" พี่มาร์ตินพาเนยมาที่นี่ทำไมคะ แล้วที่นี่ที่ไหนกัน "
ร่างบอบบางถามเขาออกไปเพราะเธอไม่เคยมาที่นี่ แถมตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วยเธอควรจะกลับถึงบ้านตั้งนานแล้ว " คอนโดฉันเอง " " แล้วพี่พาเนยมาที่นี่ทำไมคะ เนยไม่ได้อยากมาสักหน่อย อีกอย่างตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วยพี่พาเนยไปส่งที่บ้านได้แล้วค่ะ " เขาหันมามองหน้าเธอพร้อมกับทำท่าทางหงุดหงิด " บ้านเธอมันไม่หายไปไหนหรอกเนยหวานแล้วคืนนี้เธอต้องค้างกับฉันที่นี่ โทรไปบอกแม่เธอซะ " เขาออกคำสั่งกับเธอ แต่มีหรือที่เธอจะทำตามเขาง่ายๆ " ไม่ค่ะ เนยจะกลับบ้าน ถ้าพี่ไม่ไปส่ง เนยกลับเองก็ได้ " ร่างบอบบางไม่พูดเปล่าแต่เธอเลือกที่จะเปิดประตูรถแล้วลงไปทันที แต่ยังก้าวไปไม่ถึงไหนก็ต้องล้มลงเพราะตอนนี้ขาของเธอมันเจ็บมาก " โอ้ย! " มาร์ตินที่เห็นเธอล้มลงอยู่อีกฝั่งหนึ่งของรถเขาก็รีบลงจากรถแล้วเดินมาหาเธอพร้อมกับพยุงตัวเธอลุกขึ้น " ถ้าเธอกลับบ้านสภาพนี้แม่เธอได้เป็นห่วงเธอแน่ ทำตามที่ฉันบอกอย่าดื้อให้มันมากนัก ไม่อย่างนั้นฉันจะปราบพยศเธอเอง " ร่างบอบบางชั่งใจสักพัก จากนั้นก็ยอมจำนนควักโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบอกกับแม่ของเธอว่าวันนี้คงกลับบ้านไม่ได้ จะนอนค้างที่คอนโดกับเขาแต่ก็ยังไม่วายพูดให้แม่สบายใจว่าคอนโดของเขามีหลายห้องทั้งที่เธอยังไม่เคยขึ้นไปด้วยซ้ำ หลังจากที่ร่างบอบบางวางสายเสร็จแล้ว มาร์ตินก็จัดการล็อครถแล้วอุ้มตัวเธอขึ้นในท่าเจ้าสาว จากนั้นก็ตรงดิ่งเข้าลิฟต์ไปเพื่อขึ้นไปยังชั้นบนสุดซึ่งเป็นห้องพักของเขา และเมื่อขึ้นมาถึงแล้วเนยหวานกวาดสายตามองรอบๆปรากฏว่าทั้งชั้นนี้มีแค่ห้องของเขาห้องเดียว เขาต้องรวยขนาดไหนกันคฤหาสน์ที่เขาอยู่ก็ว่าใหญ่โตโออ่าแล้วคอนโดสุดหรูใจกลางเมืองแบบนี้เขายังอยู่ห้องที่แพงที่สุดอีกด้วย " ถึงกับตาค้างเลยหรอ คิดไม่ถึงล่ะสิว่าผู้ชายที่เธอกำลังพยายามจับจะรวยขนาดนี้ " เขาไม่วายพูดประชดเธอเมื่อวางเธอลงที่โซฟากว้างเสร็จแล้ว " แหวะ...คนหลงตัวเอง ใครเขาอยากจะมาจับคุณกันเล่า ถ้าจะมาจับคุณสู้ไปจับหนุ่มๆหล่อๆไม่ดีกว่าหรอ " ร่างบอบบางก็ยังไม่ยอม พูดประชดเขาตอบกลับไปให้เขาได้เจ็บจี๊ดเช่นกัน " นี่เธอ!!! เธอหาว่าฉันแก่อย่างนั้นหรอ? " ร่างบอบบางกระตุกยิ้มอย่างพอใจที่สามารถยั่วโมโหเขาได้ " เนยยังไม่ได้พูดออกไปเลยสักคำ คุณคิดเองเออเองต่างหาก " มาร์ตินทำท่าทางจิ๊จ๊ะไม่พอใจ หาว่าเขาแก่นั้นหรอ ห่างกันแค่ไม่กี่ปีเองก็แค่สิบกว่าปีแล้วยังไง เขายังหน้าเด็กอยู่ เขายังไม่ได้แก่แต่เธอแค่เด็กมากต่างหาก " นี่เธอจะปากร้ายเกินไปแล้วนะ เห็นทีแรกเงียบๆนึกว่าจะเรียบร้อยแต่ที่ไหนได้เธอมันก็แสบใช่เล่น " " เนยไม่เคยพูดว่าตัวเองเรียบร้อยนะคะ เนยแค่รู้จักกาลเทศะอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ก็ต้องทำตัวเป็นเด็กที่ดีสิคะ " " แล้วทำไมอยู่ต่อหน้าฉันถึงไม่ทำตัวดีๆ " " ก็คุณมันน่าเคารพที่ไหนเล่า! " คำนี้เธอได้แต่พึงพำในลำคอเบาๆนั่นจึงทำให้มาร์ตินไม่ค่อยได้ยิน " เธอว่าอะไรนะ? " " เปล่าค่ะ...