Chapter 7
'ไม่รัก'
.
.
ไม่ว่าจะผ่านเรื่องอะไรมาสุดท้ายคนอย่างหลันผิงลั่วก็ทำใจได้ นางตัดสินใจเริ่มต้นใหม่ด้วยความมั่นใจถึงแม้จะทำเรื่องน่าอายลงไปแล้ว ความประทับใจแรกมันไม่โอเคงั้นลองความประทับใจสองก็ได้ จิตใจคนเรามันอ่อนไหวอยู่ตลอดเวลาถ้านางใช้มารยาให้มากเสียหน่อยน่าจะเอาชนะใจพ่อพระเอกสุดหล่อได้
แต่ตอนนี้ก็ทำใจลำบากเพราะตัวร้ายก็หล่อพระเอกก็หล่อ หล่อไปหมดทุกคน แต่หล่อคนละแบบ พ่อตัวร้ายหล่อแบบเข้ม ๆ อเมริกาโน่เพิ่มช็อตเลย ส่วนพ่อพระเอกก็หล่อแบบนุ่มนวลลาเต้ใส่นมเลย มันก็ดีทั้งคู่แต่ภารกิจคือต้องทำให้พระเอกตกหลุมรักไง
นางหอบหิ้วผักสดที่ซื้อจากตลาดมาเต็มอ้อมแขนก่อนจะเดินดูอย่างอื่นเพื่อหาของเข้าบ้านเสียหน่อย จนสายตามองไปเห็นพ่อพระเอกกำลังเดินมาทางนี้พอดี หัวสมองอันชาญฉลาดก็คิดแผนการออกทันที
หลันผิงลั่วแกล้งเดินมาใกล้ ๆ หลี่ซงจวินที่กำลังมองร้านรวงข้างทางอยู่ก่อนจะแกล้งทำเป็นลื่นล้ม ปากก็ร้องกรี๊ดเพื่อให้พ่อพระเอกรู้ตัว ผงผักในอ้อมแขนกระจัดกระจายลอยขึ้นฟ้า ดวงตาคู่สวยหลับตาปี๋เพื่อเตรียมทิ้งตัวลงไปอยู่ในอ้อมแขนของหลี่ซงจวินแบบเต็มที่
วงแขนใหญ่โอบกอดร่างบอบบางของนางเอาไว้แล้วดึงเข้าหาจนสัมผัสได้ว่าตัวเองอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่นแล้วจึงลืมตาขึ้นเพื่อขอมองหน้าหล่อ ๆ ของหลี่ซงจวินให้ชัดเสียหน่อย
แต่ใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าของนางกลับเป็นเหมือนฝันร้ายเพราะมันห่างไกลจากใบหน้าของหลี่ซงจวินไปไกลหลายลี้เลย ดวงตาคู่คมที่ทอประกายเจ้าเล่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ที่นางจดจำได้ขึ้นใจ ริมฝีปากเอิบอิ่มสีแดงที่นางจดจำได้เป็นอย่างดี
คนที่รับตัวนางไว้ดันเป็นเหอมู่เซียงไม่ใช่หลี่ซงจวิน!
ทำไมเป็นเจ้าปีศาจราคะอีกแล้ว!
“เมื่อคืนข้าสมสู่เจ้าหนักไปหรือ เจ้าถึงได้หน้ามืดเช่นนี้”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาจนเห็นเขี้ยวแหลมที่มุมปากด้านในจนชวนขนลุกขนพอง
“ละ… หลี่ซงจวินล่ะ หรือว่า…”
นางเบิกตากว้างก่อนจะรีบผละตัวออกมาจากอ้อมแขนของจอมปีศาจ มือเล็กคว้าคอเสื้อของเขาเอาไว้ทั้งสองข้างแล้วออกแรงเขย่าจนร่างสูงหัวสั่นหัวคลอน
“เจ้ากินหลี่ซงจวินไปแล้วเหรอ คายเขาออกมาเดี๋ยวนี้!”
