มหาวิทยาลัย
สุดท้ายฉันก็หอบหิ้วข้าวของมาจนถึงมหาวิทยาลัยจนสำเร็จ แพรวาสไปรท์และโมบายทั้ง 3 คือเพื่อนสนิทของฉัน
พอเห็นฉันลงจากรถเมล์แล้วหิ้วข้าวของพะรุงพะรังเดินเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยทั้ง 3 ก็รีบเข้าไปช่วยฉันเลย
"ทำไมมึงเดินมา แล้วผัวมึงอ่ะไปไหน ทำไมไม่ได้มาส่งมึง" สไปรท์เอ่ยขึ้นพร้อมกับแย่งถุงขนมของฉันไปถือ
"เฮียเขารีบไปทำธุระ กูก็เลยอาสามาเองไม่มีอะไรหรอก" ฉันว่าแล้วปรับสีหน้านิ่งๆพยายามไม่แสดงอาการหรือพิรุธอะไรให้เพื่อนต้องสงสัย ฉันไม่อยากให้ทุกคนไม่สบายใจ
"กูไม่เชื่ออีแสนดีมึงบอกกูมาตรงๆเลย"
"เออพวกกูก็ไม่เชื่อ มึงบอกมาเลยมึงไปเจอเห*้ยอะไรมาวันนี้" แพรเอ่ยถามเสริมขึ้นมา
"ไม่มีอะไรหรอก พวกมึงอ่ะคิดมาก"
"คิดมากเชี่ยอะไร ผัวมึงเป็นเห*้ยอะไรอีก กูว่ามันต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆมึงถึงปกปิดกู" โมเพื่อนอีกคนพูดขึ้น ฉันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้สินะ ฉันไม่เคยโกหกเพื่อนสำเร็จเลยสักครั้ง
"เฮียพาพี่แยมไปเก็บของน่ะเขาก็เลยไม่ได้มาส่งฉัน"
"พี่แยม! พี่แยมนี่ใครวะ"
"เป็นแฟนเฮีย เขาจะย้ายมาอยู่ในบ้านด้วย"
"เฮ้ย!" ทุกคนอุทานขึ้นมาพร้อมกัน"มึงยอมได้ยังไงอีแสนดี"
ทุกคนพูดอย่างพร้อมเพรียงฉันหันไปมองหน้าเพื่อนแล้วขมวดคิ้วขึ้นมา ฉันจะไม่ยอมได้อย่างไรในเมื่อฉันไม่มีสิทธิ์ในตัวเขา ฉันจะห้ามเขาได้อย่างไรล่ะ
"ก็ ..."
"กูต้องจูนสมองให้มึงด้วยไสยศาสตร์อะไรดีวะ มึงถึงจะเลิกเป็นนางเอก MV สักที อีห่ามึงเป็นเมียเขานะเว้ยมึงยอมได้ยังไง มึงยอมให้เขาเอาผู้หญิงคนนั้นมาหยามน้ำหน้ามึงได้ยังไง กูอยากผ่าหัวใจมึงออกดูจริงๆเลยมึงทนได้ยังไงวะ" สไปรท์พูดขึ้นอย่างโมโห
"กูก็แค่เมียในใบสมรส แต่ในความเป็นจริงชีวิตจริงกูไม่ใช่เมียของเขาเลย แล้วกูจะพูดอะไรได้"
"มึงจะมีอะไรยังไงมึงก็เมียอยู่ดี มึงไม่ควรจะยอมอะไรแบบนี้เลย ทำไมมึงไม่สู้ทำไมมึงไม่โวยวายทำไมมึงไม่จัดการพวกมันเลย"
"ช่างเขาเถอะ เขาอยากจะทำอะไรก็ทำไป เออเดี๋ยวกูเอาขนมไปขายก่อนนะ" ฉันรีบตัดบทก่อนที่เพื่อนจะโวยวายไปมากกว่านี้
"เออไปเลยป่ะจะได้ช่วยขนไป"
"อื้อ" ฉันปั้นหน้ายิ้มให้เหมือนทุกๆครั้ง แล้วเดินเอาขนมไปขายตามคณะต่างๆ เพื่อนของฉันแต่ละคนเป็นคนสวย จึงมีผู้ชายมาจีบเต็มไปหมดส่วนฉันได้แต่ยืนยิ้มเป็นหุ่นขี้ผึ้งของราชบุรีไปเลย ผ่านไปไม่นานขนมของฉันก็ขายหมด พวกผู้ชายที่จีบเพื่อนของฉันต่างเหมาขนมไปจนหมด
"ชะนีน้อยมายืนยิ้มอะไรอยู่ตรงนี้เพื่อนมึงไปไหน" พิชชี่สาวสองเอ่ยแล้วเดินตรงมาหาฉัน
"อยู่โต๊ะกับกลุ่มผู้ชายตรงนั้นค่ะ เอาขนมไปขายให้แสนดี พิชชี่มีอะไรหรอคะ?"
