[10]
คนหน้าคล้าย จากเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ฟีฟ่าไม่อยากมองหน้าภพภูมิอีกเลย คนใจดำ รู้ทั้งรู้ว่าเขากลัวผียังบังคับให้เปิดโลงดูศพและยังถีบตกฟูกอีก คิดแล้วน่าโมโหจริง ๆ คนตัวเล็กนั่งหันหลังให้ ในมือถือแซนด์วิชไข่ ปากก็เคี้ยวตุ้ย ๆ ไปด้วย "ทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว คิดว่าน่ารักมากหรือไง" คนถูกว่าเพียงแค่เหลือกตามองและหันกลับไปกินแซนด์วิชต่อ คิดซะว่าได้ยินเสียงหมาเห่าหมาหอนละกัน ภพภูมินั่งไขว่ห้างพลางจิบกาแฟ มืออีกข้างก็ไถมือถือไปด้วย เห็นข้อความจากเท็นมะเข้ามา เมื่อคืนเพราะมีเรื่องวุ่นวายจึงไม่ทันสังเกตเห็น พอกดเข้าไปดูก็ขมวดคิ้วแน่น "ทำถึงขนาดนี้เชียวเหรอ" ร่างสูงลุกขึ้นและสั่งให้ฟีฟ่าไปเปลี่ยนชุดเพราะจะไปกราบหลวงปู่ด้วยกัน ฟีฟ่าดูดนิ้วหลังกินทุกอย่างหมดแล้ว แกล้งไปเช็ดมือกับเสื้อของภพภูมิและรีบวิ่งเข้าห้องก่อนโดนต่อย เขากลับออกมาในชุดขาวเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่คราวนี้ภพภูมิกลับบอกให้เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาแทน "แล้วไม่บอกแต่แรก เสียเวลาชะมัด" ฟีฟ่าบ่นอุบและกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง คราวนี้ออกมาในชุดทันสมัย ยิ่งทำให้คนตัวเล็กดูเด็กกว่าเก่า จากนั้นจึงตามภพภูมิไปยังกุฏิของหลวงปู่ ซึ่งท่านได้นั่งรออยู่แล้วทั้งคู่จึงเข้าไปก้มลงกราบ น่าแปลกที่อยู่ตรงนี้แล้วกลับรู้สึกจิตใจสงบอย่างบอกไม่ถูก "เป็นยังไง ชินกับที่นี่บ้างหรือยัง" หลวงปู่ถามฟีฟ่า "ครับ ถ้าไม่ติดว่า.." กำลังจะฟ้องหลวงปู่ว่าตัวเองโดนแกล้งสารพัดและโดนทำร้ายร่างกายอย่างแสนสาหัส ครั้นพอหันเห็นสายตาราวกับจะฆ่ากันให้ตายที่อีกฝ่ายจ้องมาฟีฟ่าถึงกับไม่กล้าพูดต่อ "ชะ..ชินแล้วครับ พี่ภูมิดูแลผมดีมากเลยครับ" "ถ้าอย่างนั้นก็ดี" หลวงปู่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ในสายตาของฟีฟ่าหลวงปู่ต่างจากพระที่เขาเคยพบ อิริยาบถที่สำรวมทำให้ผู้คนเลื่อมใสศรัทธาแต่แฝงไว้ซึ่งความน่ายำเกรงอย่างบอกไม่ถูก ทั้งยังรอยสักบนร่างกายที่มีลวดลายต่างจากผู้มีวิชาทั้งหลายโดยสิ้นเชิง ถ้าไม่ห่มจีวรเขาคงคิดว่าหลวงปู่เป็นพวกยากูซ่าแน่ ๆ พระอาวุโสสังเกตเห็นท่าทางของฟีฟ่าแล้วเผยยิ้มขึ้นอีกทำเอาภพภูมิถึงกับทำหน้าฉงน เขาอยู่กับหลวงปู่มานานยังไม่เคยเห็นท่านยิ้มบ่อยแบบนี้มาก่อน "สีหน้าโยมดีขึ้นมากเลยนะ" หลวงปู่หันมาพูดกับภพภูมิบ้าง ดวงตาจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่บัดนี้ภายใต้ขอบตาที่เคยดำคล้ำกลับหายสนิท คนที่นอนไม่หลับมาหลายเดือน ตอนนี้คงหลับสบายแล้วสินะ "ครับหลวงปู่" ถึงหมอนข้างจะนุ่มนิ่มไปหน่อยแต่ก็กอดสบายอยู่ ภพภูมิสนทนาธรรมกับหลวงปู่ ในขณะที่คนนั่งฟังเฉย ๆ กลับง่วงนอนเพราะฟังภาษาธรรมไม่เข้าใจ จึงทิ้งตัวพิงร่างสูงไว้ "สำรวมหน่อย" เสียงทุ้มตำหนิ เพราะอยู่ต่อหน้าหลวงปู่หรือไงนะน้ำเสียงถึงฟังนุ่มนวลขึ้น ฟีฟ่าคิดเช่นนั้น "ก็ฟ่าง่วงนี่" ฟีฟ่าลุกขึ้นนั่งเพราะโดนมือหนายันหัวออก "เด็กสมัยนี้ก็แบบนี้แหละ แต่อดทนอยู่วัดมาได้ถึงครึ่งเดือนนี่ก็นับว่าเก่งมากแล้ว" ฟีฟ่าอยากจะบอกหลวงปู่เสียเหลือเกินว่าไม่ได้ทนอยู่ แต่ที่ต้องอยู่ก็เพราะโดนบังคับต่างหาก เขาถูกภพภูมิบังคับให้เป็นหมอนข้างและใช้กอดนอนทุกคืน พอตื่นก็เขวี้ยงเขาทิ้งอย่างไม่ไยดี "อยู่แต่วัดคงเบื่อแย่ วันนี้โยมภูมิพาโยมน้องออกไปเที่ยวข้างนอกสักวันก็ได้นะ" "จริงหรือครับหลวงปู่" ฟีฟ่าหูผึ่งเมื่อได้ยินหลวงปู่อนุญาตให้ออกจากวัดได้ มิน่าวันนี้ไอ้หัวหยิกถึงยอมให้เขาใส่ชุดธรรมดาไม่ใช่ชุดขาวเหมือนทุกวัน หลังเสร็จธุระทั้งคู่ก้มลงกราบลาหลวงปู่ ขณะเดินลงจากกุฏิหลวงปู่ได้เรียกภพภูมิเอาไว้และพูดบางอย่างกับเขา "คืนนี้ถ้ากลับไม่ทันก็ค้างข้างนอกไปเลยนะ" "ครับหลวงปู่" ภพภูมิพนมมือขึ้นไหว้ลาหลวงปู่อีกครั้ง ก่อนจะรีบเดินลงจากกุฏิเพราะไอ้คนที่รออยู่ด้านล่างแหกปากเรียกแล้ว ไม่รู้จักเกรงใจพระเกรงใจเจ้าบ้างเลย "พี่ภูมิเร็วหน่อย ฟ่าอยากกินไห่ตี้เหลาแล้วน้าาา.." "หนวกหูน่า กำลังจะลงไปเดี๋ยวนี้แหละ หัดเกรงใจคนอื่นเขาบ้างสิ!" เสียงทุ้มตะโกนตอบกลับไป วันนี้ภพภูมิไม่ได้ใช้รถสปอร์ตคันหรูเพราะเท็นมะเอาไปขับ เขาใช้รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ราคาเฉียดสิบล้านแทน มือหนาส่งหมวกกันน็อกที่สั่งคนสนิทให้เตรียมไว้สำหรับฟีฟ่าก่อนตวัดเท้าขึ้นคร่อมตัวรถด้วยท่วงท่าทะมัดทะแมง "หนักชะมัด" ฟีฟ่าบ่นอุบเมื่อสวมหมวกกันน็อกลงบนศีรษะ กลัวว่าลำคอเล็กจะหักจริง ๆ ดวงตากลมมองร่างสูงสวมแจ็กเกตหนังสีดำและกำลังสวมหมวกกันน็อกแบบเดียวกัน ภพภูมิในตอนนี้ดูเท่จนฟีฟ่าละสายตาไม่ได้ กระทั่งอีกฝ่ายเปิดหน้ากากออกและเรียกให้เขาขึ้นซ้อนท้าย "จะยืนซื่อบื้ออีกนานมั้ย ขึ้นมาเร็ว" "ชิ!" ฟีฟ่าจิ๊ปากพร้อมตั้งท่าจะปีนขึ้นท้ายรถ ขุ่นพระ!! รถมันจะสูงไปไหนวะเนี่ย เขามองเรียวขายาวที่เหยียบบนพื้นอย่างสบายและก้มมองขาตัวเอง สั้นขนาดนี้จะปีนท่าไหนดีวะ เจ้าของส่วนสูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดจุดหนึ่งเซนติเมตรมองที่วางเท้าด้านหลังก่อนขึ้นไปเหยียบโดยอาศัยบ่ากว้างเป็นที่ยึดเหวี่ยงปลายเท้าขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายได้อย่างสวยงาม ยังไม่ทันตั้งตัวรถคันใหญ่ก็พุ่งตัวออกไปทันที ทำเอาฟีฟ่าเกือบหงายเงิบ ดีกว่าคว้าเอวแกร่งไว้ได้ทัน "หึ!" รอยยิ้มร้ายกาจผุดขึ้นภายใต้หมวกกันน็อกก่อนจะลดความเร็วลง ขับขี่ช้า ๆ ออกจากพื้นที่วัดและไปตามทาง