LOGINก๊อก..ๆ
"พี่แฉล้มเกิดอะไรขึ้น" เสียงเคาะประตูรัว ๆ และหนักแน่น ตะโกนถามสามีว่าเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้นจอมขวัญก็ไม่รอช้ารีบพยุงจ่าแฉล้มนั่งพักบนเตียงชั่วคราว เธอคว้ากุญแจสำรองใต้ลิ้นชักเร่งฝีเท้ามาไขกุญแจหน้าห้อง "แม่ค่ะ" เสียงเรียกสั้นๆในขณะที่กำลังไขกุญแจ เมื่อประตูถูกเปิดออก ดวงใจสะดุ้งตัวดวงตาเบิกกว้างรีบเดินตามลูกสาวไปโดยไม่พูดอะไร เมื่อเห็นร่างของสามีมีใบหน้าที่ซีดสามีมีเลือดไหลหยดลงตลอดเวลา กริ๊ด.. ดวงใจกรีดร้องสุดเสียงรีบพุ่งตัวเข้าไปคุกเข่านั่งข้างๆจ่าแฉล้มมือสั่นระริกประคองจ่าแฉล้มขึ้นมากอดแนบอก ดวงตาของจ่าแฉล้มค่อยๆ ปรือลงลมหายใจหอบถี่..และกำลังจะหายไป...... "ไม่นะอย่าหลับ" จ่าแฉล้มยิ้มบางๆมือจ่าแฉล้มค่อยๆยื่นมาสัมผัสใบหน้าดวงใจก่อนที่ดวงตาจะปิดลงอย่างช้า ๆ "แม่ค่ะรีบพาพ่อไปโรงบาล" จอมขวัญร้องเสียงสั่นรีบเข้าไปประคองพ่อช่วยแม่ลงไปข้างล่างบ้านทันใดนั้นพ่อบ้านก็มาพอดี "คุณหนูเกิดอะไรขึ้น?" ตาโสมเดินออกจากที่พักด้วยความตื่นตระหนกจากสียงปืนที่ดังขึ้นมา "ตาโสมพ่อถูกทำร้าย" จอมขวัญน้ำเสียงสั่นเครือในขณะที่กำลังเร่งรีบ ตาโสมกวาดตามองไปรอบๆจ่าแฉล้มให้ชัดๆจึงรู้ทันทีว่านายท่านได้รับบาดเจ็บหนัก "รีบไปโรงบาล" ตาโสมตกใจจึงรีบเปิดประตูรถพยุงจ่าแฉล้มตามด้วยจอมขวัญและแม่จอมขวัญหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คุณดวงใจภรรยาเพียงคนเดียวของจ่าแฉล้ม "อีกนิดเดียวนะพ่อ...อีกนิดเดียว" คันเร่งเหยียบแรงท่ามกลางถนนดินทรายในยามค่ำ จอมขวัญกับแม่ได้แต่อธิฐานในใจตลอดทาง ส่วนตาโสมกำพวงมาลัยแน่นจนข้อนิ้วซีดในขณะนั้นดวงตาปรือเบิกกว้างเมื่อเห็นป้ายโรงพยาบาลในตัวเมือง "ถึงแล้วขอรับ...นายหญิง...คุณหนู" จอมขวัญรีบเปิดประตูรถ ปัง! เธอตะโกนเรียกพยาบาลจนเสียงสั่นสะท้อนบริเวณรอบๆ ไม่นานนักเจ้าหน้าที่เวรแปลที่หน้าห้องฉุกเฉินสะดุ้งรีบกดสัญญานเตือน เสียงล้อเตียงเข็น...แกร๊กๆ กำลังเคลื่อนที่มารับผู้บาดเจ็บ พยาบาลอีกคนกางแขนตะโกนบอกในขณะวิ่งนำ พวกเจ้าหน้าที่ช่วยกันยกจ่าแฉล้มขึ้นเตียงในขณะนั้นจอมขวัญพร้อมกับแม่ของเธอยังจับจ้องจ่าแฉล้มไม่คลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว "ญาติผู้ป่วยรอข้างนอกนะคะ" เสียงพยาบาลบอก ก่อนเข็นเตียงหายลับเข้าไปในประตูห้องฉุกเฉินที่เปิดรอ จอมขวัญและดวงใจยืนชะงักอยู่หน้าประตูเหมือนวันเวลานั้นหยุดหมุนเหลือแค่หัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เธอค่อยๆ พยุงแม่ไปนั่งที่เก้าอี้ยาวริมผนังมือสองข้างกุมกันแน่น จนเล็บจิกลงในฝ่ามือ "ขอให้คุณพ่อนั้นปลอดภัย" เสียงสวดอ้อนวอนในใจดังซ้ำๆไม่หยุด ทุกนาทีผ่านไปเหมือนยาวนานหลายชั่วโมงเสียงเข็มวินาที ติ๊ก..