Masukปลายฝนหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้ามาหนึ่งใบ ภายในมีเสื้อผ้าไม่กี่ตัวกับของใช้ส่วนตัวอีกแล้วเล็กน้อย เธอยกมือไหว้สมหมายป้าแม่บ้านที่ดูแลความเรียบร้อยของเรือนไม้บ้านพักของพ่อเลี้ยงเมฆา
“สวัสดีค่ะป้าหมาย”
“นี่เอ็งมีของมาแค่นี้เองหรือนังหนู กระเป๋าใบเดียวนี่นะ เราต้องมาอยู่กับพ่อเลี้ยงยาวๆ ไม่ได้มาเที่ยววันสองวันนะ”
“ปลายไม่ค่อยมีของอะไรหรอกจ้ะป้า ปกติเสื้อผ้าก็มีไม่กี่ตัวแล้วก็ของใช้ส่วนตัวนิดหน่อยค่ะ”
“ผิดกับนังเหมียวลูกป้าเลย รายนั้นไม่รู้จะซื้ออะไรนักหนาเสื้อผ้าเต็มตู้ไปหมด มา มาเอาของไปเก็บก่อน ที่พักเราอยู่ทางโน้น”
สมหมายพาปลายฝนไปห้องพักที่เป็นเรือนไม้หลังเล็ก ถูกสร้างไว้ด้านหลังเรือนพักหลังใหญ่ของเมฆา ครั้งแรกเมฆาตั้งใจสร้างเอาไว้ให้เวหา แต่เวหาขอไปอยู่ที่เรือนไม้ในไร่แทน ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง ไม่อยากเห็นหน้าพ่อเลี้ยงทั้งวันทั้งคืน
ประตูถูกเปิดออกมา ด้านในมีห้องนอนหนึ่งห้อง ห้องครัวเล็กๆ ห้องน้ำ และเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นเช่นตู้เสื้อผ้า พัดลม ตู้เย็น
“อยู่ได้ไหม ขาดเหลือหรืออยากได้อะไรก็บอกป้าได้”
“มันดีมากๆ เลยจ้าป้าหมาย ห้องสวยจัง แล้วปลายต้องทำอะไรบ้างจ๊ะป้า”
สมหมายมองหน้าปลายฟ้าแล้วนึกถึงคำพูดของพ่อเลี้ยงที่ว่าให้จัดตารางให้ปลายฟ้าไปทำงานในไร่ ทำทุกจุด เธอได้แต่มองว่าตัวเล็กแค่นี้จะทำไหวไหมนะ
“มีงานรอเอ็งเยอะเลยนังหนู ข้าละกลัวใจจริงๆ ว่าเอ็งจะไหวไหม”
“ไหวจ้ะป้า ปลายทำได้ ทำได้ทุกอย่างเลย ป้าหมายใช้ปลายมาเลยจ้ะ
“วันนี้เอ็งก็อยู่จัดแจงตัวเองไปก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยไปเริ่มทำงานในไร่ คนในไร่เขาจะเริ่มงานกันเวลาเจ็ดโมงเช้าแล้วเลิกงานสี่โมงเย็น มีข้าวเที่ยงไปกินฟรีที่โรงครัว ส่วนข้าวเช้าและเย็นเอ็งก็มากินกับป้าที่ห้องครัวที่เรือนใหญ่นี้ป้าจะทำไว้เผื่อ”
“ขอบคุณจ้ะป้า”
“ส่วนเรื่องทำงาน พรุ่งนี้เอ็งไปหาหัวหน้าคนชื่อสนที่หน้าโรงครัวเดี๋ยวเขาจะบอกให้เอ็งเอง”
“จ้ะป้า .. เอ่อป้าจ๊ะ แล้วพ่อเลี้ยงเขาเป็นคนอย่างไรคะ”
“พ่อเลี้ยงเขาเป็นคนดีนะ ใจดีมากด้วย แต่เขาก็ไม่ชอบให้ใครไปยุ่งวุ่นวายเรื่องของเขา เอ็งก็ไม่ต้องเข้าไปวุ่นวายนะ เดี๋ยวถ้าเขาอยากใช้งาน เขาก็จะเรียกเอง ว่าแต่ว่าเอ็งนี่โชคดีมากเลยนะปลาย ปกติพ่อเลี้ยงไม่เคยให้ใครมาพักในรั้วเดียวกันเลย อย่าว่าแต่มาพักเลย เข้ามาในเรือนใหญ่ก็ไม่อนุญาตให้ใครเข้ามา นอกเสียจากแขกของพ่อเลี้ยงเอง กับพ่อเวหา และยิ่งเป็นผู้หญิงอายุรุ่นๆ แบบเอ็งยิ่งไม่อนุญาตเลย ส่วนป้านั้นเป็นข้อยกเว้นเพราะแก่แล้ว ฮ่า ฮ่า”
ปลายฝนได้แต่ยิ้มอ่อน เธอไม่รู้ว่าสมหมายรู้เรื่องเธอมากน้อยแค่ไหนจึงไม่ได้ปริปากพูดอะไรออกไป
“ป้าจ๊ะ เดี๋ยวปลายเก็บของเสร็จ ปลายไปช่วยป้าที่เรือนใหญ่นะจ๊ะ”
“อืม แต่ให้เดินเข้าทางด้านหลังห้องครัวนะ อย่าไปยุ่มย่ามวุ่นวายด้านหน้า เผื่อพ่อเลี้ยงมีแขกมา”
“จ้ะป้า”
ปลายฝนเก็บเสื้อผ้าที่พกมาไม่กี่ตัวจัดเก็บใส่ตู้เสื้อผ้า แล้วทำความสะอาดบ้าน จากนั้นสำรวจห้องครัวมีอุปกรณ์ทำครัวที่จำเป็นอยู่ แต่เธอคงไม่จำเป็นต้องใช้มันเพราะอาหารเช้าเย็นก็ไปฝากท้องกับป้าหมายที่เรือนใหญ่ มื้อเที่ยงกินในไร่ คิดไปคิดมาการที่เธอถูกพ่อขายให้กับพ่อเลี้ยงเมฆามันก็ไม่ใช่เรื่องแย่
เช้าวันรุ่งขึ้น
ปลายฝนไปช่วยสมหมายทำอาหารในครัว และกินข้าวก่อนที่จะเข้าไปทำงานในไร่
"กินเข้าไปเยอะๆ จะได้มีแรง เดี๋ยวไปเป็นลมเป็นแล้งในไร่จะแย่เอา”
“ขอบคุณนะจ๊ะป้า เอ่อ.. แล้วอาหารเช้าของพ่อเลี้ยงละจ๊ะ หนูไม่เห็นป้าเตรียมไว้เลย”
“อ้อ..มื้อเช้าพ่อเลี้ยงไม่กินข้าว ท่านกินแต่กาแฟ ส่วนมื้อเที่ยงเดี๋ยวป้าค่อยทำตอนใกล้ๆ เที่ยงจะได้กินร้อนๆ”
“อ๋อจ้ะ”
“งั้นเดี๋ยวป้าไปใส่บาตรก่อน เอ็งก็กินให้เรียบร้อยจะได้มีแรงทำงาน”
สมหมายเตรียมของไปใส่บาตร แล้วก็กรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ทวยเทพเทวดาทั้งหลาย ขอให้อำนวยพรให้กับพ่อเลี้ยงเมฆาและครอบครัวมีความสุข ร่ำรวย ซึ่งเธอทำแบบนี้ต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่เริ่มทำงานที่นี่
ปลายฝนกินข้าวเสร็จเธอเก็บล้างแล้วเดินเข้าไปรอหัวหน้าคนงานที่ชื่อสนที่โรงครัวในไร่
ปลายฝนมาอยู่ที่นี่วันนี้เป็นวันที่สองแล้ว เธอยังไม่ได้เจอเจ้าของไร่ เจ้าชีวิตของเธอเลย แต่คิดอีกทีไม่เจอนั่นแหละดีแล้ว