"แค่จะมาบอกข่าว อาทิตย์หน้าเขาจะมีประกวดดาวมหาลัยกัน คณะหล่อนต้องเข้าร่วมด้วย"
"อ๋อ งั้นเดี๋ยวแสนดีจะบอกเพื่อนๆให้นะ"
"จ้ะ"
"พิชชี่มึงมาทำอะไรที่นี่วะ" เพื่อนของฉันเดินมาแล้วเอ่ยถาม
"อาทิตย์หน้าจะมีประกวดดาวมหาลัยคณะของพวกมึงจะส่งใครเข้าประกวด"
"กูสวยส่งกูนะกูสวย" แพรเอ่ยขึ้น
"สวยไร้สมองดาวมหาลัยเขาต้องสวยและเก่งค่ะ ไม่ใช่สวยแต่ไร้สมองอย่างพวกแก"
"สวยและเก่ง อย่างเช่นเป็นนักศึกษาดีเด่นหรือนักศึกษาตัวอย่างอ่ะเหรอ" โมเอ่ย
"เออแบบนั้นแหละ สวยอย่างเดียวไม่พอมันต้องเก่งและมีสมองด้วย"
"พวกมึงทุกตัวดับเลยค่ะ หมดหวังเพราะโง่ทุกคน คณะของเราเรียนเก่งก็มีอยู่คนเดียว หื้อ..."
พรึ่บ
จู่ๆทุกคนก็หันมามองฉันเป็นตาเดียว ฉันเอามือจับหน้าตัวเองหรือว่ามีอะไรติด รู้สึกงงมากแต่ก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมทุกคนถึงเอาแต่มองฉัน
"แสนดีเมืองเลยดาวคณะเรา!"
"ห๊าาา!!" ฉันถึงกับตกใจทำหน้าเหวอ จะบ้ากันหรือไงจะให้ฉันประกวดดาวคณะ คงขายหน้ากันทั้งคณะแน่ ดูสภาพฉันสิยิ่งกว่ายัยเฉิ่มเบ๊อะคนนึงฉันไม่เหมาะกับการประกวดหรอก
"มองดีๆมึงก็สวยนะอีแสนดี" พิชชี่เอ่ยอย่างมีจริตจะกร้าน
"แสนดีไม่สวยไม่เอาค่ะไปหาคนอื่นเถอะ แสนดีไม่อยากจะทำให้ทุกคนต้องขายขี้หน้า แสนดีขี้เหร่ขนาดนี้คงไม่เหมาะกับการทำอะไรแบบนี้หรอกค่ะ"
"มึงต้องเปลี่ยนตัวเอง" ทุกคนพร้อมใจกันพูดใส่หน้าฉัน เปลี่ยนตัวเองหรอฉันต้องเปลี่ยนยังไง ฉันคือฉันจะให้เปลี่ยนมันจะเปลี่ยนได้ยังไงกัน
"แสนดีทำไม่ได้หรอกค่ะ"
"แสนดีคณะเรามันไม่มีใครฉลาดเท่ามึงแล้วนะ มึงจะยอมให้คณะเราด้อยกว่าคนอื่นเหรอ อาจารย์คณะเราเขาจะเสียความรู้สึกเอานะเว้ย" สไปรท์พยายามหว่านล้อมฉัน
"จริงแค่ประกวดดาวมหาลัยเองมึงกูเชื่อว่ามึงทำได้" โมเอ่ยเสริม
"จริง มึงก็ฉลาดขั้นเทพนะ เรียนเก่งกิจกรรมดีเป็นตัวอย่างของนักศึกษารุ่นน้องที่อาจารย์หลายคณะเขายอมรับ กูว่ามึงต้องได้ชัวร์ แล้วถ้าคณะเรามีผลการตอบรับกลับมาที่ดีนะมึง... ทุกอย่างเพอร์เฟคหมดเลย"
มันก็จริงนะถ้าคณะไหนชนะคณะนั้นมีสิทธิ์ที่จะได้อะไรมากกว่าคณะอื่น แต่ฉันไม่มั่นใจในตัวเองฉันกลัวว่าฉันจะทำไม่ได้ฉันทั้งซื่อบื้อ แถมยังดูเป็นป้าอีก ฉันนั่งเงียบแล้วมองเพื่อนๆสลับไปมา
