และมันก็เกิดขึ้นแบบนั้นจนผ่านไปเป็นอาทิตย์ทำให้เจ้าขาระแวงการนอนหลับจนหลับไม่สนิทนัก แต่พอได้หลับลึกจริงๆทุกอย่างก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเจ้าขาเริ่มไม่สบายใจ ในฝันเจ้าขามีความสุขก็จริงแต่พอตื่นขึ้นมาก็ทำให้กังวลและหวาดระแวงไปทั่วจนเครียดขึ้นมา
เจ้ามูนที่เจอกันคืนนั้นก็หายหน้าไม่มาให้เห็นอีกจนเจ้าขาเหงา ได้แต่ไปนั่งรอจนดึกทุกคืนที่ระเบียงนอกห้องจนไร้วี่แววแมวสามสีถึงได้กลับเข้ามานอน แล้วก็ฝันแบบเดิมซ้ำๆอยู่ทุกคืน เจ้าขาไม่สามารถตื่นขึ้นมาแม้จะอยากต่อต้าน สิ่งเดียวที่ชัดเจนจนลืมไม่ลงก็คือกลิ่นหอมเย็นราวอยู่ในป่าลึกที่มอมเมาเธอจนเคลิบเคลิ้มอยู่ทุกวัน จนเริ่มอยากจะรู้ว่าตัวเองฝันถึงใครกันแน่
—-----------------------------------------------
“ไงเจ้าขา หน้าตาดูไม่ค่อยสดชื่นเลยนะ”
เสียงทักทายจากด้านหลังดังขึ้นให้เจ้าขาหันไปมองร่างสมส่วนหน้าตาสดใสของอิงฟ้า รุ่นพี่ร่วมแผนกที่ใจดีกับเธอเสมอ
“หนูนอนไม่ค่อยหลับค่ะพี่อิง วันนี้ก็สวยเหมือนเดิมเลยนะคะ”
เจ้าขายิ้มให้ก่อนจะตอบแล้วตบท้ายด้วยการชมอีกคนไปเพราะแต่ละวันอิงฟ้ามักมากับแฟชั่นที่หลากหลายไม่เคยซ้ำกัน กลายเป็นคนที่ใครๆก็ชอบมองและคุยด้วยเพราะเป็นคนสดใสร่าเริงอยู่ตลอดเวลา
“แน่นอนจ้า แต่สวยไม่เท่าน้องเจ้าขาหรอกสวยมากจนโดนอิจฉาทุกวันเลยไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ หนูทำงานพลาดเองต่างหากก็เลยโดนดุ”
เจ้าขาที่รู้ดีว่าอิงฟ้าหมายถึงอะไรรีบเอ่ยออกมาเพราะไม่อยากให้เดือดร้อนกันทั้งคู่ ถึงจะรู้เหตุผลจริงๆก็ได้แต่ทำใจ
“เฮ้อ พี่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงเลยเรามันก็แค่ลูกน้องเค้าเนอะ สู้ๆนะเจ้าขาเดี๋ยวเรียนจบก็ไปหาที่ดีๆทำใหม่นะ”
อิงฟ้าลูบหลังเล็กเบาๆอย่างปลอบใจ เธอเอ็นดูเจ้าขาเพราะนอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังนอบน้อมกับทุกคนเสมอ แต่เพราะหน้าตาดีเกินไปเลยถูกคนขี้อิจฉาหลายๆคนตั้งตัวไม่เป็นมิตรตั้งแต่เข้ามาฝึกงานวันแรก
“ค่ะพี่อิง ขอบคุณนะคะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ วันนี้ก็ไปกินข้าวด้วยกันเหมือนเดิมละกันพี่มีเรื่องอยากแบ่งปัน ว่าแต่เจ้าขารู้มั้ยว่าวันนี้ท่านรองประธานคนใหม่จะเข้ามาทำงานวันแรกล่ะ”