พอพ้นเขตหมู่บ้านออกสู่ถนนใหญ่เท่านั้น รถบิ๊กไบค์คันงามก็ถูกขับขี่ด้วยความเร็วที่มากขึ้น เข้าโค้งแต่ละทีทำเอาหัวใจไอ้ฟ่าจะวายให้ได้ ภพภูมิขี่รถเข้าสู่กรุงเทพฯ นอกจากจะพาฟีฟ่ามาเที่ยวแล้วเขายังมีภารกิจอื่นที่ต้องทำอีก บิ๊กไบค์คันสีดำสนิทเลี้ยวเข้ามาในตึกสูง หลังเข้าจอดเรียบร้อยจึงพากันขึ้นไปด้านบน ฟีฟ่าเพิ่งรู้ว่าภายในตึกที่เหมือนกับสำนักงานแห่งนี้ไม่ได้ต่างจากห้างสรรพสินค้าเลยและยังมีผู้คนเดินช้อปปิ้งกันอย่างหนาแน่น เขาไม่รู้ว่านอกจากที่เห็นอยู่ตอนนี้แล้วด้านบนยังเป็นสถานบันเทิงที่คาดไม่ถึงอีกด้วย "ฟ่าหิวแล้ว เราไปหาอะไรกินกันก่อนนะ" ซ้อนท้ายมาตั้งนานโดยไม่แวะพัก ลงมาเดินต่อได้นี่ก็นับว่าเก่งแล้ว แม้ขาของฟีฟ่าจะออกอาการสั่นให้เห็นก็ตาม ภพภูมิถอดเสื้อหนังทิ้งไว้ที่รถและหยิบแว่นตาขึ้นมาสวมเพื่อพรางตัว เพราะแว่นเด็กเนิร์ดทำให้ผู้คนที่ผ่านไปมาไม่ค่อยสนใจเขามากนัก ซ้ำยังทำให้บุคลิกที่ดูน่ากลัวลดลงอีกด้วย ทำเอาฟีฟ่าใจเต้นตึกตักอีกครั้งทั้งที่เคยบอกอีกฝ่ายไม่ใช่สเปค แต่เป็นเพราะฟีฟ่าชอบแนวสาวเนิร์ดสวมแว่นตานั่นเอง พออยู่ที่นี่ภพภูมิดูต่างจากตอนอยู่วัดนิดหน่อย เขาไม่ดุและยังตามใจฟีฟ่าอีกด้วย พอฟีฟ่าบอกว่าหิวก็พาไปร้านอาหารทันทีและยังให้เลือกร้านที่ชอบอีกต่างหาก "ไม่ต้องรีบกินก็ได้ ใช่ว่าจะกลับตอนนี้ซะที่ไหน" เขาบอกกับฟีฟ่าเมื่อเห็นอีกฝ่ายคีบอาหารใส่ปากแบบไม่พัก กลัวจะติดคอเอาเสียก่อน คิดว่าถ้าฟีฟ่าชอบกินขนาดนี้ไว้จะสั่งให้คนสนิทเอามาส่งให้ที่เรือนไม้ดีมั้ยนะ "ไม่ได้หรอก นาน ๆ จะได้ออกมาที กินเร็ว ๆ จะได้มีเวลาเที่ยวเยอะ ๆ ไง" ฟีฟ่ารีบกินเพราะอยากขึ้นไปช้อปปิ้งและไปที่เกมเซนเตอร์ ตั้งใจจะร้องคาราโอเกะด้วย เขาเห็นป้ายโฆษณาตอนเดินเข้ามาในตึก เวลาตอนนี้ก็จะบ่ายสองโมงถ้าไม่รีบเดี๋ยวก็ต้องกลับวัดแล้ว โอกาสแบบนี้ไม่รู้จะมีอีกเมื่อไหร่ ไอ้ฟ่าจะไม่ยอมพลาดเด็ดขาด ที่คิดเช่นนั้นเพราะเขาไม่รู้ว่าวันนี้หลวงปู่อนุญาตให้ค้างข้างนอกได้ "ฟ่าขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ" ฟีฟ่าพูดขึ้นหลังทานอาหารเรียบร้อย พอดีกินน้ำเยอะไปหน่อยก็เลยปวดฉี่ "นายนี่มันเรื่องมากจริง ๆ ฉันรออยู่ตรงนี้ รีบไปรีบมาล่ะ" "ครับ ๆ" ฟีฟ่าวิ่งจู้ดเพื่อไปเข้าห้องน้ำ ขณะยืนทำธุระส่วนตัวอย่างสบายอารมณ์ โถติดกันได้มีชายวัยกลางคนเข้ามาใช้ ทีแรกก็ไม่ได้สนใจแต่กลิ่นแอลกอออล์ที่ตีเข้าจมูกทำให้เขาต้องหันกลับไปมองทำให้สบตากับอีกฝ่ายเข้าพอดี ดวงตาแดงก่ำมองเขาด้วยความไม่พอใจ ฟีฟ่าหลบสายตาแทบไม่ทันดีที่ทำธุระเสร็จพอดีจึงรีบเก็บอาวุธ รูดซิปกางเกงและเดินหนีกลับถูกชายคนนั้นคว้าแขนเอาไว้ "เฮ้ย..มองหน้าแล้วเดินหนีอยากมีเรื่องมากหรือวะ" ฟีฟ่ามองมือที่เพิ่งจับหนอนตัวอวบแล้วมาจับแขนตนด้วยความขยะแขยง แม่ง..