มิ้ลใส่เสื้อบอลกลับมันยาวกลายเป็นชุดนอนเลย ส่วนพี่กานใส่แต่กางเกงบอลตัวเดียว มิ้ลก็งงว่าเราจะนอนห้องไหน ก็แกบอกทีแรกว่าห้องนี้ห้องน้องแก ก่อนที่มิ้ลจะถาม พี่กานก็จูงมือมิ้ลไปนอนลงบนเตียงที่ห้องนี้แหละ แกปิดไฟแล้วขึ้นมานอนกอดมิ้ล อย่างงง ๆ "ห้องพี่เองแหละ เสื้อผ้าแฟนเก่าพี่ ใส่ไปเถอะอย่าคิดมาก" พี่กานมาเฉลย เมื่อแผนการของแกสำเร็จ มิ้ลทุบอกแกไปสองที จนถึงกับร้อง "โอ้ย ๆ เบา ๆ จ้าพี่ผิดไปแล้ว" มิ้ลถึงหยุด กะจะทุบให้ซ้ำเลยเจ้าเล่ห์ดีนัก มิ้ลไม่ได้โกรธที่แกจะใช้กำลังกับมิ้ลทีแรก เพราะมิ้ลก็อยากอยู่เป็นทุนอยู่แล้ว แต่เรื่องที่คบกันหรือเปล่ามิ้ลไม่ได้แคร์ มิ้ลมีโลกส่วนตัวสูง แล้วพี่กานก็ซุกตัวมานอนทาบตัวมิ้ลไว้ แต่คอยหอมตรงซอกคอ ตรงแก้ม ดมผมมิ้ลมั่ง จนหลับไปทั้งคู่ มิ้ลตื่นมาวันที่ 15 เวลาเกือบ 10 โมง ไม่เห็นพี่กานแล้ว เลยอาบน้ำเสร็จ ออกมาดูเสื้อผ้าแฟนเก่าพี่กาน เปิดดูลิ้นชักเสื้อใน ที่มีเหลืออยู่เป็นสิบตัว ใหม่ ๆ ทั้งนั้นเลย แต่น่าเสียด้ายเหมือนไซส์จะต่างกันเยอะ มิ้ลก็เลยมาเปิดลิ้นชักที่สอง ซึ่งมันก็เป็นลิ้นชักกางเกงใน มิ้ลหยิบ ๆ ดู กางเกงในแฟนเก่าพี่กาน แซ่บ ๆ ทั้งนั้น มีตัวที่ยังไม่แกะป้ายสองสามตัว มิ้ลเลยเอามาใส่เลย น่าเสียด้ายจริงที่เสื้อชั้นในใส่ไม่ได้ ก็ขนาดมันใหญ่เบ้อเร่อเลย คงจะทำหน้าอกมาแน่ กางเกงในก็เด็ด สงสัยเป็นพริตตี้เปล่าว่ะ แล้วมิ้ลก็ใส่กางเกงยีนส์ตัวเดิมกับเสื้อบอลทีมชาติอาร์เจนตินา เสื้อคงจะของพี่กาน
มิ้ลลงมาเกือบเที่ยง แต่ถึงกับหน้าชา เมื่อถูกแซว "ไอ้กานมึงทำอะไรน้องมิ้ล" พี่พงษ์แซว แล้วตอนนี้พี่พงษ์กับพี่กานตั้งวงกันแล้ว และที่อายสุด ๆ ก็อิ๋วมันมานั่งอยู่ข้างพี่พงษ์ หัวแทบจะซุกกัน มิ้ลละงงจริง ๆ แต่มิ้ลก็ไม่สนหลอก อิ๋วมาก็ดีเหมือนกัน มิ้ลจะได้อายน้อยลง มิ้ลนั่งลงข้างพี่กานแบบคู่ใครคู่มันเลย เอาดิอีอิ๋ว มิ้ลคิด พี่พงษ์ทำท่าจะชงเหล้าผสมโค๊กให้มิ้ล พี่กานรีบห้าม "มิ้ลกินข้าวก่อนดีกว่าเดียวปวดท้อง" แล้วแกก็เดินไปหยิบห่อข้าวมันไก่มาแกะให้มิ้ล โดยพี่พงษ์กับอิ๋วมองหน้ากันแล้วยิ้มแบบแปลก ๆ มิ้ลไม่สนอยู่แล้ว