ตอนที่ 1
3/3
"แน่นะลุง"
เธอย้ำถามอย่างไม่ค่อยเชื่อถือ ฝ่ายลุงแท็กซี่ก็พยักหน้ายืนยัน ขวัญข้าวจำใจต้องหยิบเงินแบงค์ห้าร้อยออกมาแล้วส่งให้ พอลุงรับไปแล้วก็ยิ้มแป้นรีบเก็บใส่กระเป๋า เธอที่เห็นแบบนั้นก็กระแอมเตือนดัง ๆ
"ฮะแฮ่ม! ลืมอะไรไปรึเปล่าลุง อย่านิ่ง ๆ รีบทอนมาเลยบาทนึงอะ"
"ขี้เหนียวนะเรา"
"บาทเดียวก็เงิน"
ลุงแท็กซี่รื้อหาเงินบาทในเกะมายัดใส่มือให้ ก่อนจะออกรถมุงไปยังร้านกาแฟที่ขวัญข้าวบอก เมื่อรถจอดสนิทแล้วเธอก็เดินเข้าไปในร้าน กลิ่นแรกที่ลอยเข้าจมูกคือกลิ่นของกาแฟคั่วบดหอมกรุ่น บรรยากาศในร้านสะอาดสะอ้าน วันนี้ไม่ค่อยมีลูกค้านั่งในร้านเยอะเท่าทุกวัน
"อ้า กลิ่นดีแอร์เย็นฉ่ำ"
ดวงหน้างามยิ้มปริ่มประหนึ่งกำลังเดินทอดน่องอยู่ในสวนลาเวนเดอร์ ขวัญข้าวมาต่อคิวที่เค้าเตอร์แคทเชียร์ ข้างหน้าเธอมีลูกค้าชายกำลังยืนสั่งกาแฟอยู่ ความสูงของเขาบดบังร่างเธอจนมิด
"บัตรใช้ไม่ได้เหรอครับ เอ...ปกติไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ"
"ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าสะดวกจ่ายเป็นเงินสดมั้ยคะ"
สาว Barista เอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นการ์ดส่งคืนให้ชายหนุ่มอย่างสุภาพ
"ผมไม่มีเงินสดติดตัวเลยครับ"
พอได้ยินแบบนั้นขวัญข้าวก็จ้องมองแผ่นหลังกว้างด้วยดวงตาที่เบิกโตกว่าเดิม พร้อมกับคิดในใจว่าเขาต้องเป็นคนชนิดเดียวกับเธอแน่ ๆ อาจจะติดหรูแต่รายได้น้อย และโชคร้ายที่บัตรของเขาใช้เกินวงเงินไปเรียบร้อยแล้ว โธ่...น่าสงสารจริง ๆ เธอคิดเองเออเองเป็นตุเป็นตะแล้วพยักหน้าหงึก ๆ เหมือนเข้าอกเข้าใจ
"ลองดูให้อีกทีได้มั้ยครับ ถ้าไม่ได้จริง ๆ ผมจะขอยกเลิกรายการ"
โอ้ย! ถ้าไม่เอาแล้วก็ออกไปสักทีเถอะ
"เอ่อ คุณคะ" ขวัญข้าวพูดขึ้นพลางใช้นิ้วชี้สะกิดไหล่กว้างจากทางด้านหลัง ชายหนุ่มจึงหันกลับมามองเธอ เสี้ยววินาทีแรกที่เห็นหน้าเขาเต็มตา เธอถึงกับประหม่าและเสียอาการหนักมาก
โอ้โห...หรือนี่จะเป็นจังหวะตกหลุมรักในซิทคอม! เขาคือคนตัวเป็น ๆ หรือว่าพระเอกที่หลุดมาจากนิยายน้ำเน่าของจันดาลี!
"คุณ..."
