ตลาดมืดหนานเหอ :
กลางดึกสงัดความมืดมิดแผ่ปกคลุมทั่วท้องฟ้า มีเพียงแสงจันทร์เลือนรางทอประกาย สายลมเย็นเยียบดุจหยาดน้ำแข็งกระทบร่างกายของหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีที่กำลังควบอาชาเร็วย่ำผ่านเส้นทางขรุขระนอกเมือง มุ่งสู่เขตเมืองเบื้องหน้าให้ทันยามรุ่งสาง
ผ้าคลุมหน้าสีขาวปลิวสะบัดตามแรงลม โอบคลุมสองร่างบนหลังอาชาพันธุ์ดี
“หยุด!”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมดึงบังเหียนเพื่อให้อาชาแสนองอาจหยุดอยู่กับที่
“คุณหนูขอรับ เลยป่านี้ไปก็จะถึงโรงพักม้าจุดสุดท้ายแล้ว เราต้องไปเปลี่ยนม้าที่นั่นขอรับ”
เหยียนตู้รายงานรั่วอิงเหยาที่นั่งซ้อนท้ายบนม้าตัวเดียวกัน
“ได้” รั่วอิงเหยาตอบสั้น ๆ
จากนั้นเสียงกีบม้ากระทบกับพื้นดินเพื่อทยานสู่โรงพักม้าเบื้องหน้าอีกครั้ง
โรงพักม้าจิ้นเหอ
ทั้งสองควบม้าไม่ถึงก้านธูปก็ถึงโรงพักม้าจิ้นเหอที่อยู่สุดเขตแดนของแคว้นฉีหลัว
“องครักษ์เหยียน แห่งจวนราชครู”
ทันทีที่มาถึงโรงพักม้าของทางการ เหยียนตู้ก็ส่งป้ายประจำตัวให้ทหารที่เฝ้าอยู่ดูพร้อมจดหมายผ่านทางขององค์ชายใหญ่
“ท่านทั้งสองจะพักค้างคืนก่อนหรือเปลี่ยนม้าขอรับ”
ทันทีที่เห็นจดหมายขององค์ชายใหญ่ นายทหารชั้นผู้น้อยก็รีบค้อมเคารพพร้อมถามไถ่เหยียนตู้พลางเหลือบมองไปยังสตรีที่สวมหมวกคลุมหน้ายืนอยู่ด้านหลังเขา
“พวกเราจะพักจิบชาสักหน่อย ช่วยเตรียมม้าเร็วที่แข็งแรงที่สุดให้ด้วย”
“ขอรับ”
เหยียนตู้เดินนำรั่วอิงเหยาเข้ามาในเรือนของโรงพักม้า หาห้องว่างให้นายเขานั่งพักผ่อนสักครู่เพื่อเตรียมเดินทางต่อ
“อากาศที่นี่ดีจัง”
รั่วอิงเหยาถอดหมวกคุมศีรษะออกพลางเดินไปแง้มหน้าต่างมองเขาเขียวขจีที่อยู่ไม่ไกล พลางสูดกลิ่นอายธรรมชาติที่โลกเก่าของนางหาได้เพียงจากแหล่งท่องเที่ยว
“คุณหนูขอรับ ข้านำอาหารมาให้”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นไม่กี่ที เหยียนตู้ก็ผลักประตูเข้ามาพร้อมอาหารไม่กี่อย่าง
“ทานด้วยกันสิ”
เห็นองครักษ์เหยียนวางอาหารเสร็จหันหลังจะเดินออกไปจึงรั้งไว้
“ข้าน้อยจะออกไปกินที่ครัวด้านหลัง”
“ไม่ต้องเกรงใจ มานั่งนี่”
“แต่ว่า…”
“ไม่ต้องแต่อะไรทั้งนั้น นี่คือคำสั่ง!”
