Masuk“ฮื่อๆๆไอ้เลว ไอ้ชั่ว ไอ้ผู้ชายชาติหมา ไอ้สารเลวฮึ่กๆ”
เสียงกรีดร้องโวยวายด่าทอผู้ชายที่ไหนสักคนดังขึ้นปนเสียงสะอื้นครางสั่นไหวอยู่ที่บนเค้าเตอร์บาร์ในคลับแห่งหนึ่ง “ทำอย่างงี้กับฉันได้ยังไง ทำได้ยังไงฮะฮึ่กๆทำไมใจร้ายอย่างงี้” เสียงพร่ำรำพันยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะที่มือยังคงยกแก้วเครื่องดื่มสีอำพันกระดกเข้าปากอย่างไม่ยั้งราวกับว่านั่นคือน้ำเปล่า “มองอะไรไม่เคยเห็นคนอกหักรึไง...ฮือๆเดี๋ยวแม่ก็จับทำผัวซะนี่!” บรรดาบาร์เทนเดอร์ที่ยืนมองเมื่อครู่ต่างพากันหลบสายตากันเป็นแถวไม่ได้กลัวถูกจับมาทำผัวหรอกนะ แต่ไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยงกับคนเมาแบบนี้ต่างหากล่ะ มันไม่คุ้ม! ถึงผู้หญิงคนนี้จะสวยพอดูก็เถอะแต่... ตอนนี้มันก็ไม่ได้น่าดูเลยสักนิด ใบหน้าขาวเนียนที่ตอนนี้ต่างเลอะเปลอะเปลื้อนเป็นรอยกระดำกระด่างเพราะมาสคาร่าที่ปัดเอาไว้อย่างสวยถูกหยาดน้ำตาสีไสไหลทับ ริมฝีปากสีแดงที่ตกแต่งไปด้วยลิปสติกก็เปลอะกระจายรอบริมฝีปากเป็นรอยกว้างจากการยกแก้วเหล้ากระดกเข้าปากแล้วปาดมันซ้ำไปซ้ำมาจนริมฝีปากแดงเถือกไปแทบทั้งหน้า มือบางกระแทกแก้วเหล้าวางอย่างแรงหลังจากยกขึ้นดื่มจนหมดแก้วแล้วเรียกบาร์เทนเดอร์ให้เอามาเสริฟให้อีกชุดนึง ระหว่างที่รอเธอก็หยิบมือถือขึ้นมาจากในกระเป๋าสะพายแล้วกดจิ้มๆอยู่สองสามทีจึงกดขึ้นโทรออกไปยังปลายสายที่ต้องการ “ฮาาโหล ครายอ่าา” ในห้องนอนสุดหรูร่างสูงใหญ่กำลังนอนพิงพนักหัวเตียง ใบหน้าคมคายกำลังเชิดหน้าสูดปากสีหน้าเหยเก ส่งเสียงร้องครวญครางเสียงดังลั่นห้องซึ่งโชคดีตรงที่ว่าในห้องเขามันเก็บเสียงไง ไม่อย่างงั้นใครต่อใครคงได้ตกใจกันบ้างล่ะ ตรงกลางหว่างขาแข็งแรงมีศีรษะใครบางคนกำลังก้มๆเงยๆอยู่ ท่อนลำอวบใหญ่ถูกอ้าอมไว้เกือบมิดลำอยู่ในเรียวปากอิ่มที่กำลังดูดเลียมันอย่างคนหิวกระหาย “อ่าาห์ เร็วอีก ซี๊ดดด ใกล้แล้วอ่าาาส์” ชายหนุ่มกระแทกกระทั้นสะโพกสอบเข้าหาเรียวปากเล็กอย่างเร่าร้อน มือหนาจับศีรษะเล็กไว้มั่นส่งแรงกระแทกแก่นกายที่แข็งและร้อนเข้าไปเสียดสีกับริมฝีปากอย่างเมามันส์ ความเสียดเสียวแล่นพล่านไปกระจุกอยู่ที่ปลายหัวหยักเตรียมกระจายความสุขสมผ่านเข้าไปในเรียวปากอิ่ม ‘อ่าาาส์’ ใกล้แล้ว... “ซี๊ดดด อ๊าาาาส์” อีกนิดสินะ... ตือ ตื่อ ดือ (เอาเป็นว่าเสียงโทรศัพท์ดังอ่ะเนอะ) ดังขึ้นตรงหัวเตียงเสียงดังลั่น