แสงเทียนริบหรี่ ณ ห้องใต้ดินอันมืดมิด หญิงสาวในชุดคลุมสีดำเดินลงบันไดไปชั้นล่างสุดเปิดประตูเข้าไปมีชายผมสีชาไข่มุกตาบอดที่กำลังปรุงยาหม้อใบใหญ่ส่งกลิ่นฉุนอบอวลไปทั่วห้อง
"ท่านเลดี้วันนี้มาเอายาเร็วกว่าปกตินะ เพราะอะไรรึ"
"ช่วงนี้รู้สึกว่าฝ่าบาทจะสนใจนางเซเรน่าเกินไปฉันเลยต้องการยาที่แรงกว่านี้"
"ได้ตามประสงค์"
ชายคนนั้นเสกขวดยาสีแดงขึ้นมาบนมือเป็นขวดเล็กรูปทรงกลมมีลวดลายสีดำและแสงสีดำออกมา
"นี่จะทำให้ฝ่าบาทรักฉันจนโงหัวไม่ขึ้นเลยใช่ไหม?"
ไลล่าถามมือจับขวดดูอย่างบรรจงพิถีพิถันประกายตาบ่งบอกถึงความแน่วแน่
"ใช่แล้วเลดี้ เพียงแค่เจ้าให้ฝ่าบาททานยานี้ ฝ่าบาทจะไม่เหลียวมองผู้หญิงคนใดนอกจากเจ้า ในสายตาของเขาจะมีเพียงเจ้าเท่านั้น"
"ดี! ตำแหน่งนั้นจะต้องเป็นของข้าเพียงผู้เดียว!" เธอแสยะยิ้ม
"แต่ข้าต้องเตือนเจ้าไว้ก่อน ยานี้มีฤทธิ์รุนแรง หากใช้มากเกินไปอาจจะสะท้อนกลับมายังที่เจ้าได้"
"ฉันไม่สน! ฉันต้องการให้ฝ่าบาทรักแค่ฉันก็เพียงพอ" สายตาของเธอมีความประสงค์อย่างแรงกล้า
"เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า"
เขาเดินไปที่หม้อเพื่อค้นยาเธอได้ขวดยามาพร้อมรอยยิ้มแห่งชัยชนะจึงเดินออกจากห้องใต้ดินไป
"คราวนี้ล่ะฉันจะต้องเป็นจักรพรรดินีเคียงข้างฝ่าบาทตลอดไป"
ณ ห้องนอนเซเรน่า
เครื่องนอนบนเตียงเป็นสีน้ำเงินเข้มเข้ากันทั้งชุดเหมือนผืนน้ำของทะเลสาบผนังข้างเตียงแขวนดรีมแคชเชอร์ที่เชื่อว่ามันเป็นตาข่ายดักฝันดีและช่วยไล่ฝันร้ายไปได้ฉันนอนกุมขมับอยู่บนเตียงฝ่าบาททำให้ฉันนอนไม่หลับเพราะคำพูดของเขา
"ฝ่าบาท ต้องการอะไรจากฉันกันน่ะ ถึงได้พูดคำนั้นออกมา"
"แต่งงานงั้นเหรอ? บ้าบอที่สุด!"
จู่ๆ ก็มีเสียงกระพือปีกดังขึ้นฉันลุกขึ้นมองก็เห็นนกพิราบสีขาวเกาะอยู่ขอบหน้าต่างฉันรีบเปิดหน้าต่างออกนกพิราบก็บินเข้ามาเกาะบนมือของฉันมือลูบหัวนกเบาๆ สายตาเหลือบเห็นที่ขาของมันมีกระดาษแผ่นเล็กๆ ผูกอยู่ฉันแกะกระดาษออกแล้วคลี่อ่านข้อความ
"ข้าต้องการพบเจ้า ให้มาที่โบสถ์ตอนนี้" ในจดหมายที่เขียนนั้นหมายถึงฉันที่เขาอยากจะพบ
"ใครส่งมานะ?"
