FAZER LOGINแม้จะรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำไม่ถูกต้อง แต่เมื่อถูกปฏิเสธซ้ำ ๆ ภูริยิ่งลงมือหนักขึ้น เขาทำลายธุรกิจเธอ เพราะอยากให้เธอจำนนให้เขา แต่มันกลับตรงกันข้าม เธอไม่เห็นหัวเขา เขาตั้งใจไปคุยกับเธอดี ๆ แต่กลับถูกปฏิเสธตั้งแต่เห็นหน้า เธอไม่อยากรู้เลยสักนิดว่าข้อเสนอของเขาคืออะไร ถ้าเป็นแบบนี้คงต้องตาต่อตาฟันต่อฟัน เขาไม่ใช่สุภาพบุรุษ เมื่อคุยกันดี ๆ ไม่ได้ เขาก็จะไม่คุยกับเธอ
“ซื้อหุ้นของ CCL ให้หมด กูต้องการเป็นเจ้าของที่นั่น”
“หุ้นส่วนรายใหญ่ยังไม่ขายหุ้น เพราะเชื่อว่าคุณพนิดาจะแก้ปัญหาได้ครับ” เดชารายงานให้เจ้านายทราบ
“เสนอราคาไปอีก ทำยังไงก็ได้ ให้คนพวกนั้นขายให้เรา”
“ผมเกรงว่า มันจะไม่คุ้มนะครับ”
“ไม่ต้องมาคิดแทนกู บอกให้ทำอะไรก็ทำไป ถ้าทำไม่ได้ก็บอก จะได้หาคนอื่นมาทำแทน”
“ปะ...เปล่าครับ” ปฏิเสธเสียงสั่นเพราะกลัวว่าเจ้านายจะทำตามที่พูดจริง ๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงอยากได้ CCL นักหนา ทั้ง ๆ ที่เป็นคนลงมือทำให้มันพัง
“สั่งให้คนตามพนิดา แล้วรายงานกูทุกชั่วโมง”
“ครับ” แม้จะไม่เข้าใจคำสั่ง แต่ก็ขานรับและต้องทำตาม เพราะไม่อยากให้เจ้านายอารมณ์เสีย
“คืนนี้คุณรบจะไปที่ผับหรือเปล่าครับ”
“ไม่ ช่วงนี้เบื่อ ออกไปได้แล้ว” สิ่งเดียวที่ทำให้เขาอยากไปที่ผับก็คือ พนิดา เมื่อเธอไม่ไปที่นั่นเขาก็ไม่
อยากไป“เก่งจังนะคุณนิด ถ้าผมหักปีกคุณออกแบบนี้ คุณจะบินไปทางไหนได้อีก!” ปีกนางฟ้าในรูปถ่ายถูกฉีกออกจากกัน เมื่อภูริคิดว่านางฟ้าแสนสวยในรูปคือพนิดา
เรื่องงานว่าแย่แล้ว ปัญหาจากคนในครอบครัวก็เป็นอีกอย่างที่ทำให้พนิดาเหนื่อยใจ พอทุกคนในบ้านรู้ว่าธุรกิจกำลังมีปัญหาต่างก็รุมต่อว่า หาว่าเธอประมาทและมั่นใจในตัวเองมากเกินไป แทนที่คนใกล้ตัวจะเป็นกำลังใจให้ กลับซ้ำเติมให้รู้สึกแย่มากขึ้นไปอีก แม่เลี้ยงและลูกสาวของนาง พากันถากถางเพราะกลัวว่าถ้า CCL ล้มจะทำให้พวกนางลำบาก เพราะแต่ละคนก็นึกถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่มีใครสนใจความรู้สึกของเธอเลยสักนิด ไม่มีใครรู้ว่างานที่ทำเป็นอย่างไร และไม่มีใครถามว่าเธอเหนื่อยไหม โชคดีที่พ่อเข้าใจ เธอจึงมีแรงสู้ต่อ
