เอกสารสัญญาว่าจ้างที่อยู่ในมือทำให้ไรเฟิลต้องแย้มรอยยิ้มอย่างมาดหมาย เพราะสิ่งไหนที่เขาอยากได้ก็ย่อมต้องได้อย่าง 100% จะไม่มีใครหน้าไหนมาขัดขวางได้เด็ดขาด และหากดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ส่งกลิ่นหอมไกลจากเมืองไทย ไม่ยอมทำตามที่เขาต้องการ เขาก็มีอีกหลากหลายวิธีที่จะจัดการกับเธอ หนึ่งในนั้นก็คือ กระดาษในมือ
‘ผู้หญิงไทยมีค่านิยมรักนวลสงวนตัว เธอจะเก็บความบริสุทธิ์ไว้เพื่อผู้ชายที่คิดว่าจะเป็นคู่ชีวิตเท่านั้น หากคุณชายทำลายเธอ โดยที่เธอไม่ยินยอม นั่นคือคุณชายสร้างบาปมหันต์ ดังนั้น ห้ามคุณชายบังคับหรือข่มขืนทั้งจิตใจและร่างกายของพุดซ้อนเด็ดขาด ถ้าเธอไม่ยอม คุณชายต้องถอย’
นั่นคือคำสัญญาที่เหมยอิงขอจากเขา ซึ่งแน่นอนว่าเขารับปาก เพราะตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยต้องข่มขืนใคร มีแต่ผู้หญิงจะวิ่งเร่เข้ามาข่มขืนเขาซะมากกว่า ดังนั้นเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นแน่เด็ดขาด เพราะอินถวาต้องสมยอมทุกประการอยู่แล้ว และอีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้เขาก็จะได้พิสูจน์ว่าสิ่งที่คิดไว้นั้นจริงหรือเปล่า
เขาจะสำรวจตรวจตราอินถวาทุกตารางนิ้ว ตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า จะทั้งตรวจและจดทุกรายละเอียด ว่าร่างกายที่เขาได้กอดอย่างเต็มตัวเมื่อช่วงเช้า ทรวงอกที่เขาบีบเคล้นเต็มฝ่ามือ ปลายยอดสู้นิ้วเมื่อเขาขยี้เธอก็อ้าปากค้าง ทั้งหมดนั้นคือของจริงที่แม่ให้มา ไม่ได้ถูกเสริม เติม แต่ง หรือเอาเข้าเอาออกแต่ละสัดส่วนเลยจริงไหม เพราะร่างกายที่เพอร์เฟกต์อย่างนั้นคือต้นแบบเรือนร่างที่ผู้หญิงทั้งโลกใฝ่ฝันหา แล้วไยไปรวมอยู่ในร่างกายของผู้หญิงไทยเพียงคนเดียว
“ช่างไม่ยุติธรรมต่อคนอื่นเลยนะ ฉันจะเสียสละตัวเองเพื่อพิสูจน์เธอพุดซ้อน จะเริ่มพิสูจน์ตั้งแต่ริมฝีปากเลยล่ะ”
ปลายนิ้วคลึงเคล้นริมฝีปากล่างที่มีเนื้อหยุ่นนุ่มของตนเอง ก่อนจะมองเห็นภาพริมฝีปากนี้ประทับลงไปที่ริมฝีปากหยุ่นนุ่มที่เป็นกระจับน้อยๆ นั่น จูบซับทั้งริมฝีปากบนก่อนจะละมาซับที่ริมฝีปากล่าง จูบเพื่อสัมผัสเพื่อเรียนรู้ว่าผู้หญิงที่มีเนื้อของริมฝีปากบนนิดๆ และมีเนื้อที่ริมฝีปากล่างมากหน่อย นั่นน่ะให้รสชาติของ ‘จูบ’ ที่ดื่มด่ำและดูดดื่มมากกว่าผู้หญิงที่นิยมไปตัดปากให้บางซะอีก