แววตาเต็มไปด้วยความฉงนหัวคิ้วของฉันขมวดขึ้นมาเล็กน้อยข้อความนั้นไม่ได้ระบุชื่อผู้ส่งแต่ให้ไปโบสถ์แห่งเดียวที่นี่แต่ลองไปก็ไม่เสียหายฉันแอบออกจากคฤหาสน์ทางด้านหลังแล้วขี่ม้ามุ่งหน้าไปยังโบสถ์วอนน์เจเนวี ที่กว้างขนาดใหญ่มีต้นไม้เยอะท่าสีเทาเงินหลังคาเป็นสีดำเดินเข้ามาจะเจอรูปปั้นของเทพซุสผู้เป็นราชาของเทพทั้งมวลสายตาก็พบชายคนหนึ่งสวมชุดคลุมสีขาวปกปิดใบหน้าจนมองไม่เห็นแต่ดวงตาสีแดงที่จ้องมองมาทำให้ฉันรู้สึกเกร็งไปหมดฉันเองก็สวมผ้าคลุมหน้าเพื่อปกปิดใบหน้าเช่นกัน
"เจ้าไม่ใช่เซเรน่า ดวงวิญญาณของนางได้ตายไปแล้ว แต่ดวงวิญญาณที่อยู่ตรงหน้าข้าตอนนี้กลับวิเศษยิ่งนัก" ชายลึกลับพูดเสียงแหบพร่าเขาหันมามองใบหน้าของฉัน
ฉันถอยไปเล็กน้อยตกใจชายคนนี้รู้ได้อย่างไร "ท่านเป็นใครกัน?"
เขาถอดผ้าคลุมหน้าออกผมสีสโมกกี้ควอร์ต ดวงตาสีพระจันทร์เลือด มีตราสามเหลี่ยมเหมือนเพชรของจอมเวทสีทองกลางหน้าผาก เขาคือจอมเวท คลีนเดอร่าผู้รู้ทุกสิ่งทุกอย่างและอยู่ข้างเซเรน่าแม้แต่ตอนเซเรน่าจะโดนประหารเขาก็พยายามหาหลักฐานว่าเซเรน่าไม่ได้กระทำเรื่องสั่งคนมาสังหารไลล่า แล้วทำไมเขาถึงนัดเจอในโบสถ์แต่ต้องเป็นที่ทะเลสาบสิ เนื้อเรื่องเปลี่ยนอีกแล้วเหรอ
"ข้าสัมผัสได้ ว่าเจ้าไม่ใช่คนของโลกใบนี้ ใช่ไหม"
อีกด้านในขณะหนึ่ง...
ภายในห้องทำงานอันเงียบสงบฝ่าบาทที่นั่งอยู่ท่ามกลางกองเอกสารมากมายเขาที่ทำงานอย่างขะมักเขม้นเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ของบ้านเมืองขณะที่ดวงตากำลังไล่อ่านรายงานต้นฉบับนั้นอยู่แล้วไลล่าก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถาดน้ำชาและขนมหวาน
"ฝ่าบาทเพคะน้ำชาและขนมเพคะ ทำไมฝ่าบาททำงานคนเดียวเลขาวินเทอร์ไปไหนแล้วเพคะ" ไลล่าพูดน้ำเสียงอ่อนหวาน พลางวางถาดลงบนโต๊ะ
ฝ่าบาทเงยหน้าขึ้นมองไลล่าแวบหนึ่ง "ภรรยาวินเทอร์กำลังจะคลอดข้าเลยให้เขารีบกลับไปหาเมีย เจ้าวางไว้เถอะแล้วเจ้าก็ไปพักผ่อนเสียนี่ก็ดึกมากแล้ว"
"ก็ได้เพคะฝ่าบาทต้องรีบกินน้ำชาที่ยังร้อนๆ อยู่นะเพคะถึงจะอร่อยและฝ่าบาทก็รีบเข้านอน หม่อมฉันเป็นห่วงฝ่าบาทมากน่ะเพคะ"
ไลล่าย่อกายก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทางเรียบร้อยอ่อนโยน
