฉามึงจริงๆเลยอีแสนดี"
ชีวิตการเป็นแม่ลูกอ่อนของฉัน มันสุขสบายกว่าใครจริงๆ สามีของฉันทำหน้าที่เลี้ยงดูลูกทั้งสามของเขาด้วยตัวเองถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเลี้ยงลูกมาก่อน แต่ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นพ่อ ทำให้เขาตั้งใจเลี้ยงแฝดทั้งสามได้เป็นอย่างดีตั้งแต่กลับจากโรงพยาบาล ฉันก็ได้แต่นั่งๆนอนๆ พักผ่อนดูแลร่างกายของตัวเอง คอยดูสามีเลี้ยงลูก เขาลงทุนถึงขั้นให้พี่สงครามมาดูงานแทนที่บริษัทพี่สงครามคือลูกชายของเพื่อนพ่อเฮียอาวุธ เพื่อนที่สนิทสนมกันมานาน พี่สงครามกับเฮียก็เหมือนพี่น้องครอบครัวเดียวกัน"ต้องใส่แบบนี้ค่ะคุณอาวุธ" ตอนนี้อ้อมกำลังสอนเฮียใส่แพมเพิสให้ลูกอยู่ ฉันได้แต่นอนมองดูสามีที่ตั้งอกตั้งใจใส่แพมเพิสให้ลูกทั้ง 3 มันดูชุลมุนวุ่นวายดีจริงๆค่ะ เขาดูเก้ๆกังๆแต่ก็มีความพยายามที่จะทำให้ได้"แบบนี้ใช่ไหม?""ใช่ค่ะ ตัวหนังสือจะอยู่ด้านหลัง แล้ววางผ้าอ้อมทับไว้ตรงนี้""นมได้แล้วค่ะ" ป้าน้อยถือขวดนมขวดเล็กๆทั้ง 3 ขวดรีบวิ่งเอามาให้เฮีย เฮียเขาจะป้อนนมลูกเอง เขาให้ป้าน้อยช่วยจัดแจงการชงนมให้ลูกช่วย"ไปเอาเปลมาอ้อม""ค่ะ อีบุ๋มไปช่วยกูยกเปลหน่อยสิวะ" อ้อมสั่งคนใช้อีกคนแล้วเดินตรงขึ้นไปข้างบน ทุกคนช่วยกันทำโดยที่ฉันไม
โรงพยาบาลคนที่ตื่นเต้นมากที่สุด ตอนนี้คงจะเป็นเฮียนั่นแหละ เขานั่งลุ้นใจแทบขาด หลังจากที่พี่ธาดาให้พยาบาลพาฉันไปตรวจฉี่ เพื่อตรวจว่าฉันท้องจริงหรือเปล่า และที่สำคัญ มันแค่เดือนเดียวเองนะที่ฉันคืนดีกับเฮีย มันจะท้องเร็วอะไรขนาดนั้นเลยหรอ"เป็นไงบ้างวะไอ้ธาดา เมียกูท้องแฝดกี่คน""ไม่ค่อยจะมั่นใจในตัวเองสูงเลยนะไอ้อาวุธ ตอนนี้ยังดูไม่ได้หรอก ว่าเมียมึงท้องแฝดหรือไม่แฝด แต่ที่รู้ตอนนี้คือ เมียมึงท้องได้ 4 สัปดาห์แล้ว"เฮียและฉันต่างพากันยิ้มหน้าบานออกมาด้วยความดีใจ ที่สุดเขาก็มาจริงๆ ฉันเอามือลูบท้องตัวเองแล้วก้มดู เฮียหันมายิ้มแบบตื้นตันใจ ไม่ได้พูดอะไรออกมา"4 สัปดาห์เดือนเดียวเองนะพี่ธาดา มันจะท้องเร็วขนาดนั้นเลยหรอคะ?""เฮียก็บอกเธอแล้วไงว่าน้ำเฮียมันแรง เป็นไงแป๊บเดียวเธอก็ท้องแล้ว" เฮียยิ้มหน้าแป้นอย่างภาคภูมิใจพร้อมกับเอามือลูบที่หน้าท้องของฉัน ความเห่อลูกมาเต็มร้อยเลยค่ะ"สงสัยน้ำมันคงจะแรงจริงๆนั่นแหละ ดีใจด้วยนะไอ้อาวุธ ดีใจด้วยนะแสนดี พี่จะจัดยาบำรุงครรภ์ให้""กูฝากท้องเลยนะไอ้ธาดา ฝากพิเศษ เอาแบบพิเศษสุดๆ เสียกี่บาทกูก็พร้อมจ่าย เพื่อลูกเพื่อเมียกู""เมียมึงท้องหรือว่ามึงท้อง