สกปรกฉิบหาย จึงพยายามสะบัดออกแต่อีกฝ่ายกลับบีบแน่นขึ้น "ปล่อยผมเถอะครับ พี่เมาแล้วผมว่าพี่กลับบ้านไปนอนดีกว่านะ" ฟีฟ่าไม่อยากมีเรื่องกับคนเมาจึงพูดดีด้วย แต่ทำให้อีกฝ่ายโมโหกว่าเก่า "ใครบอกกูเมา กูไม่ได้เมาสักหน่อย!" ชายวัยกลางคนตวาดเสียงดังใส่หน้าฟีฟ่า มือที่จับท่อนแขนอยู่บีบแน่นก่อนจะเหวี่ยงร่างเล็กกระเด็นไปกองอยู่กับพื้น ทำเอาผู้คนในห้องน้ำแตกตื่นรีบพากันวิ่งออกมา "เข้าห้องน้ำแค่นี้ทำไมนานนักนะ" ภพภูมิที่ยืนรออยู่ด้านนอกมองนาฬิกาอยู่หลายรอบฟีฟ่าก็ยังไม่ออกมาสักทีจึงจะเข้าไปตามข้างใน จังหวะนั้นหางตาได้เหลือบไปเห็นชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทอย่างดีเดินอยู่อีกฝั่ง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย "..มาทำอะไรที่นี่นะ?" กำลังจะเดินข้ามไปอีกฝั่งก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากทางห้องน้ำชายและผู้คนต่างพากันวิ่งออกมาจึงหันไปดู เห็นร่างเล็กถูกเหวี่ยงกระเด็นออกมากระแทกผนังด้านนอกและมีชายวัยกลางคนตามออกมาด้วยท่าทางโมโหสุดขีด เขาหันกลับไปมองชายสวมสูทคนนั้นอีกครั้งและหันกลับมามองฟีฟ่า และตัดสินใจเข้าไปช่วยฟีฟ่าก่อน "แม่งเอ๊ย..หาแต่เรื่องเก่งจริง ๆ" เสียงดังโวยวายและผู้คนที่วิ่งแตกตื่นออกมาจากห้องน้ำดังไปถึงฝั่งตรงข้าม ชายหนุ่มในชุดสูทราคาแพงได้หันกลับมามองเหตุการณ์ชุลมุนนั้นและสะดุดเข้ากับภพภูมิพอดี เห็นอีกฝ่ายกำลังวิ่งสวนผู้คนเข้าไปด้านใน "มีอะไรหรือครับคุณ..." "ไม่มีอะไร" ร่างสูงหมุนตัวหันหลังเดินไปยังลิฟต์ส่วนตัวเพื่อขึ้นไปยังชั้นสูงสุดของตึก "มองหน้าหาเรื่องหรือวะ มึงไม่รู้เหรอว่ากูเป็นใคร!" โครม!! "มึงจะเป็นใครก็เรื่องของมึง แต่ไอ้นี่คนของกู" ชายวัยกลางคนถูกถีบกระเด็นออกจากฟีฟ่าก่อนที่หมัดจะต่อยถูกใบหน้าหวาน เป็นเพราะไอ้ขี้เมาทำให้เขาพลาดเรื่องสำคัญอยากจะกระทืบให้ตายคาตีนนัก แต่ในที่ชุมชนถ้ามีการทำร้ายร่างกายมันคงดูไม่ดี ภพภูมิจึงต่อยมันไปหมัดหนึ่งเพื่อให้หายโมโห เพียงเท่านี้ก็ทำเอาชายวัยกลางคนถึงกับสลบเหมือด "ลุกขึ้นได้แล้ว" เสียงทุ้มออกคำสั่งพลางมองรอยแดงบนแก้มของฟีฟ่า ฟันขาวขบกันดังกรอดและเหลือบไปมองชายวัยกลางคนที่นอนอยู่บนพื้น บังอาจทำหมอนข้างของเขาเป็นรอย ต่อยแค่หมัดเดียวคงไม่พอละมั้ง ฟีฟ่าลุกขึ้นและรีบเดินตามร่างสูงออกไปก่อนพนักงานรักษาความปลอดภัยจะมาถึง เจอแบบนี้เข้าไปก็ถึงกับหมดอารมณ์เดินเที่ยวเลยทีเดียว "อยากไปเล่นเกมมั้ย" ภพภูมิถามขึ้นเมื่อเห็นฟีฟ่าทำหน้าจ๋อย เพราะมันดูไม่เหมาะกับเขาเลย ฟีฟ่าส่ายหน้าพลางเอามือลูบแก้ม โดนตบแค่ทีเดียวทำเอาแก้มขาวขึ้นเป็นรอยแดง ถ้าเป็นทุกครั้งคงโดนสมน้ำหน้าไปแล้ว แต่ครั้งนี้กลับดูน่าสงสารอย่างบอกไม่ถูก "รอฉันอยู่ตรงนี้ก่อน อย่าไปเดินเพ่นพานล่ะ" ภพภูมิบอกกับฟีฟ่าก่อนเดินแยกไป ระหว่างนั้นก็ได้หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาคนสนิทไปด้วย [ครับคุณภพ] "นายไปดูกล้องวงจรปิดที่หน้าห้องน้ำชั้น 7 ของตึกไนท์ไดมอนด์ แล้วจัดการไอ้ขี้เมาที่มาก่อเรื่อง เอาให้หนักแต่อย่าให้ถึงตายนะ" [ครับ] หลังวางสายภพภูมิก็เดินไปทางร้านขายยาเพราะกลัวแก้มแดงจะอักเสบขึ้นมาเสียก่อน นอนกอดทุกคืนมีหรือที่จะไม่รู้ว่าไอ้ตัวแสบผิวบางแค่ไหน ขนาดยุงสักตัวเขายังไม่ยอมให้บินเข้ามาในห้องได้เลย ไอ้แก่นั่นเป็นใครบังอาจมาทำให้คนของเขาเป็นรอยได้ ทางด้านฟีฟ่าก็นั่งรอตามคำสั่งอย่างเรียบร้อยต่างจากทุกครั้ง ระหว่างนั้นก็มองสำรวจร้านค้าที่เปิดอยู่ภายในตึกไปด้วย เพิ่งสังเกตว่ามีแต่แบรนด์ไฮเอนด์ที่คนฐานะอย่างเขาจะซื้อสักชิ้นยังต้องเก็บเงินอยู่หลายเดือน ทำให้แผนที่จะช้อปปิ้งให้สนุกต้องพับเก็บเอาไว้ทันที "นั่นมันพี่ภูมินี่ หน็อย..คิดจะทิ้งเราไว้ที่นี่คนเดียวเหรอ ไม่มีทางซะหรอก ฟีฟ่าบังเอิญหันไปเห็นร่างสูงกำลังเดินออกไปทางลานจอดรถ บอกให้คนอื่นรอแต่ตัวเองกลับไปเปลี่ยนเป็นสูทอย่างหล่อและคิดจะหนีกลับคนเดียวเหรอ ไอ้ฟ่าไม่ยอมหรอกนะ เขารีบลุกขึ้นและเข้าไปยืนขวางร่างสูงเอาไว้ พลางต่อว่าที่อีกฝ่ายจะทิ้งตัวเองไว้และกลับไปคนเดียว "จะไปไหนน่ะ คิดจะทิ้งฟ่าเหรอ!" คนตัวสูงรู้สึกแปลกใจที่จู่ ๆ ฟีฟ่าเข้ามาขวางและยังทำหน้าจริงจังใส่อีก คนที่ติดตามมาด้วยเข้าไปต่อว่าฟีฟ่าที่มาขวางทางเจ้านายของตนและทำท่าจะเอาเรื่องแต่ถูกห้ามไว้และถูกตำหนิด้วยสายตาจึงรีบหลบไปอยู่ด้านหลังตามเดิม "เรารู้จักกันด้วยหรือครับ" น้ำเสียงที่สุภาพแฝงความขี้เล่นถามขึ้น ฟีฟ่าแหงนขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้าให้เต็มตาอีกครั้ง ส่วนสูงที่ไม่ต่างจากเปรตนอกจากภพภูมิแล้วยังมีคนอื่นอีกเหรอ นอกจากส่วนสูงแล้วหน้าตายังละม้ายคล้ายกันราวกับฝาแฝด แต่สายตากรุ้มกริ่มแบบนี้ไม่มีทางใช่ภพภูมิแน่ ๆ "ขะ..ขอโทษครับ ผมจำคนผิด" ฟีฟ่ารีบหลีกทางให้ทันที คิดว่าต้องถูกต่อว่าแน่ ๆ แต่ไม่เป็นเช่นนั้น แทนที่จะโกรธชายหนุ่มกลับเผยยิ้มออกมา มือหนาวางลงบนบ่าของฟีฟ่าและโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ สอดประสานสายตาเข้าด้วยกัน ทำเอาฟีฟ่าขนลุกซู่ "ไม่เป็นไรครับ ผมคงหน้าโหลไปหน่อย เอาไว้ถ้าเจอกันคราวหน้าหวังว่าจะไม่ทักผิดคนอีกนะครับ" พูดจบชายหนุ่มก็เดินจากไปพร้อมกับผู้ติดตามทั้งสองคนทิ้งฟีฟ่าให้ยืนงงอยู่ตรงนั้น เจอกันคราวหน้าอะไรกัน คงไม่มีครั้งที่สองหรอก "คนอะไรสายตาเจ้าชู้ชะมัด" ฟีฟ่าพึมพำกับตัวเองและหันไปเห็นภพภูมิเดินกลับมาพอดีตอนพิเศษ - เจย์ - ภาคินแสงสียามค่ำคืนบนถนนบันเทิงเป็นสิ่งที่คนอย่างผมโปรดปรานมากที่สุด