“เรื่องก็เป็นอย่างที่นิดเล่าให้คุณพ่อฟังนั่นแหละค่ะ นิดไม่ทราบจริง ๆ ว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ยังไง” เมื่อมีเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพัง พนิดาก็เล่าปัญหาที่เกิดขึ้นให้คุณอรรถพลฟัง
“จากที่นิดเล่ามา พ่อว่าเรื่องนี้น่าจะมีเงื่อนงำ นิดไปขัดขาใครหรือเปล่าลูก” เพราะอยู่ในวงการธุรกิจมานาน จึงมองออกว่าปัญหาที่พนิดากำลังประสบอยู่ เกิดจากอะไร มีคนจงใจทำให้มันพัง เพราะมันล้มตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
“นิดไม่เคยไปล้ำเส้นใครค่ะพ่อ” พนิดายังยืนยันคำเดิม เธอแน่ใจว่าไม่เคยล้ำเส้นหรือทำให้ใครไม่พอใจ
“อย่างที่นิดรู้วงการธุรกิจ ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร นิดต้องเรียนรู้เรื่องนี้ไว้ด้วยนะลูก คนสมัยนี้น่ากลัว”
“นิดจะระวังให้มากขึ้นค่ะพ่อ”
“พ่อจะช่วยนิดอีกแรง ช่วงนี้เหนื่อยหน่อยนะลูก” พูดพร้อมกับลูบมือลงบนศีรษะทุยสวยของลูกอย่าง
แสนรัก อรรถพลรู้ว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ ลูกต้องเหนื่อยมาก เพราะไม่มีความสำเร็จใดได้มาง่าย ๆ ยิ่งเป็นธุรกิจย่อมต้องมีการแข่งขัน“มีคุณพ่อเป็นกำลังใจ นิดหายเหนื่อยแล้วค่ะ” ทันทีที่มือของพ่อสัมผัสลงมาบนศีรษะ เรี่ยวแรงที่หายไปก็กลับคืนมา กำลังใจจากพ่อคือแรงผลักดัน ทำให้เธอมีแรงสู้ต่อ เธอจะยอมแพ้ไม่ได้
การกระทำของคนทั้งสองอยู่ในสายตาของสุพัตรามาโดยตลอด เมื่อเห็นว่าคุณอรรถพลให้กำลังใจพนิดา ความอิจฉาที่มีอยู่ในใจก็ปะทุขึ้น พนิดาเป็นลูกจึงได้รับความไว้วางใจให้ดูแลธุรกิจ และได้เป็นผู้บริหารระดับสูง ในขณะที่เธอเป็นแค่พนักงานคนหนึ่ง ที่อาศัยกินเงินเดือน และได้รับเศษเงินปันผลรายปีเท่านั้น
“เมื่อไรคุณจะให้คนจัดการมันเสียที ฉันเกลียดมัน!”
