แชร์

3.ผู้ขโมยคัมภีร์ (2)

ผู้เขียน: rasita_suin
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-23 14:28:19

“หากเป็นเช่นนั้น ข้ากับศิษย์อาวุโสของสำนักเรา จะเข้าไปค้นด้วยตนเอง ได้หรือไม่ อาจารย์ปู่ อาจารย์อา”

หลี่ไห่ฉินเสนอตัวอย่างหน้าตาเฉย

“อย่างไรเราก็เป็นศิษย์สำนักซ่างเซียนไม่ต่างกัน”

“เจ้าจะดูถูกสำนักฝั่งใต้มากเกินไปแล้ว”

เจียอินก้าวมาเผชิญหน้ากับหลี่ไห่ฉินอย่างไม่พอใจ ศิษย์ทั้งสองต่างส่งสายตาฟาดฟันอย่างไม่มีใครยอมใคร

“เช่นนั้นสำนักฝั่งใต้จะแสดงความบริสุทธิ์ใจอย่างไร ในเมื่อนาง...”

หลี่ไห่ฉินชี้ไปยังเสี่ยวเหลียนอย่างจงใจกล่าวหา

“ลักลอบเข้าไปในสำนักฝั่งเหนือจริง หากท่านเจ้าสำนักไม่มีสิ่งใดปิดบังซ่อนเร้น ย่อมสามารถให้พวกเราเข้าไปค้นหาคัมภีร์ภายในได้ ไม่เช่นนั้น ท่านขุนพลห้าวอี้คงไม่อาจทูลองค์จักรพรรดิสวรรค์ได้ว่าสำนักฝั่งใต้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”

คำพูดของหลี่ไห่ฉินนั้นใช้ห้าวอี้ขึ้นมาอ้าง ทว่าความนัยต้องการเอ่ยถึงเทียนเหวิน เพราะหากขุนพลสวรรค์ไม่อาจหาผู้ขโมยคัมภีร์จันทราพบ หรือตามหาคัมภีร์กลับคืนมาได้ ก็ไม่อาจล้างมลทินให้เทียนเหวินทายาทสวรรค์ได้เช่นกัน

“ข้าเพียงหลงเข้าไปที่นั่น ไม่ได้ลักลอบเข้าไป”

เพราะตนถูกใส่ความ ถูกพันธนาการจนถึงตอนนี้ ทั้งยังถูกลงทัณฑ์ทำลายปราณเซียน แม้จะมีพลังประหลาดปกป้องไว้ ทว่าทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นโดยที่นางไม่ได้ทำผิดใด เสี่ยวเหลียนต้องแก้ต่างให้ตนเอง

“ข้าไม่รู้ว่าที่นั่นเป็นที่ต้องห้าม ข้าคิดว่าเป็นอีกฝั่งของน้ำตกในสำนักฝั่งใต้”

เทียนเหวินได้ฟังแล้วก็เข้าใจทันใด ในคืนนั้นเซียนดอกบัวเล่นน้ำอย่างมีความสุข ก่อนนางจะรู้สึกว่ามีคนอยู่จึงรีบหลบเลี่ยง

“จากนั้นข้าก็ถูกใครคนหนึ่งทำร้ายเช่นที่เคยบอกไปแล้ว”

“เจ้าบอกว่าหลงอย่างนั้นหรือ”

อาจารย์ใหญ่จี๋เฟิ่งถามย้ำ

“ใช่ ข้าดำน้ำลึกไปด้านใต้น้ำตกแล้วไปโผล่ในถ้ำ เดินเข้ามาเรื่อยๆ ก็มาพบน้ำตกอีกฝั่ง”

อาจารย์ใหญ่ทั้งสองสำนักต่างก็นิ่งคิด ไม่เคยได้ยินคำบอกเล่าเรื่องถ้ำเชื่อมถึงกันมาก่อน

“เจ้าพูดจริงหรือ”

ครั้งนี้เป็นอาจารย์เจียงซินถาม และเสี่ยวเหลียนก็รีบพยักหน้ารับ

“แน่นอน ข้าไม่กล้าโกหกพวกท่านแน่”