“สามีเจ้าอยู่ตรงนี้ เจ้ายังกล้ากล่าวถึงบุรุษผู้อื่นอีก” เขาส่ายหัวเล็กน้อยคล้ายจะเหนื่อยอ่อนใจแต่ก็ยกนิ้วชี้ไปทางด้านหลัง
“เจ้าหมายถึงบุรุษจืดชืดผู้นั้นหรือ?”
หลันผิงลั่วมองตามนิ้วเรียวไปก็เห็นว่าหลี่ซงจวินเดินออกไปไกลแล้วและไม่ได้สนใจนางสักนิดเดียว ไม่อยู่ในสายตาเลยดีกว่าพ่อพระเอกมองข้ามนางไปแบบไร้เยื่อใยทั้งที่นางเป็นนางเอกนะ ว่าที่ภรรยาในอนาคตของเขา
นางเอกเจ็บปวดค่ะ!
“ดูเจ้าทำหน้าเข้าสิ ต่อหน้าสามียังเว้าวอนหาบุรุษอื่นอีก ใช้ได้เสียที่ไหนกัน”
เหอมู่เซียงส่ายหัวอย่างอ่อนใจแต่หลันผิงลั่วกลับเอื้อมมือขึ้นไปบิดใบหูของเขาจนแทบจะม้วนเป็นเลขแปดทำเอาจอมปีศาจร้องออกมาเสียงหลงจนชาวบ้านชาวช่องหันมาจับจ้องพวกเขาเป็นตาเดียว
“มันเพราะเจ้าคนเดียวแผนข้าพังหมด!”
“โอ๊ย ๆ ภรรยา สามีเจ็บ”
จอมปีศาจทิ้งตัวลงกับพื้นทันทีทำท่าทางเหมือนว่าโดนรังแกจนตัวเล็กตัวน้อยจากหมาป่ากลายเป็นหมาบ้านไปเลย มันทำให้ผู้คนหันมาสนใจทั้งสองคนมากขึ้นจนตอนนี้กลายเป็นยืนล้อมพวกเขาเอาไว้แล้ว
“เจ้าคิดจะเกี้ยวชายอื่นไม่พอ แต่พอไม่สำเร็จก็มาพาลโมโหใส่ข้า ข้าเป็นสามีที่รักเจ้าถึงเพียงนี้ เจ้ายังจะมีชายอื่นได้ลงคออีกหรือ?”
“ฮะ?” คำกล่าวของเขาทำให้นางอ้าปากค้างเติ่ง สมองกำลังประมวลผลอย่างหนักหน่วงแต่เหมือนจะไม่ทันขี้ปากของชาวบ้าน
“นังหนูทำไมเจ้าทำเช่นนี้เล่า”
“สามีของเจ้ารักเจ้าถึงเพียงนี้ เจ้าไม่สงสารเขาหรือ”
“มาได้ภรรยาเช่นนี้ ช่างน่าสงสารยิ่งนัก”
“ไม่ได้เรื่องเลย เจ้าหาภรรยาใหม่เสียเถอะ”
“สตรีเช่นนี้ไม่คู่ควรกับเจ้าเลย”
เสียงของชาวบ้านเริ่มดังหนาหูขึ้นเมื่อคนหนึ่งพูดอีกคนก็พูดตามจนทุกคนต่างพูดใส่นางจนหมดเรียกว่าฟังไม่รู้เรื่องเลยว่าใครพูดอะไรบ้าง
“พวกท่านอย่าต่อว่าภรรยาข้าเลย ข้ารักนางข้ายอมนางได้ทุกอย่างขอแค่นางมีความสุข”
เหอมู่เซียงยังคงเล่นละครฉากใหญ่ด้วยการลุกขึ้นยืนแล้วดึงตัวหลันผิงลั่วเข้ามาโอบกอดจนนางได้แต่ยืนงงเป็นไก่ตาแตกสมองประมวลผลไม่ทันสักเรื่องได้ยินแต่เสียงชาวบ้านเต็มหูเนี่ย
“โธ่ เจ้าช่างจิตใจดียิ่งนัก”
“คนดี ๆ เช่นเจ้าไม่น่ามีภรรยาชั่วเช่นนี้เลย”
“ฮะ?” หลันผิงลั่วได้แต่อ้าปากผงาบ ๆ เป็นปลาขาดน้ำ ไม่เข้าใจว่าตอนนี้มันกำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อยู่ดี ๆ นางก็กลายเป็นจำเลยของสังคมทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิดเดียว
แต่เจ้าปีศาจราคะมันมารยาสาไถยยิ่งกว่าสตรีอีก
“เจ้าปีศาจมันเพราะเจ้าผู้เดียว!”
