หลังจากใช้เท้าเปิดประตูห้องนอนได้ ก็ใช้เท้าถีบมันกลับไปที่เดิมเบาๆ เดินไปที่เตียงกว้างที่ตัวเองใช้หลับนอน ก่อนจะวางร่างของเธอลงอย่างเบามือ เขาอยากเข้าข้างตัวเอง ว่าเธอเองก็ไม่อยากจะหย่ากับเขา
“ไอซ์ขอบ้านหลังนี้ได้ไหมคะ” อารยาปาดน้ำตาออกจากหน้า มองด้วยสายตาขอร้องอ้อนวอน เธอไม่ต้องการอะไร แต่บ้านหลังนี้เป็นเรือนหอของเธอ เธออยากเก็บช่วงเวลาที่มีรวมกันไว้ที่นี่ ไม่อยากให้ผู้หญิงคนต่อไปของเขา เข้ามาเหยียบย่ำความรู้สึกที่เธอมี “ได้สิ” อัครราชผละออกไปอย่างรีบร้อน เขานึกว่าเธอจะยื้อจนถึงที่สุด ที่แท้ก็อยากได้อะไรที่มีค่ามากกว่าเงินสิบล้านกับบ้านที่ชะอำ เขาหลงคิดว่าเธอต่างจากคนอื่น ที่แท้ก็ไม่ต่างกัน “งั้นคุณก็เก็บของออกไปซะสิ เก็บออกไปตอนนี้เลย” อารยามองด้วยสายตากรุ่นโกรธ คงอยากจะหย่าจนตัวสั่นสินะ ถึงยอมยกบ้านที่เป็นมรดกตกทอดของตัวเองให้เธอ อิจฉาผู้หญิงคนนั้นจริงๆ ที่ได้หัวใจสามีเธอไปครอง “อะไรนะ! ตอนนี้ เธอจะบ้าเหรอ” “ไม่บ้าหรอกค่ะ ในเมื่อเสี่ยออกปากตกลงยกให้แล้ว เสี่ยก็ต้องย้ายของๆ เสี่ยออกไป ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ด้วยค่ะ” “แต่นี่มันบ้านฉัน! และอีกอย่างฉันยังไม่ได้เซ็นชื่อในใบหย่า อย่าทำตัวแบบนี้นะอารยา เพราะความอดทนฉันมีน้อย เดี๋ยวเธอจะไม่ได้อะไรจากฉันสักแดงเดียว” อัครราชคว้าใบหน้าสวยหวานให้เงยขึ้นสบตา เมื่อเธอพูดทุกอย่างเอาแต่ใจตัวเองโดยไม่มีเหตุผล ออกแรงบีบลงไปเบาๆ เมื่อสายตาที่ปกติเย็นชาแต่อ่อนหวาน ดูแข็งกร้าวไม่ยอมใคร “ฉันเองก็ไม่อยากได้หรอก อยากหย่านักก็หย่าไปเลย ฉันเองก็เบื่อจะทนกับคนอย่างเสี่ย ไอ้แก่ตัณหากลับ” “อย่าปากดีกับฉันนะอารยา” อัครราชนับหนึ่งถึงสิบรอบที่ห้า พยายามข่มแรงโทสะลง เพราะไม่อยากคุยกับเธอด้วยอารมณ์ แต่เหมือนเธอพยายามจะยั่วโมโหเขาอยู่ตลอด ด้วยใบหน้าและแววตาท้าทาย “ฉันไม่ได้มีดีแค่ปากหรอกค่ะ ฉันมีดีทุกอย่าง ดีจนเสี่ยต้องรู้สึกเสียดายแน่ ที่คิดจะหย่ากับฉัน แต่คนอย่างเสี่ยคงไม่เสียดายหรอกเนอะ ถ้าเป็นคนอื่นก็ไม่แน่ไง ปล่อยค่ะ ฉันจะไปเก็บของ” อารยาออกแรงดึงมือหนาที่บีบคางตัวเองออก