LOGINในระหว่างที่ออกเดินทางทุกอย่างดูปกติเหมือนไม่มีอะไร แต่เสือหาญนั้นเป็นคนขับรถจึงมองบรรยากาศรอบ ๆ ที่มีแต่ป่าไม้บนพื้นดินที่มีรอยรถผ่านไปมาเหมือนปกติ
แต่ตรั้งนี้เสือหาญดันบังเอิญเหลือบตามองไปยังพื้นดินที่แห้งละเอียด ดวงตาเพ็งเล่งเห็นสิ่งผิดปกติจึงรีบเหยียบเบรคกะทันหันในขณะที่เพื่อนทั้งสองกำลังดื่มกาแฟ "ร้อน ๆ.." การหยุดเบรคกะทันหันทำให้แก้วกาแฟที่ถืออยู่สาดกระเด็นใส่เสื้อสันขวานและไอ้กระบาน "พี่หาญ เป็นอะไร" เสือหาญยังไม่ทันตอบอะไรรีบเปิดประตูรถออกไปข้างนอก หยดเลือดแดงเข้มบนพื้นดินลากยาวไปยังในป่า ในขณะนั้นไอ้สันขวานกับไอ้กระบานลงรถมามองลงพื้นดินตามเสือหาญ "พี่เสือหาญ หรือว่า.." ทั้งสามคนมองหน้ากันก็รู้ทันทีว่ามีโจรกำลังปล้นผู้คนที่ผ่านทาง ทันใดนั้นเสือหาญได้สะกดรอยตามหยดเลือด เมื่อเดินไปตามเรื่อย ๆ ได้เจอกับพวกเสือใบลูกน้องของมัน5 คน กำลังเล็งปืนจ่อหัวผู้บริสุทธิ์ พวกเขาได้แต่ยกมือไหว้ร้องขอชีวิต แต่พวกมันกลับยิงข่มขู่ ปัง! ปัง! "อย่าๆ ฉันไม่มีเงินจริงๆ" น้ำเสียงร้องแทบขาดใจ....เหลือบมองขาข้างขวาถูกยิงทั้งที่ยังมีสติ "กูไม่เชื่อ" มันหัวเราะยิ้มมุมปากในมือถือผ้าเช็ดปืนที่เปื้อนฝุ่นเผยรอยยิ้มที่น่ากลัวออกมาจนน่าขนลุก ปัง! ปัง! กระสุนไร้ที่มาเล็งทะลุศรีษะตามมาด้วยลูกที่สอง ปัง! ปัง! ....จนถึงห้านัด เลือดสาดกระเด็นพุ่งกระฉูดใส่ชาวบ้านที่ถูกมัด เสือหาญที่เฝ้ามองอยู่หลังต้นไม้กำลังจะเผยตัวแต่ดันมีคนมาฆ่าพวกมันเสียก่อน และคนคนนั้นกำลังปรากฎตัวออกมา "พี่เสือหาญ...นั้น" สันขวานกระชอบเบา ๆ บอกเสือหาญว่านัันคือจ่าแฉล้ม "ใจเย็น" ไอ้กระบานจะเดินเข้าไปหาแต่ถูกเสือหาญยกฝ่ามือห้ามไว้ได้ทันเวลาจึงได้บอกให้ไอ้กระบานนั้นอย่าใจร้อน "พวกเดรฉาน ฆ่ายังไงก็ไม่หมดสักที" จ่าแฉล้มปลดลูกกระสุนออกนำปืนเก็บไว้ด้านหลังแล้วรีบเข้าไปช่วยชาวบ้านที่ถูกมัดและอีกคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิง "ไม่เป็นไรแล้ว" จ่าแฉล้มปลอบใจในขณะที่กำลังแก้มัดเชือก "อย่าขยับ" ชายใส่หน้ากากจ่อปืนอยู่ด้านหลังกระชิบส่งเสียงเบา ๆ ท่ามกลางป่าทึบที่ไม่มีคนเหลืออยู่ มันล็อกคอจอมขวัญลูกสาวของจ่าแฉล้มเป็นตัวประกัน ผ้าสีขาวคาดปากไว้ไม่ให้เธอนั้นส่งเสียงดัง จ่าแฉล้มค่อยๆว่างผู้บาดเจ็บนั่งเอนหลังใต้ต้นไม้ใหญ่ "ส่งของมีค่ามา" มันถือจ่อข้างขมับจอมขวัญจ่าแฉล้มกลัวพลาดท่าจึงเล่นตามเกมส์ของมันไปก่อน ในวินาทีนั้นจ่าแฉล้มได้ส่งสัญญานให้จอมขวัญ "อ๊าก ....