เพราะสิ่งหนึ่งที่ผู้ชายอย่างเขารู้ดี แต่ผู้หญิงอย่างพวกเธอไม่รู้ก็คือ ถ้าปากของพวกเธออ้ากว้างได้ไม่สุด ความสุขของผู้ชายจะหายไปเกือบครึ่ง
จากนั้นเมื่อเขาสำรวจความหยุ่นนุ่มของเนื้อริมฝีปากจนแน่ใจแล้วว่านี่คือรูปปากจริงของเธอ พร้อมทั้งจดบันทึกสู่สมองว่ารูปปากแบบนี้น่าเป็นต้นแบบของความสวยงามที่ผู้หญิงอื่นควรจะเลียนแบบมากที่สุด
ขั้นตอนต่อมาก็คือการสำรวจความหวานด้วยปลายลิ้น เริ่มจากลิ้นของเขาที่แลบออกมาเพียงนิด เลียไล้ที่ริมฝีปากบนและล่างของเธอดังเดิม แต่จะเพิ่มเติมคือ เซาะเข้าไปใต้ริมฝีปาก เพราะเขาต้องสำรวจว่าไรฟันที่จัดตัวเรียงสวยจนทำให้รูปหน้าของเธอสวยงามนี้ ความพิเศษของช่องฟันเธอเป็นอย่างไร และมีตรงส่วนไหนบ้างนะที่ไม่เพอร์เฟกส์
โดยเขาจะค่อยๆ แตะๆ ซับๆ ไปตามฟันแต่ละซี่ เพื่อตรวจดูว่ามีซี่ไหนที่ให้ความเสียวเป็นพิเศษหรือเปล่า เพราะหากตรงไหนเสียวมาก เขาก็ต้องแตะๆ เน้นๆ ให้มากขึ้น และเมื่อสำรวจไรฟันด้านนอกสำเร็จก็ถึงคราวที่ลิ้นร้อนๆ ของเขาจะต้องเข้าไปสำรวจความหวานจากอุ้งปากด้านในบ้าง เพราะมีหลายอย่างเหลือเกินที่เขาอยากรู้จากริมฝีปากที่เปล่งน้ำเสียงไพเราะนี้
เขาอยากรู้ว่าลิ้นน้อยๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ด้านใน เวลากระดกขึ้นกระดกลงเพื่อเปล่งน้ำเสียงออกมา เธอมีลำดับขั้นตอนอย่างไร และท่วงทำนองเสียงแว่วหวานได้ขนาดไหนกันที่จะปลดปล่อยออกมา
เช่นเสียง ‘อา... ซี้ด... โอว... เยส... ซี้ด... โอว...’ นั่นน่ะ เธอต้องใช้ความสามารถในการกระดกปลายลิ้นหรือพลิกอวัยวะนุ่มนิ่มนั้นอย่างไรบ้าง
จากนั้นเขาก็จะสำรวจต่อว่าลิ้นน้อยๆ ของอินถวานั้นมีความยาวสักแค่ไหน จากปลายลิ้นของเขาถ้าใช้เป็นเครื่องตรวจวัด แตะติด แตะติด จากปลายลิ้นไปจนถึงด้านข้างของโคนลิ้นด้านใน ไรเฟิลมั่นใจว่าเขาคงพอจะกะความยาวของลิ้นสาวไทยคนสวยนี่ได้ นั่นก็จะเป็นการกะระยะทางที่เธอจะรับบางสิ่งบางอย่างเข้าไป บวกลบไม่น่าจะเกิน 1 นิ้ว และจะเป็นการประเมินคะแนนในเบื้องต้นว่าลิ้นน้อยๆ ของอินถวาจะมีความสามารถได้แค่ไหน
ไรเฟิลแลบลิ้นออกมาเลียไล้ที่ริมฝีปากของตัวเอง ขบเม้มริมฝีปากฉ่ำไปด้วยน้ำลายสอของเขาเบาๆ ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เพราะเขาคงต้องใช้เวลามากหน่อยจึงจะสำรวจรายละเอียดของลิ้นน้อยๆ ในอุ้งปากที่คิดว่าหวานแน่ 1,000% นั้นได้ครบรส
“อืม...”
