ธนากรเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกะละมังน้ำในมือ หลังจากทะเลาะกับตัวเองอยู่พักใหญ่ และคำตอบก็เป็นอย่างที่เห็น ยายตัวเล็กที่นอนสั่นบนที่นอนนั่นเป็นฝ่ายชนะ
ร่างสูงย่อตัวลงข้าง ๆ คนป่วย ก่อนจะลงมือเช็ดตัวให้เธอ มือที่สั่นตอนถอดเสื้อผ้าก็ว่าหนักแล้ว แต่พอนำผ้ามาลูบไล้ไปตามตัวเธอแบบนี้ อย่างอื่นก็พากันสั่นไปด้วย โดยเฉพาะหัวใจที่มันทั้งสั่นทั้ง เต้นแรงจนคร่อมจังหวะไปหมดแล้ว
“ยุบหนอ... พองหนอ...”
ชายหนุ่มสงบสติอารมณ์ ก่อนจะกลืนก้อนเหนียว ๆ ลงคอ เมื่อตาเจ้ากรรมดันมองไปที่ปทุมถันคู่งามเต็ม ๆ ตา
“เย็นไว้ไอ้นะ ยายนี่เหม็นสาบอย่างกับหมา ท่องไว้กลิ่นหมา... กลิ่นหมา...”
ธนากรพูดกับตัวเอง ก่อนจะรีบเช็ดตัวให้เธอเร็ว ๆ ถ้าขืนยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ มีหวังเขาได้ข่มขืนคนป่วยแน่ ๆ
“คุณพ่อขา อ้อมหนาว”
ทันทีที่ขยับมือออกจากแขนเรียว อารดาก็คว้ามือของเขาเอาไว้ ธนากรขืนมือเอาไว้ เมื่อเธอจะดึงมือเขาไปซุกใต้แก้ม ชายหนุ่มจึงใช้มือข้างที่ว่างมาช่วยแกะมือเธอออก
“พ่อขา... อ้อมหิวค่ะ” คนป่วยยังไม่ยอมแพ้ ออกแรงดึงมือเขาอีก ธนากรหรี่ตามอง ก่อนจะสะบัดมือออกจากมือเธอเร็ว ๆ
“หิวก็ลุกขึ้นมากินข้าว จะได้กินยา”
“อ้อมปวดหัวค่ะ”
“ปวดหัวก็ต้องกินยา แต่ถ้ายังอ่อยไม่เลิก ผมจะฉีดยาให้แทน”
“ไม่เอา อ้อมกลัวเข็ม”
“ไม่เป็นไรน่า เข็มอันนี้ใหญ่ แต่ไม่แหลม”
“ไม่เอา...”
“นี่แม่คุณ! ตกลงแกล้งใช่ไหมเนี่ย คนป่วยอะไรรู้ดีทุกอย่าง ลุกขึ้นมากินข้าวเลยนะ จะได้กินยา”
ธนากรโพล่งขึ้นเมื่อรู้สึกรำคาญ เขาเองก็ทั้งเหนื่อยทั้งหิว แถมยังเหนียวเหนอะหนะไปทั้งตัว ไม่มีเวลามานั่งฟังเธออ้อนหรอกนะ
“อารดา” ธนากรร้องเรียกเมื่อคนบนที่นอนหันหลังให้เขาดื้อ ๆ
“ใส่เสื้อผ้าก่อนสิแม่คุณ” พูดพร้อมกับโยนเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งให้ แต่คนที่นอนหันหลังยังเฉย
“ตามใจ” พูดกับตัวเองก่อนเดินออกมาด้านนอก พร้อมอุปกรณ์เช็ดตัวในมือ หูยังได้ยินเสียงคนที่อยู่ในห้อง เมื่อเธอยังเพ้อออกมา ไม่หยุด
“พ่อขา... ช่วยอ้อมด้วย”
ลับหลังหญิงสาว ร่างสูงใหญ่ก็ลงมือเติมถ่านลงในเตา ก่อนจะนำหม้อข้าวที่ซาวข้าวเตรียมไว้ขึ้นตั้ง
“ให้มันได้อย่างนี้สิกู เอามาทรมานตัวเองแท้ ๆ”
ธนากรบ่นพร้อมกับใช้ทัพพีคนข้าวในหม้อไปด้วย ดีนะที่มีผักกาดกระป๋องกับไข่เค็มติดมาด้วย คนป่วยจะได้มีกับข้าว รีบทำให้ มันเสร็จ ๆ จะได้จับยายบ้านั่นกินยา เขาเองก็อยากพักเต็มทน
อารดาจำใจลุกขึ้นเมื่อธนากรยังกวนไม่เลิก ร่างบางฝืนกลืนข้าวต้มลงคอ ก่อนจะกินยาตามที่เขาจัดไว้ให้ เธอหิว เธอเหนื่อย แล้วก็ปวดหัวมาก ถ้าขืนยังดื้อกับเขาคืนนี้ก็คงไม่ได้นอน ร่างบางนอนทันที เมื่อกลืนยาลงท้องไปแล้ว
ธนากรมองคนที่ล้มตัวลงนอนอย่างหัวเสีย ชามข้าวยังตั้งอยู่ตรงหน้าแท้ ๆ เธอจะนอนอย่างนี้เลยเหรอ ได้! ยกให้อีกครั้งก็ได้ เห็นว่ากำลังไม่สบายหรอกนะ รอให้หายก่อนเถอะ พ่อจะจับทรมาน เอาให้นางเอกจำเลยรักเรียกพี่กันไปเลย
“จะยกให้อีกครั้งเดียวนะ!” พูดกับคนป่วยก่อนจะลงมือเก็บชาม จังหวะที่กำลังใช้ผ้าขี้ริ้วเช็ดพื้น ตาคมเข้มมองเห็นเส้นผมที่พันกัน ยุ่งเหยิง บางส่วนพันกันเป็นเกลียวแล้วนึกรำคาญแทน
“ไม่คันหัวเหรอวะ” พูดกับตัวเอง ก่อนจะกวาดตามองไปรอบ ๆ ห้อง ถ้ามีกรรไกรสักอันก็ดี พ่อจะตัดให้ติดหนังหัวเลย
ชายหนุ่มขำให้กับความคิดตัวเอง แล้วยกจานชามเดินออกไป จังหวะนั้นตาคมเข้มก็เหลือบไปเห็นกระป๋องแป้งเด็กที่วางอยู่ใกล้ ๆ กับถุงสัมภาระที่ลุงพงษ์เตรียมมา
“หึ ๆ”
ร่างสูงหัวเราะกับตัวเอง ก่อนจะหยิบกระป๋องแป้งแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง
หลังจากเสร็จพิธีแล้วธนากรกับอารดาก็ถูกส่งตัวขึ้นมา ชั้นบนซึ่งเป็นห้องนอนของหญิงสาว หนุ่มสาวต่างมองหน้ากันเพราะ ไม่คิดว่าจะมีขั้นตอนนี้ปนอยู่ด้วย ธนากรตั้งใจว่าหลังจากเสร็จพิธีแล้ว จะขับรถไปหาแก้วสุนีย์ที่โรงพยาบาล แล้วจะพาอารดากลับใต้เลย แต่นี่กลายเป็นว่าเขาต้องอยู่บ้านเจ้าสาวก่อนเจ็ดวัน ตามที่ผู้ใหญ่ ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน“คิดอะไรอยู่คะ”อารดาเดินเข้ามาสวมกอดสามีจากทางด้านหลังเมื่อเห็น ชายหนุ่มยืนมองออกไปนอกหน้าต่างนานแล้ว“บ้านอ้อมใหญ่มากนะครับ” ธนากรหันกลับมาชวนคุย เมื่อมองไปสุดพื้นที่บริเวณรั้วบ้าน“ค่ะ ก็บ้านอ้อมรวยนี่คะ”อารดาตอบสามี ของคำตอบหญิงสาวเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาได้เป็นอย่างดี ธนากรรู้ว่าภรรยากำลังประชดเขาเพราะหลังจากที่เขาโชว์โฉนดที่ดิน