"อีกอย่างนะถ้ามึงลงสมัครมึงก็ได้เปลี่ยนตัวเองมึงเองด้วยทำเพื่อตัวมึงเองด้วยนะเว้ย"
"แต่กูไม่มั่นใจพวกมึงก็รู้ว่ากูไม่เคยเปลี่ยนแปลงตัวเอง กูไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนกูไม่รู้ว่ากูจะต้องทำยังไง"
"เดี๋ยวกูจะเปลี่ยนมึงเอง ยังไงมึงต้องลงแข่ง เพื่อคณะของมึงเพื่อทุกๆคนและที่สำคัญเพื่อตัวมึงเอง" ผิดที่เอ่ยพร้อมกับส่งสายตามาดมั่นให้ฉัน
"แต่แสนดีไม่สวย"
"อีแสนดีคะ มึงกำลังคุยอยู่กับเจ้าแม่แฟชั่นอย่างพิชชี่อยู่นะคะ
อีพิชชี่คนนี้จะทำให้มึงสวยแซ่บเอง"
"พวกกูก็จะช่วยมึง!" เพื่อนทุกคนดูสนับสนุนมาก ถึงแม้ฉันจะไม่มีความมั่นใจเลยก็ตาม
"กรอกเลยอีพิช เอาอีแสนดีมันสมัครเป็นดาวมหาลัย" จะไปพูดฉันนั่งมองเพื่อนที่กำลังช่วยกันกรอกข้อมูลใบสมัครของฉันใส่ในกระดาษ ฉันไม่ได้พูดเลยห้ามตามอะไรเพราะต่อให้ฉันห้ามเพื่อนๆของฉันก็คงไม่ยอม เอาวะ เปลี่ยนก็เปลี่ยน แค่เป็นดาวมหาลัยเองจะกลัวอะไร
"เรียบร้อยกูเอาใบสมัครไปส่งก่อน แล้วมึงอีแสนดี พรุ่งนี้อยู่บ้านนะคะกูจะไปสอนมึงที่บ้าน" พิชชี่เอ่ย
"เออๆ ไม่ดีกว่า เดี๋ยวแสนดีจะออกมาหาพิชชี่เอง"
"ตามนั้นก็ได้ กูไปก่อน ไว้เจอกันพรุ่งนี้มหกรรมเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แลดูท่าจะใหญ่หลวงมาก พรุ่งนี้เจอกัน"
"ค่ะ" ฉันยิ้มเจื่อนๆออกไปให้กับพิชชี่ กระเทยพิชชี่ยิ้มให้ฉันเล็กน้อยก่อนจะรีบเดินออกไป
ชีวิตการเป็นแม่ลูกอ่อนของฉัน มันสุขสบายกว่าใครจริงๆ สามีของฉันทำหน้าที่เลี้ยงดูลูกทั้งสามของเขาด้วยตัวเองถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเลี้ยงลูกมาก่อน แต่ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นพ่อ ทำให้เขาตั้งใจเลี้ยงแฝดทั้งสามได้เป็นอย่างดีตั้งแต่กลับจากโรงพยาบาล ฉันก็ได้แต่นั่งๆนอนๆ พักผ่อนดูแลร่างกายของตัวเอง คอยดูสามีเลี้ยงลูก เขาลงทุนถึงขั้นให้พี่สงครามมาดูงานแทนที่บริษัทพี่สงครามคือลูกชายของเพื่อนพ่อเฮียอาวุธ เพื่อนที่สนิทสนมกันมานาน พี่สงครามกับเฮียก็เหมือนพี่น้องครอบครัวเดียวกัน"ต้องใส่แบบนี้ค่ะคุณอาวุธ" ตอนนี้อ้อมกำลังสอนเฮียใส่แพมเพิสให้ลูกอยู่ ฉันได้แต่นอนมองดูสามีที่ตั้งอกตั้งใจใส่แพมเพิสให้ลูกทั้ง 3 มันดูชุลมุนวุ่นวายดีจริงๆค่ะ เขาดูเก้ๆกังๆแต่ก็มีความพยายามที่จะทำให้ได้"แบบนี้ใช่ไหม?""