มื้อเย็นก็เป็นชายหนุ่มที่ต้องลงมือทำ เพราะหลังจากที่แหกปากเรียกหญิงสาวแล้วเหมือนพูดกับตอไม้ เพราะนอกจากเธอจะไม่ขยับแล้วยังทำท่าทางกวนโมโห ธนากรจึงปล่อยเลยตามเลย
หลายครั้งที่ชายหนุ่มโมโหให้คนงาน เรื่องความไม่สะดวกของอุปกรณ์ครัวแต่ก็ต้องถอนหายใจ เพราะเขาเป็นคนสั่งพวกมันเองว่าให้เตรียมของพวกนี้เอาไว้ ก็เขาต้องการเอาไว้ทรมานยายคุณหนูนั่น ไม่ใช่ทรมานตัวเองแบบนี้ ธนากรทำไปบ่นไปแต่ก็ทำจนเสร็จ หลายครั้งที่ ตาคมเข้มชำเลืองไปทางคนที่นั่งพิงเสา ก่อนจะอมยิ้มเมื่อเห็นเธอ เอาผ้าถุงที่เขาโยนให้มาปิดช่วงล่างเอาไว้ ไหนว่าอยากโชว์ ไม่แน่จริง นี่หว่า
“โอ๊ย!”
ร่างสูงร้องออกมาอย่างลืมตัว เมื่อแขนไปโดนกับหม้อข้าวที่กำลังเช็ดน้ำ เพราะมัวแต่มองคนที่ทำท่าจะเคลิ้มหลับอยู่กลางบ้าน ชายหนุ่มยอมรับว่าหุงข้าวแบบนี้เป็นอะไรที่ลำบากมาก เวลาที่เขาไม่อยู่ ยายคุณหนูนี่คงอดตายแน่นอน
อารดานั่งมองชายหนุ่มหยิบนั่นจับนี่อย่างเพลินตา ธนากรก็เป็นผู้ชายที่ดูดีคนหนึ่ง อาจจะไม่หล่อเนี้ยบเหมือนหนุ่มไฮโซ แต่ก็จัดว่า คมคาย ถ้าเธอเจอเขาในสถานการณ์ปกติ ก็ต้องยอมรับว่าเขาก็เป็นผู้ชายที่น่ามองคนหนึ่ง
ตากลมโตมองสำรวจไปทั่ว ที่นี่ลมเย็นสบาย ถึงแม้จะเป็นลมทะเลแต่ก็สดชื่น น่าจะเป็นเพราะมีต้นไม้ใหญ่อยู่บริเวณนี้ค่อนข้าง มาก จึงทำให้ลมที่พัดมาไม่ร้อนเหมือนลมทะเลทั่ว ๆ ไป
หญิงสาวนั่งหลับตา รู้สึกปวดหัวและเจ็บคอ ความหิวบวกกับความเพลีย แถมร่างกายยังอ่อนล้า เมื่อมาเจอลมพัดเย็นสบายแบบนี้ ไม่นานคนที่นั่งพิงเสาก็เคลิ้มหลับ
ธนากรหันไปมองคนร่างบาง เมื่อตักไข่เจียวใส่จาน เป็นอันสิ้นสุดมื้อเย็นที่ยุ่งเหยิง ดวงตาคมเข้มอ่อนแสงลงเมื่อเห็นดวงตากลมโตปิดสนิท ผู้หญิงคนนี้น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับแก้วสุนีย์ เพราะเธอเรียก ภพธรอย่างสนิทสนม น่าจะอายุมีอายุไล่เลี่ยกัน ร่างสูงถอนหายใจ เมื่อไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับเธอต่อดี ยอมรับว่าที่พาเธอมาถึงที่นี่ก็เพราะความโมโห แต่เมื่อหายแล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ พ่อเธอเป็นคนมีอิทธิพล เขาคงถูกหมายหัว อีกไม่นานรีสอร์ตของเขาคงลุกเป็นไฟแน่นอน
“ตอนทำไม่คิดนะมึง”
ก่นด่าตัวเองเมื่อเตรียมอุปกรณ์จานชามเสร็จเรียบร้อย เหลือแต่มาเชิญเสด็จยายหัวฟูนั่นมากินอย่างเดียว ต้องรีบแล้ว เพราะอีกไม่นานก็จะมืด เขาไม่ได้ทำที่อาบน้ำไว้ที่นี่ ต้องเดินไปอาบที่น้ำตกด้านหลังกระท่อม ถ้ามืดแล้วจะเดินลำบาก