แต่...เมื่อกี้นี้ตั้งใจจะพูดว่าอะไรหว๋า ขวัญข้าวยืนงงเหมือนโดนมนต์สะกด ริมฝีปากจิ้มลิ้มเผยรอยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ดวงตาที่เคยขุ่นเคืองแปรเปลี่ยนเป็นหวานฉ่ำเหมือนคนกำลังละเมอเพ้อพก ถ้าไม่ติดว่าได้กลิ่นกาแฟตลบอบอวลเต็มสองรูจมูกคงคิดว่าตัวเองฝันกลางวัน
"มีอะไรเหรอ"
"คุณหล่อมากเลยค่ะ เอ้ย!" แล้วไปพูดแบบนั้นได้ยังไงเนี่ย! ขวัญข้าวเลิ่กลั่กรีบแก้ต่างเสียใหม่ "เอ่อ...เดี๋ยวฉันจ่ายให้เองค่ะ"
จากที่ตั้งใจจะบอกให้เขารีบหลีกทาง ทำไมถึงเสนอตัวจ่ายค่ากาแฟให้เขาอีกล่ะนั่น แต่ก็เอาเถอะเปย์หมาเปย์แมวจรจัดมาเยอะแล้ว วันนี้ขอเปย์คนหล่อสักร้อยสองร้อยจะเป็นไรไป
"จ่ายให้ผม? จะดีเหรอ"
"ไม่เป็นไรคะ ฉันเข้าใจคุณนะคะ"
บางทีคนเราก็ต้องมีวันที่อยากกินหรูบ้างแหละ แต่เงินในกระเป๋าไม่อำนวยให้ทำไงได้ เห็นไหมละว่าโลกมักจะใจดีกับคนหน้าตาดี ไม่ใช่สิ! ยัยข้าวมักจะใจดีกับผู้ชายหน้าตาดีต่างหาก ถ้าจัดอันดับหนึ่งถึงสิบความบ้าผู้ชายของเธออยู่ระดับไหน บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่าเต็มสิบไม่หักสักคะแนน เธอสบตาเขาแล้วกะพริบตาปริบ ๆ จากนั้นหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา เมื่อเปิดกระเป๋าดูแล้วใบหน้างามก็แห้งเหี่ยวลงทันที
โธเอ้ย! เงินในกระเป๋าเหลืออยู่สองร้อยกว่าบาท ลืมไปสนิทว่าเมื่อกี้เอาเงินที่มีอยู่บูชาปลัดขิกมาจากลุงแท็กซี่ แต่ก็อย่ากระนั้นเลย คนอย่างยัยข้าวฉิบหายไม่ว่าแต่จะเสียหน้าไม่ได้
"ของคุณผู้ชาย 195 บาทค่ะ"
"นี่ค่ะ"
แบงค์สีแดงสองใบถูกยื่นให้ Barista จากนั้นหันกลับมาทางเขาพร้อมโปรยยิ้มหวาน พอฝ่ายนั้นยิ้มตอบมาขวัญข้าวอายม้วน อาการมันเหมือนผีเสื้อหมื่นตัวบินอยู่ในท้อง ชุ่มฉ่ำหัวใจเหมือนได้อาบน้ำฝนเดือนเมษา ราวกับว่าได้เจอโอเอซิสในทะเลทรายร้อนระอุ คล้ายได้กินก๋วยเตี๋ยวหลังจากที่โส้ยมาม่ามาแล้วสองอาทิตย์เต็ม ผู้ชายคนนี้งานดีตรงไทป์ยัยข้าวทุกอย่าง ต่อให้เงินในบัญชีเหลืออยู่สี่บาทหล่อนก็จะทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูเขา จะมีสักวิธีไหมที่สามารถทำความรู้จักเขาให้ได้มากขึ้น ไม่สนแล้วว่าเขาจะรวยหรือจน
"คุณมาที่นี่บ่อยเหรอครับ"
"บ่อยมากเลยค่ะ" อันที่จริงมาเฉพาะตอนที่แก้วเก่าเริ่มชำรุด แต่ใครมันจะกล้าตอบแบบนั้นฟะ!
"ผมก็มาที่นี่ประจำ อาจเพราะว่าไม่ค่อยได้มองใครก็เลยจำคุณไม่ได้ เอาไว้คราวหน้าถ้าเจอกันอีกผมขอเป็นฝ่ายเลี้ยงคืนบ้างนะครับ"
"ค่ะ เอาไว้วันหน้าค่อยเลี้ยงฉันคืนก็ได้"
จะได้เจอกันอีกไหมไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ ดันไปตกปากรับคำเขาเรียบร้อยแล้ว สาบานได้เลยว่าต่อจากนี้เป็นต้นไปจะแวะเวียนมาที่นี่ให้บ่อยขึ้น และถึงแม้ว่าทุกครั้งที่มาเยือนมันจะเบียดเบียนเงินในกระเป๋าก็เถอะ เพื่อผู้ชายข้าวทำได้