พับผ่าสิวะ! ใครแม่งเสือกโทรมาตอนนี้วะ! จำใจดึงท่อนเอ็นแข็งขืนดิ้นหงึกๆออกจากปากเล็กนั้นก่อน สีหน้าสุดแสนเสียดายของสาวเจ้าทำให้เขาขยับปากเบาๆปลอบใจ ‘เดี๋ยวมาให้ดูดต่อรอแป๊บ’ แม้อยากจะกลั้นใจกระแทกให้มันเสร็จๆไป แต่ทว่าด้วยโทรศัพท์ที่ดังกังวาลอยู่ทำให้ชายหนุ่มต้องจำใจต้องรับมันก่อนแล้วค่อยมากระแทกต่อก็ได้วะ ตี๊ด เสียงกดรับ “ฮาาโหล ครายอ่าา” เสียงอีขี้เมาที่ไหนวะ เมื่อกี้ตอนกดรับไม่ทันได้ดูเบอร์ มือหนายกหูลงมาจิ้มดูที่เบอร์ว่าเป็นสายของใครก่อนจะเบิกตา กว้างอย่างตกใจ “อีมิ้ว อะไรของมึงเนี่ย นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วรู้จักเวล่ำเวลาบ้างไหมมึงเนี่ย แล้วนี่อะไรมึงเมาหรือไงเนี่ย” เสียงบ่นและสบถดังเล็ดลอดไปตามสายในขณะที่ที่ปลายสายนิ่งเงียบและเอาแต่ร้องไห้ออกมา “อีมิ้ว มึงฟังกูไหมเนี่ยแล้วเป็นเหี้ยอะไรของมึงอีก ตอนนี้อยู่ที่ไหนบอกมาเดี๋ยวกูไปรับ” ไม่ต้องส่งไม่ต้องเสร็จมันแล้วไอ้เหี้ยแม่งให้มันค้างแข็งโด่ยังงี้แหละ ปลายสายส่งเสียงบอกสถานที่เรียบร้อยมือหนากดวางแล้วรีบแต่งตัว หลังจากนั้นก็คว้ากระเป๋าเงินควักแบงค์พันออกมาปึกใหญ่ส่งให้หญิงสาวที่นั่งหน้าเง้าหน้างออยู่ตรงปลายเตียง “พี่ขอโทษครับ...วันนี้รีบจริงไว้วันหลังเราค่อยมาต่อกันใหม่เนอะตอนนี้พี่ต้องรีบไปแล้ว” “ก็ได้ค่ะ” ก่อนไปก็เจ้าหล่อนก็มากดจูบที่ริมฝีปากหยักครู่ใหญ่ ให้ตายเถอะเจ้าลูกชายแข็งโด่จนจะทะลุกางเกงอยู่แล้วแม่คุณเอ้ย! เพราะยัยเพื่อนตัวดีแท้ๆดันเป็นห่าอะไรไม่รู้วันนี้ ขับรถไม่ถึงสิบห้านาทีก็มาถึงคลับที่เพื่อนโทรบอกเพราะที่นี่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขามากนัก หลังจอดรถไว้แล้วก็เดินหาร่างบางที่คุ้นเคยสักพักก็เจอ ร่างบางอยู่ในชุดกระโปรงที่เจ้าตัวจงใจแต่งมาเป็นพิเศษในวันนี้ “อีมิ้ว ทำไมมานั่งกินเหล้าเมาอย่างนี้ล่ะ ไหนคืนนี้มึงว่าจะไปฉลองวันครบรอบกับผัวมึงไม่ใช่หรอไง” ที่ถามก็เพราะว่าเมื่อหัวค่ำที่คุยกันมันยังบอกว่าจะแต่งตัวสวยไปเซอร์ไพรส์วันครบรอบสามปีกับผัวมันอยู่นี่นา “ไอ้มัตถ์เพื่อนร๊ากกกมาแล้วหรอ ฮือๆๆๆก็เออออดิ...อีเหี้ยยยยแม่งเฮงซวยยยชิบหาย วันครบรอบส้นตีนนนอารายยยวะ” เสียงยืดยานคางตอบมาด้วยอารมณ์โมโห มือบางทุบเปรี๊ยงอีกทีที่โต๊ะทิ้งท้าย “เป็นไรไหนเล่าดิ๊” ถามพลางสำรวจเนื้อตัวเพื่อนอีกครั้ง หน้าตาดูไม่ได้จริงๆว่ะ มาสคาร่าเปื้อนขอบตาดำปื้อ ลิปสติกสีแดงก็เลอะกระจายไปตามขอบปาก ดวงตานี่ฉ่ำเยิ้มไปหมด นี่มันเมรีขี้เมาชัดๆ! อะไรทำให้เพื่อนผู้แสนดีของเขาเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้วะน่ะ “ฮะ..