Share

บทที่ 6

แม่ทัพไร้พ่ายเร่งฝีเท้าเดินจ้ำอ้าวด้วยความเร็วหลังจากที่สลัดเสนาบดีฝ่ายซ้ายออกไปให้พ้นทางตนได้ ถึงแม้จะข่มขู่ให้อีกฝ่ายหยุดความคิดเช่นนั้นไปแล้ว ทว่าใบหน้าคมเข้มของแม่ทัพยังคงมีริ้วรอยแห่งความกังวลใจแฝงอยู่ไม่น้อย เพราะเขาไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด หากอีกฝ่ายไม่เกรงกลัวคำขู่เช่นหมูไม่เกรงน้ำร้อน คิดหาหนทางใช้ความดีความชอบขอให้ฮ่องเต้มีราชโองการขึ้นมา ฮวาเอ๋อร์บุตรสาวสุดที่รักของเขาคงมิแคล้วต้องถูกบีบให้ยอมจำนนหมั้นหมายกับไอ้เด็กน้อยตระกูลฉีเป็นแน่แท้ อย่างไรเสียฉีหลิงเฟยเจ้าเสนาบดีเฒ่าคงไม่มีทางยอมถอยหลังกับอีแค่เจอคำขู่ลอยๆ พวกนั้นเป็นแน่

‘เอ... หรือว่าข้าจะทำให้เจ้าเด็กเยว่จินนั่นพิการดีนะ อือ... ไม่ได้ๆ เกิดอวี้หลางบ้าจี้สงสารมัน แล้วมีราชโองการให้ฮวาเอ๋อร์ของข้าแต่งเข้าตระกูลฉี ลูกสาวข้ามิต้องกลายเป็นเมียคนพิการหรอกหรือ’

ท่านแม่ทัพผู้ออกอาการหวงบุตรสาวครุ่นคิด ก่อนจะเผยรอยยิ้มยินดีออกมาเมื่อคิดหาทางออกได้

‘ใช่แล้ว จะไปยากอะไรเล่า หากทำให้พิการแล้วเป็นปัญหา ถ้าอย่างนั้นก็เชือดทิ้งไปเสียเลยสิ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว งั้นก็รอเก็บรวดเดียวเลย ตระกูลไหนกล้ามาทาบทามลูกสาวข้า ข้าจะเก็บพวกมันรวดเดียวเลย’

“ใช่ ต้องแบบนี้แหละ ฮ่าๆๆ ดูสิว่าคราวนี้ยังจะมีไอ้หน้าโง่คนไหนกล้าเสนอลูกชายตัวเองมาให้ฮวาเอ๋อร์ของข้าอีก”

แม่ทัพไร้พ่ายส่งเสียงหัวเราะร่วน เดินกระหยิ่มยิ้มย่องลำพองไปทางรถม้าที่จอดรออยู่ด้วยความสบายใจที่ตัวเองสามารถคิดหาหนทางออกได้

“ฮัดเช้ย!”

บุรุษในชุดมังกรพลันจามติดๆ กัน มือเรียวยกขึ้นลูบปลายจมูกโด่งได้รูปพลางตรัสกับตัวเองด้วยสุรเสียงงุนงง

“เอ... แปลกนัก น้ำมูกหรือก็ไม่มี แต่ทำไมจามได้ขนาดนี้”

หลิวกงกงขันทีประจำพระองค์ก้าวเข้ามา ก่อนส่งถ้วยน้ำขิงที่มีควันลอยหอมกรุ่นให้ “ฝ่าบาท ทรงเสวยน้ำขิงร้อนๆ ก่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ ที่เป็นเช่นนี้อาจเพราะทรงหักโหมงานหนักจนเกินพระวรกาย”

ฮ่องเต้หนุ่มรับถ้วยมายกซดเฮือกใหญ่ ก่อนจะส่งกลับคืนให้อีกฝ่าย แล้วนั่งครุ่นคิดในใจต่อ พระองค์กำลังหมายมั่นปั้นมือจะจับบุตรสาวของสหายรักมาหมั้นหมายกับองค์ชายน้อยของพระองค์อยู่

‘เจ้าสาม เจ้าห้า หรือว่าเจ้าแปดดีนะ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม หมิงหลง ลูกสาวเจ้าจะต้องเป็นชายาของคนที่จะขึ้นเป็นรัชทายาทข้า’

