Chapter 6
‘ความประทับใจแรก’
.
.
หลันผิงลั่วเดินฮัมเพลงมาอย่างอารมณ์ดีในมือถือถุงขนมปิ้งมาด้วย ส่วนอีกมือก็หยิบขนมปิ้งชิ้นหนึ่งขึ้นมาเคี้ยวตุ้ย ๆ จนแก้มป่อง นางหันมองซ้ายมองขวาเพื่อหาร้านยาจนสายตามองไปเห็นร้านร้านหนึ่งที่ด้านหน้ามีสมุนไพรตากเอาไว้มากมาย ทรงแบบนี้ต้องเป็นร้านยาแน่นอน
หญิงสาวก้าวเท้าเข้ามาภายในโรงหมอ สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือกลิ่นสมุนไพรจนตลบอบอวลแทบจะมึนหัว มีผู้คนมากมายกำลังเดินเข้าเดินออกแลดูวุ่นวายดีเหมือนกันสงสัยที่นี่จะรักษาดี นางเดินดูของจนมาถึงส่วนตรวจรักษาที่มีบุรุษหนุ่มในชุดสีขาวสะอาดสะอ้าน ผมยาวสีดำขลับถูกรวบเอาไว้ครึ่งหัว ไม่มีเครื่องประดับอะไรมากนอกจากปิ่นไม้เท่านั้น ช่างดูเรียบง่ายแต่ความเรียบง่ายไม่ได้ทำให้ความรูปงามของเขาน้อยลงเลย
เข้าใจแล้วว่าทำไมที่นี่คนเยอะ ก็หมอหล่อขนาดนี้
นางรีบมาต่อแถวเข้าคิวรักษาทันที แต่เพราะมองหน้าท่านหมอไม่ถนัดนักจึงพยายามจะชะเง้อคอมองแต่ก็โดนคนด้านหน้าบังไม่พอยังหันมามองแรงใส่นางอีก เลยเลิกมองแล้วต่อแถวนิ่ง ๆ จนถึงคิวของตนเองจึงรีบก้าวเดินมานั่งลงที่เก้าอี้
ผ้าสีขาวสะอาดสะอ้านปิดบังใบหน้ารูปงามของเขาไว้ครึ่งหนึ่ง เอาตามตรงเห็นแค่ตาก็รู้แล้วว่าหล่อเหลาปานเทพบุตรมาจุติ แต่ทำไมดวงตามันคุ้น ๆ หน้าครึ่งบนมันเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่นึกไม่ออก
“มีอาการอะไรหรือแม่นาง?”
“อะ… เออ” จะบอกยังไงดีอะ ความจริงไม่ได้เป็นอะไรแค่จะมาซื้อยาคุมกำเนิด แต่ความหล่อเหลาของท่านหมอดันดึงนางมาต่อคิวรอตรวจเฉยเลย
“ขะ… ขออภัยเจ้าคะ ข้ามัวแต่เหม่อลอย รู้ตัวอีกทีก็มานั่งตรงนี้แล้ว”
คำกล่าวของนางทำให้ท่านหมอที่กำลังเขียนข้อมูลคนไข้ลงในสมุดตรวจต้องเงยหน้ามอง หัวคิ้วกดเข้าหากันเล็กน้อย “หมายความว่าอย่างไร?”