เห็นรั่วอิงเหยาเสียงแข็งสั่งมีหรือเหยียนตู้จะกล้าขัดนาง รีบนั่งลงเก้าอี้ตรงข้ามรั่วอิงเหยาทันที
“ข้ากินหมั่นโถกับนี่… ส่วนที่เหลือให้เจ้า”
มือแน่งน้อยหยิบหมั่นโถกับผลไม้ไปหนึ่งลูก พร้อมกับเลื่อนจานอาหารอีกสองอย่างที่เหยียนตู้นำมาไปให้เขา
“คุณหนูทานแค่นั้นจะอิ่มหรือขอรับ”
“ไม่ต้องเกรงใจ รีบกินรีบเดินทางต่อเถอะ”
พวกนางเดินทางมาสามชั่วยามแล้ว แสงสว่างรำไรจากขอบฟ้าของพระอาทิตย์เริ่มส่องให้เห็นบ่งบอกเวลาเช้าตรู่ ถ้าขืนยังนั่งเอ้อระเหยลอยชายพักตามสบายมีหวังถึงที่หมายพลบค่ำเป็นแน่
“ขอรับ”
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เหยียนตู้รับคำสั่ง รีบกินอาหารตรงหน้า ส่วนรั่วอิงเหยาก็ได้แต่แอบมองตัวละครที่นางสร้างขึ้นมีชีวิตจริง ๆ เหมือนฝันอยู่
ฝันหรือ…
ถ้าเป็นแค่ฝันก็คงดี นางจะได้กลับไปนั่งจิบกาแฟ เล่นเกมระบายสี พูดคุยเถียงเล่นกับเพื่อนรักอย่างฉิงฉิง
ตลาดมืดหนานเหอ
ในที่สุดการดินทางเป็นเวลาเกือบหนึ่งวันก็สิ้นสุดลงเมื่อช่องแคบด้านหน้าพวกเขาคือทางเข้าตลาดมืดเขตแดนระหว่างเหมืองหนานโจวและเหอโจว
“เจ้ารู้วิธีเปิดประตูตลาดมืดหรือไม่”
รั่วอิงเหยาถามขึ้นเพื่อทดสอบดูว่านิยายของนางเนื้อเรื่องเปลี่ยนไปหรือไม่
“รู้ขอรับ”
รั่วอิงเหยาพยักหน้าขึ้นลงเบา ๆ ภายใต้หมวกคลุมศีรษะสีขาวสะอาด
โชคดีที่เนื้อเรื่องในนิยายนางไม่เปลี่ยนไป เหยียนตู้รู้วิธีเข้าไปในตลาดมืดเพราะเดิมทีหลังจากรั่วอิงเหยาในนิยายถูกลอบสังหาร องครักษ์เหยียนเป็นคนอาสามานำยาชุบชีวิตที่ตลาดมืดเพื่อไถ่โทษให้คุณหนูของเขาที่ตายไปแล้วเพื่อให้มีชื่อสลักในสานบรรพชน
เหยียนตู้หยิบเอาปี่เล็กที่เหน็บอยู่เอวออกมาพร้อมกับเป่าส่งสัญญาณ ไม่นานช่องแคบของสองเขตแดนก็มีกลุ่มควันหมอกลอยออกมาคลุมบริเวณพื้นที่ที่พวกเขายืนอยู่ จากนั้นตรงน้าจึงปรากฎเป็นประตูทางเข้าสู่ตลาดมืดหนานเหอ
ที่ที่มีทั้งคนดีคนเลวอยู่ปะปนโดบที่กฎหมายบ้านเมืองเข้าไม่ถึง
“หยุดนะ เจ้าสี่ขา!”เสียงใสเอ่ยตะโกนไล่ตามสุนัขขนปุกปุยที่วิ่งล่อให้วิ่งตามไม่หยุด แต่ดูเหมือนคำสั่งนั้นจะไร้ผล เจ้าสี่ขากลับเร่งฝีเท้าเห่าใส่ คล้ายจะเรียกร้องให้นางไล่ตามมันไป“พี่หญิง ระวังหน่อยเจ้าค่ะ!”