"แล้วคุณไม่สั่งเหรอครับ"
ตอนพิเศษส่งท้าย"คุณต่อส่งอะไรไปบ้านข้าวคะ"ทันทีที่วางสายจากอารี ขวัญข้าวเดินเข้ามาถามกษดิศ เมื่อครู่นี้แม่ของเธอโทรมาบอกว่ามีรถขนส่งไปส่งของ รถหกล้อคันใหญ่บรรจุของมาเต็มรถ เป็นของใช้ในบ้านอาทิเช่น โฟซา ตู้ เตียง เฟอร์นิเจอร์ดีๆ และของใช้สำหรับตกแต่งบ้านอื่นๆ อีกทั้งยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่ออำนวยความสะดวกครบครัน ที่จริงอารีก็เล่าให้ขวัญข้าวฟังหมดแล้ว ขณะที่เล่าไปก็ตื่นเต้นไป แต่ขวัญข้าวก็ยังอยากถามอยู่ดีว่าคนที่ส่งไปนั่นจะใช้ฝีมือเขาหรือเปล่า"ก็ของใช้นิดหน่อยครับ""เต็มคันรถหกล้อนะเหรอคะนิดหน่อย""ตอนแรกว่าจะส่งไปสักชิ้นสองชิ้น แต่คิดไปคิดมาส่งไปหลายชิ้นเลยก็ดีเหมือนกัน พ่อกับแม่จะได้สะดวกสบายขึ้น"โอ้ย...อภิชาติราชบุตรเขย น่าหยิกแก้มเบาๆ สักที"คุณต่ออย่าทำแบบนี้อีกนะคะ"พอได้ยินเธอพูดเสียงดุ กษิดิศจึงเป็นกังวลว่าขวัญข้าวอาจจะไม่พอใจ เขาคว้าตัวเธอให้ลงมานั่งตัก เอาคางเกยที่ไหล่บอบบางพูดน้ำเสียงออดอ้อน"ทำไมละครับ ไม่พอใจเหรอ เดี๋ยวครั้งหน้าผมจะบอกก่อ
ตอนที่ 142/3เมื่อกลับมาถึงห้องก็เหงาเพิ่มอีกเท่าตัว เพราะกษิดิศบินไปคุยงานต่างประเทศตั้งแต่สามวันที่แล้วยังไม่กลับ กว่าจะกลับก็น่าจะยาวนานเป็นอาทิตย์ ขวัญข้าวหยิบหมอนที่เขาเคยหนุนนอนมาสูดดมฟุดฟิดเธอคิดถึงเขามาก...แค่ได้กลิ่นอายจางๆ บ้างก็ยังดี ไม่เคยรู้ว่ามาก่อนว่าหากมีความรักแล้วจะต้องทรมานเพราะความคิดถึง ขณะที่นั่งทำหน้าเซื่องซึมเสียงมือถือก็ดังขึ้น ขวัญข้าวรีบพุ่งตัวไปหยิบมาดู สายที่โทรเข้ามาคือกษดิศ เป็นการวิดีโอคอลทางไกลมาจากต่างประเทศ พอได้เห็นหน้าเขาก็ยิ่งอยากกอด นัยน์ตาดูเหงาหงอยเสียจนอีกฝ่ายมองออก"เป็นอะไร""คิดถึงคุณต่อมากค่ะ นับวันรอแล้ว กว่าจะกลับมาก็อีกตั้งอาทิตย์ข้าวคงใจขาดตายก่อนพอดี""คิดถึงเหมือนกัน อีกสองสามวันจะรีบกลับครับ""
ตอนที่ 141/3"สิ่งที่ข้าวรักก็คุณไงคะ ยกให้คุณต่ออยู่เหนือทุกอย่างเป็นเดอะเบสของข้าวเลยค่ะ แต่ข้าวก็ไม่ได้จะทิ้งสิ่งที่ข้าวทำนะคะ ทุกอย่างมันอยู่ในนี้" หญิงสาวหัวเราะสดใสแล้วชี้นิ้วเข้าหาขมับตัวเอง "อยู่ในสมองเอาออกมาใช้เมื่อไรก็ได้ ไว้ถ้าข้าวเรียนรู้งานกับคุณต่อจนสามารถซัปพอร์ตคุณต่อได้บ้างค่อยหาโอกาสกลับมาทำสิ่งที่อยากทำก็ยังไม่สายค่ะ ข้าวไม่อยากปิดโอกาสที่จะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ คนเราถ้าทำเป็นหลายอย่างก็ดีไม่ใช่เหรอคะ""จะเอาแบบนั้นก็ได้ งั้นค่อยเริ่มงานอาทิตย์หน้าเลย แต่คนที่สอนงานคงต้องให้มัดหมี่กับคุณนุชเป็นคนสอน ช่วงนี้ผมยุ่งๆ น่ะ""ได้ค่ะ""แล้วจะเอาเงินเดือนเท่าไรครับ""อืมมม"เธอใช้นิ้วชี้เคาะริมฝีปากจิ้มลิ้มแล้วทำหน้าครุ่นคิด ครั้งที่แล้วก็ได้จากเขามาค่อนข้างเยอะ หากจะเรียกเยอะเกินตัวก็อาจจะดูน่าเกลียดเกินไป"พิจารณาให้ต