ฮึ่กๆ มึงงงงไอ้เหี้ยพี่เตอ่าาามันนอกจายกู มึงได้ยินกูหม๊าย ฮือๆวันครบรอบทั้งทีกูเสือกไปเจอมันกำลังเอากับอีเหี้ยยยที่หนายยยก็ไม่รู้ เซอร์ไพรส์ชิบหายไหมล่ะมึงเอื้อก...กูเจ็บบบอ่าา” มันพูดไปก็สะอื้นไปเรอเอื้อกไปพลางท่าทางจะไม่ไหวแล้วล่ะ “เอางี้เช็คบิลก่อนแล้วเรากลับไปคุยที่บ้านกูดีกว่าดีไหม” “ม่ายอาวววกูจะกินที่เน่” “ที่บ้านกูก็มีให้กินมีเยอะกว่าที่นี่ด้วยไปเถอะ” “จริงหรอออมึงอย่าหลอกกูน้าา” “มึงก็รู้กูเคยหลอกมึงหรอ” “เออๆก็ด้ายยย” หลังจากเช็คบิลเสร็จมัตถ์ก็พยุงแม่เมรีขี้เมาให้ไปที่รถ จัดท่าจัดทางให้นอนบนเบาะรถจนได้ที่พอดีเขาก็สตาร์ทรถขับออกตรงไปยังที่บ้านที่เพิ่งจากมา “อีมิ้วถึงแล้ว ตื่นๆ” หลังจากขับรถมาถึงหน้าบ้านเขาก็เขย่าร่างเล็กที่นอนหลับไหลไม่ได้สติอยู่ให้ตื่น แต่พอคิดไปคิดมาให้มันหลับแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะมันจะได้ไม่ตื่นมาโวยวายให้เขาปวดหัวอีก เมื่อคิดได้อย่างนั้นเขาก็เลยเดินอ้อมไปเปิดประตูด้านข้างฝั่งคนขับแล้วช้อนร่างบอบบางขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมแขนอย่างเบามือ ไม่ใช่อะไรกลัวมันตื่นแล้วมาอาละวาดนี่แหละ! อุ้มพามันไปนอนไว้บนโซฟาตัวโปรดของเขาก่อนแล้วเดินกลับไปปิดประตูบ้านอีกครั้ง ระหว่างเราสองคนครบเป็นเพื่อนกันมานานหลายสิบปีแล้วตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมลามมายันเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังได้มาเรียนด้วยกันจนจบและมาทำงานมันก็เข้ามาทำงานที่บริษัทของเขาอีก เราสนิทกันถึงขั้นกินนอนด้วยกันมาแล้วแต่ว่าไม่มีอะไรเกินเลยนะ แบบว่าเราตั้งสถานะไว้ว่าเพื่อนจะไม่กินเพื่อนด้วยกัน แล้วเราสองคนก็รักกันมากไม่ว่ามีอะไรหรือว่าอีกฝ่ายได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจอะไร อีกฝ่ายก็จะไม่นิ่งนอนใจต้องรีบมาหากันเหมือนอย่างที่เขาทำอยู่ในตอนนี้ แต่สนิทกันมากแค่ไหนพวกเราก็ไม่เคยล้ำเส้นคำว่าเพื่อนกันเลยสักครั้ง... ...