หลังจากวันนั้นวันที่เขาพาเธอไปที่คอนโด เขาก็ได้พูดคุยกับเธอเพียงแค่ไม่นานก็ปล่อยให้เธอได้นอนพัก พร้อมกับตอนเช้าไปส่งเธอที่บ้านแล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอเธออีกเลยจนตอนนี้เวลาล่วงเลยมาเดือนกว่า แล้ววันนี้ก็เป็นวันที่เขาและเธอจะต้องหมั้นและแต่งงานกันแล้ว โดยฤกษ์เป็นแม่ของเขาที่เป็นคนหามา และสิ่งที่น่าแปลกใจไปกว่านั้นคือเขาไม่ขัดกับความต้องการของแม่แต่อย่างใด เขายังแปลกใจตัวเองอยู่เลย
บรรยากาศภายในโรงแรมหรูที่สุดในประเทศที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นงานแต่งที่แสนอลังการ คุณหญิงฤทัยเชิญเหล่าบรรดาไฮโซมาร่วมงานมากมาย พร้อมกับกองทัพนักข่าวที่มารอทำข่าวของหนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่างเขาและเจ้าสาว " เป็นฝั่งเป็นฝาสักทีนะมึงมาร์ติน ทีนี้ก็คงเหลือแค่พวกกูสินะ " คริสต์ที่เอ่ยขึ้นมาท่ามกลางวงสนทนาของเพื่อนๆครบแก๊งค์ที่มาร่วมงานในวันนี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอายุสี่สิบกันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครมีวี่แววที่จะแต่งงานเลยสักคนจะมีก็แค่ไอ้มาคัสที่แต่งไปแล้ว แล้วก็ไอ้มาร์ตินแฝดน้องที่พึ่งโดนสอยไปวันนี้ " ก็แค่งานแต่ง แต่ชีวิตของกูยังอิสระเหมือนเดิม " มาร์ตินพูดอย่างไม่ใยดีเพราะเขาไม่คิดว่าคนแบบเขาจะรักผู้หญิงอย่างเธอได้ เพราะเธอไม่มีอะไรตรงสเปคเขาเลยสักอย่าง " มึงไม่คิดจะเกรงใจเมียมึงเลยหรือไง เป็นฝั่งเป็นฝาแล้วทำอะไรก็ต้องคิดเห็นใจเมียบ้างนะเว้ย " คราวนี้เป็นคาร์สันที่พูดขึ้นมา เพราะเขาเห็นว่าสาวน้อยเนยหวานคนนั้นไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆซึ่งเธอคนนี้อาจจะหยุดเสืออย่ามาร์ตินได้ " ทำไมต้องเกรงใจก็แค่ถูกบังคับแต่งงาน เธอก็ไม่ได้อยากแต่งกับกูแล้วกูก็ไม่ได้อยากแต่งกับเธอ มึงคิดว่าชีวิตการแต่งงานจะอยู่ได้ยืดยาวหรอวะ กูยังนึกไม่ออกเลยว่ามันจะออกมาสภาพไหน " ที่เขาพูดไม่เกินจริงเลยสักนิด ขนาดในคอนโดคืนนั้นเธอกับเขายังพูดดีด้วยกันแค่ไม่กี่คำ หลังจากนั้นก็แยกย้ายเข้าห้องของใครของมันเพราะเหนื่อยที่จะทะเลาะ " และอีกอย่างแม่นั่นแต่งงานกับกูเพียงเพราะว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจ เพราะฉะนั้นไม่มีความจำเป็นที่กูต้องเกรงใจเธอเลยสักนิด ตรงกันข้ามกูจะทำให้เธอรู้ซึ้งว่าการแต่งงานกับกูต้องเจออะไรบ้าง " มาร์ตินพูดอย่างย่ามใจเพราะเขามีแผนอยู่ในใจแล้ว ว่าเขาจะทำอะไรกับเธอบ้าง เพียงแค่คิดก็สนุกมากแล้ว " มึงจะทำอะไรเธอ เบาๆหน่อยนะเว้ยน้องเขายังเด็ก " " ถึงแม้จะยังเด็กแต่ก็ไม่ได้อ่อนต่อโลกมึงก็เห็นในผับวันแรกที่เจอกัน เธอนั่งคลอเคลียอยู่กับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเธอไม่ได้ซื่อๆใสๆอย่างที่พวกมึงคิด " มาร์ตินยังจำภาพวันนั้นได้ดี