อิงฟ้าท่าทางตื่นเต้นเมื่อได้เอ่ยถึงเรื่องใหม่ที่ใครๆก็ต่างให้ความสนใจในตอนนี้ เป็นธรรมดาที่บริษัทมีแต่คนเดิมๆน่าเบื่อ งานประจำที่ยิ่งทำก็ยิ่งหน่ายพอมีเรื่องอะไรใหม่ๆก็ถูกยกมาเป็นประเด็นพูดคุยให้พอได้หายเบื่อบ้าง
“ใครเหรอคะ อยู่แผนกเราเหรอ”
“เรียกว่ามาคุมพวกเราทั้งหมดเลยดีกว่าจ้ะ คุณเตมินทร์ลูกท่านประธานไงเพิ่งกลับมาจากนอกไม่นาน มารับตำแหน่งรองประธานเลยล่ะ ได้ข่าวว่าหล่อมากเวอร์”
อิงฟ้าพูดไปก็ใส่อารมณ์ตื่นเต้นไปด้วยจนเจ้าขาเกือบขำออกมา ดูท่าว่าท่านรองคนใหม่นี้จะฮ็อตไม่ใช่น้อยถึงได้ดังตั้งแต่ยังไม่เข้ามาขนาดนี้
“เหรอคะ แต่เค้าใจดีใช่มั้ยพี่อิง”
“อันนี้พี่ก็ไม่รู้หรอก ไม่เคยรู้จักหรือเห็นเค้ามาก่อนเลย เอาเป็นว่ามาภาวนาให้เค้าใจดีเหมือนหน้าตากันเถอะ แต่ตอนนี้พี่ต้องรีบไปเตรียมงานก่อนเดี๋ยวยัยปีศาจมาแล้วจะกินหัวพวกเราอีก กลางวันเจอกันนะ”
อิงฟ้าทิ้งท้ายก่อนกลับโต๊ะตัวเอง ยังไม่วายแอบนินทาไปถึงหัวหน้าแผนกที่ใครๆต่างก็ระอาอย่างปัณณดาจนเจ้าขาขำเบาๆ
“ค่ะพี่อิง”
—----------------------------------------
“เจ้าขา เดี๋ยวเอานี่ไปส่งเลขาคุณเตมินทร์ทีนะ พี่มีธุระต้องรีบกลับก่อน”
ยามเย็นที่ถึงเวลาเลิกงานเจ้าขากลับต้องชะงักการเก็บของลงกระเป๋าเตรียมกลับบ้านเมื่อได้ยินคำไหว้วานแกมสั่งของปัณณดา เผลอลอบถอนหายใจออกมาเบาๆกับการใช้งานไม่เลือกเวลาของอีกคนที่เป็นแบบนี้เสมอ เพียงเพราะเธอเป็นแค่เด็กฝึกงานที่นึกอยากใช้อะไรตอนไหนก็ได้ ทั้งที่ความจริงมันก็หมดเวลางานของเธอแล้ว
“ได้ค่ะพี่ปัณ”
เจ้าขารับคำอย่างจำใจเพราะทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ อีกอย่างแค่เอาของไปส่งก็ไม่ได้หนักหนาอะไรขนาดนั้นด้วย
“แล้วอย่าไปทำอะไรซุ่มซ่ามให้เดือดร้อนมาถึงพี่ล่ะ แค่เอาไปส่งเลขาท่านแล้วก็กลับได้เลย”
ปัณณดาเก็บของด้วยท่าทางรีบร้อน แต่ก็ยังไม่ลืมทิ้งท้ายด้วยคำสั่งที่แสนจะดูถูกเอาไว้ให้เจ้าขา
“รับทราบค่ะพี่ปัณ”
หลังจากนั้นตีรณาก็ยังคงฝันแบบเดิมจนแทบไม่เป็นอันนอนต้องให้คนคอยอยู่เป็นเพื่อนตลอดเวลาเพราะกลัวว่าจะเครียดจนไม่สบาย ทุกอย่างดูคล้ายจะปกติจนกระทั่งผ่านไปเป็นเดือนๆและถึงกำหนดคลอดลูกเตมินทร์ถือกำเหนิดมาด้วยความสมบูรณ์ทุกอย่างไม่มีอะไรน่ากังวลอย่างที่ตีรณากลัวสักนิด จากทารกน้อยก็เติบโตขึ้นมาจนได้สามเดือน และในคืนนั้นที่พระจันทร์เต็มดวงตีรณาถึงได้อุ้มลูกไปยืนชมแสงนวลตาด้วยกันอย่างสบายใจ เตชินทร์ที่เห็นว่าภรรยาลืมเรื่องร้ายๆได้แล้วก็สบายใจขึ้นมาก่อนจะยืนมองทั้งสองคนที่รักอย่างสุขใจ“เมี๊ยว…”เสียงร้องที่ทำเอาตีรณาสะดุ้งดังใกล้จนเธอตัวสั่นหวาดระแวง เตชินทร์รีบเข้ามากอดภรรยาเอาไว้ไม่ให้อีกคนตื่นกลัวเกินไปนัก ก่อนจะพากันหันมองต้นเสียงว่ามาจากไหน“เมี๊ยว”เสียงที่ดังใกล้จนเหมือนอยู่ตรงหน้าทำเอาตีรณาต้องก้มลงดูลูกชายที่อุ้มอยู่ ก่อนที่ภาพตรงหน้าจะทำเธอช็อคจนแทบโยนลูกทิ้ง ดีที่เตชินทร์ไวกว่ารีบคว้าเอาทารกในห่อผ้ามาอุ้มไว้เองแล้วก็ต้องตกใจตามเมื่อลูกที่ควรจะอยู่ในห่อผ้า กลับกลายเป็นแมวสามสีตัวเล็กจ้อยแทน“กรี๊ด คุณคะนั่นมันอะไร”“เฮ้ย! ลูกหายไปไหน คุณๆใจเย็นๆก่อนครับ”เตชินทร์ทั้งตกใจเรื่องลูกทั้
หากจะนับว่าเตมินทร์ต้องเผชิญกับเรื่องราวแสนประหลาดและน่าเหลือเชื่อมานานแค่ไหน ก็คงต้องย้อนไปตั้งแต่เตมินทร์ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ มันเป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวงสวยงามและตีรณาก็ชอบนั่งมองมันทุกครั้ง เพราะท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีเธอจึงต้องปรับอารมณ์ตัวเองให้ผ่อนคลายอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ “เมี๊ยว…”เสียงร้องของสิ่งมีชีวิตที่ตีรณาไม่ชอบมากที่สุดดังขึ้นมาจนต้องหันซ้ายขวามองอย่างหวาดระแวงทันที เพราะตอนเด็กเธอถูกแมวกัดจนเป็นแผลและจำฝังใจมาจนโต แมวจึงเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับเธอทุกคนรู้ดี ตีรณายังไม่ทันได้ลุกเข้าบ้านก็เหลือบไปเห็นแมวสามสีตัวใหญ่ที่ขอบระเบียง มันกำลังร้องและจ้องเธออย่างน่าสงสาร ตามตัวมีร่องรอยบาดแผลจนเลือดไหลหยดลงบนพื้นไม่หยุด สร้างความหวาดกลัวให้ตีรณายิ่งกว่าเดิมจนต้องหวีดร้องออกมาเสียงดัง“กรี๊ด ออกไปนะไอ้แมวบ้า!”“เมี๊ยว!”“ออกไปนะ!”“เมี๊ยว!”ตุบ!“คุณ เป็นอะไรครับ ร้องทำไม”เตชินทร์ที่ได้ยินเสียงรีบวิ่งออกมาดูภรรยาทันทีด้วยความเป็นห่วง พบว่าตีรณากำลังยืนร้องไห้จนตัวสั่นก็รีบเข้าไปกอดปลอบใจ ตีรณาซุกเข้าหาอกสามีด้วยความหวาดกลัว ภาพแมวที่เธอผลักจนร่วงลงไปจากระเบียงจนนอนแน่นิ่งทำเอาขาสั่นจ