แต่เหมือนยิ่งออกแรงดึงเขายิ่งเพิ่มแรงบีบ เจ็บจนน้ำตาซึมแต่ไม่คิดจะขอร้องอ้อนวอนคนแบบเขาเลยสักนิด เสี่ยคงเป็นบ้าไปแล้ว “จัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จค่อยย้ายออก” “ไม่! ฉันจะไปตอนนี้ เดี๋ยวนี้ด้วย” “จะรีบไปซบอกมันรึไง” “คุณพูดบ้าอะไร ปล่อยสิ ปล่อยนะ คุณ อื้อ” ดิ้นรนจนเหนื่อยไม่พอ ยังถูกริมฝีปากร้อนๆ ขโมยเรี่ยวแรงและลมหายใจไปอีก จูบแรกในวันแต่งงานยังรู้สึกดีกว่าจูบในวันนี้ของเขา จูบเบาๆ ในวันนั้นยังตราตึงมากกว่าจูบรุนแรงที่เขาบดเบียดลงมาตอนนี้ซะอีก “อืม” อัครราชครางอย่างพึงพอใจ เมื่อเธอยอมให้เขาจูบในที่สุด ลิ้นหนาสอดแทรกกลีบปากอวบอิ่มเข้าไปด้านใน คว้านชิมรสชาติหวานปนขมเพราะน้ำเมา จนกว่าจะพอใจ ดูดดึงลิ้นเล็กๆ ด้วยจูบที่ช่ำชอง จนเธอไม่มีโอกาศได้ปฎิเสธ ซ้ำยังตอบสนองตามการชักนำของเขาอีกด้วย “ฮือ พอแล้ว อืม ฉันหย่าแล้วค่ะ” อารยาหันหน้าหนีทันทีที่เป็นอิสระ ถ้าต้องหย่ากันอย่างน้อยก็ไม่อยากมีอะไรติดค้าง สักวันเธอคงลืมเขาได้เอง อย่ามาทำอะไรแบบนี้ให้เธอรู้สึกดีอีกเลย ได้โปรดเถอะ “ไม่!” อัครราชพูดขึ้นด้วยความสับสน เขาไม่อยากปล่อยมือจากเธอเลย มีทางไหนที่จะทำให้เธอเป็นของเขาได้ทั้งกายและใจบ้าง “คนบ้า! คนโลเล” อารยาหันกลับมาทุบหน้าอกแข็งแรงสองสามที ก่อนจะพบว่าแรงที่มียิ่งมาก เธอยิ่งเจ็บจึงได้หยุด ถูข้อมือไปมาจนถูกมือหนาคว้าไปจับ “เจ็บเหรอ? ฉันมากกว่าไหมที่ควรเจ็บ” อัครราชมองรอยแดงที่คอของเธอ เพิ่มแรงบีบที่ข้อมือจนใบหน้าสวยบิดเบี้ยว ทั้งที่เขาคิดว่าเธอต่างจากคนอื่น สุดท้ายก็ไม่ต่างกัน ยอมเป็นของคนอื่น แต่ไม่เคยยอมเขาเลย “เสี่ยจะมาเจ็บอะไร ในเมื่อฉันไม่เคยทำอะไรให้เสี่ยเจ็บ มีแต่เสี่ยที่ทำฉันเจ็บทุกวัน” “ไม่เคยเหรอ? คิดว่าฉันโง่เหรอ รอยนี่เป็นรอยที่หมามันทำทิ้งไว้หรือไง” อัครราชเปลี่ยนไปขว้าหมับเข้าที่ลำคอระหง ออกแรงบีบเขาๆ บริเวณรอยนั่น ถ้าเขาใจร้ายกับเธอได้ เขาฆ่าเธอตายไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้เธอทำแบบนี้กับคนอื่น มานานขนาดนี้หรอก “มะ ไม่ใช่นะ” อารยายกมือลูบคอตัวเองเบาๆ ในจุดที่มือใหญ่กำอยู่ ลืมไปเลยว่าเธอถูกเปรมนัสทำแบบนั้น แต่ถึงยังไงมันก็ไม่ได้หมายความว่าเธอไปทำเรื่องน่าอายกับชายอื่นมาสักหน่อย “คิดสิคิด หาข้อแก้ตัวมาอีก คราวนี้เป็นอะไรล่ะ ไม่ระวัง เผลอ หรือตั้งใจ” อัครราชตะโกนใส่หน้า หลังจากที่อารมณ์ทั้งหมดที่ควบคุมไว้ขาดผึง เขาต้องถามแบบนี้อีกกี่ครั้ง เธอถึงจะยอมรับ หรือคิดว่าเขาโง่เป็นควาย เลยจะหลอกเขาไปเรื่อยๆ งั้นเหรอ “ทำไมคุณต้องโกรธ ในเมื่อคุณก็ทำไม่ต่างกัน ทำไมคุณทำได้ ฉันถึงทำบ้างไม่ได้ ในเมื่อคุณนอกกายฉันก่อน ทำไมฉันจะนอนกับคนอื่นบ้างไม่ได้” ด้วยแรงโทสะ ทำให้อารยาระเบิดทุกอย่างออกไปด้วยการประชดกลับ นึกเสียใจจริงๆ ที่หลงรักเขา “ใช่! ในเมื่อมันได้ ทำไมฉันถึงไม่ได้ ไม่ยุติธรรมเลยว่าไหม ทั้งๆ ที่ฉันเลี้ยงดูอย่างดี ทำไมฉันถึงไม่มีสิทธิ์” อัครราชใช้ร่างกายคร่อมทับคนที่ขยับตัวหนี ถอดเนคไทออกจากคอ รวมข้อมือทั้งสองที่ทุบตีเขาเข้าหากัน “อย่าทำบ้าๆ นะคะเสี่ย” อารยาดิ้นรนด้วยความหวาดกลัว ท่าทางของเสี่ยวันนี้น่ากลัวมาก ปกติเขาอบอุ่นอ่อนโยนและให้เกียตริเธอเสมอ แต่วันนี้เขาไม่ฟังเธอเลย ทั้งยังพยายามมัดมือมันเท้าเธออีกอารยานอนลูบท้องตัวเองเบาๆ ตอนนี้เธอหลบเข้ามานอนเล่นให้ห้องโปรดภายในบ้าน ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะเป็นคุณแม่ในวัย 24 ปี แต่รู้สึกดีเหลือเกินที่รู้ตัวว่าท้อง “นี่ไอซ์ ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าโกรธเรื่องอะไร” อัครราชเดินมานั่งลงบนพื้นข้างๆโซฟาที่อารยานอนลูบท้องอยู่ “ก็เสี่ยเสียงดังทำลูกตกใจ” อารยาเบะปากใส่ ไม่ต้องบอกแล้วมั้ง เพราะเธอแสดงอาการขนาดนี้ เสี่ยไม่ได้โง่ คงรู้แล้วแหละว่าเธอท้อง “สรุปว่าท้องจริงๆเหรอ” อัครราชวางมือลงบนหน้าท้องของภรรยาอย่างแผ่วเบา อยู่ดีๆบ่อน้ำตาก็ตื้นเขิน หยดแมะลงบนพื้น เขาเฝ้ารอมานาน ไม่เคยคิดฝันว่าจะมีวันนี้ “ค่ะ ไอซ์ตรวจเมื่อวันก่อน ตั้งใจจะเก็บไว้เซอร์ไพรส์เสี่ยในวันเกิดตัวเอง ดีใจไหมคะ” อารยาลุกขึ้นนั่งช้าๆ โดยมีสามีช่วยประคอง ดึงมือสามีให้ลุกมานั่งข้างๆ เช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าสามีเบาๆ ไม่ค่อยเห็นเสี่ยร้องไห้เลย แต่เสี่ยขี้แยกว่าที่คิดอีก “ดีใจสิ ดีใจมาก ขอบคุณนะ” อัครราชกอดภรรยาไว้หลวมๆ ถ้าไม่มีเรื่องมากมายในวันวาน เขากับเธอจะมีโอกาสแบบนี้ไหมก็ไม่รู้ เขายังจำภาพในวันแต่งงานได้ดี เธอไม่ได้แสดงออกว่ายินดีที่ได้แต่งงานกับเขาเลยด้วยซ้ำ ชีวิตห
ลรินขับรถกลับบ้านด้วยความสิ้นหวัง เธอทำทุกอย่างแล้ว แต่ทำไมถึงยังลงเอยแบบนี้ ร่างเล็กเดินเข้าไปในบ้านช้าๆ ตอนนี้รอบตัวเธอไม่มีใครเลย ขนาดเปรมนัสที่หลงเธอหัวปักหัวปำ ยังตีตัวออกห่างไปอยู่กับยัยมารวี “กลับมาแล้วเหรอ” “แม่ มาทำไม” ลรินตะโกนลั่นบ้าน เมื่อเห็นแม่ตัวเองนั่งอยู่ในบ้าน ทั้งที่ไม่ได้บอกเธอสักคำว่าจะมา “มาดูความชิบหายของแกมั้ง เอาเงินมาสิ” มือเรียวสวยแบมือขอเงินเหมือนทุกครั้งที่เหยียบย่างมาบ้านหลังนี้ “เงินเหรอ? ยังมีหน้ามาที่นี่อีกเหรอ” ลรินพูดด้วยความโกรธ ตอนเธอขอให้มาประกันตัวยังไม่เห็นหัวเธอเลย นี่ยังเป็นคนอยู่ไหม ถึงได้หน้าด้านมาขอเงินเธอแบบนี้ “ฉันเบ่งแกออกมา อย่ามากำแหงนะ” “ทำไมไม่ผูกคอตายไปเลยล่ะ จะเบ่งฉันออกมาทำไม ถ้าออกมาแล้วเลี้ยงให้ดีไม่ได้ ทำไมไม่ฆ่าฉันให้ตายไปเลย” พูดจบก็ทรุดลงกับพื้นอย่างสิ้นหวัง มองหน้าคนที่ย่างเท้าเข้ามาหาอย่างเกลียดชัง เพี๊ยะ! วรัญฟาดมือลงบนใบหน้าของลูกสาวอย่างไม่ยั้งแรง อุตส่าห์เลี้ยงมาจนเติบใหญ่ ทำไมถึงกล้ามาเถียงฉอดๆแบบนี้ รู้แบบนี้เอาขี้เถ้ายัดปากไปซะก็สิ้นเรื่อง “ฉันเลี้ยงแกมาตั้งกี่ปี เพื่อให้แกมากำแหง
“จะไม่จ้างพนักงานอินทิเรียเหรอ” อัครราชถามเพราะเข้าใจปัญหาทั้งหมด เขารู้สถาพคล่องทางการเงินของเธอพอสมควร ถึงได้รั้งรอมาตลอด ไม่ใช่ว่าไม่อยากคืนให้เธอ แต่คืนไปแล้วเธอจะมีเงินบริหารมันไหมเท่านั่นเอง ที่เขายังรู้สึกเป็นห่วง “ถ้าขุนขายคืน เราว่าจะยุบตำแหน่งงานนั้น เราคงจ้างไม่ไหว อินทีเรียเงินเดือนสูงกว่าพนักงานทั่วไปขุนก็รู้” กรรณิการ์คิดมาดีแล้ว ช่วงนี้คนไม่ค่อยจ้างอินทีเรียของบริษัทเท่าไหร่ ส่วนมากจ้างจากพวกอินทีเรียที่รับงานอิสระ การจ้างแบบผูกขาดจ่ายเงินทุกเดือน