สนหัวหน้าคนงานมองสำรวจปลายฝนแล้วก็ทอดถอนใจ ตัวเล็กบอบบางแบบนี้จะรอดไหมเนี่ย จะทนแดดแรงๆ ในไร่ได้ไหมนะ
“นังหนูเอ็งชื่ออะไรนะ”
“หนูชื่อปลายฝนจ้ะน้าสน เรียกหนูว่าปลายก็ได้จ้ะ”
“ชื่อคุ้นคุ้น หน้าก็คุ้นคุ้น ใช่ลูกสาวไอ้พันหรือเปล่า”
“ใช่จ้ะ น้าสนรู้จักพ่อพันพ่อหนูด้วยหรือจ๊ะ”
“รู้สิ คนในไร่นี้ฉันรู้จักหมดแหละ แล้วเอ็งเรียนจบหรือยังนี่”
“หนูจบมอ.หกแล้วจ้ะ”
“อ้าวแล้วทำไมไม่ไปเรียนต่อ ไอ้พันมันไม่ยอมส่งเอ็งเรียนต่อหรือ”
“เปล่าจ้ะ เป็นฉันเองที่อยากมาทำงานช่วยพ่อกับแม่หาเงินจ้ะ”
“ไอ้พันกับอีกลิ่นนี่มันโชคดีจริงๆ ที่มีลูกสาวอย่างเอ็ง ที่บ้านข้านะวันๆ ไม่ทำอะไร เอาแต่เต้นแร้งเต้นกาอยู่หน้าโทรศัพท์ทั้งวัน เฮ้อ.. จะพูดมากก็ไม่ได้ แม่มันให้ท้ายอยู่”
ปลายฝนยิ้ม
“เอ่อ.. วันแรกถ้าไม่ไหวเอ็งอย่าฝืนนะ เดี๋ยวจะเป็นลมเอา ข้าอนุญาตให้เข้ามานั่งพักในร่มได้”
“จ้ะน้าสน”
นี่เป็นครั้งแรกที่ปลายฝนต้องมาทำงานตากแดดตากลมแบบนี้ เธอทำท่าจะวูบอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่ยอมออกไปพัก จนกระทั่ง
“เฮ้ยปลาย”
ชบาหญิงสาววัยใกล้เคียงกับปลายฝนอายุมากกว่าเธอสองปี ได้รับมอบหมายจากสนหัวหน้าคนงานให้คอยเป็นพี่เลี้ยงสอนงานให้ปลายฝน ร้องเสียงหลงเมื่อเห็นปลายฝนหน้ามืดทำท่าจะล้ม
เมฆาปลดกางเกงลงแล้วควักเจ้าลูกชายของเขาออกมา ท่อนเอ็นที่มีขนาดเกือบเท่าแขนของปลายฝน ความยาวไม่ใช่น้อย ทำให้ปลายฝนตะลึงงัน เผลอกระเถิบถอยหลังจนชิดผนังเรือนโดยไม่รู้ตัว เมฆาก้าวตามไป แล้วจับท่อนเอ็นจ่อไปที่ปากเธอ ปลายหัวหยักมีน้ำปริ่มออกมา ปลายฝนตกใจทำอะไรไม่ถูก ทั้งกลัว ทั้งตระหนก“เอาเข้าไปในปากเธอสิปลายฝน แล้วดูดเลียให้ฉันเหมือนที่เธอดูดนิ้วฉันเมื่อครู่นี้ แต่ห้ามให้ฟันโดนของฉันเด็ดขาด”“พ่อเลี้ยง หนู หนูกลัว”“ทำตามที่ฉันสั่งอย่าให้ฉันโมโห เธอต้องเอาใจฉันและตามใจทำให้ฉันพอใจฉันเข้าใจไหม”ปลายฝนอ้าปากสั่นระริกครอบท่อนเอ็นของผู้เป็นเจ้าชีวิตเธอ กลิ่นและรสชาติของน้ำที่ปริ่มที่ปลายหัวทำให้เธอรู้สึกพะอืดพะอม