ホーム / รักโบราณ / เมื่อข้าหมดรักสามีไร้ใจ / ผิดที่เกิดเป็นคนตระกูลเว่ย

共有

ผิดที่เกิดเป็นคนตระกูลเว่ย

last update 最終更新日: 2025-12-02 01:21:28

          นับแต่นั้นนางหมั่นเพียรเย็บปักถุงเท้าให้สามีด้วยความประณีต ครั้นเย็บเสร็จก็ถึงคราปักลวดลายลงไปจนทุกอย่างเสร็จสิ้นจึงได้ฝากให้หย่งเจิ้งนำไปมอบให้เขา

          “เจ้าไปที่ใดมารึ”

          “ฮูหยินฝากให้บ่าวนำถุงเท้าคู่นี้มามอบให้ท่านโหว” ชายหนุ่มเปรยตามองถุงเท้าคู่นั้นครู่เดียว แม้มันจะประณีตและงดงามแค่ไหนเขาก็ไม่ได้สนใจ

          “เอาไปทิ้งเสีย”

          “ฮูหยินปักเย็บเองกับมือเลยนะขอรับ”

          “แล้วอย่างไร ที่นางทำเรื่องพวกนี้ก็เพราะอยากเรียกร้องความสนใจจากข้า”

          “ท่านโหวเข้าใจผิดแล้ว”

          “ข้าน่ะหรือเข้าใจผิด สตรีแซ่เว่ยผู้นั้นคงคิดหาผลประโยชน์จากข้าสิไม่ว่า”

          “หากนางคิดเช่นนั้นจริง ป่านนี้คงเข้าหาท่านทุกครั้งที่มีโอกาสแล้วล่ะขอรับ”

          “ก็จริงของเจ้า งานเลี้ยงคราวก่อนข้าต้องอุ้มนางขึ้นรถม้าเจ้าว่าสาเหตุเป็นเพราะอะไร หากนางไม่ได้เป็นคนสั่งให้คนขับรถม้าทำเช่นนั้น”

          “ท่านโหว ท่านมองนางในแง่ร้ายเกินไปรึไม่ถึงอย่างไรนางก็เป็นฮูหยินของท่านแล้วนะขอรับ”

          “นางไม่ใช่ฮูหยินของข้า ข้าจะคอยดูว่าคนอย่างนางจะทนอยู่ที่นี่ได้นานเท่าใด”

          “บ่าวจะคอยดูเช่นกัน”

          “บ่นอันใดของเจ้า ข้ากลับมาเมื่อใดอย่าให้ข้าเห็นถุงเท้าสกปรกคู่นี้อีก มิเช่นนั้นคนที่ถูกลงโทษจะเป็นเจ้าแทน”

          “ขอรับ บ่าวจะนำไปทิ้งตามคำสั่ง”

          หญิงสาวยืนรอสามีอยู่หน้าประตูจวนเพื่ออวยพรให้เขาเดินทางปลอดภัย แต่กลับต้องผิดหวังอีกครั้งเมื่อบุรุษที่ตนรอเลี่ยงออกไปใช้ประตูด้านข้างแทน

          “ฮูหยิน กลับเข้าข้างในเถิดเจ้าค่ะ บ่าวในจวนบอกว่าท่านโหวออกทางประตูข้างไปแล้ว”

          “หวนปี้ เจ้าบอกข้าทีข้ามันน่ารังเกียจขนาดนี้เชียวรึ เขาถึงได้เอาแต่หนีข้าเช่นนี้”

          “ฮูหยิน ท่านอย่าได้คิดเช่นนี้เด็ดขาด คนที่น่ารังเกียจมิใช่ท่านแต่เป็นนายท่านต่างหากที่อำมหิตฆ่าได้แม้แต่สหายของตัวเอง”

          “คิดไปคิดมาข้าก็ผิดอยู่ดีที่เกิดมาเป็นลูกของท่านพ่อ”

