LOGINตัดภาพมาที่ บ้านพักจ่าแฉล้ม
ในค่ำคืนหมู่บ้านที่เงียบสงัดแสงไฟอ่อนๆบ้านเรือนสลัวลงทีละดวง ลมเย็นพัดผ่านเบาๆผ่านต้นไม้ริมรั้ว แต่ไม่มีใครรู้เลยว่ามีความเคลื่อนไหวบางอย่างกำลังแอบซ่อนอยู่ในความเงียบ เงาร่างชายสามคนค่อยๆ ลอบปีนรั้วบ้านแบ่งหน้าที่ไปคนละทิศทางแต่ทว่าในหนึ่งคนนั้นกลับเดินเหยียบกิ่งไม้ กร๊อบ.... เสียงกิ่งไม้แตกหักทำให้โจรนั้นนิ่งด้วยความตกใจเล็กน้อยส่วนทางด้านจ่าแฉล้มนั้นได้ยินเสียงปกติ จากดวงตาที่หลับสนิทก็เบิกกว้างด้วยความตะหงิดใจ ตนหยิบปืนกระบอกใต้เตียงออกมาค่อยฟังเสียงปริศนาจากข้างล่างใต้ถุนบ้าน จ่าแฉล้มย่องฝีเท้าเบาๆ ในขณะที่ภรรยานั้นนอนไม่รู้สึกตัว จ่าแฉล้มก้มตัวลงแนบกับพื้นเสียงหายใจเบาสม่ำเสมอ กึก...กึก..(ไขกุญแจ) ทันใดนั้นจ่าแฉล้มก็รู้ทันทีว่ามีผู้ไม่หวังดีกำลังบุกรุก ตนนั้นยืนแอบข้างกำแพงในความมืด เสียงประตูเปิดออกเบาๆ มันย่องฝีเท้าช้าๆพร้อมกระบอกปืนที่ตั้งเล็งไปข้างหน้า มุมกำแพงมืดที่ยืนอยู่ปลายกระบอกกำลังโผล่ที่ขอบประตู จ่าแฉล้มเบี่ยงตัวประชันหน้าอย่างรวดเร็วกำปั้นดุดันเสยหมัดเฉียงเข้าชายโครงใต้ลิ้นปี่ อึก.. จ่าแฉล้มอุดปากดันลำตัวชิดกำแพงไม่ให้โจรส่งเสียงร้องยกด้ามกระบอกปืนที่ถืออยู่ฟาดเข้าที่ท้ายทอยจนโจรชั่วสลบลง ตนนั้นลากร่างที่ไร้สติมามัดไว้กลางเสาบ้านเพื่อกั้นไว้ไม่ให้มันหนีและฟื้นขึ้นมาลอบทำร้ายคนในครอบครัว ปัง ! ปัง ! "อ๊าก" จ่าแฉล้มถูกโจรอีกคนลอบยิงที่ขาขวาตนนั้นตั้งสติค่อย ๆ หาที่หลบเพื่อตอบโต้ ลมหายใจสงบนิ่งยืนรอศัตรูที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามา ปัง! จ่าแฉล้มเบี่ยงตัวเล็งปลายกระบอกที่เป้าหมายและก็เป็นไปตามที่คาดไว้ มันนั้นได้รับบาดเจ็บที่ฝ่ามือจนอดไใได้ที่จะส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด "อ๊าก..เสียงร้องแผดออกดั่งลั่น มือกุมข้อมือฝั่งขวาสั่นระริกจนทรุดลงกับพื้นด้วยความเจ็บใจ ในขณะนั้นจ่าแฉล้มค่อยๆเดินเข้ามาใกล้โจรชั่ว แกร๊ก.... เสียงกระชากปืนจี้คอที่โจรชั่ว "ใครสั่งมึงมา" น้ำเสียงจ่าแฉล้มราวกับกระซิบแต่หนักแน่นไม่มีเสียงข่มขู่ไม่มีเสียงตะโกนมีแค่คำถามที่ต้องการคำตอบ "หึ.." ไอ้โจรชั่วถอนหายใจก่อนที่จะตลบหลังโดยการใช้ศีรษะโขกอย่างรวดเร็วไปที่หน้าผากจ่าแฉล้ม จ่าแฉล้มนั้นพลาดท่าให้กับมันเพียงเล็กน้อยแต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่ขาจึงไม่วามารถวิ่งตามได้เร็ว แต่ในขณะนั้นไอ้โจรมันได้เดินผ่านห้องคุณหนูจอมขวัญมันจึงหวังจะใช้โอกาศนี่บุกเข้าไปชิงตัวลูกสาวจ่าแฉล้ม "หากได้ลูกสาวมัน..." รอยยิ้มที่ชั่วร้ายผุดขึ้นมาในความคิดมันไม่รอช้ารีบพังประตูเข้าไปในขณะนั้นเพื่อนโจรอีกคนก็มาพบกันพอดี "เฮ้ย..