“พี่เต เจ้าขาเหนื่อยแล้วนะคะ”เจ้าขาโอดครวญเมื่อถูกเตมินทร์เคี่ยวกรำมานานจนแทบไม่มีแรงยืน งานแต่งแสนหวานชื่นผ่านพ้นท่ามกลางความยินดีจากคนที่รักของทั้งสองฝ่าย แม้ครอบครัวจะไม่ได้สนใจชีวิตเจ้าขาหรือแม้แต่แม่ของเตมินทร์ที่วางท่ามากไปหน่อย แต่จากท่าทางวันนี้ใครมองดูก็รู้ว่าทั้งสองครอบครัวก็มีความสุขถึงจะไม่มากเท่าบ่าวสาวก็ตามแต่เจ้าขาก็ไม่คิดว่าเตมินทร์ที่เหนื่อยมาทั้งวันยิ่งกว่าเจ้าขาจะยังเหลือแรงมารังแกเจ้าขาได้มากขนาดนี้ แถมยังดูท่าว่าจะยาวนานจนเจ้าขาชักหวั่นใจแล้วจริงๆ“แต่พี่ไม่เหนื่อย เจ้าขาหอมมากพี่ทนไม่ไหวแล้ว”“อ้ะ แต่พี่เตพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้วนะคะ เจ้าขาจะหนีกลับบ้านจริงๆด้วย”เจ้าขาขู่ออกมาทันทีเมื่อเตมินทร์เข้ามากอดรัดร่างกายจนส่วนแข็งขืนทิ่มแทงเธอจนร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ไม่บอกก็รู้ว่าเตมินทร์ต้องการมากขนาดไหน“ไม่เอาครับ”“งั้นก็พอสิคะ เจ้าขาง่วง”“โอเคครับ พี่ขอจูบก็ได้ แค่จูบ”เตมินทร์อ้อนวอนพลิกร่างบางหันกลับมารับจูบที่ร้อนแรงจนเจ้าขาแทบทรุด จมูกสวยได้กลิ่นที่เตมินทร์ชอบปล่อยออกมามอมเมากันทุกครั้งก็รับรู้ได้ว่าคนตัวโตขี้โกงอีกแล้ว เพราะเตมินทร์รู้ว่าเจ้าขาจะแพ้และโอนอ่อน
“สะ ใส่เข้ามา นะคะ อื้อ”“ขอร้องสิครับ”ต่อให้อยากกระแทกแค่ไหนแต่เตมินทร์ก็สนุกที่ได้แกล้งให้เด็กดีกลายเป็นเด็กใจแตกเมื่ออยู่บนเตียง เวลาเจ้าขาต้องการมากๆมันทำให้เจ้าขายั่วยวนโดยไม่รู้ตัวและเตมินทร์ก็ชอบแบบนี้เหลือเกิน“อยาก เจ้าขาอยากได้ของพี่เต ใส่เข้ามานะคะ”“ใส่ให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะคนดี”สวบ!!“อ๊าาา”“ซี้ดด อ่าส์”สองเสียงครางประสานด้วยความเสียดเสียวที่ตีตื้นทันทีเมื่อแท่งร้อนกดเข้าไปจนมิดด้าม ก่อนจะดังขึ้นต่อเนื่องผสมกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อเมื่อเอวสอบสวนกระแทกเข้าออกอย่างเร่าร้อนรุนแรงราวคนอดอยาก เตียงกว้างไหวโยกกระทบผนังจนดังแบบที่ใครผ่านมาก็รู้ได้ไม่ยากว่าคนในห้องกำลังร่วมรักกัน แต่เพราะตอนนี้ทั้งคู่อยู่ตามลำพังเลยไม่ต้องสนว่าใครจะมาได้ยิน อยากทำรุนแรงแค่ไหนหรืออยากไปทำตรงไหนในบ้านก็ทำได้ตามใจและเพราะแบบนั้นเตมินทร์เลยจัดหนักทุกครั้งที่เป็นวันหยุด ทุกที่ในบ้านถูกใช้เพื่อสนองความใคร่จนแทบไม่มีที่ไหนไม่ถูกใช้เป็นที่รองรับอารมณ์ของทั้งคู่ เหมือนยามนี้ที่เตมินทร์พาเจ้าขามาตรงระเบียงนอกห้องนอนที่มีแสงจันทร์สาดส่องจนเจ้าขาหน้าแดงตัวแดงด้วยความเขิน เหมือนระลึกถึงวันแรกที่ได้เจอกัน และเ
