ก็คือหัวโจกของเทคนิคมีนบูรพาพวกเขาขึ้นชื่อเรื่องอะไร เชื่อเสียงเรียงนามถูกพูดต่อไปทางไหนทุกคนรู้ดีแต่ทว่าทุกอย่างที่เขาแสดงออกต่อเธอ ปฏิบัติต่อเธอมันเต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่น“ต้องขอบคุณหนูมากกว่าที่ยอมเปิดใจรักพี่สองคน”“ไม่รักได้ยังไงในเมื่อพี่แฝดแสนดีกับหนูขนาดนี้”ที่ผ่านมาสองแฝดทำให้เห็น ทำ
“หนูชอบไหมเชอรีน” เพราะเกรทไม่มั่นใจเลย ถึงพวกเขาจะตั้งใจมากแค่ไหนแต่ในใจกลับมีความกังวลกลัวว่าเชอรีนจะไม่ชอบ“หนูชอบมาก” แต่ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับมาทำสองแฝดยกยิ้มด้วยความพอใจเพียงแค่เชอรีนชอบ มันก็มากพอแล้ว !“พี่ดีใจที่หนูชอบ” เกรฟเอ่ยออกมาด้วยความดีใจ ใบหน้าหล่อยกยิ้มอย่างปกปิดไม่มิด จะไม่ให้ดีใ
“บ้านของเรา” สองแฝดตอบกลับมาพร้อมกันและไม่ทันที่จะให้เชอรีนได้พูดอะไรต่อ แฝดพี่รับหน้าที่เปิดประตูบ้าน ส่วนแฝดน้องจับมือเชอรีนเดินตรงเข้ามาด้านในภายในบ้านหลังนี้ถูกตกแต่งไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ครบครัน สายตาสวยสอดส่องไปทั่วก่อนจะพบกับรูปภาพใหญ่ที่เป็นภาพของพวกเขาสามคน“พี่แฝดที่บอกว่าบ้านของเราคืออะไรคะ”
“เชอรีนไลน์มาบอกให้ไปรับหกโมงเย็น มึงจัดลูกโป่งเสร็จยังเกรท” เกรฟเอ่ยถามขึ้นด้วยความร้อนรนเพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงเวลาหกโมงเย็นแต่ทว่าในตอนนี้สิ่งที่พวกเขาทำตรงหน้าดูไม่เป็นชิ้นเป็นอัน“ใกล้แล้ว จัดลูกโป่งเสร็จติดรูปแค่นี้ก็เสร็จแล้ว” เกรทตอบกลับมาตรง เขาติดลูกโป่งใบสุดท้ายไว้กับเพดานห้องก่อนจะต
ทุกอย่างดำเนินไปในทางที่ดีไม่เว้นแม้แต่เรื่องต่อยตีที่สองแฝดเคยมีเป็นประจำกับพี่ชายของเชอรีน ตอนนี้มันถูกคลี่คลายกลายเป็นความสัมพันธ์ดี ๆ ระหว่างน้องเขยกับพี่ชาย“หนูอยากไปเที่ยวไหนไหมเชอรีน” เกรฟเอ่ยถามออกมาพร้อมมือหนาที่ลูบหัวคนรักของตัวเองด้วยความเอ็นดูจะมองกี่ครั้งกี่ที เขาก็เอ็นดูเชอรีนเสมอเธ
“เชอรีนหนูได้ยินทุกอย่างไหม” เกรทเอ่ยถามขึ้นเพราะตั้งแต่พวกเขาเปิดสปีกเกอร์โฟน คนที่หลับตาลงและเหมือนจะหลับไปก็ลืมตาขึ้นมานอนฟังด้วย“ได้ยินทุกอย่างเลย” เชอรีนตอบกลับมาตามตรงเพราะเมื่อกี้ที่สองแฝดคุยกับพี่ชายของเธอมันไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของเธอแต่ยังมีเรื่องราวของพวกเขาทั้งสามคนเรียกว่าพวกเขาเคลีย