มันเกินกำลังเธอจริงๆ “ที่บริษัทมีอินทีเรียกี่คน” “ถ้าไม่รวมกับเมียขุน ก็สี่คน” “ไอซ์คิดว่าไง จะรับคนพวกนั้นไว้ แล้วรวมมาเปิดบริษัทหรือเปล่า” อัครราชถามภรรยาที่นั่งเงียบ เขากำลังจะเปิดบริษัทรับตกแต่งภายในโดยเฉพาะ เขาว่าน่าจะเป็นโอกาสเหมาะทีเดียว “ก็ดีนะคะ พี่ๆเขาฝีมือดีกว่าไอซ์มาก” “งั้นตกลงขายให้กรีนนะ กรีนอยากมีอะไรเหลือไว้ให้ลูกบ้าง” กรรณิการ์น้ำตาคลอ เมื่อนึกถึงดวงใจที่สามีเหลือทิ้งไว้ให้เธอดูแล “เอาแบบนั้นนะไอซ์ เดี๋ยวสิ้นเดือนขุนเข้าไปคุยด้วยนะ” อัครราชนัดวันเวลากับกรรณิการ์อีกครั้ง สิ้นเดื
“รออีกนิดนะ ใกล้แล้ว” อัครราชหอมแก้มเธอเบาๆ เขายังไม่วางใจเรื่องของลริน จึงอยากให้เธอรออีกหน่อย ที่จริงก็เตรียมทุกอย่างไว้รอเธอแล้ว แต่เขาไม่รีบ เพราะอยากมีข้ออ้างอยู่กับเธอนานๆ “ก็ได้ค่ะ เสี่ยรีบใส่สิคะ เดี๋ยวไปสาย” อารยาเร่งสามีที่ถือชุดราตรีของเธอไว้ด้วยมือข้างเดียว เอาแต่ลูบไล้ลวนลามเธออยู่นั่นแหละ อีเสี่ยลามก “ใส่อยากอื่นเข้าไปได้ไหม มันแข็งแล้ว” อัครราชขยับเอวให้แนบแน่น เขาอยากจะใส่ของตัวเองเข้าไปข้างในตัวเธอ มากกว่าใส่ชุดราตรีสีหวานนี่ซะอีก “ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวเดินลำบาก” อารยามองสบสายตาอ้อนวอนของสามี ตั้งใจแน่วแน่ว่ายังไงวันนี้ก็ไม่ใจอ่อน ทำใจแข็งมองตอบกลับไปนิ่งๆ จนสามียอมถอย ใส่ชุดให้เธอเรียบร้อย แต่ยังยืนซ้อนหลังอยู่ที่เดิม “คอโล่งขนาดนี้ เดี๋ยวคุณแม่ด่าเอา” อัครราชหยิบสร้อยเพชรเส้นเล็ก แต่เป็นเพชรน้ำดีที่สุด ที่แม่เขาฝากมาให้ลูกสะใภ้สุดรักของท่าน ออกมาสวมให้เธอ แสงแวววาวตกกระทบเหลี่ยมมุมของเพชร ไม่สวยเท่าความแวววาวของดวงตากลมโตที่เขามองอยู่ “สวยจังเลยค่ะ” อารยาตาลุกวาว นอกจากแหวนแต่งงานประดับเพชรที่สามีเคยสวมให้ นี่คือเครื่องประดับเพชรชิ้นที่สองที่เธอ