ติ๊ก..ดังราวกับกับหัวใจเต้นอยู่ข้างหู เธอทั้งนั่งทั้งยืนเดินวนไปมาผ่านประตูห้องฉุกเฉินที่มีไฟสีแดงยังคงสว่าง เธอมองมันทุกครั้งที่เดินผ่านในใจเธอนั้นกำลังภาวนาให้ไฟนั้นดับลงเสียที ขาทั้งสองข้างเริ่มอ่อนแรง เวลาผ่านไปอย่างช้าๆจนกระทั่ง...... แกร๊ก.. เสียงเปิดประตูห้องฉุกเฉินดังขึ้นด้านหลัง เธอหยุดนิ่งในทันที ดวงตาเบิกกว้างหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว...ในวินาทีนั้นเธอมองหน้าคุณหมอรอข่าวดีที่อยากจะได้ยิน "ญาติคนไข้ใช่ไหมครับ" "ค่ะ" เธอพยักหน้า คุณหมอยกมือขึ้นช้าๆ ประหนึ่งให้เธอได้หายใจ รอยยิ้มจางๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าพร้อมดวงตาใต้หน้ากากอนามัยที่ถูกดึงลงครึ่งหนึ่ง "พ่อของคุณพ้นขีดอันตรายแล้วครับ" ทันใดนั้น..น้ำตาที่อดกลั้นมานานไหลหยดลงโดยไม่รู้ตัว เธอยกมือขึ้นปิดปากพูดอะไรไม่ออกนอกจากเสียงสะอื้นแผ่วเบา เวลาผ่านไปเพียงเจ็ดวันพ่อของเธอนั้นอาการดีขึ้นมากๆแต่ก็ยังออกปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้เต็มร้อยจอมขวัญจึงอยากช่วยพ่อทำงานถึงแม้ว่าจ่าแฉล้มจะสั่งห้ามกลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับลูกสาว เช่นนั้นจ่าแฉล้มจึงฝากให้ลูกน้องตำรวจสองนายค่อยติดตามลูกสาวไม่ให้คลาดสายตา งานที่เธอนั้นอาสาทำแทนจ่าแฉล้ม คือ..การสวมรอยเป็นสาวชาวบ้านธรรมดาเรียกอย่างก็คือสาสสืบนั้นเอง ภายใต้ตัวตนที่สร้างขึ้นมาใหม่เธอปลอมตัวเป็นผู้ชาย ชื่อว่าไอ้จอม ชายหนุ่มกำพร้าพ่อแม่ เสื้อเชิ้ดสีซีดมีรอยขาดตรงไหล่และกางเกงยีนส์ที่ขาดเข่าทั้งสองข้างหมวกเก่าๆ ปิดหน้าผากรองเท้าผ้าใบเก่าแสนเก่าที่ชื้อมาจากร้านมือสองในตลาด ก้าวแรกที่เธอนั้นก้าวเข้าไปในหมู่บ้านที่ไม่รู้จักในสภาพทรุดโทรมถือกระเป๋าผ้าเก่าเดินเหมือนคนไม่มีเรียวแรง "ไอ้หนุ่มนั้นใคร" ชาวบ้านหยุดมองด้วยความสงสัยวางสิ่งของที่อยู่ในมือลงแล้วค่อยๆเดินเข้าไปถามไถด้วยความเป็นห่วงเช้านั้นตลาดในหมู่บ้านคึกคักตามปกติแม่ค้าเรียกลูกค้าขายผัก เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ วิ่งเล่นแถวลานกลางตลาดดังเจี๊ยวจ๊าวเสือหาญกับจอมขวัญเดินจับจ่ายของสดด้วยกันเหมือนทุกวันหลังจากกลับมาใช้ชีวิตเรียบง่ายจอมขวัญยืนเลือกผักอยู่ที่แผง ส่วนเสือหาญยืนคุยเล่นกับแม่ค้าข้าง ๆ อย่างอารมณ์ดีจนกระทั่งหญิงสาวคนหนึ่งแต่งตัวสะสวย เดินเข้ามายิ้มหวาน “อ้าว...