เสพตัญหา เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับ อีโรติก ล้วนๆ "ตัญหา... ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อไหร่ จะอายุน้อยหรือมาก แค่ ถ่างขา อารมณ์ก็เปลี่ยนไปโดยไม่ต้องการเหตุผลใดๆ " "ราคะ... ความเร่าร้อนดั่งไฟโหมกระหน่ำ ปลุกอารมณ์ให้หาเซ็กซ์ ดับใคร่ร้อน จากสัมผัสอัศจรรย์ชายหญิง" “เสพราคะ” คือเรื่องราวของราคะต่อจาก “ตัญหา” อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อความเปล่าเปลี่ยวใจ อารมณ์ความต้องการที่ไร้เหตุผล ทำให้การร่วมรัก หรือมีเพศสัมพันธ์ มีอำนาจเหนือเหตุผลทั้งปวง เมื่อชายหญิงพร้อมใจต้องการ เมคเลิฟ "สวาท... คือ ความพึงพอใจในรสรัก ทางกามารมณ์ อันเกิดจากชายและหญิง ต้องการสร้างแรงรักแรงสวาทร่วมกัน" “เสพสวาท” คือเรื่องราวต่อจาก “ราคะ” เมื่อมีความรัก เป็นแรงจูงใจในการพยายามใกล้ชิด และร่วมรักในที่สุด เริ่มจากการสัมผัสเรือนกาย และลุกล้ำมากยิ่งขึ้น หากมีความต้องการเป็นแรงผลักดัน ทำให้เกิดการร่วมรัก หรือมีเพศสัมพันธ์ มีอำนาจเหนือเหตุผลทั้งปวง เมื่อชายหญิงพร้อมใจต้องการ เมคเลิฟ
View Moreเสียงจูบกันอย่างดูดดื่มของชายหญิง กำลังขบกัดเม้มริมฝีปากของกันและกันอย่างหิวกระหาย เมื่อความใคร่คุกกรุ่นรุ่มร้อน จนหัวใจเต้นระรัว ความร้อนปะทุภายในกายชาย เขาใช้สองแขนแกร่งโอบร่างบางไว้ในอ้อมกอด
อีกมือประคองเรือนหน้าสาวน้อยแรกแย้มดรุณี ดึงเข้าหาชายหนุ่ม เพื่อดูดดื่มน้ำหวานจากริมฝีปากเปราะบาง ทั้งหวานลิ้มน่าชิม จนต้องแลกลิ้นตวัดไปมา ฝ่ายชายพยายามแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็กๆ ของเด็กสาวม.ปลาย
เธอมีความใคร่รู้เรื่องเพศสัมพันธ์ ถึงขนาดลงทุนเข้าไปในบ้านเขา เพื่อเรียนวิชาเพศศึกษา แบบตัวต่อตัว หวังเพียงว่า จะเข้าใจเวลาไปสอบวิชาสุขศึกษา เพื่อได้คะแนนเกรดที่ดีที่สุด
การเรียนแบบตัวต่อตัว เนื้อแนบเนื้อ ทำให้เด็กสาวซึ่งแอบหนีพ่อแม่ มาเรียนกับหนุ่มมหาวิทยาลัยในวันหยุดนี้ เธอหวังอยากเปิดซิงกับผู้ชายสักคน กลัวว่าเพื่อนจะล้อว่า เธอมันอ่อนหัด ผู้ชายไม่เอาเธอ...
“พี่วิน จูบเก่งจังเลยค่ะ” เด็กสาวรู้สึกสนุกกับการวกลิ้น รอบริมฝีปากหนุ่ม
เป็นครั้งแรกที่เด็กสาวม.ปลายอย่างเธอ ได้ทำอย่างนี้กับผู้ชายนอกบ้าน เรือนก้นเด็กสาวนั่งพับเพียบอยู่ข้างตัวชาย เอนกายพิงหน้าอกกลม ทาบอกแกร่งแบนราบชายหนุ่ม ซึ่งกำลังนอนหงายราบอยู่บนเตียง
สองแขนชายหนุ่มโอบกอด ลูบไล้ปลอบประโลม ปล่อยให้เด็กสาวจูบเขาตามอย่างใจที่ต้องการ
“น้องเบอร์รี่เรียนรู้เร็วจังเลย” ชายหนุ่มเอ่ยปากชมเด็กสาวม.ปลาย ร้อนแรงไวไฟ เพราะความเป็นคนรู้จักอยู่ข้างบ้าน และน้องเบอร์รี่เคยเป็นเด็กน้อยขี้เหร่ ไม่นึกเลยว่าจะโตเร็ว และน่ารักอกอึ๋มได้เพียงนี้
และวันนี้เธอแอบดอดมาเล่นที่บ้านเขาได้ เพราะพ่อแม่ไม่อยู่ อีกทั้งพี่งจะขึ้นม.4 อยู่ดีๆ ก็อยากจะเรียนวิชาเพศศึกษา เพราะไปเรียนที่ร.ร.แล้วไม่เข้าใจ
อย่างน้อยเธออ้างว่าเขากำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัย ก็น่าจะสอนแบบภาคปฏิบัติให้เธอได้ ผลจึงมาลงเอยเช่นนี้ ในห้องนอนเขา...
