FAZER LOGINเช้านี้พนิดาแต่งตัวด้วยชุด ที่สุภาพเรียบร้อยและค่อนข้างรัดกุม เพราะต้องเดินทางไปยังบริษัทเงินทุน ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ในนั้น หลังจากให้เลขาติดต่อไปยังบริษัทที่ปล่อยสินเชื่อ รอไม่นานทางนั้นก็ตอบรับ และให้เธอเข้าพบเพื่อพูดคุยรายละเอียด หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำด้วยความดีใจ อย่างน้อยก็ยังมีหวัง
บริษัทนี้กว้างขวางใหญ่โต จนพนิดาหายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อเห็นความหรูหราจากภายนอก หลังจากนั่งรออยู่พักใหญ่ เลขาหน้าห้องก็มาแจ้งว่าท่านประธานอนุญาตให้เธอเข้าไปพบ หญิงสาวสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้ง อยู่ ๆ ก็รู้สึกประหม่าขึ้นมา ข้อมูลที่เตรียมมาเริ่มขาดหาย เมื่อต้องเข้าพบกับเจ้าของบริษัท ที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน
“ขอบคุณค่ะ” ขอบคุณเลขาที่ช่วยเปิดประตูให้
“ท่านประธานรออยู่ข้างในครับ” ขนอ่อนพากันเรียงตัว เมื่อก้าวเข้ามาในห้องที่มีอุณหภูมิเย็นจัด เหงื่อซึมฝ่ามือเมื่อเห็นแผ่นหลังกว้างภายใต้เสื้อสูทราคาแพง ของผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่นั่งหันหลังให้เธอ บังคับขาไม่ให้สั่นรวบรวมความกล้า แล้วก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
“สวัสดีค่ะ ดิฉันพนิดา ศิริวิมล ตัวแทนจาก CCL
ที่ท่านอนุญาตให้เข้าพบค่ะ” แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อมาหยุดอยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ของเขา รู้สึกแปลกใจที่ไม่เห็นคนอื่นในห้องนี้ เธอมาขอกู้เงินแล้วไหนล่ะทีมผู้บริหาร“เชิญนั่งครับ ผมภูริ บริรักษ์ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” ทันทีที่เก้าอี้ตัวใหญ่หมุนกลับมา พนิดาก็แทบล้มทั้งยืน ถอยห่างออกจากโต๊ะทำงานของเขา ภูริ บริรักษ์ เจ้าของบริษัทเงินทุนรายใหญ่ คือผู้ชายคนนั้น
“ไงถึงกับสติแตกเลยเหรอ ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะครับ ผมภูริ บริรักษ์ เรียกสั้น ๆ ว่ารบก็ได้ครับ คุณนิด!” จงใจเน้นคำว่านิด เพื่อบอกให้รู้ว่าเขารู้จักเธอเป็นอย่างดี
“นั่งสิครับ”
“ขอบคุณค่ะ” ขยับมาตรงที่เดิม เมื่อได้สติ
หย่อนสะโพกลงบนเก้าอี้ช้า ๆ คงไม่ใช่เรื่องล้อเล่น คนที่นั่งบนเก้าอี้ตัวนั้นได้ ต้องเป็นผู้บริหารจริง ๆ ที่ผ่านมาเธอไม่รู้สักนิดว่าเขาชื่ออะไร รู้แค่ว่าเขาขายบริการมีหน้าที่ให้ความสุขกับคนที่มาใช้บริการ ก็แค่นั้นเอง“ไหนดูสิมีอะไรมาขาย ออ...ผมหมายถึงมีอะไรมาค้ำประกัน” คำพูดทีเล่นทีจริงของเขาทำให้พนิดาหน้าตึง แต่ก็ยังฝืนเอาไว้
“ดิฉันมีที่ดินมาเสนอให้คุณพิจารณาค่ะ เป็นที่ว่างแถว...” คำพูดที่เหลือค้างไว้แค่ริมฝีปาก เมื่อภูริขัดขึ้น
“มีอย่างอื่นอีกไหม” ตาคมเข้มจ้องหน้าหญิงสาวเขม็ง เมื่อถามคำถามนี้ออกมา พนิดาอึดอัดจนแทบจะหยุดหายใจ เมื่อเห็นการมองของเขา
“มีโฉนดที่ดินอาคารพาณิชย์ แล้วก็...”
