LOGIN"เป็นอะไรบอกได้มั้ย"เมื่อเห็นมีนาหยุดร้องไห้แล้วอีริคจึงเชยคางเธอขึ้นมามองหน้าตนและถามเธอด้วยความเป็นห่วง
"ไม่มีอะไรค่ะ มินแค่ปวดหัวนิดหน่อยค่ะ คุณอีริคไปนั่งรอก่อนนะคะมินขอเวลาแป๊บเดียวเดี๋ยวเอาอาหารไปเสิร์ฟค่ะ"
อีริคจำต้องเดินไปนั่งดูทีวีรอเธอเงียบๆเพราะไม่อยากให้เธออึดอัดใจ
"ฮัลโหล ว่าไงนะได้มารับที่คอนโดตอนนี้เลย"อีริครับสายพร้อมสีหน้าเคร่งเครียด และรีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อสีดำ กางเกงดำและเสื้อคลุมสีดำดูทะมัดทะแมง ดุดันและน่าเกรงขามในคราวเดียวกัน ซึ่งเป็นลุคที่มีนาไม่เคยเห็นมาก่อน
"อาหารเอาเก็บไว้ก่อนนะผมจะรีบกลับมากิน รอผมอยู่ที่นี่อย่าไปไหนจนกว่าผมจะกลับมา"อีริคเข้าไปจุมพิตที่หน้าผากเธอเบาๆและรีบเดินออกจากห้องไปทันที
ท่าทางรีบเร่งออกไปของเขาทำให้มีนารู้สึกไม่สบายใจนัก ยิ่งตอนนี้ค่ำแล้วยิ่งดูไม่น่าจะมีธุระด่วนอะไรยิ่งทำให้เธอรู้สึกเป็นห่วงเขาอย่างบอกไม่ถูก
“สถานการณ์ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง”อีริคถามมาร์คผู้ช่วยคนสนิทขณะที่รถกำลังมุ่งหน้าออกต่างจังหวัด
“ตอนนี้กลุ่มของคุณกรกำลังตามล่าพวกมันอยู่ในป่าครับ”
“เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปมีกี่คน”
“น่าจะประมาณสิบคนครับ ส่วนที่เหลือกำลังวางแผนเส้นทางตามเข้าไปสมทบครับ”
“พวกมันมีกี่คน”
“เกินสิบครับ มีหลายจุด ครั้งนี้พวกมันกระจายกันไปหลายที่เจ้าหน้าที่จึงต้องแบ่งกันไปครับ”
“ไอ้กรนะไอ้กรมีคนน้อยกว่าแท้ๆยังจะเข้าไปอีก”
ใช้เวลาร่วมสามชั่วโมงอีริคและมาร์คก็มาถึงจุดหมายปลายทาง ทั้งสองคนหยิบเสื้อคลุมที่มีตราอุทยานป่าไม้และปักชื่ออาสาสมัครพิทักษ์ป่าขึ้นมาใส่ก่อนเดินลงรถไปสมทบกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆที่กำลังวางแผนเข้าจับกุมพวกลักลอบตัดไม้ ซึ่งครั้งนี้น่าจะเป็นการจับกุมที่ใหญ่มากเพราะกลุ่มลักลอบตัดไม้กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ทางอุทยานตามตัวมานาน วันนี้ได้รับรายงานจากสายว่ามีการลอบตัดไม้ล็อตใหญ่และมีนายทุนหัวหน้าใหญ่มาดูงานด้วยตัวเอง กรวิชและเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งจึงเข้าไปดูลาดเลาในป่าก่อน
“พี่วัฒน์สวัสดีครับ”อีริคสวัสดีหัวหน้าอุทยาน
“มาทันพอดี กำลังจะแบ่งสายกันออกไปแล้วครับ แต่ครั้งนี้อาจจะเกิดการปะทะกันพวกคุณไหวไหม”วัฒน์ถามอีริคและมาร์คด้วยความเป็นห่วง
“ไหวครับ หัวหน้าสั่งงานมาได้เลยครับ”