จนกระทั่ง ได้มาเห็นท่านอนของมันนี่แหละ สงสัยเขายังไม่ได้ปลดปล่อยจากเมื่อกี้ พอได้เห็นอะไรวับๆแวมๆเข้าหน่อยก็กระดกหัวชูคอขึ้นมาทันทีเชียวนะ ไม่ได้ๆนี่เพื่อนไง! พยายามข่มใจไม่ไหวหันไปมองขาอ่อนขาวๆที่โผล่พ้นชายกระโปรงที่เลิกขึ้นสูงจนเกือบเห็นบั้นท้ายงามงอน เขาเลยตัดสินใจจะอุ้มมันไปนอนในห้องประจำของมันที่บางเวลาเบื่อๆมันก็มาขอนอนด้วยที่นี่ “อื้อ...” ทันทีที่เขาอุ้มขึ้นมิ้วก็ส่งเสียงครางบิดขี้เกียจพร้อมขยับตัวยุกยิกไปมาจนหน้าอกของมันบดเบียดเสียดสีไปกับหน้าอกของเขา ‘พุธโธ ธรรมโม สังโฆ’ สวดมนต์ในใจเป็นพัลวัน “อะอุ๊บ...เอืื๊อก” สุดท้ายมันหันมาอ๊วกใส่เขาซะงั้น ให้ตายเถอะ! เขาจะทำยังไงกับมันดีวะเนี่ย ในบ้านก็มีแค่เขาอยู่คนเดียวเพราะที่บ้านใหญ่มีคนอยู่กันเยอะและเขาไม่ค่อยชอบอยู่กับกฎระเบียบอะไรก็เลยขอแยกมาซื้อบ้านอยู่ต่างหากเอาคนเดียวสบายๆ ทีนี้ล่ะปัญหาหนักเลยเขา นกเขาก็ดันขันในขณะที่เพื่อนตัวแสบก็เมาและเขาก็ไม่มีใครช่วยปลดปล่อยให้แล้วนอกจากมัน... “เห้อ!!” ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วอุ้มมันเข้าไปในห้องน้ำ วางมันลงในอ่างแล้วตัดสินใจเปิดน้ำเย็นๆฉีดใส่ไปที่ตัวมัน “อ๊ายยย...เปียกๆอ่าาาฉีดน้ำใส่กูทำไม?” มันนิ่งไปสักพักก่อนจะกรีดร้องโวยวายออกมา “ก็มึงอ๊วกใส่กูดูดิเปื้อนหมดแล้วเนี่ย” “แหะๆอ้าวหรอ กูขอโทษ” ดูท่าว่าโดนน้ำเย็นเข้าไปน่าจะทำให้มันรู้สึกตัวขึ้นมาหน่อย แต่ทว่าสติสตังก็ยังไม่คงที่ดีนัก “อาบน้ำไปเลยมึงอ่ะ อาบไหวไหม” ถามมันทำไมวะแล้วถ้าเกิดมันบอกว่าไม่ไหวล่ะ... “แล้วถ้าไม่ไหวมึงจะอาบให้กูหรือไง?” นั่นไง!ซื้อหวยทำไมไม่ถูกวะ “มึงก็นอนมันในห้องน้ำเนี่ยแหละ” “โห่ ใจร้ายว่ะอาบให้เพื่อนหน่อยก็ไม่ได้ เพื่อนกันกูไม่ถือหรอก นะ...อาบให้กูหน่อย” แม้จะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปแต่มันบังคับตัวเองไม่ได้ไง คุณเคยเป็นไหมเวลาเมาที่สมองคิดอะไรคำพูดก็โพล่งออกไปแบบนั้นแม้มันจะไม่ถูกต้องก็ตาม “มิ้ว...” “นะ...” “มึงนี่นะ...เดี๋ยวตบะกูแตกซะก่อนมึงจะเดือดร้อนขึ้นมา” “ไม่กลัว....” “งั้นก็ช่วยไม่ได้....” . . .วันต่อมาผมก็พาพี่ปรางกลับบ้านที่มีลูกชายเธอและเพื่อนสนิทผมนั่งหน้าบอกบุญไม่รับรออยู่ก่อนแล้ว“แม่ไปไหนมาทำไมไม่กลับบ้านแล้วนี่ไปไหนกันมา”เมื่อมาถึงคิวก็เดินดุ่มๆเข้ามาถามสีหน้าและแววตาเกรี้ยวกราดสุดฤทธิ์คนเป็นแม่ได้แต่ก้มหน้านิ่งเพราะรู้ว่าตัวเองผิดจริงๆ“ว่าไงไอ้โจ้มึงพาแม่กูไปไหนมาทั้งคืนทำไมถึงเพิ่งกลับมากันป่านนี้”“คือ..ว่าไอ้คิวมึงฟังกูพูดก่อนนะคือ..” ผมเองก็ยังหวาดๆกับสีหน้าเกรี้ยวกราดของมันจนถึงขั้นตัวลีบเลยทีเดียว“ฟังเหี้ยอะไร!