แต่เธอไม่สามารถปฏิเสธมันได้เพราะสายตาที่แข็งกร้าวดุดันกำลังจ้องมองเธออยู่เพียงแค่ส่วนหนึ่งของร่างกายเขาเข้าไปอยู่ในโพรงปากที่อ่อนนุ่มและอุ่นชื้นของหญิงสาว เขาก็สยิวเสียวซ่านจนแทบจะอดรนทนไม่ได้ เสียงแหบพร่าแต่แฝงไปด้วยอำนาจทั้งครางและออกคำสั่ง“อ่า.. ขยับปากหน่อยปลายฝน ดูดแรงหน่อย อ่าส์ อย่างนั้นแหละ แม่งโคตรดีเลย”ปลายฝนออกแรงดูดตามคำสั่ง ดูดจนแก้มตอบด้วยท่าทางที่ไม่ประสีประสาอ่อนต่
ปลายฝนรู้สึกเหมือนสติจะหลุด ทุกลมหายใจโดนพ่อเลี้ยงสูบไปเกือบหมด หน้าอกถูกบีบขย้ำเต็มแรงจนเธอเจ็บระบม แต่แล้วความรู้สึกก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อฝ่ามือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อบีบขยำสองเต้าที่นุ่มนิ่มเต็มฝ่ามือ ไอร้อนจากฝ่ามือของชายหนุ่มกับสัมผัสจาก ปลายนิ้วที่ทั้งบดขยี้ดึงเล่นที่ส่วนปลายถัน ความวูบวาบแล่นผ่านปทุมถันแล้วพุ่งลงไปที่ช่วงล่างของเธอทำให้รู้สึกมวนท้องน้อยและปั่นป่วนไปด้วย ปลายฝนได้แต่ร้องครางในลำคอ เพราะอีกฝ่ายยังคงประกบปากเธออยู่ไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ จากการถูกปลุกปั่นไม่นานยอดอกที่นุ่มนิ่มก็เริ่มแข็งตัวชูชันสู้กับปลายนิ้วของชายหนุ่ม ทำให้เมฆาพึงพอใจ เขาจึงละริมฝีปากออกมา ปลายฝนหายใจแรงรีบกอบโกยลมเข้าสู่ปอด เธอแทบยืนไม่อยู่ สายตาเธอประทะกับดวงตาแข็งกร้าวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยไฟราคะ เสื้อยืดตัวโคร่งถูกดึงกระชากถอดออกไปพร้อมกับบราตัวจิ๋ว หญิงสาวตกใจรีบยกมือมาปิดสองเต้าไว้ “อ๊ะ.. พ่อเลี้ยง” “ใช่.. ฉันเอง ทำไมกลัวเรียกชื่อผิดหรือไร เอามือออก” “ฮือ พ่อเลี้ยงอย่าทำอะไรหนูเลย” “นี่เธอคิดว่าฉันจ่ายห้าล้านเพื่อให้เธอมาแค่ทำงานในเรือน กับเป็นคนงานในไ
ความคิดในสมองของเมฆาแบ่งเป็นสองส่วนที่กำลังตีกันความคิดแรกคือเดินไปลากเจ้าตัวปัญหาขึ้นห้องแล้วให้รับผิดชอบที่หล่อนทำให้อารมณ์กระสันของเขาพลุ่งพล่านในตอนนี้ ซึ่งเขาสามารถทำได้อยู่แล้วเพราะเด็กนั่นเป็นสมบัติของเขาแต่อีกความคิดเขาก็ยังมีมนุษยธรรมมากพอ เพราะการทำแบบนั้นก็เท่ากับขืนใจ รอให้เด็กคนนี้เต็มใจแล้วคลานมาหาเขาเองดีกว่า ไม่ต้องรีบสุดท้ายความคิดฝ่ายขาวก็ชนะความคิดด้านมืด