“โทษข้าไม่ได้นะ ก็ท่านรูปงามเกินไปมันทำให้ข้าหลงใหลจนเผลอมาต่อคิวรักษากับท่าน” นางจิ้มปลายนิ้วเข้าหากันด้วยสีหน้าเคอะเขิน
ท่านหมอถึงกลับนิ่งเงียบไปเลย ต่างฝ่ายต่างจ้องมองหน้ากันเงียบ ๆ จนคนที่อึดอัดกลายเป็นหลันผิงลั่วแทนจึงรีบละล่ำละลักกล่าวออกไปด้วยท่าทางร้อนรนใจ
“ความจริงข้ามาซื้อยาคุมกำเนิดเท่านั้น”
สิ้นคำนางเหล่าผู้คนที่ได้ยินก็พากันซุบซิบนินทาทันทีท่าทางแลดูตกอกตกใจจนนางเองก็รู้สึกเกร็ง นี่นางพูดผิดตรงไหนกันนางมาซื้อยาคุมกำเนิดก็เพราะไม่อยากตั้งท้อง มันดีกว่าท้องไม่พร้อมไม่ใช่หรือไง
“เป็นสตรีไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว”
“ใช่ ๆ แล้วก็มาหายาคุมกำเนิด"
“เอาตนเองมาประจานเช่นนี้ ลูกหลานบ้านไหนช่างหน้าไม่อาย”
หลันผิงลั่วที่ได้ยินคำนินทาทุกถ้อยคำได้แต่ขบเม้มริมฝีปากแน่นก้มหน้าลงต่ำเพราะอายเหมือนกันแหละ แต่จะให้ทำไงได้ สมัยนี้มีถุงยางอนามัยไหมล่ะถ้ามีจะได้ซื้อไปใช้
“ถ้าผู้ใดจะนินทาว่าร้ายผู้อื่นก็ออกไปจากโรงหมอของข้า” น้ำเสียงเข้มขรึมกล่าวออกมาจากหมอผู้รูปงามจนชาวบ้านที่ปากเสียต่างพากันเงียบทันที
หลันผิงลั่วเงยหน้ามองท่านหมอก่อนจะประสานมือแล้วก้มหัวลงเล็กน้อย “ขอบคุณท่านหมอเจ้าค่ะ”
“เจ้าไปรับยาเถิด” ท่านหมอยื่นใบที่มีรายชื่อยาให้
“ขอบคุณเจ้าค่ะ”
นางขอบคุณเขาอีกครั้งก่อนจะลุกออกมาแล้วเดินมาที่ส่วนรับยาที่มีลิ้นชักยาสูงกว่าหัวและมีเหล่าคนงานกำลังหันซ้ายหันขวาช่วยกันจัดยาสมุนไพรลงหีบห่ออยู่ นางจึงยื่นแผ่นกระดาษให้คนงานก็รับไปจัดเตรียมให้ทันที
หลังจากได้ยาแล้วนางก็เดินออกมาจากโรงหมอ นางหันกลับไปด้านหลังอีกครั้งตอนนั้นเองดวงตาก็สบเข้ากับบุรุษรูปงามผู้เป็นหมอของโรงหมอแห่งนี้กำลังยืนมองนางตรงหน้าประตู ไม่รู้ว่าลมแรงมาจากไหนมันพัดเสียจนนางต้องยกมือขึ้นบังใบหน้า ยามนั้นเองผ้าที่ปิดบังใบหน้าของเขาก็ปลิดปลิวลอยไป
หลันผิงลั่วเงยหน้ามองใบหน้ารูปงามของท่านหมอพลันดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้างจนมันแทบจะถลนออกมา หัวใจเต้นแรงราวกับมีใครตีกลองรบด้านใน
“ระ… ระบบ”
“อีฟ!” นางร้องเรียกหาระบบทันที
“มีอะไรให้รับใช้คะ?” เสียงของอีฟดังขึ้น
“จะ… เจ้าบอกข้าที บอกข้าหน่อยว่านั่นไม่ใช่พระเอก”
นางมองไปทางหมอหนุ่มรูปงามด้วยหัวใจที่สั่นไหวจนหายใจหายคอลำบาก ยามนี้เหมือนมีภูเขาคุนหลุนกำลังทับอกอยู่
“ใช่ค่ะ นั่นหลี่ซงจวินพระเอกของเรื่องนี้”
“ฮะ?” นางหน้าเหลอหลาทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว
สุดท้ายเลยเลือกจะรีบวิ่งหนีออกมาจากตรงนั้นด้วยความอับอายสุดขีด วิ่งไปตามถนนฝ่าฝูงผู้คนมากมายจนมาหยุดที่ริมแม่น้ำแล้วตะโกนออกไปจนเสียงดังลั่น
“บัดซบเอ๊ย!”
“เวร! เวรจริง ๆ จบสิ้นแล้วชีวิตข้า!”
นางทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง ตอนนี้อยากจะเดินลงแม่น้ำให้มันจมหายไปแต่ติดอย่างเดียวดันว่ายน้ำเป็น
“ยาคุมกำเนิดไม่มีขายหรือคะ?” อีฟกล่าวขึ้นจนหลันผิงลั่วเหนื่อยใจกลอกตามองบนกับระบบปากแจ๋ว
“มันมีอะไรที่นรกกว่ายาไม่มีขายอีก”
“มีอะไรนรกกว่าการพลาดมีอะไรกับตัวร้ายตั้งสองครั้งด้วยหรือคะ?”