“คือเราขอโทษ” เปรมนัสยังยืนอยู่ที่เดิม ไม่คิดว่าเธอจะให้ความช่วยเหลือใดๆ เพราะเขาไม่ได้อยู่ในสถานะเดิมอีกแล้ว “ถ้ายังไม่จบ ฉันแจ้งตำรวจแน่ แล้วอย่าคิดว่าฉันจะกลัวคำขู่ ออกไปตอนที่ยังพูดดี แล้วไม่ต้องโผล่หัวมาให้เห็นอีก” มารวีหลับตาลงช้าๆ เธอรักผู้ชายห่าเหวแบบนี้ลงได้ยังไง ก็แค่ไอ้ตอแหลที่เข้าหาเธอ แล้วเก็บเธอไว้ใช้ประโยชน์ตามคำพูดของอีสารเลวนั่น แต่ทำไมเธอถึงยังรักก็ไม่รู้ “เราอยากดูแลเธอกับลูก” เปรมนัสน้ำตาคลอหน่วย ตอนแรกตั้งใจมาหาเพราะถูกลรินขู่ให้มาก็จริง แต่เห็นสภาพเธอแล้วเขาอยากทำแบบนั้น อยากดูแลเธอกับลูกจริงๆ “ไปดูแลผู้หญิงที่แกรักเถอะ แล้วก็ลบรูปที่แกใช้ขู่ฉันด้วย” มารวีไม่ยอมใจอ่อนอีกแล้ว เขารักผู้หญิงคนนั้นเธอรู้ดี ถ้าเขาสงสารเธอ ก็ควรลบรูปพวกนั้นของเธอซะ “เราลบออกไปนานแล้ว เราไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้” เปรมนัสมองด้วยสายตาเว้าวอน เขาเป็นคนจีบเธอก่อนนะ พยายามจีบจนติด แต่ไม่คิดว่าทุกอย่างจะลงเอยแบบนี้ ในช่วงที่เขาหมดหวังจากลริน เขาตีตัวออกห่างจากเธอและได้เจอกับมารวี เขาจีบมารวีจนติดและคบกันปกติ จนลรินรู้เข้า แล้วเข้ามาวุ่นวาย เขาไม่รู้ว่าเธอเอารูปถ่ายของ
[ถ้าเธอยังไม่รามือ เราจะจัดการขั้นเด็ดขาด] หิรัญเสียวสันหลังวาบ กับคำพูดและน้ำเสียงของเพื่อน อัครราชเป็นคนใจดีมาแต่ไหนแต่ไร เพราะเป็นแบบนั้นจึงโดนหลอกง่ายๆ แต่ก็ใช่ว่าจะร้ายไม่เป็น และโหดเหี้ยมไม่ได้ เธอคนนั้นซวยซะมัด ที่ขุดด้านเลวๆของเสี่ยขุนขึ้นมาได้ “เราต้องเตรียมทนายให้ไหม” [ไม่ต้อง เราจะจัดการเงียบๆ ถ้าเราทำจริงๆ ช่วยหลับหูหลับตาให้สักครั้งนะ] “เราจะทำเป็นตาบอดไปสักพักแล้วกันนะ ตอนนี้หูเราก็เริ่มไม่ดีแล้วด้วย” หิรัญพูดพลางหัวเราะ เขาจะทำแบบนั้นได้ไงล่ะ แต่เพราะเชื่อว่าเพื่อนไม่ทำอะไรนอกเหนือจากกฎหมายแน่ๆ แต่ก็คงเล่นใหญ่ทีเดียว [ขอบคุณนะ] “ว่างๆพาเมียมาแฮงค์เอ้าด้วยสิ เพื่อนๆอยากเจอเมียนายนะขุน” [เราก็ตั้งใจแบบนั้น ต่อไปจะพาไปด้วยทุกที่ แค่นี้นะ เมียตื่น] หิรัญกดวางสายด้วยความอิจฉา ภาพเสี่ยขุนเมื่อหลายปีก่อนไม่มีเหลือให้เห็นเลย ตอนนี้สิ่งที่เขาเห็นคือขุนเขาคนใหม่ ผู้ชายที่ยอมทำทุกอย่างได้ เพื่อเมีย “มีเมียมันดีจริงๆเหรอวะ ทำไมเราเห็นแต่หายนะและความพินาศ” หิรัญทำท่าขนลุกขนพอง แม้จะอายุเลยเลขสามมานิดๆ แต่ยังไม่คิดจะมีห่วงผูกคอ ด้วยหน้าที่การง