Masukจากที่เมฆาได้รับข้อมูลจากมือขวาคนสนิท เขาก็กระตุกยิ้มที่มุมปากและบอกให้เวหาไปบอกครอบครัวนั้นให้เข้ามาคุยกับเขาในวันรุ่งขึ้น
“พ่อเลี้ยงตกลงจะช่วยลุงพันใช่ไหม”
เวหาถามหยั่งเชิง เขาจะได้บอกลุงพันและครอบครัวได้ถูก
“ช่วยนะมันก็ต้องช่วยอยู่แล้ว ฉันคงไม่ปล่อยให้ใครมาฆ่ากันตายในพื้นที่ของฉันหรอก แต่ฉันก็คงไม่เอาเงินห้าล้านบาทไปทิ้งฟรีหรอกนะ ฉันทำธุรกิจไม่ได้เป็นองค์กรการกุศล”
“หมายความว่าไง พ่อเลี้ยงจะให้เขามากู้พ่อเลี้ยงแทนนะหรือ แล้วลุงพันกับน้ากลิ่นจะมีเงินมาจ่ายต้นจ่ายดอกได้หรือเปล่านะ ส่วนปลายฝนก็พึ่งเรียนจบมอ.หกยังไม่ได้ทำงาน”
“สรุปที่นายเป็นกังวลเนี่ย นายห่วงกลัวฉันไม่ได้เงินคืน หรือห่วงครอบครัวนั้นกันแน่”
“เอ่อ.. ก็ทั้งคู่นั่นแหละ”
“ฉันมีทางเลือกให้แค่นี้ บอกให้เขามาที่นี่พรุ่งนี้เก้าโมงเช้า อย่าช้านะ เพราะฉันมีธุระต้องไปทำต่อ”
“ครับพ่อเลี้ยง”
เวหายอมรับว่าเขาเริ่มเป็นห่วงครอบครัวลุงพันว่าจะเอาเงินที่ไหนมาผ่อนจ่ายให้พ่อเลี้ยง ลำพังเงินเดือนที่ทำในไร่ก็แค่พอค่าใช่จ่ายประจำวันเท่านั้น แต่พอคิดอีกทีให้มาเป็นหนี้เมฆาก็ดีกว่าเป็นหนี้เสี่ยชัชอยู่แล้ว เขาจึงรีบไปแจ้งข่าวให้ครอบครัวนั้นทราบ
เช้าวันรุ่งขึ้น
ลุงพันและปลายฝนขับมอเตอร์ไซค์คันเก่ามาที่เรือนของเมฆา ส่วนซ่อนกลิ่นนั้น ความจริงแล้วเธอเองก็อยากมาด้วยแต่ติดที่ต้องไปเฝ้าแผงขายผลิตผลจากไร่ของเมฆานั่นคืองานของเธอ เธอจึงไปด้วยไม่ได้ แต่ก็เชื่อว่าจะมีทางออกที่ดีสำหรับครอบครัวเธอ
ปลายฝนและลุงพันมาหยุดยืนที่หน้าประตูรั้วของเรือนเมฆา ตัวรั้วของเรือนเป็นแนวสีเขียวต้นโมกข์ที่สูงท่วมหัว มีดอกสีขาวเล็กๆ แซมตลอดแนวส่งกลิ่นหอมเย็น ส่วนตัวซุ้มประตูมีไม้เถาดอกสีม่วงครามของต้นพวงครามเลื้อยปกคลุมอยู่ บรรยากาศร่มรื่น ดูสบายตามาก
ทั้งสองยืนเงอะๆ เงิ่นๆ อยู่หน้าประตูรั้ว แม้ว่าลุงพันจะเป็นลูกจ้างของไร่นี้มานาน แต่เขาก็ไม่เคยเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเจ้านายเลยสักครั้ง ส่วนปลายฝนยิ่งหนักกว่าเธอเคยได้ยินมาว่าพ่อเลี้ยงเมฆามีความเป็นส่วนตัวสูงไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่มย่ามหรือเกะกะในพื้นที่ส่วนตัว ระหว่างที่สองพ่อลูกกำลังยืนงงอยู่นั้น ประตูไม้สักก็เปิดออกโดยหญิงวัยเดียวกับลุงพัน
“มากันแล้วหรือตาพัน อ้าวหนูปลายก็มาด้วย รีบเข้ามาพ่อเลี้ยงกำลังรออยู่”
“สวัสดีจ้าป้าหมาย”
“ไหว้พระเถอะลูก”