อวี้หลางฮ่องเต้คิดสรุปในใจเงียบๆ พระพักตร์งดงามราวกับสตรีมีรอยยิ้มยินดีระบายทั่ว ยามคิดถึงตอนที่สหายรักได้รับรู้สิ่งที่พระองค์จะทำ

‘นี่ถ้าหมิงหลงรู้ว่าข้ายกย่องบุตรสาวเขาถึงขนาดนี้ละก็ คงจะดีใจไม่น้อยทีเดียว’ ฮ่องเต้คิดพลางหัวเราะด้วยความปีติ

อนิจจา! หากพระองค์มีญาณทิพย์สามารถล่วงรู้ได้ว่าสหายรักที่กำลังคิดพระราชทานโอรสของตนเพื่อให้เป็นว่าที่ลูกเขยของอีกฝ่าย ในยามนี้นั้นคิดวางแผนที่จะกำจัดบรรดาเด็กชายทั้งหลายแหล่ที่จะนำมาเสนอให้แก่บุตรสาวของตนอยู่ คาดว่าพระองค์คงเลิกล้มความคิดนี้แทบไม่ทันแน่ๆ

“แม่ทัพจ้าวๆ ท่านกำลังจะกลับจวนหรือ”

เสียงเล็กร้องถามจากด้านหลัง เจ้าของเสียงนั้นเป็นเด็กชายในชุดแต่งกายสีสันสดใส ใบหน้าจิ้มลิ้มราวกับเด็กผู้หญิงมีเค้าโครงของอวี้หลางฮ่องเต้อยู่มิน้อย

“ใช่พ่ะย่ะค่ะ องค์ชายแปดทรงมีธุระอะไรกับกระหม่อมหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่มีหรอก ข้าเพียงแค่รู้สึกเบื่อและเหงา ในวังก็ไม่มีอะไรให้เล่นสนุกเลย”

องค์ชายแปดอวี้เยี่ยนบ่นลอยๆ ให้คนตรงหน้าฟัง ก่อนจะยกยิ้มมุมปากแสร้งก้มหน้าถามเสียงเศร้า ทว่าดวงตานั้นฉายแววเจ้าเล่ห์อย่างที่เด็กวัยนี้ไม่ควรมี

“ดังนั้นข้าเลยอยากขอไปเที่ยวเล่นที่จวนของท่าน ท่านแม่ทัพให้ข้าไปด้วยได้หรือไม่”

จ้าวหมิงหลงที่เมื่อครู่อดนึกสงสารองค์ชายน้อยไม่ได้พลันรู้สึกตัวสะดุ้งเฮือก การจะพาไปนั้นหาใช่เรื่องยาก ทว่าร้อยวันพันปีมิเคยเห็นว่าอีกฝ่ายจะมีท่าทีสนใจไปจวนเขาสักนิดนี่นา

ดวงตาคมหรี่มองใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มอย่างสำรวจ ก่อนจะสรุปกับตนเองอย่างมั่นใจว่าองค์ชายตัวน้อยพระองค์นี้ น่าจะมีเป้าหมายอยู่ที่บุตรสาวสุดที่รักของเขาอย่างแน่นอน

‘ฝันไปเถิดเจ้าเด็กน้อย ถึงเจ้าจะเป็นโอรสแห่งฮ่องเต้สหายข้าก็ตาม แล้วอย่างไรเล่า อย่าหวังเลยว่าจะได้ลูกข้าไปครอง’

“ขออภัยด้วยจริงๆ พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย กระหม่อมก็อยากให้พระองค์ไปด้วย เพียงแต่ยามนี้บุตรสาวกระหม่อมกำลังป่วยเป็นโรคร้ายแรงอยู่ หากให้พระองค์เสด็จตามไปด้วยละก็ เกรงว่าอาจจะทรงติดโรคจากบุตรสาวกระหม่อมได้”

แม่ทัพหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงเบาหวิว ใบหน้าซีดขาวราวกับไร้สีเลือด อวี้เยี่ยนได้ยินดังนั้นก็รีบถอยร่างหนีห่าง ดวงตาหงส์คู่เล็กจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเกรงๆ

“บุตรสาวของท่าน นางเป็นโรคติดต่ออย่างนั้นหรือ”