แม้อายุจะยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่ผมก็สามารถตะลอนหาความสนุกได้โดยอาศัยเส้นสายของภูวเดชเดชานอกจากหน้าตาที่หล่อเหลาเหนือมนุษย์แล้วด้วยความที่เป็นทายาทคนหนึ่งของตระกูลทำให้ผมเป็นที่หมายปองของนักเที่ยวราตรีอย่างล้นหลาม สเปคของผมไม่ใช่สาวสวยหรือน่ารักแต่เป็นหนุ่มหน้าหวาน ซึ่งผมไม่เคยขาดแคลนเลย แต่ที่โปรดปรานที่สุดก็คือคนสวยขาที่ร้อนแรงและพร้อมจะถ่างขาให้ผมตลอดเวลา"อื้มม..อ๊าา..คุณคิน แรง ๆ กระแทกผมให้แรงกว่านี้อีก อ๊าา.."ทุกครั้งหลังดีลกันในผับเรียบร้อยแล้วผมจะพาพวกเขาไปเริงรักต่อยังโรงแรมระดับห้าดาว ผมเปิดห้องที่มีราคาแพงที่สุดให้กับพวกเขาเพราะเสียงครางด้วยความเสียวซ่านจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ผมจนกระเจิง บ่อยครั้งที่ผมขยับโยกอย่างรุนแรงพวกหนุ่มหน้าหวานถึงกับเข่าทรุดไม่เป็นท่า และทุกครั้งหลังเสร็จกิจผมจะมีค่าตอบแทนให้จำนวนหนึ่งเพื่อป้องกันความยุ่งยากที่จะตามมาผมจะไม่ยุ่งกับคนเดิมซ้ำเป็นหนที่สองเว้นเสียแต่ว่าเด็ดจริง ๆ ดังนั้นจึงมีหลายคนไม่พอใจกับการถูกผมเอาและทิ้งในครั้งเดียว ฉะนั้นผมจึงค่อนข้างระวังตัวเองเป
ตอนพิเศษ - มังกร - ภีมเมื่ออายุครบสิบสองปีทายาทของภูวเดชเดชาจะต้องเลือกคนคุ้มกันขึ้นมาหนึ่งคน โดยคนผู้นี้จะอยู่ข้างกายเพื่อปกป้องผู้เป็นนาย ตราบลมหายใจสุดท้ายของชีวิตก๊อก ๆ"เข้ามา""ขออนุญาตครับ ท่านผู้นำเชิญคุณภีมให้ไปพบที่ห้องทำงานครับ" ร่างสูงก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมผมปิดหนังสือในมือลงเมื่อคนของคุณพ่อเข้ามาภายในห้องก่อนลุกขึ้นและเดินนำเขาออกไปโดยไม่พูดอะไร เมื่อไปถึงก็พบคุณพ่อ อาธีร์ นั่งอยู่บนโซฟา ภายในห้องนั้นยังมีเด็กชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมอยู่อีกหนึ่งคน"คุณพ่อต้องการพบผม มีอะไรหรือเปล่าครับ"?"นั่งก่อนสิ"ผมเข้าไปนั่งข้างคุณพ่อ มือหนาวางลงบนศีรษะอย่างอ่อนโยนก่อนหันไปเรียกเด็กชายคนนั้นเพื่อมาแนะนำให้ผมรู้จัก"นี่คือมังกร เขาจะมาเป็นผู้คุ้มกันของลูก ลูกคิดว่าเป็นยังไงบ้างล่ะ"ผมมองสำรวจเด็กชายที่มีอายุเท่ากันตั้งแต่หัวจดเท้าก่อนลุกขึ้นประจันหน้า ส่วนสูงของเขาทำให้ผมถึงกับต้องขมวดคิ้ว คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมน้อยคนนักที่จะมีส่วนสูงมากกว่า ไหนจะกล้ามเนื้อที่โตเกินวัยและผิวที่คล้ำแดดนั่นอีก"ผมยังไงก็ได้ครับ" ผมตอบคุณพ่อไปมังกรไม่ใช่เด็กคนแรกที่คุณพ่อพามาให้ผมเลือก ก่อนห