“ผมหมายถึงตัวคุณ” มือที่กำลังเปิดแฟ้มสั่นระริกด้วยความโกรธ เมื่อได้ยินประโยคนี้จากปากของเขา ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมเขาถึงอนุญาตให้เธอเข้ามาพบอย่างง่ายดาย เพราะมีการเตรียมการไว้แล้วนั่นเอง เขารู้ว่าเธอเป็นใคร
“นาผืนน้อยของคุณยังพอหากินได้ เอามาค้ำประกันสิ!”
“คุณภูริ!” ตวาดออกมาอย่างลืมตัวเมื่อถูกหยามเกียรติ
“คุณก็รู้ว่าผมต้องการอะไร” ภูริย้ำคำพูดเดิมที่เคยพูดกับเธอซ้ำ ๆ เขาต้องการตัวเธอและมันคือเหตุผลที่เขาลงมือทำร้าย จนเธอหมดหนทางทำมาหากิน
“ขอตัวนะคะ” เมื่อเข้าใจจุดประสงค์และเจตนาของเขา ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ เขาเหนือชั้นกว่าเธอทุกอย่าง คงรู้ว่าเธอกำลังจนตรอกถึงได้ดูถูกกันขนาดนี้
“ได้ข่าวว่ากำลังจะถูกยึดทรัพย์” เมื่อเห็นว่าเธอไม่ตกลงภูริก็ขยี้ตรงจุด เพราะต้องการให้เธอเจ็บและยอมจำนนให้เขาแต่โดยดี
“แค่ของนอกกายค่ะ” ตอบพร้อมกับรวบแฟ้มเอกสารขึ้นมากอดเอาไว้ เธออดหลับอดนอนเพื่อเตรียมเอกสารมากมาย แต่เขาไม่ดูมันเลยสักนิด
“จะทำให้มันยุ่งยากทำไม ก็เคย ๆ กันอยู่ ขึ้นเตียงกับผม แล้วจะได้ทุกอย่างที่คุณต้องการ” เจ็บเหมือนถูกไม้หน้าสามฟาดศีรษะ เมื่อเขาเอาเรื่องนี้มาพูดซ้ำ ๆ เขาเป็นคนเข้าใจอะไรยาก หรือแค่ต้องการทำให้เธอเจ็บปวด ถึงได้คอยขุดคุ้ยเรื่องนี้มาตอกย้ำเธอ
“แค่ถ่างขา ผมว่ามันคุ้มจะตาย คุณเองก็ถนัดอยู่แล้วนี่ ไม่เห็นต้องคิดนาน” พูดพร้อมกับกวาดตามองไปตามเนื้อตัวของเธอ พนิดาหน้าชาเมื่อสบเข้ากับตาของเขา ที่มีแววเย้ยหยันปนอยู่ในนั้น
“กรุณาให้เกียรติดิฉันด้วยค่ะ” ตั้งสติแล้วพูดออกไปอย่างใจเย็น เธออยู่ในพื้นที่ของเขา คงไม่ดีแน่ถ้ามีเรื่องกัน
“หรือไม่จริง”
“คุณจะคิดยังไงก็เรื่องของคุณ ฉันขอตัวนะคะ” การมาของเธอคงสูญเปล่า เพราะผู้ชายคนนี้มองความเดือดร้อนของเธอเป็นเรื่องตลก คงสนุกมากที่ได้แกล้ง ได้เหยียบซ้ำให้เธอจมดิน
“หยุดนะนิดผมยังพูดไม่จบ!” ตวาดลั่นเมื่อเธอหันหลังแล้วเดินไปที่ประตู พนิดาไม่สนใจคำพูดของเขา หมุนลูกบิดก่อนที่หัวใจจะร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อรู้ว่าประตูถูก