เปลือกตาคมปิดลงเพื่อสะกดกลั้นความรู้สึกบางอย่าง ที่เริ่มจะมีมากขึ้นเมื่อคิดถึงขั้นตอนการสำรวจคุณแม่บ้านคนใหม่ เพราะอวัยวะที่ตื่นตัวตามความคิดของเขานั้นเป็นอุปสรรคจนเขาต้องกำฝ่ามือของตัวเองแน่น
เพราะ ‘พี่เบิ้ม’ ไม่ค่อยจะฟังคำสั่งเขาหรอก ยิ่งเจอสิ่งสวยงามที่ถูกใจ ยิ่งห้ามยาก แต่ที่แปลกก็คือ นี่เป็นครั้งแรกที่พี่เบิ้มถูกใจสาวไทยหรืออาจพูดได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่พี่เบิ้มถูกใจสาวเอเชียก็ได้ อาจเพราะนิสัยพี่เบิ้มกชอบอะไรๆ ที่เป็นธรรมชาติที่สุด เช่นหน้าอกขนาดสะบึม สะโพกโยกไหวพลิ้วตามแรงลม หรือจะเป็นริมฝีปากเจ่อๆ อวบๆ ที่อ้าได้กว้างตามที่ใจต้องการ
ดังนั้นสาวเอเชียที่เขามองเห็นจนชินตาในทุกวัน พี่เบิ้มจึงไม่สนใจเลย เพราะหากพวกเธอสวยมากจนต้องเหลียวมอง นั่นน่ะเชื่อได้ว่าเป็นลูกค้าของโรงพยาบาลทั้งนั้น
และก็เพราะพี่เบิ้มนี่แหละ ที่ทำให้เขาตื่นตัวจนไม่อาจละความสนใจจากอินถวาได้ เพราะพี่เบิ้มเล่นตื่นเต้นจนสั่นตั้งแต่แรกเห็นเธอทีเดียว และอีกไม่นานพี่เบิ้มจะได้สำรวจเธอด้วยตัวเอง
“ได้สิครับ ผมสัญญาจะทำให้ดีที่สุด เริ่มต้นจากส่งเมียจ๋าขึ้นสวรรค์ก่อน” “อ่ะ! ว้าย! ไรเฟิล...” อินถวาหมดหนทางจนต้องอุทานเพราะสิ่งที่เธอควรทำก็คือปิดริมฝีปากของตัวเองที่จะกรีดร้องจากความเสียวซ่านนั้นออกมา เพราะไรเฟิลวาดลวดลายผ่านปลายลิ้น ตั้งแต่ทั่วพื้นที่ของอกอวบจนดูดดุนเบาๆ ที่ยอดอก ก่อนจะลากริมฝีปากและปลายลิ้นมาตามร่องอกมาคลอเคลียอยู่ที่หน้าท้องที่ยื่นนูน จนคนที่อยู่ด้านในประท้วงตอดตุบๆ “ลูกจ๋า... พ่อจะเข้าไปเยี่ยม” “ไรเฟิล... บ้าจริง...” “บ้าที่ไหนกันครับ ผมจะไปเยี่ยมลูก ลูกจ๋า... รอพ่อนะครับ” “อื้อ... บ้า...” ไรเฟิลหัวเราะพาริมฝีปากไปสู่จุดหมายที่อินถวารอคอย ก่อนจะชะงักเพราะดอกไม้งามสีชมพูอ่อนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าดูอูมใหญ่กว่าเดิม รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า เพราะรูปร่างที่เต็มไม้เต็มมือขึ้นกว่าเดิมบวกกับอวัยวะที่ขยายใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับชีวิตน้อยๆ ก็ยิ่งทำให้เรือนร่างของคุณแม่มือใหม่นี้ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ รวมทั้งกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เจืออยู่ก็ทำให้ไรเฟิลอดใจไว้ไม่ไหว จมูกโด่งจึงจดลงดอมดมควา
ไรเฟิลประคองร่างอวบอิ่มของอินถวามานั่งที่โต๊ะยาวด้านข้าง เขาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เธอรับรู้ เริ่มตั้งแต่ค่ำคืนแห่งการดินเนอร์นั้น นั่นคือแผนการของพ่อแม่ เพื่อให้ท่านยอมรับในตัวของอินถวา และยอมรับว่าความรักของเขาคือความจริง ไม่ใช่เพียงหลงเสน่หาชั่วครั้งชั่วคราว เริ่มจากอินถวารักเงินหรือว่ารักตัวเขากันแน่ ซึ่งเธอก็พิสูจน์แล้วว่าเงินจำนวน 50 ล้านที่พ่อเขาเขียนเช็คให้เธอนั้น