เหนือฟ้ารอให้คั่วกลิ้งเอาคีย์การ์ดห้องพักขึ้นมาให้แล้วตัดสินใจโทรไปสั่งอาหารเดลิเวรี่แทนที่จะลงไปหาข้าวที่ร้านสะดวกซื้อใต้โรงแรม หญิงสาวกดสั่งซูชิร้านโปรดที่ขายจนถึงห้าทุ่ม แล้วมานั่งกินคนเดียวที่บันไดหนีไฟ ขณะที่ภาคีเปิดประตูห้องพักออกมาเพื่อลงไปเช็กบูธที่ลูกน้องช่วยกันจัดว่าเป็นระเบียบดีหรือไม่
พลันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเจือยแจ้วดังมาจากทางบันไดหนีไฟ ซึ่งเสียงใส ๆ นี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเดินไปแอบฟัง
"กินข้าวแล้วใช่ไหมเหนือ" ราตรีกรอกเสียงกลับมาผ่านทางโทรศัพท์
"กินซูชิค่ะ"
"กินร้านนั้นมาสามปีแล้วนะ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนร้านมั่ง พี่เห็นจนจะเอียนแล้ว"
"ก็มันเป็นร้านโปรดพี่คีนี่นา"
ภาคีตวัดมองแผ่นหลังที่อยู่ในชุดเสื้อฮู้ดตัวหนาทันควัน เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนที่บอกเลิกกลับพยายามจะพูดและนึกถึงเขาอยู่ตลอด ทั้งที่ตัวเองเป็นคนตัดสายสัมพันธ์นั้นก่อนแท้ ๆ
"บอกเลิกเขาแล้วยังไม่รู้จักมูฟออน แล้วนี่ฮ้อนจะตายไป ทำไปถึงใส่ชุดกันหนาวแขนยาวตลอด"
เหนือฟ้ารีบตวัดหน้าไปดู แล้วเดินไปหาอีกฝ่ายที่ยืนพิงประตูบันไดหนีไฟอยู่ "เหนือไม่ได้ตั้งใจบอกเลิกนะคะ เหนือมีเหตุผล ส่วนเรื่องการแต่งตัวเหนือแค่อยากเปลี่ยนสไตล์นิดหน่อย"
"เหตุผลอะไร ไหนลองบอกมาสิ"
"คือ ตอนนั้นเหนือประสบอุบัติค่ะ ก็เลยไม่อยากให้พี่คีเป็นกังวล เหนือแค่กลัวว่าพี่คี..."
"พอเหอะหยุดชักแม่น้ำทั้งห้าซะที"
"พี่คีไม่เชื่อเหนือเหรอคะ" เหนือฟ้าเองก็อยากพูดตรง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาจะยอมเชื่อไหม อีกอย่างเธอเองก็ไม่พร้อมจะให้รับรู้เรื่องเลวร้ายแบบนั้น เธอไม่ค่อยอยากจะขุดคุ้ยมันขึ้นมาอีก นึกถึงทีไรก็กลัวจนตัวสั่นไปหมด
"เงียบทำไม แน่จริงก็อธิบายต่อสิ" เขาท้า
"เหนือยังไม่พร้อมจะบอกเรื่องนี้ แต่เหนือพร้อมจะจีบพี่คีใหม่อีกรอบ เหนือจีบพี่คีได้ไหมคะ"
ภาคีขมวดคิ้วดวงตาเขม็งมองดวงหน้าจิ้มลิ้ม "ไปต่อแถวเอาแล้วกัน"
เขาบอกแล้วเดินตัวปลิวตรงไปที่ลิฟต์ แต่เหนือฟ้าวิ่งตามไปด้วย แล้วรีบแทรกตัวเข้าไปยืนอยู่ข้างเขา
"จะตามมาทำไม น่ารำคาญ"
"พี่คีกินซูชิไหมคะ เดี๋ยวเหนือป้อน"