ตอนพิเศษ - เรือนไม้สีขาว..พ่อยอดขวัญยอดดวงใจของพี่แก้ว พี่จะรอพ่ออยู่ ณ ที่แห่งนี้ ตลอดไป..สายลมพัดเอื่อยผ่านมาทางเรือนไม้สีขาว กระทบกระดิ่งลมเกิดเป็นเสียงกังวานฟังเพราะเสนาะหูเรือนไม้สีขาวหลังน้อยปลูกอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางแมกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะแก้วเจ้าจอมที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว ด้านหลังเป็นป่าไผ่ต้นสูงท่วมหัว ถัดออกไปมีบึงน้ำขนาดใหญ่ผ่านอยู่ไหลสายหนึ่งด้วยสุขภาพที่ไม่แข็งแรงทำให้ผมต้องมาอาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้เพียงลำพัง อากาศที่บริสุทธิ์จะช่วยให้อาการป่วยของผมไม่หนักหนาเหมือนตอนอยู่พระนครในแต่ละวันของผมผ่านไปอย่างเชื่องช้าและเงียบเหงานอกจากอ่านตำราและวาดภาพ การไปเดินเล่นริมบึงหลังป่าไผ่ยังไม่สามารถคลายความเบื่อหน่ายนี้ลงไปได้ทิวาผันผ่านล่วงเข้าสู่รัตติกาลแห่งวัน ณ ที่แห่งนี้ยังคงมีเพียงผมเช่นเดิม ผมเคยคิดอยู่บ่อยครั้งว่าจะต้องจบชีวิตอยู่ที่เรือนสีขาวแห่งนี้เพียงลำพัง แต่อย่างน้อยก่อนจะถึงวันนั้นขอให้ความอ้างว้างในใจผมได้เบาบางลงสักนิดก็ยังดีและในที่สุดคำขอก็เป็นจริง เมื่อวันหนึ่งสายลมได้พัดพาคนผู้นั้นเข้ามาในชีวิตของผม"เห็นเดินมาทางนี้นี่นา หายไปไหนแล้วล่ะ""ทางนั้
[23] คิดถึงนะ "มองอะไรอยู่ไอ้ฟ่า ไปกันได้แล้ว" เลิฟเรียกฟีฟ่าที่เอาแต่ยืนมองไปรอบกุฏิของหลวงปู่ ทั้งที่คนอื่น ๆ นั่งรออยู่ในรถกันหมดแล้ว หลังกราบลาหลวงปู่และได้รับพรมาชุดใหญ่ทุกคนจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ คิดว่าฟีฟ่าจะกระดี๊กระด๊ารีบไปให้ไว ที่ไหนได้กลับอิดออดไม่ยอมขึ้นรถสักที "จะไม่มาส่งจริง ๆ เหรอเนี่ย" ฟีฟ่าเริ่มถอดใจเมื่อไม่เห็นเงาหัวของภพภูมิโผล่ออกมาให้เห็น จนได้ยินเสียงเพื่อนเลิฟตะโกนเรียกอีกครั้งจึงรีบเดินไปขึ้นรถ เพราะหากมีครั้งที่สามจะต้องเป็นเสียงเฮียยูโรแน่ "ไอ้คนใจดำ จำไว้เลย ถ้ามาง้อทีหลังไอ้ฟ่าจะไม่ให้ยกโทษให้แน่ คอยดูสิ!!" เขาต่อว่าภพภูมิก่อนมุดตัวเข้าไปในรถและยังแช่งให้คนพี่นอนไม่หลับ ตั้งใจว่าต่อไปจะไม่เป็นหมอนข้างให้อีกแล้ว ยูโรขับรถพาทุกคนมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ตลอดทางราบรื่นไร้อุปสรรค ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านสวนบรรยากาศร่มรื่นที่มีพื้นที่เล็ก ๆ ไว้สำหรับปลูกต้นไม้ขาย ฟีฟ่าฝากให้ป๊าช่วยปลูกต้นไผ่ที่ได้รับมาไว้ที่หลังบ้าน ซึ่งจุดนั้นตรงกับระเบียงห้องของยูโรพอดี ราวกับถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า แม้ไม่ชอบใจแต่ยูโรก็ไม่ได้ขัดอะไร "วันนี้ไม่ออกไปสมัครงานเหรอ