ใช่ค่ะ ตัวหนังสือจะอยู่ด้านหลัง แล้ววางผ้าอ้อมทับไว้ตรงนี้""นมได้แล้วค่ะ" ป้าน้อยถือขวดนมขวดเล็กๆทั้ง 3 ขวดรีบวิ่งเอามาให้เฮีย เฮียเขาจะป้อนนมลูกเอง เขาให้ป้าน้อยช่วยจัดแจงการชงนมให้ลูกช่วย"ไปเอาเปลมาอ้อม""ค่ะ อีบุ๋มไปช่วยกูยกเปลหน่อยสิวะ" อ้อมสั่งคนใช้อีกคนแล้วเดินตรงขึ้นไปข้างบน ทุกคนช่วยกันทำโดยที่ฉันไม
โรงพยาบาลคนที่ตื่นเต้นมากที่สุด ตอนนี้คงจะเป็นเฮียนั่นแหละ เขานั่งลุ้นใจแทบขาด หลังจากที่พี่ธาดาให้พยาบาลพาฉันไปตรวจฉี่ เพื่อตรวจว่าฉันท้องจริงหรือเปล่า และที่สำคัญ มันแค่เดือนเดียวเองนะที่ฉันคืนดีกับเฮีย มันจะท้องเร็วอะไรขนาดนั้นเลยหรอ"เป็นไงบ้างวะไอ้ธาดา เมียกูท้องแฝดกี่คน""ไม่ค่อยจะมั่นใจในตัวเองสูงเลยนะไอ้อาวุธ ตอนนี้ยังดูไม่ได้หรอก ว่าเมียมึงท้องแฝดหรือไม่แฝด แต่ที่รู้ตอนนี้คือ เมียมึงท้องได้ 4 สัปดาห์แล้ว"เฮียและฉันต่างพากันยิ้มหน้าบานออกมาด้วยความดีใจ ที่สุดเขาก็มาจริงๆ ฉันเอามือลูบท้องตัวเองแล้วก้มดู เฮียหันมายิ้มแบบตื้นตันใจ ไม่ได้พูดอะไรออกมา"4 สัปดาห์เดือนเดียวเองนะพี่ธาดา มันจะท้องเร็วขนาดนั้นเลยหรอคะ?""เฮียก็บอกเธอแล้วไงว่าน้ำเฮียมันแรง เป็นไงแป๊บเดียวเธอก็ท้องแล้ว" เฮียยิ้มหน้าแป้นอย่างภาคภูมิใจพร้อมกับเอามือลูบที่หน้าท้องของฉัน ความเห่อลูกมาเต็มร้อยเลยค่ะ"สงสัยน้ำมันคงจะแรงจริงๆนั่นแหละ ดีใจด้วยนะไอ้อาวุธ ดีใจด้วยนะแสนดี พี่จะจัดยาบำรุงครรภ์ให้""กูฝากท้องเลยนะไอ้ธาดา ฝากพิเศษ เอาแบบพิเศษสุดๆ เสียกี่บาทกูก็พร้อมจ่าย เพื่อลูกเพื่อเมียกู""เมียมึงท้องหรือว่ามึงท้อง
หลังจากที่กลับมาจากมัลดีฟ ทุกอย่างในชีวิตของฉัน มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆรวมถึงตัวเฮียด้วยเฮียดูแลและเอาใจใส่ฉันมากขึ้นทุกวัน ไม่เคยลดน้อยลง และทำทุกอย่างที่เคยทำ ทำมันทุกวันไม่เคยเปลี่ยนแปลงจนบางครั้ง ฉันก็อิจฉาตัวเองที่ได้สามีดีอย่างนี้ เปลี่ยนจากคนละคนไปเลย ตอนแรกที่ไม่เคยรักไม่เคยเหลียวแล ตอนนี้ฉันกลับเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เป็นทุกอย่างจริงๆเขาทำให้ฉันรับรู้ว่า เขารักฉันมากมายแค่ไหน