ภาคีไม่ตอบพอลิฟต์เปิดออกเขาก็เดินเข้าไปในฮอลล์จัดงานเพื่อตรวจความเรียบร้อยของบูธ ขณะที่เหนือฟ้าก็ยังคงตามตื๊อไม่หยุด ถ้ามีโอกาสจะสามสัมพันธ์กับเขาใหม่ เธอก็ทวงคืนเขากลับมาเป็นของตนเองให้ได้ แม้จะต้องช่วงชิงกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ก็ตาม
หนุ่มผมหยักศกตรวจดูบูธของตนเองเสร็จสรรพ จากนั้นเดินไปหาของกินรอบดึกที่ร้านสะดวกซื้อเหนือฟ้าจึงตามเข้าไปด้วย ภาคีเลือกซื้อนมกับขนมและของกินมากมายใส่ตะกร้า และของที่เขาหยิบล้วนแต่เป็นของที่เหนือฟ้าชอบทั้งนั้น ขณะจ่ายเงิน ปูเป้ผู้หญิงที่เขากำลังดูใจไปเรื่อยเปื่อยกลับเดินมาซื้อของกินไปตุนในห้องเช่นกัน
"อ้าวคี ยังไม่นอนอีกเหรอคะ มาหาของกินเหรอ"
"ครับ คุณล่ะ"
"มาซื้อของไปกินเล่นเหมือนกันค่ะ วันนี้นอนไม่ค่อยหลับเลย สงสัยเป้จะตื่นเต้นที่ได้มาทำงานอยู่ใกล้ ๆ แฟน"
หัวใจของเหนือฟ้าถึงกับแตกสลาย เมื่อได้รับรู้ว่าพิธีกรสาวคนดังที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมกำลังคบหากับอดีตคนรักของเธอ ดวงตากลมเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา สาวพลัซไซซ์ใจเสียรีบวิ่งออกไปหน้าร้านสะดวกซื้อจนสะดุดขาล้มลงกับพื้น กล่องซูชิที่หิ้วติดมาด้วยเทกระจาดหกกระจัดกระจาย
ลูกค้าทุกคนในร้านตวัดไปมองสาวผู้โชคร้าย ภาคีกัดฟันแน่นข่มใจไม่ให้ตัวเองเดินไปพยุงเหนือฟ้าขึ้นมา
"เฮ้ย พี่เหนือ" โชคดีที่คั่วกลิ้งลูกน้องหนุ่มคนสนิทเดินผ่านมาพอดี จึงช่วยประคองเหนือฟ้าขึ้นมาจากพื้นคอนกรีต
"ขอบใจนะ พี่ไม่เป็นไร พี่ขอตัวก่อน พรุ่งนี้นายอย่าตื่นสายล่ะ" บอกแล้วรีบร้อนพาตัวเองกลับออกมาจากสายตานับสิบคู่ที่กำลังจ้องมอง
เหนือฟ้ากลับมาอาบน้ำสระผมเอนตัวพิงกำแพงปล่อยโฮเสียงดังลั่นห้องน้ำ เพราะเสียงร้องไห้ของเธอกลบเสียงเคาะเรียกด้านนอก
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ภาคียืนเคาะประตูอยู่นาน แต่คนด้านในยังคงเงียบอยู่ เขายืนพิงประตูอยู่แบบนั้นพยายามสงบสติอารมณ์แล้วใช้เหตุผลคุยกับเหนือฟ้า
เหนือฟ้าเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำในทั้งที่ตัวเองยังอยู่ในสภาพนุ่งผ้าขนหนูผืนสั้น ผมเพ้าเปียกโชก ดวงตาแดงก่ำทรุดตัวลงกับเตียงนอน สะอื้นเสียงดังอีกครั้ง โดยไม่รู้ว่าภาคียังยืนพิงประตูอยู่ข้างนอก
ก๊อก! ก๊อก!