มึงพาแม่กูหายไปทั้งคืนเนี่ยนะไอ้สัสโจ้” ไอ้คิวตะคอกใส่ผมเสียงดีังลั่น“คิวใจเย็นๆก่อนนะลูกค่อยๆพูดกันก็ได้” พี่ปรางพยายามปลอบไอ้คิวเสียงอ่อนพลางลูบหลังมันเบาๆ“งั้นแม่ก็บอกมาดิว่าหายไปไหนกับมันมาทั้งคืน” ไอ้คิวตะคอกใส่พี่ปรางจนหน้าเสีย“ไอ้สัสคิวมึงอย่าตะคอกใส่แม่มึงแบบนั้นสิวะ” พอเห็นเมียผมหน้าเสียแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้“อย่าเสือกนี่แม่กู!”“แม่มึงแต่เมียกู!”“ไอ้สัสโจ้!”ผลั๊ว!เสียงหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ตรงปากและจมูกผมพอดีจนมึนไปชั่วครู่สักพักลิ่มเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากผมเล็กน้อย“ว๊าย!อย่านะลูกหยุดๆ” พี่ปรางร้องไห้เสียงดังพยายามรั้งแขนไอ้คิวไม่ให
บันทึกพิเศษปรางในความเย็นเยียบที่ได้รับทำให้ฉันรู้สึกหนาวจนสั่นสะท้านวาบไปทั่วทั้งร่างกายรับรู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆแต่ทว่า...ผ้าห่มไปไหน?รู้สึกได้ว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าซึ่งนั่นเป็นปกติเวลาที่ฉันเข้านอนจะชอบโนบราและแก้ผ้านอนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ว่าทำไมคืนนี้มันหนาวผิดปกติกันนะแม้จะแปลกใจแต่มือฉันก็ปัดป่ายควานหาผ้าห่มที่คาดว่าตัวเองน่าจะถีบออกจากตัวไปอยู่มุมไหนสักที่นั่นแหละ คลำหาไปได้สักพักก็รู้สึกว่าตัวเองไปคว้าหมับเข้ากับอะไรสักอย่างที่มัน ‘ร้อนผ่าว’ และนุ่มนิ่มมือ เมื่อเห็นว่าเออจับแล้วมันก็อุ่นดีฉันก็เลยจับๆขยำๆไปเรื่อยๆสักพักอ้าวเห้ย!ทำไมมันใหญ่ขึ้นวะ?แถมมันยังแข็งและร้อนราวกับอังไฟมา รูปร่างลักษณะมันคลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับ....ไอ้นั่นของผู้ชาย!แม้จะไม่อยากลืมตาตื่นสักเท่าไหร่แต่ความสงสัยก็ทำให้ฉันต้องตื่นลืมตามองสิ่งที่อยู่ในมือ แต่แวบแรกเลยทีเห็นคือแผงอกแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามลากสายตาลงมาก็หน้าท้องหนั่นแน่นชวนให้ลูบไล้ขยำเล่นดีจังถัดมาก็เออ!นั่นแหละฉันกำลังจับไอ้นั่นของเพื่อนลูกชายอยู่ แถมไม่ได้จับธรรมดานะทั้งลูบคลึงขยำชักรูดชักลงอีกต่างหาก ให้ตายเถอะนี่เธ
โรมแรมม่านรูดไม่ไกลจากห้างดังเสียงปิดประตูรถดังปังทันทีที่เด็กรับรถรูดม่านมาปิดไว้ผมยื่นเงินค่าห้องให้เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมพร้อมทั้งทิปแล้วดึงมือพี่ปรางลากเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วเมื่อครู่แม้จะปลดปล่อยไปแล้วครั้งนึงแต่ทว่าตรงหน้าขาผมยังแข็งปึ๋งผงาดทิ่มเนื้อผ้ากางเกงออกมาให้ได้เห็น ปวดไปหมดสงสัยมันอยากจะทลวงเข้าไปในช่องแคบอีกครั้งเสียแล้ว“อ๊ะ..