สารวัตรหาญจริงด้วยเหรอคะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลย”เธอพูดเสียงนุ่ม ยกมือแตะต้นแขนเขาเบา ๆ อย่างสนิทสนมแม่ค้าบางคนเริ่มหันมามอง จอมขวัญก็เงยหน้าขึ้นจากตะกร้าผักทันทีเสือหาญหันไปยิ้มสุภาพ “ครับ จำได้...คุณเป็นใครนะ?” “ฉันมาจากพระนครค่ะ เคยเจอกันตอนสัมภาษณ์คดีใหญ่เมื่อหลายปีก่อน”เธอพูดยิ้มเจ้าเล่ห์ “สารวัตรยังดูดีเหมือนเดิมเลยนะคะ”แม่ค้าหลายคนแอบหัวเราะกันคิกคักแต่ในจังหวะนั้นเอง เสือหาญกลับหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดเรียบ ๆ “ขอบคุณครับ แต่ผมไม่โสดแล้วนะ”พูดจบ เขายื่นมือไป โอบเอวจอมขวัญ ที่เพิ่งเดินเข้ามาพอดีมือของเขาวางอย่างมั่นใจ ไม่ใช่แค่ปกป้อง แต่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า นี่คือของหัวใจฉันจอมขวัญหน้าแดงนิด ๆ แต่ยิ้มอย่างเขิน ๆหญิงสาวชะงัก ยิ้มเจ
ห้องผู้ป่วยสว่างด้วยแสงแดดอ่อนของยามเช้าจอมขวัญวางช่อดอกไม้ที่ลูกชาวบ้านเอามาเยี่ยมไว้ตรงหัวเตียงเสือหาญพิงหมอนอยู่บนเตียง แผลที่สีข้างยังพันผ้าไว้แน่น แต่สีหน้าเริ่มดีขึ้นเธอหันมาเห็นเขายิ้มบาง ๆ แล้วพูดเบา ๆ “ยิ้มได้แล้วเหรอคะ สารวัตรคนเก่งของฉัน”เขาหัวเราะในลำคอ “ไม่ยิ้มได้ยังไง มีเมียสวยมานั่งเฝ้าเช้ายันค่ำขนาดนี้”เธอทำหน้าย่น “ยังจะพูดเล่นอีก คนเกือบตายไม่รู้ตัวหรือไง”เสือหาญเอื้อมมือไปจับมือเธอไว้แน่น “พี่รู้ตัวดี...รู้ว่าถ้าไม่ได้ขวัญวันนั้น พี่อาจไม่ได้อยู่ถึงวันนี้”น้ำเสียงเขาอ่อนลงทันที “ขวัญ…พี่อยากขอโทษสำหรับทุกอย่าง ที่ทำให้เธอต้องร้องไห้ ต้องเจ็บ ต้องสงสัยพี่”จอมขวัญส่ายหน้าเบา ๆ “พี่ไม่ต้องขอโทษเลย พี่เองต่างหากที่ฉันควรขอบคุณ ที่พี่ยอมเจ็บเพื่อปกป้องฉัน” “พี่ทำเพราะมันคือหน้าที่”“ไม่ใช่แค่หน้าที่...” เธอสวนเบา ๆ “แต่เพราะพี่รักฉัน…ใช่ไหม”เสือหาญนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าช้า ๆ “พี่รักขวัญ รักมากจนไม่กล้าคิดว่าจะเสียขวัญไปได้ยังไง”น้ำตาคลอในตาจอมขวัญ เธอบีบมือเขาแน่น “ฉันเองก็กลัวจะเสียพี่…ตอนเห็นเลือดของพี่วันนั้น ฉันเหมือนหัวใจหยุดเต้น”เขายกมือขึ้นลู