โดยที่ไม่ต้องพูดคำว่ารัก ทุกอย่างมันสื่อชัดเจนออกมา จากการกระทำของเขาวันเวลาล่วงเลยผ่านไปอีก 1 เดือน ตอนนี้ฉันเริ่มเรียนหนักขึ้นกว่าเก่า เพราะใกล้จะสอบและใกล้จบปีที่ 3ฉันใส่ใจการเรียนมากกว่าเดิม มีท้อมีเหนื่อยแต่เฮียอาวุธจะอยู่ข้างๆฉันเสมอ เขาดีและใส่ใจทุกอย่างแม้กระทั่งทิ้งงานตัวเอง เพื่อมาทำงานส่งอาจารย์แทนฉันถ้าขึ้นปี 4 ฉันต้องฝึกงานที่บริษัทของเฮีย ไปที่อื่นไม่ได้หรอก.เฮียเขาหวงก้าง"แสนดีรายงานการบริหาร เฮียเอาไปตีเป็นเล่มให้แล้วนะ ตอนกลางวันเฮียจะเอาไปให้ที่มหาวิทยาลัย หลังจากที่เฮียประชุมตอนเช้าเสร็จ มันส่งทันใช่ไหม""ทันค่ะ แต่อย่าสายมากนะ" ฉันพูดไปพร้อมกับอ่านหนังสือเตรียมสอบไปด้วย ช่วงนี้ไ
แสนดี t a l k22:45 น.สิ่งที่ฉันเห็นในตอนนี้คือน้ำที่เรืองแสงของเกาะ มันสวยมากจริงๆ เฮียพาฉันมาเดินเล่นรอบๆชายหาดสีสวยเหมือนน้ำสวรรค์ เพียงแค่เอาเท้าสัมผัส มันก็ส่องแสงเปล่งประกายออกมาแล้ว"ชอบไหม?" เฮียกอดฉันจากทางด้านหลัง แล้วเอาหน้าแนบหูของฉันเบาๆ ทำไมฉันจะไม่ชอบล่ะ มันคือสวรรค์จริงๆที่ได้เห็น"ชอบมากค่ะ มันสวยมากจริงๆ แสนดีไม่เคยคิดเลยนะ ว่าเฮียจะพามาที่สวยๆแบบนี้""เฮียไม่เคยพาใครมาเลยนะ เธอเป็นคนแรกเลย อีกอย่างเฮียฝันว่า จะพาคนที่เฮียรักมาที่นี่ เพราะที่นี่มันคือสถานที่ที่สวย สวยเหมือนสวรรค์เลย" เฮียคลายกอดแล้วมองหน้าฉัน"มันก็คือสวรรค์จริงๆนั่นแหละ สวรรค์ของเราสองคน ขอบคุณนะคะที่พามา แสนดีจะจดจำมันให้ดีที่สุดเลย" ฉันยิ้มให้เฮียด้วยความจริงใจ ฉันมีความสุขจังที่ได้อยู่กับเขาแบบนี้"เธอคือความสุขของเฮีย แค่เธอยิ้ม เฮียก็มีความสุขแล้ว" เฮียจูบที่ลงที่หน้าผากของฉันเบาๆแล้วยิ้มให้เราสองคนยืนดูแสงของน้ำ ที่มันสาดส่องเปล่งแสงระยิบระยับสวยงาม ฉันได้เก็บภาพในวันนี้เอาไว้ในความทรงจำที่ลึก ลึกจนไม่สามารถลบล้างได้ ฉันรักวันนี้จัง รักช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเฮียแบบนี้ฉันคิดถูกแล้วล่ะที่ยกโทษ