แค่บอกว่าง่วงแล้ววันนี้จะให้เนยนอนห้องไหนคะ " มาร์ตินกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นช่องทางที่จะได้แกล้งเธออีก " จะเป็นเมียฉันก็ต้องนอนห้องเดียวกันกับฉันสิ ซ้อมเข้าหอคืนนี้เลยดีไหม " " จะบ้าหรอ! อย่ามาโรคจิตนะยังไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อย แถมคอนโดของคุณก็มีตั้งหลายห้องถ้าอย่างนั้นเนยขอยืมห้องนั้นแล้วกัน " เธอถลึงตาใส่เขาอย่างคาดโทษพร้อมกับมองไปเห็นห้องเล็กๆตรงหัวมุมซึ่งน่าจะเป็นห้องเก็บของหรือไม่ก็มีไว้สำหรับแม่บ้าน " ห้องนั้นมันเป็นห้องของแม่บ้านเธอนอนได้หรอ ที่นี่มีแค่ห้องฉันห้องเดียวแล้วก็ห้องของแม่บ้านเธอเลือกเอาแล้วกันว่าจะนอนห้องไหน อยากสบายหรืออยากลำบากก็แล้วแต่ " เขายังมีตัวเลือกให้เธอเลือกเสมอแล้วก็หวังว่าเธอจะเลือกทางสบาย " เนยจะนอนห้องนั้นค่ะ " เขายอมรับว่าอึ้ง ผิดคาดไปมาก คิดว่าเธอจะอยากนอนสบายๆเสียอีก " ตามใจ แต่ตอนนี้เธอต้องนั่งอยู่เฉยๆก่อนรออยู่นี่แหละแป๊บนึง " ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องครัวพร้อมกับเปิดลิ้นชักดูอุปกรณ์ทำแผลที่เขามีไว้ติดห้องอยู่บ้าง พอหาเจอแล้วก็รีบเดินมาหาเธอที่โซฟาตัวใหญ่ทันที เขานั่งลงข้างเธอพร้อมกับยกขาข้างที่เธอเจ็บขึ้นมาวางไว้บนตักแกร่งของเขาเบาๆ " อุ๊ย!! ไม่ต้องเอาขึ้นมาก็ได้ค่ะ เดี๋ยวเนยทำเองขอแค่หลอดยาก็พอ " เธอรู้สึกเกรงใจเขาที่ต้องเอาของต่ำอย่างเท้าขึ้นมาไว้บนหน้าขาของเขา ทั้งที่ไม่ได้สนิทกันและเขาก็ดูโตกว่าเธอมาก แต่เป็นมาร์ตินที่ไม่ยอมยกขาเธอลง พร้อมกันนั้นก็บีบยาจากหลอดยาลงใส่ข้อเท้าของเธอพร้อมกับนวดมันเบาๆ จนเธอไม่รู้สึกถึงความเจ็บเลย ในระหว่างที่เขาตั้งใจนวดข้อเท้าของเธอเธอก็เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างชัดๆ เมื่อได้มองเขาใกล้ๆแบบนี้เขาดูหล่อมาก หล่อแบบเพอร์เฟค ไม่แปลกใจเลยที่สาวๆทั้งบ้านทั้งเมืองจะอยากได้เขากันนัก เขามีเสน่ห์น่าดึงดูดอย่างแปลกประหลาด การแต่งตัวที่ดูสะอาดสะอ้าน บวกกับผิวขาวๆหน้าคมเข้มของเขาอย่าว่าแต่สาวๆทั่วทั้งเมืองใจละลายเลย เธอเองตอนนี้ก็ยังใจเหลวแล้วเลย แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เขาทำกับเธอเมื่อตอนเย็นความหล่อของเขาก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก ชิ! " มองหน้าฉันขนาดนี้จะกินฉันเข้าไปทั้งตัวเลยไหมล่ะ " มาร์ตินที่รู้ว่าเธอจ้องมองเขาอยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเธอแต่หางตาของเขาก็สังเกตเธอเป็นระยะ ส่วนร่างบอบบางรีบหันหนีอย่างรวดเร็วเพราะกำลังอายที่ถูกเขาจับได้ " ใครมองคุณกัน ไม่ได้มองสักหน่อย ก็ในห้องนี้มีแค่คุณกับฉันไม่ให้มองคุณแล้วจะให้มองใคร ไม่ได้จะพิศวาสอะไรสักหน่อย " " ผมก็ยังไม่ได้ว่าอะไรหนิ " " ก็คุณกำลังจะว่าอยู่นี่ไงเล่า " " คิดไปเอง "และแล้วก็มาถึงสุดสัปดาห์ที่เขารอคอยก็มาถึงเพราะวันนี้เขาได้พาภรรยาตัวน้อยพร้อมกับลูกสาวอย่างมะนาวแล้วก็เด็กอีกชายอีกสองคนที่อยู่ในท้องของเธอที่เขาเสกเข้าท้องเอาไว้ไว้เรียบร้อยแล้วและรู้ผลว่าเป็นลูกชายเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากวันนั้นที่ได้กินข้าวด้วยกันเวลาผ่านมาห้าเดือนแล้ว ตอนนี้ท้องของเนยหวานใหญ่ขึ้นมากกว่าปกติวันนี้เขาเลยพาเธอมาพักผ่อน เราสองคนได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่าจะมีลูกเพียงแค่สามคนเท่านั้น หากเด็กชายสองคนนี้เกิดขึ้นมาเท่าไหร่เขาก็จะยอมทำหมันทันที ภรรยาของเขาให้เหตุผลว่าน้องชายสองคนก็เพียงพอสามารถปกป้องพี่สาวอย่างมะนาวได้แล้ว เขาจึงไม่ขัดใจภรรยาอีก ในเมื่อเธออยากมีแค่สองคนเขาก็พอใจแล้วเหมือนกัน ความสุขของเราคือการที่ได้หัันหน้าคุยกัน ไม่ชอบอะไรก็พูดกันตรงๆ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต่างคนต่างคิดไปเองจนเรื่องราวมันเลยเถิดใหญ่โตเกือบกลับมารักกันไม่ได้อีก " บรรยากาศดีมากเลยนะครับที่รักว่าไหม หลายเดือนแล้วนะที่ผมไม่ได้พาคุณมาที่นี่ ผมรู้ว่าคุณชอบทะเลแต่งานของผมก็เยอะเหลือเกิน ต่อไปนี้ผมจะพยายามหาเวลาว่างสำหรับครอบครัวเรามากขึ้นนะครับ เมื่อไหร่นะที่เจ้าสองแฝดนี่จะโตสักทีผมจะได้วางมือแ
เวลาผ่านไปสามปีกว่าตอนนี้หนูน้อยมะนาวอายุได้สามขวบแล้วและกำลังจะเข้าเตรียมอนุบาล หนูน้อยซนมากๆได้คุณพ่อมาเต็มๆทำเอาคุณแม่ปวดหัวอยู่ไม่น้อย " คุณแม่ขาวันนี้คุณพ่อกลับมาหรือยังคะ หนูคิดถึงคุณพ่ออยากขี่คอคุณพ่ออีกค่ะ " ผู้เป็นแม่ถึงกับส่ายหน้าเหนื่อยใจ เธอไม่น่าให้สามีตั้งชื่อลูกว่ามะนาวเลยจริงๆเพราะเปรี้ยวซ่าสมชื่อ ไม่มีความหวานอยู่ในตัวเลยแม้แต่นิดเดียว " โถ่ลูก เบาๆลงบ้างนะคะกับการเล่นผาดโผนเนี่ย เดี๋ยวจะเจ็บตัวเอา เราเป็นผู้หญิงควรที่จะเรียบร้อยไว้บ้างนะลูก " เนยหวานเอ็ดลูกสาวหลังจากที่ตอนนี้เจ้าตัวมองหาแต่ผู้เป็นพ่อที่ออกไปทำงานจนตอนนี้ก็ไกล้จะได้เวลาที่จะกลับเข้าบ้านมาแล้ว กริ่ง กริ่ง กริ่ง เสียงกดออดหน้าบ้านเป็นนิ่มสาวใช้ที่อยู่กับเธอมาตั้งแต่บ้านหลังแรกจนตอนนี้กลายมาเป็นพี่เลี้ยงของยัยหนูมะนาวเรียบร้อยแล้ว เดินออกไปเปิดประตูเมื่อมีแขกมาหาผู้เป็นเจ้านาย แล้วเธอก็ต้องดีใจที่วันนี้คุณตากับคุณยายมาหาหลานสาวถึงที่บ้านพร้อมกับหอบของกินมามากมายเช่นเคย " คุณตา คุณยาย น้องมะนาวคิดถึงจังเลยค่ะ " เด็กน้อยพูดเสียงเจื้อยแจ้วพร้อมกับวิ่งไปกอดกับคุณตาและคุณยาย คุณตาก้มลงอุ้มหลานสาวขึ้นม