“เรื่องถ้ำ ข้ายืนยันได้ว่าหลังน้ำตกมีถ้ำจริง”

เทียนเหวินคิดว่าแม้แต่อาจารย์ปู่ยังไม่รู้เรื่องนี้ ตนก็ต้องเอ่ยออกมา ร่างสูงใหญ่เคลื่อนมาด้านหน้าใกล้อาจารย์ฝูหมิง

“แต่ข้าไม่รู้ว่าถ้ำนี้สามารถทะลุถึงอีกฝั่งได้ ข้าเพียงหาที่สงบในการฝึกวิชาและบำเพ็ญเพียร จึงพบที่นั่นเข้า”

“อ้อ เช่นนั้นเจ้าก็รู้จักนางจริงสินะ”

หลี่ไห่ฉินได้ที เอ่ยย้ำถึงเรื่องที่คิดว่าเทียนเหวินร่วมมือกับเซียนดอกบัว

“ข้าไม่เคยพบเขามาก่อน”

เสี่ยวเหลียนปฏิเสธทันที

ทว่าฝ่ายเทียนเหวินไม่แน่ใจนัก ด้วยตอนที่เขาช่วยเหลือนางอีกฝ่ายไม่ได้สติ แม้จะรู้สึกตัวขึ้นมาชั่วแวบ ทว่าเขาก็อยู่ด้านหลัง นางอาจกำลังเบลอและไม่ทันเห็นหน้าเขาก็หมดสติอีกครั้ง

“เช่นนั้นเจ้ากลับเข้ามาอีกครั้งทำไม หากไม่เพราะนัดแนะกับเทียนเหวิน”

หลี่ไห่ฉินกัดไม่ยอมปล่อย

“ข้าบอกแล้วว่าไปหาของ วันนั้นที่ข้าบาดเจ็บ กำไลข้อมือที่หลินเฟยให้ข้าหายไป ข้าทุกที่ในสำนักฝั่งใต้แล้วไม่พบ ก็เลยกลับไป”

เสี่ยวเหลียนบอกเสียงเข้มเพราะนางไม่พอใจศิษย์ของสำนักฝั่งเหนือผู้นี้ ที่เอาแต่หาเรื่องใส่ความนางไม่หยุด

“กำไลข้อมือมุกราตรีน่ะหรือ”

หลินเฟยเอ่ยถาม พร้อมสายตาก็สังเกตเห็นว่าเสี่ยวเหลียนไม่ได้ใส่ติดตัวจริงๆ

“ไยไม่บอกข้าแต่แรก”

“ข้ากลัวเจ้าโกรธนี่นา”

“กำไลนั่นข้าช่วยเจ้าหาได้ เพียงร่ายเวทมันก็จะกลับมาหา”

สำหรับหลินเฟยแล้ว เสี่ยวเหลียนคือภูตรับใช้ ทว่าตนนับเจ้าตัวเป็นสหาย กำไลมุกราตรีเป็นเหมือนสัญลักษณ์แสดงความเป็นเจ้าของ นางย่อมสามารถเรียกหาได้ จากนั้นก็ท่องเวทในใจพร้อมวาดมือชูขึ้นกลางอากาศ

เพียงชั่วอึดใจมุกราตรีก็ส่งแสงเรืองรอง ทั้งยังลอยออกจากด้านในอกเสื้อของคนผู้หนึ่ง ทำให้ทุกคนต่างก็หันมองไปยังเขา ขณะเดียวกันกำไลมุกราตรีก็ลอยมาหามือของหลินเฟย

“เฉิงเคอ เจ้ามีกำไลนี่ได้อย่างไร”

หลี่ไห่ฉินถามเสียงเข้ม

เฉิงเคอผงะเมื่อทุกสายตาต่างมองมายังเขา ใบหน้าคมสันเริ่มซีดและอึกอัก

“เป็นเขานั่นเอง

เทียนเหวินปะติดปะต่อเรื่องได้ทันที ทว่าเจ้าตัวก็เร็วพอที่จะร่ายเวทเคลื่อนย้ายหายตัวไปในทันใด