แสนดีt a l kหลังจากที่ทุกอย่างมันผ่านไปด้วยดี ชาวประชาทั้งหลายต่างรับรู้แล้วว่า สามีของฉันยอมสยบแทบเท้าของแสนดีคนนี้ โลกโซเชียลเดี๋ยวนี้มันแรงจะตาย แป๊บๆคนก็รู้จักทั้งประเทศแล้วหนึ่งสิ่งที่ฉันอยากให้ทุกคนรับรู้คือ ไม่ว่าคนที่เรารักเขาจะทำผิดพลาดมากมายแค่ไหน ถ้ายกโทษให้กันได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่การให้อภัยมันก็ต้องดูด้วยว่า เรื่องราวความผิดของเขานั้น มันร้ายแรงแค่ไหน มันเกินกว่าที่จะให้อภัยได้ไหม ถ้าหากว่ามันมากไปเราก็ควรพอสำหรับฉัน การยกโทษให้กับสามีที่ทำผิดพลาด มันถือว่าเป็นเรื่องถูกต้องสำหรับตัวฉัน ไม่ว่าเรื่องราวในอดีตมันจะเป็นยังไง ฉันก็พร้อมที่จะลืมและเริ่มต้นใหม่ถ้าเขาสำนึกกับสิ่งที่ทำกลับตัวกลับใจ ฉันก็พร้อมที่จะให้อภัยเขาได้ทุกเมื่อเช่นกันทุกสิ่งทุกอย่างที่เฮียทำในวันนี้ มันบ่งบอกชัดเจนแล้วว่า เขายอมสยบแล้วจริงๆ ไม่งั้นเฮียคงไม่กล้ากราบเท้าฉันต่อหน้าทุกคนหรอกมันจะมีผู้ชายสักกี่คน ที่พร้อมก้มกราบแทบเท้าภรรยาต่อหน้าทุกคน โดยเฉพาะนักธุรกิจใหญ่อย่างเฮียอาวุธ เขาทำขนาดนี้แล้ว ถ้าฉันไม่ยกโทษให้ ฉันก็คงใจร้ายเกินไปแล้วฉันนั่งยิ้ม แล้วมองเฮียที่กำลังเดินไปหยิบกล่องอะไรบา
แสนดีt a l kตอนนี้ฉันมาถึงที่ผับแล้ว สิ่งแรกที่เห็น ก็คงจะเป็นบรรดาเพื่อนๆของเฮียอาวุธ เพื่อนของฉันดันมาเปิดโต๊ะข้างๆกับเพื่อนของเฮียอีกพิชชี่รู้จักกับเฮียฮาดิส มันก็เป็นธรรมดาที่นางจะมาเปิดโต๊ะใกล้ๆกับโต๊ะพี่ชายของนางตั้งแต่เข้ามานั่งที่โต๊ะ ฉันกับเพื่อนก็เริ่มคุยกันตามปกติ เพื่อนๆของเฮีย พากันจ้องมองพวกฉัน สลับกันไปมา ราวกับเป็นนักโทษของพวกเขาพวกเขามองพวกฉันแบบไม่คลาดสายตา แล้วก็มองเซบาสเตียนเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ"เพื่อนเฮียมองหน้ากูแปลกๆว่ะ จ้องจนกูจะท้องอยู่แล้ว" ฉันหันไปกระซิบกระซาบเพื่อนๆ พวกมันต่างพากันมองไปที่โต๊ะของเพื่อนเฮียอาวุธ"ก็อย่างว่าแหละ มึงเป็นเมียเพื่อนพวกพี่เขา นี่มึงควงฝรั่งมาแบบนี้ พวกเขาก็ต้องมองเป็นธรรมดา" มันก็จริงเพราะพวกเพื่อนเซบาสเตียนมาตั้ง 2-3 คน เขาคงต้องมองกันเป็นธรรมดา"นี่ ไอ้หมากฝรั่ง อย่าอยู่ใกล้เพื่อนฉันมากนะ เดี๋ยวตีนลอยขึ้นมา จะหาว่าไม่เตือน" สไปรท์เดินมาแทรกกลางระหว่างฉันกับเซบาสเตียน คงเพราะเห็นสายตาของบรรดาเพื่อนๆเฮียด้วยละมั้ง"เธอนี่ไม่มีมารยาทเลยนะ ไม่น่าเรียนมาถึงมหาวิทยาลัย ตอนอยู่อนุบาล ครูประจำชั้นไม่เคยสอนเรื่องมารยาทหรอ?""สอน