“ขอบคุณมากๆนะครับที่มาช่วยกัน”วัฒน์ตบไหล่อีริคและมาร์คเป็นการให้กำลังใจและขอบคุณทั้งสองคน
“ยินดีเสมอครับ”
เมื่อทุกคนเตรียมตัวพร้อมแล้วจึงแบ่งสายกันไปคนละจุดเพื่อล้อมกลุ่มลักลอบตัดไม้เอาไว้ โดยกลุ่มของอีริคมีเขา มาร์ค เจ้าหน้าที่อุทยานและทหารรวมกันสิบคนออกเดินเท้าเข้าไปทางทิศใต้เพื่อตามไปสมทบกับกลุ่มของกรที่ออกเดินทางก่อนหน้าแล้ว เนื่องจากทราบพิกัดจากกรมาก่อนแล้วทุกคนจึงใช้เวลาเดินทางไม่นานนักก็เข้าใกล้กลุ่มของกรและกลุ่มคนที่ลักลอบตัดไม้
“เป็นไงบ้างวะไอ้กร”อีริคถามเพื่อนทันทีที่มาถึง
“พวกมันอยู่ห่างจากเราไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตร พวกเรามีน้อยกูเลยรอกำลังเสริมก่อนจะต้องกระจายกันไป”
หลังจากนั้นทุกคนก็กระจายกันเพื่อตีวงล้อมคนร้าย โดยกร อีริค มาร์ค และทหารอีก 2 นายไปด้วยกัน ทันทีที่กระจายวงล้อมสำเร็จทุกคนก็ให้สัญญาณเพื่อเข้าจับกุมคนร้ายพร้อมกัน
“นายหนีเร็ว!พ่อมา”ลูกน้องคนหนึ่งรีบบอกนายใหญ่ของตนให้หนีเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นคนแปลกหน้ากำลังเดินเข้ามาหากลุ่มของพวกตนพร้อมกับยิงสกัดให้เจ้านาย
ปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนดังก้องทั่วป่า
“ทุกคนระวัง!! มอบตัวเดี๋ยวนี้ตอนนี้เราล้อมไว้หมดแล้ว”ทหารหัวหน้ากลุ่มตะโกนขึ้น
หลังจากนั้นเกิดการยิงปะทะกันเกิดขึ้นเพราะคนร้ายไม่ยอมมอบตัว กรเห็นนายใหญ่ของพวกมันวิ่งหลบไปอีกทางจึงรีบวิ่งตามไป อีริคเมื่อเห็นเพื่อนวิ่งไปคนเดียวก็ตามไปด้วยความเป็นห่วง
กรมัวแต่จ้องเล่นงานนายใหญ่จนลืมมองว่ามีลูกน้องมันตามมาอีกทางและเล็งปืนมาที่เขา อีริคที่ตามมาเห็นว่าเพื่อนกำลังจะโดนยิงจึงรีบเข้าไปผลักเพื่อนออก
ปัง!เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกันกับที่อีริคผลักกรวิชออก
“ไอ้ริค มึงทำบ้าอะไรของมึงวะ มารับกระสุนแทนกูทำไม”กรวิชรีบเข้าไปดูเพื่อนด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นเลือดไหลออกมาจากตัวของเพื่อนรัก
อีริคที่พุ่งบังเพื่อนโดนยิงเข้าที่ไหล่ด้านขวาล้มลงกองกับพื้น ก่อนที่ทหารที่ตามมาสมทบจะยิงขาของคนร้ายจนล้มลงและสามารถจับคนร้ายได้
ลูกน้องคนอื่นๆเมื่อรู้ว่านายใหญ่โดนจับแล้วจึงมอบตัวหลังยิงต่อสู้กันอยู่นาน
“ไอ้ริคมึงทำใจดีๆไว้ฮอกำลังมารับมึงอย่าเป็นอะไรนะโว้ย”
“กูไม่เป็นไรกูโอเค”อีริคบอกเพื่อนด้วยเสียงแผ่วเบาก่อนจะสลบไป
ณ โรงพยาบาล
การผ่าตัดเอากระสุนออกจากไหล่ของอีริคผ่านไปด้วยดี แต่ด้วยฤทธิ์ยาสลบทำให้ผ่านมาสองชั่วโมงแล้วเขายังไม่ฟื้น