นางเหยียบเท้าเขาเต็มแรงจนจอมปีศาจร้องเสียงหลงเลยใช้โอกาสนั้นรีบแหวกฝูงชนออกมาตรงกลับบ้านด้วยความอับอาย ตอนแรกก็คิดว่าตนเองมารยาเยอะแล้วนะ แต่เจ้าปีศาจราคะมันยิ่งกว่านางเสียอีก ตัวก็ใหญ่ล่ำบึกปานนั้นยังทำท่าน้อยอกน้อยใจเหมือนตัวเองตัวเล็กตัวน้อย
……….
.
“อีฟ”
“ระบบ”
“อีฟ ได้ยินไหม”
“ระบบ!”
หลันผิงลั่วพยายามเรียกหาระบบแต่ก็ไร้วี่แววไม่มีเสียงตอบรับกลับมาเลย นางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างเบื่อหน่ายด้วยความที่มันอยู่ในช่วงทดลองระบบมันเลยไม่เสถียรเท่าไหร่นัก ชอบมา ๆ หาย ๆ แบบนี้เสมอเลย
“คงไม่ได้โดนไวรัสกินไปแล้วหรอกนะ”
นางขยับตัวขึ้นมานั่งห้อยขาบนขอบหน้าต่างก่อนจะมองขึ้นไปยังท้องฟ้าเบื้องบนที่เต็มไปด้วยดวงดาราพร่างพราวตัดกับดวงจันทร์สีเหลืองนวลกระจ่าง มันช่างงดงามจริง ๆ
“ดวงจันทร์งามยิ่งนัก แต่เจ้างามกว่า”
“อ๊ะ!” เสียงเข้มดังขึ้นจนหลันผิงลั่วตกใจแทบจะร่วงจากขอบหน้าต่างแต่โชคดีที่เหอมู่เซียงคว้าตัวนางเข้าไปสวมกอดไว้ได้ทันท่วงที จนใบหน้าหวานจุ่มไปกับอกกว้างกำยำ
“ปล่อยข้า”
“สามีจะกอดภรรยาไม่ได้หรือ?”
“ใครภรรยาเจ้า เจ้าพูดให้มันดี ๆ นะ”
“ได้เสียกันถึงสองครั้งไม่นับว่าเป็นสามีภรรยาหรือ?”
“ข้าไม่อยากพูดกับเจ้าเรื่องนี้แล้ว ปล่อยข้า!”
“ว้าย!”
“โอ๊ย!”