“โอ๊ย..แล้วทำไมสภาพแกเป็นอย่างนั้นละตาพัน ไปโดนหมาที่ไหนฟัดมาละเนี่ย”
“แฮะ.. แฮะ”
ลุงพันได้แต่ยิ้มแหย แล้วเดินตามสมหมายเข้าไปข้างใน สมหมายพาทั้งคู่มาที่ห้องทำงานของเมฆา เธอเคาะประตูแล้วเปิดพาสองพ่อลูกเข้าไป
“ตาพันกับหนูปลายมาแล้วค่ะพ่อเลี้ยง”
ชายหนุ่มเจ้าของห้องที่กำลังยืนกอดอกทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง หันมามองคนที่เดินเข้ามา ลุงพันและปลายฝนยกมือไหว้ พอมาอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ ลุงพันเองก็รู้สึกเย็นเสียวสันหลังวาบ
“นั่งสิ”
เสียงดูมีอำนาจสั่งการออกมา ทำให้สองพ่อลูกนั่งลงอย่างลนลาน
“ยังไง”
“เอ่อ.. คือกระผมไปเป็นหนี้พนันที่บ่อนเฮียชัช จำนวนห้าล้านบาทแล้วพวกมันขีดเส้นตายว่าต้องนำเงินไปคืนภายในวันศุกร์หน้า ถ้าไม่มีพวกมันจะสั่งฆ่าผม ผมจึงมาขอพึ่งใบบุญขอให้พ่อเลี้ยงช่วยครับ”
ลุงพันพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ปลายฝนนั่งฟังนิ่งด้วยใบหน้าหม่นหมองในใจก็ลุ้นตามไป ส่วนเมฆานั่งฟังไปใช้นิ้วเคาะที่โต๊ะทำงานไป
“ตอนเล่นทำไมไม่คิด จะมีใครที่ไหนเขายอมเอาเงินมาให้ง่ายๆ เงินตั้งห้าล้านเชียวนะ ตอนนี้กลัวตายละสิ แล้วถ้าฉันไม่ช่วยล่ะ จะยังไง”
ปลายฝนได้ยินก็ตกใจ เธอรีบเอื้อมมือไปกุมมือใหญ่ไว้ พร้อมกับอ้อนวอนเสียงสั่น
“พ่อเลี้ยงขาได้โปรดช่วยพ่อหนูด้วยนะคะ ถ้าพ่อเลี้ยงไม่ช่วย พ่อหนูต้องโดนพวกมันฆ่าตายแน่เลย ช่วยพ่อหนูด้วยนะคะ”
มือเล็กและนุ่มเอื้อมมาเกาะกุมมือของเมฆา ทำให้ใจของเขาอ่อนลงยวบ เมฆามองที่มือน้อยที่กุมมือเขาแล้วสบตาหญิงสาว ซึ่งปลายฝนพึ่งรู้ตัวว่าตนเองทำสิ่งที่ไม่ควรลงไป เธอรีบถอนมือออกมาทันทีพร้อมกล่าวคำขอโทษ แล้วดึงมือลงมาประสานกันที่ตัก ก้มหน้างุด
“หนูขอโทษค่ะ”
“ฉันเป็นเกษตรกรและฉันก็เป็นนักธุรกิจด้วย เธอต้องเข้าใจนะว่าเงินตั้งห้าล้านบาทมันไม่ใช่น้อยๆ ฉันสามารถเอามาจ่ายเงินเดือนให้คนไร่ได้ตั้งหลายเดือน หรือไม่ก็เอาไปต่อธุรกิจอื่นได้อีก ถ้าฉันให้เธอไปอีกหากี่ปีเธอถึงจะหาเงินนี้มาคืนฉันได้ จะให้ฉันเอามาทิ้งฟรีๆ นะหรือไม่มีทาง และลุงพันก็คือพ่อเธอ ไม่ใช่พ่อฉัน”
“หนูทราบค่ะ แต่หนูหมดหนทางแล้วจริงๆ หนูไม่อยากให้พ่อตาย ฮือ ฮือ”
น้ำเสียงของปลายฝนเริ่มสั่นเครือ หยาดน้ำตาหยดน้อยค่อยๆ ร่วงเผะออกมาจากดวงตากลมโต ผู้เป็นพ่อคว้าตัวลูกสาวมาสวมกอดไว้