“โอ๊ย! ตอนสร้างเธอขึ้นมาเนี่ย โปรแกรมเมอร์เขาใส่ความปากแจ๋วมา 100% หรือไงกันย๊ะ?” นางยกแขนขึ้นเท้าเอวด้วยความหงุดหงิดอยากจะหาอะไรมาฟาดระบบสักที
“ฉันแค่พูดความจริงค่ะ”
“บางครั้งเก็บความจริงไว้ในใจบ้างก็ได้”
หลันผิงลั่วทิ้งตัวลงนั่งที่เดิมก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เรื่องที่นางนอนกับตัวร้ายมันเบาบางไปเลยเมื่อเทียบกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ คนเราควรสร้างความประทับใจแรกเอาไว้เวลาได้เจอกับว่าที่พ่อของลูกในอนาคต
ความประทับใจแรกของนางที่สร้างไว้กับพระเอกก็คือการไปทำนิสัยบ้าผู้ชายใส่ด้วยการชมเขาว่าหล่อเหลาเสียจนจิตใจนางไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แต่นั่นก็ยังไม่หนักหนาสาหัสนักถ้าเทียบกับการที่นางไปขอซื้อยาคุมกำเนิดกับพระเอก แบบนี้มันก็เหมือนประจานตัวเองต่อหน้าเขาไปแล้วปะว่าตอนนี้นางไม่บริสุทธิ์ผุดผ่องอีกต่อไปแล้ว ว่าที่ภรรยาในอนาคตของเขาโดนบุรุษอื่นปาดหน้าเค้กไปเสียแล้ว
“ข้าเพิ่งเอาตัวเองออกไปประจานต่อหน้าพระเอกมา ความประทับใจแรกของข้ากับพระเอกคือการไปซื้อยาคุมกำเนิดกับเขา”
“เขาอาจจะไม่ใช่คนคิดมากเรื่องนี้”
“ข้าไม่รู้ว่าเขาจะคิดไหม แต่ตอนนี้ข้าคิดไม่ตกเลย”
นางถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวลงนอนหงายบนพื้นหญ้า มองดวงตะวันที่กำลังสาดส่องลงมาตัดกับภาพของท้องฟ้าอันสดใส
แต่ชีวิตนางโคตรหมองหม่นเลย
“ทำไมถึงไม่มีกรอบขึ้นว่าพระเอกตอนข้ามองหน้าเขาล่ะ?”
“กรอบประวัติจะปรากฏขึ้นก็ต่อเมื่อได้มีการพูดคุยกันค่ะ”
“แล้วทำไมไม่บอกก่อน?”
“มีบอกในคู่มือแล้วค่ะ”
กรอบสี่เหลี่ยมข้อมูลปรากฏขึ้นพร้อมวงกลมสีแดงตรงคำว่าคู่มือแบบตอกย้ำกันเต็ม ๆ ตา เออ! นางไม่อ่านคู่มือเอง
“ช่างเถอะ ตอนนี้ชีวิตข้าพังแล้ว”
“ยกเลิกการทดสอบไหมคะ?”
“ยกเลิกบ้าบออะไรกันล่ะ ยังสนุกไม่เต็มที่เลย”
“ถ้าอย่างงั้นก็สู้ ๆ นะคะ”
หลันผิงลั่วได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ มีระบบไว้ทำสากกะเบืออะไรไม่รู้ไม่เห็นจะช่วยอะไรได้เลย เปิดทักษะหรืออัปทักษะก็แสนแพงแทบจะเลาะกระดูกออกมาขาย เควสก็ได้พอยท์น้อย นี่มันทดสอบระบบหรือทดสอบตกนรกอยู่กันแน่
“นี่อีฟ”
“คะ?”
“มียาเสน่ห์ขายไหม?”