มึงอยู่นี่เองกูนึกว่ามึงโดนยิงตาย" "มึงช่วยกูเปิดประตู" พวกมันสองคนพังประตูเข้าไป ตูม..? ในความมืดยังพอมองเห็นบนที่นอนมันเห็นจอมขวัญกำลังนอนหันหลังโดยไม่รู้สึกตัว..มันลูบคางไปมาแววตาโรคจิตจ้องมองจนไม่กระพริบ ทั้งสองมอตาเป็นรีบกระโดดเข้าไปบนเตียงนอนกระชากผ้าห่ม......หึ...แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นเพียงหมอนข้างใบใหญ่ "ฮะ! ไม่มีคน...?" ทันใดนั้นมือปริศนาได้เตะเบาที่ด้านหลังโจรชั่วทั้งสองคน พวกในหันลำตัวมาพร้อมกันยังไม่ทันที่จะได้ตอบโต้หมัดน้อยๆพุ่งเข้าเบ้าตาทีละข้างเจ็บจนต้องเอามือปิดตาถอยหลังยืนตั้งหลัก ส่วนอีกคนโดนขาซ้ายแตะเข้ากลางเป้าน้องชายสุดที่รัก "อ๊าก..." มันทรุดตัวลงพร้อมกับเอามือกำไข่ไว้มันใดนั้นไฟสว่างก็ส่องขึ้นกลางห้องนอน "พวกชั่ว...ตายสะ" น้ำเสียงนุ่มนิ่มกำลังข่มขวัญไอ้โจรกระจอกเธอยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายก่อนที่เธอจะค่อยๆยกมือขึ้นกำแน่น แล้วหมุนข้อมือเบาๆ เสียงกระดูกข้อนิ้วลั่น "กร๊อบ....กร๊อบ..ดังแผ่ว "ขอสักทีเถอะ" สายตายิ่งเฉียบก่อนที่จะฟาดหมดตรงชกซ้ำๆจนใบหน้าซ้ำฟันหลุดเลือดกลบปาก "ผัวะ" เสียงชกสลับกันไปมาจนโจรต้องขอร้องชีวิตที่เหลืออยู่ "พอๆ...ปล่อยพวกฉันไปเถอะ" เสียงลมหายใจทั้งสองหอบหนักเลือดซึมตามมุมปากรอยซ้ำกระจายทั่วหน้า ทั้งสองเห็นว่าตนไม่มีทางสู้ได้อีกแล้ว..หนึ่งในนั้น ทรุดตัวลงกับพื้นมือส้ยเทายกขึ้นพนมมือไหว้กลางอก เอ่ยเสียงสั่นเครือแทบกลืนกับเสียงลมหายใจของตัวเอง "หึ...ไปคุยกับตำรวจเถอะ" สิ้นสุดประโยคจ่าแฉล้มรีบมาหาลูกสาวกลัวว่าลูกสาวนั้นจะได้รับอันตรายยื้อร่างกายที่บาดเจ็บลากขากลั้นความเจ็บเอาไว้ "จอมขวัญ...ลูก" เสียงเรียกแผ่วเบาดวงตากวาดมองไปทั่วห้องจนกระทั่งพบร่างเล็กที่คุ้นตา..บุตรสาวที่ยืนกอดอกอยู่มุมห้อง ตนทิ้งตัวลงคุกเข่าแต่เต็มไปด้วยคงามโล่งใจ "พ่อค่ะ" เมื่อเธอเห็นพ่อคุกเข้าอยู่กับพื้นเธอตะโกนลั่นก่อนจะวิ่งเข้ามาคุกเข่าข้าง ๆ มือสั่น ๆ ค่อยๆประคองคุณพ่อลุกขึ้นมาอย่างเบามือเช้านั้นตลาดในหมู่บ้านคึกคักตามปกติแม่ค้าเรียกลูกค้าขายผัก เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ วิ่งเล่นแถวลานกลางตลาดดังเจี๊ยวจ๊าวเสือหาญกับจอมขวัญเดินจับจ่ายของสดด้วยกันเหมือนทุกวันหลังจากกลับมาใช้ชีวิตเรียบง่ายจอมขวัญยืนเลือกผักอยู่ที่แผง ส่วนเสือหาญยืนคุยเล่นกับแม่ค้าข้าง ๆ อย่างอารมณ์ดีจนกระทั่งหญิงสาวคนหนึ่งแต่งตัวสะสวย เดินเข้ามายิ้มหวาน “อ้าว...