เมฆาปลดกางเกงลงแล้วควักเจ้าลูกชายของเขาออกมา ท่อนเอ็นที่มีขนาดเกือบเท่าแขนของปลายฝน ความยาวไม่ใช่น้อย ทำให้ปลายฝนตะลึงงัน เผลอกระเถิบถอยหลังจนชิดผนังเรือนโดยไม่รู้ตัว เมฆาก้าวตามไป แล้วจับท่อนเอ็นจ่อไปที่ปากเธอ ปลายหัวหยักมีน้ำปริ่มออกมา ปลายฝนตกใจทำอะไรไม่ถูก ทั้งกลัว ทั้งตระหนก“เอาเข้าไปในปากเธอสิปลายฝน แล้วดูดเลียให้ฉันเหมือนที่เธอดูดนิ้วฉันเมื่อครู่นี้ แต่ห้ามให้ฟันโดนของฉันเด็ดขาด”“พ่อเลี้ยง หนู หนูกลัว”“ทำตามที่ฉันสั่งอย่าให้ฉันโมโห เธอต้องเอาใจฉันและตามใจทำให้ฉันพอใจฉันเข้าใจไหม”ปลายฝนอ้าปากสั่นระริกครอบท่อนเอ็นของผู้เป็นเจ้าชีวิตเธอ กลิ่นและรสชาติของน้ำที่ปริ่มที่ปลายหัวทำให้เธอรู้สึกพะอืดพะอม แต่เธอไม่สามารถปฏิเสธมันได้เพราะสายตาที่แข็งกร้าวดุดันกำลังจ้องมองเธออยู่เพียงแค่ส่วนหนึ่งของร่างกายเขาเข้าไปอยู่ในโพรงปากที่อ่อนนุ่มและอุ่นชื้นของหญิงสาว เขาก็สยิวเสียวซ่านจนแทบจะอดรนทนไม่ได้ เสียงแหบพร่าแต่แฝงไปด้วยอำนาจทั้งครางและออกคำสั่ง“อ่า.. ขยับปากหน่อยปลายฝน ดูดแรงหน่อย อ่าส์ อย่างนั้นแหละ แม่งโคตรดีเลย”ปลายฝนออกแรงดูดตามคำสั่ง ดูดจนแก้มตอบด้วยท่าทางที่ไม่ประสีประสาอ่อนต่
ปลายฝนรู้สึกเหมือนสติจะหลุด ทุกลมหายใจโดนพ่อเลี้ยงสูบไปเกือบหมด หน้าอกถูกบีบขย้ำเต็มแรงจนเธอเจ็บระบม แต่แล้วความรู้สึกก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อฝ่ามือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อบีบขยำสองเต้าที่นุ่มนิ่มเต็มฝ่ามือ ไอร้อนจากฝ่ามือของชายหนุ่มกับสัมผัสจาก ปลายนิ้วที่ทั้งบดขยี้ดึงเล่นที่ส่วนปลายถัน ความวูบวาบแล่นผ่านปทุมถันแล้วพุ่งลงไปที่ช่วงล่างของเธอทำให้รู้สึกมวนท้องน้อยและปั่นป่วนไปด้วย ปลายฝนได้แต่ร้องครางในลำคอ เพราะอีกฝ่ายยังคงประกบปากเธออยู่ไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ จากการถูกปลุกปั่นไม่นานยอดอกที่นุ่มนิ่มก็เริ่มแข็งตัวชูชันสู้กับปลายนิ้วของชายหนุ่ม ทำให้เมฆาพึงพอใจ เขาจึงละริมฝีปากออกมา ปลายฝนหายใจแรงรีบกอบโกยลมเข้าสู่ปอด เธอแทบยืนไม่อยู่ สายตาเธอประทะกับดวงตาแข็งกร้าวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยไฟราคะ เสื้อยืดตัวโคร่งถูกดึงกระชากถอดออกไปพร้อมกับบราตัวจิ๋ว หญิงสาวตกใจรีบยกมือมาปิดสองเต้าไว้ “อ๊ะ.. พ่อเลี้ยง” “ใช่.. ฉันเอง ทำไมกลัวเรียกชื่อผิดหรือไร เอามือออก” “ฮือ พ่อเลี้ยงอย่าทำอะไรหนูเลย” “นี่เธอคิดว่าฉันจ่ายห้าล้านเพื่อให้เธอมาแค่ทำงานในเรือน กับเป็นคนงานในไ