อารดาก็รู้ทันทีว่าครอบครัวของธนากร ไม่ใช่ชาวสวนธรรมดา คนที่จะมีที่ดินบนเกาะได้ก็ต้องรวยมหาศาลเช่นกัน“พี่นะคะ ที่ดินบนเกาะนั่นยกให้อ้อมจริง ๆ เหรอคะ” หญิงสาวถามเพราะชายหนุ่มยืนยันว่าให้เธอ“ใช่ครับ พี่ยกให้แล้วอ้อมจะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่อ้อม”“ถ้าอ้อมจะทำรีสอร์ตล่ะคะ”“ก็ตามนั้นครับ” ธนากรตอบภรรยา ทั้งที่ใจจริงแล้วเ
คุณอรอุมานั่งหน้าตาบูดบึ้ง เมื่อคนรับใช้ขึ้นมารายงานว่า ขบวนที่เดินทางมาสู่ขออารดามาถึงแล้ว วันนี้เป็นฤกษ์ดีทางบ้าน ฝ่ายชายจึงเดินทางมาสู่ขอลูกสาวนาง ยังจะมีเรื่องอะไรให้นางช็อกมากไปกว่านี้อีกไหม เมื่ออาทิตย์ที่แล้วอารดาควงแขนคู่หมั้นบุกมา ถึงบ้าน เพื่อมาบอกกับนางว่าเธอกับคู่หมั้นตกลงที่จะถอนหมั้นกัน เพราะต่างคนต่างมีคนที่ตัวเองรัก และที่ทำให้นางช็อกจนแทบสติหลุดก็คือลูกสาวตัวดีบอกกับนางว่าที่หายไปหลายเดือนเธอไปอยู่กับสามี ที่มีอาชีพเป็นชาวสวนยาง“ใครจะมาก็ช่าง ฉันไม่สนใจหรอก ไปบอกคุณผู้ชายนะว่าฉัน ไม่ว่าง” บอกกับคนรับใช้ เพราะไม่อยากลงไปสนิทชิดเชื้อกับคนที่อยู่ คนละชั้นกับนาง คิดแล้วก็พาลให้โมโห คุณมนตรียอมเข้าไปได้อย่างไร มีดองเป็นชาวสวนยางเนี่ยนะ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น อารดาก็เหลือเกิน หลุดจากช่างก่อสร้างมาได้ยังโล่งใจไม่ได้เท่าไร สุดท้ายไปคว้าหนุ่ม สวนยางมาเป็นสามี ให้มันได้อย่างนี้... ลูกสาวคนเดียวที่นางฟูมฟักมายิ่งกว่าไข่ในหิน“ลงไปหน่อยนะคะคุณผู้หญิง สงสารคุณหนูนะคะ” สายพินแม่บ้านเก่าแก่พยายามหว่านล้อม เพราะนางสงสารคุณหนูของนาง“ลงไปให้เขาหัวเราะเยาะน่ะเหรอ ตระกู
ธนากรพารถกระบะคู่ใจมาจอดที่สวนสาธารณะที่เขา ชอบมานั่งเล่น สมัยที่เรียนอยู่กรุงเทพฯ ครั้งสุดท้ายที่เขามาสวนแห่งนี้ ก็ตอนที่เขาอกหักจากมินรญา แล้วบังเอิญมาเจอกับอารดาเป็นครั้งที่สาม ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกับตัวเองเมื่อคิดถึงหน้าคนรัก ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงที่ขี้เหวี่ยงขี้วีนและน่ารำคาญคนนั้นจะกลายมาเป็นคนที่เขารักสุดหัวใจครืด… ครืดมือถือเครื่องบางสั่นอีกครั้ง ตาคู่คมทำเพียงแค่ปรายตามอง ก่อนจะกระดกเบียร์ในกระป๋องลงคอ อยู่ ๆ ก็เกิดน้อยใจจนพาล