ล็อกจากด้านนอก“คุณหนีผมไม่พ้นหรอกนิด” ชื่อเล่นของเธอที่หลุดออกมาจากปากของเขา ไม่มีผลกับความรู้สึกของเธอเลยสักนิด มันไม่อบอุ่นและปลอดภัยเหมือนกับครั้งก่อน เพราะคนพูดเปลี่ยนสถานะไปแล้ว มีอะไรที่เธอยังไม่รู้อีกบ้าง บริรักษ์มีธุรกิจมากมาย สถานบันเทิงแห่งนั้นก็คงเป็นของเขา เขาคงสนุกที่ได้สนองความใคร่ให้กลับผู้หญิงบ้าตัณหาอย่างเธอ ไม่คิดเลยว่าคำปฏิเสธแค่ประโยคเดียว จะทำให้เขาผูกใจเจ็บ และเล่นงานเธอหนักขนาดนี้ สถาบันการเงินไม่ได้มีที่นี่ที่เดียว ถือว่าเป็นความซวยของเธอ ที่เลือกที่นี่เป็นอันดับแรก
“บอกให้คนของคุณเปิดประตูให้ดิฉันด้วยค่ะ” กดเสียงต่ำออกคำสั่ง เธอไม่ใช่ลูกหนีของเขา
“ใจเย็น ๆ สิครับ ฟังผมพูดให้จบก่อน”
“ไม่จำเป็นค่ะ ฉันไม่ตกลง”
“จะเล่นตัวไปถึงไหน ฟังข้อเสนอของผมก่อน รับรองคุณจะชอบมัน”
“ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร รู้เอาไว้ว่าฉันไม่ตกลงอะไรทั้ง บอกให้คนของคุณเปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
“เท่าไร!” ร่างบางยืนค้างอยู่กับที่ เมื่อได้ยินคำถามของเขา
“ต้องการค่าตัวเท่าไรก็พูดมา” เมื่อเห็นว่าเธอยังนิ่ง ภูริก็ย้ำให้เธอฟังอย่างช้า ๆ ชัด ๆ
“ไปตายซะ!”
“ถ้าตายแล้วเราจะได้สนุกด้วยกันเหรอ อยากได้เท่าไรก็พูดมา ผมยินดีจ่าย”
“เพื่ออะไรคะ”
“เพื่อทำให้คุณรู้ว่า อย่ามาล้อเล่นกับคนอย่างผม!”
“รู้ตัวไหมว่าสิ่งที่คุณทำมันน่าสมเพชที่สุด อดอยากถึงขนาดต้องใช้วิธีสกปรกบีบบังคับฉันเลยเหรอคะ”
“ผมว่ามันแฟร์ดีออก คุณขายผมจ่ายเงิน สกปรกตรงไหนไม่ทราบ”
“ไม่รู้ตัวจริง ๆ เหรอคะ จะบอกให้เอาบุญ ทุกอย่างที่รวมขึ้นมาเป็นตัวคุณสกปรกที่สุด โดยเฉพาะความคิด เปิดประตูให้ฉันได้แล้ว อย่าให้ฉันเสียเวลาไปมากกว่านี้เลยค่ะ”
“ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนิด คิดว่าผมจะปล่อยคุณไปง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ” กว่าจะต้อนเธอเข้ากรงได้ เขาต้องเสียทั้งเงินและเวลา คิดว่าเขาจะปล่อยเธอไปง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ
ภูริกลับเข้ามาในห้องนอน ในเวลาต่อมา ตาคู่คมมองไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ ที่มีคนตัวเล็กซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา ความรู้สึกในหัวตีกันจนสับสนไปหมด เกิดอะไรขึ้น เขาไม่เคยรู้สึกอยากได้ใครมากมายเท่านี้มาก่อน ยิ่งพนิดาถอยหนีเขาก็ยิ่งอยากได้เธอ ภูริคิดว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเขาอยากเอาชนะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับค้นพบว่าเธอมีค่ามากกว่านั้น