กินข้าวก่อนหิวอยู่พอดี พี่กานเอาน้ำเปล่ามาเปิดวางให้อีก คราวนี้สองคนนั้น ถึงกับทนไม่ไหว ส่งเสียงโห่ กันสนุกสนาน มิ้ลเงยหน้ามายิ้มมุมปาก แล้วกินข้าวต่อ จนเป็นพี่กานเองที่ออกตัว "มา ๆ กินเหล้า เดี๋ยวมึงจะโดนไอ้พงษ์" พี่กานชวนสองคนนั้นชนแก้ว เพื่อให้หยุดแซวมิ้ล อิ๋วเลยพูดขึ้นว่ารับประทานเร็ว ๆ ค่ะน้องมิ้ล
เดี๋ยวจะไม่ทัน" มิ้ลถึงกับงง ๆ เขาจะไปไหนกัน ก่อนจะลุกเอาจานไปล้าง แล้วกลับมานั่งดื่มน้ำ ตอนนี้รู้สึกมีเรียวมีแรง พอจะต่อฝีปากกับอิ๋วได้ มิ้ลทำท่าจะหยิบแก้วมาชงเหล้า แต่ก็มีมือของพี่กานมาปัดออก พร้อมกับเสียงที่ดังขึ้น "มิ้ลกินฟูลมูลดีกว่า เดี๋ยวพี่ไปหยิบให้" แล้วแกก็เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบฟูลมูลออกมาสองขวด เปิดให้มิ้ลขวด อีกขวดแช่ถังน้ำแข็ง มิ้ลก็งงเหมือนกันเมื่อวานยังมอมเหล้ากูอยู่เลย วันนี้ให้กินฟูลมูลกูจะบ้าตาย อยากขี้เหล่จริง ๆ มิ้ลยิ้มอยู่คนเดียว ก่อนจะยกฟูลมูลกระดก ก่อนจะต้องมาประสานตากับอิ๋วที่มองไม่กระพริบ "อะไรอีกมึง...หรือจะให้กูพูดบ้าง" มิ้ลชักจะเบื่อมันเลยขู่ให้บ้าง "แม้เพื่อนก็..กูแค่เห็นมึงหน้าตาเปร่งปรั่ง มองหน่อยไม่ได้ ดุตลอด555" อิ๋วว่าก่อนจะหัวเราะกลบ มิ้ลรู้ว่ามันจะสื่อถึงอะไร ก็อิ๋วมันเคยอ่อยพี่กานเหมือนกัน แต่พี่กานแกเฉยกับมัน อิ๋วเลยไปอ่อยพี่พงษ์แทน แล้วก็อย่างที่เห็น มันควบอยู่สองยังไม่หนำใจ จะเหมาให้หมดแก๊งค์เลยซิ แต่ตัวจริงน่าจะเป็นพี่คม แต่ตัวสำรองน่าจะเป็นพี่พงษ์ ซึ่งแกก็คงจะรับได้ ดูจากวันนี้แล้วบ้างทีพี่คมก็รู้เรื่องพี่พงษ์ด้วย มิ้ลละไม่อยากจะรู้เรื่องของมันเลย จะพูดหยาบ ๆ ถ้ามันไม่ใช่เพื่อน ก็คือพวกมึงมั่วกันไปหมด มิ้ลเลยชวนเขาคุยกันบ้าง "จะไปไหนกันพี่" มิ้ลถาม "ก็ไปงานสงกรานต์ที่ข้าวสารดิ" อิ๋วเป็นคนตอบ "ใช่...หรือไม่ไปแล้ว...พี่รอมิ้ลเลยกินเหล้ารอกันหมดไปกลมแล้ว" พี่กานพูดบ้าง "อ้าวและมาโทษมิ้ล...พี่ไม่ขึ้นไปตามเอง" มิ้ลก็บอกไปตามจริง "เอออย่าไปเลย เล่นอยู่ทีบ้านก็ได้ เดี๋ยวเอาสระยางมาสูบลม แล้วลงไปแช่กัน" พี่พงษ์เสนอความคิด เห็นมาเป็นปีก็วันนี้แหละที่พี่พงษ์พูดมีหลักการ