ไม่อยากรับสาย ไม่อยากอ่านแชต และไม่สนใจข้อความที่เธอส่งมา เพียงแค่คิดว่าฐานะอย่างเขาไม่คู่ควรกับเธอ เธอมีคู่หมั้นแล้วจริง ๆ ใช่ไหม ความน้อยใจความเสียใจประเดประดังเข้ามา เบียร์ในมือถูกสาดลงคอรวดเดียวหมดกระป๋อง ก่อนที่กระป๋องใหม่จะถูกเปิดแล้วดื่มลงคออีกอึกใหญ่ ๆ“มาทำอะไรตรงนี้คะ”เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ร่างสูงที่จมอยู่กับความคิดของตัวเองสะดุ้ง อารดาถอนหายใจ เธอคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่มาที่สวนนี้เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยเจอกับเขาที่นี่“อ้อม...”ชายหนุ่มมองคนที่ยืนเท้าเอวตรงหน้า ก่อนจะครางชื่อเธอออกมาเบา ๆ มือแกร่งยกขึ้นขยี้ตา หรือว่าเขาจะเ
หลายวันต่อมา... ธนากรตัดสินใจเดินทางมาหาคนรักที่กรุงเทพมหานคร เมื่อรู้สึกว่าการคุยกันผ่านโทรศัพท์มือถือไม่เพียงพอต่อความคิดถึง ครั้งหนึ่งเขาเคยเสียคนรักไปเพราะคำว่าไว้ใจจึงกลัวว่าทุกอย่างมันจะซ้ำรอย ธนากรเคลียร์งานทุกอย่างให้เรียบร้อย เขามีเวลาอยู่กรุงเทพฯ ได้เป็นอาทิตย์ ชายหนุ่มโทร. หาแก้วสุนีย์ บอกเรื่องราวที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ให้เธอทราบ เขาเลือกที่จะไม่ไปเจอกับมินรญา เพราะทุกอย่างมันจบไปแล้ว ตอนนี้หัวใจของเขามีแค่อารดาคนเดียวเท่านั้นชายหนุ่มขับรถยาวไม่หยุดพัก เพราะอยากเจอคนรักให้เร็วที่สุด เรื่องขึ้นมากรุงเทพฯ เขาไม่ได้บอกให้อารดารับรู้ เพราะอยากเซอร์ไพรส์เธอ ชายหนุ่มรู้ว่าจะไปพบคนรักได้ที่ไหน เพราะเธอบอกที่อยู่ที่บ้านและที่ทำงานของเธอเอาไว้ กระบะโฟร์วีลสี่ประตูขับเข้ามาจอดใต้อาคารขนาดใหญ่ที่ชื่อบริษัทตรงตามที่อารดาบอกไว้ ชายหนุ่มเลือกที่จะมาหาเธอที่นี่เพราะยังไม่กล้าเข้าบ้านทันทีที่รถของเขาหักพวงมาลัยเข้ามา รปภ.ที่อยู่หน้าป้อมก็เป่านกหวีดดังลั่น พร้อมกับโบกให้รถเขาออกมาจากใต้อาคาร ไม่นานก็มี รปภ.อีกคนวิ่งเข้ามาช่วยกันขวางรถเขาเอาไว้ พร้อมกับโบกมือให้เขาออกไป“จอดไม่ได้เหรอครับ