“ไอ้นี่มันบ้าระห่ำ ไม่รู้จะมารับกระสุนแทนผมทำไม”กรที่นั่งเฝ้าเพื่อนอยู่ในห้องพักผู้ป่วยบ่นกับมาร์ค
“นายคงเป็นห่วงคุณกรมากน่ะครับเลยไม่ทันระวังตัว”
“มันเป็นบ้า ชีวิตมันน่ะยังมีคนที่ต้องพึ่งพามันอีกเยอะ ชอบเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยง”
“ขณะนี้มีรายงานด่วนว่าเจ้าหน้าที่อุทยานและทหารบุกเข้าจับกุมกลุ่มลักลอบตัดไม้ในอุทยาน ทำให้เกิดการปะทะกันและมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหนึ่งนาย ตอนนี้นำส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ส่วนกลุ่มคนร้ายเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ทั้งหมดถือเป็นการทลายกลุ่มลักลอบตัดไม้ครั้งใหญ่ในประเทศ”เสียงผู้ประกาศข่าวประกาศข่าวด่วนผ่านหน้าจอทีวี
“ข่าวเร็วจังเลยนะครับ”มาร์คคุยกับกรเมื่อเห็นข่าว
มีนาเมื่อเห็นข่าวทางหน้าจอทีวีก็นึกเป็นห่วงอีริคขึ้นมาแปลกๆ ทั้งที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาออกไปไหนแต่ตอนนี้จนจะตีหนึ่งแล้วยังไม่เห็นเขากลับมาเลย
...กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง...
"ฮัลโหลค่ะคุณมาร์ค"
"ผมกำลังส่งรถไปรับที่คอนโดนะครับ อีกไม่เกินยี่สิบนาทีน่าจะถึง คุณมีนาเตรียมตัวให้พร้อมนะครับเอาชุดมาเผื่อด้วยสักสองสามชุดนะครับ ผมฝากจัดชุดเผื่อนายด้วยครับ"
"จะให้ไปไหนคะ"
"ถึงแล้วจะรู้เองครับ"
เมื่อวางสายจากมาร์คมีนารีบเตรียมตัวตามที่เขาบอกทันที ทั้งที่ไม่รู้ว่าไปที่ไหนแต่ใจเธอกลับรู้สึกหวิวๆสังหรณ์ใจว่าจะไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่
"ใครคือมิน"กรวิชถามมาร์คด้วยความสงสัย เพราะตอนนี้อีริคไข้ขึ้นสูงละเมอเรียกชื่อมีนาตลอดเวลาจนมาร์คตัดสินใจส่งคนขับรถไปรับมีนามาเฝ้าไข้เขาที่โรงพยาบาล
"รอนายฟื้นแล้วคุณกรค่อยถามเอาเองนะครับ เรื่องส่วนตัวนายผมไม่อยากพูดเยอะครับ"
"เดี๋ยวนี้หัดมีลับลมคมในกันนะ"
"ทำไมถึงให้มาที่นี่คะ"เมื่อมีนาลงจากรถก็ถามมาร์คที่มายืนรอรับเธอด้วยความสงสัยทันที ในใจก็กลัวจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาคนนั้นคนที่เธอกำลังเป็นห่วงอยู่"เข้ามาข้างในก่อนครับเดี๋ยวก็รู้เอง"มาร์คเดินนำมีนาเข้ามาที่ห้องพักผู้ป่วยทันทีที่เปิดประตูเข้าห้องพักผู้ป่วยมีนาเห็นอีริคนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยก็รีบเดินเข้าไปดูเขาพร้อมกับถามมาร์คว่าเกิดอะไรขึ้นโดยไม่ทันสังเกตว่ามีใครบางคนนั่งอยู่บนโซฟาในห้องด้วย"นายถูกยิงครับ ตอนนี้ผ่าตัดเอากระสุนออกเรียบร้อยแล้วแต่ไข้ขึ้นสูง เพ้อหาแต่คุณมีนาผมก็เลยต้องให้รถไปรับคุณมานี่แหละครับ""ไปทำยังไงถึงได้ถูกยิงคะ""อย่าบอกนะว่ามินที่ไอ้ริคมันเพ้อหาคือสาวน้อยแสนสวยคนนี้"กรที่นั่งฟังทั้งสองคนคุยกันอยู่นานถามขึ้น ตอนนั้นเองถึงทำให้มีนาเห็นอีกคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งของห้อง"ใช่ครับ"มาร์คตอบ"เอ่อ สวัสดีค่ะ หนูชื่อมีนาค่ะ เรียกมินเฉยๆก็ได้ค่ะคุณ...""พี่ชื่อกรครับเป็นเพื่อนสนิทไอ้ริค ไม่ยักรู้ว่าไอ้ริคมีแฟนแล้ว ไอ้นี่มันเสือซุ่มนี่หว่า เข้าใจเลือกแฟนด้วย"กรพูดด้วยรอยยิ้ม เพราะไม่คิดว่าจะได้เห็นหน้าแฟนของเพื่อนรักเพราะเขาหยิ่งและเรื่องมากจนไม่คิดว่าจะมีใครอยู่กับเขาได้"ไม่
"เป็นอะไรบอกได้มั้ย"เมื่อเห็นมีนาหยุดร้องไห้แล้วอีริคจึงเชยคางเธอขึ้นมามองหน้าตนและถามเธอด้วยความเป็นห่วง"ไม่มีอะไรค่ะ มินแค่ปวดหัวนิดหน่อยค่ะ คุณอีริคไปนั่งรอก่อนนะคะมินขอเวลาแป๊บเดียวเดี๋ยวเอาอาหารไปเสิร์ฟค่ะ"อีริคจำต้องเดินไปนั่งดูทีวีรอเธอเงียบๆเพราะไม่อยากให้เธออึดอัดใจ"ฮัลโหล ว่าไงนะได้มารับที่คอนโดตอนนี้เลย"อีริครับสายพร้อมสีหน้าเคร่งเครียด และรีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อสีดำ กางเกงดำและเสื้อคลุมสีดำดูทะมัดทะแมง ดุดันและน่าเกรงขามในคราวเดียวกัน ซึ่งเป็นลุคที่มีนาไม่เคยเห็นมาก่อน"อาหารเอาเก็บไว้ก่อนนะผมจะรีบกลับมากิน รอผมอยู่ที่นี่อย่าไปไหนจนกว่าผมจะกลับมา"อีริคเข้าไปจุมพิตที่หน้าผากเธอเบาๆและรีบเดินออกจากห้องไปทันทีท่าทางรีบเร่งออกไปของเขาทำให้มีนารู้สึกไม่สบายใจนัก ยิ่งตอนนี้ค่ำแล้วยิ่งดูไม่น่าจะมีธุระด่วนอะไรยิ่งทำให้เธอรู้สึกเป็นห่วงเขาอย่างบอกไม่ถูก“สถานการณ์ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง”อีริคถามมาร์คผู้ช่วยคนสนิทขณะที่รถกำลังมุ่งหน้าออกต่างจังหวัด“ตอนนี้กลุ่มของคุณกรกำลังตามล่าพวกมันอยู่ในป่าครับ”“เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปมีกี่คน”“น่าจะประมาณสิบคนครับ ส่วนที่เหลือกำลังวางแ
"เชิญลงรถได้แล้วครับคุณหนู""ลงไปเปิดประตูให้ชั้นสิ ถ้าไม่เปิดชั้นจะลงยังไง"เมษาบ่นคนขับรถ ทำเอาคนขับรถส่ายหัวเบาๆคิดว่าเธอช่างแตกต่างจากพี่สาวโดยสิ้นเชิง"คุณเมษามาแล้วหรอครับ ห้องพักของคุณอยู่ทางนี้ครับ"มาร์คพาเมษาไปที่ห้องพักซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องพักของมีนา"อี๋ จะให้ชั้นอยู่ห้องเล็กแบบนี้หรอ""คุณอีริคสั่งไว้ครับ แล้วก็สั่งให้บอกหน้าที่ของคุณด้วยคือคุณต้องทำงานบ้าน