“เธอเองก็เหมือนกัน อย่าคิดแม้แต่จะอุ้มท้องหอบลูกหนีเหมือนในนิยายน้ำเน่าเชียวล่ะ เพราะฉันไม่ใช่พระเอกนิยาย ฉันไม่ได้ให้ค่ากับก้อนเลือดก้อนเดียวแบบนี้! ถ้าเธอคิดจะทำแบบนั้น ชีวิตของเธอจะไม่มีที่ยืนในผืนแผ่นดินนี้อีก จำเอาไว้!"
ขาสูงยาวก้าวเดินผ่านหน้าของเธอไปอีกครั้ง เสียงประตูห้องที่ปิดลงดัง ปัง! ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งเฮือก เขาเข้ามาเหยียบในห้องนี้ได้ไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ แต่ทว่าตอนนี้เขากลับเดินหนีไปเพราะโกรธจัด เขาไม่ได้ดีใจเลยสักนิด เขาไม่ได้อยากมีลูกกับเธอเลยสักครั้ง ที่เขามีเธออยู่ในชีวิตทุกวันนี้เพียงเพราะความสุขทางกายที่เธอมอบให้ หาใช่ความรักอย่างที่เธอมอบให้กับเขาตลอดมา แม้จะรู้ดีว่าที่ผ่านมาเขาไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษอะไรให้เธอเลยสักนิด แต่เพราะความรักที่มีให้กับเขาเต็มหัวใจ เธอถึงได้อยู่ตรงนี้จนถึงวินาทีนี้ที่เขาทำให้เธอเจ็บปวดหัวใจมากที่สุด จิณห์วราถึงกับทรุดเข่านั่งลงกับพื้น ชีวิตของเธอต้องเลือกใครคนใดคนหนึ่งจริง ๆ ใช่ไหม ฝ่ามือเรียวยกขึ้นลูบสัมผัสหน้าท้องที่แบนราบของตัวเองเบา ๆ หยาดน้ำตาของความเสียใจไหลอาบแก้มจนเป็นทางยาว หัวใจมันปวดหนึบกับทุกคำพูดที่ได้ยินจากปากของเขาทั้งหมด เธอรักเขามาก แต่ความรักของเธอมันไม่ควรไร้ค่ากับใครมากขนาดนี้หรือเปล่า เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะใจร้ายกับชีวิตเธอมากขนาดนี้ "ไม่เป็นไรนะลูก พ่อเขาไม่ต้องการเราก็ไม่เป็นไร มีแม่คนเดียวมันก็คงเพียงพอสำหรับชีวิตได้ แม่ยังเกิดมาไม่มีพ่อแม่เลย แม่ยังมีแค่ทวดที่คอยเลี้ยงดูมาทั้งชีวิต หนูจะไม่ไร้ค่าสำหรับแม่และทวดอย่างแน่นอน หนูเป็นสิ่งมีค่าที่สุดที่แม่เลือกแล้ว" บ้านศิวกรไพศาล "เป็นอะไรคะ ดูหงุดหงิดมาเชียว ออกบ้านไปไม่ทันไรกลับเข้าบ้านซะแล้ว ปกติหรือเปล่าเนี่ย?" เสียงทักทายจากน้องสาวยิ่งทำให้คนที่เพิ่งเดินเข้าบ้านมาชักสีหน้าไม่ดีใส่เพราะยังหงุดหงิดไม่หาย สิ่งที่ได้พูดคุยกับจิณห์วราก่อนหน้านี้ยังคงก่อกวนอารมณ์ของเขาให้ขุ่นมัวอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ "เบื่อผู้หญิง!" ร่างสูงที่กระแทกก้นนั่งลงบนโซฟาเคียงข้างกับน้องสาวที่เพิ่งวางแท็บเล็ตลง หวังจะตั้งใจฟังในสิ่งที่พี่ชายอยากพูดต่อจากนั้น พร้อมกับหันไปมองจ้องหน้าพี่ชายอย่างไม่เข้าใจอารมณ์เขาเลยสักนิด ลัลล์ลลิตขมวดคิ้วเข้าหากันอีกครั้ง แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองเลยสักนิด เหมือนหูแว่วที่ต้องมาได้ยินอะไรแบบนี้จากปากผู้เป็นพี่ที่แสนจะเจ้าชู้เพลย์บอย "เบื่อใครคะ ใครทำอะไรให้ไม่พอใจมางั้นสิ?" "ใช่! เลขาของเรานั่นแหละทำพี่อารมณ์เสีย งี่เง่าไม่เข้าเรื่อง!" "อะไรนะ คุณจีน่าทำอะไรให้ไม่พอใจอีกล่ะ แก่แล้วชอบหงุดหงิดไปเองหรือเปล่า?" ดวงตาคมหันหน้าไปมองน้องสาวอย่างเคืองหูเข้าไปใหญ่ "เขาท้อง! จะอะไรล่ะ! เขาบอกว่าลูกในท้องเขาเป็นลูกของพี่ ชัดไหม?" "เฮ้ย! มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเลยนะพี่ลีโอ ลัลล์กำลังจะได้เป็นคุณอาแล้ว คุณพ่อคุณแม่จะได้เป็นคุณปู่คุณย่ากันสักที พระเจ้า! ลัลล์ต้องรีบโทรไปบอกพ่อกับแม่ก่อนดีกว่า" คำพูดของน้องสาวทำให้พี่ชายต้องมองค้อนแรงอย่างไม่สบอารมณ์เลยสักนิด "หยุด! พี่ไม่ตลก พี่ไม่ได้อยากมีลูก พี่ไม่อยากมีบ่วงมาผูกมัดคอในตอนนี้ มันก็เป็นแค่ความสัมพันธ์ทางกายที่มีความสุขร่วมกันไหมล่ะลัลล์ พี่ไม่ได้จริงจังถึงขนาดจะเอาเขามาเป็นแม่ของลูกขนาดนั้นหรอกนะ" "พี่ลีโอ! พี่จะพูดออกมาแบบนั้นมันก็ไม่ถูกนะคะ ในเมื่อเด็กเกิดมาแล้วพี่ก็ต้องรับผิดชอบสิ ถ้าพี่ไม่อยากมีลูกแล้วเวลาเอาทำไมไม่รู้จักป้องกันคะ คอนดอมราคาไม่กี่บาทหรือว่าความอยากมันทำให้สมองพี่ฝ่อจนคิดไม่ได้?" "ลัลล์! มันจะมากเกินไปแล้วนะ พี่เป็นพี่เธอนะไม่ใช่จีน่า! เข้าข้างอะไรกันนักกันหนาฮะ มาช่วยพี่หาทางออกไม่ดีกว่าเหรอ!" "หาทางออกยังไงคะ จะให้ลัลล์ช่วยแบบไหนก็ลองว่ามาสิ" คนเป็นน้องนั่งมือเท้าคางรอฟังอย่างตั้งใจ "ช่วยพาจีน่าไปเอาเด็กออกที" ทำเอาคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าถึงกับตกตะลึงและโกรธแทนเป็นที่สุด "อะไรนะคะ! พี่พูดล้อเล่นหรือเรื่องซีเรียส?" "สีหน้าพี่จริงจังและเป็นทุกข์ขนาดนี้ ลัลล์ยังจะคิดว่าพี่พูดเล่นอีกเหรอ! พี่พูดจริง พี่บอกเขาไปแล้ว แต่เขาจะทำหรือเปล่าอันนี้พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน" สีหน้าหงุดหงิดและตอบแบบใส่อารมณ์กับน้องอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้ "บ้าไปแล้ว! พี่ไปพูดแบบนั้นได้ยังไงคะ แล้วคุณจีน่าเขาจะรู้สึกยังไง เวลาพี่ทำทำไมพี่ไม่เอาหัวบนคิดก่อนคะ ทำไมชอบใช้หัวล่างนำทางตลอดเลย ลัลล์ไม่เข้าใจ! ถ้าพ่อกับแม่รู้เรื่องนี้เข้าล่ะ เรื่องมันจะไม่ไปกันใหญ่หรอกเหรอ พี่ลีโอไม่น่าเกิดมาเป็นพี่ชายลัลล์เลยสักนิด! เลวไม่มีที่ติ แค่เรื่องเจ้าชู้ลัลล์ก็ว่าเลวเต็มทีแล้วนะคะ นี่ยังบอกให้ผู้หญิงไปเอาลูกออกอีก ความเป็นคนของพี่ ความเป็นพ่อและมนุษยธรรมในใจมันไม่มีเลยหรือยังไงกัน?" น้ำเสียงที่ต่อว่าฟังดูโมโหมากไม่ต่างจากพี่ชายเลยสักนิด