เชียนชิงที่นั่งอยู่บนม้านั่งใต้ต้นเหมยเอ่ยเตือนด้วยความห่วงใยภายในจวนซื่อจื่อแห่งหนานโจวเมื่อไม่กี้วันมานี้เต็มไปด้วยความครึกครื้น เนื่องด้วยเหล่าญาติจากฉีโจวเดินทางมาเยี่ยมเยือน“พระชายา เสวยโอสถบำรุงครรภ์ก่อนเพคะ”สาวใช้นาม ฮุ้ยซู ยกถ้วยโอสถวางลงบนโต๊ะหินอ่อนอย่างนอบน้อมกาลเวลาล่วงเลยไปหนึ่งปีนับจากเทศกาลโคมลอยในปีนั้น รั่วเชียนชิงอภิเษกสมรสกับหลัวอี้เฟิง และบัดนี้ตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว วันนี้ทั้งสองตัดสินใจเดินทางมายังหนานโจวด้วยความคิดถึงญาติผู้พี่ที่อยู่ห่างไกล“ชิงเอ๋อร์ ระวังร้อนหน่อย”รั่วอิงเหยาหัวเราะเบา ๆ หลังจากวิ่งเล่นกับเจ้าสี่ขาจนเหนื่อยจึงกลับมานั่งพักพลางจิบชาคลายร้อน“สองคนนั้นหายไปไหนเสียแล้ว เจ้าเห็นหรือไม่” นางเอ่ยถามน้องสาวด้วยความสงสัยนับจากที่สองพี่น้องสกุลหลัวออกไป ก็หายไปครึ่งชั่วยามแล้ว แต่ป่านนี้ยังไร้วี่แววว่าจะกลับมา“คงไปแข่งขี่ม้า ล่าสัตว์อีกกระ
ฟิ้ว~ลมเย็นพัดมาได้เวลารั่วอิงเหยาคิดสิ่งหนึ่งออกพอดีจึงเอ่ย"หม่อมฉันยังทำคำสัญญาที่ให้ซื่อจื่อไม่แล้วเสร็จเพคะ""เจ้าหมายถึงเรื่องนั้น""เพคะ"พอเปลี่ยนเรื่องคุยแล้วค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อยนึง"วันนี้เป็นโอกาสดีที่จะทำเรื่องนั้นให้สำเร็จ""เจ้ามีแผนการอะไรอีก"รั่วอิงเหยายิ้มแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง ทำเอาคนอยากรู้อยากรู้ใจจะขาด"พาหม่อมฉันกลับไปหาชิงเอ๋อร์แล้วจะบอกเพคะ"น้ำเสียงเจ้าเล่ห์เอ่ยขึ้นหลัวฉางเฟิงชอบเวลาที่รั่วอิงเหยามีแผนการในหัว มันทำให้นางเป็นคนน่าค้นหา"ได้ ข้าจะพาเจ้ากลับไป แต่หลังจบเรื่องนั้นแล้ว เจ้าต้องตอบคำถามนั้น"รั่วอิงเหยาไม่ตอบ นางทำเพียงพยักหน้าเป็นการตกลงศาลาเจาอวี่กว่าจะหากลุ่มรั่วเชียนชิงเจอใช้เวลาไปหนึ่งเค่อ สุดท้ายก็พบกันที่ศาลาเจาอวี่ที่ตั้งอยู่นอกงานทว่าทิวทัศน์ริมแม่น้ำงดงามกว่าในงานมาก"พี่หญิงคิดจะทำอะไรเจ้าคะ"เชียนชิงถามพี่สาว เมื่อเห็นบุรุษสองคนที่ใครต่างก็รู้ว่าไม่เป็นมิตรกันยืนอยู่ในศาลาเจาอวี่"พวกเจ้ารออยู่ที่นี่แหละ"รั่วอิงเหยากำชับทั้งสามคนที่มีฉินเส้ามาร่วมวงด้วยเสร็จก็เดินเข้าไปหาสองบุรุษในศาลาทันที"อะแฮ่ม"เดินเข้ามาธรรมดาโลกไม่จำกระมั