ความคิดในสมองของเมฆาแบ่งเป็นสองส่วนที่กำลังตีกันความคิดแรกคือเดินไปลากเจ้าตัวปัญหาขึ้นห้องแล้วให้รับผิดชอบที่หล่อนทำให้อารมณ์กระสันของเขาพลุ่งพล่านในตอนนี้ ซึ่งเขาสามารถทำได้อยู่แล้วเพราะเด็กนั่นเป็นสมบัติของเขาแต่อีกความคิดเขาก็ยังมีมนุษยธรรมมากพอ เพราะการทำแบบนั้นก็เท่ากับขืนใจ รอให้เด็กคนนี้เต็มใจแล้วคลานมาหาเขาเองดีกว่า ไม่ต้องรีบสุดท้ายความคิดฝ่ายขาวก็ชนะความคิดด้านมืด เขาจึงเดินขึ้นห้องไปจัดการปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเองด้วยสองมือของเขาเอง ส่วนปลายฝนยืนล้างจานไป ภาพที่พ่อเลี้ยงยื่นหน้ามาใกล้ๆ เธอเมื่อช่วงเย็นที่บริเวณตรงที่เธอยืนอยู่ตรงนี้ ก็ทำให้ใจเธอเต้นแรง มันเกิดอะไรกับเธอนะเนี่ยความรู้สึกแบบนี้คืออะไร เธอล้างจานเก็บทำความสะอาดครัวเสร็จก็รีบกลับเข้าเรือนพักของตัวเอง และหลับไปด้วยความว้าวุ่นใจและเหนื่อยล้าจากงานในไร่มาทั้งวัน โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนแอบจินตนาการถึงใบหน้าและรูปร่างเธอแล้วเอาไปใช้สำเร็จความใคร่ของตนเองเช้าวันรุ่งขึ้น ปลายฝนตื่นแต่เช้าเธอเตรียมอาหารมื้อเช้าง่ายๆเป็นผัดกะหล่ำปลีใส่ไข่สำหรับตัวเองและใส่บาตร พอใส่บาตรเสร็จเธอเตรียมจะเดินเข้าบ้านเว
ปลายฝนไม่เคยใกล้ชิดกับชายใดมาก่อน ใบหน้าร้อนผ่าว หัวใจของเธอเริ่มเต้นรัวแรง หายใจถี่ขึ้นโดยอัตโนมัติ ทรวงอกที่ขยับตามแรงลมหายใจดึงดูดความสนใจของเมฆา เขาอยากจะดึงเสื้อยืดตัวโคร่งของเธอถอดโยนทิ้งให้พ้นสายตาจริงๆ “ว่าไง เธอจะดูแลฉันอย่างไรปลายฝน” “เอ่อ.. หนูก็จะเตรียมกาแฟพ่อเลี้ยงตอนเช้า ทำอาหารให้พ่อเลี้ยงทานตอนเที่ยงกับตอนเย็นจ้ะ แล้วก็จะทำความสะอาดเรือนให้ด้วย” ปลายฝนตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เมฆากระตุกยิ้มที่มุมปาก เขาใช้มือข้างหนึ่งช้อนคางเด็กสาวให้สบตาเขา ดวงตาสวยใสราวกับลูกกวางน้อยมีแววตาที่หวาดหวั่น จากการถูกสายตาที่แข็งกร้าว ดุดันราวราชสีห์ของอีกฝ่ายจ้องมอง “เธอคิดว่าทำแค่นี้มันจะคุ้มค่ากับเงินห้าล้านของฉันไหม ไหนจะค่าที่พัก ค่าน้ำ ค่าไฟ แล้วอาหารที่เธอกินวันละสามมื้ออีก” “เอ่อ.. พ่อเลี้ยงให้หนูทำงานเพิ่มก็ได้นะจ๊ะ” ยิ่งเห็นแววตาที่ตื่นตระหนกหวาดกลัว แต่พยายามทำเป็นใจดีสู้เสือของปลายฝน เมฆาก็ยิ่งอยากแกล้ง “สงสัยฉันต้องให้เธอมาทำโอทีช่วงกลางคืนเพิ่มแล้วสิ” “พ่อเลี้ยงหิวแล้วใช่ไหมจ๊ะ เดี๋ยวหนูไปเตรียม