สีหน้าที่ดูยิ้มแย้มเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงจนแทบอยากจะกินเลือดกินเนื้อพี่ชายได้แล้วในเวลานี้ "โอ๊ย! ทุกวันนี้ไม่พร้อมก็คือไม่พร้อม ไม่พร้อมก็แค่เอาเด็กออกเท่านั้น มันจะบาปอะไรนักหนาวะ บาปเป็นตัวยังไงไม่เคยรู้จักหรอก!" "อะไรคือความไม่พร้อม พี่ร่ำรวยล้นฟ้านะคะ พี่คือระดับผู้บริหารสูงสุดที่มีเงินในบัญชีเป็นร้อยล้านพันล้าน ไม่ใช่พนักงานกระจอก ๆ ค่ะ เผื่อจะลืม!" "ก็ตัวพี่นี่ล่ะที่ไม่พร้อมจะมี ปัญหามันอยู่ที่พี่ไม่ใช่อยู่ที่เงิน หรือลัลล์จะให้เรารับเด็กมาเลี้ยงหลังคลอด เอาเงินฟาดหัวแม่ไปแบบนี้หรือเปล่าล่ะ? คิดสิ! หาทางออกให้พี่มาสิ!" ลัลล์ลลิตส่ายหน้าให้กับความคิดแต่ละอย่างของพี่ชาย เหนื่อยที่จะพูดด้วยที่สุดก็คือลภัสวัฒน์นี่แหละ เขามั่นใจในตัวเองสูงมากจนเกินไป จนไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของใครเลยสักอย่าง "เขาท้องกี่เดือนแล้วคะ พี่ไม่สงสารคุณจีน่าเลยหรือยังไง เขารักพี่มากนะถึงทนอยู่กับพี่มานานหลายปีแบบนี้ ทั้งที่พี่ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง นอกจากความหล่อและรวยมากเท่านั้น แต่สันดานไม่ได้เรื่องเลย!" "โอ๊ย! ใช่เวลาจะมาด่าฉันไหมฮะ! เด็กยังเป็นวุ้นอยู่เลย ถึงจะเอาออกตอนนี้มันก็ไม่ใช่ปัญหาหรอกนะลัลล์ เอาตัวเองให้รอดเถอะ แค่ปัญหาชีวิตครอบครัวตัวเองตอนนี้ก็ยังไม่มีปัญญาจัดการได้ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของพี่ เรื่องนี้ถ้าไม่ช่วยก็อยู่เฉย ๆ เลย เดี๋ยวพี่จัดการเอง!” “จัดการยังไงคะ จะจัดการยังไง?” “ยังไม่รู้โว้ย! เดี๋ยวหาทางออกเอง! ผู้หญิงนี่มันน่ารำคาญจริง ๆ เอาแต่ใจตัวเอง โว้ย! กูเบื่อ!!!" พร้อมกับลุกพรวดขึ้น เดินหนีหายขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านในทันที ปล่อยให้น้องสาวมองตามหลังตาปริบ ๆ "พี่ลีโอนะพี่ลีโอ จะมาเสียใจทีหลังหรือเปล่า จะคิดได้ในวันที่สายไปแล้วอีกคนแน่ ๆ เลย เฮ้อ! ทำไมผู้ชายเป็นแบบนี้กันหมดนะ"ไอรินน้อยยกมือชูสองนิ้วใส่กล้อง ทำให้เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง จนเอื้องต้องรีบกดถ่ายเพิ่มอีกหลายรูป เก็บโมเมนต์ทุกอิริยาบถไว้ไม่ให้พลาดแม้แต่วินาทีเดียว ลภัสวัฒน์หันมากระซิบกับจิณห์วราเบา ๆ ระหว่างที่ทุกคนยังยืนเกาะกลุ่มกันอยู่ “รูปพวกนี้จะเป็นเครื่องเตือนใจเสมอว่าครอบครัวของเราคือของขวัญล้ำค่าที่สุด และมันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป” จิณห์วรายิ้มทั้งน้ำตา