ปัก! ปัก! ปัก! ปัก! ปัก! เสียงเนื้อกระทบเนื้ออยู่ภายในห้องนอนกว้างใหญ่ที่เป็นคฤหาสน์หลังใหม่เรือนหอของมาร์ตินและเนยหวาน หลังจากที่เขาออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ได้ทำการขายบ้านหลังนั้นเป็นที่เรียบร้อย เรือนหอเก่าของเขาและเธอเพราะเขามองว่ามันเล็กเกินไปและอาจไม่เพียงพอสำหรับทายาทไมโลเวอร์ที่กำลังจะเกิดมา " อื้อ....อ๊ะ...บะ เบาหน่อยค่ะที่รัก "เสียงครางหวานในห้องเก็บเสียงอย่างดีของร่างบอบบางที่ตอนนี้โดนกระแทกอย่างเอาเป็นเอาตายจากคนตัวโตที่ไม่ยอมเหน็ดเหนื่อย แม้ตอนนี้อายุครรภ์ของเธอใกล้จะคลอดเต็มทีเขาก็ยังให้เหตุผลว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะคลอดและเขาจะไม่มีโอกาสได้รังแกเธอแบบนี้ไปอีกสักพักใหญ่ แต่การทิ้งทวนครั้งสุดท้ายของเขาก็ทำเอาเธอหมดแรงเป็นอย่างมาก ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! สะโพกสอบกระแทกแก่นกายใหญ่โตตามฉบับหนุ่มลูกครึ่งเข้าไปในท่าหันหลังแล้วโก่งโค้งมือหนาของเขาก็จับหน้าท้องของเธอเพื่อพยุงเอาไว้อย่างดี ท่านี้เข้าลึกมากเป็นคนตัวเล็กที่ร้องครางระงมออกมาไม่เป็นภาษา รวมทั้งตัวเขาด้วย ร่างอวลอัดที่ตอนนี้เต็มไม้เต็มมือจับไปตรงไหนก็รู้สึกเร่าร้อนไปหมด " โอ้ววว!!! ซี๊ดดด...ดีเหลือเ
เวลาผ่านไปอีกราวๆสองชั่วโมงกว่า คุณหมอก็ได้ออกมาจากห้องผ่าตัดท่ามกลางบรรยากาศความลุ้นระทึกของบรรดาญาติทุกคนรวมถึงเพื่อนสนิทของมาร์ตินที่ตอนนี้มากันครบทุกคนเพื่อมารอดูอาการของมัน เพื่อนแท้ย่อมไม่ทิ้งกันจริงๆ" คุณหมอคะ สามีของฉันเป็นยังไงบ้างคะ " ร่างบอบบางพูดออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำกับคำว่าสามีเมื่อคุณหมอออกมาจากห้องผ่าตัดนั้น " คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ โชคดีที่กระสุนไม่ได้โดนอวัยวะสำคัญ บวกกับคนไข้ใจสู้มาก เดี๋ยวรอดูอาการอีกสักคืนแล้วหมอจะให้ไปนอนพักฟื้นที่ห้องผู้ป่วยนะครับ คนไข้นอนที่โรงพยาบาลอีกซักสองสัปดาห์ก็กลับบ้านได้แล้วครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วหมขอตัวก่อนนะครับ "" เอ่อ คุณหมอคะขอดิฉันเข้าไปเยี่ยมเค้าได้ไหมคะ "" ถ้าเป็นตอนนี้หมออยากให้คนไข้ได้พักผ่อนก่อนนะครับ ไว้พรุ่งนี้เช้าญาติคนไข้ก็เข้าเยี่ยมได้แล้วครับ " ทุกคนที่ได้ฟังคำวินิจฉัยของคุณหมอแล้วทำเอาโล่งใจแล้วเนยหวานก็น้ำตาร่วงออกมาอย่างไม่มีเหตุผล เธอทั้งดีใจอย่างบอกไม่ถูก ดีใจที่เขากลับมาอยู่กับเธอและลูกอีกครั้งไม่ปล่อยให้เธอต้องอยู่กับลูกเพียงลำพัง " พี่เค้าปลอดภัยแล้วนะลูก หายห่วงได้แล้ว ส่วนตัวเราก็กลับไปพักผ่อนเถอะ