เบาๆ หน่อยสิชั้นเจ็บนะ” พี่ปรางดุเบาๆ ในตอนที่ถูกผมดันร่างเธอเข้ากับพื้นผนังเย็นเยียบอย่างแรง“ขอโทษ...ผมทนไม่ไหวต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้กระแทกพี่ตอนนี้” ผมงึมงำเบาๆ ขณะริมฝีปากไล่ขบเม้มซอกคอเนียนหอมละมุน“ซี๊ดดดดด~~บ้าเวอร์ไปล่ะไปอดอยากจากไหนมาห๊ะ...”“ฮื้มม~ตัวพี่หอมจัง...พี่ไม่รู้หรอที่จริงผมอยากแล้วก็แข็งตั้งแต่เห็นพี่ที่สระว่ายน้ำแล้ว” เสียงผมสั่นกระเส่าอยากไม่อาจห้ามได้ ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนลอยมามังกรยักษ์ก็อยากโผล่หัวมาทักทายเหยื่อสาวเสียแล้ว“หมายความว่าเมื่อคืนเธอแอบดูพี่ที่สระด้วยหรอ” พี่ปรางดันหน้าผมออกจากเนินอกเธอแล้วถามเสียงเข้ม“อื้ม..ก็เมื่อคืนผมนอนไม่หลับกะว่าจะไปเดินเล่นเฉยๆ ใครจะไปรู้ว่าจะได้เจอเงือกสาวแสนสวยใส่บิกินี่
คืนนั้นหลังจากถูไถแค่ภายนอกจนเสร็จสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่ดึกๆช่วงตีสี่กว่าๆผมก็ย่องออกมานอนที่ห้องของตัวเองที่ไอ้คิวมันจัดไว้ให้แล้วหลับต่อไปยันสายตรู่ทั้งผมทั้งไอ้คิวต่างตื่นสายด้วยกันทั้งคู่โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์เราไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน ส่วนแม่ไอ้คิวผมยังไม่เห็นเลยนะสงสัยจะเขิน“ไงมึงหลับสบายดีไหมบ้านกู” เสียงไอ้คิวถามพลางยิ้มอารมณ์ดี แน่ล่ะสิเมาหลับไปตั้งแต่หัวค่ำละมั้ง“อืม..ดีมากกูหลับสนิทเลย” เสียไปตั้งหลายน้ำจะไม่หลับได้ยังไง!“มากินข้าวก่อนนี่แม่กูทำข้าวต้มปลาไว้ให้มึงจะเอากาแฟไหมกูจะได้ให้พี่สมพรไปชงมาให้”“เออเอาก็ได้” ผมพยักหน้ารับรู้สึกอยากได้คาเฟอีนเข้ามาในร่างกายเหมือนกันเพราะเช้านี้รู้สึกไร้เรี่ยวแรงจริงๆฝีมือทำกับข้าวของแม่ไอ้คิวก็อร่อยดีนะ ส่วนคนทำไม่รู้หนีหายไปไหนแล้วผมมองๆหาก็ไม่ยักจะเห็นเลย“เออแล้วนี่แม่มึงไปไหนหรอวะ”“ไม่รู้เหมือนกันว่ะสงสัยอยู่บนห้องมั้งว่าแต่มึงเถอะวันนี้จะไปไหนต่อเปล่า”“ไม่รู้ว่ะเบื่อๆคงนอนอยู่บ้านแหละกูขี้เกียจออก”“ไปดูหนังกับกูไหมล่ะพอดีกูชวนแม่ไปดูหนังรอบบ่ายมึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิไปกับแม่สองคนกูอาย” ไอ้คิวมันบอกในขณะที่ผมนึกขำ