หมิงหลงซ่อนยิ้มผงกศีรษะรับคำโดยทันที

‘ฮึ เจ้าเด็กน้อย คิดหรือจะสู้เล่ห์เหลี่ยมกับผู้ใหญ่ได้ เจ้ามารยามาข้าก็มารยากลับ ไม่โกงกันอยู่แล้ว ไม่มีข้อห้ามใดห้ามไม่ให้ผู้ใหญ่มารยานี่นา’

“บุตรสาวของกระหม่อม นางป่วยเป็นโรคที่สามารถติดต่อกันทางผิวหนังพ่ะย่ะค่ะ โดยอาการที่เป็นจะมีตุ่มน้ำหนองขึ้นตามผิวกาย ถ้าตุ่มไหนขึ้นมานานแล้วก็จะแตก เวลาแตกผิวหนังนางจะแยกออกจนเห็นเนื้อด้านในเน่าเฟะ น้ำหนองจะไหลเยิ้มออกมา ที่สำคัญคือ หากสัมผัสถูกตัวก็จะติดโรคเช่นเดียวกับนางไปด้วย ยามนี้กระหม่อมต้องส่งสาวใช้ที่คอยดูแลนางกลับบ้านไปถึงสามคนแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

แม่ทัพหนุ่มสาธยายพลางลอบสังเกตสีหน้าเด็กน้อยคู่สนทนา เมื่อเห็นว่าองค์ชายแปดแสดงท่าทีรังเกียจหวาดเกรงในตัวเขา มือใหญ่จึงยื่นมาข้างหน้าคล้ายจะจับต้องถูกเนื้อตัวอีกฝ่าย

อวี้เยี่ยนผงะร่างก้าวถอยหลัง หลีกหนีมือใหญ่ตรงหน้าอย่างหวาดกลัว ใบหน้าจิ้มลิ้มราวกับเด็กหญิงนั้นบิดเบี้ยวนิดๆ แววตาฉายความรังเกียจให้เห็นอย่างไม่อาจปิดบัง ก่อนจะหมุนกายหันหลังวิ่งหนีจากไปโดยไม่คิดร่ำลา

ถึงแม้ว่าพระมารดาจะสั่งให้เขาตีสนิทและหาทางเป็นลูกเขยแม่ทัพจ้าวก็เถอะ แต่แบบนี้ไม่ไหวนะ เขายังไม่อยากติดโรคไปด้วยนี่นา

‘เสด็จแม่... มันไม่ใช่ แบบนี้ลูกไม่ไหวจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ’

จ้าวหมิงหลงมองตามหลังร่างเล็กที่วิ่งหนีไปจนลับตา ก่อนจะเผยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมขณะมองตามไป เจ้าเด็กนี่อายุเพียงเท่านี้ในใจคิดเริ่มวางแผนการแล้วหรือ

‘เห็นแก่หน้าบิดาของเจ้า ข้าจะไม่ทำให้เจ้าเจ็บตัว แต่ถ้ามีคราวหน้าจะเล่นงานเจ้าที่ใจแทน’

“กลับ!” สิ้นเสียงคำสั่ง รถม้าคันใหญ่ก็เคลื่อนไหวมุ่งหน้าสู่จวนไร้พ่ายทันที

เมื่อลับร่างทุกคนไปแล้วพลันปรากฏร่างเด็กหนุ่มสองคนวัยไล่เลี่ยกัน ทั้งคู่ก้าวออกมาจากพุ่มไม้ทางด้านหนึ่ง

“น้องห้า เจ้าว่าท่านแม่ทัพน่าสงสารหรือไม่”

เด็กหนุ่มคนโตกว่าหันไปถามผู้มีศักดิ์เป็นน้อง พลางเหม่อมองตามหลังรถม้าของแม่ทัพไร้พ่าย ทั้งสองคือองค์ชายสามอวี้เจี้ยนกับองค์ชายห้าอวี้เหลียนนั่นเอง

อวี้เหลียนหันไปมองตามพี่ชายทางทิศที่แม่ทัพจากไป นัยน์ตาสีดำเป็นประกายทอแสงวูบหนึ่ง เขามั่นใจว่าคำพูดประโยคเมื่อสักครู่นี้ของแม่ทัพจ้าวโกหกแน่นอน ทว่าองค์ชายห้าผู้ฉลาดเฉลียวทรงยึดถือในคติประจำใจของตนเอง นั่นคือ...