เมื่อไลล่าออกไปแล้วเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปยังโต๊ะสายตามองขนมที่วางไว้ฝ่าบาทยกขึ้นมาดมก็พบว่ามีกลิ่นดอกไม้ชนิดหนึ่งปกติไลล่าจะใช้ชาอีกกลิ่นเป็นชาลิลลี่โดยเฉพาะเขาเลยเดินไปที่หน้าต่างเทลงไปที่ดอกไม้มันเปลี่ยนเป็นสีดำเลยทำให้รู้ว่านี่เป็นดอกคะนึงรักที่ทำให้ผู้ชายหลงใหลจนไม่สามารถถอนตัวออกจากเธอได้
"ผ่านมาตั้งหลายปียังไม่ฉลาดขึ้นเลยนะ ไลล่า"
"ดัฟฟ์ ออกมาหาข้า" เขาถือลูกแก้วสีเงินไว้ในมือ
จากนั้นดัฟฟ์ก็มาปรากฏตัวต่อหน้าเขาพร้อมทำท่าโค้งคำนับผมสีคลาวด์เบอร์รี่ดวงตาสีพีช ใส่ชุดนักเวทเขาคืออันดับสองแห่งหอคอยเวทนิวกัวซีเป็นคนที่ช่วยเหลือฝ่าบาทอย่างเงียบๆ เป็นเงาของจักรวรรดิ
"ถวายบังคมแด่ฝ่าบาทแสงจันทร์พ่ะย่ะค่ะ"
"ดัฟฟ์เจ้ามาลองดมชาหน่อยสิว่าใน ชามันมีดอกคะนึงหรือเปล่า"
เขายกชาขึ้นมาดมโดยใช้มือปัดกลิ่นให้เข้าไปในจมูก
"มีดอกสองชนิดพ่ะย่ะค่ะ ดอกคะนึงและดอกเสน่ห์ ทั้งสองเอามารวมกันจะทำให้ฤทธิ์ของยาเพิ่มพูนมากขึ้นและทำให้ใจร้อนรุมอีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ"
"พอจะรู้ไหมว่าดอกไม้พวกนี้หายากหรือเปล่า"
"แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ ดอกสองชนิดนี่เป็นราคาที่แพงหาพบยากที่จะเจอในประเทศของเรานอกจากมีคนนำเข้ามา ฝ่าบาทไปได้ชานี่มาจากไหนพ่ะย่ะค่ะ เกิดฝ่าบาทกินเข้าไปอันตรายแก่ชีวิตของฝ่าบาทได้เลยพ่ะย่ะค่ะ"
"ไลล่าเป็นคนเอามาให้ข้าดื่ม"
"เลดี้ไลล่าตั้งใจจะวางยาเสน่ห์ใส่ฝ่าบาทอีกแล้วเหรอพ่ะย่ะค่ะ"
"อืมมมมม คราวนี้เล่นแรงเชียวแหละ คงอยากจะให้ข้าตั้งใจยกตำแหน่งจักรพรรดินีให้"
"เลดี้ไลล่าทรงร้ายกาจยิ่งกว่าเลดี้เซเรน่าอีก ฝ่าบาทจะให้ตัวอันตรายมาอยู่ข้างกายแบบนี้ไปตลอดไม่ได้น่ะพ่ะย่ะค่ะ"
"ไม่ต้องห่วงอีกไม่นานหรอก ดัฟฟ์ ไปสืบหาตัวคนที่เอายาพวกนี้ให้ไลล่าแล้วจับมาให้ข้า"
"พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท"
เขาหันไปมองท้องฟ้าแล้วดัฟฟ์ ก็หายตัวไปตามคำสั่งของฝ่าบาท
"เซเรน่า เจ้าตั้งใจจะทำอะไรหรือต้องการให้ข้ารู้ว่าไลล่าวางยาข้างั้นเหรอ ทั้งที่ข้ารู้มาตลอดแต่เจ้าก็ยังทำเรื่องไร้สาระอยู่อีกนะเซเรน่า"
ในเวลาเดียวกันนั้น...