เขาจึงเดินขึ้นห้องไปจัดการปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเองด้วยสองมือของเขาเอง ส่วนปลายฝนยืนล้างจานไป ภาพที่พ่อเลี้ยงยื่นหน้ามาใกล้ๆ เธอเมื่อช่วงเย็นที่บริเวณตรงที่เธอยืนอยู่ตรงนี้ ก็ทำให้ใจเธอเต้นแรง มันเกิดอะไรกับเธอนะเนี่ยความรู้สึกแบบนี้คืออะไร เธอล้างจานเก็บทำความสะอาดครัวเสร็จก็รีบกลับเข้าเรือนพักของตัวเอง และหลับไปด้วยความว้าวุ่นใจและเหนื่อยล้าจากงานในไร่มาทั้งวัน โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนแอบจินตนาการถึงใบหน้าและรูปร่างเธอแล้วเอาไปใช้สำเร็จความใคร่ของตนเองเช้าวันรุ่งขึ้น ปลายฝนตื่นแต่เช้าเธอเตรียมอาหารมื้อเช้าง่ายๆเป็นผัดกะหล่ำปลีใส่ไข่สำหรับตัวเองและใส่บาตร พอใส่บาตรเสร็จเธอเตรียมจะเดินเข้าบ้านเว
ปลายฝนไม่เคยใกล้ชิดกับชายใดมาก่อน ใบหน้าร้อนผ่าว หัวใจของเธอเริ่มเต้นรัวแรง หายใจถี่ขึ้นโดยอัตโนมัติ ทรวงอกที่ขยับตามแรงลมหายใจดึงดูดความสนใจของเมฆา เขาอยากจะดึงเสื้อยืดตัวโคร่งของเธอถอดโยนทิ้งให้พ้นสายตาจริงๆ “ว่าไง เธอจะดูแลฉันอย่างไรปลายฝน” “เอ่อ.. หนูก็จะเตรียมกาแฟพ่อเลี้ยงตอนเช้า ทำอาหารให้พ่อเลี้ยงทานตอนเที่ยงกับตอนเย็นจ้ะ แล้วก็จะทำความสะอาดเรือนให้ด้วย” ปลายฝนตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เมฆากระตุกยิ้มที่มุมปาก เขาใช้มือข้างหนึ่งช้อนคางเด็กสาวให้สบตาเขา ดวงตาสวยใสราวกับลูกกวางน้อยมีแววตาที่หวาดหวั่น จากการถูกสายตาที่แข็งกร้าว ดุดันราวราชสีห์ของอีกฝ่ายจ้องมอง “เธอคิดว่าทำแค่นี้มันจะคุ้มค่ากับเงินห้าล้านของฉันไหม ไหนจะค่าที่พัก ค่าน้ำ ค่าไฟ แล้วอาหารที่เธอกินวันละสามมื้ออีก” “เอ่อ.. พ่อเลี้ยงให้หนูทำงานเพิ่มก็ได้นะจ๊ะ” ยิ่งเห็นแววตาที่ตื่นตระหนกหวาดกลัว แต่พยายามทำเป็นใจดีสู้เสือของปลายฝน เมฆาก็ยิ่งอยากแกล้ง “สงสัยฉันต้องให้เธอมาทำโอทีช่วงกลางคืนเพิ่มแล้วสิ” “พ่อเลี้ยงหิวแล้วใช่ไหมจ๊ะ เดี๋ยวหนูไปเตรียม