          สืออันหลงนำทัพปราบกบฏที่เมืองเป่ยจิง เขาพาทหารต่อสู้ฝ่าฟันจนเอาชนะพวกกบฏได้จึงได้ส่งม้าเร็วแจ้งข่าวไปยังเมืองหลวงทูลให้ฮ่องเต้ทรงทราบ

          ขณะที่กำลังตรวจดูความเสียหายและสืบหาผู้รอดชีวิตในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ถูกพวกข้าศึกเผาทำลายเกือบหมด

          “ท่านโหว มีสตรีรอดชีวิตเพียงคนเดียว”

          “พาตัวนางมาที่นี่เร็วเข้า พวกเจ้าไปเรียกท่านหมอมาด้วยเผื่อนางได้รับบาดเจ็บจะได้รักษาทัน”

          “ขอรับ”

          ไม่นานนักทหารคนหนึ่งได้กลับมาพร้อมกับสตรีที่ว่า ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยคราบเขม่าสีดำ แขนของนางอาบไปด้วยเลือดเพราะถูกของบางอย่างทิ่มแทง

          “แม่นาง แขนเจ้าไปโดนอะไรมารึ”

          “ท่านใช่พี่สืออันหลงรึไม่” นางไม่เพียงไม่ตอบคำถาม แต่กลับถามกลับแทน

          “เจ้ารู้จักข้างั้นหรือ” ชายหนุ่มถาม เขาคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยได้ยินเสียงนางที่ใดแต่ก็นึกไม่ออก

          “ข้าเหลียวลี่อิน ท่านจำข้าไม่ได้รึ”

          “เหลียวลี่อิน ลี่อิน! นี่เจ้าเองหรือ เหตุใดเจ้าถึงได้มีสภาพเช่นนี้ได้แล้วท่านอาเล่าทำไมเขาถึงไม่ได้อยู่ที่นี่กับเจ้าด้วย”           สืออันหลงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่านางคือบุตรสาวคนเดียวของใต้เท้าเหลียวสหายร่วมรบของบิดาตัวเอง

          “ท่านพ่อรวมถึงทุกคนในครอบครัวข้าล้วนถูกพวกกบฏสังหารหมดแล้ว” นางร่ำไห้บอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขาที่ได้ยินเช่นนั้นจึงได้สวมกอดนางไว้แนบอกเพื่อปลอบประโลม จนกระทั่งท่านหมอมาถึง

          “ให้ท่านหมอทำแผลก่อนเถิด” เขาว่า พลางคลายอ้อมกอดแล้วถอยห่าง

          “บาดแผลนี้เกิดจากถูกมีดแทง แต่โชคดีที่แผลไม่ลึก” หลังจากทายาและพันแผลเสร็จท่านหมอจึงได้ขอตัว

          “ขอบคุณท่านหมอ”

          “แล้วเจ้าจะทำอย่างไรต่อไป”

          “ข้ายังไม่รู้เลยเจ้าค่ะ จวนที่เคยอยู่ล้วนถูกเผาไปจนหมด ข้าวของเครื่องใช้รวมถึงสมบัติมอดไหม้ไปพร้อมกับกองเพลิงแล้ว”

          “หากเจ้าไม่มีที่ไปกลับไปเมืองหลวงกับข้าดีรึไม่”

          “ท่านจะให้ข้ากลับไปในฐานะอะไรหรือเจ้าคะ”

          “จำเป็นต้องมีฐานะด้วยหรือถึงกลับไปกับข้าได้”

          “ตัวข้าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องฐานะอะไรนั่น เพียงแต่ข้ากลัวว่าท่านจะถูกครหาเอาได้ว่าพาคนแปลกหน้าที่ไหนไม่รู้กลับจวนมาด้วย”

          “เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวล ไม่มีใครกล้าพูดจาเช่นนี้แน่นอน”

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • เมื่อข้าหมดรักสามีไร้ใจ   ตอนจบ