ฉันนั่งบนพื้นด้วยการนั่งขัดสมาธิกับจอมเวทคลีนเดอร่า ผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดในดินแดนนี้ดวงตาพระจันทร์เลือดก่ำของเขาจ้องมองมาราวกับจะมองทะลุผ่านร่างกายมายังจิตใจอันบริสุทธิ์ผุดผ่องนี่ ฉันที่รู้ว่าไม่สามารถโกหกเขาได้เลยใช้มือกวักเรียกเขาที่ยืนพิงกำแพงอยู่
กวัก ! กวัก !
"มานั่งสิ ถ้านายอยากจะรู้เรื่องราวของฉัน จะยื่นคลำหัวผู้ใหญ่ไม่ดีนะ"
"ข้าอายุมากกว่าเจ้าตั้ง ห้าร้อยปี ไยเจ้าพูดเป็นกันเองขนาดนี้"
แต่เขาก็มานั่งพื้นหลังตรงท่าที่ดูดีมือวางบนตัก เล่นเอาฉันแถมกลั้นขำไม่อยู่
"ฮ่าๆๆๆ ท่านั่งของท่านจอมเวทดูดีเชียว"
"ก็ข้าไม่เคยนั่งบนพื้นมาก่อนน่ะ เล่ามาสิ " คลีนเดอร่า พูดเสียงเร่งรีบแต่สีหน้าคืออยากรู้อยากเห็น
"ใช่ฉันไม่ใช่เซเรน่า ฉันคือนิโคลมาอยู่ร่างของเซเรน่า"
หนึ่งเดือนผ่านไป...ห้างบีบุ๊ค จำกัด...หลังจากที่ฉันกลับมาจากในนิยายทุกอย่างจบแฮปปี้ฝ่าบาทก็ขึ้นครองบัลลังก์อย่างที่เขาต้องการและมีการทำพิธีศพให้กับเซเรน่าหนึ่งร้อยวันเนื่องจากในนิยายเขียนว่าเธอป่วยและตายไป แต่ทุกคนในเมืองต่างมีความสุขอย่างที่ฉันหวังแทบวันนี้มีงานหนังสือของผู้เขียนนิยายเรื่องนี้ฉันที่เป็นแฟนคลับเลยอยากจะได้ลายเซ็นสักหน่อยจึงนั่งรถมางานพอก้าวเดินเข้ามามองไปรอบๆ คนเยอะมากไม่คิดว่าจะมีคนอ่านเยอะเหมือนกันจู่ๆ ก็มีมือมาแตะไหล่ของฉันทำให้สะดุ้งเล็กน้อยกลายเป็นซันเพื่อนของฉันเอง"ไม่รอกันเลยนะเดินมาอย่างกับ มาคนเดียว" เธอทำหน้าบูดบึ้งแล้วกอดอกทำแบะปากอีกด้วยฉันเอามือไปเกาะแขนแล้วเอาหัวซบไหล่เธอ "ขอโทษกลัวจะไม่มีที่ให้ยื่นนะสิดูนั้น...""ก็จริงคนเยอะมาก อย่างกับดูดาราแน่ะ""เหมือนดาราจริงๆ แหละ"ซันเขย่งเท้ามองเข้าไปในงานเธอเข้ามาจับมือพาเดินแทรกมายื่นอยู่ตรงข้างหน้าซันกลายเป็นชอบการอ่านนิยายไปแล้วเมื่อก่อนยังบ่นฉันอยู่เลยตอนนี้กับติดเกือบทุกเรื่อง"ซันไหนติดนิยายมากกว่าฉันได้ละเนี่ย บอกว่าไม่ดีไม่ใช่เหรอ""ใครบอกฉันชอบนิยายที่สุดเลยแหละ""จ๋าๆ แม่คุณ"เมื่อได้เวลาที่จะเริ