“พี่เต วันนี้พระจันทร์เต็มดวงนี่คะ”เจ้าขาถามขึ้นเมื่อหันไปเห็นพระจันทร์ที่ส่องแสงสว่างนวลตาอยู่บนฟ้า แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าถ้าเป็นวันแบบนี้เตมินทร์จะต้องกลายเป็นแมวเหมือนเคย ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ทั้งคู่หลงลืมเรื่องนี้ไปราวกับมันไม่เคยเกิดขึ้น เป็นเวลากว่าสองเดือนแล้วที่คบกันและอยู่ด้วยกันตลอดเวลา จนลืมสังเกตว่าวันไหนที่มีพระจันทร์เต็มดวงบ้าง ที่เแน่ๆเตมินทร์ไม่ได้กลายเป็นเจ้ามูนให้เจ้าขาช่วยกลับคืนร่างสักครั้งตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา จนวันนี้ที่เจ้าขาเผลอเหม่อมองพระจันทร์ถึงเอะใจขึ้นมาได้“ใช่ครับ”เตมินทร์ที่ปีนขึ้นมาบนเตียงตอบรับด้วยสีหน้าปกติไม่ได้มีท่าทีแปลกใจอะไร เจ้าขามองอย่างงุนงงจนต้องถามออกมาอีกรอบ“แล้วทำไมพี่ถึงยังไม่เป็นเจ้ามูนล่ะคะ”“อ่า นั่นสิลืมไปเลยนะเนี่ย”เตมินทร์ที่นึกขึ้นได้ก็ชะงักก่อนจะหันมามองเจ้าขาด้วยความแปลกใจไม่แพ้กัน แต่พอนึกถึงเงื่อนไขที่เป็นแบบนี้ได้ก็ยิ้มกริ่ม ในใจฟูฟ่องจนแทบเก็บอาการไม่มิดแต่ก็ยังคงทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วมองเจ้าขาที่ทำหน้าสงสัยด้วยความเอ็นดูต่อไป“ไม่ตกใจเลยเหรอคะ”“แล้วหนูตกใจอะไรครับ อยากให้พี่เป็นแมวเหรอ หืม”เตมินทร์แกล้งถามกลับพลางท
“ช่วยส่งเอกสารการประเมินงานทุกอย่างของเจ้าขามาให้เลขาผมด้วยนะครับ ต่อไปผมจะป็นคนสอนและประเมินงานแฟนผมเอง เจ้าขาจะไม่ได้มาทำที่แผนกนี้แล้ว”เตมินทร์มองท่าทางหวาดกลัวนั่นอย่างพอใจก่อนจะสั่งออกมาด้วยท่าทางที่กดดันเหมือนเดิม ตอนนี้แค่อยากแสดงตัวให้ชัดเจนไปก่อนแต่ถ้ายังมีใครกล้ามาแตะเจ้าขาลับหลังอีกล่ะก็ เตมินทร์ไม่คิดจะเก็บไว้เหมือนกัน“อ้อ ค่ะ ได้ค่ะคุณเตมินทร์ จะรีบจัดการให้เลยค่ะ”ปัณณดาผงกหัวตอบรับด้วยอาการลนลาน แม้จะตกใจที่เตมินทร์ประกาศสถานะกับเจ้าขาออกมาแต่ก็เหมือนยิ่งตอกย้ำว่าตัวเองกำลังจะซวยที่แอบนินทาเจ้าขามานาน ตอนนี้หากเตมินทร์หรือเจ้าขาปล่อยผ่านไม่ว่าอะไรเธอก็ยินดีทำทั้งนั้น เตมินทร์ไม่ได้สนใจท่าทางหวาดกลัวเพราะถือว่านี่คือการเตือนให้รู้แล้วว่าสถานะเจ้าขาคืออะไร หลังจากนี้ก็ถ้ายังกล้าก็คงต้องไปหางานใหม่เอา ร่างสูงจูงมือเจ้าขาที่ตกใจกับการประกาศโต้งๆแบบนั้นของเตมินทร์กลับห้องทำงานทันที ก่อนที่เจ้าขาจะรีบถามออกมาทันทีเมื่อเข้ามาอยู่ในที่ส่วนตัวแล้ว“พี่เต ทำไมไปประกาศแบบนั้นล่ะคะ”“ก็พี่อยากให้ทุกคนรู้ว่าเจ้าขาเป็นแฟนพี่ เป็นของพี่ไงครับ นี่พี่ว่าจะขึ้นป้ายประกาศบนบอร์ดบริษัทด