‘ไม่คิดยุ่งเรื่องของผู้อื่น’

ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะตอบออกไปไม่ตรงคำถามเท่าใดนัก “หากเป็นดั่งคำที่ท่านแม่ทัพเอ่ยมา ข้าว่าเขาก็น่าสงสารอยู่”

ใช่... ถ้าเป็นความจริงก็น่าสงสาร แต่ในเมื่อโกหกย่อมไม่น่าสงสารอันใด

อวี้เจี้ยนมองตามสายตาน้องชายแล้วถอนหายใจเบาๆ เอาเถิด ท่านแม่ทัพเองก็รบกับข้าศึกเพื่อปกป้องบ้านเมืองมาอย่างยากลำบาก สร้างความดีความชอบมาก็มิใช่น้อยๆ

‘ในอนาคตหากแม้บุตรีของท่านสามารถมีชีวิตรอด ไม่มีผู้ใดมาสู่ขอนางเป็นภรรยา ข้าจะรับนางมาเป็นชายาให้เอง’ อวี้เจี้ยนผู้อ่อนโยนคิดพลางบอกกับตัวเองเงียบๆ

หลังจากนั้นในเมืองหลวงก็บังเกิดข่าวลือขึ้นมา และกลายเป็นประเด็นร้อนแห่งแคว้นเลยทีเดียว ข่าวนั้นเล่ากันว่า บุตรสาวท่านแม่ทัพไร้พ่าย คุณหนูคนเดียวของสกุลจ้าวเป็นโรคติดต่อทางร่างกาย จนทำให้มีใบหน้าอัปลักษณ์ยิ่งนัก แถมร่างกายยังพิกลพิการด้วยโรคนี้อีกด้วย

ข่าวนี้เล่าลือกันจนหนาหู ได้ยินไปถึงพระกรรณฮ่องเต้ พระองค์ทรงร้อนพระทัยถึงกับต้องไปถามคาดคั้นเอากับสหายคนสนิท

ยิ่งเห็นสหายรักก้มหน้านิ่งไม่เอ่ยสิ่งใด ฮ่องเต้หนุ่มยิ่งกำสรดด้วยความสงสารและเห็นใจอีกฝ่าย ส่วนท่านแม่ทัพก็ให้นึกยินดีในใจ นับว่าองค์ชายแปดกับพระสนมเต๋อเฟยช่างเป็นหอกระจายข่าวชั้นดีของเขาจริงๆ ทำได้ยอดเยี่ยมนัก

จะมีให้ขัดใจบ้างคงเป็นองค์ชายสามอวี้เจี้ยนนี่แหละ มาเอ่ยปากบอกว่าหากฮวาเอ๋อร์ของเขารอดไปได้จนเติบใหญ่แล้วละก็ พระองค์ยินดีจะรับบุตรสาวสกุลจ้าวมาเป็นพระชายา ทำเอาฮ่องเต้กับแม่ทัพถึงกับน้ำตาซึมกันเลยทีเดียว

จะแตกต่างกันก็ตรงที่ฮ่องเต้นั้นน้ำตาซึมเพราะทรงปลาบปลื้มพระทัยที่โอรสของพระองค์มีจิตใจดีงาม ไม่คิดรังเกียจบุตรีของสหายรัก

ส่วนท่านแม่ทัพนั้นน่ะหรือ ซึมเพราะคิดว่าตนอุตส่าห์กำจัดคนอื่นได้แล้ว กลับดันมีองค์ชายสามโผล่เข้ามาอีก

‘องค์ชาย ท่านจะเมตตาทำไมถึงไม่ถามกันก่อนเล่า ว่ากระหม่อมต้องการหรือไม่’

แม่ทัพต่อว่าอีกฝ่ายน้ำตาซึม ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความโมโหองค์ชายสาม ผู้หวังดีที่เขาไม่ต้องการสักนิด

ทว่าต่างกับฮ่องเต้ที่มีรอยยิ้มกว้างขวางบนพระพักตร์ เพราะคิดว่าสหายของพระองค์นั้นร้องไห้เพราะความซาบซึ้งใจ

ส่วนองค์ชายห้าผู้ฉลาดเฉลียวเกินวัย พอจะเดาได้ถึงความคิดในใจแม่ทัพกับพระบิดาตน เขาจึงได้แต่อดทนนั่งกลั้นเสียงหัวเราะเสียจนหน้าเขียวหน้าดำอยู่ผู้เดียว อนิจจา...
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เหมยฮวาฤดูหนาว   บทที่ 72