คราวนี้เขาไม่ลังเลรีบทุบประตูห้องเรียกคนข้างในด้วยความกังวล ขณะที่คนที่กำลังฟูมฟายรีบร้อนหาเสื้อคลุมอาบน้ำมาคลุมทับด้วยเร่งรีบ แล้วเดินไปส่องตาแมวข้างนอก เมื่อเห็นว่าใบหน้าคมขาวที่คุ้นเคยกำลังยืนรออยู่หน้าห้อง จึงไม่ลังเลที่จะเปิดประตูออกไป
"พี่คี"
ภาคีกวาดตามองดวงตาบวมช้ำ และปลายจมูกที่กลายเป็นสีชมพู "ร้องไห้ทำไม"
"ก็เหนือหกล้มก็เลยเจ็บ พี่คีปลอบเหนือหน่อยสิ"
"สลิดหยั่งวอก" เขาสบถแล้วส่งถุงของกินที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อให้เธอ
เหนือฟ้าหลุบตาลงมองพื้น รู้สึกเจ็บจี๊ดกับคำด่าของอดีตคนรัก ตอนนี้เธอก็ดัดจริตอย่างที่เขาว่าเป็นภาษาเหนือจริง ๆ
"ซื้อมาขุนเหนือเหรอคะ ขอบคุณมากเลยค่ะ"
"ไม่ได้ขุน ก็แค่ซื้อมาฝาก"
"แล้วยะหยังอ้ายถึงซื้อมาฝากน้อง" เหนือฟ้ารับถุงขนมมาแล้ววางลงกับพื้น คว้ามือภาคีมาจับ แต่เขากลับสะบัดทิ้ง
"ซื้อมาให้ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่จัดงาน ก็แค่แสดงน้ำใจเล็ก ๆ น้อย อ้ายไม่เหมือนใครบางคนที่นิสัยใจจืดใจดำ" เขายังคงแดกดันประชดประชันจนถึงวินาทีสุดท้าย
คราวนี้เหนือฟ้ากระชากแขนภาคีแล้วดึงเข้ามาในห้อง ปิดประตูเสร็จสรรพ "จะทำอะไร"
"นอนกับเหนือ มีอะไรกับเหนือ กล้าไหม"
"บ้าไปแล้วรึไง" ภาคีก้าวขาหนี แต่เหนือฟ้าเดินไปดักหน้า กางแขนสองข้างออกไม่ยอมให้เขาจากไปทั้งที่ยังเคลียร์ไม่จบ
"ใช่ เหนือมันบ้า รึว่าพี่คีจะเอาเท่าไหร่ก็ว่ามา เหนือจะซื้อพี่คี จะเอาคืนละห้าพัน หรือว่าคืนละหนึ่งหมื่น"
ภาคีกัดกรามแน่นแล้วผลักหัวไหล่เหนือฟ้าไปชนกับผนังห้องอย่างหัวเสีย "มีสักห้าแสนไหมล่ะ ถ้ามีเดี๋ยวจะจัดให้ขาสั่น จะเอาจนถุงยางหมดกล่อง"
"ระดับเหนือไม่ใส่ถุงยางหรอกค่ะ เหนือชอบสด" เหนือฟ้าไม่ยอม เขาแรงมาเธอก็แรงกลับให้รู้ซะบ้างว่าสามปีมานี้เธอเข้มแข็งขึ้นมากแค่ไหน
*สลิดหยั่งวอก = ดัดจริต *ฮ้อน = ร้อน
ปิดเทอมหน้าร้อนเทอมสุดท้ายบะแต๋งจะเรียนจบประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 ส่วนนิ่มฟ้าและน่านฟ้าจะขึ้นปอ.2 ครอบครัวคนเลี้ยงควายจึงคุยกันว่าจะไปเยี่ยมเยียนครอบครัวมหาจันทร์ของปินปินและพบปะสังสรรค์สักหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ภาคีจอดรถจี๊ปในอาณาจักรอัญฎรญามีอันยิ่งใหญ่ที่มีเทวสถานพระศิวะขนาดความสูง 35 เมตร