หญิงสาวผมเผ้าหลุดรุ่ยเนื้อตัวเปลือยเปล่ามองหนุ่มรุ่นลูกตาปรอยเนื้อตัวสั่นระริกราวกับจะอ้อนวอนขอให้เด็กหนุ่มช่วยเติมเต็มสิ่งที่เธอขาดหายไปหลายสิบปีให้หน่อย เด็กหนุ่มหลุบตามองริมฝีปากอิ่มเอิ่มที่แย้มออกดูเย้ายวนชวนให้คลุกเคล้าดื่มด่ำความหวานหอมในโพลงปากนุ่มเหลือเกิน“อื้อออออออ” เสียงหวานครางกระเส่าในลำคอเมื่อถูกเด็กหนุ่มบดจูบอย่างดูดดื่ม เรียวลิ้นอุ่นชื้นพลิกไล้ไปตามไรฟันขาวสะอาดเลาะเล็มน้ำหวานตามโพลงปากด้านในจนน้ำลายของทั้งสองคนไหลย้อยออกมาตามมุมปาก“ชอบไหม?ชอบให้ผมสัมผัสแบบนี้ไหมครับ” เสียงทุ้มแหบพร่าของเพื่อนลูกดังขึ้นอีกครั้งที่ข้างใบหูพร้อมกับลมร้อนที่เขาเป่าใส่อย่างยั่วเย้าหลังจากที่เขาละริมฝีปากออกปล่อยให้เธอได้หายใจหายคอออกบ้างหลังจากที่ถูกจูบดูดวิญญานเข้าไปหลายนาทีจากนั้นก็ลากริมฝีปากลงมายังซอกคอขาวเนียนดูดกลืนผิวเนื้ออ่อนหอมละมุนจนมันขึ้นสีคล้ำเป็นจ้ำแล้วก็ลากลงมาไซร์เนินอกอวบอิ่มเบียดชิดชูชันตั้งตะหง่านอีกครั้ง“อื้มมมมม” มีเพียงเสียงครางอื้ออึงไม่ได้สรรพ์ดังตอบรับการกระทำแค่นั้น นาทีนี้หัวสมองเธอว่างเปล่าไปหมดครุ่นคิดอะไรไม่ออกแม้แต่นิด“แม่ครับ...ผมขอเลียหน่อยนะครับ” คำพูด
ร่างขาวโพลนในชุดบิกินี่ตัวจิ๋วที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในสระท่ามกลางไฟที่สาดส่องพอให้เห็นสลัวๆชวนให้ผมนึกจินตนาการถึงนางเงือกแสนสวยที่แหวกว่ายวนไปมาขาเรียวขาวได้รูปไร้ไขมันปะปนที่กำลังตีขาบนน้ำก็ดูน่าหลงใหลชวนให้นึกถึงเวลาที่ขาเรียวงามสองข้างมาพาดบนบ่ากว้างของผมมันคงให้ความรู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียวบิกินี่สีแดงสดช่างขับผิวของแม่ไอ้คิวได้ดีเหลือเกินเพราะเมื่อมันทาบลงบนร่างอรชรยิ่งทำให้ตัดกับสีผิวขาวผ่องไปทั้งตัวจริงๆ สายเส้นเล็กๆที่เกาะต้นคอเนียนนั่นดูเกะกะตาดีเหลือเกินเห็นแล้วผมอยากกระตุกมันออกทิ้งไปไม่นานเหมือนว่าแม่ไอ้คิวคงจะว่ายน้ำจนเหนื่อยแล้วมั้ง ร่างบอบบางของเธอจึงเดินขึ้นมานั่งบนขอบสระ หลังจากนั้นเธอก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอวันนี้นั่นก็คือแม่ไอ้คิวปลดบิกินี่ทั้งท่อนบนและท่อนล่างออกจนเหลือแต่เนื้อตัวเปลือยเปล่าท้าสายลมจากนั้นก็หยิบเสื้อคลุมมาสวมช้าๆราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรที่อยู่ๆก็แก้ผ้าท้าลมหนาวเช่นนี้ขนผมลุกซู่หอบหายใจรัวเลยล่ะรู้สึกว่าหัวใจทำงานหนักมากเวลานี้ ไม่ใช่แต่ขนนะที่ลุก ‘อย่างอื่น’ ผมก็ลุกเช่นกัน‘ให้ตายเถอะนี่แม่เพื่อนนะไอ้โจ้ท่องไว้แม่เพื่อน...แม่เพื่