“เฉิงเคอขโมยคัมภีร์จันทราเป็นแน่ เขาคือคนที่ทำร้ายเซียนดอกบัว ไม่เช่นนั้นคงไม่มีของของนางอยู่ที่ตัว และหากไม่ได้ทำผิด ไยต้องทำร้ายนาง หากพบโดยบังเอิญก็ควรพาตัวไปให้อาจารย์ไต่สวนสิ”

เมื่อได้ความกระจ่างห้าวอี้ก็รีบพยักหน้าให้ทหารสวรรค์ออกติดตามไปโดยเร็ว หลายคนต่างแวบหายกระจัดกระจายไปคนละทิศ

“คัมภีร์ต้องยังอยู่ในตัวเฉิงเคอเป็นแน่ เพราะเราหาทุกที่ในสำนักแล้วไม่พบ เขาไม่ได้ซ่อนไว้ที่อื่นแน่”

อาจารย์ฝูหมิงเอ่ย

“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น ศิษย์สำนักเราทำผิด อย่างไรก็ต้องตามตัวเขากลับมาให้ได้ ครั้งนี้ความผิดเป็นของสำนักฝั่งเหนือเรา ข้าคงไม่อาจอยู่ในตำแหน่งเจ้าสำนักได้อีก”

อาจารย์ใหญ่จี๋เฟิ่งทั้งเสียหน้าทั้งเสียใจระคนกัน

“อาจารย์ปู่ ท่านไม่ผิดอันใด เรื่องนี้เราในสำนักมีส่วนต้องรับผิดชอบร่วมกัน ศิษย์ขออาสาไปตามจับตัวศิษย์พี่เฉิงเคอกลับมาขอรับ”

เทียนเหวินอาสา เขาคิดว่าเรื่องไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง สำนักซ่างเซียนเหนือต้องช่วยกันนำคัมภีร์จันทรากลับมาให้จงได้

เมื่อเห็นว่าเทียนเหวินเสนอตัวหวังความดีความชอบ หลี่ไห่ฉินจึงอาสาด้วย ทั้งยังนึกขุ่นใจที่ตนถูกศิษย์น้องคนสนิทตบตา

“อาจารย์ปู่ เฉิงเคอสนิทสนมกับข้ามากที่สุด ข้ารักเขาดังน้องชายแท้ๆ บำเพ็ญเพียรฝึกวิชาด้วยกันมานับแต่อยู่เผ่าจิ้งจอก แต่ข้ากลับละเลยจนเขาทำผิดใหญ่หลวง ข้าขออาสาไปจับตัวเขากลับมารับโทษด้วยตนเองขอรับ อย่างไรข้าก็รู้จักนิสัยใจคอเฉิงเคอดีที่สุด”

“พวกเจ้าต่างก็อาสาเช่นนี้ สองความคิดสองแรงย่อมดีกว่า เช่นนั้นข้าให้เจ้าทั้งสองร่วมมือกันไปนำตัวเฉิงเคอกลับมาก็แล้วกัน”

ทั้งเทียนเหวินและหลี่ไห่ฉินต่างเป็นศิษย์มีฝีมือของสำนัก อาจารย์ใหญ่จี๋เฟิ่งจึงคิดว่าทั้งสองคนร่วมมือกันน่าจะเป็นการดีที่สุด ทว่าศิษย์ทั้งสองกลับมองหน้ากันแล้วลอบถอนหายใจ ด้วยไม่ค่อยลงรอยกันนัก

“ศิษย์พี่ดูร้อนใจยิ่งนัก ข้าขอถามได้หรือไม่ ว่าคัมภีร์ใดที่หายไป”

การที่อาจารย์ใหญ่จี๋เฟิ่งบอกว่าไม่สมควรเป็นเจ้าสำนักอีกต่อไป ย่อมเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้เจ้าสำนักเจียงซินอดกังวลไปด้วยไม่ได้