นางสารเลว" จอมขวัญใช้ข้อศอกกระแทกไปที่ท้องน้อยแล้วเธอสบัดตัวสุดแรงเพื่อวิ่งมาหาจ่าแฉล้มในวินาทีนั้นลูกปืนในกระบอกจ่าแฉล้มก็ลั่นไกล ปัง! ปัง !ยิงไปโดนไหล่ซ้ายของโจรชั่ว "พ่อค่ะ " จอมขวัญรอดมาอย่างปลอดภัยเธอส่งเสียงเรียกพ่อด้วยความดีใจ "กลับบ้านกัน" หลังจากนั้นพ่อลูกได้เดินออกจากป่าหนาทึบพร้อมกับชาวบ้านที่บาดเจ็บโดยที่จ่าแฉล้มยังไม่รู้ตัวว่าเสือหาญนั้นแอบมองอยู่ไม่ไกล แต่จอมขวัญบังเอิญทำสร้อยคอหล่นไว้ที่พงหญ้าเสือหาญจึงรีบเก็บมันขึ้นมาดูเสือหาญนำผ้าปักของตนออกมาแล้วเก็บสร้อยเส้นนี้เอาไว้กับตัว "แม้ๆ สร้อยเส้นนี่มันช่างน่ามอง" ไอ้สันขวานพูดลอยคอยมองหันหน้าไปทางอื่น ทำปากทำตาล้อเลียนอยู่ห่าง "จะอะไรก็คนกำลังมีความรัก" ไอ้กระบานหัวเราะกล่าวเสริม "อย่ามั่ว" เสือหาญตอบกลับพร้อมกลับส่ายหน้าเดินออกจากป่าไปก่อนเพื่อน พระอาทิตย์ตกดินแสงสีเริ่มเลือนหาย นกกลางคืนส่งเสียงร้องไม่หยุดหย่อน ลมกระโชกต้นไม้สั่นยามหน้าแล้ง ฝนโปยปรายลงมาอย่างช้า ๆ ฝีเท้าขอความช่วยเหลือวิ่งมาหาอย่างเร่งรีบ "ช่วยด้วย ช่วยด้วย? " เสียงร้องตะโกนขาดเป็นห้วงๆ ดังแทรกเข้ามาท่ามกลางความเงียบในหมู่บ้าน เสือหาญรีบออกจากบ้านพร้อมกับปืนคู่ใจเขาเร่งฝีเท้าไปตามจุดที่เสียงนั้นจะมาถึง เสือหาญรีบออกจากบ้านพร้อมกับปืนคู่ใจเขาเร่งฝีเท้าไปตามจุดที่เสียงนั้นจะมาถึง แล้วเสียงนั้นเริ่มใกล้เขามาเรื่อยๆ ทุกคนในหมู่บ้านต่างซุ่มดูอยู่ห่างๆ "มีใครอยู่ไหม" เสียงตะโกนลากยาวร้องเรียกด้วยความหวังอันน้อยนิด "มีอะไร" เสือหาญกล่าวเสียงเข้ม กึก! กลไกปืนดังขึ้น ชายเสื้อดำหยุดนิ่งอย่างว่าง่าย เขายกมือขึ้นคุกเข่าลงชาวบ้านที่หลบซ่อนอยู่ทยอยเดินออกจากมุมมืดพวกเขาล้อมชายแปลกหน้าไว้คอยจ้องมองไม่กระพริบตา แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรชายผู้นั้นก็สลบไปเพราะได้รับบาดเจ็บที่หน้าท้องและศีรษะ เสือหาญและพวกพ้องจึงแบกชายร่างใหญ่ไปให้หมอประจำหมู่บ้านนั้นรักษา หมอเฒ่าใช้มีดกรีดหน้าท้องแล้วใช้เหล็กคีบลูกกระสูนที่ฝั่งลึกทิ้งลงที่ขันเหล็ก เสือหาญหยิบมันขึ้นมาดูก็พบว่ากระสํนรุ่นนี่มีแค่นายพลยศใหญ่ที่ใช้กันเช้านั้นตลาดในหมู่บ้านคึกคักตามปกติแม่ค้าเรียกลูกค้าขายผัก เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ วิ่งเล่นแถวลานกลางตลาดดังเจี๊ยวจ๊าวเสือหาญกับจอมขวัญเดินจับจ่ายของสดด้วยกันเหมือนทุกวันหลังจากกลับมาใช้ชีวิตเรียบง่ายจอมขวัญยืนเลือกผักอยู่ที่แผง ส่วนเสือหาญยืนคุยเล่นกับแม่ค้าข้าง ๆ อย่างอารมณ์ดีจนกระทั่งหญิงสาวคนหนึ่งแต่งตัวสะสวย เดินเข้ามายิ้มหวาน “อ้าว...