******
เด็กสาวรู้สึกกระสับกระส่าย ร้อนรุ่มจนรู้สึกไม่สบายตัว จะว่าร้อนก็ไม่ใช่ เพราะห้องนอนของวินเปิดแอร์เย็นฉ่ำ ไม่น่าเป็นอุปสรรคของกิจกรรมช่วงบ่ายนี้
“แค่นี้เองหรอคะ?” เบอร์รี่รู้สึกว่ามันจะต้องมีมากกว่านี้สิ แม้ว่าจะกำลังโน้มตัวลงต่ำจูบวินอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มดันตัวเธอออกห่าง
“พี่จะสอนให้เอง...” วินยิ้มหวาน พลางใช้สองมือหนาจับหัวไหล่เธอแน่น บังคับให้เด็กสาวม.ปลายนอนราบบนเตียงแทนที่เขา ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังปลดเสื้อผ้าตัวเองออกจนหมดตัว และช่วยเธอถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น...
ไม่คิดเลยว่า พึ่งย้ายมาอยู่ได้แค่สามปีกว่า น้องเบอร์รี่จะโตเร็ว ผิวขาวนวล สวยน่ารักได้เพียงนี้ ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองถูกรางวัลที่หนึ่งมากกว่าตอนซื้อหวย ถึงงวดนี้จะโดนกินอีก แต่เขาคงได้เปิดซิงเด็กสาวม.ปลายก็วันนี้
“มันจะสนุกมั๊ยคะ?” น้องเบอร์รี่ถาม เพราะเธอเองอยากรู้เรื่องนี้มาก เห็นเพื่อนเคยได้เสียกับแฟน บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มันรู้สึกดีมากๆ เพราะความอยากมีแฟน แต่มีไม่ได้เพราะพ่อแม่ห้ามหนักหนา จะจัดหาคู่มาให้
เป็นความเก็บกดในใจของเบอร์รี่หาทางออกไม่ได้ อายกับเพื่อนเหลือเกินที่ตัวเองอ่อนประสบการณ์ ถูกเพื่อนเหยียดหยามเรื่องมีแฟนไม่ได้ เธอจึงต้องแอบมาหาวิน ซึ่งรู้จักกันข้างบ้าน ช่วยสอนเธอเรื่องนี้
“แน่นอนสิ ถ้ารู้แล้ว ไม่บอกใครใช่มั๊ย ว่าพี่สอน” วินแค่อยากให้แน่ใจว่า เรื่องระหว่างเขากับเบอร์รี่ มันจะเป็นความลับ เพราะความเป็นเพื่อนบ้านข้างๆ ตอนผู้ใหญ่ไม่อยู่
มือหนึ่งหันไปหยิบซองถุงยาง แกะออกมาพลางจับมันสวมเข้ากับของสงวน ซึ่งมันกำลังตื่นตัวเต็มที่ จับเข้าที่เข้าทาง ใช้มือรูดถุงยางเบาบางสวมใส่ให้มิดด้าม พร้อมปฏิบัติกิจกับเด็กสาวเบื้องหน้า ซึ่งกำลังนอนราบอยู่
“ไม่บอกใครค่ะ แล้วเราจะเป็นแฟนกันมั๊ยคะ?” เบอร์รี่ถามต่อ... หากการทำเช่นนี้เหมือนมัดมือเขาชกให้เป็นแฟน หลังจากได้เสียด้วยกัน แววตาเด็กสาวมองวินอีกครั้ง กลัวเขาจะเลิกกลางคัน แล้วไล่เธอกลับบ้าน...
“อยากเป็นแฟนพี่ด้วยวิธีนี้หรอจ๊ะ น้องเบอร์รี่?” วินรู้สึกว่า ไม่น่าหลวมตัวกับเด็กสาวม.ปลายเลย แต่ในเมื่อก้อนเนื้องามๆ กับกลีบสวยๆ และเนื้อโหนกนูนที่เรียบเนียน พึ่งจะมีขนขึ้นรำไร ถึงจะให้ถอยตอนนี้เขาไม่เลิกกลางคันแน่นอน
“ก็... ใครๆ ก็มีแฟนกันด้วยวิธีนี้นิคะ เพื่อนเบอร์รี่เขาแอบมีอะไรกันกับแฟนแบบนี้กันทั้งนั้น....” เด็กสาวพยายามบอกเขาว่า จริงๆ เธอก็อยากมีแฟน อยากมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง เหมือนเพื่อนๆ ตัวเองที่พึ่งได้เสียกัน
“มีอะไรด้วยกัน ก็ต้องเป็นแฟนกัน และก็ต้องมีอะไรแบบนี้ด้วยกันทุกวันนะ ตกลงมั๊ย?” วินสวมรอยขอให้เบอร์รี่รับปาก ว่าจะต้องมาหาเขาบ่อยๆ แบบนี้ทุกวัน เด็กสาวยิ้มแย้มก่อนจะพยักหน้า เขาช่างเป็นพี่ชายที่แสนใจดีจริงๆ ....
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้
Comments