LOGINหลังจากเสียน้ำไปคนละทีทั้งคู่ก็นอนมองหน้ากันไปเรื่อยๆ โดยที่ต่างฝ่ายต่างยังไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมา ต่างนอนคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา
มิ้วยอมรับว่าตัวเองเมาจริงแต่ก็ไม่ได้ถึงกับเมามายมากจนถึงขั้นควบคุมสติตัวเองไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันที่หญิงสาวกับยินยอมพร้อมใจให้เพื่อนสนิทชักจูงลงไปเล่นสนุกคลุกวงในกันเฉยๆเสียอย่างนั้น ทั้งๆที่เมื่อก่อนนอนด้วยกันออกจะบ่อยไม่ยักจะรู้สึกแบบนี้สักที ในขณะที่มัตถ์ก็นอนนิ่งดวงตาสีน้ำตาลเข้มแอบลอบเมียงมองใบหน้าเนียนใสที่นอนนิ่งอยู่ข้างๆอย่างนึกสงสัยว่าอะไรทำให้ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนที่มีมายาวนานมันเปลี่ยนไป หลายครั้งแล้วหนที่เขาเองก็เคยมีแฟนเคยคบผู้หญิงมามากมายหลายคน แต่ทว่าทักครั้งที่ยัยเพื่อนตัวดีมีปัญหาเขาจะสลเเวลามาหาเธอทันที ไม่ว่าเวลานั้นเขาจะติดอะไรอยู่ก็ตามทีเขาต้องวางสิ่งนั้นไว้หรือแม้แต่อยู่กับผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนสาว แต่ทว่าเพื่อนอย่างมิ้วสำคัญกว่าสิ่งใดในโลก “มึง...จะเลิกคบกับกูจริงหรอ” เสียงหวานเอ่ยถามเสียงแผ่ว “ใครบอกมึง...” เสียงทุ้มกระซิบย้อนถามกลับ “กะ..ก็มึงบอก” “อ๋อ...ใช่กูจะไม่เป็นเพื่อนกับมึงแล้วไง” “อ้าว!อะไรของมึงเนี่ยเมื่อกี้ก็บอกว่าจะไม่เลิกไง” “กูเลิกคบเป็นเพื่อนกับมึงแต่เป็นผัวมึงแทนไง” “ห๊า...เอาจริงดิ” ริมฝีปากบางอ้าค้างสีหน้าเหวอทันที “ก็เอาไปแล้วนิ เอาไปตั้งหลายทีแล้วด้วย” “ไอ้บ้าไม่ใช่อย่างนั้น!” “แล้วมึงติดอะไร?” “กะ..ก็เราสองคนเป็นเพื่อนกันมานานแล้วนะ อยู่ๆมาเปลี่ยนสถานะแล้วถ้าวันนึงเราไปด้วยกันไม่รอดล่ะ ความเป็นเพื่อนของเราจะยังอยู่ไหม?” “มิ้ว...กูไม่รู้นะเรื่องอนาคตข้างหน้ามันจะเป็นยังไง แต่ถ้าเราไม่ลองแล้วเราจะรู้ได้ไงว่ามันจะดีหรือไม่ดี” “มันก็ใช่” “แล้วถ้างั้นมึงจะลองมาคบกับกูดูไหมล่ะ” “เออก็ได้” ไหนๆก็ไหนๆแล้วลองดูก็ได้นี่นา อุตส่าห์ได้ลองท่ายากกันมาแล้วด้วยนี่ ส่วนจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตแล้วกัน คบกับมัตถ์ก็น่าจะดีเสียอีกเพราะรู้จักนิสัยใจคอกันมานานหลายปี อะไรจะเกิดก็ให้มันเป็นเรื่องของอนาคตก็แล้วกันนะ ว่าแต่เมื่อคืนนี้ที่เราสองคนจิงเกอเบลกันเราไม่ได้... ไม่ได้ป้องกัน!!! “กรี๊ดดด...