อินถวาไม่แม้แต่จะเปิดดู ด่านแรกเธอผ่านไปได้ แต่ด่านที่ 2 ที่ใช้ระยะเวลาเป็นตัวชี้วัด ใน 3 เดือนที่ต้องจากกันอย่างเข้าใจผิด อินถวาจะยังซื่อสัตย์กับเขาหรือไม่ ทั้งๆ ที่เธอก็เห็นว่าเขานั้นทรยศเธอไปแล้ว และอินถวาก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังเลย จากข่าวที่ได้รับจากเหมยอิงและมาร์กอส นั่นคืออินถวาไม่มีใครเลย เธอตั้งหน้าตั้งตาสร้างธุรกิจขนมไทยร่วมสมัยและใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่กับครอบครัว ส่วนตัวเขาเองก็ต้องอดทนกับการไม่ได้เห็นหน้าเธอ เขาต้องไปทำงานทุกวัน ต้องอยู่ในวงล้อมของผู้หญิงที่สวยงามมากมาย ทั้งซินเทียก็มาคลอเคลียกับเขาไม่ห่าง ใน 3 เดือน หากเขายังยึดมั่นอยู่กับอินถวา พ่อกับแม่ถึงจะ
ทว่าดวงตาสวยหวานของอินถวากลับหลับพริ้มแต่ก็ยังเห็นว่ามีหยาดน้ำเอ่อคลออยู่ ระยะเวลา 3 เดือนที่จากกัน เขารู้ว่าเธอก็ทุกข์ ส่วนเขานั้นก็ทุกข์อย่างแสนสาหัสเพราะนี่คือ บทพิสูจน์ที่จะทำให้พ่อแม่ยอมรับเธอ “พุดซ้อนครับ ได้โปรดลืมตาขึ้นมองผม ผมอยากเห็นดวงตาของคุณ อยากเห็นผมอยู่ในนั้น อยู่ในสายตาของคุณอีก พุดซ้อนครับ ได้โปรดเถอะ” อินถวากลั้นสะอื้น แค่ได้ยินน้ำเสียงสั่นเครือปนเว้าวอนอย่างนั้น เธอก็แทบจะซุกซบใบหน้าลงกับอกของเขา เพราะเธอเองก็คิดถึงเขาเหลือเกิน เวลา 3 เดือนที่ผ่านไปทำให้เธอมองเห็นโลกในต่างมุมมากขึ้น อารมณ์ชั่ววูบของเธอในวันนั้นทำให้ผลุนผลันจากมา แต่เมื่อคิดคำนวณทุกเหตุการณ์ก็จะพบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นช่างประจวบเหมาะ นั่นเพราะพ่อและแม่ของเขาต้องการให้เกิดอยู่แล้ว และเป็นเธอเองที่ติดกับดักที่ท่านสร้างขึ้น เพราะเธอไม่มีทางรู้ได้เลยว่าไรเฟิลที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงของซินเทียนั้น คนทั้งคู่เมคเลิฟกันจนเหนื่อยอ่อน หรือว่านั่นคือไรเฟิลถูกทำให้หลับ เพราะกับเธอนั้น เขาก็ไม่เคยเหนื่อยจนสลบถ้ายังไม่ถึงเช้า และหากเรื่องราวเป็นไปอย่างที่เธอคาดเดา
“ค่ะแม่ พุดก็ว่าจะรับอีกแค่สองคนเท่านั้นค่ะ ไม่อย่างนั้นพุดจะดูแลไม่ทั่วถึง ถ้าขนมไม่ได้คุณภาพจะกลายเป็นผลเสียแทน แล้วน้าอิฐล่ะคะ เช้านี้พุดยังไม่เห็นเลย ไปธนาคารเหรอคะแม่” เธอถามหาน้าชาย เพราะปกติจะเห็นอยู่ในออฟฟิศฝั่งตรงกันข้าม แต่เช้านี้เธอยังไม่เห็นเลย “ไปสนามบินน่ะ” “ไปทำไมคะ มีอะไรเหรอ” “ก็เรื่องที่น้าอิฐเขาจะนำเข้าอะไหล่รถนั่นแหละ วันนี้ทางนั้นเขาบินมา น้าอิฐก็เลยไปรับ” น้ำเสียงเศร้าๆ ของแม่ทำให้อินถวาโอบกอดรอบเอวเจ้าเนื้อของแม่เอาไว้ เธอรู้ว่าแม่รักธุรกิจเต็นท์รถมือสองนี้มาก เพราะนี่คือสิ่งที่สร้างรายได้จนแม่สามารถส่งเสียเธอเรียนจนจบ และก็เป็นเหตุผลหลักที่เธอไปทำงานที่ฮ่องกง เพราะไม่อยากให้แม่ต้องสูญเสียสิ่งนี้ไป แต่วันเวลาก็ไม่แน่นอน ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ รถยนต์มือสองขายยากและก็ยังหาซื้อมาใส่เต็นท์ได้ยากเช่นกัน น้าอิฐจึงปรึกษากับแม่ว่าควรลดซื้อรถยนต์แต่เปลี่ยนมานำเข้าอะไหล่แทน และหากมีคู่ค้าอยู่ที่จีนหรือที่ญี่ปุ่นก็จะดีมาก เพราะการสั่งนำเข้าหรือการหาอะไหล่ที่ยากๆ ก็จะทำได้อย่างเร่งด่วน และตอนนี้แม่ก็วางมื