"ท่านพาข้ามาที่นี่ด้วยเหตุใด รู้หรือไม่ข้ากำลังสนุกกับร้านค้าในงานนั้น สนุกกับสีสันที่ไม่เคยเห็น สนุกกับการวิ่งไปร้านนั้น เข้าร้านนี้ราวกับกลับเป็นเด็กอีกครั้ง สนุกกับ..."เสียงหวานร่ายยาวจนไม่มีโอกาสให้อีกคนตอบ จึงก้มลงไปฉกชิมริมฝีปากนั้นเพื่อหยุดนางเอาไว้รั่วอิงเหยาตัวเกร็งเมื่อถูกจู่โจม ใบหน้างามร้อนผ่าวเมื่อถูกอีกคนจุมพิตราวหิวกระหาย"อื้อ"นางพยายามขัดขืนแต่อีกคนกลับบดเบียดริมฝีปากนุ่มนั้นไม่ปล่อยผลัก!สุดท้ายจึงรวบรวมแรงทั้งหมดผลักอีกคนออกไป"ท่าน...!"มีคำด่าทอมากมายในหัว ฝ่ามือน้อยยกขึ้นหมายตะบันหน้าสักหน ทว่าครั้นเห็นรอยยิ้มบนใบหน้ารูปงามที่ส่งมาแล้วกลับลงโทษเขาไม่ลง"เจ้าทำให้ข้าเป็นเช่นนี้""หม่อมฉัน?" นิ้วเรียวชี้เข้าหาตัวเอง"ข้าอุตส่าห์รีบกลับมาจากภารกิจ แต่กลับพบเจ้าอยู่ที่ตำหนักชมจันทร์กับอี้เฟิงสองต่อสอง ซ้ำร้ายวันนี้หนีเที่ยวยังไม่ชวนข้าสักคำ พอพบหน้ากันกลับเอาแต่จ้องหน้าญาติผู้พี่ข้า จะไม่ให้น้อยใจได้อย่างไร"คนที่พูดน้อยกลับระบายความในใจออกมาจนหมดเปลือกมุมปากบางคลี่ยิ้มออกมาก่อนเอ่ย"ซื่อจื่อหึงหม่อมฉันหรือเพคะ"คนถูกจับได้เอียงหน้าหลบ แต่บนแก้มนั้นกลับเปลี่ยนสี
"นี่ ๆ เรามาสวมหน้ากากไม่ให้ใครจำได้ดีหรือไม่"รั่วอิงเหยาวิ่งไปยังแผงขายหน้ากากริมทาง สายตาระริกระรี้มองหน้ากากไม้นั้นที อันนี้ที อย่างตื่นเต้น"อันนี้เหมาะกับชิงเอ๋อร์ของพี่"หน้ากากเทพธิดาสีขาวบริสุทธิ์ถูกหยิบมาทำท่าสวมบนใบหน้าให้น้องสาว"คุณหนูรองจิตใจดีมีเมตตา เหมาะกับหน้ากากเทพธิดาเจ้าค่ะ" ถิงอูยกย่องอีกเสียง"ชิงเอ๋อร์อ่อนโยนมีเมตตาเหมาะกับหน้ากากเทพธิดา แล้วข้าเล่า คงไม่ได้เหมาะกับ..."รั่วอิงเหยาเหลือบหางตามองหน้ากากที่หน้าเกลียดหน้ากลัว จมูกแหลมคม มีเขี้ยวสองข้างพรึ่บ!ยังไม่ทันมีใครได้ตอบคำถามนั้น ร่างเล็กก็ถูกรวบหมุนรอบหนึ่งก่อนจะมีอะไรเย็น ๆ สวมปิดครึ่งหน้า"เจ้าเหมาะกับหงส์เพลิง"หน้ากากครึ่งหน้าลวดลายหงส์เพลิง มีขนนุ่ม ๆ ประดับตกแต่งราวปีกนกถูกสวมลงบนใบหน้างดงามของรั่วอิงเหยาส่วนอีกคนที่เอาแต่ยัดเยียดสวมหน้ากากให้นางกลับมีหน้ากากครึ่งหน้าลายพยัคฆ์ขาวปกปิดอยู่"คารวะซื่อจื่อ"เชียนชิงกับถิงอูเห็นแล้วว่าเป็นผู้ใดกล้าแตะเนื้อต้องตัวกับรั่วอิงเหยาจึงรีบทำความเคารพ"ท...ท่านมาได้อย่างไร"รีบถอยห่างออกไปสองก้าวเมื่อรู้สึกว่ามีสายตามากมายจ้องมาที่นาง"ข้าไม่ได้มาผู้เดียว"หล