ในเวลานี้เหล่าศิษย์ของสำนักฝั่งใต้อยู่กันพร้อมหน้า ท่านอาจารย์ใหญ่จึงลำบากใจที่จะประกาศออกไป อาจารย์ฝูหมิงจึงก้าวเข้ามาใกล้พร้อมเอ่ยเสียงเบาให้ได้ยินเพียงเจ้าสำนักเจียงซิน

“คัมภีร์ที่สำคัญยิ่ง”

เพียงเท่านี้เจ้าสำนักเจียงซินก็รู้ได้ในทันที สีหน้าลำบากใจและกระอักกระอ่วนของศิษย์พี่ใหญ่ ทั้งสวรรค์ถึงกับส่งทหารลงมาค้นหาย่อมเป็นเรื่องใหญ่ที่สะเทือนถึงสวรรค์

‘คัมภีร์จันทรา’

นิ่งคิดครู่หนึ่งเจ้าสำนักเจียงซินก็เอ่ยกับศิษย์ผู้พี่

“อย่างไรสองสำนักก็เป็นหนึ่ง เรื่องใหญ่เช่นนี้ข้าย่อมไม่อาจนิ่งเฉยได้ ข้าจะส่งเจียอินไปช่วยศิษย์ของท่านตามตัวคนผิดด้วย อ้อ ยังมีหลินเฟย นางทำผิดกฎของสำนัก ข้าจะให้นางติดตามเจียอิน ลบล้างความผิด”

เมื่ออาจารย์เจียงซินเอ่ยเช่นนี้ เทียนเหวินก็เหลือบไปยังเซียนดอกบัวแวบหนึ่งอย่างระมัดระวังไม่ให้ผู้อื่นสังเกตได้

‘แล้วนางเล่า อาจารย์อาจะให้ไปด้วยหรือไม่’

=====

แอบเป็นห่วงน้อง อยากให้น้องไปด้วยใช่ไหมล่ะเทียนเหวิน ^^

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เหมันต์เหน็บหนาว จันทราเดียวดาย   26.ตอนพิเศษ ยังไม่แต่งก็เข้าหอได้ (2)

    ต่างฝ่ายต่างแตะต้องกันและกัน มือกระด้างบีบนวดผิวบางในทุกสัดส่วน มือนุ่มก็เคล้นไปตามกล้ามแน่น ทั้งแขนกำยำ แผงอกกว้าง หน้าท้องแกร่ง รวมถึงต้นขาชายหนุ่มที่แข็งแรงชวนให้ต้องกลืนน้ำลาย ยิ่งยามที่มืออุ่นทาบทับแนบดอกไม้แสนงาม หญิงสาวก็เกาะกุมตัวตนแกร่งร้อนไว้ในมือตนเช่นกันสองหนุ่มสาวแบ่งปันห้วงอารมณ์วาบหวาม เร่งเร้านำพาให้ร่างกายทั้งคู่ค่อยๆ พลุ่งพล่านขึ้น ตาสบตา ขณะที่ต่างก็หอบหนัก เอินเอินรู้สึกได้ว่ามือตนแทบไหม้ทีเดียว อึดใจต่อมาร่างสูงใหญ่จึงขยับมาชิดบดเบียดเรือนกายเสียดสีเร้าใจเปลือกตาบางปิดลงพร้อมครางเสียงหวานข้างใบหูชายหนุ่ม สองแขนเรียวกอดร่างหนา กางกรงเล็บเล็กเกาะเกี่ยวข่วนบางเบาบนแผ่นหลังอีกฝ่าย ทั้งฟันเล็กยังกัดใบหูชายหนุ่มยั่วเย้า“อา คนดีของข้า เจ้าทำให้ข้าร้อนยิ่งกว่าร้อนแล้วในตอนนี้”เทียนเหวินเสียวสยิวไปทั้งกาย เพราะร่างที่แนบชนิดทั้งหอมกรุ่นและนุ่มนิ่ม ทั้งเจ้าตัวยังรู้ดีว่าต้องปลุกเร้าตนเช่นไร นานวันที่ได้ร่วมรัก เอินเอินสั่งสมประสบการณ์มาอย่างโชกโชน เขากระตุ้นนาง นางก็กระตุ้นกลับไม่แพ้กัน หากนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มยิ่งพอใจในคนรักของตน เพราะหญิงสาวเร่าร้อนได้ถึงเพียงนี้ก็เพื่อ