มึงๆเมื่อคืนมึงไม่ได้ป้องกันใช่ไหมอ่ะ” “เออ...กับคนอื่นกูป้องกันแต่กับมึงกูสดทั้งคืน” มันใช่เรื่องมาพูดตอนนี้ไหมเนี่ย!! “แต่กูกลัวท้อง!!” “มึงจะกลัวทำไมท้องก็ช่วยกันเลี้ยงไงเราสองคนโตๆกันแล้วนะเงินกูมีเยอะแยะจะเลี้ยงมึงกับลูกอีกสักสิบคนยังได้เลย” “บ้าใครจะมีลูกกับมึงตั้งสิบคน เครื่องพังกันพอดี” “หรือมึงจะให้กูไปมีกับคนอื่น?” “มึงก็ลองไปดูสิ!” “แหน่ะเตรียมเป็นเมียขี้หึงแล้วหรือจ๊ะเมียจ๋า” ใบหน้าคมคายกระเซ้าเย้าแหย่หญิงสาวด้วยสีหน้าผ่อนคลายแววตาเต็มไปด้วยความสุขยามได้จ้องมองผู้หญิงที่รู้จักกันมาเกือบครึ่งชีวิตเห็นจะได้ คบหาเป็นเพื่อนกันมาหลายสิบปีรู้ใจกันแทบจะทุกอย่าง ต่างฝ่ายต่างใช้ชีวิตมีรักๆเลิกๆกับคนของตัวเองบ่อยครั้ง จนกระทั่งมันมาถึงจุดที่เรามากินกันเองแล้วรู้สึกดีขนาดนี้ได้ยังไงวะ... “ถ้ากูรู้ว่าเราสองคนได้กันแล้วมันจะดีอย่างนี้รู้งี้กูเอามึงไปตั้งนานล่ะ” “บ้า...” มิ้วก้มหน้าเขินมุดเข้ากับอกแข็งแกร่งของชายหนุ่มทันทีที่เงยหน้าสบสายตาระยิบระยับของคนตรงหน้า สายตาคู่นั้นบ่งบอกอะไรได้หลายอย่างจนเธอไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองมากไป “มิ้วจ๋า...” “จ๋า” “มันแข็งอีกแล้วอ่ะ” “ไอ้มัตถ์มึงจะหื่นเกินไปแล้วนะพอเลยๆ” “ทำไมเมียใจร้ายจัง” “ก็เค้าหิวข้าวนี่นาพาไปกินข้าวก่อนได้ไหมล่ะ” “แปลว่ากินข้าวเสร็จแล้วกลับมาทำต่อได้หรอ?” “อื้อ” “ไปงั้นรีบเลยไปอาบน้ำกันแล้วไปหาอะไรอร่อยๆกินกันก่อนจะได้มีแรงมาต่อกันอีกสักสองสามยก” “เอ่อ...เปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหม?” “เปลี่ยนใจอะไรอ่ะ?” “เปลี่ยนใจไม่คบกับมึงแล้วอ่ะ...” “ก็ลองดูดิ กูจะจัดมึงตอนนี้ให้ลุกจากเตียงไม่ได้เลย” “ฮ่าๆๆคบก็ได้ๆกรี๊ดไปแล้วๆ” สองหนุ่มสาวอุ้มกันเข้าห้องน้ำไปเสียงหยอกล้อหัวเราะดังลั่นกันอย่างมีความสุขดังขึ้นภายในห้องหนึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งสองคนก็มายืนอยู่หน้าร้านอาหารญี่ปุ่นที่มิ้วเป็นฝ่ายร้องอยากกิน ร้านนี้ดังมากในย่านคนมีกะตังค์ซึ่งปกติทั้งสองก็ชอบมากินด้วยกันประจำอยู่แล้ว
