로그인ในที่สุดประตูห้องครัวเปิดออกมาเสียที ทุกคนเห็นดังนั้นจึงพากันถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่เห็นว่าพระชายายังปลอดภัยดี
“อาหารของข้าแบ่งไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือพวกเจ้าแบ่งกันกินได้เลยข้าไม่หวง แต่อาจจะรสเผ็ดสักหน่อย ทางที่ดีเตรียมน้ำดื่มไว้ข้างตัวด้วย” นางบอกกับทุกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ส่วนไก่และหมู แบ่งมาให้ข้าจานเดียวก็พอ ที่เหลือพวกเจ้าเอาไปแบ่งกันกินได้เลย แล้วเย็นนี้ข้าอาจจะมาทำครัวปรุงอาหารมื้อเย็นอีกครั้ง อ้อ...ถ้าไม่อยากหัวหลุดออกจากบ่า ก็อย่าเอ่ยถึงเรื่องที่ข้าทำอาหารเอง”
“เพคะ” นางกำนัลทุกคนก้มศีรษะรับคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง
“มันจะดีหรือเพคะ” ลี่เอ๋อร์ได้ยินก็รีบแย้งขึ้นมา นางเห็นว่าไม่เหมาะที่นางกำนัลอย่างพวกนางจะกินอาหารที่พระชายาลงมือทำด้วยตนเอง
ความจริงเรื่องงานในครัว นางไม่อยากให้พระชายาแตะต้องด้วยซ้ำ เนื่องจากงานพวกนี้เป็นงานชั้นต่ำ ไม่เหมาะกับตำแหน่งพระชายาของท่านอ๋องเลย
“มันจะดีหรือไม่ อยู่ที่ข้าตัดสินใจ ข้าบอกว่าดี มันต้องดี หรือพวกเจ้าอยากขัดคำสั่งข้า รีบยกอาหารไปเถอะ” หนิงหว่านซูรู้ดีนางกำนัลไม่กล้าขัดคำสั่งนาง จึงส่งเสียงดุ ก่อนจะเดินกลับห้องไปเพื่อรอกินอาหาร
“พวกเจ้าได้ยินแล้วหรือไม่ รีบยกอาหารส่วนของพระชายาไปถวาย แล้วที่เหลือพวกเจ้าก็แบ่งกันกินได้เลย ที่สำคัญอย่าลืมแบ่งให้ข้ากับนางกำนัลเสียนด้วยล่ะ” ลี่เอ๋อร์รีบสั่งออกไป แม้ไม่อยากทำอะไรที่ผิดธรรมเนียม แต่กลิ่นอาหารช่างหอมยั่วยวนใจเหลือเกิน
“เจ้าค่ะ นางกำนัลลี่” นางกำนัลที่มีหน้าที่ในครัวรีบตอบรับอย่างยินดี ก่อนจะแบ่งหน้าที่กันทำอย่างรีบเร่ง โดยกลุ่มหนึ่งยกอาหารตามนางกำนัลคนสนิททั้งสองคนมาที่เรือนของพระชายา
ย้อนกลับมาก่อนหน้านี้
หยางเฟยหลงหรือชินอ๋อง หลังจากพักผ่อนแล้วจึงเดินออกมานั่งเล่นในสวน พร้อมกับจิบชาเพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้า ทว่ากลิ่นเนื้อย่างกลับลอยมาเตะจมูก จนต้องถามองครักษ์ถึงที่มาของกลิ่น
“เรือนใดทำอาหารได้หอมขนาดนี้” อ๋องหนุ่มถามพร้อมกับมองหา
“กระหม่อมจะรีบไปดูให้พ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์ฉินตอบอย่างนอบน้อม ก่อนจะกระโดดหายไป
ไม่นานก็กลับมารายงานอย่างที่เห็น “เป็นเรือนของพระชายาหนิงพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเห็นพระชายาเข้าครัวปรุงอาหารเอง แล้วด้านนอกก็ให้นางกำนัลช่วยกันย่างหมูและไก่ กลิ่นเลยโชยมาถึงที่นี่ ท่านอ๋องจะให้กระหม่อมไประงับการย่างเนื้อหรือไม่ พ่ะย่ะค่ะ”
“นางปรุงอาหารด้วยตัวเองเช่นนั้นหรือ” หยางเฟยหลงถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่คาดคิดว่าพระชายาที่คอยแต่จะสร้างเรื่อง จะลุกขึ้นมาปรุงอาหารด้วยตัวเอง “แปลก ช่างแปลกเหลือเกิน”
“เช่นนั้นกระหม่อมขอไปดูเองเพื่อความแน่ใจนะพ่ะย่ะค่ะ” ฉางกงกงกล่าวจบก็ไม่รอช้า รีบก้าวเท้ายาว ๆ เดินออกมา แล้วตรงไปที่เรือนของพระชายาหนิง และเมื่อมาถึงกลิ่นหอมของอาหารก็ลอยมาเตะจมูกจนเคลิ้ม
ฉางกงกงยืนแอบมองอยู่พักใหญ่ เมื่อได้ยินพระชายากล่าวกับนางกำนัลว่าอาหารนั้นให้แบ่งกันกินได้ เขาจึงยิ้มอย่างดีใจ เพราะยามนี้ท้องเขาร้องแล้ว ‘อาหารที่พระชายาทำนั้นช่างหอมเหลือเกิน’
เมื่อได้ยินว่าอาหารที่เหลือสามารถแบ่งกันกินได้ พอพระชายาเดินจากไปแล้ว เขาจึงรีบออกมาจากที่ซ่อน แล้วออกคำสั่งกับนางกำนัล
“จัดอาหารให้ข้าด้วยหนึ่งสำรับ ข้าจะเอาไปให้ท่านอ๋องลิ้มลอง” ต่อให้ไม่รู้ว่าท่านอ๋องจะเสวยหรือไม่ แต่เขาต้องให้จัดสำรับเอาไปไว้ก่อน
พอได้ยินเสียของฉางกงกง เหล่านางกำนัลต่างพากันตกใจ แต่รีบที่จะจัดอาหารให้หนึ่งสำรับ เนื่องจากฉางกงกงผู้นี้คือกงกงที่ดูแลจวนชินอ๋องแห่งนี้
ไม่นานฉางกงกงก็เดินกลับมายังเรือนส่วนตัวของชินอ๋อง โดยมีนางกำนัลยกสำรับอาหารตามมาเงียบ ๆ
“นั่นเจ้าเอาอะไรมาด้วยหรือ ฉางกงกง” หยางเฟยหลงเห็นมีนางกำนัลเดินถือถาดอาหารตามฉางกงกงเข้ามา จึงถามออกไป
“สำรับอาหารที่พระชายาปรุงขึ้นพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องจะลองเสวยดูหรือไม่ พ่ะย่ะค่ะ”
ฉางกงกงตอบกลับไป และไม่รอช้ารีบโบกมือให้นางกำนัลที่ยกสำรับอาหารไปวางตรงหน้าชินอ๋อง เมื่อวางเสร็จแล้วนางกำนัลก็รีบเดินออกไป
“อาหารพวกนี้ช่างดูแปลกตายิ่งนัก เจ้ารู้หรือไม่ว่าแต่ละอย่างเรียกว่าอย่างไร” หยางเฟยหลงมองอาหารตรงหน้าด้วยความแปลกใจ เพราะอาหารหลายจานนี้เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็ดูน่ากินเหลือเกิน จึงถามออกไปด้วยความอยากรู้
“กระหม่อมไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ ท่านอ๋องจะลองไปถามกับพระชายาเองดีไหมพ่ะย่ะค่ะ”
ความจริงแล้วฉางกงกงต้องการลิ้มรสอาหารพวกนี้เองต่างหากล่ะ จึงอยากจะให้ท่านอ๋องไปที่เรือนของพระชายา
เพราะหากท่านอ๋องรับประทานอาหารที่นี่แล้วไม่เหลือให้เขาลิ้มลองสักหน่อย คงแย่เหมือนกัน
“เช่นนั้น ข้าจะไปเรือนพระชายา!!”