นิ่มฟ้าที่กำลังนั่งมองวิวทิวทัศน์สังเกตเห็นว่ารอบบริเวณเทวาลัยถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้พลันนั้นเด็กหญิงกลับสะดุดตาเข้ากับไม้ยืนต้นสูงที่มีลักษณะใบคล้ายกับต้นมณฑารพที่เทพมาสมักจะนัดพบเจอเธอที่นั่น เพียงแต่ดอกไม้ตนนั้นมีขนาดสูงใหญ่กว่าและผลิดอกสีเหลืองนวลเต็มต้น"พี่คีพี่เหนือเชิญทางนี้ค่ะ" แซมมี่ในชุดสาหรี่แต้มผงกุมสีแดงกลางหน้าผากเดินออกมาพร้อมกับมะแป่มตัวน้อยที่ตอนนี้ขึ้นอนุบาลสองเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่มะแป่มเห็นน่านฟ้า หนูน้อยก็ทำตัวอ่อนเดินเซไปหาคนพี่"ปี้น่านขา" มะแป่มคว้าหมับที่แขนของเด็กชายจนผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้งสองต่างพากันหัวเราะขบขัน"เอ่อ...เป๋นหยังครับ" น่านฟ้าขานรับแต่กลับยืนตัวเกร็งหน้าแดงซ่าน"อุ๊ย..." มะแป่มทำท่าสะดุดขาแล้วรีบสวมกอดเอวพี่พลางเอาหน้าซบแผ่นอก"เกินไปแล้วจ้ะแม่ลูกสาว" แ
ภายในอ่างอาบน้ำทรงกลมที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องน้ำ มีร่างตุ้ยนุ้ยสองแม่ลูกกำลังแช่น้ำนมอุ่น ๆ ที่ภาคีเป็นคนเตรียมให้ ระหว่างที่เหนือฟ้ากำลังหยิบฟองน้ำเตรียมยกขึ้นมาขัดแผ่นหลังให้ลูกสาว พลันนั้นบาดแผลที่มีร่องรอยของการถูกกัดก็ปรากฏอยู่บนหัวไหล่เล็ก นัยน์ตาของเธอสั่นระริกวูบไหวอย่างฉับพลัน หัวใจของคนเป็นแม่แทบแหลกสลายในทันที เมื่อเห็นว่าลูกสาวยังมีบาดแผลภายในร่มผ้าที่เธอหรือหมอก็ไม่เคยรับรู้มาก่อน"นิ่มฟ้าคะ หนู หนูเจ็บไหมลูก" ฟองน้ำรูปสัปปะรดหลุดลอยจากฝ่ามือไหลผ่านไปยังเบื้องหน้าของเด็กหญิงที่กำลังนั่งหันหลัง นิ่มฟ้าย่นคิ้วชิดกันแล้วรีบหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น"เป็นอะหยังก๊ะหนุนน้อย" มือเล็กยื่นไปจับแก้มขาวอมชมพูของแม่ ผิวพรรณของแม่ทำให้เธอรู้สึกหลงรัก"หัวไหล่หนูไงคะ โดนยัยเด็กกระถินนั่นกัดมาเหรอ ทำไมหนูไม่บอกแม่ว่ามีแผลตรงนี้ด้วย"เจ้าของบาดแผลกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว แต่แม่ของเธอกลับน้ำตาไหลอาบนองหน้า "เจ้า นิ่งโดนขบมาแต่นิ่งบ่เจ๋บแล้ว อี่แม่บ่ต้องร้อง เดี๋ยวนิ่งร้องตามเน้อ"เด็กหญิงโผเข้าซุกอกของแม่ที่ล้นหลามเหนือผิวน้ำ เหนือฟ้าสวมกอดกลับจูบซับศีระษะเล็ก ๆ ซ้ำ ๆ ไม่รู้เบื่อเส