หลังจากที่กลับมาจากมัลดีฟ ทุกอย่างในชีวิตของฉัน มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆรวมถึงตัวเฮียด้วยเฮียดูแลและเอาใจใส่ฉันมากขึ้นทุกวัน ไม่เคยลดน้อยลง และทำทุกอย่างที่เคยทำ ทำมันทุกวันไม่เคยเปลี่ยนแปลงจนบางครั้ง ฉันก็อิจฉาตัวเองที่ได้สามีดีอย่างนี้ เปลี่ยนจากคนละคนไปเลย ตอนแรกที่ไม่เคยรักไม่เคยเหลียวแล ตอนนี้ฉันกลับเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เป็นทุกอย่างจริงๆเขาทำให้ฉันรับรู้ว่า เขารักฉันมากมายแค่ไหน โดยที่ไม่ต้องพูดคำว่ารัก ทุกอย่างมันสื่อชัดเจนออกมา จากการกระทำของเขาวันเวลาล่วงเลยผ่านไปอีก 1 เดือน ตอนนี้ฉันเริ่มเรียนหนักขึ้นกว่าเก่า เพราะใกล้จะสอบและใกล้จบปีที่ 3ฉันใส่ใจการเรียนมากกว่าเดิม มีท้อมีเหนื่อยแต่เฮียอาวุธจะอยู่ข้างๆฉันเสมอ เขาดีและใส่ใจทุกอย่างแม้กระทั่งทิ้งงานตัวเอง เพื่อมาทำงานส่งอาจารย์แทนฉันถ้าขึ้นปี 4 ฉันต้องฝึกงานที่บริษัทของเฮีย ไปที่อื่นไม่ได้หรอก.เฮียเขาหวงก้าง"แสนดีรายงานการบริหาร เฮียเอาไปตีเป็นเล่มให้แล้วนะ ตอนกลางวันเฮียจะเอาไปให้ที่มหาวิทยาลัย หลังจากที่เฮียประชุมตอนเช้าเสร็จ มันส่งทันใช่ไหม""ทันค่ะ แต่อย่าสายมากนะ" ฉันพูดไปพร้อมกับอ่านหนังสือเตรียมสอบไปด้วย ช่วงนี้ไ
แสนดี t a l k22:45 น.สิ่งที่ฉันเห็นในตอนนี้คือน้ำที่เรืองแสงของเกาะ มันสวยมากจริงๆ เฮียพาฉันมาเดินเล่นรอบๆชายหาดสีสวยเหมือนน้ำสวรรค์ เพียงแค่เอาเท้าสัมผัส มันก็ส่องแสงเปล่งประกายออกมาแล้ว"ชอบไหม?" เฮียกอดฉันจากทางด้านหลัง แล้วเอาหน้าแนบหูของฉันเบาๆ ทำไมฉันจะไม่ชอบล่ะ มันคือสวรรค์จริงๆที่ได้เห็น"ชอบมากค่ะ มันสวยมากจริงๆ แสนดีไม่เคยคิดเลยนะ ว่าเฮียจะพามาที่สวยๆแบบนี้""เฮียไม่เคยพาใครมาเลยนะ เธอเป็นคนแรกเลย อีกอย่างเฮียฝันว่า จะพาคนที่เฮียรักมาที่นี่ เพราะที่นี่มันคือสถานที่ที่สวย สวยเหมือนสวรรค์เลย" เฮียคลายกอดแล้วมองหน้าฉัน"มันก็คือสวรรค์จริงๆนั่นแหละ สวรรค์ของเราสองคน ขอบคุณนะคะที่พามา แสนดีจะจดจำมันให้ดีที่สุดเลย" ฉันยิ้มให้เฮียด้วยความจริงใจ ฉันมีความสุขจังที่ได้อยู่กับเขาแบบนี้"เธอคือความสุขของเฮีย แค่เธอยิ้ม เฮียก็มีความสุขแล้ว" เฮียจูบที่ลงที่หน้าผากของฉันเบาๆแล้วยิ้มให้เราสองคนยืนดูแสงของน้ำ ที่มันสาดส่องเปล่งแสงระยิบระยับสวยงาม ฉันได้เก็บภาพในวันนี้เอาไว้ในความทรงจำที่ลึก ลึกจนไม่สามารถลบล้างได้ ฉันรักวันนี้จัง รักช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเฮียแบบนี้ฉันคิดถูกแล้วล่ะที่ยกโทษ