    “ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะกล้าทำเรื่องอำมหิตเช่นนี้ เสียทีที่ข้ารับเจ้าเข้าจวนมา หย่งเจิ้ง ขังนางไว้ที่เรือน” หลังจากได้อยู่ด้วยกันตามลำพังนางได้เข้าไปนั่งใกล้เขา “ดูจากที่ตาของเจ้าบวมเป่งเช่นนี้ คงเอาแต่ร้องไห้ใช่รึไม่” เขาว่าพลางยันตัวขึ้นนั่งแล้วใช้มือลูบหัวนางแผ่วเบา “ข้าคิดว่าท่านจะไม่ฟื้นขึ้นมาเสียแล้ว ท่านหมดสติไปตั้งหลายวัน” “ข้อต้องฟื้นอยู่แล้ว เพราะข้ามีคนสำคัญที่ต้องปกป้อง” “อะ แฮ่ม ท่านโหวจะให้จัดการนักฆ่าที่รอดชีวิตอย่างไรดีขอรับ” “จับเข้าคุกหลวงให้หมด ข้าจะยื่นกีฎาให้ฮ่องเต้เป็นผู้ตัดสิน” “แล้วเรื่องฮูหยินเว่ยที่สมคบคิดกับแม่นางเหลียวล่ะขอรับจะให้จัดการเช่นไร” “ข้าจะเป็นคนจัดการเอง” เว่ยซูเหม่ยมองป้ายหน้าจวนตระกูลเว่ยด้วยความรู้สึกดีใจเสียยิ่งกว่าอะไร ในที่สุดคนชั่วช้าอย่างเหลียงเฟยฮุ่ยถึงคราที่ต้องได้รับกรรมที่นางก่อเสียที “ฮูหยินเว่ย อยู่ที่ใด” “อยู่ข้างในเจ้าค่ะ ฮูหยิน” แม่นมจ้าวออกมาต้อนรับนางด้วยรอยยิ้ม “ที่เรื่องทุกอย่างจบลงเช่นนี้ได้ก็เพราะแม

  • เมื่อข้าหมดรักสามีไร้ใจ   ปกป้องด้วยชีวิต

    สุดท้ายแล้วเว่ยซูเหม่ยก็ไม่ได้ทิ้งรองเท้าคู่นั้น ด้วยเหตุผลที่ว่ารองเท้าของนางเริ่มเก่าแล้ว หากจะทิ้งก็เสียดายจึงได้เก็บกลับมาด้วย “ฮูหยิน ท่านไปให้ช่างทำรองเท้าให้ใหม่ตั้งแต่เมื่อใดกัน ทำไมข้าถึงไม่รู้เรื่องล่ะเจ้าคะ” “ใช่ที่ไหนกัน มีคนนำมาให้ข้าน่ะ” “หรือว่าคนผู้นั้นคือท่านโหว” “เจ้ารู้ได้อย่างไร” “เมื่อไม่กี่วันก่อนบ่าวคนสนิทของท่านโหวมาถามขนาดเท้าของท่านกับข้า จะเป็นผู้ใดได้ล่ะเจ้าคะหากไม่ใช่ท่านโหว” “หวนปี้ เจ้าช่างฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก” “เพราะข้าได้ท่านมานั่นแหละเจ้าค่ะ” “งั้นรึ” สองนายบ่าวหัวเราะขบขัน “ฉีเยว่ เจ้าบอกพ่อบ้านต่งแล้วหรือยังว่าพรุ่งนี้ให้เตรียมรถม้าไว้ให้ข้าด้วย” “บ่าวบอกเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ” “ทำไมเจ้าถึงได้ทำสีหน้าเคร่งเครียดเช่นนี้ มีเรื่องอะไรงั้นหรือ” “บ่าวแค่รู้สึกกังวลนิดหน่อยเจ้าค่ะ” “เจ้าจะกังวลไปไย พรุ่งนี้ข้ากับหวนปี้แค่ไปดูทำเลเปิดร้านใหม่เท่านั้นเอง” “แต่ฮูหยินออกไปโดยไร้คนติดตามนะเจ้าคะ จะไม่ให้เป็นห่วงได้เ