พอนึกจะปล่อยเหอมู่เซียงก็ปล่อยจริง ๆ แบบไม่บอกไม่กล่าว จนหลันผิงลั่วไม่ทันตั้งตัวเสียหลักร่วงตกจากขอบหน้าต่างจนหลังกระแทกพื้นด้านล่างเข้าเต็ม ๆ ทำเอาจุกจนแทบขยับไม่ไหว โชคดีที่มันไม่ได้สูงมากนักไม่อย่างงั้นนางหลังหักเป็นสองท่อนแน่
“เหอมู่เซียงเจ้าจะฆ่าข้าหรือไง!” นางวาดปลายนิ้วขึ้นชี้หน้าเขา ดวงตาจับจ้องจอมปีศาจอย่างคาดโทษ
“ก็เจ้าบอกให้ปล่อย” เขายังคงทำหน้าใสซื่อ ไม่มาช่วยประคองนางสักนิดจนหลันผิงลั่วต้องพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นจากพื้นเอง
“เจ้าก็เลยปล่อยข้าให้ร่วงจากหน้าต่างเนี่ยนะ”
“ข้าทำอะไรก็ผิดในสายตาเจ้าหมด” เหอมู่เซียงทำหน้าเศร้าเหมือนจะร้องไห้ก่อนจะทำท่าทางราวน้อยอกน้อยใจเดินกลับเข้าไปด้านใน
หลันผิงลั่วที่เห็นเขาเดินเข้าไปด้านในนางก็รีบปีนหน้าต่างตามเข้ามา แต่ก็นึกขึ้นได้ตอนเท้าเหยียบลงบนพื้นแล้วว่าบ้านก็มีประตูแล้วทำไมต้องปีนหน้าต่างด้วย แต่ช่างมันเถอะสุดท้ายปลายทางก็ที่เดียวกัน เมื่อเข้ามาด้านในก็เห็นเหอมู่เซียงกำลังนั่งหน้ามุ่ยอยู่ที่เตียง
“ตัวก็ออกจะใหญ่ ไยถึงขี้น้อยใจนัก”
“เพราะข้ามีความรู้สึก”
“ข้าเองก็มีความรู้สึกไม่ต่างกับเจ้า ไม่เห็นว่าจะต้องคิดเล็กคิดน้อยเลย”
“ต่างสิ เจ้ากับข้าต่างกันมาก” ดวงตาคู่คมที่ยามนี้มีน้ำตาคลอช้อนขึ้นสบตากับหลันผิงลั่วอย่างจริงจัง
“มันต่างกัน ตรงที่ข้ารักเจ้า แต่เจ้าไม่ได้รักข้า”
เมื่อได้ฟังคำพูดนั้นก็คล้ายกับว่าหัวใจของนางจะเต้นระรัวราวมีคนตีกลองรบ มันทั้งตกใจและเศร้าใจในเวลาเดียวกัน เขาบอกว่ารักนางแต่คำบอกรักนั้นก็แฝงไปด้วยความเศร้าหมองเช่นเดียวกัน
มันคล้ายกับว่านางทำผิดมหันต์ที่ไม่รักเขา
“ก็อาจจะจริง ข้าไม่ได้รักเจ้า แต่ข้าก็ไม่ได้ผิดที่ไม่รักเจ้า”
กล่าวจบนางก็เลือกจะหันตัวเดินหนีออกมาไม่ได้สนใจคนข้างหลังอีกเพราะไม่มีอะไรจะคุยด้วยแล้ว มันไม่ผิดที่นางไม่รักเขาและก็ไม่แปลกอะไรเลยด้วย ในเมื่อความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มต้นจากความลุ่มหลงมัวเมาจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ว่ากันตามตรงมันก็ไม่ต่างอะไรกับคนเมาที่เอากัน มันก็แค่ทำไปตามความต้องการไม่ได้มีความรักมาเกี่ยวข้องตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
และจะให้นางรักเขาได้อย่างไร ในเมื่อเขาไม่ใช่ตัวเลือกตั้งแต่แรก ก็แค่ความผิดพลาดที่ได้มาอย่างไม่ตั้งใจเท่านั้น