เสียงพูดของไลล่านั้นทำให้ฉันแทบหยุดลมหายใจจ้องมองด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อไม่คิดว่าไลล่าจะรู้เรื่องนี้เพราะอย่างนี้เธอถึงได้ทำให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง"ถึงเธอจะรู้แล้วยังไงล่ะ แค่จัดการเธอได้ทุกอย่างก็จบแล้ว""ใครบอกกันเธอต่างหากที่จะหายไปในโลกใบนี้เมื่อฉันตายเธอก็จะกลับสู่โลกของเธอ"ผ้าที่มัด ตาเธอไว้หลุดทำให้เห็นดวงตาสีแดงก่ำในตาของเธอเป็นรูปสัญลักษณ์ดวงดาวท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มฉันเงยขึ้นทุกอย่างเป็นสีแดงพระจันทร์ก็ยังเป็นสีแดงเช่นกันทุกคนรอบข้างตื่นตระหนกวิ่งกันให้วุ่น"เธอคือคนที่สร้างเรื่องนี้สินะใช่ไหมคุณนักเขียนฉันอ่านไดอารีของเธอหมดแล้ว"ไลล่ายิ้มให้กับฉัน "ใช่ฉันได้เข้ามาอยู่ในร่างไลล่า คิดว่าการเป็นนางเอกนั้นมันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ฉันพยายามทำทุกวิถีทางจะครองหัวใจฝ่าบาทแต่มันทำไม่ได้เหมือนอะไรมาขีดเส้นทางไว้พอเซเรน่าตาย มันกลายเป็นวนเวียนอยู่อย่างนี้นับครั้งไม่ถ้วนจนเธอมาสวมร่างเซเรน่าทำให้ทุกอย่างมันจบแบบที่ฉันต้องการแล้วล่ะ""แบบที่เธอต้องการคือความตายของตัวเองเหรอ แล้วทุกคนที่นี่จะเป็นยังไงถ้าฉันหายไป""ฉันตอบไม่ได้รู้แค่ว่าเธอไม่มีทางอยู่ในนิยาย
พอพิธีการแต่งงานจบพิธีถัดไปคือการเฉลิมฉลองให้แก่เจ้าบ่าวเจ้าสาวมีราชาและราชินีนั่งอยู่บนบัลลังก์เหล่าขุนนางต่างก็ยิ้มหน้าบาน"อิจฉาเลดี้เซเรน่าได้ครอบครองฝ่าบาทมอร์ฟราน""จริง สมกับเป็นฝ่าบาทงานอลังการเหมาะสมที่สุดเลยทั้งหล่อทั้งเท่ทั้งรวย""นั้นสิ แถมฝ่าบาทกับเลดี้เซเรน่าสง่างามมากด้วย""แต่อย่างน้อยยังเหลือท่านดยุกของพวกเรานะคะ เลดี้ทั้งหลาย"ทุกคนหัวเราะพูดคุยฉันหันไปหาพี่ซีซาร์นั่งร้องไห้อยู่กับสาวๆ ของเขา"น้องสาวของข้า ออกเรือนแล้ว เหลือแต่ข้า"ถึงอย่างนั้นทุกอย่างก็ราบรื่นไปด้วยดีไม่มีอะไรมาขัดขวางสุดท้ายฉันก็ยังนึกถึงคำพูดขอไลล่าไม่เลิกอีกไม่กี่วันก็ใกล้วันประหารของเธอแล้วขณะนั้นฝ่าบาทก็เดินเข้ามาหาฉันเขากอดจากด้านหลังแผ่นอกแนบชิดแผ่นหลังฉัน"ทำไมมาอยู่ตรงระเบียงล่ะที่รัก เบื่องานเลี้ยงแล้วเหรอ""ไม่ได้เบื่อเพคะ หม่อมฉันแค่อยากสูดอากาศหน่อย