LOGINยังไม่ทันฟ้าสว่างพ่อเลี้ยงหนุ่มจำใจต้องกัดฟันลุกไปอาบน้ำตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพื่อเร่งคัดแยกย้ายควายป่วย นัยน์ตาอ่อนล้ากวาดมองหอมบั่วกับลูกชุบ สุนัขโกลเด้นของเขากับเหนือฟ้าที่มักจะนอนหลับอยู่บนเบาะนอนปลายเตียง ทว่าพวกมันกลับไม่ได้นอนอยู่ตรงนั้น"ไปไหนหว่า" เขาพูดงึมงำขยี้ตาเบา ๆ คว้าผ้าขนหนูเดินผ่าความมืดออกมาจากห้องนอน ระหว่างนั้นเองกลับมีเสียงก่อกแก่กดังขึ้นมาจากด้านล่าง เขาจึงเงี่ยหูฟังพลันได้ยินเสียงของเด็กกำลังพูดคุยกันปลายขายาวก้าวทีละสองขั้นบันไดพยายามเดินย่องให้เบาที่สุด เพื่อตรงไปยังห้องครัวที่เปิดไฟสีขาวสว่างจ้า ภาคีรีบหลบข้างเสามืดที่สามารถเห็นลูกทั้งหกคนกำลังช่วยกันทำอาหารเช้า โดยมีบะแต๋งเป็นเชฟใหญ่นั่งคุมอยู่หัวโต๊ะ ส่วนนิ่มฟ้ากับน่านฟ้าคอยคุมพฤติกรรมแฝดสามขณะทำแซนด์วิชสารพัดไส้ รอบโต๊ะกินข้าวมีแก๊งสุนัขโกลเด้นนอนหมอบเฝ้าเจ้าของของมันด้วยความเรียบร้อย"ก๋องดอไฉ้ปะตูน่ะ" หมูยอม้วนขนมปังเป็นโรลตามตัวอย่างที่พี่ทำไว้ให้ดูเป็นต้นแบบ"ฉี่ไฉ้ปู๋อักจี๊ด" ของแป้งจี่เป็นไส้ปูอัดชีส"ยำยำ ยำแต๊ ๆ" น้ำเงี้ยวตักไส้แซนด์วิชใส่ปากตนเอง"น้ำเงี้ยว!" ทุกคนร้องห้ามน้องคนเล็ก"จ๋าววว" เด็กหญิ
หลังจากภาคีขอเติมพลังด้วยรสจูบของเหนือฟ้า เขาก็แต่งตัวเป็นหนุ่มชาวไร่ขับรถเอทีวีออกไปเพื่อไปช่วยลุงสำรวยแยกควายป่วยที่พักอาศัยอยู่ในแต่ละโซนเพื่อไม่ให้กลุ่มควายที่ป่วยไปปะปนกับสัตว์ที่ยังมีสุขภาพดีด้วยคำแนะแนวจากเจ้าหน้าที่ต้องการให้เขาแยกสัตว์ป่วยและเร่งทำวัคซีนป้องกันโรคให้กับควายอย่างเคร่งครัด ทว่าด้วยจำนวนของควายที่ไถ่ชีวิตมานั้นมีจำนวนมากเกินกว่าจำนวนวัคซีนที่ปศุสัตว์จังหวัดมี เขาจึงต้องรอเวลาให้เจ้าหน้าที่ประสานงานทีมสัตวแพทย์ลงมาฉีดวัคซีนลูก ๆ ควายของเขาทั้งหมดพ่อเลี้ยงหนุ่มตรากตรำก้มหน้าก้มตาต้อนควายเข้าคอกชั่วคราวที่จนกินเวลาถึงบ่ายโมง แล้วยังตระเวนขับรถตะลอนไปทั่วไร่เพื่อทำให้พื้นที่โดยรอบนั้นสะอาดและปราศจากเชื้อโรค รวมทั้งเตรียมกันอาณาเขตปลอดโรคให้เป็นสัดส่วน รวมทั้งเตรียมเสบียงน้ำและอาหารให้กับควายทั้งหมดด้วยความเหน็ดเหนื่อย จนเหงื่อโทรมกายใบหน้าและผิวเริ่มเกรียมแดด"ป้อเลี้ยงวันนี้พ่อแค่นี้ก่อนเถอะครับ ป้อเลี้ยงขับรถกลับมาเหนื่อย ๆ ไปพักก่อนเถอะ" ลุงสำรวยบอกระหว่างขนหญ้าสดและฟางแห้งวางไว้ให้ควายที่เริ่มมีอาการป่วย"ผมไม่เหนื่อยหรอกครับ อ้อแล้วไอ้อินกับพี่เดือนเพ็ญไปดูคว