เกาะที่เขาพาเธอมาคือเกาะเสน่ห์จันทร์ ที่นี่เป็นมรดกตกทอดของตระกูลเขา และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เขามีศัตรูเพิ่ม เพราะนอกจากเกาะมุกแล้ว เกาะเสน่ห์จันทร์ก็เป็นที่ต้องการของเหล่านายทุน เพราะที่นี่มีทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม
บนเกาะนี้ยังมีชาวบ้านอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง แต่จุดที่เขาพาเธอมา เป็นอีกฝากหนึ่งของเกาะ คนที่นี่จะรู้ว่าตรงจุดนี้ เป็นพื้นที่ส่วนตัว ของเขา คนนอกจะไม่เข้ามาถ้าไม่ได้รับคำสั่งจากเขา คนที่นี่อยู่กัน อย่างมีระเบียบ เพราะธนากรมีระบบการจัดการกับชาวบ้านที่ดี หวังว่าช่วงที่เขาไม่อยู่อารดาคงจะไม่เดินไปจนรอบเกาะ เพราะถ้าเป็น อย่างนั้น เธอจะรู้ทันทีว่าที่นี่ไม่ได้น่ากลัว เหมือนที่เขากำลังสร้างภาพหลอกเธอ
“อารดา! อารดา! ลุกมากินข้าว!” ชายหนุ่มตะโกนเรียก แต่ อารดายังคงนั่งเฉย
“อารดาลุกมากินข้าวเดี๋ยวนี้!” เสียงแหบห้าวตะโกนลั่น เมื่อคนที่เขาเรียกยังไม่ยอมขยับตัว
เมื่อหมดความอดทน น้ำที่อยู่ในขันใกล้ ๆ ก็ถูกสาดมาที่หน้าคนหลับอย่างแรง อารดาสะดุ้งเฮือก รู้สึกถึงความเปียกแฉะที่มากระทบใบหน้า แต่ตอนนี้ในหัวเธอหนักอึ้ง แรงจะลืมตาก็แทบจะไม่มี นี่เขาจับเธอกดน้ำอีกแล้วใช่ไหม เชิญเถอะ... จะเอาเธอไปขึ้นเขาลงห้วยที่ไหน ก็เชิญ หญิงสาวคิดอย่างอ่อนแรง
ธนากรหัวเสีย เมื่อคนร่างบางทำแค่ขยับตัวไปมา ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบน้ำออกจากหน้า แล้วหลับต่อ
“หลับหรือตายวะ!”
ชายหนุ่มสบถลั่นแล้วก้าวอาด ๆ มายังคนที่นั่งหลับ เรียกก็แล้ว เอาน้ำสาดก็แล้ว สงสัยต้องใช้ไม้แข็ง ชายหนุ่มคิดก่อนจะถกแขนเสื้อขึ้นทั้งสองข้าง
“อารดา! อารดา! อาร...” คำว่า ‘ดา’ ถูกกลืนลงคอ เพราะทันทีที่ฝ่ามือใหญ่สัมผัสกับต้นแขนเรียว ธนากรก็รู้สึกถึงความร้อนที่ระอุขึ้นมาจากผิวเนื้อของเธอ มือแกร่งชะงักค้าง ก่อนจะจับลงมาบนต้นแขนเรียวอีกครั้ง ไม่เพียงแค่ต้นแขน มือของเขายังสัมผัสไปบนหน้าผาก ก่อนจะมาหยุดบริเวณแก้มที่ซีดจนไร้สีเลือดของเธอ ชัดล้านเปอร์เซ็นต์... ยายคุณหนูนี่ถูกไข้เล่นงานเข้าแล้ว เป็นไงล่ะ... ทั้งตากแดด ตากลม โดนน้ำ แถมยังจับกดน้ำอีก สะใจไหมไอ้นะ ธนากรถามตัวเอง ก่อนจะตบลงบนต้นแขนเรียวเบา ๆ
“อารดา... อารดา ตื่นมากินข้าวก่อน เดี๋ยวจะได้กินยา”
ไม่มีเสียงตอบ มีเพียงเสียงอู้อี้ในลำคอที่เจ้าตัวเปล่งออกมา แต่มันฟังไม่ได้ศัพท์
“กินข้าว...”