พยักหน้าช้า ๆ อย่างเห็นด้วย แล้วซบลงบนไหล่เขาอย่างอ่อนโยน ภาพถ่ายหมู่ในวันนี้จึงกลายเป็นเครื่องยืนยันว่า ความรัก ความอบอุ่นและคำว่าครอบครัว คือบทสรุปที่สมบูรณ์ที่สุดของเรื่องราวทั้งหมด ไม่ว่าวันนั้นชีวิตจะผ่านเรื่องราวร้าย ๆ มากี่ครั้ง สุดท้ายแล้วโอกาส ๆ ในชีวิตก็ยังกลับมาเป็นของพวกเขาอีกครั้งได้เหมือนเดิม หลังจากที่แขกทุกคนทยอยกลับไป บ้านหลังใหญ่ก็ตกอยู่ในความเงียบสงบอีกครั้ง จิณห์วราเพิ่งกล่อมลูกสาวให้นอนกลางวันไปได้ เมื่อเดินกลับมาที่ห้องนอนใหญ่เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่อีกรอบ เธอก็พบว่าสามีตัวดีนั่งรออยู่บนเตียงกว้างนั้นแล้ว ลภัสวัฒน์เอนกายพิงหัวเตียง เสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมออกเกือบครึ่ง เผยให้เห็นแผงอกกว้างและผิวขาวสว่างที่ทำ
จิณห์วราเดินออกมาพร้อมลูกสาว ทันทีที่เดินออกมาถึงสวนหลังบ้านทั้งไอรินและเธอก็ต้องตกใจและแปลกใจในคราวเดียวกัน เพราะว่าครอบครัวของลภัสวัฒน์ทั้งหมด พวกเขารออยู่ที่นั่นแล้วเรียบร้อย มีคุณพ่อคุณแม่ของเขา ลัลล์ลลิต ติณณภพและมิลิน “ทุกคนมาทำอะไรที่นี่คะ?” จิณห์วราถามขึ้นอีกครั้ง เมื่อเดินเข้ามาสมทบกับทุกคนที่กำลังยืนรออยู่ ปล่อยให้ลูกสาวได้ไปวิ่งหยอกเล่นกับหนูน้อยมิลิน ก่อนที่ลภัสวัฒน์จะเดินเข้ามาใกล้ ดวงตาคมเต็มไปด้วยความรักและตั้งใจที่มี เขาเอื้อมมือไปกอบกุมมือของภรรยาสาวเอาไว้ “มันควรจะเป็นโอกาสดี ๆ ที่ฉันจะได้ทำอะไรสักอย่างเพื่อคนที่รักที่สุดเช่นเธอ ฉันรู้ว่ามันควรจะเกิดขึ้นตั้งนานแล้ว" ลภัสวัฒน์สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าผู้หญิงที่เขารัก ดวงตาคมที่เคยดุดันเวลาทำงาน บัดนี้กลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและรักที่ล้นหัวใจ มือข้างหนึ่งยังคงกอบกุมมือเธอเอาไว้แน่น ส่วนอีกมือค่อย ๆ ล้วงกล่องกำมะหยี่เล็ก ๆ ออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขาเปิดมันอย่างช้า ๆ เผยให้เห็นแหวนเพชรเม็ดงามที่ส่องประกายท่ามกลางแสงแดดอุ่นยามสาย “จีน่า..ที่ผ่านมาฉันอาจทำให้เธอเหนื่อย อาจจะเคยทำให้เธอร้องไห้มาแล
ทั้งสองนั่งลงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ชายชี้ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสอย่างใจเย็น ลภัสวัฒน์ไม่ยอมปล่อยมือจิณห์วราเลยแม้แต่วินาทีเดียว เจ้าหน้าที่ผลักเอกสารและปากกามาให้ตรงหน้า ทั้งคู่สบตากันแวบหนึ่งก่อนที่ลภัสวัฒน์จะยิ้มกว้างออกมา “ของจริงแล้วนะจีน่า เธอห้ามเปลี่ยนใจแล้วด้วย” น้ำเสียงปนความขี้เล่นพูดบอก