ตอนพิเศษ‘ความหลังของหลี่ซ่งจวิน’..“เจ้าว่าผ้าผืนนี้ดีไหม?” หลี่ซ่งจวินยื่นผ้าไหมซูจิ่นให้หลันผิงลั่วดูนางมองผ้าไหมผืนตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อย ระดับมันสมองที่ไม่เข้าใจความหรูหราฟู่ฟ่าแบบนางจะไปมองออกอะไร มองไปมันก็เหมือนกันทุกผืนไม่เห็นจะมีอันไหนแตกต่างกันเลยมันก็แค่ผ้าไหมเท่านั้น“ความคิดเรื่องแฟชั่นของข้าติดลบ”“แฟชั่นคืออะไร?” หลี่ซ่งจวินขมวดคิ้วเล็กน้อย“ก็แบบลวดลายอาภรณ์ การตัดเย็บชุดประมาณนั้น”“อ๋อ” เขาพยักหน้ารับก่อนจะยื่นผ้าไหมให้นางดูอีกครั้ง “เจ้าว่าผืนนี้งดงามหรือไม่?”แล้วทำไมมันวนกลับมาเรื่องนี้ได้เนี่ย!“อืม งาม” นางตอบแบบขอไปที“งั้นเอาผืนนี้ด้วย” เขายื่นมันให้เฒ่าแก่“นี่เจ้าก็ซื้อไปเยอะแล้วนะ เจ้าจะตัดสักกี่ชุด?”“ข้าชมชอบการตัดอาภรณ์งาม ๆ”“เจ้าสำอางกว่าที่ข้าคิดอีกนะ”“เมื่อก่อนข้ามาเลือกซื้อผ้าไหมกับเสี่ยวหลิวบ่อย ๆ” แต่พอพูดมาถึงตรงนี้เขาก็เงียบลงจนหลันผิงลั่วต้องเงยหน้ามองถึงได้เห็นแววตาเศร้าลงเล็กน้อยของเขา“เจ้ายังคิดถึงจางชิงหลิวอยู่สินะ”“ข้าอยู่กับนางมาเกือบร้อยปี ผ่านทุกข์ผ่านสุขมามากมาย” เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างนางก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“เมื่อก
ตอนพิเศษ‘ขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวา’..ดินแดนทะเลทรายอาสัญ“พี่สามีข้ามาหาท่านแล้ว!” หลันผิงลั่วตะโกนจนเสียงดังลั่นหน้าเรือนนอนของเหอมู่เสียงพร้อมโชว์ตะกร้าใส่ขนมให้ “ข้าเอาขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวาสูตรใหม่มาฝากท่านด้วย!”แต่แทนที่พี่สามีจะออกมาต้อนรับกลับมีพลังพุ่งออกมาจากด้านในเรือนแทนจนหลันผิงลั่วต้องหมุนตัวหลบ ทุกอย่างคล่องแคล่วมากเพราะนางอัปสกิลการต่อสู้มาแล้วเรียบร้อย“ไม่ได้กินข้าหรอกพี่สามี”“ข้ารำคาญเจ้าเสียจริง” เหอมู่เสียงเดินออกมาจากเรือนด้วยสีหน้าหงุดหงิดก่อนจะยกแขนขึ้นกอดอกจ้องมองน้องสะใภ้ที่ยังยิ้มร่าหน้าบานเป็นกระด้ง“การแต่งงานกับน้องชายของข้าทำให้เจ้าเบื่อหน่ายจนต้องฆ่าตัวตายเลยหรือ?”“น้องชายของท่านเป็นบุรุษที่ดี ถ้าจะมีเรื่องเบื่อหน่ายก็คงจะมีเรื่องเดียวคือเขามักมากในกามไปหน่อย ข้าต้องปรนนิบัติเขาแทบทุกคืน เหนื่อยจะขาดใจแล้ว”เหอมู่เสียงที่ได้ยินก็กลอกตามองบนอย่างเหนื่อยใจก่อนทำท่าจะหันตัวเดินกลับเข้าไปในเรือน“เดี๋ยวสิพี่สามี!” หลันผิงลั่วรีบวิ่งกระโดดเหยียบราวระเบียงก่อนจะหมุนตัวมายืนตรงหน้าของเหอมู่เสียงแล้วยื่นตะกร้าให้เขา“พี่สามีข้าทำขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวามาฝากท่าน”“โ