“ไม่ค่ะ อ้อมปวดหัว” อารดาตอบเมื่อรู้สึกว่ามีคนมากวนใจ
“ลุกมากินข้าวก่อน เดี๋ยวกินยาแล้วจะได้นอนยาว ๆ”
“อ้อมปวดหัวค่ะ”
“รู้แล้ว ต้องกินข้าวก่อนไง ถึงจะกินยาได้ ไม่ได้กินอะไรเลยมา ทั้งวัน ท้องว่างเดี๋ยวยากัดกระเพาะ” ธนากรเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจือความเอ็นดู อยู่ ๆ ก็รู้สึกสงสารขึ้นมา
“พี่โอเหรอคะ พี่โอมาช่วยอ้อมเหรอ อ้อมหนาว”
“...”
ธนากรถอนหายใจ เมื่อความรู้สึกผิดถาโถมเข้าใส่ เขาทำรุนแรงไปใช่ไหม เธอถึงได้เก็บมาละเมอแบบนี้
“กรรม!” ชายหนุ่มพูดขึ้น ก่อนจะช้อนร่างบางเข้าสู่วงแขนแล้วเดินเข้าไปในส่วนที่เป็นห้องนอน
“ถอดเสื้อผ้าไหวไหม เฮ้อ! สภาพนี้คงไหวนะมึง”
พูดเองเออเองก่อนจะเริ่มจัดการกับคนป่วย ชายหนุ่มลังเลเพราะไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ก่อนจะกลั้นใจแล้วลงมือแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออกเป็นอันดับแรก
“จะสั่นทำไมวะ มากกว่านี้มึงก็เคยทำมาแล้ว” พูดกับตัวเองเมื่อบังคับมือไม่ให้สั่น ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ ทุกครั้งที่กระดุมหลุดจากกัน แล้วเผยให้เห็นผิวเนื้อใต้ร่มผ้า ส่วนที่พ้นเสื้อถูกแดดเผาจนไหม้ ก็จริง แต่ส่วนที่อยู่ในเนื้อผ้าก็ยังเหมือนเดิม จนทำให้คนบางคนใจสั่น ยามที่มือสัมผัสไปโดนผิวเนื้อนุ่มนิ่ม
“ตกลงป่วยจริงหรืออ่อยกันแน่วะ” พูดกับตัวเอง ไม่ได้หวังเอาคำตอบ เพราะตอนนี้บุรุษพยาบาลจำเป็นเดินมาตักน้ำจากตุ่มใส่กะละมัง ต้องเช็ดตัวให้เธอก่อน เพราะวันนี้อารดาเปียกน้ำมาทั้งวัน แถมยังเป็นน้ำทะเลอีกด้วย ปล่อยให้นอนแบบนั้นคงไม่สบายตัว มือใหญ่ที่กำลังบิดผ้าผืนเล็กชะงัก เมื่อคิดได้ว่าเธอจะนอนสบายหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับเขา ดีเสียอีกให้เป็นไข้จะได้ทรมาน แล้วตายไปให้พ้น ๆ คิดแล้วก็สาดน้ำในกะละมังทิ้ง พร้อมกับขว้างของในมือลงพื้นด้วยความเกรี้ยวกราด ร่างสูงนับหนึ่งถึงสิบในใจก่อนจะโดดลงจากกระท่อม
“ห่าเอ๊ย! ถ้าใจมึงไม่แข็งก็อย่าเสือกปากดี กูเหนื่อย”
นาทีนี้ธนากรเหมือนคนบ้า เพราะรู้สึกว่ามีเงาของใครอีกคนอยู่ในตัวเขา คนหนึ่งบอกให้เขาใจร้าย ในขณะที่อีกคนหนึ่งบอกให้เขาสงสารเธอ