วันที่เธอนั่งคลอเคลียร์อยู่ในผับกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้น่ารังเกียจสิ้นดี วันนี้เขาก็ได้เตรียมเซอร์ไพรส์ไว้ให้กับเจ้าสาวคนสวยของเขาแล้ว ทางฝั่งของเนยหวานที่ตอนนี้แต่งตัวอยู่บนห้องที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้ โดยมีแพมกับบรีสที่เป็นเพื่อนเจ้าสาว แล้วก็ช่วยกันแต่งตัวให้กับเจ้าสาวคนสวยอีกด้วย " วันนี้แกสวยที่สุดเลยนะเนยรู้ตัวไหม " แพมพูดกับเพื่อนสาวคนสนิทพร้อมกับส่งยิ้มให้ " ขอบใจพวกแกมากนะที่มางานของฉัน " " เฮ้ย! นี่วันมงคลของแกนะทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิ ทำไมทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้เลย ห้ามร้องไห้ออกมานะ เดี๋ยวเครื่องสำอางเลอะหมด ช่างแต่งหน้าจะได้ดุเอา " คราวนี้เป็นบรีสที่พูดเพื่อเตือนสติของเพื่อนเธอรู้ดีว่าการแต่งงานในวันนี้ไม่ได้มาจากความสมัครใจของทั้งสองคน แต่ในเมื่อเลือกแล้วก็ต้องทำให้มันดีที่สุด " ฉันยิ้มไม่ออกนี่นา แกก็รู้ว่าฉันไม่ได้เต็มใจสักหน่อย ฉันพยายามบอกคุณพ่อกับคุณแม่แล้วแต่เหมือนท่านจะไม่ฟังเลย ท่านพูดตลอดเลยว่าพี่มาร์ตินดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ " ที่เธอพูดไม่เกินจริงเลยสักนิด ในทุกวันพ่อกับแม่ของเธอจะคอยพูดกลอกหูเธอตลอดว่าเขาแสนดีอย่างนั้นขยันทำงานอย่างนี้ ส่วนเธอเองน่ะหรอแค่ได้สัมผัสกับเขาแค่วันเดียว วันนั้นวันเดียวเธอก็แทบอยากจะติดปีกบินหนีจากเขาแล้ว " แล้วแบบนี้แต่งงานกันไปแล้วพวกแกจะอยู่กันได้หรอวะ " แพมที่ยังคิดไม่ออกเลยว่าเพื่อนของเธอจะทำยังไงต่อไปกับเหตุการณ์แบบนี้ดี " ก็ต่างคนต่างอยู่ก็คงได้มั้ง คนเจ้าชู้ขนาดนั้นเขาคงมีผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ส่วนฉันเองฉันเกลียดคนเจ้าชู้เพราะแกก็รู้ " ในระหว่างที่สามสาวคุยกันอย่างออกรสออกชาติคุณหญิงชิดจันทร์ก็เดินเข้ามาในห้องแต่งตัวของลูกสาวพอดี " ได้เวลาเจ้าสาวออกไปรับแขกแล้วลูก แขกมากันเต็มงานแล้ว " ตอนนี้คุณหญิงชิดจันทร์พาลูกสาวลงมาข้างล่างพร้อมกับเพื่อนๆของเธอ ในตอนเช้าจะเป็นพิธีหมั้น เธออยู่ในชุดไทยสุดเรียบร้อยที่เธอไปลองกับเขาวันนั้นแต่ทีเด็ดของเธอที่จะแก้เผ็ดเขาคือคืนนี้ต่างหาก เมื่อเจ้าสาวลงมาถึงหน้าพิธี ผู้เป็นเจ้าภาพอย่างมาร์ตินก็มองเธอยังไม่ละสายตา เขาตกตะลึงกับความสวยของเธอ ใบหน้าแสนหวานดวงตากลมโตอยู่ในชุดไทยชั่งหน้ามอง แล้วหัวใจเจ้ากรรมก็ดันเต้นแรงซะด้วยสิ " มาร์ตินเดินไปรับน้องสิลูก " เป็นคุณหญิงฤทัยที่ต้องสะกิดเรียกลูกชายให้หลุดจากภวังค์เพราะเธอเห็นว่าผู้เป็นลูกชายเอาแต่จ้องมองคู่หมั้นของตัวเองไม่วางตา " ครับแม่ " มาร์ตินเดินมาจูงมือคู่หมั้นให้เข้าไปนั่งในพิธีพร้อมกับพิธีดำเนินต่อไปเรื่อยๆทั้งสองสวมแหวนให้กันเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ใช้เวลาอยู่สักพักจนพิธีเสร็จสิ้น