ตอนพิเศษ‘ชุดนอนไม่ได้นอน'..ช่วงนี้หลันผิงลั่วเอาแต่เย็บปักชุดชุดหนึ่ง นางตั้งใจทำมันมากเสียจนไม่มีเวลาให้เหอมู่เซียงนักจนพ่อหมาป่าหนุ่มน้อยอกน้อยใจหนีออกมาเดินเล่นที่ตลาดตั้งแต่เช้า ยันตอนนี้จะค่ำแล้วนางก็ยังไม่ออกมาตามหาหรือออกมาง้อเขาเลยสุดท้ายก็กลายเป็นเหอมู่เซียงที่ต้องแบกหน้าหนา ๆ ของตนเองกลับบ้าน แต่ภายในบ้านกลับเงียบเชียบราวกับไร้คนอยู่จึงก้าวเท้าเดินเข้ามาในเรือนก็เห็นว่าภรรยาคนงามยังคงนั่งเย็บปักถักร้อยเหมือนเดิมดูจริงจังกับชุดนั้นมาก“เจ้ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่?”“เจ้ามาพอดีเลย”หลันผิงลั่วสะบัดชุดให้เหอมู่เซียงได้ดู เขาเองก็ยิ่งแปลกใจกับสิ่งที่เห็นมันมีรูปทรงเป็นเสื้อผ้าแต่ว่ามันบางยิ่งกว่าเสื้อซับในเสียอีก ไม่เข้าใจว่าเราจะสามารถใส่ชุดนี้ออกไปเดินข้างนอกได้อย่างไรในเมื่อมันปิดอะไรไม่มิดเลย หรือว่ามันจะไม่ใช่ชุดที่สวมใส่ ผ้าบางเบาลายปักฉลุเช่นนี้คงมีไม่กี่อย่าง“เจ้ากำลังทำผ้าม่านหรือ?”“ฮะ?” หลันผิงลั่วหน้าเหลอหลาเขาเลยชี้นิ้วไปยังผ้าม่านบางตรงหน้าต่างที่มันเหมือนชุดในมือของนางเลย“มะ… ไม่ใช่สักหน่อย” นางหน้ามุ่ยเล็กน้อย แต่จะว่าไปมันก็เหมือนผ้าม่านจริง ๆ นะ ผ้าบางเบา
ตอนพิเศษ‘ทดสอบยาพิษ’..หลี่ซ่งจวินยกขวดยาในมือขึ้นมองด้วยรอยยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขาเก็บมันใส่ใต้เสื้อแล้วเดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีออกมาจากเรือนเพื่อไปยังหอจินหนิงที่นัดกับเจ้าหมาป่าดำชั่วเอาไว้ที่หอจินหนิงเองก็มีเหอมู่เซียงมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขาหยิบเอาขวดยาพิษออกมาจากสาบเสื้อแล้วเทใส่กาน้ำชาพร้อมทั้งคนให้เข้ากัน ยาพิษนี้ไม่มีสีไม่มีกลิ่นกินเข้าไปไม่รู้แน่ว่าโดนพิษไม่นานนักคนที่กำลังรอก็มาถึงหลี่ซ่งจวินเดินเข้ามาด้วยสีหน้านิ่งเรียบหยิ่งยโสโอหังเหมือนเช่นเดิมจนเขาอยากจะลุกไปหักคอทิ้งให้มันจบ ๆ ไปแต่ต้องพยายามอดทนอดกลั้นเอาไว้เพราะเห็นแก่หน้าของหลันผิงลั่วหรอกนะ“เจ้ามาไวเสียจนข้าละอายใจที่มาช้า” หลี่ซ่งจวินทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับเหอมู่เซียง“ก็สมควรละอายใจ” เหอมู่เซียงกล่าวออกมาอย่างไม่รักษาน้ำใจ“ใจสงบลงหน่อยเถิด หน้าบูดบึ้งทั้งวันจะทำให้แก่ไว”หลี่ซ่งจวินหันไปหาเสี่ยวเอ้อร์ก่อนจะยกมือเรียก“รับอะไรดีขอรับคุณชาย”“เจ้าอยากกินอะไร?”“กระต่าย” เหอมู่เซียงตอบเสียงเรียบ“กระต่ายย่างมีไหม?”“จริง ๆ ไม่มีแต่ถ้าคุณชายต้องการเราจะไปหามาให้ขอรับ”“งั้นหาให้ข้าที เดี๋ยวจ่ายเพิ่มให้ แล้ว