“ผมว่าคุณใจเย็น ๆ ก่อนดีกว่า แค่นี้มันก็เครียดจะแย่อยู่แล้ว คอยดูความย่อยยับของมันได้เลย” อนุชิตพูดขึ้น เมื่อได้ยินคำถามของแฟนสาว
“ฉันอยากเห็นความหายนะของมันเร็ว ๆ”
“ถ้าคุณเกลียดมันขนาดนี้ เห็นทีผมคงต้องลงมือเอง ว่าแต่...คุณไม่หวงผมสักนิดเลยเหรอ”
“มีตั้งหลายวิธีที่คุณไม่ต้องนอนกับมัน อย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทันนะ คุณอยากนอนกับมันใช่ไหม”
“ไม่เอาน่า...คุณก็รู้ว่าผมรักคุณคนเดียว” พูดพร้อมกับซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่น เพื่อกลบเกลื่อนความผิด ที่ถูกจับได้ ดีใจจนเนื้อเต้นที่ได้ยินคำสั่งนี้จากเธอ
“ให้มันจริงเถอะ” พูดพร้อมกับหันมาเผชิญหน้า อนุชิตนิสัยเป็นอย่างไรเธอรู้ดีที่สุด เจ้าชู้และมักมากในกาม ที่เธอทนอยู่กับเขาก็เพราะเซ็กส์ เพราะเขาปรนเปรอให้เธออย่างถึงใจนั่นเอง
ในที่สุดพนิดาก็ต้องเรียกประชุมอีกครั้ง เมื่อปัญหาที่พยายามแก้เป็นเหมือนวัวพันหลัก ยิ่งแก้ก็ยิ่งแย่ลงไปมากกว่าเดิม เงินสำรองถูกดึงออกมาใช้จ่ายจนหมด เพื่อช่วยเหลือพนักงานหลายร้อยชีวิต ไหนจะค่าเสียหายที่เกิดจากการผลิต ค่าประกันสินค้า เมื่อไม่มีทางออกสิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือขอกู้เงินจากภาคเอกชน เรื่องนี้เธอตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ จึงต้องเรียกผู้บริหารมาประชุม และครั้งนี้ได้ข้อสรุปว่า หุ้นส่วนส่วนใหญ่อยากขายหุ้น เพราะไปต่อไม่ไหว
“ดิฉันเข้าใจทุกคนค่ะ ขอเวลาอีกนิดนะคะ ฉันจะทำให้ดีขึ้น”
“ไม่ไหวแล้ว คุณให้พวกเรารอนานเกินไปแล้ว ขายตอนนี้ยังได้ราคา ถ้าคุณบริหารไม่ได้ก็ควรสละตำแหน่ง ให้คนที่มีความสามารถมาบริหารเถอะ”
“พูดอะไรของนาย ให้เวลาหนูนิดหน่อยสิ ลืมแล้วเหรอว่าหนูนิดเป็นคนทำให้บริษัทของเราก้าวหน้า” คุณประกรขัดขึ้น เมื่อเห็นว่าหุ้นส่วนคนอื่น ๆ ไม่ไว้หน้าพนิดา
“เอาเป็นว่าพวกเราจะให้เวลาคุณอีกสองเดือน ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้นเราก็จะขายหุ้น” ยุทธนาพูดขึ้นเขาเองก็อยากขายหุ้น เพราะมีคนเสนอราคาที่มากกว่าผลกำไรที่ได้จากบริษัทนี้รวมกันทั้งปีรวมกัน
“เวลาแค่นั้นมันจะพออะไรผมว่า...”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณลุง สองเดือนมากแล้วค่ะ” พนิดาขัดขึ้นเพราะไม่อยากทำให้ประกรมีปัญหากับหุ้นส่วนคนอื่น ๆ
“ดิฉันขอบพระคุณทุกท่านมากนะคะที่ไว้ใจและให้โอกาส ดิฉันจะทำให้ดีขึ้นค่ะ” ถึงเวลาที่มีจะน้อยนิด แต่พนิดาก็ไม่ยอมแพ้ เริ่มจากหาบริษัทเงินทุนที่ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อหาทุนมาพยุงบริษัท อย่างน้อยเธอก็ยังมีที่ดินเป็นหลักทรัพย์ที่พอค้ำประกันได้ ถึงแม้ความหวังที่จะให้บริษัทกลับมาเป็นเหมือนเดิมจะริบหรี่ แต่อย่างน้อยก็ได้ลงมือทำ