"แจ๋วเลยเพื่อน แต่สระอยู่ไหนอ่ะ 555" พี่กานว่า แล้วสองคนนั่นก็หัวเราะกันลั่น "มีดิ แต่อยู่บ้านกูไปเอาแป๊บเดียว" ว่าแล้วพี่พงษ์ก็ลุกยืนขึ้น พร้อมกับดึงอิ๋วขึ้นมาด้วย จากนั้นก็ออกรถไปเลย เราไม่ทันจะแซว มิ้ลกับพี่กานมองหน้ากัน เหมือนรู้ว่าพี่พงษ์ทำไมต้องพาอิ๋วไปด้วย พี่กานเลยหันมาคุยกับมิ้ล "ใส่กางเกงในเปล่ามิ้ล พี่ลืมซื้อกางเกงในกระดาษมาให้ ตอนไปซื้อข้าว" มิ้ลไม่รู้จะตอบยังไงเลย พี่ก็ถามตรงเกิน ตอนนี้มิ้ลยังไม่เมานะ แถมพี่ให้กินแบบนี้อีก หมดลังก็ไม่เมา แกจะทำอะไรของแกว่ะ มิ้ลค่อย ๆ กระซิบว่า "ใส่ค่ะ" พี่กานเริ่มงงว่ามิ้ลเอาที่ไหนมาใส่ "ของมิ้ลพี่ซักตากไว้หลังบ้าน" พี่กานบอก โอ้วพี่จะซักทำไมเนี้ย มิ้ลคิด มิ้ลกระซิบอีก "มีในลิ้นชัก มิ้ลเลยเอาใส่" มิ้ลตอบ "เออใช่ ๆ มีของใหม่นี้หว่า ใส่แต่ข้างล่างใช่ไหม" แกถาม ทั้งที่น่าจะรู้ มิ้ลกระซิบบอกแกอีก "ใช่คะ พอใจยังค่ะ ของมิ้ลของแท้ค่ะ" มิ้ลตอบประชดบ้าง
ผมเป็นคนหนึ่งที่มีประสบการณ์เรื่องลักหลับที่ผมประทับใจอยู่ครั้งหนึ่งมา เล่าให้ฟัง ตอนนั้นผมอายุ 20 ผมเป็น คนกรุงเทพฯ อาศัยอยู่กับพ่อแม่และมีน้องสาวคน 1 คนอายุ 17 เรียนอยู่ชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมชื่อดังย่านลาดพร้าว หน้าตาก็จัดว่าน่ารัก แต่เพราะผมเป็นพี่ชายเลยมองไม่ออกเท่าไหร่ (เห็นหน้ากันทุกวัน) เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้มันไม่ใช่การ ลักหลับน้องสาวผมเองหรอกครับ แต่ก็ไม่เชิงมากนัก น้องสาวผมชอบพาเพื่อนมาค้างที่บ้านเป็นประจำ และมีเพื่อนน้องอยู่ คนหนึ่งชื่อน้องหญิง น้องหญิงเรียนอยู่ที่เดียวกันกับน้องสาวผม เธอเป็นคนผิวขาว ผมสั้นๆ น่ารักมาก ผมเห็นแล้วยังชอบเลย แต่ไม่กล้าจีบเพราะเป็นเพื่อนน้อง เดี๋ยวจะหาว่าเราเป็นโคแก่ อีกอย่างหนึ่งต่อหน้าเพื่อนๆ ของน้องผม ผมจะวางตัวดี ทำเหมือนจะสุภาพเรียบร้อย เพื่อนๆ น้องเคารพผมทุกคน แต่ในใจนี่สิอยากจะอึ๊บซะให้หมดทุกคน เพื่อนน้องทุกคนเลย โดยเฉพาะน้องหญิงที่น่ารัก และแล้ววันที่ฟ้าประทานก็มาถึง วันนั้นผมกลับจากมหาวิทยาลัย พอมาถึงบ้านปุ๊บก็เห็นรองเท้า น้องสาวผมกับรองเท้าผู้หญิงอีกคู่หนึ่ง ผมคิดในใจแล้วว่าต้องเป็นเพื่อนน้องคนใดคนหนึ่งแน่เลย ในใจผมอยากให้เป็นน้อ