Chapter 33'จนผมหงอกขาว'..“ท่านพ่อ ท่านพ่อ” เสียงใสของเหอซ่างดังขึ้นพร้อมทั้งแรงเขย่าชายอาภรณ์จนเหอมู่เซียงต้องทิ้งตัวลงนั่งแล้วยกมือขึ้นลูบใบหน้าอ่อนเยาว์ด้วยรอยยิ้ม“ว่ายังไง?”“ข้าอยากกินกระต่าย”เหอมู่เซียงที่ได้ฟังก็ยิ้มออกมาก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวของบุตรชายที่ยามนี้อายุสามขวบปีแล้ว แต่กลับมีร่างกายสูงใหญ่ราวกับเด็กห้าขวบปีเพราะเป็นครึ่งปีศาจและยังเป็นปีศาจหมาป่าดำอีก วัยที่กำลังเรียนรู้และเล่นสนุกสนาน“ไว้พรุ่งนี้พ่อจะพาไปดีไหม?”เหอซ่างพยักหน้ารับทันทีก่อนจะหันไปปั้นหิมะที่ตกโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าด้านบน “ท่านแม่บอกว่ามันคือสโนแมน”เด็กน้อยให้พ่อดูตุ๊กตาหิมะที่เอาก้อนกลม ๆ มาต่อกันแล้วใช้นิ้ววาดใบหน้า แต่เขาจำได้ว่ามันต้องมีจมูกยาว ๆ ด้วยเลยหันไปหยิบกิ่งไม้มาเสียบให้“เก่งมากลูกพ่อ”“ท่านพ่อ!” เสียงตะโกนดังมาจากในบ้านจนเหอมู่เซียงตกใจรีบเดินมาดูทันทีเพราะวันนี้เขาอยู่บ้านผู้เดียวรับหน้าที่ดูแลบุตรชายทั้งสองคนเพราะหลันผิงลั่วไปช่วยหลี่ซ่งจวินที่โรงหมอ“เกิดสิ่งใดขึ้นซีเอ๋อร์?”เมื่อเข้ามาภายในบ้านก็เห็นเจ้าแฝดคนโตกำลังขยับตัวออกจากเก้าอี้ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะตัวดันเข้าไปติดกับช่องต
Chapter 32‘เทศกาลหยวนเซียว’..“ทางซ้ายหน่อย”“ตรงนี้หรือ?”“ไม่ ๆ ขยับอีกนิด”เสียงหวานของหลันผิงลั่วดังขึ้นพร้อมนิ้วที่ชี้ไปบนชายคาประตูหน้าบ้านเพื่อบอกให้หลี่ซ่งจวินที่กำลังแขวนโคมขยับให้ตรงสวยงาม ในยามนี้บ้านเรือนทุกหลังล้วนตกแต่งไปด้วยโคมสีแดงเพราะเทศกาลหยวนเซียวเวียนมาถึงแล้วทุกที่เลยครึกครื้นเป็นพิเศษ แม้แต่ตัวนางเองก็ตื่นเต้นเพราะเคยแต่เที่ยวเทศกาลนี้ในโลกจริงข้างนอกไม่เคยเที่ยวในโลกโบราณมาก่อนเลยแต่มันก็คงไม่ได้แตกต่างกันมากหรอกมั้ง“ได้หรือยัง?” หลี่ซ่งจวินหันมาส่งยิ้มให้สหายรู้ใจ“ได้แล้ว เยี่ยมมาก” นางยกนิ้วโป้งให้เขาด้วยรอยยิ้ม “งั้นเจ้าก็ลงมาได้แล้ว”แต่จังหวะที่หลี่ซ่งจวินกำลังจะลงจากบันไดลิงที่มันก็ไม่ได้แข็งแรงอะไรมากนัก เหอซีกลับวิ่งพรวดพราดออกมาจากบ้านจนทั้งสองคนตกใจแต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือเด็กน้อยดันชนเข้ากับขาบันไดเต็ม ๆ แม้ถึงจะยังเด็กแต่ก็เป็นครึ่งปีศาจจึงมีพละกำลังมากกว่าเด็กทั่วไปมากทำให้ทันทีที่วิ่งชนขาบันไดก็สะบัดเพราะมันไม่แข็งแรงอยู่แล้ว“เห๊ย!”ร่างของหลี่ซ่งจวินเสียหลักหงายหลังร่วงลงมาทันทีแบบไม่ทันได้ตั้งตัวจึงใช้พลังอะไรไม่ทันทั้งนั้น หลันผิงลั่วที่เห็