“สู้ ๆ นะนิด แกจะอ่อนแอไม่ได้” ให้กำลังใจตัวเอง เมื่อเปิดแฟ้มที่มีรายชื่อบริษัทเงินทุนรายใหญ่อยู่ในนั้น ตากลมโตไล่อ่านข้อมูล เพื่อหาบริษัทที่ดีและเหมาะสมที่สุด
ภูริกลับเข้ามาในห้องนอน ในเวลาต่อมา ตาคู่คมมองไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ ที่มีคนตัวเล็กซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา ความรู้สึกในหัวตีกันจนสับสนไปหมด เกิดอะไรขึ้น เขาไม่เคยรู้สึกอยากได้ใครมากมายเท่านี้มาก่อน ยิ่งพนิดาถอยหนีเขาก็ยิ่งอยากได้เธอ ภูริคิดว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเขาอยากเอาชนะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับค้นพบว่าเธอมีค่ามากกว่านั้น แผนครอบครองเธอไม่ง่ายเสียแล้ว เมื่อข่าวเรื่องธุรกิจของเธอแพร่ออกไป นักลงทุนทั้งหลายต่างก็จดจ้องเหมือนเสือตะครุบเหยื่อ ทุกคนรู้ว่า CCL ยังทำเงินให้อีกมหาศาล เป็นแบบนี้เขายิ่งหัวเสีย เพราะไม่ได้คิดเรื่องนี้เผื่อเอาไว้ เขาคิดเพียงแค่ว่า เพื่อรักษาบริษัทเอาไว้พนิดาจะต้องยอมทำตามข้อเสนอของเขา และเมื่อวันนั้นมาถึงเขาจะคืน CCL ให้เธอ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ก็ทำให้ปวดหัวไปกันใหญ่ เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อเอา CCL มาเป็นของตัวเอง เพราะถ้า CCL ตกอยู่ในมือคนอื่น พนิดาจะไม่มีวันได้มันกลับคืนมา ปัญหาของเขาตอนนี้ก็คือ มีคู่แข่งโผล่มาเสนอราคาให้มากกว่า และไม่ใช่แค่รายเดียว “ผมจะเอามันกลับมาคืนให้คุณนะนิด” จะสายไปไหมถ้าเขาจะแก้ไขสิ่งที่ทำพลาดไป ผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ ไม่ใช่เจ้าของ มีคนมาเสน
ภูริอุ้มคนคอพับอยู่กับอกเข้าสู่วงแขน แล้วพาเดินขึ้นชั้นบน บรรจงวางคนหลับลงบนเตียงอย่างเบามือ ถอดรองเท้าส้นสูงที่เธอใช้เป็นอาวุธทำร้ายเขาออกจากเท้าบาง แล้ววางมันไว้ข้างเตียง ร้องเท้าคู่นี้คงคับเกินไป เพราะเขาเห็นรอยแดงที่เท้าของเธอ ตาคมเข้มจับจ้องอยู่ที่ใบหน้า ที่เลอะไปด้วยเครื่องสำอางของเธอ อยากเช็ดออกให้แต่กลัวว่าจะรบกวนเวลานอนของเธอ พนิดาเหนื่อยมาก จนหลับคารถ ทั้ง ๆ ที่กำลังทำเลาะกันอยู่แท้ ๆ “คุณดื้อกับผมเหลือเกินนิด” เขาเองก็เหนื่อยล้าที่ต้องทำร้ายเธอสารพัดวิธี เขาซื้อหุ้นของCCL ได้เมื่อไร พนิดาก็อยู่ในกำมือของเขา อีกไม่นานหรอกเพราะตอนนี้เธอก็จนแต้มแล้ว จังหวะนั้นคนบนเตียงก็สะอื้นออกมา พร้อมกับดิ้นไปมา เธอคงฝันร้าย ร่างสูงก้าวเข้าหาแต่ก็ต้องหยุดเท้าที่ก้าวเดินเพราะมือถือที่สั่นขึ้นครืด~ครืด “ขออนุญาตครับนาย มีเรื่องด่วนครับ” ลูกน้องต่างรู้ดีว่าถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย จะไม่มีใครรบกวนเวลาพักผ่อนของเขา ขยับผ้าห่มให้กระชับตัวคนหลับ จูบลงที่หน้าผากมนฟอดใหญ่ เมื่อเธอสงบลง “ฝันดีนะครับ” กระซิบชิดใบหูคนหลับ ขโมยจูบริมฝีปากสีซีด ก่อนจะเดินออกไปจากห