  • เหมันต์เหน็บหนาว จันทราเดียวดาย   26.ตอนพิเศษ ยังไม่แต่งก็เข้าหอได้ (1)

    ณ ศาลาริมสระน้ำตำหนักเทียนหลันอีกหมื่นปีต่อมาปลายนิ้วเรียวงามกรีดไปตามเส้นสายบรรเลงพิณตามที่ผู้เป็นเจ้าของตำหนักชี้แนะอย่างช้าๆ ด้วยความตั้งใจ ดวงหน้างามมีความจริงจังจนคิ้วขมวดมุ่น ริมฝีปากอิ่มเม้มจดจ่อร่างสูงใหญ่ที่เพิ่งก้าวเข้ามาหยุดยืนกอดอกพิงต้นไม้ใหญ่ห่างออกมา ทอดสายตามองภาพที่คล้ายตนเคยฝันถึง ทว่าในเวลานั้นเทพธดาจันทราผิงเชี่ยนบรรเลงพิณได้ไพเราะยิ่ง ขณะที่เอินเอินไม่เคยแตะต้องมาก่อน เวลานี้หญิงสาวกำลังเรียนรู้ในสิ่งที่มารดากับท่านยายของเขาสอนสั่งเอินเอินต้องฝึกฝนตนให้เหมาะสมกับที่กำลังจะเป็นสตรีที่เคียงข้างทายาทสวรรค์ ด้วยอีกไม่นานองค์จักรพรรดิสวรรค์จะแต่งตั้งเทียนเหวินขึ้นเป็นรัชทายาท เนื่องจากชายหนุ่มอุทิศตนในหน้าที่ของตนมาตลอดหมื่นปีมานี้จนกระทั่งได้ตำแหน่งหนึ่งในแม่ทัพสวรรค์ นับว่าเป็นเวลาเหมาะสมแล้วที่ชายหนุ่มจะเข้าไปช่วยงานราชกิจของเทพสงครามกับองค์จักรพรรดิเต็มตัวและงานอภิเษกขององค์รัชทายาทก็จะตามมา แม้จะไม่เร็ววันนี้ก็ตาม เพราะเอินเอินสำเร็จเซียนขั้นสูงแล้ว หญิงสาวจึงฝึกหัดสิ่งที่สตรีชาววังสรรค์ต้องสามารถทำได้ไปพลางยืนมองจนพอใจแล้วเทียนเหวินก็ก้าวเข้าไปที่ศาลา และผู้

  • เหมันต์เหน็บหนาว จันทราเดียวดาย   25.ตอนพิเศษ สายใยรัก (2)

    “ข้าต้องการเจ้า”ชุดบางลอยเหนือผิวน้ำแทบไม่ปกปิดร่างกายงดงาม เทียน เหวินเองก็ใส่เพียงกางเกงตัวเดียว สองเรือนกายแทบเปลือยเปล่า เมื่อโอบกอดเสียดสี ความรุ่มร้อนย่อมก่อเกิด แรงบดเคล้าจากตัวตนเบียดสะโพกอวบ มือกร้านกระด้างวนเวียนเหนือเกสรอ่อนบางทำเอาร่างอรชรอ่อนระทวยแทบทรงกายไม่ได้เพียงอึดใจต่อมาแรงแทรกลึกก็ล่วงล้ำอย่างรวดเร็ว เสียงหวานครางแผ่วอย่างหมดแรงต้านทาน จิตใจหญิงสาวหวั่นไหวไปพร้อมกับหัวใจที่เต้นระทึกกับสถานที่อันแปลกใหม่ ได้เพียงรับกายแกร่งไว้ยามอีกฝ่ายส่งตัวตนดุนดันแนบสะโพก สองมือหนาย้ายมาโอบตระกองปทุมถันคู่งามราวโอบร่างเล็กไว้กลายๆทว่ายิ่งเบียดเร้าหญิงสาวยิ่งขาอ่อนแรงจนตัวลอย ชายหนุ่มจึงกอดเอวเล็กไว้แล้วพาไปยืนชิดโขดหินก้อนใหญ่ ให้เจ้าตัวได้เกาะพยุงกาย ก่อนปลายนิ้วแกร่งจะกลับมาระรานเกสรดอกไม้แสนงาม บดขยี้พร้อมแรงรักจากสะโพกหนาภายในกายเอินเอินกำลังถูกพายุอารมณ์ร้อนแรงบ้าคลั่งพัดโหมอยู่ภายใน ความเสียวสยิวพุ่งสูงละลิ่วรวดเร็วจนกระตุกรุนแรงกะทันหัน“อื้อ”หญิงสาวครวญครางเสียงพร่าด้วยสุดจะทานทน เรือนร่างงามสั่นรัวพร้อมหอบหนัก เอนอิงพิงหลังกับแผ่นอกหนาขณะเดียวกันนั้นเทียนเหวินปลดชุ