  • เมื่อข้าหมดรักสามีไร้ใจ   ข้าไม่อยากได้รองเท้าอัปลักษณ์คู่นี้

    “วางใจเถิดเจ้าค่ะ แม้คนของข้าจะทำงานพลาดก็ไม่อาจสาวถึงพวกเราได้” “เช่นนั้นข้าจะลองเชื่อใจเจ้าดู” “หมดธุระแล้ว ข้าขอตัวก่อน” “ฮูหยิน ท่านเชื่อใจแม่นางเหลียวจริงหรือ หากแผนที่นางวางไว้ไม่สำเร็จล่ะเจ้าคะ” “แม่นมจ้าว เรื่องนี้ข้าคิดหาทางออกไว้อยู่แล้ว ถ้าแผนของนางล้มเหลวข้าก็แค่ปลิดชีพนางทิ้งเสีย เท่านี้เรื่องทุกอย่างก็ไม่อาจสาวมาถึงข้าได้” “ฮูหยิน ท่านช่างฉลาดนัก” “เจ้าเพิ่งรู้หรือ ฮ่า ๆ ๆ ๆ” นางหัวเราะร่าราวกับเป็นผู้คุมเกม ทั้งที่ตัวเองเป็นแค่หมากตัวหนึ่งเท่านั้น ตั้งแต่เปิดหอเหม่ยปี้มาร้านปักเย็บของเว่ยซูเหม่ยก็ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะลายปักที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ช่วยดึงดูดชนชั้นสูงเข้ามาเป็นลูกค้าได้ไม่ขาดสายจนทำให้นางมีรายได้มากพอที่จะเปิดร้านปักเย็บอีกแห่งแถวชานเมือง “ขออภัยที่ข้ามาช้า” “ไม่เป็นไรเลยเจ้าค่ะ คุณชาย ที่ร้านยุ่งพอดี” “ถึงอย่างไรข้าก็มาสายจนพลาดพาแม่นางไปหาทำเลเปิดร้านอีกแห่ง” “เรื่องเล็กน้อยเท่านี้เอง ไว้โอกาสหน้าค่อยไปก็ได้เจ้าค่ะ” “แล

  • เมื่อข้าหมดรักสามีไร้ใจ   รู้สึกอย่างที่นางรู้สึก

    สืออันหลงยอมปล่อยมือจากชายหนุ่มตรงหน้า หลังข่มอารมณ์โกรธของตัวเองไว้ได้แล้ว “คุณชายหยวน เจ็บตรงไหนหรือไม่” “ข้าไม่เป็นไร” “คุณชาย ท่านกลับไปก่อนเถิด” “แล้วข้าจะมาใหม่ ส่วนภาพวาดฝากแม่นางดูแลด้วยนะขอรับ” “ข้าจะเก็บรักษาอย่างดีเจ้าค่ะ” ได้ยินดังนั้นหยวนชางเจี้ยนจึงกลับไปแต่โดยดี ผิดกับเขาที่มองมาที่นางราวกับโกรธแค้นนางนักหนา “นี่สินะ คือเหตุผลที่เจ้าอยากหย่ากับข้าใจจนจะขาด” เขากัดฟันพูด ยามอยู่ด้วยกันตามลำพังในเรือนของนาง ในหูยังได้ยินน้ำเสียงอ่อนนุ่มเป็นห่วงเป็นใยบุรุษอื่นที่ไม่ใช่เขา “ข้าไม่ยักรู้ว่าท่านโหวผู้สูงส่งอย่างท่านจะรู้จักพาลด้วย ข้าจะบอกท่านให้ว่าเรื่องนี้หาได้เกี่ยวข้องกับคุณชายหยวน” “ไหนเจ้าบอกว่ารักข้า แล้วทำไมเจ้าถึงได้เปลี่ยนใจเร็วเช่นนี้” “ท่านเข้าใจผิดแล้ว ตอนนี้ข้าไม่ได้รู้สึกกับท่านเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว ที่จริงข้าต้องขอบคุณท่านโหวที่ทำให้สตรีโง่งมเช่นข้าตาสว่าง” “อย่าพูดเช่นนี้ให้ข้าได้ยินอีก!” “ทำไมหรือเจ้าคะ ท่านจะสั่งกักขังข้างั้นรึ”