กล่าวจบ หยางเฟยหลงก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่เรือนของพระชายาเอก
ตอนพิเศษ 2 ข้าต้องการบุตรสาวมาออดอ้อน (2)และไม่นานชายารักของเขาก็กรีดร้องออกมาพร้อมกับซบหน้าลงกับไหล่หนา แต่ก็ไม่วายที่จะบดคลึงสะโพกไปมาโดยที่ยังไม่ยอมให้มังกรออกมาจากกาย ส่วนสวามีก็กอดร่างบางไว้อย่างรักสุดหัวใจ“เจ้ามีความสุขไปสองครั้งแล้ว คราวนี้ถึงเวลาที่พี่จะสร้างลูกสาวของเราแล้วนะ” หยางเฟยหลงกระซิบบอกอย่างอ่อนหวาน และส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้นางที่ผลักตัวมาสบสายตากันจากนั้นเขาก็โน้มตัวลงเหมือนม้าโยก จนตอนนี้เขาขึ้นมาอยู่ข้างบนโดยมีร่างชายารักนอนอยู่ใต้ร่าง“ข้ารักเจ้าที่สุด” เขากระซิบบอกรักก่อนจะบดจูบอย่างดูดดื่ม สะโพกหนาก็ส่งมังกรยักษ์เข้าภายในกายนางจากช้าๆ เนิบๆ ก็เร็วขึ้นหนักหน่วงขึ้นตามอารมณ์รักที่พุ่งสูงตับๆๆ ตับๆๆ ตับๆๆ“โอ้ววว แน่นเหลือเกิน ชายาของข้าช่างน่ารักขึ้นทุกวัน” ชายหนุ่มครางออกมาสุดเสียง เมื่อหยัดตัวขึ้นมานั่งคุกเข่า เขาจับขาของนางพาดบ่าแล้วจับเอวบางไว้ก่อนจะกระแทกสะโพกส่งมังกรเข้าไปอย่างรัวเร็วจนร่างบางกระเพื่อมขึ้นมาจากแรงโยก“อ่าร์ส ท่านพี่ ท่านพี่ น้องไม่ไหวแล้ว” หนิงหว่านซูร้องครางออกมาอย่างกระสันเสียว ใบหน้าสวยส่ายไปส่ายมาบนหมอนนุ่น มือสองข้างดึงผ้าปูที่นอน
ตอนพิเศษ 2 ข้าต้องการบุตรสาวมาออดอ้อน (1)หยางเฟยหลงเดินเข้ามาในห้องบรรทมที่มีฮองเฮาในชุดนอนเนื้อเบาบางพลิ้วนอนอ่านหนังสืออยู่ใต้เสียงเทียน พระองค์นั่งลงแล้วดึงหนังสือในมือนางไปเก็บไว้ที่โต๊ะข้างเตียง ก่อนจะดึงชายารักเข้ามาไว้ในอ้อมกอด“น้องหญิงของข้ามีความสุขดีหรือไม่” เขาถามอย่างอ่อนโยน“หม่อมฉันมีความสุขดีเพคะ ฝ่าบาทเล่าเพคะ มีความสุขดีหรือไม่” นางตอบและถามกลับอย่างอ่อนหวาน และเริ่มรู้สึกว่ามือไม้ของเขากำลังเล่นสนุกอยู่กับเนื้อตัวของนาง “ข้ามีความสุขดี แต่จะมีความสุขมากกว่านี้ถ้าเจ้ามอบลูกสาวมาไว้ออดอ้อนข้าสักคน วันนี้ข้าเห็นพี่ชายเจ้ามีบุตรสาวมาออดอ้อนแล้วรู้สึกอิจฉายิ่งนัก” น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นมีความอ่อนหวานอย่างมาก“หม่อมฉันเองก็อยากมีลูกสาวมาไว้เรียนรู้การทำอาหารเช่นกันเพคะ แต่ของเช่นนี้จะรอให้หม่อมฉันมอบให้ฝ่ายเดียวก็คงเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ที่พระปรีชาของฝ่าบาทแล้วเพคะ”หนิงหวานซูเอ่ยขึ้นมาอย่างอ่อนหวานปนเขินอาย มือก็ลูบไล้หยอกเย้าอยู่ที่แผ่นอกกว้างภายใต้ชุดนอนผ้าซาตินสีน้ำเงินที่นุ่มมือ“เช่นนั้นต่อไปนี้เจ้าไม่ต้องกินยาของเจ้าแล้วนะ และวันนี้เรามาช่วยกันสร้างลูกสาวกั