ไอ้เชนเป็นเด็กกำพร้าบ้านแตกสาแหรกขาดมาอาศัยอยู่กับอาจารย์ปลั่งซึ่งเป็น อาจารย์ประเภทหมอเสน่ห์และเข้าทรงโดยตั้งสำนักหลอกชาวบ้านไปวันๆ โดยมีบ้านพักเก่าๆ แต่ภายในตกแต่งให้ดูขลังเพื่อตบตาผู้คนเป็นสำนักทรง ซึ่งผู้คนที่เข้ามาหาส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ที่งมงายเชื่อถือในสิ่งที่มองไม่ เห็นและมักจะเป็นผู้หญิงเป็นส่วนมาก อาจารย์ปลั่งที่ผู้คนหลงนับถือแท้จริงคือสิบแปดมงกุฎตัวยง และยังเป็นชายหื่นกามที่หลงไหลในตัณหาราคะเป็นที่สุด ซึ่งเป้าหมายของการตั้งสำนักทรงและทำเสน่ห์ให้หญิงสาวก็เพื่อหวังที่จะได้ ทั้งตัวและเงินของเหยื่อและส่วนใหญ่ก็มักจะพลาดท่าตกเป็นเหยื่อให้ไอ้เฒ่า ปลั่งและไอ้เชนลูกศิษย์ได้ล่อและแบล็คเมย์เสมอๆ วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ลัดดาสาวไฮโซเมียนายพลซึ่งตอนนี้ตกอยู่ในห้วงของ ความทุกข์เพราะสามีนายพลไปติดเมียน้อยและไม่ค่อยกลับบ้านทิ้งให้ลัดดาและ น้องมิ้นลูกสาววัย 17 ต้องอยู่กับแม่ในบ้านหลังใหญ่รายล้อมด้วยคนใช้เพียงลำพัง ด้วยความที่อยากได้สามีคืนลัดดาจึงหวังใช้เสน่ห์จากอวิชาตามที่ได้รับคำบอก เล่าจากคนรับใช้ภายในบ้านว่ามีสำนักทรงและหมอเสน่ห์อยู่ใกล้บ้านและเนื่อง จากคนรับใช้ไม่เคยไปใช้บริการที่สำน
หนูชื่อสาวนะคะ กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งนึงในกรุงเทพค่ะ แฟนสาวน่ะเค้าชอบให้สาวแต่งตัวโป๊ๆ ยั่วคนอื่นสาวก้อชอบค่ะ สาวชอบแต่งตัว แต่มาหลังๆ เวลานอนกับแฟนๆ สาวชอบพูดถึงให้สมมติว่าสาวนอนกะคนอื่นบ้าง มีคนอื่นอยู่ในเหตุการณ์ทำนู่นทำนี่กะสาวมั่งล่ะ แรกๆ สาวไม่ชอบเลย แต่หลังๆ ก้อลองจินตนาการแล้วรู้สึกว่ามันเสียวมากเลย แต่ไม่บอกแฟนหรอกไม่อยากให้เค้าคิดว่าเราเป็นผู้หญิงไม่ดีจนมาวันนึง เป็นครั้งแรกค่ะสาวเคยเล่าไว้นานแล้วเรื่องตอนที่สาวไปเสม็ดแล้วแฟนสาวขอให้ช่วยใช้มือกะเพื่อนเค้า สาวยอมรับว่าสาวชอบมากอยากลองจริงๆ แต่สาวก้อกลัวค่ะหลังจากนั้นเราก้อเล่นกันแบบจงใจให้คนอื่นเห็นบ่อยๆสาวจะมีความรู้สึกมากเป็นพิเศษเวลาเห็นแฟนสาวหึงหวงด้วยจนมาวันนึงแฟนสาวอยากให้สาวลองเล่นเป็นผู้หญิงบริการ สาวก้อโอเคนะเพราะนึกว่าเค้าจาให้สาวแกล้งเป็นแล้วนอนกะเค้าที่ไหนได้มีอยู่คืนนึง เค้าออกไปเที่ยวกะเพื่อนนอกบ้านแล้วให้พอดึกๆ ก้อบอกให้สาวตามออกไปโดยใส่ใส่เสื้อผ้าแบบวาบหวิวสาวก้อลังเลนะ แต่เห็นว่าแฟนคงไม่ให้ไปนอนกะคนอื่นหรอก สาวก้อตามไปที่ร้าน ร้านนี้มืดมากเลยค่ะเป็นพวกเล้าจ์น่ะมีเด็กนั่งดริ้ง แฟนสาวนั
ผมยังเป็นนักศึกษาอยู่เลยครับ ผมชื่อหนุ่ยเป็นคนบ้านนอก ได้มีโอกาสสอบติดที่กทม. ผมจึงต้องอาศัยบ้านอาผู้ชาย อาผมชื่อว่าโต้งครับ แต่งงานแล้วมีลูกสองคนเป็นชายคนหญิงคน ผู้ชายอายุมากกว่าผม เขาแต่งงานมีลูกมีเมียไปแล้วครับ ส่วนลูกสาวอีกคนเพิ่งจะ ม.6 เองชื่อแยม อาสะใภ้ของผมมีชื่อว่าเตือน อายุน้อยกว่าอาผมตั้งเกือบสิบปีได้ คงอายุประมาณ 30 ได้มั้งครับ เนื่องจากว่าผมสนิทกับอาโต้งมาก อาผมจึงเชื่อใจและไว้ใจผมดูแลบ้านเวลาเขาไปทำงาน ส่วนอาเตือนเขาอยู่บ้านรับจ้างเย็บเสื้อผ้า ตอนแรกๆ ที่ผมได้เข้ามาอยู่ที่บ้านนี้ ตอนกลางคืนผมมักจะได้ยินเสียงแปลกๆ อยู่เสมอครับ คงไม่ใช่เสียงอะไรหรอกครับ เสียงอาทั้งสองของผมครางกระเส่านั่นเอง ผมมักจะแอบดูเป็นประจำและครั้งแรกที่ผมเห็นนั้นก็ทำให้ผมเกิดความคิดที่จะต้องเอาอาเตือนให้ได้ แม้ว่าอาโต้งจะดีกับผมเพียงไร แต่ด้วยความขาวความอวบและเนินโหนกอันแสนจะระทึกใจของอาเตือนนั้นผมห้ามใจไม่ไหวหรอกครับแล้ววันที่ผมรอคอยก็มาถึง วันนั้นอาโต้งออกไปทำงานตามเคย ผมจึงนอนอยู่บนห้องคนเดียวรอเวลาที่อาเตือนจะเข้ามาทำความสะอาดห้อง แล้วผมก็แกล้งนอนหลับแถมยังแก้ผ้าหมดเหลือแต่มังกรตัวเขื่อ
มันเกิดขึ้นตอนที่ผมเรียนอยู่ชั้นปี 3 ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งชื่อนพ ผมนอนกับผู้หญิงครั้งแรกก็ไอ้นพนี่แหละครับ นพพาผมไปเที่ยวเธคและแนะนำให้รู้จักกัน แล้วครั้งแรกนี่แหละครับที่ผมได้เสียวกับเธอโดยที่เธอทำเองหมดเลย ทั้งอมดูดและขย่มจนผมหมดแรงไปเลยครับซึ่งเธอจัดเจนมากกับเรื่องบนเตียง