ผ่านมาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่หม่อมเจ้าภูวสินได้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน แต่หมอเน้นย้ำว่าให้ระวังเรื่องการกินและการพักผ่อนให้มาก โชคดีที่วันนี้ร้านปลาเผาประกาศหยุดขายเป็นเวลาสิบวันเพื่อให้ลูกจ้างในร้านได้ใช้เวลาเฉลิมฉลองร่วมกับครอบครัวช่วงสิ้นปีราวเจ็ดโมงเช้าระหว่างที่ทุกคนนั่งล้อมวงกินข้าวดูข่าวเช้าด้วยกัน ซึ่งวันนี้เหนือฟ้าโชว์เสน่ห์ปลายจวักโดยมีผู้ช่วยเป็นบะแต๋ง นิ่มฟ้าและน่านฟ้า ส่วนสามแฝดนั้นกำลังถูกพ่อจับอาบน้ำแต่งตัว"ม้านิ่ง" หมูยอเดินพุงพลุ้ยเข้ามาหาปู่กับย่า "อุ้มมมม" เด็กชายอ้อนให้ปู่อุ้ม"มอร์นิ่งลูก" หม่อมเจ้าภูวสินอุ้มหลานชายขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้เด็กด้านข้างตัวเอง ส่วนภาคีจัดการอุ้มแป้งจี่และน้ำเงี้ยวนั่งบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งพี่เลี้ยงเด็กแต่ละคน"นิ่มฟ้าคะหนูยกอันนี้ไปวางที่โต๊ะสิลูก" เหนือฟ้าบอกให้ลูกสาวถือจานไข่เจียวดอกโสนจานใหญ่ไปวางที่โต๊ะ"รับทราบหนุนน้อย" นิ่มฟ้าประคองขอบจานอย่างระมัดระวัง ด้วยขนาดจานที่ค่อนข้างหนักบะแต๋งจึงเป็นฝ่ายแย่งจานจากมือน้องมาถือเอง"อ้ายแต๋งทำอะหยังเจ้า" เด็กหญิงทำหน้างงเพราะอยู่ดี ๆ พี่ชายก็พรวดพราดเข้ามาถือจานไข่"กั๋วว่าจะหนัก" พี่ห่วงน้องเ
เนื่องจากหมอยังไม่ให้หม่อมเจ้าภูวสินออกจากโรงพยาบาลเพราะอาการลมพิษของเขานั้นยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ไปอีกสี่ห้าวัน ลูกสมุนแฝดสามจึงติดสอยห้อยตามย่ามาดูแลปู่ด้วย เพราะภาคีต้องพาบะแต๋งไปสอบเข้ากว่าจะเสร็จก็เกือบห้าโมงเย็น ส่วนเหนือฟ้า นิ่มฟ้าและน่านฟ้าแวะไปเที่ยวบ้านของมาส เมื่อเสร็จธุระตกดึกทุกคนถึงจะมาค้างคืนที่โรงพยาบาลด้วย ดังนั้นที่ร้านปลาเผาพุงพุ้ยจึงไม่มีใครอยู่นอกจากลูกน้องของร้าน เจ๊ต่ายจึงโทรตามเชฟเตียวหุย ลูกชายคนเล็กมาคุมร้านแทนชั่วคราว"เด็ก ๆ อย่าเสียงดังนะลูกป้ออุ้ยกำลังพักผ่อน" ย่าต่ายกำชับ"ยับแสบ" หมูยอตะเบ๊ะแล้วสะพายกระเป๋าหัวควายของตัวเองเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่เชื่อมติดกับห้องพักผู้ป่วยส่วนแป้งจี่กับน้ำเงี้ยวช่วยกันถอดรองเท้ารูปหัวควายวางเรียงไว้ที่ชั้นอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย"แม่อุ๋ยฉี่นองตี้ไหนก๊ะ" แป้งจี่กังวลเรื่องนอนเป็นที่สุด"ก็นอนติดกับหมูยอไงลูก" ย่าต่ายบอก"ฉี่บ่นองขับดอ ดอซอบเทะฉี่" หนูน้อยม้าแหว่งไม่อยากโดนหมูยอเตะเหมือนอยู่ที่บ้าน"หมูยอนอนดิ้นขนาดนั้นเลยเหรอ""ดิ้งกะหนาด" เด็กหญิงยืนยัน"ดอซอบอู้กงเตียวโตย น่ากั๋วอึ๋ย" น้ำเงี้ยวขนลุก"แสดงว่าละเ