“เอาอันนี้ด้วย แล้วก็อันนี้ อันนี้ด้วย นี่ด้วย” เสียงสั่งอาหารสารพัดอย่างของมิ้วดังขึ้นในขณะที่อีกคนได้แต่ส่ายหน้า น่าแปลกที่ว่าเห็นหุ่นอวบอิ่มแบบนี้แถมเจ้าตัวยังกินเก่งขนาดนี้แต่ไม่ยักจะอ้วนเลย หุ่นของเมียหมาดๆของเขาไม่อ้วนและก็ไม่ผอมมันดูแบบสมตัวอ่ะ มีน้ำมีนวลเต็มไม้เต็มมือดี จับตรงไหนก็เต่งตึงไปหมดโดยเฉพาะเจ้าซาลาเปาสองลูกนั้นที่มันทั้งขาวทั้งอวบและหวานมากด้วย อ้าวไปไงมาไงถึงมานึกถึงเจ้าสองก้อนนั้นได้วะ แค่คิดบางอย่างก็แข็งปึ๋งปั๋งเหยียดตัวเต็มกางเกงขึ้นมาทันทีสิน่า... “ทำไมทำหน้าอย่างนั้นอ่ะ” มิ้งถามเมื่อเห็นสีหน้าแปลกๆดูกระสับกระส่ายของชายหนุ่ม “เปล่าๆไม่มีอะไร” ตอบซุ่มเสียงสั่นพยายามตั้งสมาธิให้อยู่กับแก้วน้ำตรงหน้าให้ได้ “ท่าทางแบบนี้อย่าบอกนะว่า...” “...” “คิดทะลึ่งอีกแล้วอ่ะ” “...” “ทำไมมึงหื่นแบบนี้นะ” “ก็มึงอยากทำตัวมีเสน่ห์ทำไมนักล่ะ” ยิ่งแต่งตัวแบบนี้เขายิ่งไม่อยากให้ออกไปไหนอยากกกตัวนุ่มนิ่มนี้เอาไว้นอนด้วยทั้งวันทั้งคืนเลย เสื้อครอปแขนตุ๊กตาที่เธอใส่มันทำให้ดูเซ็กซี่และน่ารักไปในตัวคู่กันกับกระโปรงยีนส์ตัวจิ๋วที่ไม่รู้ว่าจะใส่มาทำไมในเมื่อมันสั้นเสียขนาดนั้นน่ะ พูดขึ้นแล้วก็อดหงุดหงิดขึ้นมาไม่ได้คอยดูนะจะพาไปซื้อใหม่เอาที่แบบปิดมันมิดชิดให้หมดไปเลย! “หืม...กูก็มีเสน่ห์แบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนะ” “หลงตัวเองชะมัด” มัตถ์เบะปากใส่ “อย่ามาหลงกูบ้างก็แล้วกัน” “ไม่ทันแล้วล่ะ หลงไปล่ะ” “....” “เขินอ่ะดิ” “บ้า!” หลังจากกินข้าวเสร็จกำลังรอเช็คบิลอยู่ก็ได้มีผู้ชายคนหนึ่งเดินดุ่มๆมาหาที่โต๊ะ ชายคนนั้นก็คือผู้ชายที่นอกใจมิ้วนั่นเอง “มิ้วคุยกันก่อนได้ไหม?” ผู้ชายคนนั้นเดินมานั่งข้างมิ้วแล้วพูดขึ้น “คุยอะไรหรอ?” มิ้วถามกลับพลางเขยิบตัวหนีมานั่งใกล้มัตถ์ “เรื่องของเราไง” “มันไม่มีเรื่องของเราตั้งแต่วันที่มิ้วเข้าไปเจอพี่กกกับนังผู้หญิงคนนั้นแล้ว” “พี่ขอโทษ...มันก็แค่สนุกๆแต่คนที่พี่รักมีแค่มิ้วนะ” “ทุเรศ!เลวที่สุดไม่คิดเลยว่าจริงๆแล้วพี่จะเป็นคนแบบนี้” “แต่ไอ้คนแบบนี้มันก็เป็นผัวมิ้วไงล่ะ” ผลั๊ว! เสียงหมัดกระทบใบหน้าคมคายที่พูดจาไร้ความสำนึกใดๆจนผู้ชายคนนั่นถลาลงไปกองที่พื้น “เมื่อก่อนอาจใช่แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วล่ะ” มัตถ์พูดเสียงเข้มพร้อมทั้งรั้งร่างอวบอิ่มของมิ้วเข้ามาในอ้อมกอด “มึงเสือกอะไรด้วยไอ้มัตถ์มันไม่ใช่เรื่องของมึง” “กูจำเป็นต้องเสือกว่ะเพราะเรื่องของมิ้วก็คือเรื่องของกู” “มิ้ว...