ซักผ้า ทำกับข้าวด้วยครับ""เรื่องนั้นชั้นรู้อยู่แล้ว นายไม่ต้องห่วงว่าแต่คุณอีริคเขาไม่อยู่บ้านหรอ""นายจะกลับมาค่ำๆครับตอนนี้นายสั่งให้ผมดูคุณทำความสะอาดและทำอาหารครับ"หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วเมษาเริ่มลงมือทำความสะอาดบ้านด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ ทำอะไรก็ไม่เสร็จสักอย่างทำงานห้านาทีนั่งพักอีกสิบนาที พอถึงเวลาต้องทำอาหารเธอก็เอาอาหารแช่แข็งมาอุ่นร้อน จนมาร์คต้องบอกให้เธอไปทำมาใหม่ส่วนอีริคเมื่อเลิกงานแล้วก็กลับมาหามีนาที่คอนโด ตอนนี้เขาคุ้นชินกับการทานข้าวฝีมือเธอแล้วต่อให้เลิกค่ำแค่ไหนก็จะรอกินอาหารที่เธอทำ"วันนี้มีอะไรกิน หอมจัง""พึ่งทำเสร็จเลยค่ะ คุณทานได้เลยค่ะ""ไม่กินด้วยกันหรอ"เขาถามเธอเพราะเห็นเธอเดินกลับไปน
"ตัวคุณก็ไม่ได้เหม็นหนิ"อีริคบอกมีนาหลังจากที่ก้มลงสูดดมกลิ่นกายเธอ ทำให้มีนาอึ้งกับการกระทำของเขาแต่ต้องทำใจดีสู้เสือทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"ปล่อยเถอะค่ะ มินจะทำอาหารต่อ""คุณคิดว่าถ้าคุณอยากให้ปล่อยผมก็ต้องปล่อยอย่างนั้นหรอ""เปล่านะคะ""หึ รีบทำผมหิวแล้ว"อีริคเมื่อแกล้งคนตัวเล็กจนพอใจแล้วก็คลายอ้อมกอดออกจากเธอและเดินไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร"เรื่องวันนี้มินขอโทษคุณอีกครั้งนะคะ""ขอโทษครั้งที่เท่าไหร่แล้วจำได้รึเปล่า คุณไม่คิดจะไถ่โทษด้วยวิธีอื่นบ้างหรอ"อีริคเดินเข้าไปหามีนาที่กำลังเก็บจานไปล้างอยู่และจับเธอหันหน้าเข้ามาหาตัวเอง"เอ่อ จะให้มินทำอะไรล่ะคะ"มีนาถามเขาพร้อมกับใจเต้นแรง ตอนนี้เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองมากๆไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไรรู้สึกว่าภายในตัวตอนนี้ร้อนไปหมด ยิ่งเวลาที่เขาจ้องมองเธอยิ่งรู้สึกประหม่าและไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร"เธอคิดว่าไง"อีริคโน้มหน้าลงไปใกล้เธอยิ่งขึ้นจนมีนาหน้าแดงก่ำร้อนวูบวาบไปทั้งตัวอีริคจ้องมองใบหน้าสวยของมีนาอยู่นานก่อนจะทำในสิ่งที่มีนาไม่เคยคิดมาก่อน เขาก้มลงประกบริมฝีปากจูบเธออย่างดูดดื่ม มีนาตาเบิกโพลงด้วยความตกใจแต่ก็ไม่ได้ห้ามหรือข