ตอนที่ 132/3"คุณครับ คุณคนสวยเป็นแฟนเพื่อนผมจริงๆ เหรอครับ" อติหันไปทางขวัญข้าวแล้วพูดยิ้มๆ ใช้น้ำเสียงละมุนกว่าตอนที่พูดกับเพื่อนๆ หลายเท่า ขวัญข้าวตอบคำถามของเขาด้วยการพยักหน้าหงึกๆ"กูตกข่าวไปตอนไหนวะเนี่ย ไอ้วิณมึงก็รู้เหรอ""ไม่ กูไม่รู้ เพิ่งรู้พร้อมมึง""งั้น...เอ่อ คุณคนสวยครับ คืนนี้ผมขออนุญาตพาเพื่อนไปเที่ยวแล้วกลับดึกได้มั้ยครับ รับรองกลับก่อนพระออกบิณฑบาตแน่นอน"อันนั้นไม่เรียกว่ากลับดึกแต่เรียกว่ากลับเช้า อติไม่วายขออนุญาตขวัญข้าวอย่างถูกต้อง เพราะก่อนที่เธอจะเปิดประตูเข้ามาพวกเขากำลังคุยเรื่องนี้อยู่พอดี พอเธอมองไปที่กษิดิศจึงพอจะดูออกว่าเขาเองก็ไม่อยากออกไปนักหรอก เหมือนกำลังส่งสายตาเว้าวอนขอให้เธอปฏิเสธอติมากกว่า"ได้ค่ะ"
ตอนที่ 131/3"ข้าวเพิ่งรู้ว่าคุณต่อแพ้กุหลาบก็เลยอาบน้ำล้างตัวก่อนค่ะ แต่เมื่อกี้ก็เข้าครัวไปรอบนึงแล้วนะคะ คุณต่อไม่ได้กลิ่นไข่เจียวเหรอคะ""ถึงเป็นไข่เจียวก็ยังหอม""แล้วทำไมไม่บอกข้าวละคะว่าแพ้กุหลาบ หากข้าวรู้ข้าวก็จะ""จะทำยังไงครับ"นั่นนะสิ ถ้ารู้ว่าเขาแพ้กุหลาบขวัญข้าวก็คงหาคนอื่นไปส่งดอกไม้แทน ในเมื่อรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าทุกครั้งที่เจอกันอาจเสี่ยงต่อการแพ้แต่กษิดิศก็ไม่คิดจะหลีกเลี่ยง หากขวัญข้าวคิดแบบเข้าข้างตัวเองก็คงจะมีแค่เหตุผลเดียว..."เพราะอยากเจอข้าวเหรอคะ""ไม่บอก"กษดิศเฉไฉ ซึ่งก็คงหมายความว่าเธอพูดถูก ขวัญข้าวเอียงหน้ามาจุ๊บที่แก้มเขาเบาๆ แล้วลุกขึ้นจูงมือชายหนุ่มมาที่โต๊ะอาหาร หลังจากทานมือค่ำอิ่มแล้วก็มานอนดูหนังด้วยกัน ขวัญข้าวเลือกหนังผีมาเรื่องหนึ่ง ระหว่างดูก็คลุ
ตอนที่ 123/3"เอาไปเถอะ ปกติผมเป็นคนไม่ชอบพกเงินสดเยอะ พอรู้ว่าจะได้ออกต่างจังหวัดก็เลยเตรียมมานิดหน่อย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพอมั้ย""แต่""ก็เราเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ"เขายิ้มอบอุ่นแล้วบีบมือเธอเบาๆ เพิ่มความมั่นใจให้เธอมากยิ่งขึ้น ขวัญข้าวยิ้มตอบด้วยความตื้นตัน เปิดประตูลงจากรถแล้วเอาเงินนั้นไปมอบให้พ่อและแม่ กษิดิศนั่งมองเธออยู่ในรถเห็นผู้เฒ่าทั้งสองแย้มยิ้มด้วยความดีใจก็ยิ้มตาม หลังจากขวัญข้าวกลับขึ้นรถแล้วกษิดิศจึงขับจากไป ฝ่ายป้าข้างบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างได้ร้องถามอารีด้วยความอยากรู้อยากเห็น"ลูกสาวให้เงินไว้ใช้กี่พันล่ะแม่อารี""ยังไม่ได้นับดูเลยจ๊ะพี่ปริก""ก็คงจะให้ไว้ไม่กี่พันหรอก ว่าก็ว่าเถอะสมัยนี้เงินมันหายาก แต่นานๆ ทีกลับมาเยี่ยมบ้านน่าจะให้พ่อแม่สักห้าหกพันก็ยังดี"