แผนครอบครองเธอไม่ง่ายเสียแล้ว เมื่อข่าวเรื่องธุรกิจของเธอแพร่ออกไป นักลงทุนทั้งหลายต่างก็จดจ้องเหมือนเสือตะครุบเหยื่อ ทุกคนรู้ว่า CCL ยังทำเงินให้อีกมหาศาล เป็นแบบนี้เขายิ่งหัวเสีย เพราะไม่ได้คิดเรื่องนี้เผื่อเอาไว้ เขาคิดเพียงแค่ว่า เพื่อรักษาบริษัทเอาไว้พนิดาจะต้องยอมทำตามข้อเสนอของเขา และเมื่อวันนั้นมาถึงเขาจะคืน CCL ให้เธอ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ก็ทำให้ปวดหัวไปกันใหญ่ เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อเอา CCL มาเป็นของตัวเอง เพราะถ้า CCL ตกอยู่ในมือคนอื่น พนิดาจะไม่มีวันได้มันกลับคืนมา ปัญหาของเขาตอนนี้ก็คือ มีคู่แข่งโผล่มาเสนอราคาให้มากกว่า และไม่ใช่แค่รายเดียว “ผมจะเอามันกลับมาคืนให้คุณนะนิด” จะสายไปไหมถ้าเขาจะแก้ไขสิ่งที่ทำพลาดไป ผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ ไม่ใช่เจ้าของ มีคนมาเสน
ภูริอุ้มคนคอพับอยู่กับอกเข้าสู่วงแขน แล้วพาเดินขึ้นชั้นบน บรรจงวางคนหลับลงบนเตียงอย่างเบามือ ถอดรองเท้าส้นสูงที่เธอใช้เป็นอาวุธทำร้ายเขาออกจากเท้าบาง แล้ววางมันไว้ข้างเตียง ร้องเท้าคู่นี้คงคับเกินไป เพราะเขาเห็นรอยแดงที่เท้าของเธอ ตาคมเข้มจับจ้องอยู่ที่ใบหน้า ที่เลอะไปด้วยเครื่องสำอางของเธอ อยากเช็ดออกให้แต่กลัวว่าจะรบกวนเวลานอนของเธอ พนิดาเหนื่อยมาก จนหลับคารถ ทั้ง ๆ ที่กำลังทำเลาะกันอยู่แท้ ๆ “คุณดื้อกับผมเหลือเกินนิด” เขาเองก็เหนื่อยล้าที่ต้องทำร้ายเธอสารพัดวิธี เขาซื้อหุ้นของCCL ได้เมื่อไร พนิดาก็อยู่ในกำมือของเขา อีกไม่นานหรอกเพราะตอนนี้เธอก็จนแต้มแล้ว จังหวะนั้นคนบนเตียงก็สะอื้นออกมา พร้อมกับดิ้นไปมา เธอคงฝันร้าย ร่างสูงก้าวเข้าหาแต่ก็ต้องหยุดเท้าที่ก้าวเดินเพราะมือถือที่สั่นขึ้นครืด~ครืด “ขออนุญาตครับนาย มีเรื่องด่วนครับ” ลูกน้องต่างรู้ดีว่าถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย จะไม่มีใครรบกวนเวลาพักผ่อนของเขา ขยับผ้าห่มให้กระชับตัวคนหลับ จูบลงที่หน้าผากมนฟอดใหญ่ เมื่อเธอสงบลง “ฝันดีนะครับ” กระซิบชิดใบหูคนหลับ ขโมยจูบริมฝีปากสีซีด ก่อนจะเดินออกไปจากห