"ซื่อจื่อมาที่นี่ได้อย่างไรเพคะ""ถิงอูรายงาน แต่เหตุใดเจ้าต้องมาที่นี่คนเดียว"หลังจากจัดการกวาดล้างสำนักอวี้เหมินเสร็จ หลัวฉางเฟิงก็รีบควบม้าเร็วล่วงหน้ามาก่อนทหารนายอื่น หากแต่พอไปถึงจวนสกุลรั่ว สาวใช้ที่ให้ติดตามรั่วอิงเหยากลับรายงานว่า นางมาพบหลัวอี้ฟิงที่นี่เพียงลำพัง จะไม่ให้เขาร้อนรนเร่งรุดบุกตำหนักชมจันทร์ได้อย่างไร"หม่อมฉันแค่นำของบางอย่างมาให้องค์ชายใหญ่""ของอะไร เหตุใดต้องมอบให้ด้วยตนเอง"เจอหน้ากันครั้งแรกหลังจากเกิดเรื่องนั้นขึ้นก็กลายเป็นทะเลาะกันเสียได้"ความลับเพคะ"หลัวฉางเฟิงรีบรั้งข้อมือน้อยที่เดินหนีเอาไว้"หม่อมฉันเจ็บ"แววตาเคล้าน้ำตาของนางทำเอาหลัวฉางเฟิงได้สติ ปล่อยมือเล็กนั้นช้า ๆ พร้อมเอ่ย"ข้าขอโทษ"ดูเหมือนรั่วอิงเหยาจะโกรธเขามาก นางสะบัดหน้าเดินจากไปอย่างไม่ใยดี แถมยังเดินกลับไปหาหลัวอี้เฟิงราวหยามหน้าเขาอย่างไรอย่างนั้นจวนสกุลรั่วรั่วอิงเหยาเสร็จภารกิจมอบจี้แทนใจให้เจ้าของร่างเสร็จแล้วก็รีบกลับจวนทันที โดยไม่สนใจบุรุษที่ควบม้าตามรถม้าของนางมาอย่างช้า ๆ"ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ"ปิงเซียวหลันเห็นบุตรสาวทำหน้าบูดบึ้ง เดี๋ยวก็ถอนหายใจ เดี๋ยวก็ทำหน้าเบื่หน่า
:: อาการหึงหวง ::"เดี๋ยว นั่นเจ้าจะไปไหน"เสียงร้องห้ามของหลัวอี้เฟิงนางได้ยิน แต่ตอนนี้ต้องหาหญ้าแดงมาบดใส่แผลน้ำร้อนลวกนี้ก่อนไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นแผลพุพองจนกลายเป็นแผลเป็น"เจอแล้ว"หญ้ากอแดงที่ต้องการอยู่ตรงหน้า หากแต่รั่วอิงเหยาไม่ทันสังเกตให้ดีว่ามีอสรพิษร้ายกำลังพลางกายอยู่ใกล้หญ้านั้นฉึก!รั่วอิงเหยาส่งเสียงร้องอย่างตกใจเมื่อจู่ ๆ ก็มีมีดสั้นเล่มหนึ่งปักลงตรงหน้านาง ตามมาด้วยอ้อมกอดของใครสักคนที่รั้งนางออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว"ข้าไม่อยู่เพียงแค่สิบวัน เจ้าก็ไม่รักชีวิตตนเองแล้วหรือ"คำตำหนิมาพร้อมแรงโอบกอดจากทางด้านหลัง เสียงที่คุ้นหู สัมผัสที่คุ้นเคย ทำให้รั่วอิงเหยารู้แล้วว่าเขาคือใคร ค่อย ๆ แกะมือหนาที่โอบรวบเอวคอดออกช้า ๆ"อ๊ะ!"แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ยอมปล่อย เขาออกแรงหมุนเล็กน้อยให้รั่วอิงเหยาหันกลับมาประจันหน้าอย่างเอาแต่ใจ"ผลักไสข้า...เพราะมีอดีตคนรักมองอยู่หรือ"คำถามนั้นช่างข่มต่ำ แววตาที่มองมาเหมือนกำลังน้อยเนื้อต่ำใจระคนขึงโกรธ"ปล่อยเพคะ"รั่วอิงเหยาเหลือบมองไปทางตำหนักที่มีอีกคนยืนมองอยู่"ฝ่าบาทพระราชทานวันสมรสของพวกเขาแล้ว เจ้ายังไม่ยอมปล่อยวางอีกหรือ"นี่เ