แต่แฝงด้วยความจริงจังที่เต็มเปี่ยมจนสัมผัสได้ จิณห์วราหัวเราะเบา ๆ แล้วรับปากกามาถือไว้ มือสั่นน้อย ๆ อย่างตื่นเต้น “ใครจะเปลี่ยนใจล่ะคะ” “เธอมั่นใจได้ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นจีน่า ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอไปทั้งชีวิต” ฝ่ามือหนากอบกุมมือเธอแน่นขึ้น ก่อนจะพยักหน้าให้เธอเป็นฝ่ายเซ็นก่อน จิณห์วราก้มหน้าลง ลายเซ็นถูกเขียนบนกระดาษอย่างมั่นคงและตั้งใจ แม้หัวใจจะเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ พอเงยหน้าขึ้นเธอก็เห็นรอยยิ้มกว้างของเขาที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นยิ่งกว่าเดิม “ทีนี้ตาคุณแล้วค่ะคุณลีโอ” เธอยื่นปากกาให้พร้อมสายตาท้าทายเขาเล็กน้อย ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ ก่อนจะรีบหยิบปากกาที่เธอยื่นให้มาถือไว้ “ได้ครับ... ด้วยความเต็มใจที่สุดในชีวิต” เขาเซ็นชื่อของตัวเองลงบนเอกสารอย่างชัดเจนมั่นคงเหมือนก
หลังจากผ่านศึกรักที่เหมือนสูบพลังออกจากร่าง ลภัสวัฒน์ค่อย ๆ โน้มตัวลงนอนแนบชิดเธออีกครั้ง ใบหน้าสวยหวานซบลงบนอกเขาแน่น ฝ่ามือเล็กสอดประสานกับมือใหญ่ของเขาไว้ไม่ยอมปล่อย เสียงหอบหายใจยังดังแทบไม่เป็นจังหวะอยู่เช่นเดิม "ไม่ได้ทำแบบนี้นานมากแล้ว โคตรดี โคตรมีความสุขเลยจีน่า" เสียงทุ้มเอ่ยบอก ก้มลงหอมผมของคนที่นอนซบบนอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า “เจ็บมากไหมจีน่า ฉันทำรุนแรงเกินไปหรือเปล่า?” เขาถามเสียงอ่อนเสียงหวาน พลางลูบไล้แผ่นหลังที่เปลือยเปล่าไปมาเบา ๆ “ถามอะไรแบบนี้คะ บ้าจริงคุณเนี่ย!" "อายทำไมผัวเมียเขาก็คุยกันตรง ๆ แบบนี้ล่ะ ยิ่งเรื่องบนเตียงยิ่งต้องเปิดอกคุยกัน ชอบท่าไหน อยากให้ทำอะไรบ้าง มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องอายกันหรอกนะ" "คุณลีโอ!!" ใบหน้าสวยหวานมองค้อนอย่างไม่พอใจอีกครั้ง ลภัสวัฒน์ถึงกับหัวเราะร่วนออกมาด้วยความพอใจ "แต่มันใช่เรื่องที่จะถามไหมเล่า ถ้าคุณรู้สึกดีจีน่าก็แฮปปี้ดีเหมือนกันค่ะ ไม่ชวนคุยแล้ว เหนื่อยเป็นบ้า จีน่าของีบอีกนิดนะคะ" ใบหน้าซุกลงบนอกแกร่งเขาอีกรอบ ลภัสวัฒน์ยิ้มมุมปากอย่างนึกเอ็นดู “รู้ตัวเองไหม เธอทำให้ฉันคลั่งได้ทุกครั้งเลยให้ตายสิ! จะน่ารักไปไหนนะเมียฉัน” จิณ