“ขอโทษด้วยค่ะ ดิฉันเป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ ไม่ใช่สำนักไสยศาสตร์”
ตอนพิเศษ‘ความหลังของหลี่ซ่งจวิน’..“เจ้าว่าผ้าผืนนี้ดีไหม?” หลี่ซ่งจวินยื่นผ้าไหมซูจิ่นให้หลันผิงลั่วดูนางมองผ้าไหมผืนตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อย ระดับมันสมองที่ไม่เข้าใจความหรูหราฟู่ฟ่าแบบนางจะไปมองออกอะไร มองไปมันก็เหมือนกันทุกผืนไม่เห็นจะมีอันไหนแตกต่างกันเลยมันก็แค่ผ้าไหมเท่านั้น“ความคิดเรื่องแฟชั่นของข้าติดลบ”“แฟชั่นคืออะไร?” หลี่ซ่งจวินขมวดคิ้วเล็กน้อย“ก็แบบลวดลายอาภรณ์ การตัดเย็บชุดประมาณนั้น”“อ๋อ” เขาพยักหน้ารับก่อนจะยื่นผ้าไหมให้นางดูอีกครั้ง “เจ้าว่าผืนนี้งดงามหรือไม่?”แล้วทำไมมันวนกลับมาเรื่องนี้ได้เนี่ย!“อืม งาม” นางตอบแบบขอไปที“งั้นเอาผืนนี้ด้วย” เขายื่นมันให้เฒ่าแก่“นี่เจ้าก็ซื้อไปเยอะแล้วนะ เจ้าจะตัดสักกี่ชุด?”“ข้าชมชอบการตัดอาภรณ์งาม ๆ”“เจ้าสำอางกว่าที่ข้าคิดอีกนะ”“เมื่อก่อนข้ามาเลือกซื้อผ้าไหมกับเสี่ยวหลิวบ่อย ๆ” แต่พอพูดมาถึงตรงนี้เขาก็เงียบลงจนหลันผิงลั่วต้องเงยหน้ามองถึงได้เห็นแววตาเศร้าลงเล็กน้อยของเขา“เจ้ายังคิดถึงจางชิงหลิวอยู่สินะ”“ข้าอยู่กับนางมาเกือบร้อยปี ผ่านทุกข์ผ่านสุขมามากมาย” เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างนางก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“เมื่อก
ตอนพิเศษ‘ขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวา’..ดินแดนทะเลทรายอาสัญ“พี่สามีข้ามาหาท่านแล้ว!” หลันผิงลั่วตะโกนจนเสียงดังลั่นหน้าเรือนนอนของเหอมู่เสียงพร้อมโชว์ตะกร้าใส่ขนมให้ “ข้าเอาขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวาสูตรใหม่มาฝากท่านด้วย!”แต่แทนที่พี่สามีจะออกมาต้อนรับกลับมีพลังพุ่งออกมาจากด้านในเรือนแทนจนหลันผิงลั่วต้องหมุนตัวหลบ ทุกอย่างคล่องแคล่วมากเพราะนางอัปสกิลการต่อสู้มาแล้วเรียบร้อย“ไม่ได้กินข้าหรอกพี่สามี”“ข้ารำคาญเจ้าเสียจริง” เหอมู่เสียงเดินออกมาจากเรือนด้วยสีหน้าหงุดหงิดก่อนจะยกแขนขึ้นกอดอกจ้องมองน้องสะใภ้ที่ยังยิ้มร่าหน้าบานเป็นกระด้ง“การแต่งงานกับน้องชายของข้าทำให้เจ้าเบื่อหน่ายจนต้องฆ่าตัวตายเลยหรือ?”“น้องชายของท่านเป็นบุรุษที่ดี ถ้าจะมีเรื่องเบื่อหน่ายก็คงจะมีเรื่องเดียวคือเขามักมากในกามไปหน่อย ข้าต้องปรนนิบัติเขาแทบทุกคืน เหนื่อยจะขาดใจแล้ว”เหอมู่เสียงที่ได้ยินก็กลอกตามองบนอย่างเหนื่อยใจก่อนทำท่าจะหันตัวเดินกลับเข้าไปในเรือน“เดี๋ยวสิพี่สามี!” หลันผิงลั่วรีบวิ่งกระโดดเหยียบราวระเบียงก่อนจะหมุนตัวมายืนตรงหน้าของเหอมู่เสียงแล้วยื่นตะกร้าให้เขา“พี่สามีข้าทำขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวามาฝากท่าน”“โ