สิ้นคำสั่งชายฉกรรจ์กลุ่มนั้น ก็กรูเข้ามายังจุดที่พนิดากับเอื้อตะวันยืนอยู่ หญิงสาวก้าวมาบังเอื้อตะวันเอาไว้ เขาต้องมาเดือดร้อนเพราะเธอ เอื้อตะวันดึงพนิดาไปข้างหลัง แล้วใช้ตัวบังเธอเอาไว้แทน ดารกระทำที่แสดงถึงความห่วงใยของคนทั้งสอง เพิ่มความโมโหให้ภูริเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว กรามแกร่งขบเข้าหากัน อยากสั่งสอนหมอนั่นให้หลาบจำ จะได้รู้ว่าอะไรควรไม่ควร “หนีไปค่ะคุณเอื้อ พวกเขาไม่ทำอะไรฉันหรอก” “ไม่! ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ผมไม่รู้ว่าคุณกับเขามีปัญหาอะไรกัน แต่ผมจะไม่ทิ้งคุณ” น้ำเสียงหนักแน่นที่มาพร้อมกับสายตาเด็ดเดี่ยว ทำให้หัวใจที่อ่อนล้าของพนิดาเข้มแข็งขึ้น นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าเพื่อนตาย เพิ่งจะรู้จักกันแท้ ๆ แต่เอื้อตะวันเลือกที่จะอยู่เคียงข้างเธอ “ไม่ค่ะ ฉันทำให้คุณเดือดร้อน เรื่องนี้ฉันต้องรับผิดชอบ ไปสิคะหนีไป” “ไม่นิด ผมจะไม่ไปไหน” บทสนทนาของเขาและเธอเข้าหูภูริทุกประโยค จากที่ตั้งใจว่าจะไปรอในรถก็ต้องเปลี่ยนใจ เพิ่งจะรู้จักกันแต่ยอมตายแทนกันได้ น่าประทับใจจริง ๆ “อย่าเข้ามานะ! คุณเอื้อไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ พวกนายอย่า
บรรยากาศในร้านกาแฟเต็มไปด้วยความอบอุ่น พนิดาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงไว้ใจและยอมมากับเขา เอื้อตะวันเป็นคนคุยเก่ง และตามทันเวลาที่เธอเล่นมุกตลก เธอต่างหากที่ตามไม่ทันมุกตลกฝืดของเขา ความไม่ตลกของเขาทำให้สนุกและผ่อนคลาย เธอสั่งกาแฟร้อนและขนมรองท้อง ในขณะที่เขาสั่งนมสดเย็นแก้วเดียว หมอมักจะรักษาสุขภาพ ชวนเธอมาดื่มกาแฟแต่ตัวเองดื่มนม ก็น่ารักไปอีกแบบ “คุณนิดชอบสัตว์ไหมครับ” ชวนคุยเพราะไม่อยากให้บรรยากาศบนโต๊ะเงียบเกินไป หลายครั้งที่เห็นมือถือเธอสั่น แต่พนิดาไม่รับสาย “สัตว์เลี้ยงเหรอคะ” “ครับ” “ก็มีชอบบ้างค่ะ” นึกว่าเขาจะเล่นมุก เพื่อโยงไปหาตัวเอง สัตว์ที่ว่าคือสัตว์แพทย์อะไรอย่างนี้ แต่เมื่อเขารับคำพนิดาก็ไปไม่เป็น บางครั้งเอื้อตะวันเหมือนจะรุก บางครั้งก็เว้นระยะห่าง เหมือนกลัวว่าเธอจะอึดอัด จึงเดาทางไม่ถูก “ชอบหมาหรือแมวครับ” หมากับแมวคือสัตว์เลี้ยงที่ใครหลาย ๆ คนหลงรัก “ไม่ใช่ทั้งสองอย่างค่ะ ฉันชอบจระเข้” “หืม...จระเข้เหรอครับ” “ใช่ค่ะ ฉันชอบเวลามันกินเหยื่อ มันดูโหดร้ายดีค