ตอนพิเศษ 1 อิจฉาแม้กระทั่งโอรสของตนเอง (2)เวลานั้นมารดาของนางดีใจยกใหญ่ ใช่ว่าดีใจที่ได้องค์หญิงสี่มาเป็นสะใภ้ แต่ดีใจที่บุตรชายแต่งงานเสียที‘จะว่าไปต้องขอบคุณ ผู้ที่ส่งข้ามาอยู่ในร่างนี้ หากไม่แล้วข้าคงไม่มีครอบครัวที่รักและอบอุ่นเยี่ยงนี้หรอก ข้าไม่รู้ว่าผู้ใดส่งข้ามาอยู่ที่นี่ แต่ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ข้าก็อยากขอบคุณคนคนนั้นอยู่ดี ที่ส่งข้ามาที่นี่ ขอบคุณจริงๆ’จากตอนแรกนางยืนยันที่จะหย่ากับพระสวามีที่มีตำแหน่งชินอ๋อง แต่ไม่คิดว่าเรื่องราวจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จนทำให้นางและพระสวามีผูกมัดกันด้วยหัวใจ จนทำให้มีโอรสถึงสามคน และยามนี้นางยังเป็นแม่ของแผ่นดินอีกทั้งยามนี้ผลผลิตในแคว้นต่างก็อุดมสมบูรณ์ คนยากไร้และขอทานทั่วทั้งเมืองหลวงก็ลดน้อยลงในขณะที่กำลังคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา หยางเฟยหลงก็เดินเข้ามาเงียบ ๆ และจ้องมองนางอย่างรักใคร่เมื่อรู้ว่ากำลังถูกจ้องมอง นางจึงรีบหันมาดู ก็พบว่าเป็นพระสวามีของนางเอง เลยยิ้มและถามออกมาอย่างอ่อนโยน“เสด็จพี่มานานแล้วหรือเพคะ ที่ตำหนักอาจจะเงียบสักหน่อย เพราะทั้งสามคนไปที่จวนสกุลหนิงเพคะ” นางรายงานเรื่องลูก ๆ ไปในคราวเดียว“อืมดีมาก เช่
ตอนพิเศษ 1 อิจฉาแม้กระทั่งโอรสของตนเอง (1)ห้าปีต่อมา...หนิงหว่านซูไม่คิดว่าหลังจากเป็นแม่คน จะมีความสุขเช่นนี้ แต่ถึงจะทำหน้าที่แม่หนักอย่างไร นางก็ไม่เคยลืมทำหน้าที่ภรรยาที่ดี ดังนั้นตลอดห้าปีที่ผ่านมานี้ หนิงหว่านซูไม่ตกหล่นหน้าที่ใดเลย“เสด็จแม่”ขณะนั้นเองเสียงเล็ก ๆ ก็ดังขึ้น พร้อมกับมีร่างเด็กน้อยสามคนวิ่งเข้ามาหานาง นำโดยโอรสองค์โตมีนามว่า หยางห่าวอี้ ตามมาด้วยโอรสองค์รองมีนามว่า หยางมู่เฉิน ส่วนโอรสองค์สุดท้องมีนามว่าหยางหมิงเจ๋อ“ว่าอย่างไรลูกแม่ ไปวิ่งเล่นที่ใดมา ดูสิเหงื่อท่วมเลย” เมื่อเห็นโอรสทั้งสามวิ่งเข้ามา หนิงหว่านซูจึงอ้าแขนรับพวกเขาอย่างดีใจและถึงแม้จะเป็นโอรสของฮ่องเต้ แต่หนิงหว่านซูกลับเลี้ยงพวกเขาไม่ต่างจากคนทั่วไป ที่ต้องช่วยเหลือตัวเอง แม้ทั้งสามจะมีแม่นมเป็นของตัวเองก็ตาม เด็กน้อยโผเข้าอ้อมกอดแม่ก่อนจะถูกแม่นมที่วิ่งตามมารีบบอกเสียงดุเล็กน้อย “พระโอรสไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนเถิดเพคะ เวลานี้เล่นจนเหงื่อชุ่มไปหมดแล้ว”“นั่นสิ แม่เห็นด้วยกับแม่นมเหยานะ ลูกทั้งสามคนไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดกันก่อนเถอะ เดี๋ยวแม่จะชงโกโก้และทำแพนเค้กให้กิน” หนิงหว่านซูเอาของโปรดของเด็กท