ที่มันพูดหมายความว่าไง?” “มิ้วไม่จำเป็นต้องตอบอะไรพี่เพราะเรื่องระหว่างเรามันจบลงไปแล้ว แต่ในเมื่อพี่อยากรู้มิ้งจะบอกให้ก็ได้ตอนนี้มิ้วคบกับมัตถ์แล้วทุกเรื่องของมิ้วก็เป็นเรื่องของมัตถ์หวังว่าต่อจากนี้ไปเราคงไม่ต้องเจอกันอีกเพราะสามีมิ้วหวงมาก” พูดจบมิ้วก็เดินกอดแขนมัดออกไปจากร้านนั้นทันที ไม่รู้สิถ้าถามว่ารู้สึกดีไหมตอนนี้...ก็ไม่นะ แต่ถ้าถามว่าสะใจไหมล่ะก็... โคตรสะใจเป็นบ้าเลย! แม้ลึกๆจะแอบเสียดายเวลาที่เคยได้คบกันมาแถมเขายังเป็นผู้ชายคนแรกของเธออีกด้วย แต่ชีวิตมันยังต้องเดินหน้าไปต่อใช่ไหมล่ะ อะไรที่มันเสียหรือมันไม่ดีเราก็แค่ตัดมันทิ้งไป ส่วนอันไหนดีเราก็เก็บมันเอาไว้ ไม่รู้เหมือนกันว่าวันข้างหน้าผู้ชายที่เดินเคียงข้างมันจะยังดีกับเธออย่างนี้ไหม แต่ตราบใดที่ในวันนี้มันยังดีกับเธออยู่ก็แค่รอดูวันต่อๆไปก็น่าจะพอ... . . .วันต่อมาผมก็พาพี่ปรางกลับบ้านที่มีลูกชายเธอและเพื่อนสนิทผมนั่งหน้าบอกบุญไม่รับรออยู่ก่อนแล้ว“แม่ไปไหนมาทำไมไม่กลับบ้านแล้วนี่ไปไหนกันมา”เมื่อมาถึงคิวก็เดินดุ่มๆเข้ามาถามสีหน้าและแววตาเกรี้ยวกราดสุดฤทธิ์คนเป็นแม่ได้แต่ก้มหน้านิ่งเพราะรู้ว่าตัวเองผิดจริงๆ“ว่าไงไอ้โจ้มึงพาแม่กูไปไหนมาทั้งคืนทำไมถึงเพิ่งกลับมากันป่านนี้”“คือ..ว่าไอ้คิวมึงฟังกูพูดก่อนนะคือ..” ผมเองก็ยังหวาดๆกับสีหน้าเกรี้ยวกราดของมันจนถึงขั้นตัวลีบเลยทีเดียว“ฟังเหี้ยอะไร!มึงพาแม่กูหายไปทั้งคืนเนี่ยนะไอ้สัสโจ้” ไอ้คิวตะคอกใส่ผมเสียงดีังลั่น“คิวใจเย็นๆก่อนนะลูกค่อยๆพูดกันก็ได้” พี่ปรางพยายามปลอบไอ้คิวเสียงอ่อนพลางลูบหลังมันเบาๆ“งั้นแม่ก็บอกมาดิว่าหายไปไหนกับมันมาทั้งคืน” ไอ้คิวตะคอกใส่พี่ปรางจนหน้าเสีย“ไอ้สัสคิวมึงอย่าตะคอกใส่แม่มึงแบบนั้นสิวะ” พอเห็นเมียผมหน้าเสียแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้“อย่าเสือกนี่แม่กู!”“แม่มึงแต่เมียกู!”“ไอ้สัสโจ้!”ผลั๊ว!เสียงหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ตรงปากและจมูกผมพอดีจนมึนไปชั่วครู่สักพักลิ่มเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากผมเล็กน้อย“ว๊าย!อย่านะลูกหยุดๆ” พี่ปรางร้องไห้เสียงดังพยายามรั้งแขนไอ้คิวไม่ให
บันทึกพิเศษปรางในความเย็นเยียบที่ได้รับทำให้ฉันรู้สึกหนาวจนสั่นสะท้านวาบไปทั่วทั้งร่างกายรับรู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆแต่ทว่า...ผ้าห่มไปไหน?รู้สึกได้ว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าซึ่งนั่นเป็นปกติเวลาที่ฉันเข้านอนจะชอบโนบราและแก้ผ้านอนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ว่าทำไมคืนนี้มันหนาวผิดปกติกันนะแม้จะแปลกใจแต่มือฉันก็ปัดป่ายควานหาผ้าห่มที่คาดว่าตัวเองน่าจะถีบออกจากตัวไปอยู่มุมไหนสักที่นั่นแหละ คลำหาไปได้สักพักก็รู้สึกว่าตัวเองไปคว้าหมับเข้ากับอะไรสักอย่างที่มัน ‘ร้อนผ่าว’ และนุ่มนิ่มมือ เมื่อเห็นว่าเออจับแล้วมันก็อุ่นดีฉันก็เลยจับๆขยำๆไปเรื่อยๆสักพักอ้าวเห้ย!ทำไมมันใหญ่ขึ้นวะ?แถมมันยังแข็งและร้อนราวกับอังไฟมา รูปร่างลักษณะมันคลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับ....ไอ้นั่นของผู้ชาย!แม้จะไม่อยากลืมตาตื่นสักเท่าไหร่แต่ความสงสัยก็ทำให้ฉันต้องตื่นลืมตามองสิ่งที่อยู่ในมือ แต่แวบแรกเลยทีเห็นคือแผงอกแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามลากสายตาลงมาก็หน้าท้องหนั่นแน่นชวนให้ลูบไล้ขยำเล่นดีจังถัดมาก็เออ!นั่นแหละฉันกำลังจับไอ้นั่นของเพื่อนลูกชายอยู่ แถมไม่ได้จับธรรมดานะทั้งลูบคลึงขยำชักรูดชักลงอีกต่างหาก ให้ตายเถอะนี่เธ
โรมแรมม่านรูดไม่ไกลจากห้างดังเสียงปิดประตูรถดังปังทันทีที่เด็กรับรถรูดม่านมาปิดไว้ผมยื่นเงินค่าห้องให้เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมพร้อมทั้งทิปแล้วดึงมือพี่ปรางลากเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วเมื่อครู่แม้จะปลดปล่อยไปแล้วครั้งนึงแต่ทว่าตรงหน้าขาผมยังแข็งปึ๋งผงาดทิ่มเนื้อผ้ากางเกงออกมาให้ได้เห็น ปวดไปหมดสงสัยมันอยากจะทลวงเข้าไปในช่องแคบอีกครั้งเสียแล้ว“อ๊ะ..เบาๆ หน่อยสิชั้นเจ็บนะ” พี่ปรางดุเบาๆ ในตอนที่ถูกผมดันร่างเธอเข้ากับพื้นผนังเย็นเยียบอย่างแรง“ขอโทษ...ผมทนไม่ไหวต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้กระแทกพี่ตอนนี้” ผมงึมงำเบาๆ ขณะริมฝีปากไล่ขบเม้มซอกคอเนียนหอมละมุน“ซี๊ดดดดด~~บ้าเวอร์ไปล่ะไปอดอยากจากไหนมาห๊ะ...”“ฮื้มม~ตัวพี่หอมจัง...พี่ไม่รู้หรอที่จริงผมอยากแล้วก็แข็งตั้งแต่เห็นพี่ที่สระว่ายน้ำแล้ว” เสียงผมสั่นกระเส่าอยากไม่อาจห้ามได้ ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนลอยมามังกรยักษ์ก็อยากโผล่หัวมาทักทายเหยื่อสาวเสียแล้ว“หมายความว่าเมื่อคืนเธอแอบดูพี่ที่สระด้วยหรอ” พี่ปรางดันหน้าผมออกจากเนินอกเธอแล้วถามเสียงเข้ม“อื้ม..ก็เมื่อคืนผมนอนไม่หลับกะว่าจะไปเดินเล่นเฉยๆ ใครจะไปรู้ว่าจะได้เจอเงือกสาวแสนสวยใส่บิกินี่
คืนนั้นหลังจากถูไถแค่ภายนอกจนเสร็จสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่ดึกๆช่วงตีสี่กว่าๆผมก็ย่องออกมานอนที่ห้องของตัวเองที่ไอ้คิวมันจัดไว้ให้แล้วหลับต่อไปยันสายตรู่ทั้งผมทั้งไอ้คิวต่างตื่นสายด้วยกันทั้งคู่โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์เราไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน ส่วนแม่ไอ้คิวผมยังไม่เห็นเลยนะสงสัยจะเขิน“ไงมึงหลับสบายดีไหมบ้านกู” เสียงไอ้คิวถามพลางยิ้มอารมณ์ดี แน่ล่ะสิเมาหลับไปตั้งแต่หัวค่ำละมั้ง“อืม..ดีมากกูหลับสนิทเลย” เสียไปตั้งหลายน้ำจะไม่หลับได้ยังไง!“มากินข้าวก่อนนี่แม่กูทำข้าวต้มปลาไว้ให้มึงจะเอากาแฟไหมกูจะได้ให้พี่สมพรไปชงมาให้”“เออเอาก็ได้” ผมพยักหน้ารับรู้สึกอยากได้คาเฟอีนเข้ามาในร่างกายเหมือนกันเพราะเช้านี้รู้สึกไร้เรี่ยวแรงจริงๆฝีมือทำกับข้าวของแม่ไอ้คิวก็อร่อยดีนะ ส่วนคนทำไม่รู้หนีหายไปไหนแล้วผมมองๆหาก็ไม่ยักจะเห็นเลย“เออแล้วนี่แม่มึงไปไหนหรอวะ”“ไม่รู้เหมือนกันว่ะสงสัยอยู่บนห้องมั้งว่าแต่มึงเถอะวันนี้จะไปไหนต่อเปล่า”“ไม่รู้ว่ะเบื่อๆคงนอนอยู่บ้านแหละกูขี้เกียจออก”“ไปดูหนังกับกูไหมล่ะพอดีกูชวนแม่ไปดูหนังรอบบ่ายมึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิไปกับแม่สองคนกูอาย” ไอ้คิวมันบอกในขณะที่ผมนึกขำ