ยามค้ำเสียงลมตีหน้าต่างดัง ปัง...ปัง...จอมขวัญกำลังยกชามข้าวไปล้างในครัว ขณะที่เสือหาญนั่งเงียบอยู่บนชานบ้าน สูบบุหรี่ยามดึกเขาคิดถึงทุกสิ่งที่ผ่านมา ทั้งอัญชัน ทั้งความเจ็บใจ ทั้งสายตาของภรรยาที่เขาไม่อยากให้มีน้ำตาอีกเสียงบางอย่างดังแผ่วจากข้างรั้วแกรก...แกรก...เสือหาญชะงัก หยุดสูบ แล้วหรี่ตามองในความมืดมือคว้าปืนที่พกไว้ตามสัญชาตญาณตำรวจ “ขวัญ เข้าบ้านเดี๋ยวนี้”น้ำเสียงเขาเปลี่ยนไปในพริบตา เข้ม ดุ และจริงจัง“เกิดอะไรขึ้นพี่?” “พี่บอกให้เข้าไปข้างใน!”ไม่ทันขาดคำ เสียงกระจกแตก เพล้ง!!ชายสวมหมวกคลุมหน้า 2 คนพังเข้ามาทางหลังบ้าน มีดในมือแวววับภายใต้แสงไฟจอมขวัญร้อง “กรี๊ด!”เสือหาญผลักเธอหลบข้างกำแพงก่อนยกปืนขึ้นเล็งเสียงปืนดัง ปัง! ลูกแรกเฉี่ยวไหล่คนร้าย แต่พวกมันยังพุ่งเข้ามาไม่หยุดหนึ่งในนั้นคว้ามีดแทงสวนมาที่เขา — เสือหาญเบี่ยงหลบ แล้วต่อยสวนเต็มแรงแต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง มีดอีกเล่มพุ่งเข้ามาจากด้านหลัง “พี่หาญ ระวัง!!!”จอมขวัญร้องสุดเสียง เธอเห็นทุกอย่างในภาพช้า เสือหาญหันขวับกลับมาแต่ไม่ทัน…ฉึก!เสียงมีดเสียบเข้ากลางสีข้างของเขาเลือดแดงซึมผ่านเสื้อ เสือหาญ
เช้าวันต่อมาฟ้าหลังฝนดูหม่นแต่สงบ รถจี๊ปของเสือหาญแล่นเข้ามาจอดหน้าสถานีพิสูจน์หลักฐานกลางเมืองจอมขวัญนั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ สีหน้าเรียบ แต่ในแววตายังเต็มไปด้วยคำถามเสือหาญหยิบขวดน้ำจากซองพลาสติกใส แล้วหันไปพูดกับภรรยาเบา ๆ “พี่อยากให้เธอเห็นกับตา ว่าพี่พูดความจริง”จอมขวัญพยักหน้า แม้ในใจยังสั่น เธอเพียงกำมือแน่นบนตักเจ้าหน้าที่ในเสื้อกาวน์ขาวออกมาต้อนรับ เสือหาญยื่นหลักฐานให้ “ช่วยตรวจหาสารตกค้างหรือยานอนหลับในนี้หน่อยครับ เป็นเรื่องสำคัญมาก”เจ้าหน้าที่รับไปด้วยสีหน้าจริงจัง “ได้ครับ รอผลไม่นาน”ระหว่างรอ เสือหาญนั่งพิงผนังในห้องรับรอง มองฝนที่เริ่มโปรยอีกครั้งมือเขากำหมัดแน่น ทั้งเพราะกังวล ทั้งเพราะโกรธที่ใครบางคนเล่นเกมสกปรกกับชีวิตของเขาจอมขวัญนั่งตรงข้าม มองเขาเงียบ ๆเธอเห็นชายที่เธอรักที่สุดในสภาพอ่อนล้าแต่ยังคงพยายามพิสูจน์ตัวเองหัวใจเธอสั่นระรัว อยากเชื่อ แต่กลัวจะเจ็บอีก“พี่หาญ…” เธอเรียกเบา ๆ“อืม?”“ถ้าผลออกมาไม่พบอะไรเลย พี่จะทำยังไง”เขาหันมามองตรง ๆ “พี่ก็ยังจะหาความจริงจนเจอ ไม่ว่าจะต้องขุดให้ถึงใครก็ตาม”น้ำเสียงเขานิ่งและมั่นคงจนเธอเผลอหลุบตาเวลาผ่านไปรา
เสือหาญนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องพักเจ้าหน้าที่ เสื้อเปียกชุ่มจากการลุยฝน ใบหน้าเต็มไปด้วยความล้าอัญชันเดินเข้ามาช้า ๆ ในมือถือขวดน้ำเย็นกับผ้าเช็ดหน้า “คุณเสือหาญ…ดื่มน้ำหน่อยเถอะค่ะ เหนื่อยมาทั้งวัน”เธอยื่นขวดให้ เขารับมาโดยไม่ได้คิดอะไร “ขอบคุณนะครับ”อัญชันยิ้มบาง มองเขายกขวดขึ้นดื่ม กล้ามคอขยับตามจังหวะกลืนในแววตาเธอมีทั้งความห่วงใยและอะไรบางอย่างที่อ่านไม่ออก “วันนี้คุณช่วยดิฉันอีกแล้ว…” เธอพูดแผ่ว ๆ“หน้าที่ของตำรวจครับ” เสือหาญตอบ พลางพิงพนักเก้าอี้ หลับตาไม่ถึงครึ่งนาทีต่อมา เขารู้สึกว่าลมหายใจเริ่มหนัก หัวหมุนเหมือนโลกเอียงเสียงฝนข้างนอกกลายเป็นเสียงอื้ออึงในหู “คุณอัญชัน…ทำไม…ฉันรู้สึก…”คำพูดขาดห้วง ร่างกายชาไปตั้งแต่ปลายนิ้วอัญชันรีบพยุงเขาไว้ไม่ให้ล้ม ดวงตาเธอสั่นแต่สีหน้าเยือกเย็นผิดจากเมื่อครู่ “ไม่ต้องกลัวนะคะ…แค่พักซะหน่อย เดี๋ยวก็หาย”เสียงเธอเบาแต่ชัดเจน ก่อนทุกอย่างจะดับวูบลงในสายตาเสือหาญภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือใบหน้าอัญชันที่มองลงมา ยิ้มสวยแต่เยือกเย็นจนแยกไม่ออกว่าคือความรัก…หรือกับดักรุ่งเช้าวันนั้นเสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นขณะจอมขวัญกำลังจัดอาหารเช้าใ
จอมขวัญจัดเสื้อผ้าเรียบง่าย เสื้อผ้าฝ้ายสีขาวกับผ้าถุงลายทาง มือเธอถือถุงข้าวกล่องสองใบ ใบหนึ่งสำหรับตัวเอง อีกใบสำหรับเสือหาญ “พี่จะพาไปจริงเหรอ?”เธอถามยิ้ม ๆ ขณะเขาเดินมาปิดประตูบ้าน“อืม ไปสิ วันนี้พี่มีงานไม่มาก อยากให้ขวัญเห็นกองด้วย จะได้รู้ว่าพี่อยู่ยังไงเวลาไม่อยู่บ้าน”น้ำเสียงเขาเรียบแต่เต็มด้วยความตั้งใจบนรถ เสียงเครื่องยนต์ดังเบา ๆ ล้อบดฝุ่นตามทางดินแดง เสือหาญขับช้า ๆ กว่าปกติ ราวกับอยากยืดเวลาช่วงนี้ให้นานที่สุดจอมขวัญมองวิวข้างทางที่คุ้นตา แต่ในใจกลับรู้สึกแปลกใหม่ เหมือนเธอกำลังได้ “รู้จักผู้ชายของเธออีกครั้ง”“ไม่คิดเลยว่ากองจะอยู่กลางทุ่งขนาดนี้”“ก็แถวนี้เงียบดี เวลาสืบคดีต้องอาศัยสมาธิ” เขาตอบพร้อมรอยยิ้มที่หายไปจากหน้าเขามาหลายวันพอรถจอดหน้ากอง เสียงสุนัขเห่าต้อนรับกับเสียงลูกน้องตะโกน “สารวัตรมาแล้ว!” ดังทั่วลานเสือหาญหัวเราะ “ขวัญ อย่าตกใจนะ พวกมันเสียงดังแต่ใจดี”เธอยิ้มบาง ๆ แล้วพยักหน้า เดินตามเขาเข้าไปในอาคารไม้เก่าลูกน้องหลายคนมองจอมขวัญด้วยแววตาเอ็นดู “อ้าว นี่แม่บ้านของสารวัตรเหรอครับ วันนี้มาเยี่ยมถึงกองเลย” “ใช่จ้ะ พอดีอยากเห็นที่ทำงานของพี่เขา