หลังจากเสร็จพิธีแล้วธนากรกับอารดาก็ถูกส่งตัวขึ้นมา ชั้นบนซึ่งเป็นห้องนอนของหญิงสาว หนุ่มสาวต่างมองหน้ากันเพราะ ไม่คิดว่าจะมีขั้นตอนนี้ปนอยู่ด้วย ธนากรตั้งใจว่าหลังจากเสร็จพิธีแล้ว จะขับรถไปหาแก้วสุนีย์ที่โรงพยาบาล แล้วจะพาอารดากลับใต้เลย แต่นี่กลายเป็นว่าเขาต้องอยู่บ้านเจ้าสาวก่อนเจ็ดวัน ตามที่ผู้ใหญ่ ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน“คิดอะไรอยู่คะ”อารดาเดินเข้ามาสวมกอดสามีจากทางด้านหลังเมื่อเห็น ชายหนุ่มยืนมองออกไปนอกหน้าต่างนานแล้ว“บ้านอ้อมใหญ่มากนะครับ” ธนากรหันกลับมาชวนคุย เมื่อมองไปสุดพื้นที่บริเวณรั้วบ้าน“ค่ะ ก็บ้านอ้อมรวยนี่คะ”อารดาตอบสามี ของคำตอบหญิงสาวเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาได้เป็นอย่างดี ธนากรรู้ว่าภรรยากำลังประชดเขาเพราะหลังจากที่เขาโชว์โฉนดที่ดิน อารดาก็รู้ทันทีว่าครอบครัวของธนากร ไม่ใช่ชาวสวนธรรมดา คนที่จะมีที่ดินบนเกาะได้ก็ต้องรวยมหาศาลเช่นกัน“พี่นะคะ ที่ดินบนเกาะนั่นยกให้อ้อมจริง ๆ เหรอคะ” หญิงสาวถามเพราะชายหนุ่มยืนยันว่าให้เธอ“ใช่ครับ พี่ยกให้แล้วอ้อมจะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่อ้อม”“ถ้าอ้อมจะทำรีสอร์ตล่ะคะ”“ก็ตามนั้นครับ” ธนากรตอบภรรยา ทั้งที่ใจจริงแล้วเ
คุณอรอุมานั่งหน้าตาบูดบึ้ง เมื่อคนรับใช้ขึ้นมารายงานว่า ขบวนที่เดินทางมาสู่ขออารดามาถึงแล้ว วันนี้เป็นฤกษ์ดีทางบ้าน ฝ่ายชายจึงเดินทางมาสู่ขอลูกสาวนาง ยังจะมีเรื่องอะไรให้นางช็อกมากไปกว่านี้อีกไหม เมื่ออาทิตย์ที่แล้วอารดาควงแขนคู่หมั้นบุกมา ถึงบ้าน เพื่อมาบอกกับนางว่าเธอกับคู่หมั้นตกลงที่จะถอนหมั้นกัน เพราะต่างคนต่างมีคนที่ตัวเองรัก และที่ทำให้นางช็อกจนแทบสติหลุดก็คือลูกสาวตัวดีบอกกับนางว่าที่หายไปหลายเดือนเธอไปอยู่กับสามี ที่มีอาชีพเป็นชาวสวนยาง“ใครจะมาก็ช่าง ฉันไม่สนใจหรอก ไปบอกคุณผู้ชายนะว่าฉัน ไม่ว่าง” บอกกับคนรับใช้ เพราะไม่อยากลงไปสนิทชิดเชื้อกับคนที่อยู่ คนละชั้นกับนาง คิดแล้วก็พาลให้โมโห คุณมนตรียอมเข้าไปได้อย่างไร มีดองเป็นชาวสวนยางเนี่ยนะ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น อารดาก็เหลือเกิน หลุดจากช่างก่อสร้างมาได้ยังโล่งใจไม่ได้เท่าไร สุดท้ายไปคว้าหนุ่ม สวนยางมาเป็นสามี ให้มันได้อย่างนี้... ลูกสาวคนเดียวที่นางฟูมฟักมายิ่งกว่าไข่ในหิน“ลงไปหน่อยนะคะคุณผู้หญิง สงสารคุณหนูนะคะ” สายพินแม่บ้านเก่าแก่พยายามหว่านล้อม เพราะนางสงสารคุณหนูของนาง“ลงไปให้เขาหัวเราะเยาะน่ะเหรอ ตระกู