สารวัตรหาญจริงด้วยเหรอคะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลย”เธอพูดเสียงนุ่ม ยกมือแตะต้นแขนเขาเบา ๆ อย่างสนิทสนมแม่ค้าบางคนเริ่มหันมามอง จอมขวัญก็เงยหน้าขึ้นจากตะกร้าผักทันทีเสือหาญหันไปยิ้มสุภาพ “ครับ จำได้...คุณเป็นใครนะ?” “ฉันมาจากพระนครค่ะ เคยเจอกันตอนสัมภาษณ์คดีใหญ่เมื่อหลายปีก่อน”เธอพูดยิ้มเจ้าเล่ห์ “สารวัตรยังดูดีเหมือนเดิมเลยนะคะ”แม่ค้าหลายคนแอบหัวเราะกันคิกคักแต่ในจังหวะนั้นเอง เสือหาญกลับหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดเรียบ ๆ “ขอบคุณครับ แต่ผมไม่โสดแล้วนะ”พูดจบ เขายื่นมือไป โอบเอวจอมขวัญ ที่เพิ่งเดินเข้ามาพอดีมือของเขาวางอย่างมั่นใจ ไม่ใช่แค่ปกป้อง แต่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า นี่คือของหัวใจฉันจอมขวัญหน้าแดงนิด ๆ แต่ยิ้มอย่างเขิน ๆหญิงสาวชะงัก ยิ้มเจ
ห้องผู้ป่วยสว่างด้วยแสงแดดอ่อนของยามเช้าจอมขวัญวางช่อดอกไม้ที่ลูกชาวบ้านเอามาเยี่ยมไว้ตรงหัวเตียงเสือหาญพิงหมอนอยู่บนเตียง แผลที่สีข้างยังพันผ้าไว้แน่น แต่สีหน้าเริ่มดีขึ้นเธอหันมาเห็นเขายิ้มบาง ๆ แล้วพูดเบา ๆ “ยิ้มได้แล้วเหรอคะ สารวัตรคนเก่งของฉัน”เขาหัวเราะในลำคอ “ไม่ยิ้มได้ยังไง มีเมียสวยมานั่งเฝ้าเช้ายันค่ำขนาดนี้”เธอทำหน้าย่น “ยังจะพูดเล่นอีก คนเกือบตายไม่รู้ตัวหรือไง”เสือหาญเอื้อมมือไปจับมือเธอไว้แน่น “พี่รู้ตัวดี...รู้ว่าถ้าไม่ได้ขวัญวันนั้น พี่อาจไม่ได้อยู่ถึงวันนี้”น้ำเสียงเขาอ่อนลงทันที “ขวัญ…พี่อยากขอโทษสำหรับทุกอย่าง ที่ทำให้เธอต้องร้องไห้ ต้องเจ็บ ต้องสงสัยพี่”จอมขวัญส่ายหน้าเบา ๆ “พี่ไม่ต้องขอโทษเลย พี่เองต่างหากที่ฉันควรขอบคุณ ที่พี่ยอมเจ็บเพื่อปกป้องฉัน” “พี่ทำเพราะมันคือหน้าที่”“ไม่ใช่แค่หน้าที่...” เธอสวนเบา ๆ “แต่เพราะพี่รักฉัน…ใช่ไหม”เสือหาญนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าช้า ๆ “พี่รักขวัญ รักมากจนไม่กล้าคิดว่าจะเสียขวัญไปได้ยังไง”น้ำตาคลอในตาจอมขวัญ เธอบีบมือเขาแน่น “ฉันเองก็กลัวจะเสียพี่…ตอนเห็นเลือดของพี่วันนั้น ฉันเหมือนหัวใจหยุดเต้น”เขายกมือขึ้นลู