สัตว์แพทย์หนุ่มยืนพิงสะโพกในท่าทางสบาย ๆ เมื่อหญิงสาวขอตัวเข้าห้องน้ำ มืดแล้วก็จริงแต่ที่นี่ปลอดภัยเพราะอยู่ใจกลางเมือง ชีวิตที่เป็นเหมือนหุ่นยนต์ของเขาเริ่มต้นขึ้น และจบลงหลังจากปิดคลินิก ยี่สิบสี่ชั่วโมงของคนอื่นเป็นแบบไหนไม่รู้ แต่สำหรับหมอหมาอย่างเขามีแต่งานกับงาน วันนี้ก็เช่นกันหลังจากปิดคลินิก ตั้งใจจะมาเดินเล่นเพื่อพักสมอง เขาเห็นรถของหญิงสาวจอดอยู่ตรงจุดนั้นนานเกินไป เพราะความห่วงใยจึงทำให้เขาได้รู้จักเธอ พนิดา ศิริวิมล นักธุรกิจสาวสวยแถวหน้าของเมืองไทย ข่าวเรื่องธุรกิจของเธอไม่สู้ดีนัก และที่สำคัญเธอมีคู่หมั้นอยู่แล้ว เพราะหลักฐานอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ “รอนานไหมคะ” คำถามที่มาพร้อมกับร่างระหงที่มายืนอยู่ข้างหน้า ทำให้หมอหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย เพราะกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ “ตกใจเหรอคะ ขอโทษค่ะ” พนิดาเอ่ยขอโทษด้วยท่าทางเก้อเขิน “เปล่าครับ เรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ” ถามพร้อมกับมองหน้าเธอ ที่แต่งหน้าออกมาอย่างสวยงาม จนเขาจำแทบไม่ได้ “ทำไมคะ” พนิดาถามเมื่อถูกมองนาน “สวยครับ” “เพราะเครื่องสำอางค่ะ ฉันแต่งหน้าทำผมใหม
ภูริกลับออกมาหลังจากปล่อยให้เธอรออยู่พักใหญ่ ใบหน้าของเขาชุ่มไปด้วยน้ำ น้ำบางส่วนไหลลงไปเปียกที่คอเสื้อเป็นวงกว้าง ไม่มีกล่องปฐมพยาบาลติดมือมาอย่างที่ควรเป็น พนิดาหน้าตึง เมื่อรู้ว่าเขาแกล้งถ่วงเวลา “กล่องยาอยู่ไหนคะ” ถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ ข่มความไม่พอใจเอาไว้ เวลาทุกวินาทีของเธอมีค่า แต่เขาทำเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องสนุก เธอไม่มีเวลามาล้อเล่นกับเขาหรอกนะ ภูริทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวตรงข้าม จ้องหน้าหญิงสาวเขม็ง เขาเพิ่งล้างหน้าและเห็นว่าใบหน้าอันหล่อเหลาของเขายับเยินเพราะฝีมือเธอ ถ้าแจ้งความเธอคงติดคุกข้อหาทำร้ายร่างกาย เพราะดีเอ็นเอของเขาอัดแน่นอยู่ในกงเล็บของเธอ “ไม่ทำแผลแล้วใช่ไหมคะ” “ทำยังไงถึงจะใจอ่อน” คำพูดของเขาทำให้มือที่กำลังรวบแฟ้มบนโต๊ะชะงัก สุดท้ายเขาก็วกกลับมาเรื่องเดิม “ไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวนะคะ” “นิด...” น้ำเสียงที่ใช้เบาลงก็จริง แต่ยังคงกระด้างหูเหมือนเดิม “ฉันไม่มีเวลามาล้อเล่น หรือเล่นเกมบ้า ๆ กับคุณหรอกค่ะ” “ผมกำลังจะช่วยคุณอยู่นี่ไง” “เก็บความหวังดีของคุณไว้เถอะค่ะ ฉั