ตอนพิเศษ‘ชุดนอนไม่ได้นอน'..ช่วงนี้หลันผิงลั่วเอาแต่เย็บปักชุดชุดหนึ่ง นางตั้งใจทำมันมากเสียจนไม่มีเวลาให้เหอมู่เซียงนักจนพ่อหมาป่าหนุ่มน้อยอกน้อยใจหนีออกมาเดินเล่นที่ตลาดตั้งแต่เช้า ยันตอนนี้จะค่ำแล้วนางก็ยังไม่ออกมาตามหาหรือออกมาง้อเขาเลยสุดท้ายก็กลายเป็นเหอมู่เซียงที่ต้องแบกหน้าหนา ๆ ของตนเองกลับบ้าน แต่ภายในบ้านกลับเงียบเชียบราวกับไร้คนอยู่จึงก้าวเท้าเดินเข้ามาในเรือนก็เห็นว่าภรรยาคนงามยังคงนั่งเย็บปักถักร้อยเหมือนเดิมดูจริงจังกับชุดนั้นมาก“เจ้ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่?”“เจ้ามาพอดีเลย”หลันผิงลั่วสะบัดชุดให้เหอมู่เซียงได้ดู เขาเองก็ยิ่งแปลกใจกับสิ่งที่เห็นมันมีรูปทรงเป็นเสื้อผ้าแต่ว่ามันบางยิ่งกว่าเสื้อซับในเสียอีก ไม่เข้าใจว่าเราจะสามารถใส่ชุดนี้ออกไปเดินข้างนอกได้อย่างไรในเมื่อมันปิดอะไรไม่มิดเลย หรือว่ามันจะไม่ใช่ชุดที่สวมใส่ ผ้าบางเบาลายปักฉลุเช่นนี้คงมีไม่กี่อย่าง“เจ้ากำลังทำผ้าม่านหรือ?”“ฮะ?” หลันผิงลั่วหน้าเหลอหลาเขาเลยชี้นิ้วไปยังผ้าม่านบางตรงหน้าต่างที่มันเหมือนชุดในมือของนางเลย“มะ… ไม่ใช่สักหน่อย” นางหน้ามุ่ยเล็กน้อย แต่จะว่าไปมันก็เหมือนผ้าม่านจริง ๆ นะ ผ้าบางเบา
ตอนพิเศษ‘ทดสอบยาพิษ’..หลี่ซ่งจวินยกขวดยาในมือขึ้นมองด้วยรอยยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขาเก็บมันใส่ใต้เสื้อแล้วเดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีออกมาจากเรือนเพื่อไปยังหอจินหนิงที่นัดกับเจ้าหมาป่าดำชั่วเอาไว้ที่หอจินหนิงเองก็มีเหอมู่เซียงมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขาหยิบเอาขวดยาพิษออกมาจากสาบเสื้อแล้วเทใส่กาน้ำชาพร้อมทั้งคนให้เข้ากัน ยาพิษนี้ไม่มีสีไม่มีกลิ่นกินเข้าไปไม่รู้แน่ว่าโดนพิษไม่นานนักคนที่กำลังรอก็มาถึงหลี่ซ่งจวินเดินเข้ามาด้วยสีหน้านิ่งเรียบหยิ่งยโสโอหังเหมือนเช่นเดิมจนเขาอยากจะลุกไปหักคอทิ้งให้มันจบ ๆ ไปแต่ต้องพยายามอดทนอดกลั้นเอาไว้เพราะเห็นแก่หน้าของหลันผิงลั่วหรอกนะ“เจ้ามาไวเสียจนข้าละอายใจที่มาช้า” หลี่ซ่งจวินทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับเหอมู่เซียง“ก็สมควรละอายใจ” เหอมู่เซียงกล่าวออกมาอย่างไม่รักษาน้ำใจ“ใจสงบลงหน่อยเถิด หน้าบูดบึ้งทั้งวันจะทำให้แก่ไว”หลี่ซ่งจวินหันไปหาเสี่ยวเอ้อร์ก่อนจะยกมือเรียก“รับอะไรดีขอรับคุณชาย”“เจ้าอยากกินอะไร?”“กระต่าย” เหอมู่เซียงตอบเสียงเรียบ“กระต่ายย่างมีไหม?”“จริง ๆ ไม่มีแต่ถ้าคุณชายต้องการเราจะไปหามาให้ขอรับ”“งั้นหาให้ข้าที เดี๋ยวจ่ายเพิ่มให้ แล้ว