ชบาพาปลายฝนมานั่งพักในร่มเอาพัดมาโบกพัดวีให้ เอายาดมมาให้ดม สักพักคนที่หน้าซีดก็เริ่มมีอาการดีขึ้น ใบหน้าเริ่มมีเลือดฝาดสูบฉีดมา “นี่แหละผลของความดื้อของเรา” “ขอโทษจ้ะพี่ชบา ปลายเห็นทุกคนทำงานกันไม่ได้หยุดพักเลย ปลายก็อยากช่วยจ้ะ” “โอ๊ย เรามันกระดูกคนละเบอร์ เอ็งนะพึ่งมาวันนี้วันแรก ส่วนพวกพี่ทำกันมานานร่างกายมันชินแล้ว คราวหน้าถ้ารู้สึกไม่ดีต้องรีบพักรู้ไหม ถ้าเกิดพี่ไม่หันมาเห็นมีหวังเอ็งล้มหัวฟาดพื้นไปแล้ว” “จ้ะพี่” “นี่ก็จะเที่ยงแล้ว ไปล้างไม้ล้างมือรอกินข้าวเที่ยงเลยก็ได้” เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงทุกคนก็เดินเข้าแถวถือถาดหลุมให้อารมณ์เหมือนตอนเรียนอยู่โรงเรียนประถมใครใคร่ตักข้าวมากน้อยเท่าไหร่ก็ได้ จะเติมกี่รอบก็ได้ มื้อเที่ยงนี้เป็นเมนูแกงส้มผักกาดจอ กับไข่เจียว“น้องสาวเป็นเด็กใหม่พึ่งมาหรือจ๊ะ ชื่ออะไรครับพี่ชื่อเข้มนะ”ชายหนุ่มผิวเข้มสมชื่อเอ่ยปากแซว ปลายฝนได้แต่ยิ้มแหย และก็มีเสียงสวรรค์ขึ้นมา“มึงหยุดเลยไอ้เข้ม แหมเห็นเด็กใหม่มาไม่ได้นะมึง ขี้หลีไปทั่ว ปลายมาทางนี้มาอย่าไปสนใจมัน” ชบาตะโกนต่อว่าชายผิวเข้มที่แซวน้องใ
ปลายฝนหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้ามาหนึ่งใบ ภายในมีเสื้อผ้าไม่กี่ตัวกับของใช้ส่วนตัวอีกแล้วเล็กน้อย เธอยกมือไหว้สมหมายป้าแม่บ้านที่ดูแลความเรียบร้อยของเรือนไม้บ้านพักของพ่อเลี้ยงเมฆา “สวัสดีค่ะป้าหมาย” “นี่เอ็งมีของมาแค่นี้เองหรือนังหนู กระเป๋าใบเดียวนี่นะ เราต้องมาอยู่กับพ่อเลี้ยงยาวๆ ไม่ได้มาเที่ยววันสองวันนะ” “ปลายไม่ค่อยมีของอะไรหรอกจ้ะป้า ปกติเสื้อผ้าก็มีไม่กี่ตัวแล้วก็ของใช้ส่วนตัวนิดหน่อยค่ะ” “ผิดกับนังเหมียวลูกป้าเลย รายนั้นไม่รู้จะซื้ออะไรนักหนาเสื้อผ้าเต็มตู้ไปหมด มา มาเอาของไปเก็บก่อน ที่พักเราอยู่ทางโน้น” สมหมายพาปลายฝนไปห้องพักที่เป็นเรือนไม้หลังเล็ก ถูกสร้างไว้ด้านหลังเรือนพักหลังใหญ่ของเมฆา ครั้งแรกเมฆาตั้งใจสร้างเอาไว้ให้เวหา แต่เวหาขอไปอยู่ที่เรือนไม้ในไร่แทน ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง ไม่อยากเห็นหน้าพ่อเลี้ยงทั้งวันทั้งคืน ประตูถูกเปิดออกมา ด้านในมีห้องนอนหนึ่งห้อง ห้องครัวเล็กๆ ห้องน้ำ และเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นเช่นตู้เสื้อผ้า พัดลม ตู้เย็น “อยู่ได้ไหม ขาดเหลือหรืออยากได้อะไรก็บอกป้าได้”