“ถ้าถือว่าผมเป็นเพื่อน ให้เพื่อนคนนี้ไปส่งให้ถึงเมืองไทยนะครับ เพื่อนจะได้สบายใจ ว่าได้ส่งเพื่อนถึงสถานที่ที่ปลอดภัยแล้ว ไม่ลำบากหรอกครับ” อินถวาพยักหน้ารับดวงตารื้นไปด้วยหยาดน้ำ ก่อนจะขอตัวไปซื้อพลาสเตอร์แปะแก้เมาเครื่องบินก่อน โดยมีมาร์กอสมองตามร่างงามระหงที่เดินตรงไปยังร้านขายยา ดวงตาสีฟ้ามีแววกังวลใจก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงที่สั่นไม่หยุดขึ้นมา ‘ไรเฟิล’ แม้หน้าจอโทรศัพท์จะระบุชื่อคนโทรเข้าแบบนั้น แต่มาร์กอสกลับเลือกที่จะปิดเครื่อง เพราะในเวลานี้ทุกคนควรได้รับโอกาสในการไตร่ตรอง เกือบ 3 ชั่วโมงจากฮ่องกงมาเมืองไทย อินถวาไม่ได้พูดอะไรเลย มีเพียงน้ำตาของเธอเท่านั้นที่เคลื่อนไหวไม่หยุด ทว่าเพียงถึงจุดหมายรอยยิ้มอย่างมีความสุขที่สุดก็ฉายชัดขึ้น ดั่งว่าเธอคนนี้ไม่ได้นำความทุกข์ใจกลับมาจากฮ่องกงด้วย “ส่งฉันเพียงเท่านี้ก็พอแล้วค่ะ ฉันถึงบ้านแล้ว ฝากคุณมาร์กอสขอโทษคุณวิคเตอร์กับคุณนายลีแทนฉันด้วยนะคะ สำหรับทุกเรื่องที่ฉันเสียมารยาทไว้ และฝากขอโทษคุณแม่บ้านใหญ่ ลุงฉี อาซู กับอาหนิงที่ฉันจากมาโดยไม่ได้ลา” “แล้วคุณไรเฟิลล่ะครับ คุ
“ถ้าเราท้องขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง ไรเฟิลจะหาว่าเรามีลูกเพื่อไว้จับเขาหรือเปล่า และพ่อแม่เขาอีกล่ะ เขาจะทำยังไงกับเรา”อินถวาพึมพำก่อนจะสะดุ้งเพราะเสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้น เธอรีบเดินไปที่โทรศัพท์แต่ยังไม่วายจะชำเลืองมองไปที่ตึกใหญ่ เพราะคนที่โทรมาคือคนในตึกนั้น ดวงตาสวยมีแววเศร้ามองโทรศัพท์อย่างชั่งใจเพราะไรเฟิลไปดินเนอร์กับครอบครัวที่ตึกใหญ่และสัญญาว่าจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด ทั้งที่เธอเองก็เผื่อใจไว้อยู่แล้วว่าคงไม่เร็วแน่ เธอก็ไม่อยากได้ยินว่าเขาจะขออยู่ต่ออีกกี่ชั่วโมง จะกลับดึกกว่านี้ หรือว่าค่ำคืนนี้จะไม่กลับ “ฮัลโหล...” เสียงหวานเอ่ยทักเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ใช้ ‘ไหว’ ที่เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เพราะคิดว่าคนที่โทรมาในยามดึกนี้คงมีแค่ไรเฟิลคนเดียวเท่านั้น ทว่าเสียงที่ตอบกลับมากลับทำให้อินถวารีบคว้าเสื้อคลุมและเดินออกจากตึกเล็กมุ่งตรงไปสู่ตึกใหญ่ในทันที เพียงไม่นานเธอก็มาถึงจุดหมายที่ใครคนนั้นบอกเอาไว้ ห้องนอนชั้น 2 ของปีกซ้าย ประตูห้องที่เปิดแง้มไว้ทำให้อินถวาถือวิสาสะเดินเข้าไปทันที ในนาทีที่หัวใจเธอใกล้จะระเบิดก็ขอให้เธอได้เห็นกับตาตัวเอง และสิ่งที่มองเ