Chapter 33'จนผมหงอกขาว'..“ท่านพ่อ ท่านพ่อ” เสียงใสของเหอซ่างดังขึ้นพร้อมทั้งแรงเขย่าชายอาภรณ์จนเหอมู่เซียงต้องทิ้งตัวลงนั่งแล้วยกมือขึ้นลูบใบหน้าอ่อนเยาว์ด้วยรอยยิ้ม“ว่ายังไง?”“ข้าอยากกินกระต่าย”เหอมู่เซียงที่ได้ฟังก็ยิ้มออกมาก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวของบุตรชายที่ยามนี้อายุสามขวบปีแล้ว แต่กลับมีร่างกายสูงใหญ่ราวกับเด็กห้าขวบปีเพราะเป็นครึ่งปีศาจและยังเป็นปีศาจหมาป่าดำอีก วัยที่กำลังเรียนรู้และเล่นสนุกสนาน“ไว้พรุ่งนี้พ่อจะพาไปดีไหม?”เหอซ่างพยักหน้ารับทันทีก่อนจะหันไปปั้นหิมะที่ตกโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าด้านบน “ท่านแม่บอกว่ามันคือสโนแมน”เด็กน้อยให้พ่อดูตุ๊กตาหิมะที่เอาก้อนกลม ๆ มาต่อกันแล้วใช้นิ้ววาดใบหน้า แต่เขาจำได้ว่ามันต้องมีจมูกยาว ๆ ด้วยเลยหันไปหยิบกิ่งไม้มาเสียบให้“เก่งมากลูกพ่อ”“ท่านพ่อ!” เสียงตะโกนดังมาจากในบ้านจนเหอมู่เซียงตกใจรีบเดินมาดูทันทีเพราะวันนี้เขาอยู่บ้านผู้เดียวรับหน้าที่ดูแลบุตรชายทั้งสองคนเพราะหลันผิงลั่วไปช่วยหลี่ซ่งจวินที่โรงหมอ“เกิดสิ่งใดขึ้นซีเอ๋อร์?”เมื่อเข้ามาภายในบ้านก็เห็นเจ้าแฝดคนโตกำลังขยับตัวออกจากเก้าอี้ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะตัวดันเข้าไปติดกับช่องต
Chapter 32‘เทศกาลหยวนเซียว’..“ทางซ้ายหน่อย”“ตรงนี้หรือ?”“ไม่ ๆ ขยับอีกนิด”เสียงหวานของหลันผิงลั่วดังขึ้นพร้อมนิ้วที่ชี้ไปบนชายคาประตูหน้าบ้านเพื่อบอกให้หลี่ซ่งจวินที่กำลังแขวนโคมขยับให้ตรงสวยงาม ในยามนี้บ้านเรือนทุกหลังล้วนตกแต่งไปด้วยโคมสีแดงเพราะเทศกาลหยวนเซียวเวียนมาถึงแล้วทุกที่เลยครึกครื้นเป็นพิเศษ แม้แต่ตัวนางเองก็ตื่นเต้นเพราะเคยแต่เที่ยวเทศกาลนี้ในโลกจริงข้างนอกไม่เคยเที่ยวในโลกโบราณมาก่อนเลยแต่มันก็คงไม่ได้แตกต่างกันมากหรอกมั้ง“ได้หรือยัง?” หลี่ซ่งจวินหันมาส่งยิ้มให้สหายรู้ใจ“ได้แล้ว เยี่ยมมาก” นางยกนิ้วโป้งให้เขาด้วยรอยยิ้ม “งั้นเจ้าก็ลงมาได้แล้ว”แต่จังหวะที่หลี่ซ่งจวินกำลังจะลงจากบันไดลิงที่มันก็ไม่ได้แข็งแรงอะไรมากนัก เหอซีกลับวิ่งพรวดพราดออกมาจากบ้านจนทั้งสองคนตกใจแต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือเด็กน้อยดันชนเข้ากับขาบันไดเต็ม ๆ แม้ถึงจะยังเด็กแต่ก็เป็นครึ่งปีศาจจึงมีพละกำลังมากกว่าเด็กทั่วไปมากทำให้ทันทีที่วิ่งชนขาบันไดก็สะบัดเพราะมันไม่แข็งแรงอยู่แล้ว“เห๊ย!”ร่างของหลี่ซ่งจวินเสียหลักหงายหลังร่วงลงมาทันทีแบบไม่ทันได้ตั้งตัวจึงใช้พลังอะไรไม่ทันทั้งนั้น หลันผิงลั่วที่เห็