เป็นร่างบอบบางเองที่แทบไม่คุยกับเขาเลยและแยกตัวออกมาโดยให้เหตุผลว่าต้องการพักผ่อนเพื่อเก็บแรงเอาไว้ต้อนรับแขกในคืนนี้ " ดูเหมือนเจ้าสาวของมึงจะไม่อยากอยู่ใกล้มึงเท่าไหร่นะมาร์ติน " เป็นมาคัสแฝดผู้พี่ที่อดพูดหยอกล้อน้องชายของตัวเองไม่ได้ เพราะเห็นแล้วว่ามันกำลังหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย " แล้วยังไงใครแคร์ครับคุณมาคัส " เขาพูดพลางกระดกเหล้าดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว เขาเองก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร รู้แต่ว่ารู้สึกหงุดหงิด " หึ! ให้มันจริงอย่างที่ปากมึงพูดเถอะ "" อื้อ....อ๊ะ " ท่อนเนื้อลำใหญ่ถูกกระแทกเข้ามาโดยร่างสูงทีเดียวจนมิดลำหลังจาดจบคำพูดของเขา เขาไม่แม้แต่แช่แก่นกายเอาไว้ด้วยซ้ำ จับเธอกระแทกอย่างรุนแรงเพราะอารมณ์สวาทของเขาตอนนี้อดทนรอกับอะไรไม่ไหวอีกแล้ว ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก! " อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ เบาหน่อยค่ะเนยจุกไปหมดแล้ว " ร่างบอบบางที่ส่งมือเรียวเล็กทั้งสองข้างดันไว้กับเอวหนา สัมผัสของมือเรียวเล็กที่อยู่ตรงบริเวณซิกแพคของเขา ทำเอาร่างสูงสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่าน ไม่คิดว่าเพียงแค่มือน้อยๆของเธอสัมผัสมันกลับทำให้อารมณ์ของเขาพุ่งพล่านอย่างห้ามไม่ได้ " อ่าาส์ ดีชะมัด ของเธอตอดพี่แน่นจนพี่แทบจะไม่ไหวแล้ว " เขายังคงตอกอัดท่อนเนื้อเข้าไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อย ส่วนร่างบอบบางเองก็ทำได้แค่ผลักหน้าท้องของเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาโจนจ้วงเข้ามาลึกจนเกินไป เพราะแค่นี้เธอก็จุกจนพูดไม่ออกแล้ว ตั่บ ตั่บ ตั่บ ตั่บ ตั่บ!เสียงท่อนเนื้อกระทบกับร่องรักของร่างบอบบาง เรียกเสียงครางต่ำๆจากมาร์ตินได้ไม่น้อย เขาจับขาเธอยกออกจากการพาดไว้บนไหล่กว้าง แล้วเปลี่ยนให้เธอนอนตะแคงข้างพร้อมกับจับขาข้างหนึ่งของเธอยกขึ้นพาดไว้กับลำแขนแกร่งพร้อมกับตัวเขาที่เข้าไ
เมื่อเดินขึ้นมาถึงจนถึงหน้าห้องนอนของเนยหวานแล้ว มาร์ตินก็ใช้ให้เธอเปิดประตูและตัวเขาก็อุ้มเธอไปวางที่เตียงอย่างเบามือ ความอ่อนโยนบวกกับสายตาที่ส่งมาของเขาทำเอาเธอใจสั่นเข้าให้แล้ว" นอนเฉยๆได้ไหมคะ คืนนี้เนยไม่ไหวเมื่อคืนก็ยังระบมไปทั้งตัวไม่หาย พี่มาร์ตินไม่อ่อนโยนกับเนยเลยสักนิด " ร่างบอบบางทำสายตาอ้อนๆกระพริบตาปริบๆ หวังให้อีกฝ่ายเห็นใจ แต่ไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอมันเหมือนเป็นการกระตุ้นให้เขาเกิดอารมณ์สวาทมากยิ่งขึ้น สายตาเอยท่าทางเอย น่าฟัดชัดมัด " คืนนี้ฉันจะทำเบาๆ " เขายังคงหลอกล่อให้เธอเชื่อคนอย่าง มาร์ติน ไมโลเวอร์ ไม่เคยอ่อนโยนเรื่องบนเตียงอยู่แล้ว " ไม่เอาเนยไม่เชื่อ " " เอา! " เขาพูดเพียงแค่นั้นก็ก้มลงมาประกบจูบปากของเธออย่างเร่าร้อน โดยไม่ปล่อยให้เธอได้ต่อต้านอีกต่อไป เขายอมรับว่าทีแรกคิดถึงเธอจนนอนไม่หลับ เลยกะว่าจะลงไปเดินเล่นดับความฟุ้งซ่านของตัวเองสักหน่อย พร้อมกับหาอะไรดื่มแต่โชคดันเข้าข้างที่เห็นเธอยังไม่หลับไปเสียก่อนเขาจึงหาทางเข้ามานอนกอดเธอแบบนี้ " อื้อ...เนยยังปวดท้องอยู่เลยไว้วันหลังได้ไหมคะ " ส่วนร่างสูงที่พอผละจูบออกมาแล้ว เนยหวานก็รีบใช้โอกาสนี้บอ