  • เหมันต์เหน็บหนาว จันทราเดียวดาย   25.ตอนพิเศษ สายใยรัก (1)

    สองร้อยปีในดินแดนมนุษย์ของเทียนเหวินกับเอินเอินผ่านไป ทว่าความหวานชื่นของคู่สามีภรรยากลับไม่ลดลง ทั้งสองดำรงชีวิตด้วยการลงไปขายของป่า และไม่ได้ต้องการทรัพย์สมบัติเงินทองมากไปกว่านี้ พอใจที่จะอยู่เพียงบนภูเขา ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบแต่การที่ลงไปในตัวเมืองก็จำต้องพานพบผู้คน ในบางครั้งความงดงามของเอินเอินก็เป็นปัญหา เมื่อขายผักผลไม้ป่าตามลำพัง ในยามที่เทียนเหวินไปซื้ออาหารหรือข้าวของบางอย่างเพราะเขาไม่ต้องการให้นางลำบากดอกไม้งามย่อมมีภมรเข้ามาดอมดม เอินเอินก็ย่อมมีบุรุษเข้ามาเกี้ยวพา“แม่นาง เจ้าจะลำบากอยู่กับสามีที่ยากจนไปไย นายท่านของข้ายินดีรับเจ้าเป็นอนุ พาไปอยู่ในจวนอย่างสุขสบาย รับรองว่าเจ้าไม่ต้องนั่งตากแดดขายของป่าทั้งวันให้เหนื่อยยากเช่นนี้”“ใช่ นายท่านของพวกข้าสามารถมอบให้เจ้าได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเครื่องประทินโฉม หรือชุดสวยงาม เจ้าเพียงแต่งเนื้อแต่งตัวให้งดงาม ยิ้มหวานรอปรนนิบัติพัดวียามนายท่านกลับมาที่จวนก็เพียงเท่านั้น”บางครั้งผู้ที่เข้ามาถามไถ่พูดคุยก็ไม่รู้ว่านางสามีแล้ว ด้วยกาลเวลาที่ผ่านไปนาน หากก็มีบ้างที่รู้แก่ใจ ทว่ายังไม่วายตามตอแย ภูเขาที่เทียนเหวินกับเอินเอิน

  • เหมันต์เหน็บหนาว จันทราเดียวดาย   24.ตอนพิเศษ สวรรค์ของข้ากับเจ้า (3)