ข้างในคนเยอะเกินไปเพคะ"เขาอุ้มฉันขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนของเขาทำให้ฉันตกใจเล็กน้อย"งั้นกลับกันเลยดีกว่า""ถ้ากลับราชาและราชินีกับเหล่าขุนนางจะไม่ว่าอะไรเหรอเพคะที่พวกเราทิ้งงานไว้""ไม่เป็นไรหรอกปล่อยให้เป็นหน้าที่เลขาวินเทอร์นั่นแหละ มีสิ่งส
ฉันสังเกตไลล่าปฏิกิริยาเฉยชาแบบที่ไม่ควรเป็นมาก่อน นัยน์ตานั้นไม่สั่นคลอนแม้แต่เศษเสี้ยวเดียวไลล่าหันหลังให้กับฉันก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น"กลับไปซะเถอะ คำถามของเลดี้ฉันจะตอบก็ต่อเมื่อใกล้ถึงวันประหาร""เพราะอะไรเลดี้ถึงตอบมาในตอนนี้ไม่ได้ล่ะ""ตอนนี้เลดี้กำลังมีความสุขไม่ใช่หรือไง! ฉันตั้งใจให้เลดี้กอบโกยความสุขให้เต็มที่ก่อนจะได้ไม่เสียใจที่หลัง""หมายความว่าไงกันแน่!"ผู้คุ้มก็เดินเข้ามาบอกว่าหมดเวลาในการเยี่ยมทำให้ฉันตะโกนเรียกแต่ชื่อไลล่า เธอกลับไม่หันมามองฉันเลยผู้คุ้มปิดประตูใส่หน้าฉันเอาสะดุ้งเล็กน้อย"ยังไงฉันก็มั่นใจแล้วว่าเธอไม่ใช่คนที่นี่ โอ๊ยยย หัวจะปวดเซนส์มันบอกว่าลางไม่ดีแน่ๆ"ฉันที่กลับมาคฤหาสน์ทุกคนต่างวิ่งวุ่นเพื่อเตรียมตัวให้ทันกำหนดคือวันแต่งงานที่แสนกระชั้นชิดและท่านพ่อท่านแม่ที่ไปช่วยงานพระราชวังเตรียมของต่างๆ มีแค่ฉันคนเดียวไม่ได้ทำอะไรเดินเอ้อระเหยเป็นอากาศ"เลดี้เซเรน่า..."เสียงของดยุกเรียกฉันจากด้านหลังเลยหันหน้าไปหาดยุกเขาถือหนังสือเล่มหนึ่งมาแล้วยื่นมาให้ฉัน"หนังสือเล่มนี้เป็นของไลล่า พอดีข้าคิดว่าไม่มีอะไรเลยเอามาให้น่ะ""ทำไมถึงให้ฉันล่ะ ดยุกไม่เก็บไว้เหรอ""
พี่ซีซาร์เดินเข้ามาดึงแขนของฉันให้ตัวไปอยู่ด้านหลังของท่านพี่"ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ อย่ามาลวนลามน้องสาวกระหม่อมได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ ไม่ก็แต่งงานให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ทำแบบนี้น้องสาวกระหม่อมเสียหายนะพ่ะย่ะค่ะ"ฉันที่ได้ยินแบบนั้นถึงกับชะงักหันไปหาท่านพ่อท่านแม่กลับยกนิ้วโป้งขึ้นเหมือนจะเห็นดีเห็นงามกับคำพูดของท่านพี่แล้วฝ่าบาทก็มาดึงแขนขวาส่วนท่านพี่ก็มาดึงแขนซ้ายฉัน"เซเรน่า