    “ฝ่าบาท องค์ชายทั้งสามได้ออกเดินทางแล้วพ่ะย่ะค่ะ”หลิวกงกงก้าวเข้ามารายงาน อวี้หลางเงยพระพักตร์ขึ้นจากกองฎีกา พลางผ่อนลมหายใจช้าๆ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับจ้าวเหมยฮวาทำให้สามองค์ชายไม่พอใจอย่างมาก พวกเขาจึงตัดสินใจออกเดินทางไปฝากตนเป็นศิษย์กับสำนักมังกรฟ้าที่โด่งดังไปทั่วทั้งสี่แคว้น เพื่อจะไปให้พ้น

  • เหมยฮวาฤดูหนาว   บทที่ 71

    “ฮึ่ม ตาแก่ขี้ขโมย ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ ฉวยโอกาสตอนข้าไม่อยู่แอบมาพาลูกข้าไป ทำลับหลังอย่างนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชายชัดๆ คอยดูนะข้าไม่ยอมให้เป็นแบบนี้หรอก”จ้าวหมิงหลงนอนร้องโวยวาย ร่างสูงดิ้นไปมาพลางสูดปากด้วยความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ถูกฮูหยินฝากไว้ จางฟงมองเจ้านายที่ยามนี้ยังนอนหยอดน้ำข้าวต้ม ก่อนจะส่ายหน้าให้แ

  • เหมยฮวาฤดูหนาว   บทที่ 70

    นางโกรธมากมายขนาดนี้ ขืนเขารับผิดไม่ตายก็เกือบแน่ๆ อย่างไรเสียตายเป็นตาย เขาก็ต้องยืนกระต่ายขาเดียว ไม่รับไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น จ้าวเฟยเซียนมองแล้วคลี่ยิ้มก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ“หากท่านยังยืนกรานกระต่ายขาเดียวเยี่ยงนี้ ข้าก็จำเป็นต้องลงมือสอบสวนให้ท่านยอมสารภาพความผิดให้ได้เสียแล้วกระมั

  • เหมยฮวาฤดูหนาว   บทที่ 69

    พูดจบคนร่างใหญ่ก็หิ้วปีกคนตัวเล็กกว่าไปทันที โดยไม่คิดจะให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสปฏิเสธแม้แต่น้อย เฉินเหลาฟงถูกอีกฝ่ายลากมาขึ้นรถม้าท่ามกลางสายตาคนที่อยู่ขณะนั้น ทุกคนต่างหันไปซุบซิบกันเงียบๆ อย่างออกรสชาติขณะเดียวกันจ้าวหมิงหลงที่นั่งอยู่ในรถม้าก็มองหน้าคนตรงหน้างงๆ เขาเพียงแค่ให้ตามไปคุยเรื่องงานที่จว

  • เหมยฮวาฤดูหนาว   บทที่ 68

    หลังผ่านเรื่องราวยุ่งเหยิงอันแสนวุ่นวาย วังหลวงก็ได้ต้อนรับการกลับมาของกองทัพไร้พ่าย ที่มาพร้อมความสำเร็จในการปราบปรามกองโจร“พวกเจ้าพยายามกันได้ดีมาก”ฮ่องเต้ตรัสกับเหล่าทหารหาญด้วยความชื่นชม ทุกคนในกองทัพต่างมีสีหน้ายินดีกันถ้วนหน้า เพราะการกลับมาคราวนี้ของพวกเขาต่างได้รับการปูนบำเหน็จอย่างงามจากฮ

  • เหมยฮวาฤดูหนาว   บทที่ 67

    เยว่หลินได้ยินคำพูดจากคนรุ่นคราวลูก ในใจนั้นขุ่นเคืองแทบกระอักเลือด เขาเกือบจะอดทนไม่ไหวอยากเข้าไปบีบคออีกฝ่ายให้ตายคามือเลยทีเดียวจ้าวเฟยเซียนปรายตามองท่าทางไม่พอใจของเยว่หลินกับไทเฮา นางกล่าวคำพูดต่อไปด้วยท่าทีไม่แยแสต่อการแสดงออกของคนทั้งสอง“ที่สำคัญ... ไทเฮากับใต้เท้าเยว่คงจะยังไม่ลืมกระมัง ว่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status