หญิงสาวผมเผ้าหลุดรุ่ยเนื้อตัวเปลือยเปล่ามองหนุ่มรุ่นลูกตาปรอยเนื้อตัวสั่นระริกราวกับจะอ้อนวอนขอให้เด็กหนุ่มช่วยเติมเต็มสิ่งที่เธอขาดหายไปหลายสิบปีให้หน่อย เด็กหนุ่มหลุบตามองริมฝีปากอิ่มเอิ่มที่แย้มออกดูเย้ายวนชวนให้คลุกเคล้าดื่มด่ำความหวานหอมในโพลงปากนุ่มเหลือเกิน“อื้อออออออ” เสียงหวานครางกระเส่าในลำคอเมื่อถูกเด็กหนุ่มบดจูบอย่างดูดดื่ม เรียวลิ้นอุ่นชื้นพลิกไล้ไปตามไรฟันขาวสะอาดเลาะเล็มน้ำหวานตามโพลงปากด้านในจนน้ำลายของทั้งสองคนไหลย้อยออกมาตามมุมปาก“ชอบไหม?ชอบให้ผมสัมผัสแบบนี้ไหมครับ” เสียงทุ้มแหบพร่าของเพื่อนลูกดังขึ้นอีกครั้งที่ข้างใบหูพร้อมกับลมร้อนที่เขาเป่าใส่อย่างยั่วเย้าหลังจากที่เขาละริมฝีปากออกปล่อยให้เธอได้หายใจหายคอออกบ้างหลังจากที่ถูกจูบดูดวิญญานเข้าไปหลายนาทีจากนั้นก็ลากริมฝีปากลงมายังซอกคอขาวเนียนดูดกลืนผิวเนื้ออ่อนหอมละมุนจนมันขึ้นสีคล้ำเป็นจ้ำแล้วก็ลากลงมาไซร์เนินอกอวบอิ่มเบียดชิดชูชันตั้งตะหง่านอีกครั้ง“อื้มมมมม” มีเพียงเสียงครางอื้ออึงไม่ได้สรรพ์ดังตอบรับการกระทำแค่นั้น นาทีนี้หัวสมองเธอว่างเปล่าไปหมดครุ่นคิดอะไรไม่ออกแม้แต่นิด“แม่ครับ...ผมขอเลียหน่อยนะครับ” คำพูด
ร่างขาวโพลนในชุดบิกินี่ตัวจิ๋วที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในสระท่ามกลางไฟที่สาดส่องพอให้เห็นสลัวๆชวนให้ผมนึกจินตนาการถึงนางเงือกแสนสวยที่แหวกว่ายวนไปมาขาเรียวขาวได้รูปไร้ไขมันปะปนที่กำลังตีขาบนน้ำก็ดูน่าหลงใหลชวนให้นึกถึงเวลาที่ขาเรียวงามสองข้างมาพาดบนบ่ากว้างของผมมันคงให้ความรู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียวบิกินี่สีแดงสดช่างขับผิวของแม่ไอ้คิวได้ดีเหลือเกินเพราะเมื่อมันทาบลงบนร่างอรชรยิ่งทำให้ตัดกับสีผิวขาวผ่องไปทั้งตัวจริงๆ สายเส้นเล็กๆที่เกาะต้นคอเนียนนั่นดูเกะกะตาดีเหลือเกินเห็นแล้วผมอยากกระตุกมันออกทิ้งไปไม่นานเหมือนว่าแม่ไอ้คิวคงจะว่ายน้ำจนเหนื่อยแล้วมั้ง ร่างบอบบางของเธอจึงเดินขึ้นมานั่งบนขอบสระ หลังจากนั้นเธอก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอวันนี้นั่นก็คือแม่ไอ้คิวปลดบิกินี่ทั้งท่อนบนและท่อนล่างออกจนเหลือแต่เนื้อตัวเปลือยเปล่าท้าสายลมจากนั้นก็หยิบเสื้อคลุมมาสวมช้าๆราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรที่อยู่ๆก็แก้ผ้าท้าลมหนาวเช่นนี้ขนผมลุกซู่หอบหายใจรัวเลยล่ะรู้สึกว่าหัวใจทำงานหนักมากเวลานี้ ไม่ใช่แต่ขนนะที่ลุก ‘อย่างอื่น’ ผมก็ลุกเช่นกัน‘ให้ตายเถอะนี่แม่เพื่อนนะไอ้โจ้ท่องไว้แม่เพื่อน...แม่เพื่