ชบาพาปลายฝนมานั่งพักในร่มเอาพัดมาโบกพัดวีให้ เอายาดมมาให้ดม สักพักคนที่หน้าซีดก็เริ่มมีอาการดีขึ้น ใบหน้าเริ่มมีเลือดฝาดสูบฉีดมา “นี่แหละผลของความดื้อของเรา” “ขอโทษจ้ะพี่ชบา ปลายเห็นทุกคนทำงานกันไม่ได้หยุดพักเลย ปลายก็อยากช่วยจ้ะ” “โอ๊ย เรามันกระดูกคนละเบอร์ เอ็งนะพึ่งมาวันนี้วันแรก ส่วนพวกพี่ทำกันมานานร่างกายมันชินแล้ว คราวหน้าถ้ารู้สึกไม่ดีต้องรีบพักรู้ไหม ถ้าเกิดพี่ไม่หันมาเห็นมีหวังเอ็งล้มหัวฟาดพื้นไปแล้ว” “จ้ะพี่” “นี่ก็จะเที่ยงแล้ว ไปล้างไม้ล้างมือรอกินข้าวเที่ยงเลยก็ได้” เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงทุกคนก็เดินเข้าแถวถือถาดหลุมให้อารมณ์เหมือนตอนเรียนอยู่โรงเรียนประถมใครใคร่ตักข้าวมากน้อยเท่าไหร่ก็ได้ จะเติมกี่รอบก็ได้ มื้อเที่ยงนี้เป็นเมนูแกงส้มผักกาดจอ กับไข่เจียว“น้องสาวเป็นเด็กใหม่พึ่งมาหรือจ๊ะ ชื่ออะไรครับพี่ชื่อเข้มนะ”ชายหนุ่มผิวเข้มสมชื่อเอ่ยปากแซว ปลายฝนได้แต่ยิ้มแหย และก็มีเสียงสวรรค์ขึ้นมา“มึงหยุดเลยไอ้เข้ม แหมเห็นเด็กใหม่มาไม่ได้นะมึง ขี้หลีไปทั่ว ปลายมาทางนี้มาอย่าไปสนใจมัน” ชบาตะโกนต่อว่าชายผิวเข้มที่แซวน้องใ
ปลายฝนหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้ามาหนึ่งใบ ภายในมีเสื้อผ้าไม่กี่ตัวกับของใช้ส่วนตัวอีกแล้วเล็กน้อย เธอยกมือไหว้สมหมายป้าแม่บ้านที่ดูแลความเรียบร้อยของเรือนไม้บ้านพักของพ่อเลี้ยงเมฆา “สวัสดีค่ะป้าหมาย” “นี่เอ็งมีของมาแค่นี้เองหรือนังหนู กระเป๋าใบเดียวนี่นะ เราต้องมาอยู่กับพ่อเลี้ยงยาวๆ ไม่ได้มาเที่ยววันสองวันนะ” “ปลายไม่ค่อยมีของอะไรหรอกจ้ะป้า ปกติเสื้อผ้าก็มีไม่กี่ตัวแล้วก็ของใช้ส่วนตัวนิดหน่อยค่ะ” “ผิดกับนังเหมียวลูกป้าเลย รายนั้นไม่รู้จะซื้ออะไรนักหนาเสื้อผ้าเต็มตู้ไปหมด มา มาเอาของไปเก็บก่อน ที่พักเราอยู่ทางโน้น” สมหมายพาปลายฝนไปห้องพักที่เป็นเรือนไม้หลังเล็ก ถูกสร้างไว้ด้านหลังเรือนพักหลังใหญ่ของเมฆา ครั้งแรกเมฆาตั้งใจสร้างเอาไว้ให้เวหา แต่เวหาขอไปอยู่ที่เรือนไม้ในไร่แทน ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง ไม่อยากเห็นหน้าพ่อเลี้ยงทั้งวันทั้งคืน ประตูถูกเปิดออกมา ด้านในมีห้องนอนหนึ่งห้อง ห้องครัวเล็กๆ ห้องน้ำ และเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นเช่นตู้เสื้อผ้า พัดลม ตู้เย็น “อยู่ได้ไหม ขาดเหลือหรืออยากได้อะไรก็บอกป้าได้”