เวลาผ่านไปค่อนคืน ร่างบอบบางที่นอนไม่หลับเพราะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ท้องไปหมดแล้ว เธอนอนปวดอยู่อย่างนี้ตั้งแต่หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้ว พอขึ้นมาข้างบนเธอก็ปวดท้องจนไม่เป็นอันทำอะไร ปกติเธอก็จะไม่ปวดมากขนาดนี้สงสัยคงเพราะไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้าแล้วตอนเย็นดันมากินเผ็ดมากๆอีก ร่างกายก็เลยเริ่มไม่ไหว " หิวชะมัดเมื่อไหร่จะเช้านะ " ร่างบอบบางเริ่มกำลังบ่นพึมพำกับตัวเองหลังจากที่คิดว่าจะอดทนจนถึงตอนเช้า ถึงจะไปทำข้าวต้มกินสักชาม แต่ดูเวลาตอนนี้ห้าทุ่มกว่าๆทุกคนคงจะเข้านอนกันหมดแล้วมั๊ง แล้วเธอก็ทนความหิวไม่ไหวอีกต่อไปจึงลงมาข้างล่าง พอเธอเปิดประตูห้องนอนก็มองซ้ายมองขวาปรากฏว่าห้องนอนของสามีหมาดๆของเธอนั้นปิดสนิท เขาอาจจะกำลังจู๋จี๋กับแฟนข้างในก็ได้ แต่ใครจะสนกันล่ะตอนนี้เธอสนใจแค่ท้องน้อยๆของเธอต้องอิ่มเท่านั้น คิดได้ดังนั้นก็รีบดิ่งลงไปที่ห้องครัวพร้อมกับเปิดตู้เย็นดูของสดตรงหน้าว่ามีอะไรพอจะทำกินได้บ้าง พอเห็นผักต่างๆยังคงเหลือจึงรีบเอามาทำผัดผักรวมมิตรใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีเธอก็ทำทุกอย่างจนเสร็จได้ผัดผักรวมมิตรพร้อมกับไข่เจียวหอมๆ เธอรีบตักข้าวแล้วนั่งกินในครัวนั่นเลย โดยไม่ได้สนใจ
เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนเย็น โดยที่เนยหวานไม่รู้เลยว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่ตอนไหน ตื่นขึ้นมาอีกทีท้องฟ้าข้างนอกก็มืดเสียแล้ว เธอรีบมองดูนาฬิกาในโทรศัพท์มือถือก็พบว่าตอนนี้ทุ่มกว่าแล้วจึงรีบล้างหน้าแล้วเดินลงมาข้างล่าง แต่เมื่อมาถึงก็เจอกับบางสิ่งบางอย่างที่ไม่คาดคิด " เมียของคุณมาโน่นแล้วค่ะ " ผู้หญิงที่ชื่อนีน่าคนที่มาป่วนงานแต่งของเธอเมื่อคืนหนิ เธอจำได้ดี ว่าแต่ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เนยหวานรีบเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างเงียบๆเพราะหากจะเดินหนีไปก็คงไม่ทันแล้ว มาร์ตินมองเห็นเธอเข้าแล้ว " นี่เธอกะจะนอนกินบ้านกินเมืองเลยหรือไงเนยหวาน งานบ้านก็มีไม่คิดจะมาทำช่วยนิ่มหน่อยหรอ " เขาดุเธอต่อหน้าของนีน่าทำให้เธอได้แต่ก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด เพราะเธอเผลอหลับไปนานมากจริงๆ แต่จะให้ทำไงได้ก็เธอเพลียมาก ส่วนนีน่าก็ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจที่มาร์ตินดุยัยนี่ต่อหน้าเธอ " ขอโทษค่ะต่อไปเนยจะไม่ทำอีก พี่นิ่มเนยขอโทษนะคะที่ไม่ได้ลงมาช่วย " " อุ๊ยไม่เป็นไรเลยค่ะคุณเนย งานบ้านไม่ได้มีอะไรมากนิ่มทำคนเดียวได้ค่ะ " นิ่มรีบปฏิเสธเป็นพัลวันเพราะความเกรงใจจะมาให้เจ้านายช่วยงานลูกน้องแบบนี้ได้ยังไง เธอทำค