คืนนั้นห้องนอนใหญ่ดูเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาของหญิงสาวที่กำลังหลับสนิทอยู่ในอ้อมกอดของเขา ลภัสวัฒน์ลืมตานอนมองเพดาน ดวงตาคมเต็มไปด้วยความว้าวุ่นจนนอนไม่หลับจนเกือบถึงเที่ยงคืนแล้ว “โธ่เอ๊ย...ให้กอดอย่างเดียวมันไม่พอหรอกนะจีน่า ตัวเองหลับสบายเลย แต่ฉันนี่สิจะบ้าตายอยู่แล้ว” เขาพึมพำเบา ๆ ก้มมองคนที่ซุกหน้าอยู่กับอกแกร่งของเขา กลิ่นหอมจากแชมพูสระผมที่เธอใช้ลอยเตะจมูก อยู่ตลอดเวลา เสียงหายใจดังสม่ำเสมอ และความนุ่มนิ่มของร่างในอ้อมแขน มันยิ่งทำให้ใจของผู้ชายที่อดทนมาทั้งอาทิตย์สั่นสะเทือนอย่างหนัก "จะลักหลับเลยดีไหมวะ?" ความคิดแวบเข้ามาจนเขาต้องกัดฟันกรอด ฝ่ามือหนาใหญ่เริ่มไม่อยู่นิ่ง ลูบไล้แผ่นหลังบอบบางเบา ๆ ไล่ลงมาตามเอวโค้งอย่างเผลอตัว “แค่ลูบคลำนิด ๆ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง” แต่พอยิ่งสัมผัสแผ่วเบา ลากผ่านเนื้อผ้าเหมือนกับสำรวจไปทั่วทั้งร่าง เสียงครางเบา ๆ ของเธอก็ดังขึ้น “อืมม….” เขาชะงักไปทั้งตัว ดวงตาเบิกกว้างขึ้นอีกครั้ง ให้ตายสิ… หลับอยู่แท้ ๆ ยังครางออกมาอีกนะจีน่า! เลือดในกายเริ่มร้อนจนพุ่งพล่านไปทั่วทั้งกาย แต่ก็หัวเราะเบา ๆ ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ “บ้าจริง แค่
“นี่ห้องนั่งเล่นใหญ่ที่เพิ่งรีโนเวทเสร็จได้ไม่นาน จากนี้ไปเราจะนั่งเล่นด้วยกันตรงนี้ ดูการ์ตูนกับลูก ฟังเสียงหัวเราะของลูกไปด้วยกันทุกวันเลยนะจีน่า” เขาพูดพร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยนเวลามองจ้องเธอและลูกสาว จิณห์วราหัวเราะขึ้นเบา ๆ “คุณพูดเหมือนจะมีแต่เวลาว่างมากเลยนะคะ ทั้งทีงานบริษัทก็ยุ่งมากตลอดทั้งปีทุกปีแบบนั้น” “ถ้าเพื่อเธอกับลูก ต่อให้ยุ่งแค่ไหนฉันก็จะหาวันหยุดให้ได้เชื่อไหมล่ะ?” เขาก้มลงสบตาเธอ ดวงตาคมที่เคยแข็งกร้าวกลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและน่าหลงใหล หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบจะละลาย ได้แต่พยักหน้ายิ้มรับเบา ๆ เขาพาเธอเดินต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงห้องนอนใหญ่ ประตูถูกเปิดกว้างออก เผยให้เห็นเตียงกว้างที่ถูกจัดเตรียมไว้รออย่างเรียบร้อย ผ้าปูใหม่เอี่ยม กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยอบอวลอยู่ภายในอากาศ “ห้องนี้ ไม่ใช่ห้องนอนของฉันอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นห้องนอนของเรา ชอบไหมจีน่า?” ก่อนจะวางลูกสาวลงบนเตียงนุ่ม เด็กน้อยหัวเราะคิกคักกลิ้งไปมาอย่างถูกอกถูกใจที่สุด “จีน่าตั้งแต่วันนี้ไป เราจะนอนข้างกันทุกคืน ตื่นเช้ามาด้วยกันทุกวัน ฉันจะไม่มีปล่อยให้เธอร้องไห้คนเดียว อยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกแล้วนะ ฉันสัญญา”