สิ้นคำสั่งชายฉกรรจ์กลุ่มนั้น ก็กรูเข้ามายังจุดที่พนิดากับเอื้อตะวันยืนอยู่ หญิงสาวก้าวมาบังเอื้อตะวันเอาไว้ เขาต้องมาเดือดร้อนเพราะเธอ เอื้อตะวันดึงพนิดาไปข้างหลัง แล้วใช้ตัวบังเธอเอาไว้แทน ดารกระทำที่แสดงถึงความห่วงใยของคนทั้งสอง เพิ่มความโมโหให้ภูริเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว กรามแกร่งขบเข้าหากัน อยากสั่งสอนหมอนั่นให้หลาบจำ จะได้รู้ว่าอะไรควรไม่ควร “หนีไปค่ะคุณเอื้อ พวกเขาไม่ทำอะไรฉันหรอก” “ไม่! ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ผมไม่รู้ว่าคุณกับเขามีปัญหาอะไรกัน แต่ผมจะไม่ทิ้งคุณ” น้ำเสียงหนักแน่นที่มาพร้อมกับสายตาเด็ดเดี่ยว ทำให้หัวใจที่อ่อนล้าของพนิดาเข้มแข็งขึ้น นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าเพื่อนตาย เพิ่งจะรู้จักกันแท้ ๆ แต่เอื้อตะวันเลือกที่จะอยู่เคียงข้างเธอ “ไม่ค่ะ ฉันทำให้คุณเดือดร้อน เรื่องนี้ฉันต้องรับผิดชอบ ไปสิคะหนีไป” “ไม่นิด ผมจะไม่ไปไหน” บทสนทนาของเขาและเธอเข้าหูภูริทุกประโยค จากที่ตั้งใจว่าจะไปรอในรถก็ต้องเปลี่ยนใจ เพิ่งจะรู้จักกันแต่ยอมตายแทนกันได้ น่าประทับใจจริง ๆ “อย่าเข้ามานะ! คุณเอื้อไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ พวกนายอย่า
บรรยากาศในร้านกาแฟเต็มไปด้วยความอบอุ่น พนิดาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงไว้ใจและยอมมากับเขา เอื้อตะวันเป็นคนคุยเก่ง และตามทันเวลาที่เธอเล่นมุกตลก เธอต่างหากที่ตามไม่ทันมุกตลกฝืดของเขา ความไม่ตลกของเขาทำให้สนุกและผ่อนคลาย เธอสั่งกาแฟร้อนและขนมรองท้อง ในขณะที่เขาสั่งนมสดเย็นแก้วเดียว หมอมักจะรักษาสุขภาพ ชวนเธอมาดื่มกาแฟแต่ตัวเองดื่มนม ก็น่ารักไปอีกแบบ “คุณนิดชอบสัตว์ไหมครับ” ชวนคุยเพราะไม่อยากให้บรรยากาศบนโต๊ะเงียบเกินไป หลายครั้งที่เห็นมือถือเธอสั่น แต่พนิดาไม่รับสาย “สัตว์เลี้ยงเหรอคะ” “ครับ” “ก็มีชอบบ้างค่ะ” นึกว่าเขาจะเล่นมุก เพื่อโยงไปหาตัวเอง สัตว์ที่ว่าคือสัตว์แพทย์อะไรอย่างนี้ แต่เมื่อเขารับคำพนิดาก็ไปไม่เป็น บางครั้งเอื้อตะวันเหมือนจะรุก บางครั้งก็เว้นระยะห่าง เหมือนกลัวว่าเธอจะอึดอัด จึงเดาทางไม่ถูก “ชอบหมาหรือแมวครับ” หมากับแมวคือสัตว์เลี้ยงที่ใครหลาย ๆ คนหลงรัก “ไม่ใช่ทั้งสองอย่างค่ะ ฉันชอบจระเข้” “หืม...จระเข้เหรอครับ” “ใช่ค่ะ ฉันชอบเวลามันกินเหยื่อ มันดูโหดร้ายดีค