[22] ลาก่อนเรือนไม้สีขาว ภพภูมิยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของกลุ่มมือปืนที่ต่างกำลังจดจ่อวัตถุสีดำมาทางเขา มือหนากำแน่นจนสั่นด้วยความเจ็บใจที่มองไม่เห็นหนทางที่จะช่วยฟีฟ่าเพราะตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย "เจอกันชาติหน้านะครับคุณภพ ป่านนี้คุณพ่อคุณคงรอจนเมื่อยแล้ว" รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏขึ้นบนใบหน้าของธีร์ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องกระหน่ำยิงคนตรงหน้า เมื่อตอนรถตกเหวไปพร้อมกับอดีตนายใหญ่ยังอุตส่าห์รอดชีวิตมาได้ คราวนี้ถ้าไม่ตายก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว "อย่ายิงนะ..พี่ภูมิ!!" ฟีฟ่าตะโกนห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว สมุนของธีร์ลั่นไกแทบจะพร้อมกัน โดยมีเป้านิ่งคือภพภูมิ ปัง! ปัง! ปัง! เอี๊ยดดดดด!! เสียงปืนรัวขึ้นดังจนหูแทบดับแต่ช้ากว่ารถยนต์ติดกระจกกันกระสุนที่ขับพุ่งเข้ามาขวางด้านหน้าของภพภูมิเอาไว้ ร่างสูงย่อตัวลงเพื่อหลบคมกระสุนที่ยิงเลยหลังคารถมาได้อย่างหวุดหวิด "รอพี่นานมั้ยจ๊ะที่รัก" คนในรถลดกระจกลงพลางยักคิ้วข้างหนึ่งทักทายภพภูมิ มือหนาดันแว่นตากันแดดขึ้นพลางขยิบตาให้ "เงียบปากไปเลยไอ้เท็นมะ แล้วไอ้เจย์ล่ะ!" "ไอ้เจย์ไปจัดการข้างบนแล้ว เห็นมันว่าจะไปดูหน้าเมียมันด้วย ช่วงนี้ได้ข่าวว่าติดเ
[21] คนบงการ"ผมขอเสนอให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนต่อไป"เสียงทุ้มพูดชัดเจนทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ธีร์แสดงท่าทีลำบากใจเมื่อถูกคะยั้นคะยอให้ยอมรับ ฝ่ายที่สนับสนุนธีร์ต่างแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าเขาเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่สุดทางด้านฝ่ายที่สนับสนุนอดีตนายใหญ่ต่างหันมองกันด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าเสนอชื่อธีร์ให้ขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไป แต่เสียงของผู้ที่สนับสนุนเขาก็ยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง"ผมเห็นด้วยที่จะให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนใหม่""ผมก็เหมือนกัน""ทุกท่านกรุณาคิดให้ดี ๆ ก่อนนะครับ ผมคิดว่าตัวผมไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกนะครับ" ธีร์ลุกขึ้นยืนและบอกทุกคนในห้องอย่างถ่อมตนในขณะที่หลายคนพยายามผลักดันให้เขาขึ้นรับตำแหน่งให้ได้"คุณธีร์ติดตามอดีตนายใหญ่มานาน ฝีไม้ลายมือย่อมดีกว่าพวกเด็กเมื่อวานซืนเยอะ เพื่อความก้าวหน้าของพรรค ผมขอสนับสนุนคุณธีร์อีกเสียงครับ""ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่คุณธีร์ก็ไม่มีใครเหมาะสมแล้ว"ฝ่ายที่เชียร์ธีร์ต่างส่งเสียงสนับสนุนเขาเต็มที่ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เห็นด้วยแล้วมีจำนวนมากกว่าทำให้ฝ่ายสนับสนุนอดีตนายใหญ่ต้องนั่งเงียบ อยากจะลุกจากเก้าอี้แต่ก็อยากรู้ข้อความ