ในเช้าวันใหม่บรรยากาศภายในห้องสวีทที่ถูกจัดเอาไว้เป็นห้องหอสำหรับคู่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามัน ตอนนี้มาร์ตินได้ตื่นขึ้นมาแล้วพร้อมกับนอนมองหน้าของเธออยู่แบบนั้น เขาจัดท่าทางให้เธออยู่ในอ้อมกอดของเขาตั้งแต่เมื่อคืน เธอก็นอนหลับแบบไม่ไหวติง คงจะเพราะเหนื่อยล้ามาทั้งวัน พร้อมกับทบทวนกับตัวเองว่าควรจะเอายังไงต่อไปดี แต่ความคิดทางฝ่ายอาธรรมก็เอาชนะไปจนได้ เพราะแผนการที่เขากำลังจะทำเขายังคิดจะทำมันต่อ แม้ว่าเธอจะเป็นเมียของเขาโดยสมบูรณ์แล้วทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาด้วยความรัก ต่อจากนี้เขาจะทำให้เธอเจ็บทุกทางและขออย่าจากเขาไปเอง และแน่นอนการที่เธอเข้ามาหาเขาเป็นเพราะผลประโยชน์เพราะฉะนั้นช่วงเวลาหลังจากที่หย่ากันเธอจะไม่ได้อะไรจากเขาไปเลย ร่างบอบบางลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบกับเขาที่นอนมองเธออยู่ก่อนแล้ว " ตื่นแล้วหรอ ลุกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าซะสิเราจะต้องออกจากที่นี่กันแล้ว ฉันจะพาเธอไปอยู่ที่บ้านหลังนึงที่ฉันซื้อเอาไว้ " ร่างบอบบางคิดตามด้วยความงุนงง เมื่อคืนเขายังพูดกับเธอดีๆอยู่เลย แต่พอมาเช้านี้กลับทำเสียงแข็งพร้อมกับพูดอะไรก็ไม่รู้ " พี่มาร์ตินหมายความว่ายังไงคะ เราไม่ไ
ร่างบอบบางใบหน้าแดงซ่านไปด้วยความเขินอาย ก็เล่นมาถามเธอแบบนี้จะให้เธอตอบไปแบบไหนกันเล่า เขาไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เธอเขินจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ตาบ้านี่แพรวพราวชะมัด " ถ้าไม่ตอบฉันจะถือว่าเธอเสียวนะ " " อื้อ... " จบคำพูดของเขาก็ตามมาด้วยเสียงร้องครางระงมของร่างบอบบางเพราะเขาเล่นสอดนิ้วมือเข้าไปถึงสามนิ้วเพื่อเปิดทางให้เขาเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และชักเข้าชักออกแบบนั้นอยู่สักพักร่างบอบบางก็เริ่มกระตุก " เนยไม่ไหวแล้วค่ะ จะเสร็จ " เธอบอกเขาไปตามตรง เพราะตอนนี้มองเห็นสวรรค์รำไรอยู่ตรงหน้าแล้ว มีแค่เขาเท่านั้นที่จะช่วยเธอปลดปล่อยได้ " ปล่อยมันออกมาตามความต้องการเลยสาวน้อย แล้วเธอจะมีความสุข " กรี๊ดดด!!!เขารัวนิ้วมือเข้าออกจนเธอต้านทานไม่ไหวกรีดร้องออกมาอย่างสุขสม พร้อมกับปลดปล่อยน้ำหวานอาบนิ้วของเขามากมาย แล้วมาร์ตินแทนที่ผละออก แต่เขากลับก้มลงไปปาดเลียน้ำหวานของเธอดื่มกินจนหมดโดยไม่รังเกียจ ถ้าถามว่าเขาเคยทำแบบนี้กับใครไหม ตอบได้เลยว่าไม่ แล้วก็ไม่เคยคิดที่จะทำด้วย แต่พอเห็นน้ำหวานของร่างบอบบางตรงหน้านี้แล้วมันทำให้เขาอดใจไม่ไหวต้องลงไปฉกชิมจนหมดทุกอยาดหยดแบบนี้ " อื้อ...อย่