แสนดีt a l kหลังจากที่ทุกอย่างมันผ่านไปด้วยดี ชาวประชาทั้งหลายต่างรับรู้แล้วว่า สามีของฉันยอมสยบแทบเท้าของแสนดีคนนี้ โลกโซเชียลเดี๋ยวนี้มันแรงจะตาย แป๊บๆคนก็รู้จักทั้งประเทศแล้วหนึ่งสิ่งที่ฉันอยากให้ทุกคนรับรู้คือ ไม่ว่าคนที่เรารักเขาจะทำผิดพลาดมากมายแค่ไหน ถ้ายกโทษให้กันได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่การให้อภัยมันก็ต้องดูด้วยว่า เรื่องราวความผิดของเขานั้น มันร้ายแรงแค่ไหน มันเกินกว่าที่จะให้อภัยได้ไหม ถ้าหากว่ามันมากไปเราก็ควรพอสำหรับฉัน การยกโทษให้กับสามีที่ทำผิดพลาด มันถือว่าเป็นเรื่องถูกต้องสำหรับตัวฉัน ไม่ว่าเรื่องราวในอดีตมันจะเป็นยังไง ฉันก็พร้อมที่จะลืมและเริ่มต้นใหม่ถ้าเขาสำนึกกับสิ่งที่ทำกลับตัวกลับใจ ฉันก็พร้อมที่จะให้อภัยเขาได้ทุกเมื่อเช่นกันทุกสิ่งทุกอย่างที่เฮียทำในวันนี้ มันบ่งบอกชัดเจนแล้วว่า เขายอมสยบแล้วจริงๆ ไม่งั้นเฮียคงไม่กล้ากราบเท้าฉันต่อหน้าทุกคนหรอกมันจะมีผู้ชายสักกี่คน ที่พร้อมก้มกราบแทบเท้าภรรยาต่อหน้าทุกคน โดยเฉพาะนักธุรกิจใหญ่อย่างเฮียอาวุธ เขาทำขนาดนี้แล้ว ถ้าฉันไม่ยกโทษให้ ฉันก็คงใจร้ายเกินไปแล้วฉันนั่งยิ้ม แล้วมองเฮียที่กำลังเดินไปหยิบกล่องอะไรบา
แสนดีt a l kตอนนี้ฉันมาถึงที่ผับแล้ว สิ่งแรกที่เห็น ก็คงจะเป็นบรรดาเพื่อนๆของเฮียอาวุธ เพื่อนของฉันดันมาเปิดโต๊ะข้างๆกับเพื่อนของเฮียอีกพิชชี่รู้จักกับเฮียฮาดิส มันก็เป็นธรรมดาที่นางจะมาเปิดโต๊ะใกล้ๆกับโต๊ะพี่ชายของนางตั้งแต่เข้ามานั่งที่โต๊ะ ฉันกับเพื่อนก็เริ่มคุยกันตามปกติ เพื่อนๆของเฮีย พากันจ้องมองพวกฉัน สลับกันไปมา ราวกับเป็นนักโทษของพวกเขาพวกเขามองพวกฉันแบบไม่คลาดสายตา แล้วก็มองเซบาสเตียนเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ"เพื่อนเฮียมองหน้ากูแปลกๆว่ะ จ้องจนกูจะท้องอยู่แล้ว" ฉันหันไปกระซิบกระซาบเพื่อนๆ พวกมันต่างพากันมองไปที่โต๊ะของเพื่อนเฮียอาวุธ"ก็อย่างว่าแหละ มึงเป็นเมียเพื่อนพวกพี่เขา นี่มึงควงฝรั่งมาแบบนี้ พวกเขาก็ต้องมองเป็นธรรมดา" มันก็จริงเพราะพวกเพื่อนเซบาสเตียนมาตั้ง 2-3 คน เขาคงต้องมองกันเป็นธรรมดา"นี่ ไอ้หมากฝรั่ง อย่าอยู่ใกล้เพื่อนฉันมากนะ เดี๋ยวตีนลอยขึ้นมา จะหาว่าไม่เตือน" สไปรท์เดินมาแทรกกลางระหว่างฉันกับเซบาสเตียน คงเพราะเห็นสายตาของบรรดาเพื่อนๆเฮียด้วยละมั้ง"เธอนี่ไม่มีมารยาทเลยนะ ไม่น่าเรียนมาถึงมหาวิทยาลัย ตอนอยู่อนุบาล ครูประจำชั้นไม่เคยสอนเรื่องมารยาทหรอ?""สอน