มาร์ตินเขารีบมาดังโกดังร้างแถวนี้ตามที่ลูกน้องของเขาด้วยแจ้งพิกัดเอาไว้ พอมาถึงก็ถึงกับหัวใจกระตุกวูบไปถึงตาตุ่ม เพราะเมียตัวน้อยของเขาถูกมัดติดเอาไว้กับเก้าอี้อย่าน่าสงสาร พร้อมกับไอ้เชนที่นอนเหมือนคนตายอยู่บนพื้นไปแล้ว และก็นีน่าที่มีอาการเหมือนคนบ้านีน่าหันไปเจอมาร์ตินก็เกิดอาการตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะตามเธอมาถึงที่นี่ได้ในเวลารวดเร็วขนาดนี้ เธอคิดว่าเธอจะจัดการกับนังเนยหวานเสร็จก่อนเขาจะมาด้วยซ้ำ แต่เธอทำมาถึงขนาดนี้แล้ว จะไม่มีทางถอยหลังกลับเด็ดขาดตายเป็นตาย" หึ! ไหนๆ ฉันก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ถ้าฉันจะต้องตายฉันก็จะเอาอีนางนี่ไปด้วย "นีน่าเล็งปืนไปทางเนยหวานที่ตอนนี้เธอนั่งตัวแข็งทื่ออยู่" อย่านะนีน่าอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ "มาร์ตินใจแทบขาดเหงื่อออกตามกรอบหน้าด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด ถ้าปกติแล้วเขาจะเด็ดขาดกว่านี้ แต่ตอนนี้เขาทำไม่ได้จริงๆ" หึ! ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณรักมันจริงๆ ไหม ลองคุกเข่าดูสิ คุกเข่าต่อหน้าฉัน บางทีฉันอาจจะใจดีก็ได้ แต่อาจจะเท่านั้นนะจะลองเสี่ยงคุกเข่าดูไหมล่ะ "เธอรู้ดีว่าคนอยากมาร์ตินไม่เคยคุกเข่าให้ใคร กับแม่นี่ก็คงจะเช่นกัน แต่มันกลับผิดคาดเมื่อมาร์ติ
เชนจับตัวของเนยหวานมาไว้ที่โกดังร้างแห่งหนึ่งแถวชานเมืองที่ปลอดผู้คน โดยที่เนยหวานตอนนี้ได้สลบไปแล้วเนื่องจากรู้สึกตกใจ เขาจับเธอมัดแขนไว้กับเก้าอี้อย่างแน่นหนา แม้เธอจะตัวเล็กแค่นี้แต่เธอฉลาดไม่น้อยเลย พร้อมกับต่อสายหานีน่าทันที เพราะเขาอยากไปจากที่นี่แล้ว " ฉันจัดการจับเนยหวานมาได้แล้ว ทีนี้เธอก็โอนค่าแรงของฉันมาได้แล้วแล้วฉันจะได้รีบไป " เชนรู้สึกกลัวแปลกๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาจึงรีบขอค่าจ้างและจะรีบออกไปจากที่นี่เพราะอำนาจของมาร์ตินเขารู้ว่าไม่นานมันจะต้องตามมาที่นี่แน่นอน เพราะฉะนั้นการหนีให้ไวที่สุดจะเป็นผลดีกับเขามากที่สุด " ไม่ต้องห่วงหรอก นายได้แน่ เดี๋ยวรออยู่ตรงนั้น ฉันจะกดเงินสดไปให้ ไม่นานหรอกนายได้ไปสมใจอยากแน่ " นีน่าที่คิดไม่ซื่อ เธอกะว่าพอไปถึงเธอจะจัดการกับเชนซะเธอไม่ยอมเสียเงินไปฟรีๆหรอกนะมันทำงานให้แค่นี้จะเอาเงินหลักแสนไปจากเธอ เธอไม่มีวันให้มันเด็ดขาด " งั้นก็รีบๆมา ฉันจะได้รีบไป " หลังจากวางสายจากนีน่าเขาก็มีท่าทางร้อนรนจนรออยู่เกือบชั่วโมงนีน่าก็มาถึงพอดี" ไหนล่ะเงินที่เธอบอกจะให้ รีบๆเอาออกมาซะสิฉันจะได้รีบไป " " หึ! ไม่ต้องห่วงหรอกยังไงแกก็จะได้ใ