  • เมื่อข้าหมดรักสามีไร้ใจ   เรื่องที่ควรรู้

    หลังจากเว่ยซูเหม่ยหายจากอาการป่วยจึงได้ถามข่าวคราวของฮูหยินเว่ยที่ตนเคยละเลยไปเพราะแต่ก่อนมัวแต่ตกอยู่ในห้วงของความรัก “คนของเราบอกว่าอีกสองวันข้างหน้านางจะกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมเจ้าค่ะ” “ตระกูลเหลียงน่ะหรือ” “เจ้าค่ะ” “เช่นนั้นข้าควรเตรียมของขวัญต้อนรับนางกลับบ้านเสียหน่อย เจ้าว่าดีรึไม่” “ฮูหยิน คิดจะทำอะไรหรือเจ้าคะ” นางกระซิบข้างหูสาวใช้คนสนิท “ฝากเจ้าไปจัดการด้วยก็แล้วกัน จำไว้ว่าอย่าฆ่านางเป็นอันขาด” “ทำไมล่ะเจ้าคะ” “เพราะข้าจะทำให้นางมีชีวิตอยู่ด้วยความทุกข์ทรมานเสียยิ่งกว่าการตายซะอีก พอถึงตอนนั้นข้าจะให้นางเลือกว่าอยากอยู่หรือตายมากกว่ากัน” คล้อยหลังหวนปี้ไปได้ไม่นานเหลียวลี่อินก็โผล่หน้ามาหานางถึงที่เรือน “เจ้าหายป่วยแล้วมิใช่รึ แล้วใดต้องให้ท่านโหวมาหาที่เรือนทุกวันด้วยเล่า” “พูดเรื่องอะไรของเจ้า” “นี่อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่รู้ หึ น่าขันนัก!” “เหลียวลี่อิน เจ้าอยากพูดอะไรก็พูดมาตามตรงเถิด ไม่จำเป็นต้องแกล้งพูดหลบเลี่ยงไปมาเช่นนี้” “

  • เมื่อข้าหมดรักสามีไร้ใจ   อาการป่วย

    “เจ้ารีบไปเรียกท่านหมอมาดูอาการฮูหยินเร็วเข้า! ฮูหยินท่านอย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะเจ้าคะ” ท้ายประโยคหันไปพูดกับเว่ยซูเหม่ยที่นอนตัวสั่นอยู่ทั้งน้ำตา “ข้ามาขอพบท่านโหว” ฉีเยว่เอ่ยบอกสาวใช้ที่เฝ้าอยู่หน้าเรือน “เจ้าคิดว่าท่านโหวเป็นผู้ใด ถึงได้คิดมาขอพบง่าย ๆ เช่นนี้” “ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกท่านโหว ได้โปรดเถิด” “กลับไปเสีย! ตอนนี้ท่านโหวกำลังยุ่งอยู่” เสียงสาวใช้ทั้งสองทะเลาะกันเสียงดังจนได้ยินไปถึงด้านใน ท่านโหวหนุ่มจึงได้ให้หย่งเจิ้งออกมาดู “พวกเจ้าสองคนเอะอะโวยวายอะไรกัน ไม่รู้รึว่าท่านโหวต้องใช้สมาธิ” “ก็นางน่ะสิเจ้าคะ ข้าบอกไปหลายหนแล้วว่าท่านโหวกำลังยุ่ง แต่นางไม่ยอมฟัง” “ข้ามีเรื่องด่วนที่ต้องบอกท่านโหว” “เจ้าคือสาวใช้ของเรือนฮูหยินนี่ มีเรื่องใดเกิดขึ้นงั้นรึ” “คือว่า ตอนนี้ฮูหยินไม่สบายอาการหนักเอาการ จำเป็นต้องเรียกท่านหมอมาดูอาการ แต่นางไม่ยอมให้ข้าเข้าไป” “วางใจเถิด ข้าจะไปบอกท่านโหวให้ประเดี๋ยวนี้” “ว่าอย่างไร ข้างนอกเกิดเรื่องอันใด” “ส

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status