สัตว์แพทย์หนุ่มยืนพิงสะโพกในท่าทางสบาย ๆ เมื่อหญิงสาวขอตัวเข้าห้องน้ำ มืดแล้วก็จริงแต่ที่นี่ปลอดภัยเพราะอยู่ใจกลางเมือง ชีวิตที่เป็นเหมือนหุ่นยนต์ของเขาเริ่มต้นขึ้น และจบลงหลังจากปิดคลินิก ยี่สิบสี่ชั่วโมงของคนอื่นเป็นแบบไหนไม่รู้ แต่สำหรับหมอหมาอย่างเขามีแต่งานกับงาน วันนี้ก็เช่นกันหลังจากปิดคลินิก ตั้งใจจะมาเดินเล่นเพื่อพักสมอง เขาเห็นรถของหญิงสาวจอดอยู่ตรงจุดนั้นนานเกินไป เพราะความห่วงใยจึงทำให้เขาได้รู้จักเธอ พนิดา ศิริวิมล นักธุรกิจสาวสวยแถวหน้าของเมืองไทย ข่าวเรื่องธุรกิจของเธอไม่สู้ดีนัก และที่สำคัญเธอมีคู่หมั้นอยู่แล้ว เพราะหลักฐานอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ “รอนานไหมคะ” คำถามที่มาพร้อมกับร่างระหงที่มายืนอยู่ข้างหน้า ทำให้หมอหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย เพราะกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ “ตกใจเหรอคะ ขอโทษค่ะ” พนิดาเอ่ยขอโทษด้วยท่าทางเก้อเขิน “เปล่าครับ เรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ” ถามพร้อมกับมองหน้าเธอ ที่แต่งหน้าออกมาอย่างสวยงาม จนเขาจำแทบไม่ได้ “ทำไมคะ” พนิดาถามเมื่อถูกมองนาน “สวยครับ” “เพราะเครื่องสำอางค่ะ ฉันแต่งหน้าทำผมใหม
ภูริกลับออกมาหลังจากปล่อยให้เธอรออยู่พักใหญ่ ใบหน้าของเขาชุ่มไปด้วยน้ำ น้ำบางส่วนไหลลงไปเปียกที่คอเสื้อเป็นวงกว้าง ไม่มีกล่องปฐมพยาบาลติดมือมาอย่างที่ควรเป็น พนิดาหน้าตึง เมื่อรู้ว่าเขาแกล้งถ่วงเวลา “กล่องยาอยู่ไหนคะ” ถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ ข่มความไม่พอใจเอาไว้ เวลาทุกวินาทีของเธอมีค่า แต่เขาทำเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องสนุก เธอไม่มีเวลามาล้อเล่นกับเขาหรอกนะ ภูริทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวตรงข้าม จ้องหน้าหญิงสาวเขม็ง เขาเพิ่งล้างหน้าและเห็นว่าใบหน้าอันหล่อเหลาของเขายับเยินเพราะฝีมือเธอ ถ้าแจ้งความเธอคงติดคุกข้อหาทำร้ายร่างกาย เพราะดีเอ็นเอของเขาอัดแน่นอยู่ในกงเล็บของเธอ “ไม่ทำแผลแล้วใช่ไหมคะ” “ทำยังไงถึงจะใจอ่อน” คำพูดของเขาทำให้มือที่กำลังรวบแฟ้มบนโต๊ะชะงัก สุดท้ายเขาก็วกกลับมาเรื่องเดิม “ไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวนะคะ” “นิด...” น้ำเสียงที่ใช้เบาลงก็จริง แต่ยังคงกระด้างหูเหมือนเดิม “ฉันไม่มีเวลามาล้อเล่น หรือเล่นเกมบ้า ๆ กับคุณหรอกค่ะ” “ผมกำลังจะช่วยคุณอยู่นี่ไง” “เก็บความหวังดีของคุณไว้เถอะค่ะ ฉั