รถสปอร์ตคันหรูขับเข้ามาจอด ยังจุดประจำที่ของตัวเอง ก่อนที่ร่างบางในชุดกระโปรงสูทแบบทำงานเข้าชุด จะเดินออกมาอย่างสวยสง่า รปภ.ที่อยู่ประจำจุดค้อมหัวให้อย่างสุภาพ เมื่อผู้บริหารระดับสูง พนักงานต่างก็ยกมือไหว้เมื่อเห็นเธอเดินผ่านไป อารดายิ้ม ในหน้าชีวิตเธอก็มีแค่นี้ ไม่ต่างอะไรกับเครื่องจักรที่มีชีวิต ทำงานเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น เพื่อก้าวขึ้นมายืนเป็นที่หนึ่งเหนือทุกคน จังหวะที่เดินผ่านหน้าห้องทำงานของพี่ชาย อารดาจึงแวะเข้าไปทักทาย แต่เลขาฯ แจ้งว่าพี่ชายของเธอมีประชุมนอกพื้นที่ จึงยังไม่กลับเข้าบริษัท อนุชิตก็เป็นอีกคนที่ทำงานไม่ต่างอะไรกับเครื่องจักร ร่างบางเดินไปยังห้องทำงานของตัวเอง เลขาฯ หน้าห้องยกมือไหว้อย่างสุภาพ แล้วเปิดประตูให้เธอ ตากลมโตมองโต๊ะทำงานตรงหน้าที่มีงานกอง สุมไว้ นี่คือของขวัญต้อนรับที่เธอกลับมาทำงานใช่ไหม จะโทษใครได้ล่ะเธอทิ้งงานไปนาน มันก็ต้องกองสุมเป็นธรรมดา อารดาลงมือทำงานที่กองสุมหัว ไม่บ่อยนักที่จะเป็นแบบนี้ คนที่เกิดมาในวงการธุรกิจ ถูกปลูกฝังให้รู้จักการแข่งขันมาตั้งแต่เด็ก จนบางครั้งต้องถูกคนรอบข้างมองว่าเห็นแก่ตัว ก็ต้องยอมให้มันเป็นแบบนั้น ช
ปภังกรมาส่งหญิงสาวที่บ้าน ทั้งสองคุยกันเข้าใจแล้ว โดยที่ปภังกรยอมถอนหมั้น แต่เรื่องนี้อารดาต้องคุยกับครอบครัว ของเธอเอง เท่ากับว่าตอนนี้ปัญหาของเธอแก้ไปได้แล้วหนึ่งเปราะ หญิงสาวหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดู เมื่อเห็นคนรักยังไม่อ่านข้อความก็อดเป็นห่วงไม่ได้ และยิ่งหัวเสียหนักเมื่อโทร. ไปแล้วก็ยังเป็นเสียงฝากข้อความ จะโทร. เข้ารีสอร์ตก็ไม่มีเบอร์ หญิงสาวค้นหาเบอร์รีสอร์ต แล้วก็ต้องหงุดหงิดเมื่อไม่มีคนรับสายอีกเช่นกัน“เกิดอะไรขึ้นนะ” หญิงสาวเดินไปมาพร้อมกับกดเบอร์มือถือ ซ้ำ ๆ หรือว่าธนากรเปลี่ยนเบอร์หนีเธอไปแล้ว ความคิดที่ฟุ้งซ่านอยู่แล้ว ยิ่งฟุ้งซ่านหนักขึ้นเมื่อไม่มีใครรับสายเธอสักคนธนากรหัวเสียเมื่อเขาทำมือถือที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อตกน้ำ ชายหนุ่มสั่งให้คนงานมาช่วยกันงมตั้งแต่บ่าย ป่านนี้ยังหาไม่เจอจน ชัชวินทร์ที่แวะมาหายังนึกรำคาญและเหนื่อยแทนคนงาน“จะอะไรกันนักหนาวะ ซื้อเครื่องใหม่ก็หมดเรื่อง”หนุ่มใหญ่ร้องบอกเพื่อน สมัยนี้ง่ายจะตายก็แค่ซื้อเครื่องใหม่ แล้วไปขอเบอร์เดิมทุกอย่างก็จบ “จำเบอร์เมียไม่ได้ครับเสี่ย” หนึ่งในคนงานที่ลอยคออยู่ในน้ำตะโกนบอก “เงียบปากไปเลยนะมึ