แล้วนพก็บอกผมว่าเธอนอนกับผู้ชายมาแล้วหลายคนแม้กระทั่งตัวมันเอง แต่เธอจะนอนกับคนที่เธอพอใจเท่านั้นครับ ผมเลยโชคดีได้นอนกับเธอเกือบสองอาทิตย์แล้วก็เลิกติดต่อกันไปตั้งแต่นั้นมาผมกับไอ้นพจะได้ผู้หญิงไปนอนด้วยเสมอเพราะพวกเราหน้าตาดีมีรถขับมีเงินพวกเธอเลยยอมมาด้วย และพวกเธอก็สวยๆ ทั้งนั้น เรียนอยู่ก็มีพวกเธอต้องการความสนุกเท่านั้น ผมกับนพนอนกับผู้หญิงมาหลายรูปแบบทั้งสาวใหญ่ แม่ม่าย วัยรุ่น ทั้ง 2 ต่อ 1 เราไม่อายกันหรอกครับ แล้วจู่ๆ ผมนึกอยากลองเย่อกับผู้หญิงวัยอ่อนกว่าเราสองคน เพราะตั้งแต่เราเที่ยวกันมาเคยแต่นอนกับหญิงมหาวิทยาลัยทั้งนั้นเด็กมัธยมด้วยกันยังไม่เคย แล้วเราก็ตกลงไอ้นพมันจะหามาให้ครับมันก็เร็วทันใจดีเหลือเกินไอ้นพบอกได้แล้วขาดแต่สถานที่ แต่มันก็พอดีพ่อแม่ผมไม่อยู่ไปต่างจังหวัดเหลือผมอยู่บ้านค
หนูบอกแกว่าหนูไม่เป็นอะไรมาก นอนพักสักครู่ก็คงหาย แต่น้าลพยังไม่ออกไปจากห้อง ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงข้างๆ หนู เอามือลูบไล้ท่อนขาเรียวเปลือยของหนูแล้วพูดว่า “คุณหนูครับเมื่อคืนคุณหนูแอบดูผมกับคุณผู้หญิงใช่มั้ยครับผมเห็นเงาที่ระเบียง” หนูตกใจมากที่ทราบว่าน้าลพแกเห็นที่หนูแอบดู หนูผุดลุกขึ้นนั่ง หลบตาแกหน้าชาวูบด้วยความอาย น้าลพลูบไล้แผ่นหลังมาถึงสะโพกหนูพลางกระซิบว่า “คุณหนูไม่ต้องอายหรอกครับ คุณหนูบอกผมได้ไหมครับว่าเห็นอะไรบ้างและคุณหนูรู้สึกยังไง” หนูเสียวซ่านเมื่อน้าลพลูบไล้เข้าไปในเสื้อยืด ภาพเมื่อคืนวานผุดเข้ามาในความคิดของหนู ความเสียวซ่านจากภาพนั้นประกอบกับการถูกจู่โจมลูบไล้ ทำให้รู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว น้าลพแกก้มหน้าลงซบที่ซอกอกหนูมือก็ยังคงลูบไล้ลามไปเรื่อยๆ หนูพยายามปัดป้องผลักไส แต่ความซาบซ่านทำให้ต้องแอ่นอกรับหน้าของน้าลพอย่างสุดที่จะห้ามใจน้าลพดึงเสื้อยืดหนูขึ้นแล้วฝังหน้าลงระหว่างร่องอกที่ห่อหุ้มด้วยเสื้อชั้นใน แลบลิ้นเลียไปตามชายเนินถันที่ตึงเต่งของหนู หนูพยายามจะผลักไสแต่มันไม่มีแรงเอาซะเลย น้าลพกดตัวหนูนอนราบลงจับมือหนูทั้งสองข้างยกขึ้นแล้วดึงเสื้อยืดขึ้นจนเสื้อรูดพ้นจากร่