หลังจากวันนั้นที่เมษาเจอมีนาอยู่กับอีริคในห้างสรรพสินค้า เธอแอบสืบจนรู้ว่ามีนาทำงานที่บริษัท RIC electronics เธอมาดักรอมีนาหน้าบริษัทรอเวลาจนมีนาเลิกงานเพราะอยากสะกดรอยตามไปที่บ้านของอีริค เมื่อเมษาเห็นมีนาขึ้นรถประจำทางกลับบ้านก็ขับตามมาจนเห็นเธอเดินเข้าบ้านทรงโมเดิร์นสีเทาเข้มหลังใหญ่ บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ห่างจากบ้านหลังอื่นๆพอสมควร ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง เธอขับรถมาหยุดที่หน้าบ้านก่อนที่จะลงไปกดกริ่งและยืนรออยู่ครู่หนึ่งมีนาก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากบ้านเพราะคิดว่าเป็นรถของอีริค แต่เมื่อเห็นคนที่ยืนรออยู่หน้าบ้านทำให้มีนาตกใจมากเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้คือเมษาน้องสาวของเธอเอง"น้องเมย์มาได้ยังไง""เมย์และคุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงพี่มินไงคะ เลยให้เมย์มาดูว่าพี่เป็นยังไงบ้าง""พี่สบายดี ถ้าไม่มีอะไรแล้วเมย์กลับไปก่อนเถอะนะเดี๋ยวคุณอีริคกลับมาเขาจะดุเอา""ดุเรื่องอะไรกันคะ แค่น้องเป็นห่วงพี่แวะมาเยี่ยมพี่ไม่เห็นจะต้องดุเลยนี่คะ"เมษาทำหน้ามึนใส่มีนา"นะเมย์ถือว่าพี่ขอร้องนะ เมย์กลับไปก่อนเถอะ"ยังไม่ทันที่สองพี่น้องจะคุยกันเรียบร้อยรถของอีริคก็วิ่งเข้ามาจอดในบ้าน ทันทีที่ลงจากรถเขาก็ขม
"พ่อคะ ถ้าครบหนึ่งปีแล้วพ่อจะเอาเงินไปไถ่ตัวพี่มีนามั้ยคะ""จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงล่ะลูก ตอนนี้พ่อกำลังขายหุ้นและทรัพย์สินที่เรามีถ้าขายได้เงินมากพอแล้วเราจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศกัน ปล่อยให้พี่เค้าอยู่ใช้หนี้ไป""ใช่ ดูสิพี่เค้าย้ายไปตั้งนานแล้วไม่เห็นส่งข่าวมาเลยสงสัยจะชอบ น่าจะมีความสุขดี แม่ว่าเราไม่ต้องไปสนใจพี่เค้าหรอก"สามพ่อแม่ลูกคุยกันด้วยรอยยิ้มและท่าทางมีความสุข โดยไม่สนใจชีวิตความเป็นอยู่ของมีนาลูกสาวคนโตเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังวางแผนจะหนีไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขพร้อมกับหอบสมบัติไปด้วยไม่คิดแม้แต่จะหาเงินมาใช้หนี้ด้วยซ้ำ"นายครับ ผมได้ข่าวว่าคุณทรงพลกำลังเทขายหุ้นของตัวเองออกและประกาศขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีทุกอย่างเลยครับ"มาร์คผู้ช่วยคนสนิทเข้ามารายงานอีริค"ดีไปกว้านซื้อมาให้หมด""แต่นายครับ ผมคิดว่าที่เขาประกาศขายทุกอย่างไม่น่าจะเพราะต้องการเอาเงินมาใช้หนี้นายแต่ดูเหมือนเขาตั้งใจจะหนีหนี้มากกว่านะครับ กลัวว่านายจะเสียเงินสองต่อนะครับ""ผมรู้แค่อยากลองใจคน ทำตามที่บอกก็พอ""แล้วเรื่องคุณมีนา เอ่อ นายจะเอายังไงครับ""ไม่เอายังไงก็อยู่แบบนี้ ถ้าเธอยังทำงานให้เราได้อยู่ก็ให้ทำไป"