ยามค้ำเสียงลมตีหน้าต่างดัง ปัง...ปัง...จอมขวัญกำลังยกชามข้าวไปล้างในครัว ขณะที่เสือหาญนั่งเงียบอยู่บนชานบ้าน สูบบุหรี่ยามดึกเขาคิดถึงทุกสิ่งที่ผ่านมา ทั้งอัญชัน ทั้งความเจ็บใจ ทั้งสายตาของภรรยาที่เขาไม่อยากให้มีน้ำตาอีกเสียงบางอย่างดังแผ่วจากข้างรั้วแกรก...แกรก...เสือหาญชะงัก หยุดสูบ แล้วหรี่ตามองในความมืดมือคว้าปืนที่พกไว้ตามสัญชาตญาณตำรวจ “ขวัญ เข้าบ้านเดี๋ยวนี้”น้ำเสียงเขาเปลี่ยนไปในพริบตา เข้ม ดุ และจริงจัง“เกิดอะไรขึ้นพี่?” “พี่บอกให้เข้าไปข้างใน!”ไม่ทันขาดคำ เสียงกระจกแตก เพล้ง!!ชายสวมหมวกคลุมหน้า 2 คนพังเข้ามาทางหลังบ้าน มีดในมือแวววับภายใต้แสงไฟจอมขวัญร้อง “กรี๊ด!”เสือหาญผลักเธอหลบข้างกำแพงก่อนยกปืนขึ้นเล็งเสียงปืนดัง ปัง! ลูกแรกเฉี่ยวไหล่คนร้าย แต่พวกมันยังพุ่งเข้ามาไม่หยุดหนึ่งในนั้นคว้ามีดแทงสวนมาที่เขา — เสือหาญเบี่ยงหลบ แล้วต่อยสวนเต็มแรงแต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง มีดอีกเล่มพุ่งเข้ามาจากด้านหลัง “พี่หาญ ระวัง!!!”จอมขวัญร้องสุดเสียง เธอเห็นทุกอย่างในภาพช้า เสือหาญหันขวับกลับมาแต่ไม่ทัน…ฉึก!เสียงมีดเสียบเข้ากลางสีข้างของเขาเลือดแดงซึมผ่านเสื้อ เสือหาญ
เช้าวันต่อมาฟ้าหลังฝนดูหม่นแต่สงบ รถจี๊ปของเสือหาญแล่นเข้ามาจอดหน้าสถานีพิสูจน์หลักฐานกลางเมืองจอมขวัญนั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ สีหน้าเรียบ แต่ในแววตายังเต็มไปด้วยคำถามเสือหาญหยิบขวดน้ำจากซองพลาสติกใส แล้วหันไปพูดกับภรรยาเบา ๆ “พี่อยากให้เธอเห็นกับตา ว่าพี่พูดความจริง”จอมขวัญพยักหน้า แม้ในใจยังสั่น เธอเพียงกำมือแน่นบนตักเจ้าหน้าที่ในเสื้อกาวน์ขาวออกมาต้อนรับ เสือหาญยื่นหลักฐานให้ “ช่วยตรวจหาสารตกค้างหรือยานอนหลับในนี้หน่อยครับ เป็นเรื่องสำคัญมาก”เจ้าหน้าที่รับไปด้วยสีหน้าจริงจัง “ได้ครับ รอผลไม่นาน”ระหว่างรอ เสือหาญนั่งพิงผนังในห้องรับรอง มองฝนที่เริ่มโปรยอีกครั้งมือเขากำหมัดแน่น ทั้งเพราะกังวล ทั้งเพราะโกรธที่ใครบางคนเล่นเกมสกปรกกับชีวิตของเขาจอมขวัญนั่งตรงข้าม มองเขาเงียบ ๆเธอเห็นชายที่เธอรักที่สุดในสภาพอ่อนล้าแต่ยังคงพยายามพิสูจน์ตัวเองหัวใจเธอสั่นระรัว อยากเชื่อ แต่กลัวจะเจ็บอีก“พี่หาญ…” เธอเรียกเบา ๆ“อืม?”“ถ้าผลออกมาไม่พบอะไรเลย พี่จะทำยังไง”เขาหันมามองตรง ๆ “พี่ก็ยังจะหาความจริงจนเจอ ไม่ว่าจะต้องขุดให้ถึงใครก็ตาม”น้ำเสียงเขานิ่งและมั่นคงจนเธอเผลอหลุบตาเวลาผ่านไปรา
เสือหาญนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องพักเจ้าหน้าที่ เสื้อเปียกชุ่มจากการลุยฝน ใบหน้าเต็มไปด้วยความล้าอัญชันเดินเข้ามาช้า ๆ ในมือถือขวดน้ำเย็นกับผ้าเช็ดหน้า “คุณเสือหาญ…ดื่มน้ำหน่อยเถอะค่ะ เหนื่อยมาทั้งวัน”เธอยื่นขวดให้ เขารับมาโดยไม่ได้คิดอะไร “ขอบคุณนะครับ”อัญชันยิ้มบาง มองเขายกขวดขึ้นดื่ม กล้ามคอขยับตามจังหวะกลืนในแววตาเธอมีทั้งความห่วงใยและอะไรบางอย่างที่อ่านไม่ออก “วันนี้คุณช่วยดิฉันอีกแล้ว…” เธอพูดแผ่ว ๆ“หน้าที่ของตำรวจครับ” เสือหาญตอบ พลางพิงพนักเก้าอี้ หลับตาไม่ถึงครึ่งนาทีต่อมา เขารู้สึกว่าลมหายใจเริ่มหนัก หัวหมุนเหมือนโลกเอียงเสียงฝนข้างนอกกลายเป็นเสียงอื้ออึงในหู “คุณอัญชัน…ทำไม…ฉันรู้สึก…”คำพูดขาดห้วง ร่างกายชาไปตั้งแต่ปลายนิ้วอัญชันรีบพยุงเขาไว้ไม่ให้ล้ม ดวงตาเธอสั่นแต่สีหน้าเยือกเย็นผิดจากเมื่อครู่ “ไม่ต้องกลัวนะคะ…แค่พักซะหน่อย เดี๋ยวก็หาย”เสียงเธอเบาแต่ชัดเจน ก่อนทุกอย่างจะดับวูบลงในสายตาเสือหาญภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือใบหน้าอัญชันที่มองลงมา ยิ้มสวยแต่เยือกเย็นจนแยกไม่ออกว่าคือความรัก…หรือกับดักรุ่งเช้าวันนั้นเสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นขณะจอมขวัญกำลังจัดอาหารเช้าใ
จอมขวัญจัดเสื้อผ้าเรียบง่าย เสื้อผ้าฝ้ายสีขาวกับผ้าถุงลายทาง มือเธอถือถุงข้าวกล่องสองใบ ใบหนึ่งสำหรับตัวเอง อีกใบสำหรับเสือหาญ “พี่จะพาไปจริงเหรอ?”เธอถามยิ้ม ๆ ขณะเขาเดินมาปิดประตูบ้าน“อืม ไปสิ วันนี้พี่มีงานไม่มาก อยากให้ขวัญเห็นกองด้วย จะได้รู้ว่าพี่อยู่ยังไงเวลาไม่อยู่บ้าน”น้ำเสียงเขาเรียบแต่เต็มด้วยความตั้งใจบนรถ เสียงเครื่องยนต์ดังเบา ๆ ล้อบดฝุ่นตามทางดินแดง เสือหาญขับช้า ๆ กว่าปกติ ราวกับอยากยืดเวลาช่วงนี้ให้นานที่สุดจอมขวัญมองวิวข้างทางที่คุ้นตา แต่ในใจกลับรู้สึกแปลกใหม่ เหมือนเธอกำลังได้ “รู้จักผู้ชายของเธออีกครั้ง”“ไม่คิดเลยว่ากองจะอยู่กลางทุ่งขนาดนี้”“ก็แถวนี้เงียบดี เวลาสืบคดีต้องอาศัยสมาธิ” เขาตอบพร้อมรอยยิ้มที่หายไปจากหน้าเขามาหลายวันพอรถจอดหน้ากอง เสียงสุนัขเห่าต้อนรับกับเสียงลูกน้องตะโกน “สารวัตรมาแล้ว!” ดังทั่วลานเสือหาญหัวเราะ “ขวัญ อย่าตกใจนะ พวกมันเสียงดังแต่ใจดี”เธอยิ้มบาง ๆ แล้วพยักหน้า เดินตามเขาเข้าไปในอาคารไม้เก่าลูกน้องหลายคนมองจอมขวัญด้วยแววตาเอ็นดู “อ้าว นี่แม่บ้านของสารวัตรเหรอครับ วันนี้มาเยี่ยมถึงกองเลย” “ใช่จ้ะ พอดีอยากเห็นที่ทำงานของพี่เขา