สารวัตรหาญจริงด้วยเหรอคะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลย”เธอพูดเสียงนุ่ม ยกมือแตะต้นแขนเขาเบา ๆ อย่างสนิทสนมแม่ค้าบางคนเริ่มหันมามอง จอมขวัญก็เงยหน้าขึ้นจากตะกร้าผักทันทีเสือหาญหันไปยิ้มสุภาพ “ครับ จำได้...คุณเป็นใครนะ?” “ฉันมาจากพระนครค่ะ เคยเจอกันตอนสัมภาษณ์คดีใหญ่เมื่อหลายปีก่อน”เธอพูดยิ้มเจ้าเล่ห์ “สารวัตรยังดูดีเหมือนเดิมเลยนะคะ”แม่ค้าหลายคนแอบหัวเราะกันคิกคักแต่ในจังหวะนั้นเอง เสือหาญกลับหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดเรียบ ๆ “ขอบคุณครับ แต่ผมไม่โสดแล้วนะ”พูดจบ เขายื่นมือไป โอบเอวจอมขวัญ ที่เพิ่งเดินเข้ามาพอดีมือของเขาวางอย่างมั่นใจ ไม่ใช่แค่ปกป้อง แต่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า นี่คือของหัวใจฉันจอมขวัญหน้าแดงนิด ๆ แต่ยิ้มอย่างเขิน ๆหญิงสาวชะงัก ยิ้มเจ
ห้องผู้ป่วยสว่างด้วยแสงแดดอ่อนของยามเช้าจอมขวัญวางช่อดอกไม้ที่ลูกชาวบ้านเอามาเยี่ยมไว้ตรงหัวเตียงเสือหาญพิงหมอนอยู่บนเตียง แผลที่สีข้างยังพันผ้าไว้แน่น แต่สีหน้าเริ่มดีขึ้นเธอหันมาเห็นเขายิ้มบาง ๆ แล้วพูดเบา ๆ “ยิ้มได้แล้วเหรอคะ สารวัตรคนเก่งของฉัน”เขาหัวเราะในลำคอ “ไม่ยิ้มได้ยังไง มีเมียสวยมานั่งเฝ้าเช้ายันค่ำขนาดนี้”เธอทำหน้าย่น “ยังจะพูดเล่นอีก คนเกือบตายไม่รู้ตัวหรือไง”เสือหาญเอื้อมมือไปจับมือเธอไว้แน่น “พี่รู้ตัวดี...รู้ว่าถ้าไม่ได้ขวัญวันนั้น พี่อาจไม่ได้อยู่ถึงวันนี้”น้ำเสียงเขาอ่อนลงทันที “ขวัญ…พี่อยากขอโทษสำหรับทุกอย่าง ที่ทำให้เธอต้องร้องไห้ ต้องเจ็บ ต้องสงสัยพี่”จอมขวัญส่ายหน้าเบา ๆ “พี่ไม่ต้องขอโทษเลย พี่เองต่างหากที่ฉันควรขอบคุณ ที่พี่ยอมเจ็บเพื่อปกป้องฉัน” “พี่ทำเพราะมันคือหน้าที่”“ไม่ใช่แค่หน้าที่...” เธอสวนเบา ๆ “แต่เพราะพี่รักฉัน…ใช่ไหม”เสือหาญนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าช้า ๆ “พี่รักขวัญ รักมากจนไม่กล้าคิดว่าจะเสียขวัญไปได้ยังไง”น้ำตาคลอในตาจอมขวัญ เธอบีบมือเขาแน่น “ฉันเองก็กลัวจะเสียพี่…ตอนเห็นเลือดของพี่วันนั้น ฉันเหมือนหัวใจหยุดเต้น”เขายกมือขึ้นลู