    “ข้าอยากแตะต้องเจ้า”“สุดแล้วแต่ท่านต้องการ ข้าไม่ได้ห้าม”บอกแล้วเอินเอินก็กลับมาจูบซ้ำเหนือริมฝีปากได้รูป ครั้งนี้ปลายลิ้นเล็กไล้เย้ายวนตามมาด้วย แน่นอนว่าชายหนุ่มย่อมต้องเปิดรับหญิงสาว ทั้งสองรวบรัดเกี่ยวกระหวัดปลายลิ้นอย่างเร่าร้อน ขณะที่มือหนาเริ่มเคลื่อนไล้ไปตามเนื้อตัวหญิงสาว สัดส่วนงดงามกับผิวเนียนน่าสัมผัสทำให้เขาไม่อาจอยู่นิ่งได้ฝ่ามือกระด้างไต่ข้างเอวบางกับสะโพกอวบ ส่วนอีกข้างเคล้าคลึงหน้าอกหน้าใจนุ่มหยุ่น เอินเอินเริ่มกายอ่อยระทวยกับความเร่าร้อนที่ตนเป็นฝ่ายจุดชนวน และชายหนุ่มสานต่ออย่างเร้าใจ หญิงสาวทรุดกายลงช้าๆ พร้อมมือบางก็ลูบไล้แผงอกหนาขณะริมฝีปากอิ่มขยับลงจูบคางแกร่ง แตะแผ่วไซ้ลำคอหนาและได้ยินเสียงเครางเข้มในลำคอเทียนเหวินปลายนิ้วเรียวเกลี่ยสะกดเหนือยอดอกที่แข็งเป็นไตของชายหนุ่ม ขณะที่เขายังบีบเคล้นหน้าอกตน มือบางอีกข้างวางยันต้นขาแกร่งเพื่อพยุงกาย โดยลืมคิดไปว่านั่นเป็นการกระทำสุดล่อแหลม ยิ่งทำให้เจ้าของร่างสูงใหญ่ถอนหายใจแรง ทว่าที่ทำเอาเขาต้องครางเสียงเข้มต่ำก็เพราะริมฝีปากนิ่มจูบเม้มยอดอกสีเข้ม“อืม”เหมือนเอินเอินจะค่อยๆ รับรู้ได้ว่าตนต้องทำอย่างไรให้ชายหนุ่มพ

  • เหมันต์เหน็บหนาว จันทราเดียวดาย   24.ตอนพิเศษ สวรรค์ของข้ากับเจ้า (2)

    หลังจากช่วยกันขนย้ายข้าวของมายังกระท่อม โดยที่เทียน เหวินยกของหนักเสียเป็นส่วนใหญ่จนเสร็จ ทั้งยังใจดีตักน้ำมาให้เอินเอินอาบในส่วนที่เขาล้อมไม้ไผ่กั้นแบ่งด้านหลัง แม้นางจะเกรงใจบอกว่าไปอาบที่น้ำตกเช่นเดิมได้ หากชายหนุ่มก็ยืนยัน“ข้าตั้งใจทำไว้ให้เจ้า...”ใบหน้าขาวคมขยับมาใกล้พร้อมส่งสายตาวาววามพร้อมเอ่ยเสียงกระเส่าทำเอาใจสาวหวิว“กับข้าลงอาบในถังด้วยกัน”หลังปลายนิ้วแกร่งไล้แก้มนวล ทว่าสีหน้าแววตากลับเปลี่ยนไปเป็นแสนเสียดายแทน“แต่วันนี้เจ้าอาบคนเดียวเถิด ข้ายังต้องไปหาอาหารด้วย คงอาบจากที่น้ำตกมาเลย”เพราะวันนี้ค่อนข้างวุ่นวาย เร่งมือสร้างกระท่อมเสร็จ พาเอินเอินมาที่นี่แล้วก็ขนของ ชายหนุ่มจึงยังไม่ได้จัดการเรื่องอาหารเย็น“ลำบากท่านแล้ว หรือข้าไปช่วยท่านดีกว่า”“อย่าเลย เจ้าเหนื่อยขนของขึ้นลงทางลาดชันหลายรอบแล้ว อาบน้ำพักให้สบายใจเถิด”“ท่านเหนื่อยกว่าข้าเสียอีก”“เถิดน่า หากข้าอยู่ด้วยเจ้าคงไม่ได้อาบน้ำเสร็จง่ายๆ”สุดท้ายเอินเอินก็เชื่อฟัง เพราะหาคำมาแย้งไม่ได้ จำต้องพยักหน้ารับอย่างเขินอายค่ำคืนมาเยือนหลังจากทานอาหารมื้อเย็น เทียนเหวินก็นอนเอนกายรับลมเย็นที่ระเบียง สองมือยกขึ้นรองใ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status