นิ่มฟ้าแสดงสีหน้าและแววตาโกรธสุดขีด เด็กหญิงตอบโต้กลับไปหาอีกฝ่ายด้วยความขุ่นเคือง กำหมัดสองข้างแน่นพยายามนึกถึงหน้าครอบครัวที่เธอรัก นึกถึงเทวดาคนโปรด"กรี๊ดด ติ๋นไม่ได้โง่นะ ไม่ได้โง่" กระถินกระทืบเท้าปึ้กปั้กแล้วพุ่งเข้ามากระชากศีระษะของนิ่มฟ้าและใช้กรงเล็บครูดข่วนใบหน้าของเธอไปทั่วโดยมีเพื่อน ๆ พยายามช่วยกันดึงตัวกระถินสายวีนออกจากการทึ้งหัวของหัวหน้าห้อง"ปล่อยเปิ้นเน้อ ปล่อยสิ" นิ่มฟ้าพยายามแกะมือเหนียวของกระถินออก พอเห็นว่าไม่เป็นผลเธอจึงใช้แรงทั้งหมดเหวี่ยงตัวของเด็กหญิงที่ตัวเล็กกว่าจนเหวี่ยงไปกระแทกกับพื้น"โอ้ย ยัยหัวหน้าเผ่าฟาย" กระถินโกรธหน้าดำหน้าแดง"บ่าใจ้ฟายตำมะดาโตย แต่เป๋นฟายเจ๋ดทัวย่ะ" เด็กหญิงเถียงกลับแล้วรีบจัดทรงผมให้เข้าที่ เตรียมที่จะเดินหนียัยกระถินปากจัดที่พูดจาไม่รู้เรื่อง"ไม่ให้ปายยย" กระถินวิ่งกลับเข้ามากระโดดตะครุบกลางหลังนิ่มฟ้า เนื่องจากเธอตัวเล็กกว่าทำให้ปีนขึ้นไปอยู่หลังเด็กหญิงหุ่นจ้ำม่ำได้ง่ายขึ้นงั่บ!"โอ๊ยยย" นิ่มฟ้าร้องเพราะถูกคมเขี้ยวของกระถินงับลงมาบนหัวไหล่ แม้จะมีเนื้อผ้าของชุดนักเรียนขวางกั้นแต่ฟันคม ๆ ก็กัดจมลงมาจนเด็กหญิงถึงกับน้ำตาเล็ด
หลังจากกลับจากโรงพยาบาลภาคีอาสาดูแลหมูยอแทนเหนือฟ้า ระหว่างนั้นเขาจึงปรึกษากับภรรยาเรื่องลูกสาวเพราะเกรงว่าอาจมีการกลั่นแกล้งและบูลลี่กันที่โรงเรียนโดยที่เขาและเธอไม่เคยรับรู้มาก่อน"เหนือว่าเราควรไปสอบถามคุณครูโดยตรงเลยดีไหม พี่ไม่ค่อยสบายใจเลย" เขาบ่นพึมพำท่ามกลางไฟสีส้มที่ส่องจากโคมรูปเห็ด ขณะที่ตนเองกำลังนอนตะแคงตบ ๆ ก้นให้หมูยอที่เพิ่งจะนอนหลับสนิท เนื่องจากหนูน้อยรู้สึกกระสับกระส่ายไม่สบายท้อง แค้พอได้รับประทานยากับเกลือแร่เข้าไปอาการท้องเสียของเจ้าตัวเล็กก็ดูทุเลาลงสาวอวบที่เพิ่งอาบน้ำและไดร์ผมเสร็จก้าวขาเข้ามาในคอกกั้น วันนี้เธอกับสามีตัดสินใจนอนที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดูแลหมูยอ"ดีค่ะ เพราะสมัยที่เหนือโดนเพื่อนแกล้งและถูกล้อเลียนเรื่องรูปร่างเหนือก็มีความรู้สึกเดียวกับลูก เหนือไม่เข้าใจเลยว่าตอนนั้นทำอะไรผิดเพื่อน ๆ ถึงไม่อยากคบเหนือ ตอนนั้นคนเดียวที่ให้คำปรึกษาได้คือพี่ไนท์ค่ะ แต่ตอนนี้เราคือครอบครัว เราทุกคนจะช่วยกันให้คำปรึกษานิ่มฟ้า เหนือจะไม่ปล่อยให้ลูกเผชิญความเจ็บปวดคนเดียวเด็ดขาด" หญิงสาวเล่าเท้าความในอดีตที่เจ็บช้ำ คำพูดถากถากทับถมของเพื่อน ๆ กลายเป็นปมในใจของเธอที่อยาก
ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงนาฬิกาปลุกข้างหัวเตียงดังขึ้นทำให้พ่อครัวใหญ่รีบดีดตัวขึ้นมาคว้าผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาชะล้างร่างกายเพียงสิบห้านาทีจึงรีบวิ่งซอยเท้าลงไปแล้วเริ่มปรุงอาหารด้วยความรักก่อนที่ลูกและภรรยาจะตื่นนอน"ป้อขี้!""เฮ่ย" หัวมันฝรั่งในมือเขาร่วงตุ้บลงกระแทกพื้น นิ่มฟ้าที่อยู่ชุดเสื้อคอกระเช้าเด็กประแปรงหน้าขาววอกสะกิดเรียกเขาท่ามกลางความมืดสลัวของห้องครัวในเวลาตีห้า"นิ่งบ่าใจ้ปี๋เน้อ ป้อต๋กใจนิ่งก๊ะ" นิ่มฟ้าลากเก้าอี้แล้วก้าวขึ้นไปยืนข้างพ่อชะโงกดูวัถตถุดิบที่พ่อเตรียมทำมื้อเช้า "ป้อทำก้าวผัดแฮ่มก๊ะ"เด็กหญิงสังเกตเห็นว่ามีเครื่องเคียงเป็นผัก หมูสับ และแฮมอีกอย่างพ่อก็วางกระทะตั้งไว้กับเตาแก๊สจึงมั่นใจว่าพ่อกำลังจะทำข้าวผัดแฮม"ฉลาดนะเนี่ยเรา ถูกต้องครับป้อกำลังทำข้าวผัดแฮมแล้วก็มีน้ำซุปมันฝรั่งซดแก้ฝืดคอ" เขาว่าแล้ววางหัวมันลง"โอ้โหดีเลยนิ่งกำลังอยากกิ๋น" นิ่มฟ้าคว้าหัวมันฝรั่งที่พ่อวางไว้บนเขียงมาถือแล้วหาที่ปอกเปลือกมัน"นี่ครับ" ผู้เป็นพ่อหยิบที่ปอกให้ลูกสาว มือเล็กรับไว้แล้วเริ่มปอกมันฝรั่งอย่าทะมัดทะแมง"ค่อย ๆ ปอกนะครับ แล้วนี่หนูตื่นมาทำอะไรแต่เช้า วันนี้วันเสาร์ไม่
โรงพยาบาลทั้งครอบครัวเดินทางมาให้กำลังใจภาคีในวันที่มีผ่าตัดทำหมันกับหมอที่โรงพยาบาล หลังจากที่เขาตัดสินใจจะหยุดการสืบพันธ์ุนี้เพราะเกรงว่าภรรยาจะเผลอท้องขึ้นมาอีกในอนาคต และเพื่อแสดงตนว่าเขาจริงใจที่จะเสียสละเพื่อเธอดังนั้นวิธีการนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพราะเขาอยากให้เหนือฟ้ารู้ว่าทายาททั้งหกคนของเขาจะเป็นของเธอตลอดไป และจะมีใครมีโอกาสแย่งชิงเขาไปจากเธอ"ปี้ปี้" หมูยอเดินเลาะไปมาเกาะแข้งเกาะขาพวกพี่ ๆ ขณะที่แป้งจี่นอนหลับอยู่บนตักแม่ ส่วนน้ำเงี้ยวนั้นนอนแผ่ยาวหนุนตักน่านฟ้าและนิ่มฟ้าเสมือนว่าพี่สาวพี่ชายเป็นเตียงนอนส่วนตัว"หมูยอคะมานั่งเฉย ๆ สิลูก" เหนือฟ้าอุ้มลูกชายสายปราดเปรียวที่ไม่ยอมหลับยอมนอน เอาแต่ปีนป่ายโซฟาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย"หม่ำ ๆ" หมูยอเริ่มเดินเหนื่อยหนูน้อยหยิบขวดนมในกระเป๋าสัมภาระเด็กที่วางอยู่บนเก้าอี้ แล้วเปิดฝาขวดนมบริการตัวเอง"อะหยังป้อต้องตัดหำโตยก๊ะ" น่านฟ้าสงสัยตั้งแต่พ่อบอกว่ามีนัดตัดสิ่งที่อยู่ใต้หว่างขา เด็กชายก็มีคำถามกับเธออยู่ตลอด"ป้อตัดเพื่อคุมกำเนิดพวกเราจะได้มีกันแค่หกคนไงคะ ไม่ดีเหรอหรือหนูอยากมีน้องเพิ่ม" เหนือฟ้าหันไปอธิบายกับลูกชาย"อึ๋ย