ยามค้ำเสียงลมตีหน้าต่างดัง ปัง...ปัง...จอมขวัญกำลังยกชามข้าวไปล้างในครัว ขณะที่เสือหาญนั่งเงียบอยู่บนชานบ้าน สูบบุหรี่ยามดึกเขาคิดถึงทุกสิ่งที่ผ่านมา ทั้งอัญชัน ทั้งความเจ็บใจ ทั้งสายตาของภรรยาที่เขาไม่อยากให้มีน้ำตาอีกเสียงบางอย่างดังแผ่วจากข้างรั้วแกรก...แกรก...เสือหาญชะงัก หยุดสูบ แล้วหรี่ตามองในความมืดมือคว้าปืนที่พกไว้ตามสัญชาตญาณตำรวจ “ขวัญ เข้าบ้านเดี๋ยวนี้”น้ำเสียงเขาเปลี่ยนไปในพริบตา เข้ม ดุ และจริงจัง“เกิดอะไรขึ้นพี่?” “พี่บอกให้เข้าไปข้างใน!”ไม่ทันขาดคำ เสียงกระจกแตก เพล้ง!!ชายสวมหมวกคลุมหน้า 2 คนพังเข้ามาทางหลังบ้าน มีดในมือแวววับภายใต้แสงไฟจอมขวัญร้อง “กรี๊ด!”เสือหาญผลักเธอหลบข้างกำแพงก่อนยกปืนขึ้นเล็งเสียงปืนดัง ปัง! ลูกแรกเฉี่ยวไหล่คนร้าย แต่พวกมันยังพุ่งเข้ามาไม่หยุดหนึ่งในนั้นคว้ามีดแทงสวนมาที่เขา — เสือหาญเบี่ยงหลบ แล้วต่อยสวนเต็มแรงแต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง มีดอีกเล่มพุ่งเข้ามาจากด้านหลัง “พี่หาญ ระวัง!!!”จอมขวัญร้องสุดเสียง เธอเห็นทุกอย่างในภาพช้า เสือหาญหันขวับกลับมาแต่ไม่ทัน…ฉึก!เสียงมีดเสียบเข้ากลางสีข้างของเขาเลือดแดงซึมผ่านเสื้อ เสือหาญ
เช้าวันต่อมาฟ้าหลังฝนดูหม่นแต่สงบ รถจี๊ปของเสือหาญแล่นเข้ามาจอดหน้าสถานีพิสูจน์หลักฐานกลางเมืองจอมขวัญนั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ สีหน้าเรียบ แต่ในแววตายังเต็มไปด้วยคำถามเสือหาญหยิบขวดน้ำจากซองพลาสติกใส แล้วหันไปพูดกับภรรยาเบา ๆ “พี่อยากให้เธอเห็นกับตา ว่าพี่พูดความจริง”จอมขวัญพยักหน้า แม้ในใจยังสั่น เธอเพียงกำมือแน่นบนตักเจ้าหน้าที่ในเสื้อกาวน์ขาวออกมาต้อนรับ เสือหาญยื่นหลักฐานให้ “ช่วยตรวจหาสารตกค้างหรือยานอนหลับในนี้หน่อยครับ เป็นเรื่องสำคัญมาก”เจ้าหน้าที่รับไปด้วยสีหน้าจริงจัง “ได้ครับ รอผลไม่นาน”ระหว่างรอ เสือหาญนั่งพิงผนังในห้องรับรอง มองฝนที่เริ่มโปรยอีกครั้งมือเขากำหมัดแน่น ทั้งเพราะกังวล ทั้งเพราะโกรธที่ใครบางคนเล่นเกมสกปรกกับชีวิตของเขาจอมขวัญนั่งตรงข้าม มองเขาเงียบ ๆเธอเห็นชายที่เธอรักที่สุดในสภาพอ่อนล้าแต่ยังคงพยายามพิสูจน์ตัวเองหัวใจเธอสั่นระรัว อยากเชื่อ แต่กลัวจะเจ็บอีก“พี่หาญ…” เธอเรียกเบา ๆ“อืม?”“ถ้าผลออกมาไม่พบอะไรเลย พี่จะทำยังไง”เขาหันมามองตรง ๆ “พี่ก็ยังจะหาความจริงจนเจอ ไม่ว่าจะต้องขุดให้ถึงใครก็ตาม”น้ำเสียงเขานิ่งและมั่นคงจนเธอเผลอหลุบตาเวลาผ่านไปรา
เสือหาญนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องพักเจ้าหน้าที่ เสื้อเปียกชุ่มจากการลุยฝน ใบหน้าเต็มไปด้วยความล้าอัญชันเดินเข้ามาช้า ๆ ในมือถือขวดน้ำเย็นกับผ้าเช็ดหน้า “คุณเสือหาญ…ดื่มน้ำหน่อยเถอะค่ะ เหนื่อยมาทั้งวัน”เธอยื่นขวดให้ เขารับมาโดยไม่ได้คิดอะไร “ขอบคุณนะครับ”อัญชันยิ้มบาง มองเขายกขวดขึ้นดื่ม กล้ามคอขยับตามจังหวะกลืนในแววตาเธอมีทั้งความห่วงใยและอะไรบางอย่างที่อ่านไม่ออก “วันนี้คุณช่วยดิฉันอีกแล้ว…” เธอพูดแผ่ว ๆ“หน้าที่ของตำรวจครับ” เสือหาญตอบ พลางพิงพนักเก้าอี้ หลับตาไม่ถึงครึ่งนาทีต่อมา เขารู้สึกว่าลมหายใจเริ่มหนัก หัวหมุนเหมือนโลกเอียงเสียงฝนข้างนอกกลายเป็นเสียงอื้ออึงในหู “คุณอัญชัน…ทำไม…ฉันรู้สึก…”คำพูดขาดห้วง ร่างกายชาไปตั้งแต่ปลายนิ้วอัญชันรีบพยุงเขาไว้ไม่ให้ล้ม ดวงตาเธอสั่นแต่สีหน้าเยือกเย็นผิดจากเมื่อครู่ “ไม่ต้องกลัวนะคะ…แค่พักซะหน่อย เดี๋ยวก็หาย”เสียงเธอเบาแต่ชัดเจน ก่อนทุกอย่างจะดับวูบลงในสายตาเสือหาญภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือใบหน้าอัญชันที่มองลงมา ยิ้มสวยแต่เยือกเย็นจนแยกไม่ออกว่าคือความรัก…หรือกับดักรุ่งเช้าวันนั้นเสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นขณะจอมขวัญกำลังจัดอาหารเช้าใ
จอมขวัญจัดเสื้อผ้าเรียบง่าย เสื้อผ้าฝ้ายสีขาวกับผ้าถุงลายทาง มือเธอถือถุงข้าวกล่องสองใบ ใบหนึ่งสำหรับตัวเอง อีกใบสำหรับเสือหาญ “พี่จะพาไปจริงเหรอ?”เธอถามยิ้ม ๆ ขณะเขาเดินมาปิดประตูบ้าน“อืม ไปสิ วันนี้พี่มีงานไม่มาก อยากให้ขวัญเห็นกองด้วย จะได้รู้ว่าพี่อยู่ยังไงเวลาไม่อยู่บ้าน”น้ำเสียงเขาเรียบแต่เต็มด้วยความตั้งใจบนรถ เสียงเครื่องยนต์ดังเบา ๆ ล้อบดฝุ่นตามทางดินแดง เสือหาญขับช้า ๆ กว่าปกติ ราวกับอยากยืดเวลาช่วงนี้ให้นานที่สุดจอมขวัญมองวิวข้างทางที่คุ้นตา แต่ในใจกลับรู้สึกแปลกใหม่ เหมือนเธอกำลังได้ “รู้จักผู้ชายของเธออีกครั้ง”“ไม่คิดเลยว่ากองจะอยู่กลางทุ่งขนาดนี้”“ก็แถวนี้เงียบดี เวลาสืบคดีต้องอาศัยสมาธิ” เขาตอบพร้อมรอยยิ้มที่หายไปจากหน้าเขามาหลายวันพอรถจอดหน้ากอง เสียงสุนัขเห่าต้อนรับกับเสียงลูกน้องตะโกน “สารวัตรมาแล้ว!” ดังทั่วลานเสือหาญหัวเราะ “ขวัญ อย่าตกใจนะ พวกมันเสียงดังแต่ใจดี”เธอยิ้มบาง ๆ แล้วพยักหน้า เดินตามเขาเข้าไปในอาคารไม้เก่าลูกน้องหลายคนมองจอมขวัญด้วยแววตาเอ็นดู “อ้าว นี่แม่บ้านของสารวัตรเหรอครับ วันนี้มาเยี่ยมถึงกองเลย” “ใช่จ้ะ พอดีอยากเห็นที่ทำงานของพี่เขา