ธนากรพารถกระบะคู่ใจมาจอดที่สวนสาธารณะที่เขา ชอบมานั่งเล่น สมัยที่เรียนอยู่กรุงเทพฯ ครั้งสุดท้ายที่เขามาสวนแห่งนี้ ก็ตอนที่เขาอกหักจากมินรญา แล้วบังเอิญมาเจอกับอารดาเป็นครั้งที่สาม ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกับตัวเองเมื่อคิดถึงหน้าคนรัก ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงที่ขี้เหวี่ยงขี้วีนและน่ารำคาญคนนั้นจะกลายมาเป็นคนที่เขารักสุดหัวใจครืด… ครืดมือถือเครื่องบางสั่นอีกครั้ง ตาคู่คมทำเพียงแค่ปรายตามอง ก่อนจะกระดกเบียร์ในกระป๋องลงคอ อยู่ ๆ ก็เกิดน้อยใจจนพาล ไม่อยากรับสาย ไม่อยากอ่านแชต และไม่สนใจข้อความที่เธอส่งมา เพียงแค่คิดว่าฐานะอย่างเขาไม่คู่ควรกับเธอ เธอมีคู่หมั้นแล้วจริง ๆ ใช่ไหม ความน้อยใจความเสียใจประเดประดังเข้ามา เบียร์ในมือถูกสาดลงคอรวดเดียวหมดกระป๋อง ก่อนที่กระป๋องใหม่จะถูกเปิดแล้วดื่มลงคออีกอึกใหญ่ ๆ“มาทำอะไรตรงนี้คะ”เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ร่างสูงที่จมอยู่กับความคิดของตัวเองสะดุ้ง อารดาถอนหายใจ เธอคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่มาที่สวนนี้เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยเจอกับเขาที่นี่“อ้อม...”ชายหนุ่มมองคนที่ยืนเท้าเอวตรงหน้า ก่อนจะครางชื่อเธอออกมาเบา ๆ มือแกร่งยกขึ้นขยี้ตา หรือว่าเขาจะเ
หลายวันต่อมา... ธนากรตัดสินใจเดินทางมาหาคนรักที่กรุงเทพมหานคร เมื่อรู้สึกว่าการคุยกันผ่านโทรศัพท์มือถือไม่เพียงพอต่อความคิดถึง ครั้งหนึ่งเขาเคยเสียคนรักไปเพราะคำว่าไว้ใจจึงกลัวว่าทุกอย่างมันจะซ้ำรอย ธนากรเคลียร์งานทุกอย่างให้เรียบร้อย เขามีเวลาอยู่กรุงเทพฯ ได้เป็นอาทิตย์ ชายหนุ่มโทร. หาแก้วสุนีย์ บอกเรื่องราวที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ให้เธอทราบ เขาเลือกที่จะไม่ไปเจอกับมินรญา เพราะทุกอย่างมันจบไปแล้ว ตอนนี้หัวใจของเขามีแค่อารดาคนเดียวเท่านั้นชายหนุ่มขับรถยาวไม่หยุดพัก เพราะอยากเจอคนรักให้เร็วที่สุด เรื่องขึ้นมากรุงเทพฯ เขาไม่ได้บอกให้อารดารับรู้ เพราะอยากเซอร์ไพรส์เธอ ชายหนุ่มรู้ว่าจะไปพบคนรักได้ที่ไหน เพราะเธอบอกที่อยู่ที่บ้านและที่ทำงานของเธอเอาไว้ กระบะโฟร์วีลสี่ประตูขับเข้ามาจอดใต้อาคารขนาดใหญ่ที่ชื่อบริษัทตรงตามที่อารดาบอกไว้ ชายหนุ่มเลือกที่จะมาหาเธอที่นี่เพราะยังไม่กล้าเข้าบ้านทันทีที่รถของเขาหักพวงมาลัยเข้ามา รปภ.ที่อยู่หน้าป้อมก็เป่านกหวีดดังลั่น พร้อมกับโบกให้รถเขาออกมาจากใต้อาคาร ไม่นานก็มี รปภ.อีกคนวิ่งเข้ามาช่วยกันขวางรถเขาเอาไว้ พร้อมกับโบกมือให้เขาออกไป“จอดไม่ได้เหรอครับ