หม่อมเจ้าภูวสินต้องเข้าแอดมิทที่โรงพยาบาลด่วนเนื่องจากมีสภาวะลมพิษชนิดเฉียบพลัน ทำให้มีความดันต่ำ ปากและตาบวม รวมทั้งมีอาการปวดท้องร่วมด้วยหมอจึงให้นอนพักยาวเพื่อคอยอัปเดตอาการ"เบื้องต้นจากที่หมอตรวจดูอาการแล้วคนไข้แพ้สารเคมีทั้งที่ไม่มีประวัติแพ้อะไรมาก่อน แต่ด้วยอายุขนาดนี้แล้วภูมิต้านทานอาจจะต่ำลงเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกามันก็เลยไปกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ขึ้นมา ยังไงวันหลังก็อย่าสัมผัสหรือโดนเครื่องสำอางพวกนี้อีกนะครับ ญาติก็ช่วยระมัดระวังด้วย" แพทย์หนุ่มชี้แจงแล้วเดินออกไปจากห้องพัก"เหมาะฉี่ฉะยาวังจ๋าว" แป้งจี่พยักหน้ารับให้กับคุณหมอ"ยังไงคุณหมอตัวน้อยช่วยดูแลคุณปู่ให้ดีด้วยนะครับ" ฝ่ามือใหญ่ของหมอทาบบนหัวเล็ก"จ๋าวว" คุณหมอศัลมือฉมังขานรับ"งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ""ขอบคุณมากครับหมอ" ภาคีเดินไปส่งหน้าห้องขณะที่มาสกับนิ่มฟ้านั่งเงียบ ๆ อยู่ที่โซฟา ส่วนบอดี้การ์ดโก๋กับเฮงอยู่รอเจ้านายของตนที่ร้านกาแฟของโรงพยาบาล"ป้อขี้ฉี่ฉำอึ๊กปิดแล้ว ป้อขี้ฉะให้ฉี่ยะก๋านยะงานฉี่ก็พ้อมยุย" เด็กหญิงพูดด้วยแววตาขึงขังพร้อมทำงานทำการไถ่โทษ"สำนึกลูกบ่าใจ้สำอึ๊ก เอาเต๊อะป้อบ่ได้ว่าแต่คราวหน้าห
กว่าที่คนเป็นลมจะรู้สึกตัวบะแต๋งต้องนั่งแกว่งยาดมอยู่นานโดยมีแป้งจี่ หมูยอ น้ำเงี้ยวคอยมารุมล้อมช่วยกันนวดแขนนวดขาแม่"แต๊ะ ๆ อี่แม่ไปคอนฉะหวันแล้วก๊ะ" หมูยอคิดว่าแม่ไปเที่ยวนครสวรรค์"มีแต่เขาจะไปสวรรค์บ่าใจ้ไปจังหวัดนครสวรรค์ เฮ้อ" พี่ชายรู้สึกปวดหัวแล้วเหล่ตามองหาผู้ช่วยสักคน เด็กชายลุกไปสะกิดน่านฟ้าที่กำลังยืนล้างถาดหลุมข้าวของน้อง ๆ"ว่าไงอ้ายแต๋ง" น่านฟ้าหันไปถามขณะใช้ฟองน้ำถูจาน"ก็จะให้ไปดูอี่แม่แทนอ้าย เดี๋ยวอ้ายต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ" บะแต๋งฝากฝังน้องชาย"ได้ครับเดี๋ยวน่านดูให้เน้อ" น้องชายรับทราบจากนั้นไปนั่งแกว่งยาดมให้แม่ที่ยังนอนสลบหมดสติอยู่นิ่มฟ้าที่ตื่นคนสุดท้ายเพราะมัวแต่งตัวสวยรอคนสำคัญเดินหาทุกคนที่หายหัวกันไปหมด"กุ๊คนทำอะหยังกั๋นอยู่" เด็กหญิงฉงนที่น้อง ๆ กำลังนั่งปรนนิบัติแม่ที่นอนเหยียดขายาวอยู่บนโซฟา "หนุนน้อย!"ด้วยความเป็นห่วงแม่เธอจึงพุ่งเข้ามาดูมารดาสุดที่รักอย่างฉับไว"อี่แม่ต๋ายลืมเพราะจั๊กกิ้มของแป้งจี่ บ่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวก็คงตื่น เมื่อคืนเห็นว่าอดหลับอดนอนโตยให้อี่แม่นอนพักซะหน่อยก็ดีเหมือนกั๋น" น่านฟ้าเป็นฝ่ายชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้น"เฮ้อ บ่เป็นหยัง