บทส่งท้าย ครอบครัวที่สมบูรณ์ (จบ) 1.2ในใจเขาคิดว่า‘ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็กลับไปเสีย’“ฝ่าบาททรงพระปรีชาแล้วเพคะ” หนิงหว่านซูได้ยินอย่างนั้นจึงพยักหน้ารับและเอ่ยออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ยามนี้นางมีความสุขมากกว่าจะคิดเรื่องอื่น นางจึงซบตัวอยู่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของพระสวามี ทั้งสองมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยใจที่เปี่ยมไปด้วยความสุขไม่นานข่าวการตั้งครรภ์ของฮองเฮา ก็ถูกประกาศไปทั่วทั้งเมืองหลวง ชาวบ้านต่างรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก รวมถึงขุนนางที่สนับสนุนพระนาง แต่ก็มีกลุ่มที่ไม่พอใจอยู่บ้าง เพราะหากฮองเฮาทรงตั้งครรภ์แล้ว คงยากที่จะดันลูกหลานเข้าวังหลังและมีทั้งนางกำนัลหลายคนหมายปองจะปีนขึ้นเตียงฮองเต้ เนื่องจากคิดว่าเวลานี้ฮองเฮาไม่สามารถปรนนิบัติพระสวามีได้ เหมือนดังเช่นเหตุการณ์ในวันนี้“เจ้ากล้ามาก กล้ามากที่มายั่วยวนฝ่าบาท”หนิงหว่านซูกล่าวเสียงเข็มและเย็นชา นางมีความรู้สึกหึงหวงสวามีอย่างมาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนางกำลังตั้งครรภ์หรือไม่ เลยไม่อาจระงับอารมณ์ตนเองไว้ได้“หม่อมฉันเพียงแค่อยากรับใช้ฝ่าบาทแทนฮองเฮาเพคะ ยามนี้ฮองเฮาทรงตั้งครรภ์หลายเดือนแล้ว ฝ่าบาทย่อมต้องมีคนปรนนิบัติ”นางกำนัลผู
บทส่งท้าย ครอบครัวที่สมบูรณ์ (จบ) 1.1หลายเดือนต่อมา...พวกขุนนางเฒ่าเมื่อเห็นว่าฮองเฮายังไม่ทรงตั้งครรภ์เสียที จึงมีการส่งฎีกาเพื่อให้ฮ่องเต้รับสนมเข้าวังหลัง แต่ทว่าหยางเฟยหลงยังคงยืนยันเช่นเดิมว่า พระองค์จะไม่รับสตรีนางใดเข้ามา แล้วยังยกพระราชโองการของอดีตฮ่องเต้ขึ้นมากล่าวโต้แย้งอีกทั้งเขายังจัดการพวกที่เรียกร้องให้รับพระสนมอย่างเด็ดขาด จนคนพวกนั้นถูกริบทรัพย์สินเกือบหมดจวน จนทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาอีกส่วนทางด้านหนิงหว่านซู นางไม่ได้สนใจว่าตนเองนั้นจะตั้งครรภ์เมื่อใด นางเชื่อแค่ว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม โอรสหรือธิดาก็จะมาเองวันนี้หนิงฮูหยินเข้าวังมานั่งสนทนาและบ่นถึงบุตรชายคนโตที่ยังไม่ยอมแต่งงานสักที ทั้งที่อายุก็เยอะแล้ว“แม่เหนื่อยเหลือเกินกับพี่ชายของลูก ไม่ว่าแม่จะหาบุตรสาวจากตระกูลใดให้ เขาก็เอาแต่ส่ายหน้าตลอด แม่เองก็เริ่มเหนื่อยแล้วเช่นกัน หรือว่าสกุลหนิงของเราจะสิ้นสุดลงเพียงนี้เพราะไร้ทายาทสืบสกุล”หนิงฮูหยินกล่าวจบก็ถอนหายใจออกมา ตอนที่กุ้ยเฟยตายจากไป นางเองก็กินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่นาน แต่ยามนี้ก็ทำใจได้แล้ว ทว่าคราวนี้ต้องมากลุ้มใจกับบุตรชายที่ไม่ยอม