รถสปอร์ตคันหรูขับเข้ามาจอด ยังจุดประจำที่ของตัวเอง ก่อนที่ร่างบางในชุดกระโปรงสูทแบบทำงานเข้าชุด จะเดินออกมาอย่างสวยสง่า รปภ.ที่อยู่ประจำจุดค้อมหัวให้อย่างสุภาพ เมื่อผู้บริหารระดับสูง พนักงานต่างก็ยกมือไหว้เมื่อเห็นเธอเดินผ่านไป อารดายิ้ม ในหน้าชีวิตเธอก็มีแค่นี้ ไม่ต่างอะไรกับเครื่องจักรที่มีชีวิต ทำงานเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น เพื่อก้าวขึ้นมายืนเป็นที่หนึ่งเหนือทุกคน จังหวะที่เดินผ่านหน้าห้องทำงานของพี่ชาย อารดาจึงแวะเข้าไปทักทาย แต่เลขาฯ แจ้งว่าพี่ชายของเธอมีประชุมนอกพื้นที่ จึงยังไม่กลับเข้าบริษัท อนุชิตก็เป็นอีกคนที่ทำงานไม่ต่างอะไรกับเครื่องจักร ร่างบางเดินไปยังห้องทำงานของตัวเอง เลขาฯ หน้าห้องยกมือไหว้อย่างสุภาพ แล้วเปิดประตูให้เธอ ตากลมโตมองโต๊ะทำงานตรงหน้าที่มีงานกอง สุมไว้ นี่คือของขวัญต้อนรับที่เธอกลับมาทำงานใช่ไหม จะโทษใครได้ล่ะเธอทิ้งงานไปนาน มันก็ต้องกองสุมเป็นธรรมดา อารดาลงมือทำงานที่กองสุมหัว ไม่บ่อยนักที่จะเป็นแบบนี้ คนที่เกิดมาในวงการธุรกิจ ถูกปลูกฝังให้รู้จักการแข่งขันมาตั้งแต่เด็ก จนบางครั้งต้องถูกคนรอบข้างมองว่าเห็นแก่ตัว ก็ต้องยอมให้มันเป็นแบบนั้น ช
ปภังกรมาส่งหญิงสาวที่บ้าน ทั้งสองคุยกันเข้าใจแล้ว โดยที่ปภังกรยอมถอนหมั้น แต่เรื่องนี้อารดาต้องคุยกับครอบครัว ของเธอเอง เท่ากับว่าตอนนี้ปัญหาของเธอแก้ไปได้แล้วหนึ่งเปราะ หญิงสาวหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดู เมื่อเห็นคนรักยังไม่อ่านข้อความก็อดเป็นห่วงไม่ได้ และยิ่งหัวเสียหนักเมื่อโทร. ไปแล้วก็ยังเป็นเสียงฝากข้อความ จะโทร. เข้ารีสอร์ตก็ไม่มีเบอร์ หญิงสาวค้นหาเบอร์รีสอร์ต แล้วก็ต้องหงุดหงิดเมื่อไม่มีคนรับสายอีกเช่นกัน“เกิดอะไรขึ้นนะ” หญิงสาวเดินไปมาพร้อมกับกดเบอร์มือถือ ซ้ำ ๆ หรือว่าธนากรเปลี่ยนเบอร์หนีเธอไปแล้ว ความคิดที่ฟุ้งซ่านอยู่แล้ว ยิ่งฟุ้งซ่านหนักขึ้นเมื่อไม่มีใครรับสายเธอสักคนธนากรหัวเสียเมื่อเขาทำมือถือที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อตกน้ำ ชายหนุ่มสั่งให้คนงานมาช่วยกันงมตั้งแต่บ่าย ป่านนี้ยังหาไม่เจอจน ชัชวินทร์ที่แวะมาหายังนึกรำคาญและเหนื่อยแทนคนงาน“จะอะไรกันนักหนาวะ ซื้อเครื่องใหม่ก็หมดเรื่อง”หนุ่มใหญ่ร้องบอกเพื่อน สมัยนี้ง่ายจะตายก็แค่ซื้อเครื่องใหม่ แล้วไปขอเบอร์เดิมทุกอย่างก็จบ “จำเบอร์เมียไม่ได้ครับเสี่ย” หนึ่งในคนงานที่ลอยคออยู่ในน้ำตะโกนบอก “เงียบปากไปเลยนะมึ