เป็นภรรยาข้าไม่ต้องห่วงข้าจะจัดงานแต่งงานให้ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว""แล้วจะจัดเมื่อไหร่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ยอมให้น้องสาวถูกฝ่าบาทมากอดมาหอมเด็ดขาด! น้องสาวกระหม่อมมีพ่อมีแม่น่ะพ่ะย่ะค่ะ"แต่แล้วฝ่าบาทก็เข้ามาอุ้มฉันด้วยแขนข้างเดียวทำให้พี่ซีซาร์ตกใจปล่อยมือแล้วฝ่าบาทก็อุ้มฉันเดินไปก่อนจะเอ่ยขึ้น"ไม่ต้องห่วงข้าจะทำตามประเพณีแน่ แต่ตอนนี้ข้าอยากจะอยู่กับคนรักของข้าเท่านั้นเอง"ทั้งท่านพ่อท่านแม่และท่านพี่ยื่นยิ้มแล้วตบมือให้สายตามองใบหน้าท่านพี่เขายิ้มอย่างมีความสุขแล้วปากเขาขยับพูดว่า มีความสุขมากๆ นะน้องพี่ ฉันยิ้มอย่างดีอกดีใจเอาใบหน้าซุกไหล่ของฝ่าบาทเมื่อเห็นครอบครัวเซเรน่านั้นยิ้มได้แถมทุกคนก็ดีมากจนคิดว่าได้กลายเป็นน้องสาวแ
ใกล้จะเย็นแล้วขืนอยู่แบบนี้ต่อ มีหวังได้โดนฆ่าตายก่อนแน่ ตอนนี้ฝ่าบาทกับดยุกไปรวบรวมหลักฐานถึงไหนทำไมถึงได้ช้าขนาดนี้ชายสองคนเข้ามาจับตัวฉันไปมัดกับต้นไม้โดยมีพวกเอิร์ลเดินกันผลักเฝ้ายาม จู่ๆ ก็มีหินโยนมาโดนตัวสายตามองไปเจอออโรล่าทำมือรูปสี่เหลี่ยมคือฝ่าบาทได้ล้อมไว้หมดแล้ว"เหม่ออยู่ได้มีอะไรสั่งเสียก่อนตายไหมเลดี้เซเรน่า""คงจะไม่มี เพราะจะไม่มีใครรู้ว่าเลดี้เซเรน่าตายที่แห่งนี้ พื้นตรงนี้จะเป็นหลุมศพของเลดี้!"ไลล่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันในมือถือดาบมาจี้คอของฉัน เธอตรึงสายตาเย็นชาไว้ที่ฉันรังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากร่าง"อุ้ยตาย อดทนไม่ไหว อยากจะฆ่าฉันให้จบๆ แล้วใช่ไหม แต่ฉันจะไม่ตายคนที่จะตายคือเลดี้ต่างหาก!""เมื่อกี้นี้...เลดี้พูดว่าไงน่ะ? " ดวงตามืดครึ้มและเคลือบแฝงความโหดเหี้ยม"ฉันบอกว่าฉันจะไม่ตายคนที่จะตายคือเลดี้ไง ฝ่าบาทจะมาเอาชีวิตของเลดี้" (ดูยัยนี่สิ?! ฉันแค่ไว้ชีวิตนิดหน่อยทำมาเหิมเกริมมันทำตัวเหมือนกับกำลังมองเหยื่ออยู่ไม่มีผิด ฉันเป็นถึงเลดี้ไลล่าที่ทุกคนรักและแห่ชมเลยนะ!) "อย่ามาพูดหมาๆ ต่อหน้าฉัน! จับนางให้แน่น"เหล่าลูกน้องสองคนเข้ามาจับแขนทั้งสองข้างอย่างแรง"วันนี้แห